สารบัญ
11 ความสัมพันธ์: ATPการหายใจการตรึงคาร์บอนวัฏจักรคัลวินออกซิเจนคลอโรพลาสต์คาร์บอนไดออกไซด์ไกลซีนไมโทคอนเดรียไฮโดรเจนเพอร์ออกไซด์3-ฟอสโฟกลีเซอเรต
- การสังเคราะห์ด้วยแสง
- สรีรวิทยาของพืช
- เมแทบอลิซึม
ATP
ATP อาจหมายถึง.
การหายใจ
การหายใจ (breathing) เป็นกระบวนการซึ่งนำอากาศเข้าหรือออกจากปอด สิ่งมีชีวิตที่ต้องการออกซิเจนต้องการไปเพื่อปลดปล่อยพลังงานผ่านการหายใจระดับเซลล์ในรูปเมแทบอลิซึมโมเลกุลพลังงานสูง เช่น กลูโคส การหายใจเป็นเพียงกระบวนการเดียวซึ่งส่งออกซิเจนไปยังที่ที่ต้องการในร่างกายและนำคาร์บอนไดออกไซด์ออก อีกกระบวนการหนึ่งที่สำคัญเกี่ยวข้องกับการเคลื่อนที่ของเลือดโดยระบบไหลเวียน การแลกเปลี่ยนแก๊สเกิดขึ้นในถุงลมปอดโดยการแพร่ของแก๊สระหว่างแก๊สในถุงลมและเลือดในหลอดเลือดฝอยปอด เมื่อแก๊สที่ละลายนี้อยู่ในเลือด หัวใจปั๊มเลือดให้ไหลไปทั่วร่างกาย นอกเหนือไปจากการนำคาร์บอนไดออกไซด์ออก การหายใจส่งผลให้เกิดการสูญเสียน้ำจากร่างกาย อากาศที่หายใจออกมีความชื้นสัมพัทธ์เท่ากับ 100% เพราะน้ำแพร่ข้ามพื้นผิวที่ชุ่มชื้นของทางเดินหายใจและถุงลมปอด หมวดหมู่:แก๊ส หมวดหมู่:การหายใจ หมวดหมู่:รีเฟล็กซ์ หมวดหมู่:ร่างกายของมนุษย์.
การตรึงคาร์บอน
ปฏิกิริยาตรึงคาร์บอนในพืชเกิดเป็น 3 ขั้นตอนดังนี้.
ดู การหายใจแสงและการตรึงคาร์บอน
วัฏจักรคัลวิน
รวมของวัฏจักรคัลวิน วัฏจักรคัลวิน (Calvin cycle) หรือ Calvin-Benson-Bassham (CBB) cycle reductive pentose phosphate cycle หรือ C3 cycle เป็นลำดับของปฏิกิริยาทางด้านชีวเคมี เกิดขึ้นในสโตรมาของคลอโรพลาสต์ บางครั้งเรียกปฏิกิริยานี้ว่าปฏิกิริยาช่วงที่ไม่ใช้แสง วัฏจักรคัลวิน เกิดเป็น 3 ขั้นตอน ดังนี้.
ดู การหายใจแสงและวัฏจักรคัลวิน
ออกซิเจน
ออกซิเจน (Oxygen) เป็นธาตุในตารางธาตุที่มีสัญลักษณ์ O และเลขอะตอม 8 ธาตุนี้พบมาก ทั้งบนโลกและทั่วทั้งจักรวาล โมเลกุลออกซิเจน (O2 หรือที่มักเรียกว่า free oxygen) บนโลกมีความไม่เสถียรทางเทอร์โมไดนามิกส์จึงเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชันกับธาตุอื่น ๆ ได้ง่าย ออกซิเจนเกิดขึ้นครั้งแรกในโลกจากการสังเคราะห์ด้วยแสงของแบคทีเรียและพื.
คลอโรพลาสต์
องค์ประกอบภายในของคลอโรพลาสต์ คลอโรพลาสต์ (Chloroplast) เป็นออร์แกแนลล์ภายในไซโทพลาสซึม ชนิดเยื่อยูนิตสองชั้น (Double unit membrane) ภายในเป็นของเหลวที่เรียกว่า (Stroma) ภายในสโตรมานี้มีชั้นที่พับไปมา เรียกว่ากรานูล บริเวณผิวของกรานูลนี้เรียกว่า ไทลาคอยด์ ซึ่งเป็นที่อยู่ของสารสีสำหรับการสังเคราะสโตรมาห์ด้วยแสง ระหว่างกรานูลมีเยื่อที่เชื่อมโยงแต่ละกรานูลไว้ เรียกว่าสโตรมาลาเมลลา (Stroma lamella) คลอโรพลาสต์ (chloroplast) เป็นออร์แกแนลที่พบในพืช เป็นพลาสติด ที่มีสีเขียว พบเฉพาะในเซลล์พืช และสาหร่าย เกือบทุกชนิด พลาสติดมีเยื่อหุ้มสองชั้น ภายในโครงสร้างพลาสติด จะมีเม็ดสี หรือรงควัตถุบรรจุอยู่ ถ้ามีเม็ดสีคลอโรฟิลล์ (chlorophyll) เรียกว่า คลอโรพลาสต์ ถ้ามีเม็ดสีชนิดอื่นๆ เช่น แคโรทีนอยด์ เรียกว่า โครโมพลาส พลาสติดไม่มีเม็ดสี เรียกว่า ลิวโคพลาสต์ (leucoplast) ทำหน้าที่ เป็นแหล่งเก็บสะสมโปรตีน หรือเก็บสะสมแป้ง ที่เรียกว่า เม็ดสี (starch grains) เรียกว่า amyloplast ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสารคลอโรฟิลล์ ภายในคลอโรพลาสต์ ประกอบด้วยส่วนที่เป็นของเหลว เรียกว่า สโตรมา (stroma) มีเอนไซม์ที่เกี่ยวข้อง กับการสังเคราะห์ด้วยแสง แบบที่ไม่ต้องใช้แสง (dark reaction) มี DNA RNA และไรโบโซม และเอนไซม์อีกหลายชนิด ปะปนกันอยู่ ในของเหลวเป็นเยื่อลักษณะคล้ายเหรียญ ที่เรียงซ้อนกันอยู่ เรียกว่า กรานา (grana) ระหว่างกรานา จะมีเยื่อเมมเบรน เชื่อมให้กรานาติดต่อถึงกัน เรียกว่า อินเตอร์กรานา (intergrana) หน่วยย่อย ซึ่งเปรียบเสมือน เหรียญแต่ละอัน เรียกเหรียญแต่ละอันว่า กรานาลาเมลลา (grana lamella) หรือ กรานาไทลาคอยด์ (grana thylakoid) ไทลาคอยด์ในตั้งเดียวกัน ส่วนที่เชื่อมติดกัน เรียกว่า สโตรมา ไทลาคอยด์ (stroma thylakoid) ไม่มีทางติดต่อกันได้ แต่อาจติดกับไทลาคอยด์ในตั้งอื่น หรือกรานาอื่นได้ ทั้งกรานา และอินเตอร์กรานา เป็นที่อยู่ของคลอโรฟิลล์ รงควัตถุอื่นๆ และพวกเอนไซม์ ที่เกี่ยวข้อง กับการสังเคราะห์ด้วยแสง แบบที่ต้องใช้แสง (light reaction) บรรจุอยู่ หน้าที่สำคัญ ของคลอโรพลาส คือ การสังเคราะห์ด้วยแสง (photosynthesis) โดยแสงสีแดง และแสงสีน้ำเงิน เหมาะสม ต่อการสังเคราะห์ ด้วยแสงมากที.
คาร์บอนไดออกไซด์
ร์บอนไดออกไซด์ (carbon dioxide) หรือ CO2 เป็นก๊าซไม่มีสี ซึ่งหากหายใจเอาก๊าซนี้เข้าไปในปริมาณมากๆ จะรู้สึกเปรี้ยวที่ปาก เกิดการระคายเคืองที่จมูกและคอ และหาจยใจไม่ออกเนื่องจากอาจเกิดการละลายของแก๊สนี้ในเมือกในอวัยวะ ก่อให้เกิดกรดคาร์บอนิกอย่างอ่อน คาร์บอนไดออกไซด์มีความหนาแน่น 1.98 kg/m3 ซึ่งเป็นประมาณ 1.5 เท่าของอากาศ โมเลกุลประกอบด้วยพันธะคู่ 2 พันธะ (O.
ดู การหายใจแสงและคาร์บอนไดออกไซด์
ไกลซีน
กลซีน (glycineย่อว่าGly หรือ G) เป็นกรดอะมิโนที่มีขนาดเล็กที่สุดในบรรดากรดอะมิโน 20 ตัวที่พบทั่วไปในโปรตีน ร่ายกายมนุษย์สามารถสังเคราะห์ได้เอง มีสูตรโครงสร้างเป็ร NH2CH2COOH มีอะตอมของไฮโดรเจนเป็นโซ่ข้างโคดอนคือ GGU, GGC, GGA, GGG ไกลซีนเป็นสารไม่มีสี รสหวาน เป็นผลึกแข็ง ไม่มีสูตรโครงสร้างแบบไครอล อยู่ได้ทั้งในสภาวะที่ชอบน้ำและไม่ชอบน้ำ เพราะในโมเลกุลมีไฮโดรเจนเป็นโซข้าง 2 ตัว.
ไมโทคอนเดรีย
รงสร้างของไมโทคอนเดรีย ไมโทคอนเดรียน หรือมักเรียกว่า ไมโทคอนเดรีย (mitochondrion, พหูพจน์: mitochondria) ทำหน้าที่เป็นแหล่งพลังงานของเซลล์ ถูกค้นพบครั้งแรกโดย คอลลิกเกอร์ ส่วนใหญ่มีรูปร่างกลมท่อนสั้น คล้ายไส้กรอก ยาว 5-7 ไมครอน มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 0.2-1 ไมครอน ประกอบไปด้วยโปรตีน 60-65% ลิพิด 35-40% มีเยื่อหุ้มสองชั้น (double unit membrane) ชั้นนอกเรียบหนา 60-80 อังสตรอม เยื่อชั้นในพับเข้าไปเป็นรอยหยักเรียก คริสตี้ (cristae) หนา 60-80 อังสตรอม ภายในบรรจุของเหลวประกอบไปด้วยสารหลายชนิดเรียก แมทริกซ์ (matrix) ภายในไมโทคอนเดรียสามารถพบ DNA ได้เช่นเดียวกับในนิวเคลียสและคลอโรพลาสต์ โดยเรียกว่า mtDNAhttp://www.mitochondrial.net/ มีการสันนิษฐานว่าไมโทคอนเดรียนั้นมีวิวัฒนาการร่วมกันกับเซลล์ยูคาริโอตมานานแล้ว โดยเริ่มแรกนั้นเซลล์สิ่งมีชีวิตชั้นสูงอาจไปกินเซลล์ที่มีขนาดเล็กกว่าเข้าไป ในเซลล์มนุษย์ DNA ภายในไมโทคอนเดรียมีลักษณะเป็นวงกลม โดยมียีนที่สร้างโปรตีนได้เพียงไม่กี่สิบยีนเท่านั้นมหัศจรรย์ดีเอ็นเอ.
ไฮโดรเจนเพอร์ออกไซด์
รเจนเพอร์ออกไซด์ (hydrogen peroxide) มีสูตรทางเคมีว่า H2O2 เป็นสารประกอบเพอร์ออกไซด์ (สารที่ประกอบด้วยออกซิเจนสองตัวและเชื่อมกันด้วยพันธะเดี่ยว) รูปแบบที่ง่ายที่สุด มีสภาพเป็นของเหลวใส หนืดกว่าน้ำเล็กน้อย มีรสขม ไม่อยู่ตัว ซึ่งสามารถสลายตัวเป็นออกซิเจนกับน้ำ เมื่อเจือจางจะเป็นสารละลายไม่มีสี เนื่องจากไฮโดรเจนเพอร์ออกไซด์สามารถสลายตัวเป็นน้ำได้เมื่อถูกแสงและความร้อน จึงควรเก็บรักษาสารชนิดนี้ไว้ในภาชนะทึบแสง, ภาควิชาฟิสิกส์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล.
ดู การหายใจแสงและไฮโดรเจนเพอร์ออกไซด์
3-ฟอสโฟกลีเซอเรต
3-ฟอสโฟกลีเซอเรต (3-Phosphoglyceric acid; 3PG) หรือกลีเซอเรต 3-ฟอสเฟต (glycerate 3-phosphate; GP) เป็นสารประกอบที่มีคาร์บอนสามโมเลกุลพบในวัฏจักรคัลวิน เกิดจากการแตกตัวของสารตัวกลางที่มีคาร์บอน 6 ตัวที่เกิดหลังการตรึง CO2.
ดู การหายใจแสงและ3-ฟอสโฟกลีเซอเรต
ดูเพิ่มเติม
การสังเคราะห์ด้วยแสง
- 3-ฟอสโฟกลีเซอเรต
- การตรึงคาร์บอน
- การสังเคราะห์ด้วยแสง
- การหายใจแสง
- คลอโรพลาสต์
- นิโคตินาไมด์อะดินีนไดนิวคลีโอไทด์
- ปฏิกิริยาโฟโตฟอสโฟรีเลชัน
- ปากใบ
- พลาสติด
- วัฏจักรคัลวิน
- วัฏจักรคาร์บอน
- วัฏจักรออกซิเจน
- ใบไม้
- ไซยาโนแบคทีเรีย
สรีรวิทยาของพืช
- กรดอินโดล-3-แอซีติก
- กัตเตชัน
- การคายน้ำ
- การตอบสนองของพืช
- การสังเคราะห์ด้วยแสง
- การหายใจระดับเซลล์
- การหายใจแสง
- การเปลี่ยนสีของใบไม้ในฤดูใบไม้ร่วง
- ความต้องการสภาพอากาศหนาวเย็น
- ปากใบ
- ผนังเซลล์
- พลาสติด
- พิท
- วาสคิวลาร์แคมเบียม
- สรีรวิทยาของพืช
- สรีรวิทยาระบบนิเวศ
- ออกซิน
- เซลล์หลอดตะแกรง
- เนื้อเยื่อท่อลำเลียง
- เนื้อเยื่อเจริญ
- เนื้อไม้
- เปลือกชั้นใน
- เหง้า
- เอนโดสเปิร์ม
- โทรูลีน
- โฟโตเพอริโอดิซึม
- โมเลกุลเล็ก
- ใบไม้
เมแทบอลิซึม
- กรดไพรูวิก
- การขับถ่าย
- การสร้างกลูโคส
- การสังเคราะห์กรดอะมิโน
- การสังเคราะห์ด้วยแสง
- การหมัก (ชีวเคมี)
- การหมักดอง
- การหายใจระดับเซลล์
- การหายใจแสง
- ความผิดปกติแต่กำเนิดของกระบวนการสร้างและสลาย
- คีโตนบอดีส์
- ชีวสังเคราะห์
- ชีวสังเคราะห์โปรตีน
- ตัวตั้งต้น
- ทางเดินอาหารของมนุษย์
- บิลิรูบิน
- ระบบย่อยอาหาร
- วัฏจักรกำมะถัน
- วัฏจักรคัลวิน
- วัฏจักรไนโตรเจน
- วิถีเมแทบอลิซึม
- ออกซิเดทีฟฟอสโฟรีเลชัน
- อะซิติลโคเอนไซม์ เอ
- เพอรอกซิโซม
- เมแทบอลิซึม
- เมแทบอลิซึมของยา
- เอนไซม์
- แคแทบอลิซึม
- แอแนบอลิซึม
- ไรโบไซม์
หรือที่รู้จักกันในชื่อ Photorespiration