สารบัญ
13 ความสัมพันธ์: กลุ่มภาวะกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลันการชักการนอนไม่หลับภาวะชักต่อเนื่องภาวะเสียความจำมิดาโซแลมองค์การอนามัยโลกตับโรควิตกกังวลโรคสั่นเพ้อเหตุขาดสุราโคเคนไตเบ็นโซไดอาเซพีน
- คลอโรเอรีน
- ยาแก้อาเจียน
- สารเคมีสำหรับเวชศาสตร์ฉุกเฉิน
- แลกแทม
กลุ่มภาวะกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน
กลุ่มภาวะกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน หรือ กลุ่มอาการหลอดเลือดหัวใจเฉียบพลัน (acute coronary syndrome, ACS) หมายภึงกลุ่มของอาการใดๆ ที่เป็นผลจากการอุดตันของหลอดเลือดหัวใจ อาการที่ทำให้นึกถึงโรคกลุ่ม ACS ที่พบบ่อยที่สุดคืออาการเจ็บหน้าอกโดยเฉพาะอาการเจ็บเค้นหัวใจ ที่ร้าวไปยังแขนซ้ายหรือมุมกราม มีลักษณะปวดเหมือนถูกกดทับ และสัมพันธ์กับอาการคลื่นไส้ เหงื่อแตก ส่วนใหญ่เกิดจากโรคสำคัญๆ 3 อย่าง ได้แก่ โรคกล้ามเนื้อหัวใจตายเหตุขาดเลือดชนิดมีการยกของช่วง ST (STEMI) (30%), โรคกล้ามเนื้อหัวใจตายเหตุขาดเลือดชนิดไม่มีการยกของช่วง ST (NSTEMI) (25%) และอาการปวดเค้นไม่เสถียร (UA) (38%) หมวดหมู่:ภาวะฉุกเฉินทางการแพทย์ หมวดหมู่:โรคหัวใจขาดเลือด.
ดู ลอราเซแพมและกลุ่มภาวะกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน
การชัก
ัก (seizure) มีนิยามทางการแพทย์หมายถึงภาวะซึ่งมีภาวะกระตุ้นของเซลล์ประสาทในสมองอย่างมากผิดปกติ (abnormal excessive or synchronous neuronal activity in the brain) ซึ่งอาจแสดงอาการให้เห็นได้หลายอย่าง ตั้งแต่เป็นการชักเกร็งกระตุกอย่างรุนแรง ไปจนถึงเพียงเหม่อลอยชั่วขณ.
การนอนไม่หลับ
การนอนไม่หลับ (insomnia) เป็นความผิดปกติของการนอนหลับซึ่งไม่สามารถนอนหลับหรือนอนหลับได้ไม่นานเท่าที่ต้องการPunnoose Ann, Golub Robert, E Alison.(2012)"Insomnia", "JAMA".
ภาวะชักต่อเนื่อง
ภาวะชักต่อเนื่องหรือโรคลมชักชนิดต่อเนื่องคือภาวะที่เกิดอาการชักติดต่อกันนานเกิน 30 นาที หรือภาวะที่ผู้ป่วยมีอาการชักสั้นๆ แต่หลายครั้ง ติดต่อกันนานเกิน 30 นาที โดยระหว่างการชักแต่ละครั้งผู้ป่วยไม่ได้ฟื้นคืนสติเป็นปกติ หมวดหมู่:ภาวะฉุกเฉินทางการแพทย์ หมวดหมู่:โรคลมชัก หมวดหมู่:กุมารเวชศาสตร์.
ดู ลอราเซแพมและภาวะชักต่อเนื่อง
ภาวะเสียความจำ
วะเสียความจำ (amnesia) เป็นการขาดความจำที่เกิดจากความเสียหายต่อสมอง โรคหรือการบาดเจ็บทางใจGazzaniga, M., Ivry, R., & Mangun, G. (2009) Cognitive Neuroscience: The biology of the mind.
มิดาโซแลม
มิดาโซแลม (Midazolam) หรือชื่อทางการค้าคือ เวอร์เซด (Versed) เป็นยาในกลุ่มเบ็นโซไดอาเซพีนออกฤทธิผ่านกรดแกมมาอะมิโนบิวทีริก ใช้สำหรับทำให้สลบ, ใช้เป็นยาระงับประสาท, รักษาอาการนอนไม่หลับ และรักษาภาวะกายใจไม่สงบ ผู้คนมักใช้ยานี้เป็นยานอนหลับและลดความวิตกกังวล การใช้ยานี้ส่งผลให้ความสามารถในการจำแย่ลง ยานี้ยังเป็นประโยชน์อย่างมากในการระงับอาการชัก สามารถรับยานี้ได้โดยวิธีรับประทาน, ฉีดเข้ากล้ามเนื้อ, ฉีดเข้าหลอดเลือดดำ, สูดดม หรือรับเป็นสายละลายผ่านท่อน้ำเกลือ หากใช้วิธีฉีดเข้าหลอดเลือดจะออกฤทธิภายในห้านาที หากเป็นการฉีดเข้ากล้ามเนื้อจะออกฤทธิในสิบห้านาที และจะออกฤทธิเป็นเวลาหนึ่งถึงหกชั่วโมง ผลข้างเคียงจากการใช้ยามิดาโซแลม ได้แก่ หายใจลำบาก, ความดันโลหิตต่ำ และง่วงนอน หากใช้ยานี้ในระยะยาวอาจเกิดภาวะดื้อยาและการเสพติด สตรีมีครรภ์ควรงดใช้ยานี้ สตรีให้นมบุตรสามารถใช้ได้ในปริมาณจำกัด มีดาโซแลมเป็นยาที่ถูกขึ้นทะเบียนเป็นยาหลักขององค์การอนามัยโลก.
องค์การอนามัยโลก
องค์การอนามัยโลก (World Health Organization ตัวย่อ WHO) เป็นทบวงการชำนัญพิเศษของสหประชาชาติ ซึ่งรับผิดชอบการประสานงานด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ ก่อตั้งเมื่อ 7 เมษายน..
ดู ลอราเซแพมและองค์การอนามัยโลก
ตับ
ตับ (liver) เป็นอวัยวะสำคัญที่พบในสัตว์มีกระดูกสันหลังและสัตว์บางชนิด ในร่างกายมนุษย์ อยู่ในช่องท้องซีกขวาด้านบนใต้กระบังลม มีหน้าที่หลายอย่างรวมทั้งการกำจัดพิษในเมแทบอไลท์ (metabolites) (สารที่ได้จากขบวนการเมแทบอลิซึม) การสังเคราะห์โปรตีน และการผลิตสารชีวเคมีต่างๆที่จำเป็นในกระบวนการย่อยอาหาร ถ้าตับล้มเหลว หน้าที่ของตับไม่สามารถทดแทนได้ในระยะยาว โดยที่เทคนิคการฟอกตับ (liver dialysis) อาจช่วยได้ในระยะสั้น ตับยังจัดเป็นต่อมที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในร่างกาย ในศัพท์ทางการแพทย์ คำที่มีความหมายเกี่ยวข้องกับตับจะขึ้นต้นด้วยคำว่า hepato- หรือ hepatic ซึ่งมาจากคำในภาษากรีก hepar ซึ่งหมายถึงตับ มีหน้าที่สำคัญในขบวนการเมแทบอลิซึมหลายประการในร่างกาย เช่นการควบคุมปริมาณไกลโคเจนสะสม การสลายเซลล์เม็ดเลือดแดง การสังเคราะห์พลาสมาโปรตีน การผลิตฮอร์โมน และการกำจัดพิษ ตับยังเป็นต่อมช่วยย่อยอาหารโดยผลิตน้ำดีซึ่งเป็นสารประกอบอัลคาไลน์ช่วยย่อยอาหารผลิตโดยขบวนการผสมกับไขมัน (emulsification of lipids) ถุงนํ้าดีจะใช้เป็นที่เก็บน้ำดีนี้ ถุงน้ำดีมีลักษณะเป็นถุงอยู่ใต้ตับ ก่อนอาหารถุงน้ำดีจะป่องมีขนาดเท่าผลลูกแพร์เล็กเต็มไปด้วยน้ำดี หลังอาหาร น้ำดีจะถูกนำไปใช้หมด ถุงน้ำดีจะแฟบ เนื้อเยื่อของตับมีความเป็นพิเศษอย่างมาก ส่วนใหญ่ประกอบด้วย hepatocytes ที่ควบคุมปฏิกิริยาชีวเคมีปริมาณสูง รวมทั้งการสังเคราะห์และการแตกตัวของโมเลกุลที่ซับซ้อนขนาดเล็กที่จำเป็นอย่างมากในการทำงานเพื่อการดำรงชีวิตปกติ หน้าที่การทำงานทั้งหมดอาจแตกต่างกันไป แต่ในตำราประมาณว่ามีจำนวนประมาณ 500 อย่าง.
โรควิตกกังวล
รควิตกกังวล (Anxiety disorders) เป็นกลุ่มความผิดปกติทางจิตกำหนดโดยความวิตกกังวลและความกลัว ความวิตกกังวล (anxiety) เป็นความกังวลเกี่ยวกับเหตุการณ์ในอนาคตและความกลัว (fear) เป็นปฏิกิริยาต่อเหตุการณ์ปัจจุบัน --> ความรู้สึกเช่นนี้อาจทำให้เกิดอาการทางกาย เช่น หัวใจเต้นเร็วและตัวสั่น --> มีโรควิตกกังวลหลายอย่าง รวมทั้งโรควิตกกังวลไปทั่ว (GAD), โรคกลัว (phobia) ที่เฉพาะเจาะจง, โรคกลัวการเข้าสังคม (social anxiety disorder), โรควิตกกังวลเมื่อต้องแยก (separation anxiety disorder), โรคกลัวที่ชุมชน (agoraphobia), และโรคตื่นตระหนก (panic disorder) --> โดยโรคจะต่าง ๆ กันตามอาการ --> แต่คนไข้มักจะมีโรควิตกกังวลมากกว่าหนึ่งชนิด โรคมีปัจจัยจากกรรมพันธุ์และสิ่งแวดล้อม ปัจจัยเสี่ยงรวมทั้งประวัติถูกทารุณกรรมในวัยเด็ก ประวัติความผิดปกติทางจิตในครอบครัว และความยากจน --> โรคมักเกิดร่วมกับความผิดปกติทางจิตอื่น ๆ โดยเฉพาะโรคซึมเศร้า (MDD) ความผิดปกติทางบุคลิกภาพ (PD) และการเสพสารเสพติด (substance use disorder) เพื่อจะวินิจฉัยว่าเป็นโรค จะต้องมีอาการอย่างน้อย 6 เดือน มีความวิตกกังวลเกินเหตุ และมีปัญหาในการดำเนินชีวิต แต่ก็มีปัญหาทางจิตเวชและทางแพทย์อื่น ๆ ที่อาจมีอาการคล้าย ๆ กันรวมทั้งอาการไฮเปอร์ไทรอยด์, โรคหัวใจ, การเสพกาเฟอีน แอลกอฮอล์ และกัญชา, และการขาดยา (withdrawal) บางประเภท ถ้าไม่รักษา โรคมักจะไม่หาย การรักษารวมทั้งการเปลี่ยนสไตล์ชีวิต จิตบำบัด และการทานยา --> จิตบำบัดมักจะเป็นรูปแบบหนึ่งของการบำบัดโดยการปรับเปลี่ยนความคิดและพฤติกรรม (CBT) ยาเช่นยาแก้ซึมเศร้าหรือเบต้า บล็อกเกอร์ อาจช่วยให้อาการดีขึ้น คนประมาณ 12% มีโรคทุก ๆ ปี โดยเกิดในหญิงมากกว่าชาย 2 เท่า และทั่วไปเริ่มก่อนอายุ 25 ปี ประเภทโรคที่สามัญที่สุดคือโรคกลัวที่เฉพาะเจาะจงซึ่งเกิดในคน 12% และโรคกลัวการเข้าสังคม (SAD) ซึ่งเกิดในคน 10% ในช่วงหนึ่งในชีวิต --> โดยเกิดกับบุคคลอายุ 15-35 ปีมากที่สุด และเกิดขึ้นน้อยหลังถึงอายุ 55 ปี --> อัตราการเกิดดูจะสูงกว่าในสหรัฐอเมริกาและทวีปยุโรป สีหน้าของบุคคลที่มีความวิตกกังวลเรื้อรัง.
โรคสั่นเพ้อเหตุขาดสุรา
รคสั่นเพ้อเหตุขาดสุรา หรือ กลุ่มอาการขาดแอลกอฮอล์(Alcohol withdrawal syndrome) เป็นกลุ่มอาการซึ่งอาจเกิดในผู้ติดสุรา อาการทั่วไปของผู้ป่วยได้แก่ วิตกกังวล, สั่น, เหงื่อออก, อาเจียน, อัตราชีพจรไว และมีไข้อ่อนๆ ส่วนอาการขั้นรุนแรงได้แก่ ชัก, ได้ยินเสียงหรือเห็นภาพหลอน และคลุ้มคลั่ง อาการมักจะเริ่มแสดงออกราว 6 ชั่วโมงภายหลังการดื่มสุราครั้งล่าสุด และจะมีอาการไปจนถึง 24 หรือ 72 ชั่วโมง อย่างเลวร้ายที่สุดอาจกินเวลาถึงเจ็ดวัน.
ดู ลอราเซแพมและโรคสั่นเพ้อเหตุขาดสุรา
โคเคน
ส่วนประกอบทางเคมีของโคเคน โคเคน (cocaine) คือ crystalline tropane alkaloid ซึ่งสกัดมาจากใบของต้นโคคา (Coca) ซึ่งออกฤทธิ์เป็นสารกระตุ้นมีผลต่อระบบประสาทส่วนกลาง และเป็นสารที่ระงับความต้องการของร่างกาย (Appetite Suppressant) อีกนัยหนึ่งโคเคนอีน เป็นสาร Dopamine reuptake inhibitor ซึ่งผู้ได้รับสารนี้จะรู้สึกมีความสุข และมีพลังงานเพิ่มอย่างสูงในระยะเวลาสั้นๆ ผู้ที่ใช้สารเสพติดนี้ส่วนใหญ่มีอาการเครียด หรือวิตกกังวลอย่างรุนแรง พักผ่อนไม่เพียงพอ และต้องการผ่อนคลายความตึงเครียดลง ถึงแม้ว่าโคเคนจะเป็นสารเสพติด แต่ก็ได้มีการใช้ในวงการแพทย์โดยใช้เป็นสาร Topical Anesthesia มีการใช้ร่วมในเด็ก โดยเฉพาะการศัลยกรรม ตา จมูก และคอ ถ้าใครเสพสารนี้ไปแล้วจะต้องการสารโคเคนตลอดจนตาย ข้อเสียของการใช้สารโคเคนคือ มีผลให้ระบบการหายใจล้มเหลว มีโอกาสเป็น โรคหัวใจ และอัมพาต ในผู้ใช้สารโคเคนเป็นระยะเวลานาน หลังจากโคเคนหมดฤทธิ์แล้วอาจจะทำให้เกิดอาการซึมเศร้าเนื่องจากภาวะการลดระดับของสารโดปามีนในสมองอย่างฉับพลัน หลังจากการกระตุ้นของสารเสพติด หมวดหมู่:สารก่อวิรูป หมวดหมู่:ยาเสพติด.
ไต
ตเป็นอวัยวะรูปถั่วซึ่งมีหน้าที่ควบคุมสำคัญหลายอย่างในสัตว์มีกระดูกสันหลัง ไตนำโมเลกุลอินทรีย์ส่วนเกิน (เช่น กลูโคส) ออก และด้วยฤทธิ์นี้เองที่เป็นการทำหน้าที่ที่ทราบกันดีที่สุดของไต คือ การขับของเสียจากเมแทบอลิซึม (เช่น ยูเรีย แม้ 90% ของปริมาณที่กรองถูกดูดกลับที่หน่วยไต) ออกจากร่างกาย ไตเป็นอวัยวะสำคัญในระบบปัสสาวะและยังมีหน้าที่ธำรงดุล เช่น การกำกับอิเล็กโทรไลต์ การรักษาสมดุลกรด–เบส และการกำกับความดันเลือด (ผ่านการรักษาสมดุลเกลือและน้ำ) ไตทำหน้าที่เป็นตัวกรองเลือดตามธรรมชาติ และนำของเสียที่ละลายได้ในน้ำออก ซึ่งจะถูกส่งไปยังกระเพาะปัสสาวะ ในการผลิตปัสสาวะ ไตขับของเสีย เช่น ยูเรียและแอมโมเนียม และยังทำหน้าที่ดูดน้ำ กลูโคสและกรดอะมิโนกลับ ไตยังผลิตฮอร์โมน เช่น แคลซิไตรออล อีริโธรพอยอิติน และเอนไซม์เรนิน ซึ่งเรนินออกฤทธิ์ต่อไตโดยอ้อมในการยับยั้งป้อนกลับ (negative feedback) ไตอยู่หลังช่องท้องในหลังเยื่อบุช่องท้อง (retroperitoneum) ไตรับเลือดจากคู่หลอดเลือดแดงไต และเทเข้าสู่คู่หลอดเลือดดำไต ไตแต่ละข้างขับปัสสาวะสู่ท่อไต อันเป็นโครงสร้างคู่และเทเข้าสู่กระเพาะปัสสาวะ สรีรวิทยาไตเป็นการศึกษาการทำหน้าที่ของไต ขณะที่วักกวิทยา (nephrology) เป็นแพทยศาสตร์เฉพาะทางว่าด้วยโรคไต โรคของไตมีหลากหลาย แต่ผู้ที่มีโรคไตแสดงลักษณะพิเศษทางคลินิกบ่อยครั้ง ปัญหาทางคลินิกเกี่ยวกับไตที่พบบ่อย รวมถึงกลุ่มอาการไตอักเสบ (nephritic) และเนโฟรติก (nephrotic) ถุงน้ำไต ไตบาดเจ็บเฉียบพลัน โรคไตเรื้อรัง การติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ โรคนิ่วไต และการอุดกั้นทางเดินปัสสาวะ มีมะเร็งของไตหลายอย่าง มะเร็งของไตในผู้ใหญ่ที่พบมากที่สุด คือ มะเร็งเซลล์ไต มะเร็ง ถุงน้ำและปัญหาของไตอื่นบางอย่างสามารถรักษาได้ด้วยการตัดไต เมื่อการทำหน้าที่ของไต ซึ่งวัดได้โดยอัตราการกรองของโกลเมอรูลัส (glomerular filtration rate) ต่ำอย่างต่อเนื่อง การแยกสารผ่านเยื่อและการปลูกถ่ายไตอาจเป็นทางเลือกการรักษา นิ่วในไตปกติไม่เป็นอันตราย แต่อาจทำให้เกิดการปวด และการเกิดนิ่วซ้ำ ๆ เรื้อรังสามารถทำให้ไตเกิดแผลเป็น การนำนิ่วในไตออกเกี่ยวข้องกับการรักษาด้วยอัลตราซาวน์เพื่อสลายนิ่วเป็นชิ้นที่เล็กลง ซึ่งจะผ่านทางเดินปัสสาวะ กลุ่มอาการทั่วไปหนึ่งของนิ่วในไต คือ การปวดแปลบ (sharp) ถึงปวดจนรบกวนการใช้ชีวิต (disabling pain) ในตอนกลาง/ข้างของหลังส่วนล่างหรือขาหนี.
เบ็นโซไดอาเซพีน
รงสร้างทางเคมีของเบ็นโซไดอาเซพีน เบ็นโซไดอาเซพีน (Benzodiazepine) หรือเรียกสั้นๆว่า "เบ็นโซส" เป็นกลุ่มยาในหมวดสารออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท เกิดขึ้นจากการทำพันธะโครงสร้างทางเคมีระหว่างเบนซีนกับไดอาเซพีน ทั้งนี้ในปี..
ดู ลอราเซแพมและเบ็นโซไดอาเซพีน
ดูเพิ่มเติม
คลอโรเอรีน
- กรด 2,4-ไดคลอโรฟีนอกซีแอซีติก
- คลอกซาซิลลิน
- คลอฟอคตอล
- คลอร์เตตราไซคลีน
- คลอไตรมาโซล
- คลอไฟเบรต
- คลีมาสทีน
- คีโตโคนาโซล
- ปิร์โรบิวตามีน
- ฟูโรซีไมด์
- รูปาตาดีน
- ลอราตาดีน
- ลอราเซแพม
- อะลูมิเนียม คลอไฟเบรต
- อินโดเมตทาซิน
- อีฟาวิเรนซ์
- อีโทไฟเบรต
- เคตามีน
- เคลนบิวเทรอล
- เดกซ์คลอเฟนิรามีน
- เดสลอร์อาตาดีน
- เดเมโคลไซคลีน
- เบซาไฟเบรต
- เมโคลไซคลีน
- แอมโลดิพีน
- โคลโมไซคลีน
- โลเพราไมด์
- ไดแคมบา
- ไดแอซิแพม
- ไดโคลฟีแนค
ยาแก้อาเจียน
- ด็อกซิลามีน
- ลอราเซแพม
- อะลิเมมาซีน
- เตตร้าไฮโดรแคนนาบินอล
- เปปเปอร์มินต์
- เมคลิซีน
- โปรเมทาซีน
- ไซคลิซีน
- ไดเฟนไฮดรามีน
- ไดเมนไฮดริเนท
- ไธเอธิลเปอราซีน
- ไฮดรอกซิซีน
สารเคมีสำหรับเวชศาสตร์ฉุกเฉิน
- ซัลบูทามอล
- นาล็อกโซน
- ฟูโรซีไมด์
- มิดาโซแลม
- ลอราเซแพม
- ออกซิเจน
- อะโทรพีน
- เคตามีน
- เอพิเนฟรีน
- เฮพาริน
- แอสไพริน
- โซเดียมไบคาร์บอเนต
- โปรโพฟอล
- ไดแอซิแพม
แลกแทม
- ซัลแบคแตม
- ซิลเดนาฟิล
- ทาลาสทีน
- ฟลูนิแทรซิแพม
- ริสเพอริโดน
- ลอราเซแพม
- ลาทามอกเซฟ
- ลูมินอล
- สตริกนิน
- อะเซลาสทีน
- อัลเฟนทานิล
- เซโฟเพอราโซน
- เนวิราพีน
- เอสซีเอช-48461
- ไดแอซิแพม
หรือที่รู้จักกันในชื่อ Lorazepam