โลโก้
ยูเนี่ยนพีเดีย
การสื่อสาร
ดาวน์โหลดได้จาก Google Play
ใหม่! ดาวน์โหลด ยูเนี่ยนพีเดีย บน Android ™ของคุณ!
ดาวน์โหลด
เร็วกว่าเบราว์เซอร์!
 

การ์เดียนครอส

ดัชนี การ์เดียนครอส

การ์เดียนครอส (Guardian Cross) เป็นเกมสำหรับเครื่องไอโฟน/ไอแพด ผลิตโดยบริษัทสแควร์-เอนิกซ์โดยมีด้วยกันสองรุ่นคือรุ่นภาษาญี่ปุ่น เปิดตัว 21 มิถุนายน 2555 และรุ่นภาษาอังกฤษ เปิดตัวในวันที่ 13 สิงหาคม 2555 ลักษณะเกมประกอบไปด้วยการใช้เทรดดิงการ์ดจำลอง การล่าศัตรู และการแข่งขันระหว่างผู้เล่น เดอะการ์เดียนได้จัดอันดับเกมและขึ้นเป็นเกมยอดนิยม 20 อันดับแรก ของเกมมือถือประจำสัปดาห์ นอกจากนี้เกมยังได้ขึ้นอันดับ 100 เกมยอดฮิตที่ทำเงินได้ของแอปสตอร์ และติดอันดับเกมดาวน์โหลดฟรียอดฮิต 150 อันดับอีกด้วย ในเดือนธันวาคม 2555 เกมนี้ได้มีการดาวน์โหลดรวมทั้งสิ้นมากกว่า 1,000,000 ครั้ง ทำให้เป็นเกมที่มียอดดาวน์โหลดสูงสุดของเกมจากสแควร์เอนิกซ์ของระบบปฏิบัติการไอโอเอ.

75 ความสัมพันธ์: บาลอรบาฮามุตฟีนิกซ์พระพิฆเนศพระรุทรพระศิวะการ์ดสะสมกาลีกิลกาเมชกิเลนก็อบลินมอนสเตอร์มัมมี่มินะทอร์ยอร์มุนกานดร์ยูนิคอร์นรังดาลิลิธวาลคิรีวิดีโอเกมผู้เล่นคนเดียวสฟิงซ์สแควร์เอนิกซ์สเลปนีร์หนุมานอะนูบิสอัปสรอาร์ทิมิสอิมป์อีดุนน์ฮอรัสฮาร์พีฮิฟีสตัสจินน์ทอร์ทาลอสครุฑคิเมียราคธูลูฉฺยงจีซอมบีซักคิวบัสปนาลีนรสิงห์นาคนูอาดาแบซิลิสก์แฟรงเกนสไตน์แพนโดราแวมไพร์แอตลัส (เทพปกรณัม)...แซนด์แมนโพไซดอนโกเลมโยตุนไฟไฟนอลแฟนตาซีไรจิงไวเวิร์นไอแพดไอโฟนไฮดราไททัน (เทพปกรณัม)ไซคลอปส์ไซเรนเฟนรีร์เมฟิสโตเฟเลสเมดูซาเลวีอาธานเสือขาวเอลฟ์เถาอู้เดอะการ์เดียนเคลพีเซอร์เบอรัสเซนทอร์ ขยายดัชนี (25 มากกว่า) »

บาลอร

ลอร (Balor มีการสะกด Balar, Bolar) เป็นปีศาจในตำนานของเคลติกเป็นกษัตริย์ของเผ่าพันธุ์ยักษ์โฟโมเรียนส์ (Fomorians) และอาศัยอยู่บนเกาะโทรี ลักษณะเฉพาะของบาลอรคือมีตาอยู่กึ่งกลางหน้าผากและตาอีกข้างอยู่ด้านหลังในทิศตรงกันข้าม บาลอรได้ถูกทำนายไว้ว่าจะถูกฆ่าโดยหลานชาย ซึ่งทำให้เขาได้ขังลูกสาวของตัวเอง เอธลีนน์ (Ethlinn) ไว้ในหอคอยคริสตัล.

ใหม่!!: การ์เดียนครอสและบาลอร · ดูเพิ่มเติม »

บาฮามุต

มุต (Bahamut หรือ Bahamoot) (بهموت Bahamūt) เป็นสัตว์ประหลาดในตำนานอาหรับ มีลักษณะเป็นปลาขนาดใหญ่ที่ค้ำจุนโลก ในบางตำนานกล่าวว่าบาฮามุตมีหัวเหมือนฮิปโปโปเตมัส หรือ ช้าง.

ใหม่!!: การ์เดียนครอสและบาฮามุต · ดูเพิ่มเติม »

ฟีนิกซ์

ฟินิกซ์ หรือ ฟีนิกซ์ (Phoenix) อาจหมายถึง.

ใหม่!!: การ์เดียนครอสและฟีนิกซ์ · ดูเพิ่มเติม »

พระพิฆเนศ

ระคเณศ (गणेश பிள்ளையார் Ganesha) ชาวไทยนิยมเรียกว่า พระพิฆเนศ (विघ्नेश) พระพิฆเณศวร พระพิฆเณศ หรือ พระคณปติ ทรงเป็นเทพในศาสนาฮินดู ทรงเป็นเทพแห่งความสำเร็จ ทั้งยังทรงเป็นเทพแห่งศิลปวิทยาการและการประพันธ์ ทรงเป็นหัวหน้านำคณะข้ามความขัดข้อง (ผู้เป็นใหญ่เหนือความขัดข้อง).

ใหม่!!: การ์เดียนครอสและพระพิฆเนศ · ดูเพิ่มเติม »

พระรุทร

ระรุทร พระรุทร (रुद्र) เป็นเทพเจ้าสมัยฤคเวท เป็นอีกชื่อของพระศิวะ พระรุทรได้ชื่อว่าป็นเทพแห่งลมและพายุ และการล่าGriffith, p. 75, note 1.

ใหม่!!: การ์เดียนครอสและพระรุทร · ดูเพิ่มเติม »

พระศิวะ

ระศิวะ หรือ พระอิศวร (शिव; Shiva) หนึ่งในตรีมูรติ หรือเทพเจ้าสูงสุดสามพระองค์ตามความเชื่อในศาสนาฮินดู (อีกสององค์ ได้แก่ พระพรหม และพระวิษณุ) พระแม่อุมาเทวีประดับโปุรัม ประเทศอินเดีย. พระแม่อุมาเทวีประดับโปุรัม ประเทศอินเดีย. พระศิวะ มีรูปกายเป็นชายหนุ่มร่างกำยำ วรรณะขาว (สีผิวขาว) นุ่งห่มหนังเสือเหมือนฤๅษี มีสังวาล์เป็นลูกประคำหรือกะโหลกมนุษย์ มีงูเห่าคล้องพระศอ ไว้พระเกศายาว ซึ่งจะม้วนเป็นจุฑา (มวยผม) มีพระจันทร์เป็นปิ่น มีคงคาอยู่บนยอดจุฑา ซึ่งพ่นน้ำมาตลอด และมีดวงพระเนตร (ตาที่ 3) กลางพระนลาฏ (หน้าผาก) ซึ่งโดยปกติจะปิดอยู่เสมอ เชื่อว่าหากเปิดขึ้นเมื่อไหร่ ไฟบรรลัยกัลป์จะเผาผลาญล้างโลก (บ้างว่าเป็นพระพรหม) ถือว่าเป็นการสิ้นสุดกัปหนึ่ง ก่อนที่พระพรหมจะสร้างโลกขึ้นมาใหม่ มีพาหนะ คือ โคอุศุภราช (วัวเพศผู้สีขาวล้วน) มีชายา คือ พระอุมา เทพีแห่งความกล้าหาญ มีโอรสสององค์ คือ พระขันทกุมารและพระพิฆเนศ ประทับอยู่ ณ เขาไกรลาส อันเป็นศูนย์กลางแห่งจักรวาล ชายาอีกองค์คือพระแม่คงคา มีธิดาคือพระแม่มนสาเทวีหรือพระยามี พระศิวะเป็นเทพที่จะคอยขับไล่สิ่งชั่วร้ายให้ห่างไกล และทำให้เกิดความดีงามเป็นศิริมงคลเกิดขึ้น ผู้ที่มีความทุกข์ไม่ว่าจะเป็นในทางใด หากบวงสรวงบูชา ขอพรให้พ้นทุกข์ พระศิวะก็จะประทานพรให้ผู้นั้นได้พ้นจากห้วงแห่งความทุกข์ พระศิวะมีท่าร่ายรำอันเป็นการร่ายรำของเทพเจ้า เรียกว่า "ปางนาฏราช" เมื่อแปลงกายลงไปปราบฤๅษีที่ไม่ประพฤติตนอยู่ในเพศดาบส ซึ่งต่อมาชาวฮินดูได้ถือเอาท่าร่ายรำนี้เป็นต้นแบบของการร่ายรำต่าง ๆ มาตราบจนปัจจุบัน นอกจากนี้แล้ว พระศิวะยังถือว่าเป็นเจ้าแห่งผีหรือปีศาจอีกด้วย โดยมีพระนามเรียกว่า "ปีศาจบดี" หรือ "ภูเตศวร" นอกจากนี้แล้วพระอิศวร ยังมีพระนามอื่นอีก เช่น "รุทร", "ศังกร", "ศุลี", "นิลกัณฐ์", "หระ" หรือ "อีสาน" และยังเป็นเทพประจำทิศตะวันออกเฉียงเหนือ หรือ อีสาน อีกด้วย นอกจากนี้แล้ว ยังเชื่อว่าพระศอของพระศิวะมีสีดำ ทั้งนี้เนื่องจากพระองค์ได้ยาพิษของพญานาคไว้เมื่อครั้งกวนเกษียรสมุทรทำน้ำอมฤตเพื่อช่วยโลก ซึ่งบทหนึ่งในกามนิต-วาสิฏฐี วรรณกรรมอิงพุทธศาสนาได้อ้างถึง สีของความรักว่าเป็นสีดำ เสมือนสีคอพระศิวะ พระศิวะ ที่ประเทศศรีลังกา อันเป็นประเทศที่ศาสนาพราหมณ์ได้เข้ามาเผยแพร่ก่อน ก่อนที่จะกลายมาเป็นศาสนาพุทธเป็นศาสนาหลักอย่างเช่นในปัจจุบัน พระศิวะในความเชื่อของที่นี่จะมีพาหนะเป็นนกยูง และกลายมาเป็นเทพเจ้าที่ทำหน้าที่ปกปักษ์รักษาพุทธศาสน.

ใหม่!!: การ์เดียนครอสและพระศิวะ · ดูเพิ่มเติม »

การ์ดสะสม

การ์ดสะสม คือการ์ดที่มีการพิมพ์ลวดลายและข้อความที่สวยงาม เพื่อให้ผู้คนที่สนใจสะสมและเก็บรักษาไว้เพื่อความเพลิดเพลินและเป็นงานอดิเรก ปกติจะทำจากกระดาษชนิดแข็งและมีขนาด 2.5 X 3.5 นิ้ว ซึ่งวิธีการได้การ์ดสะสมมีการขายทั้งในรูปแบบของซองที่มีการ์ดในชุดนั้นๆอยู่จำนวนหนึ่ง เช่น 6 ใบต่อ 1 ซอง และการ์ดแถมหรือแลกซื้อร่วมกับสินค้าต่างๆ แต่โดยมากแล้วจะมีการสุ่มการ์ดที่จะได้ (Random) ตามอัตราส่วนและที่แตกต่างกันไปในแต่ละชุด ซึ่งจะทำให้ผู้สะสมไม่ทราบว่าจะได้การ์ดอะไรก่อนที่จะซื้อ รวมถึงการ์ดสะสมบางประเภทที่จะระบุเลขรหัสลงบนการ์ดและมีการผลิตในจำนวนจำกัด จึงทำให้เกิดความหายากของการ์ดขึ้นมา การ์ดที่ไม่ได้รับความนิยมและผลิตออกมาเป็นจำนวนมาก จะหาได้ง่ายราคาจะต่ำ การ์ดที่ได้รับความนิยม ผลิตออกมาน้อยจะราคาจะสูง โดยส่วนใหญ่แล้วการ์ดสะสมจะทำการผลิตในจำนวนจำกัดหรือช่วงระยะเวลาสั้นๆ จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้การ์ดสะสมจึงเป็นสิ่งที่ต้องการของนักสะสมโดยทั่วไป ซึ่งเป้าหมายของนักสะสมแต่ละคนก็จะแตกต่างกัน บางคนก็ต้องการเก็บสะสมให้ครบชุดนั้นๆ บางคนก็ต้องการเฉพาะการ์ดพิเศษที่มีการผลิตเป็นจำนวนจำกัดในชุดต่างๆ หรือบางคนก็ต้องการเก็บสะสมเฉพาะการ์ดที่มีตัวบุคคลหรือตัวละครที่ชื่นชอบเท่านั้น และหัวใจที่สำคัญที่สุด คือการแลกเปลี่ยนหรือตามหาการ์ดใบที่ยังขาดเหลือเพื่อเก็บสะสมให้ครบชุดกับกลุ่มผู้ที่สะสมการ์ดในชนิดเดียวกัน ด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้การสะสมการ์ดมีความสนุกสนาน มีความท้าทายและเป็นความรู้ผสมความบันเทิง (Edutainment) อีกด้วย โดยบริษัทที่มีชื่อเสียงในการผลิตการ์ดสะสมในปัจจุบันก็มีอย่างเช่น Upperdeck จากสหรัฐอเมริกา Konami จากประเทศญี่ปุ่นเป็นต้น.

ใหม่!!: การ์เดียนครอสและการ์ดสะสม · ดูเพิ่มเติม »

กาลี

รูปปั้นนูนสูงของพระแม่กาลีและพระแม่ทุรคาประดับเทวสถานพระแม่จามุนดา ประเทศอินเดีย พระแม่กาลี หรือ กาลิกา (काली, Kālī, แปลว่า หญิงดำ) เป็นปางหนึ่งของพระอุมาเทวี ในศาสนาพราหมณ์-ฮินดู มีกายสีดำสนิท มีลักษณะดุร้าย มี ๑๐ พระกร ถืออาวุธร้ายอยู่ในพระกรทั้งสิบนั้น แลบลิ้นยาวถึงทรวงอก ที่ริมฝีปากมีเลือดไหลหยดเป็นทางยาว เครื่องประดับเป็นหัวกะโหลก มีงูใหญ่ร้อยคาดองค์ดั่งสังวาลย์ พระแม่กาลี หรือ เจ้าแม่กาลี มีอำนาจฤทธิ์ในการปราบปรามสิ่งชั่วร้ายทั้งปวง มีเทวานุภาพอันแรงกล้า สร้างความวิบัติแก่เหล่าอสูรอย่างรุนแรง เด็ดขาด แฝงเร้นไว้ซึ่งความน่ากลัว ผู้บูชาพระแม่กาลีอย่างถูกต้องและเคร่งครัด พระแม่จะประทานความแข็งแกร่ง ความกล้าหาญ และอำนาจเหนือผู้อื่น พระแม่กาลี ยังมีพลังอำนาจในการขจัดคุณไสย ลบล้างไสยเวทย์ด้านมืด หากบุคคลใดถูกกระทำทางไสยศาสตร์ เมื่อผู้นั้นได้สวดบูชาอ้อนวอนต่อพระองค์ท่านแล้ว พระองค์ท่านก็มักให้พร ขจัดสิ่งอาถรรพ์ชั่วร้ายให้มลายหายไป และประทานสิ่งที่เป็นไปได้ยากให้ได้รับอย่างง่ายดาย ผู้ใดกระทำการสวดบูชา สรรเสริญ และถวายเครื่องสังเวยแด่พระแม่กาลีเป็นประจำ พระองค์ท่านจะประทานความปลอดภัยมาสู่ผู้นั้น ทรงดลบันดาลให้เกิดความสันติผาสุกแก่ผู้ครองเรือนทั่วไป คุ้มครองผู้บูชาจากภยันตรายและอุบัติเหตุร้ายแรง พระแม่กาลีทรงมีบุคลิกภาพที่ยากแก่การเข้าใจ มีความลึกลับที่สุดในบรรดาเทพเทวาทั้งปวง พระนางมีความดุดัน เกรี้ยวกราด รูปลักษณ์และอุปนิสัยล้วนเต็มไปด้วยความน่าสะพรึงกลัว แต่พระนางก็จะทำลายเฉพาะอสูร ปีศาจ และมนุษย์ที่กระทำการชั่วร้ายเท่านั้น เนื่องจากพระแม่กาลีก็คือเทพ และเทพก็มักปกป้องคุ้มครองผู้กระทำความดีเช่นเดียวกันทุกพระองค์ ฉะนั้น แม้ผู้ที่บูชาพระแม่อย่างเคร่งครัด แต่เป็นคนที่ไม่ดี มีความคิดที่ชั่วร้าย เอารัดเอาเปรียบผู้อื่น พระแม่ท่านก็จะทำลายบุคคลผู้นั้นเสียโดยไม่ละเว้น ผู้ที่มีจิตใจไม่มั่นคง กำลังประสบหรือผ่านพ้นจากเหตุการณ์ร้ายแรงทำให้จิตใจอ่อนแอ สามารถกระทำการบูชาพระองค์ เพื่อขอความเข้มแข็ง และเด็ดขาด ผู้ที่เจอคุณไสย และถูกเบียดเบียนจากพลังงานชั่วร้ายหรืออำนาจไม่ดีทั้งจากมนุษย์และอมนุษย์ สามารถขอพระเมตตา จาก พรหมวิหารธรรมของท่าน ขจัดและทำลายให้พินาศสิ้น ผู้ที่ฝันร้าย เจออวมงคล นิมิตอันเป็นเหตุไม่ดี มีประการต่างๆ สามารถกระทำการบูชา ด้วยประทีปสีแดงและดำ ช่วยปัดเป่าให้มลายหายไป ผู้ที่มีโรคร้ายแรง ยากแก่การรักษา สามารถกระทำ ปฏิบัติบูชา อันจะกล่าวภายหลัง เพื่อหาหนทางบรรเทาโรคภัยได้ ผู้ที่ผิดหวังในรัก รักเพศเดียวกัน รักซ้อนรักแทรก สามารถกระทำปฏิบัติบูชาและบูชาเทวรุปประจำองค์ท่านได้เพื่อความสมหวังทั้งปวง นอกจากนั้น ท่านยังเด่นในเรื่อง การให้โชคลาภและยศฐาบันดาศักดิ์ด้วย พระมหาเทวีท่านโปรดปรานการบูชา ด้วยประทีปหรืออัคนี(อารตีไฟ) ปูเทวรุปด้วยผ้าแดงหรือสีดำก้ได้ (สามารถใช้ สีเงินหรือสีขาว เพื่อระลึกถึง พรหมวิหารธรรมของพระองคืได้ด้วย) ตำนานกล่าวว่า พระอุมาซึ่งอยู่ในปางอัมพิกา พระสิริโฉมงดงามเสด็จสู่สนามรบ เมื่อเหล่าอสูรได้เห็นก็พยายามจะได้นางเป็นชายา แต่นางได้ต่อสู้กับเหล่าอสูรด้วยความพิโรธ ในปางพระแม่กาลี จนอสูรทั้งหลายตายจนเกือบหมด เหลือเพียงมาธูอสูร ที่ทรงสังหารอย่างไรก็ไม่ตาย เพราะเคยได้รับพรจากพระศิวะให้มีชีวิตเป็นอมตะ หากเลือดหยดถึงพื้นดินก็จะเกิดเป็นอสูรอีกมากมายไม่สิ้นสุด ร้อนถึงพระศิวะ ทรงประทานวิธีให้พระแม่กาลีดื่มเลือดอสูรทุกครั้งอย่าให้ตกถึงดิน มาธูอสูรจึงถึงแก่ความตาย หลังจากชนะอสูรมาธู พระนางทรงดีพระทัย กระโดดเต้นเพื่อฉลองชัยชนะ แต่ด้วยตบะอันแรงกล้าทำให้เกิดความเดือดร้อน ต่อด้วยโลกธาตุทั้งปวงเมื่อพระนางกระทืบพระบาท พระศิวะจะเข้าห้ามปรามก็เกรงความดุร้ายของพระนาง จึงใช้อุบายทรงทอดพระกายลงบนพื้นที่พระนางจะกระทืบพระบาท เมื่อพระกาลีเห็นพระศิวะที่พื้น ด้วยปางหนึ่งที่เป็นพระปารวตี ซึ่งรักและภักดีในพระศิวะยิ่ง ก็ทรงชะงัก และแลบลิ้นด้วยความขวยเขิน การบูชาพระแม่กาลี ต้องใช้เลือดบริสุทธิ์ ในอดีตมีการใช้หญิงพรหมจารีย์ไปบูชายัญด้วยเลือดจากลำคอ แต่เมื่ออังกฤษเข้าปกครองอินเดีย ได้สั่งห้ามการฆ่าคนเพื่อบูชายัญ ปัจจุบันนี้การบูชาพระแม่กาลีใช้เลือดแพะแทน จากการที่พระแม่กาลีเป็นปางหนึ่งของพระอุมาเทวีที่ดุร้าย มีรูปลักษณ์คล้ายปีศาจและใช้เลือดและชีวิตในการบูชายัญ จึงมีความเข้าใจผิดกันว่า พระแม่กาลีเป็นเทพเจ้าแห่งความชั่วร้าย ในสำนวนภาษาไทยจึงมีคำว่า "กาลี" ซึ่งหมายความว่า สิ่งที่ชั่วร้าย เช่น "กาลีบ้านกาลีเมือง" หมายถึง "สิ่งที่ชั่วร้ายต่อบ้านเมือง" เป็นต้น บ้างก็ว่าเจ้าแม่กาลีเป็นเทพเจ้าที่โจรบูชา แต่แท้ที่จริงแล้ว ถ้าคนไม่ดีบูชาเจ้าแม่กาลี ก็จะมีอันเป็นไปในเร็ววัน วิธีการบูชาเจ้าแม่กาลีจะต้องถวายน้ำ นมและดอกไม้ ผลไม้ และเอกไม้ที่พระแม่โปรดปรานคือ ดอกชบาแดง ผู้บูชาต้องสวดบทบูชาเจ้าแม่กาลีทั้งเช้าเย็นว่า"โอม ศรี มหากาลิกาไย นะมะห์" โอม เจมาตากาลี โอม สตี เยมา ตา กาลี โอม ศรี มหากาลี มาตา นมัช เลือกบทที่ชอบ และคุ้นชิน หรือ ทำสมาธิถวายปรานแก่องค์พระแม่เพื่อเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับพระแม่ ห เจ้าแม่กาลีที่มีชื่อเสียงที่สุดในประเทศไทยคือที่วัดแขก สีลม ผู้ที่ประสบเคราะห์กรรมโดนรังแก สามารถไปไหว้ท่านเพื่อแก้ไขดวงชะตาได้.

ใหม่!!: การ์เดียนครอสและกาลี · ดูเพิ่มเติม »

กิลกาเมช

รูปปั้นกิลกาเมช ที่มหาวิทยาลัยซิดนีย์ กิลกาเมช เป็นกษัตริย์ในตำนาน แห่งนครอุรุค ในอาณาจักรบาบิโลน หรือบาบีโลเนีย ซึ่งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำยูเฟรติส ในประเทศอิรักปัจจุบัน เชื่อว่าเคยมีชีวิตอยู่เมื่อประมาณ 2,700 ปีก่อนคริสตกาล มีเรื่องเล่าและปกรณัมมากมายที่เขียนเกี่ยวกับกิลกาเมช บางเรื่องเขียนไว้ตั้งแต่เมื่อประมาณ 2,000 ปีก่อนคริสตกาล โดยจารึกบนแผ่นดินเหนียวเป็นภาษาของพวกซูเมอร์ เรียกว่าภาษาซูเมเรียน ซึ่งยังหลงเหลือมาจนถึงปัจจุบัน ภาษาดังกล่าวนี้นักโบราณคดีเชื่อว่าไม่มีความสัมพันธ์ใดๆ กับภาษาอื่นๆ ที่เราเคยรู้จักเลย เรื่องกิลกาเมชของพวกซูเมอร์นั้น ถูกรวบรวมขึ้นเป็นบทกวีเรื่องยาว เรียกว่า มหากาพย์กิลกาเมช (Epic of Gilgamesh) หลงเหลืออยู่เป็นวรรณกรรมในหลายภาษา เช่น ของชาวอัคคาเดีย (ภาษาตระกูลเซมิติค ซึ่งมีความสัมพันธ์กับภาษาฮีบรู, เป็นภาษาที่พูดกันในอาณาจักรบาบิโลน) นอกจากนี้ยังมีปรากฏบนแผ่นจารึกดินเหนียว เป็นภาษาฮูร์เรียน และภาษาฮิตไตต์ (ภาษาหนึ่งในตระกูลอินโด-ยูโรเปียน ซึ่งพูดกันในเขตรอยต่อยุโรปและเอเชีย นับเป็นหนึ่งในบรรดาภาษาที่เก่าแก่ที่สุดในโลก) ภาษาทั้งหมดที่พูดมานี้ จารด้วยอักษรลิ่ม หรือที่เราคุ้นเคยกันด้วยชื่อ คูเนฟอร์ม ตำนานฉบับเต็มเกี่ยวกับกิลกาเมชนั้น ได้มาจากศิลาจารึก 12 แท่ง จารเป็นภาษาอัคคาเดียน พบในซากปรักหักพังของหอพระสมุด พระเจ้าอะชูรบานิปัล แห่งอัสสิเรีย เมื่อราว 669-633 ปีก่อนคริสตกาล ที่เมืองนีนะเวห์(Nineveh) หอสมุดแห่งนี้ถูกพวกเปอร์เซียทำลายเมื่อ 612 ปีก่อนคริสตกาล และจารึกทั้งหมดก็พินาศไปด้วย จารึกนี้ระบุชื่อผู้แต่งไว้ด้วย ซึ่งนับเป็นเรื่องที่แปลกมาก เนื่องจากในสมัยโบราณ แทบจะไม่มีการจารึกชื่อผู้แต่งเรื่องใด ๆ (จารึกไทยในสมัยสุโขทัยหรืออยุธยาก็ไม่มีการจารึกชื่อผู้แต่งเช่นกัน) ผู้แต่งจารึกนี้คือ ชิเนฆิอุนนินนิ (Shin-eqi-unninni) อาจกล่าวได้ว่า บุคคลผู้นี้เป็นนักเขียนที่เก่าแก่ที่สุดในโลกวรรณกรรม ที่เราสามารถระบุชื่อได้ ตำนานของกิลกาเมชนั้นกล่าวโดยย่อ คงเทียบได้กับเรื่องของโนอาห์ ในคัมภีร์ไบเบิ้ลหรือนูห์ ในคัมภีร์อัลกุรอาน นั่นเอง นับเป็นตำนานน้ำท่วมโลกที่เก่าแก่ที่สุดเรื่องหนึ่งของโลก.

ใหม่!!: การ์เดียนครอสและกิลกาเมช · ดูเพิ่มเติม »

กิเลน

กิเลนในราชวงศ์ชิง ตั้งอยู่ ณ พระราชวังต้องห้าม กรุงปักกิ่ง - ลักษณะเขาของกิเลนใกล้เคียงกับกิเลนของทางญี่ปุ่น กิเลน (ฉีหลิน; แต้จิ๋ว: คี้ลิ้ง) และอาจสะกดเป็น Qilin, Kylin หรือ Kirin เป็นคำที่มาจากภาษาจีน ซึ่งเป็นชื่อของสัตว์ชนิดหนึ่งในเทพนิยายของจีน.

ใหม่!!: การ์เดียนครอสและกิเลน · ดูเพิ่มเติม »

ก็อบลิน

ก็อบลิน ก็อบลิน (Goblin) เป็นโนมที่มีรูปร่างพิกลพิการ ชอบเล่นสนุก แต่บางครั้งเต็มไปด้วยเล่ห์เหลี่ยมสามารถทำอันตรายแก่ผู้คน รอยยิ้มของก็อบลินทำให้เลือดหยุดไหล เสียงหัวเราะทำให้นมบูดและผลไม้หล่น ก็อบลินมีต้นกำเนิดมาจากฝรั่งเศส ก๊อปลินนั้นเป็นปีศาจ อาศัยอยู่ใต้ดิน ในตำนานเดิมของยุโรปเล่าถึง ก็อบลิน ว่า เป็นปีศาจร่างเล็ก (อาจจะสูงประมาณ 70 ซม.) ลักษณะคล้ายซากศพ บาง ตำนานก็กล่าวว่า ก๊อปลินรูปร่างจนมีหน้าตาอัปลักษณ์ไม่ชวนมอง ซึ่งหน้าตาหรือรูปร่างของพวกก๊อปลินจะเป็นเช่นไร มักขึ้นอยู่กับตำนานหรือของเชื่อของผู้คนในแถบนั้น ก็อบลินเป็นอีกหนึ่งสัตว์ปีศาจที่นิยมใช้ประกอบวรรณกรรมแฟนตาซี โดยมักมีฐานะเป็นรองออร์ค แต่ว่องไวกว่าและอันตรายมากกว่า หมวดหมู่:สัตว์ในตำนาน.

ใหม่!!: การ์เดียนครอสและก็อบลิน · ดูเพิ่มเติม »

มอนสเตอร์

มอนสเตอร์ อาจหมายถึง.

ใหม่!!: การ์เดียนครอสและมอนสเตอร์ · ดูเพิ่มเติม »

มัมมี่

มัมมี่ มัมมี่ (Mummy) คือศพที่ดองหรือแช่ในน้ำยาพิเศษในประเทศอียิปต์ พันทั่วทั้งร่างกายด้วยผ้าลินินสีขาว เพื่อเป็นการรักษาสภาพของศพเพื่อรอการกลับคืนร่างของวิญญาณผู้ตาย ตามความเชื่อของชาวอียิปต์โบราณ คำว่า "มัมมี่" มาจากคำว่า "มัมมียะ" (Mummiya) ซึ่งเป็นคำในภาษาเปอร์เซีย มีความหมายถึงร่างของซากศพที่ถูกดองจนกลายเป็นสีดำ โดยชาวอียิปต์โบราณจะทำมัมมี่ของฟาโรห์และเชื้อพระวงศ์ทุกพระองค์ และนำไปฝังในลักษณะแนวนอนภายใต้พื้นแผ่นทรายของอียิปต์ อาศัยแรงลมที่พัดผ่านในแถบทะเลทรายอาระเบียและทะเลทรายในพื้นที่รอบบริเวณของอียิปต์ เพื่อป้องกันการเน่าเปื่อยของซากศพที่อาบด้วยน้ำยา ในอียิปต์โบราณมีความเชื่อเกี่ยวกับเรื่องของชีวิตหลังความตาย เกี่ยวกับการหวนกลับคืนร่างของวิญญาณ โดยมีความเชื่อว่าเมื่อวิญญาณออกจากร่างไปชั่วระยะเวลาหนึ่งจะหวนกลับคืนสู่ร่างเดิมของผู้เป็นเจ้าของ จึงต้องมีการถนอมและรักษาสภาพของร่างเดิม โดยการแช่และดองด้วยน้ำยาบีทูมิน ซึ่งจะช่วยรักษาและป้องกันไม่ให้ซากศพเน่าเปื่อยผุผังไปตามกาลเวล.

ใหม่!!: การ์เดียนครอสและมัมมี่ · ดูเพิ่มเติม »

มินะทอร์

มินะทอร์บนหม้อดินเผาสมัยกรีก ราว 515 ปีก่อนคริสต์ศักราช ในเทพปกรณัมกรีก มินะทอร์ (Minotaur) เป็นสิ่งมีชีวิตซึ่งมีศีรษะเป็นโค มีกายเป็นคน หรือที่โอวิด (Ovid) กวีโรมัน พรรณนาว่า "กึ่งคนกึ่งโค" มินะทอร์พำนักอยู่ในวงกตซึ่งเป็นหมู่อาคารมีทางเดินคดเคี้ยว ณ กลางเกาะครีต และเป็นผลงานที่สถาปนิกเดดาลัส (Daedalus) กับอีคารัส (Icarus) บุตร ร่วมกันสร้างสรรค์ขึ้นตามพระราชโองการพระเจ้าไมนอส (Minos) แห่งเกาะครีต ภายหลัง มินะทอร์ถูกธีเซียส (Theseus) วีรบุรุษชาวเอเธนส์ ประหารในวงกตนั้นเอง คำ "มินะทอร์" ในภาษาอังกฤษมาจากคำ "Μῑνώταυρος" (Mīnṓtauros) ในภาษากรีกโบราณ แปลว่า โคแห่งพระเจ้าไมนอส โดยในภาษาอังกฤษนั้น คำ "มินะทอร์" เป็นทั้งวิสามานยนามใช้เรียกสิ่งมีชีวิตตามตำนานข้างต้น และเป็นสามานยนามใช้เรียกสิ่งมีชีวิตกึ่งโคกึ่งคนตัวอื่น ๆ โดยทั่วไป ส่วนชาวครีตเองเรียกสัตว์นี้ด้วยวิสามานยนามว่า "แอสเตเรียน (Asterion) ซึ่งเป็นนามของปู่มินะทอร์ (พระบิดาบุญธรรมของพระเจ้าไมนอส) เช่นกัน.

ใหม่!!: การ์เดียนครอสและมินะทอร์ · ดูเพิ่มเติม »

ยอร์มุนกานดร์

"ธอร์ต่อสู้กับงูยักษ์แห่งมิดการ์ด (Thor battering the Midgard Serpent)" (1788) โดย Henry Fuseli ยอร์มุนกานดร์ (Jörmungandr) หรือรู้จักในชื่อ มิดการ์ดโซรุม หรือ มิดการ์ด เซอร์เพนท์ (Midgardsomrm หรือ midgard serpent) งูยักษ์แห่งดินแดนมนุษย์ (Midgard) มีชื่อจริงว่ายอร์มุนกานดร์ (Jormungandr) ในตำนานเทพปกรณัมของนอร์ส เป็นหนึ่งในบุตรของโลกิและยักษีชื่อ แองเกอร์โบดา (Angrboða) และเป็นพี่น้องกับ เฟนรีร์ (Fenrisulfr) และ เฮล (Hel) เป็นหนึ่งในลางบอกเหตุที่จะทำให้เกิด วันแร็กนาร็อกขึ้นตามคำทำนาย จึงถูกโอดินโยนลงทะเลในดินแดนมนุษย์Sturluson, Gylfaginning ch.

ใหม่!!: การ์เดียนครอสและยอร์มุนกานดร์ · ดูเพิ่มเติม »

ยูนิคอร์น

วังฟาร์เนเซ กรุงโรม) ยูนิคอร์น (unicorn) เป็นสัตว์ในตำนานซึ่งมีการอธิบายมาแต่โบราณว่าเป็นสัตว์ที่มีเขาเกลียวแหลมขนาดใหญ่ออกมาจากหน้าผาก มีการพรรณนายูนิคอร์นในตราโบราณของอารยธรรมลุ่มแม่น้ำสินธุและชาวกรีกโบราณกล่าวถึงยูนิคอร์นในบันทึกประวัติศาสตร์ธรรมชาติโดยนักเขียนหลายคน คัมภีร์ไบเบิลก็มีอธิบายสัตว์นี้ ในนิทานพื้นบ้านยุโรป มักพรรณนายูนิคอร์นว่าเป็นสัตว์คล้ายม้าหรือคล้ายแพะสีขาว มีเขายาวและมีกีบแยก (บ้างมีเคราแพะด้วย) ในสมัยกลางและฟื้นฟูศิลปวิทยา มีการอธิบายทั่วไปว่า ยูนิคอร์นเป็นสัตว์ป่าหายากยิ่ง สัญลักษณ์แห่งความบริสุทธิ์และสง่างาม ซึ่งอาจจับได้เฉพาะพรหมจารีเท่านั้น ในสารานุกรมกล่าวกันว่าเขาของยูนิคอร์นมีอำนาจเปลี่ยนน้ำพิษให้ดื่มได้ และรักษาการเจ็บป่วย ในสมัยนั้นบางครั้งมีการขายเขานาร์วาลเป็นเขายูนิคอร์น.

ใหม่!!: การ์เดียนครอสและยูนิคอร์น · ดูเพิ่มเติม »

รังดา

รังดาในระบำบาโรง รูปปั้นของรังดาในวิหาร ร่างทรงของรังดาในระบำบาโรง ระบำบาโรงที่มีผู้ชายถือกริชกับรังดา รังดา (Rangda) เป็นเจ้าแม่ศักดิ์สิทธิ์ตามความเชื่อของชาวบาหลี ในตำนานกล่าวว่าเดิมนางรังดาเป็นมารดาของพระเจ้าเอร์ลังคะ ผู้สร้างอาณาจักรดาหาบนเกาะชวาเมื่อราวพุทธศตวรรษที่ 17 – 18 พระนางเป็นผู้นิยมเวทมนตร์ตันตระแบบฝ่ายซ้าย ทำให้สวามีของพระนาง ผู้เป็นบิดาของพระเจ้าเอร์ลังคะ ขับไล่นางเข้าป่า และหาพระมเหสีใหม่ โดยพระเจ้าเอร์ลังคะมิได้ขัดขวาง ทำให้พระนางผูกใจเจ็บและทำลายกรุงดาหาโดยรวบรวมศิษย์ที่เป็นสตรีมาทำพิธีบูชาเจ้าแม่กาลี แล้วร่ายมนต์สาปแช่งทำให้เกิดโรคภัยไข้เจ็บจนกรุงดาหาสาบสูญไป ในปัจจุบันเมื่อเกิดเหตุการณ์ที่เป็นเภทภัยขึ้นในเกาะบาหลี เช่น โรคระบาด ชาวบาหลีจะทำพิธีทรงเจ้าแม่รังดา โดยให้เจ้าแม่รังดามาเผชิญหน้ากับบาโรง ในตอนท้าย เด็กหนุ่มที่เข้าทรงบาโรงจะถือกริชไปแทงนางรังดา นางรังดาจะร่ายมนต์ให้กริชกลับไปแทงเด็กหนุ่มเหล่านั้น แต่แทงไม่เข้าด้วยอำนาจของบาโรง.

ใหม่!!: การ์เดียนครอสและรังดา · ดูเพิ่มเติม »

ลิลิธ

ลิลิธ (Lilith) (לילית; lilit, or lilith) เป็นชื่อในภาษาฮิบรูสำหรับรูปลักษณ์ในเทพปกรณัมยิว มีการกล่าวถึงในหลายตำนาน โดยมีการบันทึกกล่าวถึงแรกสุดใน ทัลมุดบาบิโลเนียน ซึ่งกล่าวในลักษณะของปีศาจสาว Līlīṯu ในข้อความของชาวเมโสโปเตเมีย หลักฐานอื่นที่ปรากฏในเอกสารของชาวยิว ซึ่งเกี่ยวโยงกับปีศาจสาวลิลิธแห่งอาณาจักรอัคกาด ในขณะเดียวกันนักวิชาการได้ตั้งมีการแย้งว่าลิลิธที่ปรากฏในบาบิโลเนียน และลิลิธที่ปราฏในอัคกาเดียนเป็นคนละตนกัน.

ใหม่!!: การ์เดียนครอสและลิลิธ · ดูเพิ่มเติม »

วาลคิรี

วาด "Valkyrie's Vigil" ในตำนานนอร์ส วาลคิรี (อังกฤษ: valkyrie, นอร์ส: valkyrja) เป็นเทพธิดาที่รับใช้ โอดินโดยมีหน้าที่นำนักรบที่ตายในสงครามไปที่ วัลฮัลลา (Valhalla) เพื่อพบกับโอดิน และมาเป็น Einherjar สู้ศึกในสงครามแร็กนาร็อก สงครามสิ้นโลกระหว่างเทพเจ้าและปีศาจ ในทางศิลปะ วาลคิรีมักจะถูกกล่าวถึงในสัญลักษณ์ของความสวยงาม โดยจะมีลักษณะนางฟ้าหญิง สวมหมวกนักรบถือหอกและขี่บนหลังม้าที่มีปีก วาลคิรีนั้นสามารถแปลงร่างเป็นหงส์ได้ วาลคิรีนั้นสามารถแต่งงานกับมนุษย์ได้ แต่นั่นจะทำให้เสียอำนาจวิเศษของเทพธิดาไป.

ใหม่!!: การ์เดียนครอสและวาลคิรี · ดูเพิ่มเติม »

วิดีโอเกมผู้เล่นคนเดียว

วิดีโอเกมผู้เล่นคนเดียว (Single-player video game) หรือ โหมดผู้เล่นคนเดียว คือโหมดการเล่นมาตรฐานแบบหนึ่งของเกมคอมพิวเตอร์แบบออฟไลน์ทั่วไป ซึ่งตัวเกมจะรองรับให้ผู้เล่นคนเดียวดำเนินบทบาทตามเนื้อเรื่องจนจบ คำว่า "เกมผู้เล่นคนเดียว" มักจะหมายถึง เกมที่สามารถเล่นได้เพียงคนเดียว ในขณะที่ "โหมดผู้เล่นคนเดียว" หมายถึง ผู้เล่นสามารถปรับเลือกที่จะเล่นโหมดหลายผู้เล่นได้ เกมคอมพิวเตอร์ส่วนใหญ่ในยุคเริ่มต้นมักจะเป็นเกมผู้เล่นคนเดียว ขณะที่เกมสองผู้เล่นได้ปรากฏขึ้นพร้อมกับคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล และในปี ค.ศ. 1978 ก็ได้ถือกำเนิดเกมหลายผู้เล่นขึ้น และในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ก็เริ่มมีระบบแลน.

ใหม่!!: การ์เดียนครอสและวิดีโอเกมผู้เล่นคนเดียว · ดูเพิ่มเติม »

สฟิงซ์

ฟิงซ์ (Sphinx) เป็นสัตว์ที่มีส่วนผสมของสัตว์หลายชนิดรวมอยู่ในตัวเดียวกันตามความเชื่อของคนแต่ละท้องถิ่น ทั้งนี้ สฟิงซ์เป็นความเชื่อที่มีอยู่ในหลายวัฒนธรรม.

ใหม่!!: การ์เดียนครอสและสฟิงซ์ · ดูเพิ่มเติม »

สแควร์เอนิกซ์

แควร์เอนิกซ์ หรือ บริษัท สแควร์เอนิกซ์ โฮลดิงส์ มหาชนจำกัด (株式会社スクウェア・エニックス・ホールディングス คะบุชิกิ-ไงฉะ ซุกุเอะอะ เอะนิกกุซุ โฮรุดิงงุซุ; Square Enix Holdings Co., Ltd) คือ ชื่อของบริษัทผลิตเกม โดยเกมที่มีชื่อเสียงคือเกมชุด ไฟนอลแฟนตาซี ดราก้อนเควสต์ และ คิงดอมฮาร์ต สำนักงานใหญ่อยู่ที่ โยะโยะงิ ในชิบุยะ เมืองโตเกียว สแควร์เอนิกซ์ เป็นบริษัทที่เกิดจากการควบรวมกิจการระหว่าง บริษัทสแควร์ และ เอนิกซ์ ซึ่งมีผลตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2546 โดยการควบรวมกันครั้งนี้ผู้ถือหุ้นในบริษัทสแควร์ได้รับส่วนแบ่งทางการตลาดเป็นสัดส่วน 0.81 และเอนิกซ์ได้รับในอัตรา 1:1 แต่นอกเหนือจากเรื่องส่วนแบ่งของผู้ถือหุ้น ในส่วนของผู้บริหาร เจ้าหน้าที่ระดับสูงหลายคนของบริษัทสแควร์ได้รับบทบาทในฐานะผู้นำในสแควร์เอนิกซ์ รวมทั้งประธานบริษัทสแควร์ซึ่งก็คือนายโยอิจิ วาดะ ที่ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นประธานของสแควร์เอนิกซ์นั่นเอง.

ใหม่!!: การ์เดียนครอสและสแควร์เอนิกซ์ · ดูเพิ่มเติม »

สเลปนีร์

ลปนีร์ (Sleipnir) ปรากฏในตำนานเทพเจ้านอร์ส เป็นม้า 8 ขา เป็นของเทพโอดิน ลูกของโลกิและสวาดิฟารี ได้รับการบรรยายว่าเป็นม้าที่ดีที่สุด และในบางครั้งเมื่อขี่มันจะนำไปสู่ตำแหน่งของเฮล.

ใหม่!!: การ์เดียนครอสและสเลปนีร์ · ดูเพิ่มเติม »

หนุมาน

1.

ใหม่!!: การ์เดียนครอสและหนุมาน · ดูเพิ่มเติม »

อะนูบิส

ทพอะนูบิส อะนูบิส หรือ อะนิวบิส (Anubis) คือหนึ่งในเทพของ ตำนานเทพเจ้าแห่งไอยคุปต.

ใหม่!!: การ์เดียนครอสและอะนูบิส · ดูเพิ่มเติม »

อัปสร

ระบำนางอัปสรในปัจจุบัน ในรูปแบบเดียวกันกับภาพสลักปราสาทขอมโบราณ อัปสร (अप्सराः อปฺสราะ, พหูพจน์ अप्सरसः อปฺสรสะ; อจฺฉรา) ถือเป็นนางฟ้าจำพวกหนึ่ง แต่ไม่ใช่เทวี บังเกิดขึ้นเมื่อครั้งกวนเกษียรสมุทร เพื่อเอาน้ำอมฤตขึ้นมา ดังความปรากฏในมหากาพย์มหาภารตะ ของอินเดีย คำว่า "อัปสร" นั้น มาจากคำว่า "อัป" (หมายถึง น้ำ) และ "สร" (หมายถึง การเคลื่อนไป) อัปสร จึงหมายถึง ผู้ที่เคลื่อนไปในน้ำ อันเป็นกำเนิดของนาง ทว่าโดยทั่วไป ถือว่านางเป็นชาวสวรรค์ ในเรื่องเล่าของอินเดียมีการกล่าวถึงนางอัปสรไว้มากมาย นับว่าเป็นตัวละครที่สำคัญตัวหนึ่งในเทพปกรณัมของอินเดีย ไม่น้อยไปกว่าเทพเจ้าและชาวสวรรค์อื่นๆ ตามเทพปกรณัมฮินดู กล่าวว่าพระพรหมทรงสร้างนางอัปสรขึ้น และเป็นนางบำเรออยู่ในราชสำนักของพระอินทร์ ในคัมภีร์นาฏยศาสตร์ ได้กล่าวถึงนางอัปสรที่สำคัญไว้หลายตนด้วยกัน เช่น มัญชุเกศี, สุเกศี, มิสรเกศี, สุโลจนะ, เสาทมิณี, เทวทัตตะ, เทวเสนะ, มโนรม, สุทาติ, สุนทรี, วิคัคธะ, วิวิธ, พุธ, สุมล, สันตติ, สุนันทา, สุมุขี, มาคธี, อรชุนี, สรลา, เกระลา, ธฤติ, นันทา, สุปุษกลา, สุปุษปมาลา และ กาลภา นางอัปสรมีอำนาจแปลงกายได้ ทั้งยังมีความสามารถในการขับร้องและเต้นรำเป็นอย่างยิ่ง ในราชสำนักของพระอินทร์มีนางอัปสรอยู่ 26 ตน แต่ละตนมีความสามารถในเชิงศิลปะต่างๆ กัน เทียบได้กับตำนานมิวส์ของเทพปกรณัมกรีก นอกจากนี้ยังมีตำนานกล่าวต่อไปว่า นางอัปสรนั้นเป็นชายาของคนธรรพ์ ซึ่งเป็นนักดนตรีในสวรรค์ โดยนางจะเต้นรำไปตามจังหวะดนตรีที่สามีของตนบรรเลง โดยทั่วไปมีความเชื่อว่านางอัปสรเป็นเครื่องหมายแห่งความเจริญงอกงาม แต่บางถิ่นก็เชื่อว่าอัปสรมีอำนาจแห่งความชั่วร้ายอยู่ด้วย ในปราสาทนครวัดของกัมพูชา มีการสลักภาพนางอัปสรไว้มากมาย โดยที่แต่ละรูปมีใบหน้า ท่าทาง และการแต่งกายที่แตกต่างกันไป.

ใหม่!!: การ์เดียนครอสและอัปสร · ดูเพิ่มเติม »

อาร์ทิมิส

อาร์ทิมิส (Artemis,; Ἄρτεμις) เป็นหนึ่งในพระเจ้ากรีกโบราณที่มีการบูชากว้างขวางที่สุด ภาคโรมัน คือ ไดแอนาLarousse Desk Reference Encyclopedia, The Book People, Haydock, 1995, p. 215.

ใหม่!!: การ์เดียนครอสและอาร์ทิมิส · ดูเพิ่มเติม »

อิมป์

ผู้หญิงกำลังให้อาหารอิมป์ อิมป์ เป็นตัวละครในเทพนิยาย พบได้เฉพาะในอังกฤษและไอร์แลนด์ บางครั้งอาจจำสับสนกับตัวพิกซีได้ ทั้งคู่มีส่วนสูงใกล้เคียงกัน (ประมาณหกถึงแปดนิ้ว) แม้ว่าอิมป์จะบินไม่ได้อย่างพิกซี และสีสันไม่จัดจ้านเท่า (อิมป์มักจะมีสีน้ำตาลเข้มถึงดำ) แต่อิมป์ก็มีอารมณ์ขันแบบทำลายข้าวของคล้ายคลึงกับพิกซี่ อิมป์ชอบอยู่ตามที่ที่เปียกชื้นหรือเป็นหนองบึง มักจะพบอิมป์กินแมลงตัวเล็กๆ เป็นอาหาร ลักษณะการขยายพันธุ์เหมือนกับแฟรี่ ต่างกันเพียงอิมป์ไม่มีช่วงที่ต้องเป็นดักแด้ ไข่ของอิมป์จะฟักตัวเป็นตัวอ่อนที่สมบูรณ์เลยและมีส่วนสูงประมาณหนึ่งนิ้ว.

ใหม่!!: การ์เดียนครอสและอิมป์ · ดูเพิ่มเติม »

อีดุนน์

''อีดุนน์'' (ค.ศ. 1858) โดย Herman Wilhelm Bissen ในเทพปกรณัมนอร์ส อีดุนน์ (Iðunn) เป็นเทพีในด้านแอปเปิลและความเยาว์วัย โดยอีดุนน์ได้ปรากฏใน Prose Edda โดยในนิยายอีดุนน์ได้ถูกล่อลวงโดยโลกิให้ออกจากแอสการ์ดไปยังป่าแห่งนึ่งซึ่งโลกิสัญญาว่าจะมีแอปเปิลที่น่าสนใจ และเมื่ออีดุนน์เข้าไปในป่าได้ถูกไทอาซีซึ่งแปลงร่างเป็นอินทรีย์ได้โฉบตัวอีดุนน์กลับไปที่บ้านของเขา เมื่ออีดุนน์ได้ออกจากแอสการ์ด เทพหลายองค์ได้แก่ตัวลง และเรื่องราวไปถึงโลกิที่ต้องเป็นคนรับผิดชอบพาตัวเธอกลับมาที่แอสการ์ด โลกิได้แปลงร่างเป็นเหยี่ยวและไปหาตัวเธอที่บ้านของไทอาซี โดยโลกิได้แปลงร่างอีดุนน์เป็นเมล็ดถั่วและนำเธอกลับสู่แอสการ์ด ซึ่งเมื่อไทอาซีได้ทราบเรื่อง ได้โกรธเกรี้ยวและไล่ตามโลกิไป โดยเมื่อไทอาซีไล่ถึงแอสการ์ด ขนอินทรีย์ของไทอาซีได้กลายเป็นไฟ และเทพเจ้าได้ฆ่าเขาลง.

ใหม่!!: การ์เดียนครอสและอีดุนน์ · ดูเพิ่มเติม »

ฮอรัส

ทพฮอรัส เทพฮอรัส (Horus) คือหนึ่งในเทพของ ตำนานเทพเจ้าแห่งไอยคุปต์ ผู้เป็นพระโอรสของเทพโอซีริส และเทวีไอซิสและเป็นพระสวามีของแฮธอร์ ทรงเป็นเทพที่เกิดจากการรวมกันของเทพนกเหยี่ยวและเทพแห่งแสงสว่าง มีพระเนตรขวาเป็นดวงอาทิตย์ พระเนตรซ้ายเป็นดวงจันทร์ และ คนอียิปต์โบราณมีความเชื่อว่าการเกิดกลางวันกลางคืนนั้นเกิดจากการบินรอบโลกของเทพฮอรัส สัญลักษณ์ของเทพฮอรัสคือเป็นมนุษย์ที่มีศีรษะเป็นนกเหยี่ยว ทรงสวมมงกุฎสองชั้นหรือแกะสลักเป็นรูปวงสุริยะมีปีกอยู่ที่รั้ววิหารประจำพระองค์ หรือคือนกเหยี่ยวกำลังบินอยู่เหนือการสู้รบของฟาโรห์ ที่อุ้งเล็บมีแส้แห่งความจงรักภักดีและแหวนแห่งความเป็นนิรันดร์อยู่ เทพฮอรัสมีพระนามมากมายตามท้องที่ที่สักการะและความเชื่อ เช่น เทพฮาโรเอริส (Haroeris) ฮอรัส เบฮ์เดตี (Horus Behdety) ฮาราเคต ฮาร์มาฆิส (Harmakhis) และ ฮาร์สีเอสิส (Harsiesis).

ใหม่!!: การ์เดียนครอสและฮอรัส · ดูเพิ่มเติม »

ฮาร์พี

วาดฮาร์พี ฮาร์พี (harpy, /hɑrpi/) เป็นสิ่งมีชีวิตตามตำนานกรีกซึ่งมีรูปกายเป็นมนุษย์ผู้หญิง มีท่อนล่างอย่างนก และมีปีก กล่าวกันว่าแต่เดิมฮาร์ปีมีเพียงสองตนเท่านั้น คือเอลโล และโอไซพีเทส ธิดาแห่งเธามาส และโอเชียนิดนามอิเล็กตร้า (โอเชียนิดคือนิมฟ์แห่งทะเล) เธามาสผู้นี้เป็นโอรสของพอนทัสและไกอา ทั้งพอนทัสและไกอาต่างก็เป็นเทพเจ้าโบราณของกรีก โดยพอนทัสเป็นเทพแห่งทะเล ส่วนไกอาเป็นเทพแห่งพิภพ ฮาร์ปีทั้งสองเป็นพี่น้องกับเทวีไอริส ซึ่งเป็นเทวีผู้ทำหน้าที่นำสารให้กับเหล่าเทพเจ้าต่างๆ เช่นเดียวกับเฮอร์เมส หากแต่เฮอร์เมสนั้นขึ้นตรงต่อเทพบดีซูส ในขณะที่ไอริสเป็นเทวีใต้บัญชาของเฮร่า เทวีไอริสยังมีปีกเป็นนกเช่นเดียวกับอีรอส และมักถูกกล่าวถึงในลักษณะของสาวน้อยมีปีก ถือคทานำสาร นอกจากนี้ไอริสยังเป็นเทวีพรหมจรรย์ และถือเป็นเทวีแห่งสะพานสายรุ้งอีกด้วย เรื่องที่เป็นที่รู้จักกันดีเกี่ยวกับฮาร์ปีคือเรื่องเมื่อครั้งเรืออาร์โกมาขึ้นฝั่งที่เธรส ในตอนนั้นมีนักพยากรณ์ตาบอดผู้หนึ่งนามว่าฟีนูสนำความลับของสวรรค์มาบอกแก่คนนอกมากเกินไป เทพเจ้าซูสจึงทรงสั่งให้พวกฮาร์ปีมาขโมยอาหารของฟีนูสเป็นการทรมาน เซเทสและคาลาอีสบุตรของเทพเจ้าแห่งสายลมเหนือโบรีอัสจึงทำหน้าที่ขับไล่เหล่าฮาร์ปีนี้ไป ยังมีบางตำนานกล่าวว่าฮาร์ปีถูกเซเทสและคาลาอีสฆ่าตาย นอกนั้นเล่าว่าเทวีไอริสได้ลงมาห้ามไว้ทัน หากแต่เหล่าฮาร์ปีก็ต้องตายเพราะอดอยากอาหารอยู่ดี ในเรื่องเจสันกับขนแกะทองคำนั้น ฮาร์พีได้ถูกกล่าวถึงว่าเป็นสุนัขล่าเนื้อของซูส การปรากฏตัวของฮาร์พีจะสร้างความน่าขยะแขยงไว้ในทุกๆที่ที่มันไป ฮาร์พีจะกินทุกสิ่งทุกอย่างที่ขวางหน้าและทิ้งมูลที่มีกลิ่นเหลือรับจนไม่ว่าสิ่งมีชีวิตใดก็ทนไม่ได้ ในเทพปกรณัมกรีกยังมีการกล่าวถึงฮาร์ปีตนอื่นๆ อีก ซึ่งคาดว่าเป็นการเสริมแต่งเข้ามาภายหลังเช่นฮาร์ปีที่มีชื่อว่าโพดาร์กซึ่งเป็นมารดาของม้าศักดิ์สิทธิ์สองตัวชื่อซานธุสและบาเลียส (ม้าของอะคิลลีส) โดยมีเทพเจ้าแห่งสายลมตะวันตกเซฟเฟอรุสเป็นบิดา บางตำนานกล่าวว่าเป็นสมุนรับใช้ของเทพเจ้าฮาเดส โดยทำหน้าที่หาวิญญาญที่เป็นอาหารมาสังเวยให้ที่นรกทาทาร์ลัส อาศัยอยู่ที่ชั้นบรรยากาศ (หรือว่ากันว่าตามหมู่เมฆนั้นเอง) มีความสามารถเกี่ยวกับลม และมักจะเป็นตัวร้ายที่มักจะโผล่มาในการโกรษแค้นของเหล่าเทพ โดยยกตัวอย่างจากตำนานที่ทำให้นกฮาร์พีโด่งดังอันหนึ่งคือ ตำนานเจสันและขนแกะทองคำ โดนตำนานกล่าวว่า คิงเพเนอุสถูกพระเจ้า สาปไม่ให้กินอาหารได้ เพราะทุกครั้งที่จะกินอาหาร จะมีเหล่านกฮาร์พีมาบินวนโฉบแย่งอาหารไป ทำให้ไม่สามารถกินอาหารได้เลย จนกระทั่งได้รับการช่วยเหลือจากพวกเจสัน หลังจากนำเรืออาร์โก้เทียบท่า โดยการฆ่านกฮาร์พีทิ้งเสีย ว่ากันว่าฮาร์พีมี3พี่น้อง นามว่า Aello Celaeno และ Ocypete.

ใหม่!!: การ์เดียนครอสและฮาร์พี · ดูเพิ่มเติม »

ฮิฟีสตัส

ฟีสตัส (Ἥφαιστος) (Hephaestus) เป็นเทพเจ้าแห่งช่างตีเหล็ก (blacksmith) ช่างฝีมือ ช่างศิลป์ ประติมากร โลหะ โลหะวิทยา (metallurgy) ไฟและภูเขาไฟWalter Burkert, Greek Religion 1985: III.2.ii; see coverage of Lemnos-based traditions and legends at Mythic Lemnos) ภาคโรมัน คือ วัลแคน ในเทพปกรณัมกรีก ฮีฟีสตัสเป็นพระโอรสของซูสกับพระนางฮีรา หรือบางตำราก็ว่าท่านเกิดมาแต่เฉพาะเทวีฮีรา และมีแอฟโฟรไดทีเป็นชายา ฮิฟีสตัสเป็นเทพช่างตีเหล็ก ทรงประดิษฐ์อาวุธทั้งหมดของพระเจ้าบนโอลิมปัส พระองค์เป็นช่างตีเหล็กของเหล่าทวยเทพ และทรงได้รับการบูชาในศูนย์การผลิตและอุตสาหกรรมของกรีซ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกรุงเอเธนส์ ลัทธิบูชาฮีฟีสตัสมีศูนย์กลางในเลมนอส ฮิฟีสตัสมีลักษณะเด่นคือเป็นเทพพิการ มีขาไม่สมประกอบ มีกริยาอาการเหมือนคนทุพพลภาพ และถือเครื่องมือช่างตลอดเวลา ท่านจึงได้รับฉายาเรียกหลายอย่างที่แสดงถึงลักษณะทางกายภาพ เช่น.

ใหม่!!: การ์เดียนครอสและฮิฟีสตัส · ดูเพิ่มเติม »

จินน์

ZGMF-1017 จินน์ (GINN) เป็นโมบิลสูทซึ่งมีบทบาทในโมบิลสูทกันดั้มซี้ด ได้รับการออกแบบโดยคุนิโอะ โอคาวาร.

ใหม่!!: การ์เดียนครอสและจินน์ · ดูเพิ่มเติม »

ทอร์

ทอร์ ในเทพปกรณัมนอร์ส ธอร์ (Thor, จากภาษานอร์สโบราณ Þórr) เป็นเทพถือค้อนซึ่งเกี่ยวข้องกับสายฟ้า ฟ้าร้อง พายุ ต้นโอ๊ก พละกำลัง การคุ้มครองมนุษยชาติ และตลอดจนการทำให้ศักดิ์สิทธิ์ การรักษาและความอุดมสมบูรณ์ เทพที่มาจากกำเนิดเดียวกันในเทพปกรณัมเยอรมันและเพเกินที่กว้างกว่า เป็นที่รูจักกันในภาษาอังกฤษเก่าว่า Þunor และภาษาเยอรมันโบราณเขตเหนือว่า Donar (อักษรรูน þonar ᚦᛟᚾᚨᚱ) ซึ่งกำเนิดจากภาษาโปรโตเยอรมัน *Þunraz (หมายถึง "สายฟ้า") ธอร์เป็นเทพที่ได้รับการกล่าวถึงอย่างสำคัญตลอดประวัติศาสตร์ที่มีการบันทึกของชาวเยอรมัน จากการยึดครองดินแดนเยอรมาเนียของโรมัน ไปจนถึงการขยายชนเผ่าในสมัยการโยกย้ายถิ่นฐาน ไปจนถึงการได้รับความนิยมอย่างสูงในยุคไวกิ้ง เมื่อ ในการเผชิญกับกระบวนการเผยแผ่ศาสนาคริสต์เข้าไปในสแกนดิเนเวีย สัญลักษณ์ค้อนมจอลนีร์ (Mjölnir) ของพระองค์ ถูกสวมใส่เป็นการท้าทายและชื่อตัวของนอร์สเพเกินซึ่งมีชื่อของเทพเจ้าเป็นพยานต่อความนิยมของเขา เมื่อย่างเข้าสู่สมัยใหม่ ธอร์ยังได้การยอมรับต่อไปในตำนานพื้นบ้านชนบททั่วภูมิภาคเยอรมนี ธอร์มักอ้างถึงบ่อยครั้งในชื่อสถานที่ ในวันประจำสัปดาห์ วันพฤหัสบดี (Thursday ("วันของธอร์") ปรากฏนามของพระองค์ และชื่อซึ่งมาจากยุคเพเกินที่มีนามพระองค์นั้นยังมีใช้กันอยู่จวบจนปัจจุบัน ตลอดจนยังเป็นที่มาของคำว่า "ฟ้าร้อง" หรือ "ฟ้าผ่า" ในภาษาอังกฤษ (Thunder) อีกด้วย นอกจากนี้แล้วนักวิชาการชาวอังกฤษผู้หนึ่งยังเชื่อว่า ค้อนมจอลนีร์ที่มีลักษณะขว้างไปแล้วสามารถวนกลับมาสู่มือของทอร์ได้เหมือนบูมเมอแรง เป็นที่มาของสัญลักษณ์สวัสดิกะ ที่แพร่หลายต่อมาในอารยธรรมของชาวอารยันอีกด้วย ธอร์เป็นหนึ่งในสิบสองสำคัญของเทพเจ้าสแกนดิเนเวีย เป็นเทพแห่งสายฟ้า ทอร์เป็นบุตรของเทพเจ้าโอดิน และจอร์ดน่ง (Fjörgyn) ยักษ์แห่งแผ่นดินหน้า 3, เทพสายฟ้า ผู้พิชิต. "ชักธงรบ" โดย กิเลน ประลองเชิง. ไทยรัฐปีที่ 67 ฉบับที่ 21303: วันพฤหัสบดีที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2559 ขึ้น 14 ค่ำ เดือน 6 ปีวอก.

ใหม่!!: การ์เดียนครอสและทอร์ · ดูเพิ่มเติม »

ทาลอส

ทาลอสมีปีก ปรากฏบนเหรียญตราบนเกาะครีต อายุ 300-270 ปีก่อนคริสต์ศักราช ทาลอส (อังกฤษ: Talos, กรีก: Τάλως) เป็นยักษ์ที่สร้างมาจากทองแดงปรากฏในเทพปกรณัมกรีก ทาลอสเกิดจากการสร้างของเฮฟเฟสตุส หนึ่งใน 12 เทพแห่งโอลิมปัส ซึ่งเป็นเทพแห่งการตีเหล็กและไฟ หน้าที่ของทาลอสคือลาดตระเวนและปกป้องยูโรพาบนเกาะครีต ให้พ้นจากโจรสลัดและผู้คุกคามอื่น ๆ ทาลอสปรากฏในมหากาพย์อีเลียด ในเรื่อง เจสัน ซึ่งอาละวาดไล่ฆ่าเจสันและบรรดาลูกเรืออาร์โกที่มาขโมยสมบัติบนเกาะ ซึ่งในวัฒนธรรมสมัยนิยม ทาลอสปรากฏในภาพยนตร์เรื่อง Jason and the Argonauts ในปี ค.ศ. 1963 ด้วยเทคนิคสตอปโมชั่นจากการสร้างสรรค์ของ เรย์ แฮร์รีเฮาเซน และปรากฏในเกม Age of Mythology ด้วยการเป็นผู้ปกป้องเกาะเลมนอส อันเป็นบ้านเกิดของเฮฟเฟสต.

ใหม่!!: การ์เดียนครอสและทาลอส · ดูเพิ่มเติม »

ครุฑ

รุฑยุดนาคปูนปั้นปิดทอง ประดับรอบพระอุโบสถ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม ครุฑ (गरुड) เป็นสัตว์กึ่งเทพในปกรณัมอินเดียและปรากฏในวรรณคดีสำคัญหลายเรื่อง เช่น มหากาพย์ มหาภารตะ เล่าว่า ครุฑเป็นพี่น้องกับนาคและทะเลาะกันจนเป็นศัตรู นอกจากนี้ ยังมีคัมภีร์ปุราณะที่ชื่อว่า ครุฑปุราณะ เป็นเรื่องเล่าพญาครุฑ ตามคติไทยโบราณ เชื่อว่าครุฑเป็นพญาแห่งนกทั้งมวล และเป็นพาหนะของพระนารายณ์ ปกติอาศัยอยู่ที่วิมานฉิมพลี มีรูปเป็นครึ่งคนครึ่งนกอินทรี ได้รับพรให้เป็นอมตะ ไม่มีอาวุธใดทำลายลงได้ แม้กระทั่งสายฟ้าของพระอินทร์ก็ได้แต่เพียงทำให้ขนของครุฑหลุดร่วงลงมาเพียงเส้นหนึ่งเท่านั้น ด้วยเหตุนี้ ครุฑจึงมีชื่ออีกอย่างหนึ่งว่า "สุบรรณ" ซึ่งหมายถึง "ขนวิเศษ" ครุฑเป็นสัตว์ใหญ่ มีอานุภาพและพละกำลังมหาศาล แข็งแรง บินได้รวดเร็ว มีสติปัญญาเฉียบแหลม อ่อนน้อมถ่อมตน และมีสัมมาคารวะ ครุฑพอจะแบ่งได้ 5 ประเภทคือ.

ใหม่!!: การ์เดียนครอสและครุฑ · ดูเพิ่มเติม »

คิเมียรา

มียรา คิเมียรา (Chimera; Χιμαιρα; ละติน: Chimæra) เป็นสัตว์ในเทพปกรณัมกรีกซึ่งตำนานเล่าว่า เป็นลูกของอีคิดนาและไทฟอน เป็นพี่ชายของเซอร์เบอรัส คิเมียรามีร่างกายกำยำและเป็นที่รวมของสัตว์ร้าย 3 ชนิด คือ ส่วนหัวถึงหน้าอกเป็นสิงโต ลำตัวเป็นแพะ บั้นท้ายเป็นมังกรหรืองู นอกจากนี้ ยังสามารถพ่นไฟได้เหมือนมังกรอีกด้วย คิเมียราถูกวีรบุรุษเบลเลอโรฟอนผู้ขี่ม้าบินเพกาซัสแทงตายด้วยหอก เพราะคิเมียราประกอบด้วยส่วนของสัตว์ร้าย 3 ชนิดที่ไม่น่ารวมกันได้ ปัจจุบันคำว่า คิเมียรา จึงเป็นชื่อเรียกสิ่งมีชีวิตรูปร่างแปลกประหลาดหลายชนิด เช่น ปลาทะเลน้ำลึกกระดูกอ่อนจำพวกหนึ่ง.

ใหม่!!: การ์เดียนครอสและคิเมียรา · ดูเพิ่มเติม »

คธูลู

ูลูในนครรุลูเยห์ คธูลู (Cthulhu), คธุลฮู, คุลลูหรือธูลู (ชื่อจริงของคธูลูนั้นเป็นภาษาที่มนุษย์ไม่สามารถออกเสียงได้ถูกต้อง) เป็นหนึ่งในสิ่งที่เรียกว่า เกรทโอลด์วัน ในงานประพันธ์ของเอช. พี. เลิฟคราฟท์ คธูลูปรากฏตัวครั้งแรกในเรื่องสั้น "เสียงเรียกของคธูลู" (The Call of Cthulhu) ซึ่งตีพิมพ์ในปี พ.ศ. 2471 และมีบทบาทเล็กๆในงานเขียนเรื่องอื่นๆของเลิฟคราฟท์ ออกัสต์ เดอเลธใช้ศัพท์คำว่า ตำนานคธูลู (Cthulhu Mythos) เพื่อจำแนกงานเขียนของเลิฟคราฟท์และตัวเขาเองที่มีเนื้อหาเกี่ยวข้องกัน ซึ่งในเวลาต่อมาได้รวมถึงงานประพันธ์ของคนอื่นๆซึ่งใช้ตัวละครและเนื้อหาแบบเดียวกันทั้งหมด (เรียกได้อีกอย่างว่าเรื่องสยองขวัญแนวเลิฟคราฟท์ (Lovecraftian horror) ชื่อของคธูลูมักใช้เปรียบเทียบในความหมายของสิ่งที่น่าสะพรึงกลัว.

ใหม่!!: การ์เดียนครอสและคธูลู · ดูเพิ่มเติม »

ฉฺยงจี

ฉฺยงจี ฉฺยงจี (窮奇 พินอิน: qióngjī) เป็น 1 ใน 4 จตุรมารของจีน มีลักษณะรูปร่างน่าเกลียด ลักษณะเหมือนวัวมีขนเป็นหนามแข็งเหมือนเม่น มีปากยาวสองข้าง และชอบกินคน โดยกินคนจากหัวลงไป มีลักษณะดุร้ายเหมือนเสือ และปรากฏในตำนานของญี่ปุ่นว่าเป็นปีศาจที่มาพร้อมกับลม.

ใหม่!!: การ์เดียนครอสและฉฺยงจี · ดูเพิ่มเติม »

ซอมบี

นักแสดงในบทบาทซอมบี ซอมบี (Zombie) คือสิ่งมีชีวิตที่ตายแล้วฟื้นในบันเทิงคดีที่เกิดจากที่ศพการกลับมามีชีวิต ซอมบีมักพบในสื่อบันเทิงแนวสยองขวัญและจินตนิมิต คำนี้มาจากนิทานพื้นบ้านชาวเฮติที่ว่าซอมบีเป็นศพคนตายที่กลับมามีชีวิตด้วยวิธีการต่าง ๆ ส่วนใหญ่มาจากเวทมนตร์ การพรรณนาถึงซอมบีในสมัยใหม่ไม่จำเป็นต้องเกี่ยวข้องกับเวทมนตร์ แต่มักใช้วิธีการทางวิทยาศาสตร์ เช่น การแผ่รังสี โรคทางจิต ไวรัส อุบัติเหตุทางวิทยาศาสตร์ เป็นต้น คำว่า "zombie" ในภาษาอังกฤษมีบันทึกครั้งแรกในปี..

ใหม่!!: การ์เดียนครอสและซอมบี · ดูเพิ่มเติม »

ซักคิวบัส

หัวเสารูปนางซักคิวบัส ซักคิวบัส ((เอกพจน์) หรือ succubi) เป็นชื่อปิศาจสตรีที่ปรากฏตัวในความฝันด้วยรูปมนุษย์สตรีเพื่อล่อลวงบุรุษให้สังวาสกับนาง ปิศาจที่เป็นชายและมีพฤติกรรมทำนองเดียวกันเรียก "อินคิวบัส" (incubus) ความเชื่อทางศาสนามีว่า ถ้าร่วมประเวณีกับนางซักคิวบัสบ่อยครั้ง อาจส่งผลให้สุขภาพย่ำแย่ และอาจถึงตายได้ ในนวนิยายสมัยปัจจุบัน นางซักคิวบัสอาจปรากฏมาในความฝันหรือไม่ก็ได้ และมักมีรูปโฉมโนมพรรณงดงามและยั่วยวน ต่างจากในสมัยโบราณที่แสดงรูปของนางซักคิวบัสไว้น่าเกลียดน่ากลัวอย่างปิศาจโดยแท้ ในโมร็อกโกและประเทศอื่นในแอฟริกาเหนือ มีปิศาจที่คล้ายคลึงกันเรียกว่า "อิสชากาดิชา" (Aisha Kandisha; อาหรับ: عيشة قنديشة‎, ʿĀʾisha Qandīsha) เป็นปิศาจผู้หญิงที่มีท่อนบนงดงามยั่วยวน แต่มีช่วงล่างที่เป็นแพะ และปีกด้านหลังเหมือนค้างคาว เชื่อว่าอาศัยอยู่ในที่รกร้างหรือกลางทะเลทราย เช่น เทือกเขาแอตลาส อิสชากาดิชา จะทำให้ผู้ชายหลงใหลเคลิบเคลิ้ม และท้ายสุดจะเป็นบ้าเสียสติ หรืออาจถึงตายได้ ทั้งนี้มีพยานเป็นชาวพื้นเมืองกลางทะเลทรายบอกว่า เคยเห็นอิสชากาดิชาในเวลากลางคืน เชื่อว่า หากได้ยินเสียงโซ่ลากพื้นหรือเสียงเหมือนอูฐเดินในเวลากลางคืน นั่นคือ อิสชาก.

ใหม่!!: การ์เดียนครอสและซักคิวบัส · ดูเพิ่มเติม »

ปนาลี

ปนาลี บนวิหารนอเตอร์ดามในฝรั่งเศส ปนาลี หรือ การ์กอยล์ (Gargoyle; gargouille) ความหมายของปนาลีทางสถาปัตยกรรมหมายถึงหินที่แกะเป็นรูปอัปลักษณ์ (grotesque) ยื่นออกไปจากสิ่งก่อสร้างที่มีรางและช่องให้น้ำจากหลังคาไหลห่างจากตัวสิ่งก่อสร้าง คำว่า “gargoyle” มาจากภาษาฝรั่งเศสว่า “gargouille” ซึ่งแปลว่าคอหอย ซึ่งมาจากภาษาละติน “gurgulio, gula” หรือคำที่มีรากมาจาก “gar” ที่แปลว่า กลืน ซึ่งคล้ายเสียงน้ำไหลในท่อ (ตัวอย่าง: ภาษาสเปน “garganta” แปลว่าคอหอย จึงใช้คำว่า “garganta” สำหรับ “gargoyle”) รูปอัปลักษณ์ที่มิได้ใช้เป็นรางน้ำแต่ใช้เป็นสิ่งตกแต่ง ตามภาษาสามัญก็ยังเรียกว่าปนาลี ถึงแม้ว่าทางสถาปัตยกรรมจะแยกการใช้ระหว่างคำว่าปนาลี และคำว่ารูปอัปลักษณ์ ปนาลีจะเป็นคำที่ใช้สำหรับรูปอัปลักษณ์ที่ใช้เป็นรางน้ำ และคำว่ารูปอัปลักษณ์จะหมายถึงรูปสลักที่มิได้ใช้เป็นรางน้ำ ปนาลีจะเป็นรูปสลักตามมุมต่าง ๆ ของสถาปัตยกรรมในแบบกอธิคในยุโรป โดยมากจะสลักเป็นรูปมังกรหรือปีศาจในท่วงท่าต่าง ๆ โดยท่าที่รู้จักมากที่สุดคือท่านั่งยอง ๆ ตามองไปทางข้างหน้า ปนาลีเชื่อว่าเดิมเป็นมังกร ชาวยุโรปในยุคกลางเชื่อว่าการ์กอยล์เมื่อตอนกลางวันจะเป็นรูปสลัก ตกกลางคืนจะกลายร่างเป็นมังกรบินไปทั่วหมู่บ้านหรือเมืองที่อาศัย เพื่อปกป้องดูแลมิให้มีสิ่งชั่วร้ายต่าง ๆ เข้ามารังควาน.

ใหม่!!: การ์เดียนครอสและปนาลี · ดูเพิ่มเติม »

นรสิงห์

ประติมากรรมนูนต่ำนรสิงห์สังหารหิรัณยกศิปุอสูร นรสิงห์แบบพม่า ที่เจดีย์ชเวดากอง นรสิงห์ หรือ นรสีห์ (नरसिंह, Narasimha) เป็นอวตารร่างที่ 4 ของพระนารายณ์ตามเนื้อเรื่องในคัมภีร์ปุราณะ อุปนิษัท และคัมภีร์อื่น ๆ ของศาสนาฮินดู โดยมีร่างกายท่อนล่างเป็นมนุษย์ และร่างกายท่อนบนเป็นสิงโต นรสิงห์เป็นผู้สังหารหิรัณยกศิปุ อสูรตนซึ่งได้รับพรจากพระพรหมว่าจะไม่ถูกสังหารโดยมนุษย์หรือสัตว์ นรสิงห์เป็นที่รู้จักและบูชาโดยทั่วไป หิรัณยกศิปุบำเพ็ญตบะเป็นเวลานาน จนได้รับพรจากพระพรหม ให้เป็นผู้ที่ฆ่าไม่ตายจากมนุษย์, สัตว์, เทวดา ให้ฆ่าไม่ตายทั้งในเวลากลางวันและกลางคืน ให้ฆ่าไม่ตายทั้งจากอาวุธและมือ ให้ฆ่าไม่ตายทั้งในเรือนและนอกเรือน หิรัณยกศิปุ ได้อาละวาดสร้างความเดือดร้อนไปทั่วทั้งสามภพ พระอินทร์จึงทูลเชิญพระนารายณ์อวตารเกิดมาเป็น นรสิงห์ คือ มนุษย์ครึ่งสิงห์ นรสิงห์สังหารหิรัณยกศิปุด้วยกรงเล็บด้วยการฉีกอก ที่กึ่งกลางบานประตู ในเวลาโพล้เพล้ ก่อนตาย นรสิงห์ได้ถามหิรัณยกศิปุว่า สิ่งที่ฆ่าเจ้าเป็นมนุษย์หรือสัตว์หรือเทวดาหรือไม่ คำตอบก็คือ ไม่ สิ่งที่สังหารเป็นมือหรืออาวุธหรือไม่ คำตอบก็คือ ไม่ ในเรือนหรือนอกเรือนหรือไม่ คำตอบก็คือ ไม่ และเป็นเวลากลางวันหรือกลางคืนหรือไม่ คำตอบก็คือ ไม่ นรสิงห์จึงประกาศว่า บัดนี้ พรที่ประทานจากพระพรหมได้สลายไปสิ้นแล้ว เทวดาทั้งสามภพจึงยินดี รูปประติมากรรมหรือรูปวาดของนรสิงห์ตอนสังหารหิรัณยกศิปุ จึงมักสลักมีรูปเทวดาองค์เล็ก ๆ 2 องค์อยู่ข้างล่างแสดงกิริยายินดีด้ว.

ใหม่!!: การ์เดียนครอสและนรสิงห์ · ดูเพิ่มเติม »

นาค

นาคสะดุ้ง ประติมากรรมตามบันไดทางขึ้นโบสถ์ของวัดไทย ตามความเชื่อในภูมิภาคเอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นาค (नाग Nāga) เป็นงูขนาดใหญ่มีหงอน เป็นสัญลักษณ์แห่งความยิ่งใหญ่ ความอุดมสมบูรณ์ ความมีวาสนา อีกทั้งยังเป็นสัญลักษณ์ของบันไดสู่จักรวาลอีกด้วย ต้นกำเนิดความเชื่อเรื่องพญานาคน่าจะมาจากอินเดีย ด้วยมีปกรณัมหลายเรื่องเล่าถึงพญานาค โดยเฉพาะในมหากาพย์มหาภารตะ นาคถือเป็นปรปักษ์ของครุฑ ส่วนในตำนานพุทธประวัติ ก็เล่าถึงพญานาคไว้หลายครั้งด้วยกัน ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ยังมีตำนานเรื่องพญานาคอย่างแพร่หลาย ชาวบ้านในภูมิภาคนี้มักเชื่อกันว่าพญานาคอาศัยอยู่ในแม่น้ำโขง หรือเมืองบาดาล และเชื่อกันว่าเคยมีคนเคยพบรอยพญานาคขึ้นมาในวันออกพรรษาโดยจะมีลักษณะคล้ายรอยของงูขนาดใหญ่ ลักษณะของพญานาคตามความเชื่อในแต่ละภูมิภาคจะแตกต่างกันไป แต่พื้นฐานคือพญานาคนั้นมีลักษณะตัวเป็นงูตัวใหญ่มีหงอนสีทองและตาสีแดง เกล็ดเหมือนปลามีหลายสีแตกต่างกันไปตามบารมี บ้างก็มีสีเขียว บ้างก็มีสีดำ หรือบ้างก็มี 7 สี เหมือนสีของรุ้ง และที่สำคัญคือนาคตระกูลธรรมดาจะมีเศียรเดียว แต่ตระกูลที่สูงขึ้นไปนั้นจะมีสามเศียร ห้าเศียร เจ็ดเศียรและเก้าเศียร นาคจำพวกนี้จะสืบเชื้อสายมาจาก พญาเศษะ (อนันตนาคราช) ผู้เป็นบัลลังก์ของพระวิษณุนารายณ์ปรมนาท ณ เกษียรสมุทร อนันตนาคราชนั้นเล่ากันว่ามีกายใหญ่โตมหึมามีความยาวไม่สิ้นสุด มีพันศีรษะ พญานาคนั้นมีทั้งเกิดในน้ำและบนบก เกิดจากครรภ์และจากไข่ มีอิทธิฤทธิ์สามารถบันดาลให้เกิดคุณและโทษได้ นาคนั้นมักจะแปลงร่างเป็นมนุษย์รูปร่างสวยงาม.

ใหม่!!: การ์เดียนครอสและนาค · ดูเพิ่มเติม »

นูอาดา

นูอาดา (Nuada) หรือรู้จักในชื่อ แอร์เกทลัมฮ์ (Airgetlám - มือโลหะ) เป็นกษัตริย์องค์แรกของเผ่าตูตา เด ดานันน์ (Tuatha Dé Danann) นูอาดาเป็นกษัตริย์อยู่ 7 ปี ก่อนที่จะเดินทางมายังไอร์แลนด์ เมื่อเขาเดินทางมาถึงเกาะเขาได้ทำสงครามกับกษัตริย์องค์ก่อนหน้าและได้สูญเสียมือไปข้างหนึ่ง.

ใหม่!!: การ์เดียนครอสและนูอาดา · ดูเพิ่มเติม »

แบซิลิสก์

ในตำนานและประมวลสัตว์ร้ายของยุโรป แบซิลิสก์ (basilisk) เป็นสัตว์เลื้อยคลานซึ่งถือกันว่า เป็นราชาแห่งงู (king of serpents) และเชื่อกันว่า มีลมหายใจเป็นพิษร้าย และมีแววตาสังหารที่ใครได้จ้องก็ต้องถึงตาย หนึ่งในเอกสารเก่าแก่ที่สุดที่เอ่ยถึงสัตว์นี้ คือ เนเชอรัลฮิสตอรี (Natural History) ของพลินีคนพี่ (Pliny the Elder) ที่ระบุว่า แบซิลิสก์มาจากไซรีนี (Cyrene) เป็นงูตัวเล็กที่ยาวไม่เกิน 12 องคุลี มีพิษสงร้ายแรง เลื้อยไปที่ใดก็ทำลายทุกสิ่งที่ขวางหน้า ทั้งใครมองมันก็จะถึงตาย แต่สัตว์นี้แพ้กลิ่นสาปของวีเซิล เป็นไปได้ว่า ตำนานเรื่องแบซิลิสก์และความสัมพันธ์กับวีเซิลนี้มีที่มาจากงูเอเชียบางชนิด เช่น จงอาง และสัตว์ผู้ล่าอย่างพังพอน.

ใหม่!!: การ์เดียนครอสและแบซิลิสก์ · ดูเพิ่มเติม »

แฟรงเกนสไตน์

หน้าปก '''แฟรงเกนสไตน์''' ฉบับภาษาอังกฤษ แฟรงเกนสไตน์ หรือโพรมีเทียสสมัยใหม่ (Frankenstein; or, The Modern Prometheus) เป็นนวนิยายสยองขวัญยอดนิยมเรื่องหนึ่ง เขียนโดย แมรี เชลลีย์ จัดพิมพ์ครั้งแรก ณ กรุงลอนดอน เมื่อวันที่ 1 มกราคม ค.ศ. 1818 (แต่เริ่มนิยมอ่านกันมากในฉบับปรับปรุงครั้งที่ 3 ในปี ค.ศ. 1831) โดยในเรื่อง มีส่วนผสมของนิยายสยองขวัญ และ ความรัก แฟรงเกนสไตน์ เป็นเรื่องราวของนักศึกษาแพทยศาสตร์ชาวสวิสคนหนึ่งที่ชื่อ วิกเตอร์ แฟรงเกนสไตน์ ที่ทำการประดิษฐ์สิ่งมีชีวิตขึ้นมาจากการซากศพมนุษย์ชิ้นส่วนต่าง ๆ มาประกอบเข้าด้วยกันด้วยวิทยาการทางการแพทย์และวิทยาศาสตร์ ทำให้มันฟื้นคืนชีพขึ้นมา และไม่สามารถควบคุมมันได้ เรื่องนี้ได้กลายเป็นนวนิยายยอดนิยม มีการอ้างอิงและดัดแปลงเป็นการแสดงต่าง ๆ มากมาย ทั้งภาพยนตร์, ละครโทรทัศน์ หรือภาพยนตร์การ์ตูน แมรี เชลลีย์ ได้ความคิดการเขียนนวนิยายเรื่องนี้ ขณะที่เธออายุ 18 ปี เมื่อ..

ใหม่!!: การ์เดียนครอสและแฟรงเกนสไตน์ · ดูเพิ่มเติม »

แพนโดรา

แพนโดร่า วาดโดยจอห์น วิลเลียม วอเทอร์เฮาส์ ค.ศ. 1896 แพนโดรา (Pandora) เป็นสตรีนางแรกบนโลกมนุษย์และเป็นผู้หญิงที่สวยที่สุดเพราะเป็นผู้หญิงคนเดียวบนโลก ผู้ซึ่งเปิดกล่องที่บรรจุความชั่วร้ายนานาซึ่งทำให้จิตใจของมนุษย์ไม่บริสุทธิ์ ตำนานได้กล่าวว่าแพนโดร่าถูกสรรค์สร้างขึ้นมาจากฝีมือที่ประณีตของเทพและเทพีหลายองค์โดยมีจุดประสงค์เพื่อจะลงโทษมนุษย์ เหตุเพราะก่อนหน้านี้ เทพโปรมีทีอุส ได้ขโมยไฟจากเตาของเทวีเฮสเทียบนเขาโอลิมปัสเพื่อนำมาให้มนุษย์ ส่งผลให้มนุษย์เริ่มแข็งข้อต่อเทพเจ้า เทพซุสได้ใส่ความอยากรู้อยากเห็นลงในตัวของแพนดอร่า พร้อมกับมอบกล่องแพนดอร่าซึ่งกำชับไม่ให้นางเปิดดู แล้วส่งนางลงไปยังโลกมนุษย์ แพนดอร่าได้แต่งงานกับไททันเอพะมีธีเอิส และมีลูกหลานหญิงชายสืบต่อกันมาเป็นเผ่าพันธุ์ของมนุษย์ นับวันความสงสัยของนางแพนดอร่าก็มีมากขึ้น จนนางตัดสินใจเปิดกล่องแพนดอร่าออก ทันใดนั้นเอง ความชั่วร้ายต่างๆ นานาก็พวยพุ่งออกมาจากกล่องตรงเข้าไปกัดกินหัวใจมนุษย์ให้ฆ่าฟันกันเองจนกลายเป็นยุคมืด นางแพนดอร่าตกใจรีบปิดกล่องทำให้สามารถกักเก็บ ความสิ้นหวัง เอาไว้ในกล่องใบนั้นได้ทัน มนุษย์จึงยังคงดำรงชีวิตอยู่มาได้ด้วยความหวัง แต่ทว่ามนุษย์เริ่มมีจิตใจชั่วร้ายโสมมมากขึ้น จนสุดท้ายเทพเจ้าจึงบันดาลให้เกิดน้ำท่วมโลกจนมนุษย์ผู้ชั่วร้ายตายกันหมด มนุษย์ผู้มีจิตใจดีที่ยังเหลือรอดจึงได้สืบเชื้อสายเผ่าพันธุ์ต่อมา โดยที่ยังมีความชั่วร้ายเกาะติดอยู่ในหัวใจ ทว่าหากมีความหวัง อดกลั้นข่มใจไม่ทำความผิด ความชั่วร้ายต่างๆ ก็มิอาจทำอันตรายใดได้อีก หมวดหมู่:บุคคลในตำนานเทพปกรณัมกรีก.

ใหม่!!: การ์เดียนครอสและแพนโดรา · ดูเพิ่มเติม »

แวมไพร์

Nosferutu: A Symphony of Horror'' ที่ดัดแปลงมาจากนวนิยายเรื่อง เค้าท์แดร็กคูลา ภาพยนตร์เรื่องนี้ฉายในปี ค.ศ. 1922 แวมไพร์ (Vampire) ผีชนิดหนึ่งตามความเชื่อของชาวยุโรป ในยุคกลาง เชื่อว่าเป็นผีดิบ ที่มีรูปร่างหน้าตาเหมือนมนุษย์ทั่วไป แต่มีฟันแหลมคม ดื่มเลือดของมนุษย์ด้วยกันเป็นอาหารเพื่อหล่อเลี้ยง โดยที่แวมไพร์จะมีชีวิตเป็นอมตะ ไม่มีวันตาย จะปรากฏตัวได้แต่เฉพาะเวลากลางคืน เพราะกลางวันแพ้แสงแดด แวมไพร์จะหลบซ่อนอยู่ในโลงของตนหรือในหลุมในเวลากลางวัน สามารถแปลงร่างได้หลายแบบ เช่น ค้างคาว, นกฮูก, หมาป่า, หมาจิ้งจอก, กบ, คางคก, แมลงเม่า, งูพิษ เป็นต้น สามารถกำบังกายหายตัวได้ ไม่มีเงาเมื่อกระทบกับแสงหรือสะท้อนในกระจก มีแรงมากเหมือนผู้ชาย 20 คน รวมถึงสามารถบังคับสิ่งของให้เคลื่อนที่ด้วยอำนาจของตนได้ด้วย สิ่งที่จะกำราบแวมไพร์ได้คือ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทางศาสนา เช่น ไม้กางเขน, น้ำมนตร์ หรือแม้กระทั่งสมุนไพรกลิ่นแรงบางชนิด เช่น กระเทียม วิธีฆ่าแวมไพร์มีมากมาย เช่น ตอกลิ่มให้ทะลุหัวใจ เผา หรือ ตัดหัวด้วยจอบของสัปเหร่อ บุคคลที่ตกเป็นเหยื่อของมัน จะกลายเป็นแวมไพร์ไปด้วย และกลายเป็นสาวกของแวมไพร์ตนที่ดูดเลือดตัวเอง ชาวยุโรปในยุคกลางนั้น หวาดกลัวแวมไพร์มาก ผู้ที่สงสัยว่าเป็นแวมไพร์ จะตกอยู่ในสถานะเดียวกับแม่มด หรือ มนุษย์หมาป่า คือ ถูกตัดสินลงโทษด้วยการเอาถึงชีวิต มีวิธีการป้องกันการรุกรานของแวมไพร์หลายวิธี เช่น บางหมู่บ้านจะโปรยเมล็ดข้าวไว้บนหลังคาบ้าน เพราะเชื่อว่าแวมไพร์จะง่วนกับการนับเมล็ดข้าวเป็นการถ่วงเวลาจนรุ่งเช้า หรือ โรยเศษขนมปังไว้ตั้งแต่สุสานให้แวมไพร์เดินเก็บเศษขนมนั้นวนเวียนไปมา หรือแม้แต่การวางไม้กางเขนหรือดอกกุหลาบที่มีหนามแหลมเพื่อเป็นการพันธนาการไว้ในโลง เรื่องราวของแวมไพร์ มีมากมาย ที่เป็นนิทานพื้นบ้านและวรรณกรรม โดยวรรณกรรมที่ว่าถึงแวมไพร์ที่เก่าแก่ที่สุด มีมาตั้งแต่สมัยโรมัน วรรณกรรมที่มีชื่อเสียงที่สุดของแวมไพร์คือ เรื่องแดรกคูลา ของ บราม สโตกเกอร์ ที่โด่งดังจนมีการนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์ ละคร ละครเวที หรือแม้แต่กระทั่งภาพยนตร์การ์ตูนมากมายตราบจนปัจจุบัน เช่น ภาพยนตร์เรื่อง Nosferatu: A Symphony of Horror ในปี..

ใหม่!!: การ์เดียนครอสและแวมไพร์ · ดูเพิ่มเติม »

แอตลัส (เทพปกรณัม)

แอตลัส แอตลัส (Atlas) เป็นหนึ่งในเหล่าไททันที่ก่อกบฏในสงครามไททัน หลังจากที่พ่ายแพ้ต่อเหล่าเทพโอลิมเปียแล้ว แอตลัสก็ถูกลงโทษให้เป็นผู้แบกท้องฟ้า (บางตำนานว่าเป็นโลก) ไว้บนบ่า แอตลัสเป็นผู้ช่วยให้เฮอร์คิวลีสสามารถทำภารกิจสำเร็จหนึ่งภารกิจ นั่นคือการไปนำแอปเปิลทองคำของเฮสเพริดีสมาให้กษัตริย์ เพราะแอตลัสเป็นบิดาของพวกเฮสเพริดีส และเป็นเพียงผู้เดียวที่จะสามารถไปนำแอปเปิลทองคำเหล่านั้นมาได้ เฮอร์คิวลีสได้อาสาแบกท้องฟ้า (โลก) ไว้จนกว่าแอตลัสจะนำแอปเปิลมาได้ แอตลัส.

ใหม่!!: การ์เดียนครอสและแอตลัส (เทพปกรณัม) · ดูเพิ่มเติม »

แซนด์แมน

'''แซนด์แมน''' ตัวละครจากมาร์เวลคอมิกส์ แซนด์แมน (Sandman) หรือ ฟลินต์ มาร์โก (Flint Marko) เป็นตัวละครจากเรื่องสไปเดอร์แมน ซึ่งจัดพิมพ์โดยมาร์เวลคอมิกส์ โดยแซนด์แมนมีความสามารถในการแปรสภาพเป็นทรายในรูปทรงต่าง ๆ ได้ ซึ่งเป็นความสามารถพิเศษที่ได้รับภายหลังจากได้รับอุบัติเหตุ ในเหตุการณ์ปัจจุบัน เขาได้กลายจากศัตรูมาเป็นมิตรกับสไปเดอร์แมน ซึ่งแซนด์แมนถือเป็นตัวละครที่ได้รับการดัดแปลงในสื่ออื่นหลายรูปแบบ รวมทั้งการ์ตูนแอนิเมชัน และภาพยนตร์เรื่องสไปเดอร์แมน 3 โดยมีโธมัส ฮาร์เดน ครัชรับแสดงเป็นแซนด์แมน ในปี..

ใหม่!!: การ์เดียนครอสและแซนด์แมน · ดูเพิ่มเติม »

โพไซดอน

ซดอน (Poseidon,; Ποσειδών) เป็นหนึ่งในสิบสองเทพเจ้าโอลิมปัสในเทพปกรณัมกรีก พระราชอาณาเขตหลักคือมหาสมุทร และพระองค์ทรงได้รับขนานพระนามว่า "สมุทรเทพ" นอกจากนี้ พระองค์ยังทรงได้รับขนานพระนามว่า "ผู้เขย่าโลก" (Earth-Shaker) เนื่องจากบทบาทของพระองค์ในการก่อแผ่นดินไหว และ "ผู้กำราบม้า" (tamer of horses) พระองค์มักทรงถูกพรรณาเป็นบุรุษสูงวัย มีพระเกษาหยิกและพระมัสสุ (หนวด) แผ่นจารึกอักษรไลเนียร์บีแสดงว่า ที่ไพลอสและธีบส์กรีซยุคสำริดก่อนมีเทพเจ้าโอลิมปัสมีการบูชาโพไซดอนเป็นพระเจ้าหลัก แต่ภายหลังมีการรวมพระองค์เข้าเป็นพระเจ้าโอลิมปัสเป็นพระอนุชาของเฮดีสและพระเชษฐาของซูส ตำนานพื้นบ้านบางตำนานเล่าว่า เรีย พระมารดาของพระองค์ ช่วยพระองค์ไว้โดยซ่อนพระองค์ไว้กับฝูงแกะแล้วแสร้งทำเป็นว่าให้กำเนิดลูกลาออกมา เพื่อมิให้ถูกโครนัสกลืนกินIn the 2nd century AD, a well with the name of Arne, the "lamb's well", in the neighbourhood of Mantineia in Arcadia, where old traditions lingered, was shown to Pausanias.

ใหม่!!: การ์เดียนครอสและโพไซดอน · ดูเพิ่มเติม »

โกเลม

200px ในคติชาวบ้านยิว โกเลม (golem) เป็นสัตว์รูปอย่างมนุษย์ซึ่งประกอบขึ้นจากวัตถุไม่มีชีวิตแล้วเสกเป่าให้มีชีวิต (พยนต์) ทั้งนี้ ครั้งหนึ่ง คำ "โกเลม" ที่ใช้ในเพลงสวดสดุดีและลายลักษณ์อักษรสมัยมัชฌิมยุค เคยหมายถึง วัตถุใดอันหารูปพรรณสัณฐานมิได้ โกเลมจะเชื่อฟังคำสั่งของเจ้านาย ตามความเชื่อ ถ้าเราอยากจะให้โกเลมมีชีวิต เราจะต้องหาคนที่สร้างโกเลมเป็น แล้วเขียนคำว่า emeth ที่แปลว่า ศักดิ์สิทธิ์ ลงไปในปากของมัน page 296.

ใหม่!!: การ์เดียนครอสและโกเลม · ดูเพิ่มเติม »

โยตุน

ตันฟาฟเนอร์และฟาสอลต์ วาดโดย ริชาร์ด วากเนอร์ ในปกรณัมแหวนแห่งนิเบลุงเกน โยตุน (Jötunn) มีความหมายว่ายักษ์ปรากฏในเทพปกรณัมนอร์ส โยตันเป็นเผ่าพันธุ์หนึ่งที่แยกจากกลุ่ม อาส (Æsir) และ วาน (Vanir).

ใหม่!!: การ์เดียนครอสและโยตุน · ดูเพิ่มเติม »

ไฟ

ฟ ไฟ เป็นการออกซิเดชันของวัสดุอย่างรวดเร็วในกระบวนการเผาไหม้ชนิดคายความร้อนซึ่งปล่อยความร้อน แสงสว่าง และผลิตภัณฑ์มากมายจากปฏิกิริยา กระบวนการออกซิเดชันที่ช้ากว่านั้น เช่น การขึ้นสนิม หรือการย่อยอาหาร ไม่นับรวมในนิยามนี้ ไฟร้อนเนื่องจากการแปลงพันธะคู่อ่อนของโมเลกุลของออกซิเจน (O2) ไปเป็นพันธะที่แข็งแกร่งกว่าทำให้เกิดผลิตภัณฑ์เป็นคาร์บอนไดออกไซด์และน้ำ ปล่อยพลังงานออกมา (418 กิโลจูลต่อออกซิเจน 32 กรัม) พลังงานพันธะของเชื้อเพลิงมีส่วนเพียงเล็กน้อยSchmidt-Rohr, K. (2015).

ใหม่!!: การ์เดียนครอสและไฟ · ดูเพิ่มเติม »

ไฟนอลแฟนตาซี

ฟนอลแฟนตาซี (Final Fantasy) เป็นเกมชุดของเกมอาร์พีจี ที่ได้รับความนิยมอย่างสูง สร้างขึ้นโดยสแควร์ (ปัจจุบันคือบริษัท สแควร์เอนิกซ์) โดยเกมชุดไฟนอลแฟนตาซีนี้มีในในเครื่องเล่นหลายชนิด ได้แก่ เครื่องเกมคอนโซล เครื่องเกมเคลื่อนที่ เกมออนไลน์ เกมบนโทรศัพท์มือถือ และยังมีทำเป็น ภาพยนตร์การ์ตูน 3 เรื่อง และ ภาพยนตร์เรื่องยาว 2 เรื่อง ไฟนอลแฟนตาซีชุดแรกออกวางจำหน่ายในประเทศญี่ปุ่นเมื่อปี พ.ศ. 2530 และได้มีการแปลเป็นภาษาอังกฤษเพื่อจัดจำหน่ายในทวีปอเมริกาเหนือเมื่อพ.ศ. 2533 รวมทั้งวางขายภูมิภาคอื่นทั่วโลก เช่น ทวีปยุโรป และออสเตรเลีย เครื่องเล่นเกมที่มี ไฟนอลแฟนตาซี ออกจำหน่าย ได้แก่ แฟมิคอม ซูเปอร์แฟมิคอม ซูเปอร์นินเทนโด เพลย์สเตชัน วันเดอร์สวอน เพลย์สเตชัน 2 เกมคอมพิวเตอร์ เกมบอยแอดวานซ์ พีเอสพี เกมคิวบ์ นินเทนโด ดีเอส เอกซ์บอกซ์ 360 เพลย์สเตชัน 3 เอกซ์บอกซ์ วัน เพลย์สเตชัน 4 และโทรศัพท์มือถือ ในเดือนสิงหาคม 2560 เฟมในชุดเกมไฟนอลแฟนตาซีมียอดขายรวมมากกว่า 135 ล้านชุดทั่วโลก นับเป็นเกมที่ประสบความสำเร็จสูงสุดของบริษัทสแควร์เอนิกซ์ ปัจจุบันมีเกมหลักออกวางจำหน่ายแล้ว 15 ภาค และมีเกมที่เกี่ยวข้องอีกมาก.

ใหม่!!: การ์เดียนครอสและไฟนอลแฟนตาซี · ดูเพิ่มเติม »

ไรจิง

รจิง หรือ เทพอัสนี เป็นเทพเจ้าแห่งสายฟ้าและสายฝนของลัทธิชินโต ในประเทศญี่ปุ่น ชื่อของเขามาจากคำสองคำ คือ "ไร" (雷 ‘ฟ้าคะนอง’) และ "ชิง" (神, ‘เทพ’ หรือ 'คะมิ') ไรจิงมักปรากฏกายในรูปปีศาจที่ตีกลองเพื่อบันดาลให้ฟ้าร้อง โดยมีสัญลักษณ์ โทะโมะเอะ วาดบนกลอง ทั้งนี้ ไรจิงยังเป็นที่รู้จักในนามอื่นๆ ดังนี้.

ใหม่!!: การ์เดียนครอสและไรจิง · ดูเพิ่มเติม »

ไวเวิร์น

วเวิร์น (Wyvern) คือ สิ่งมีชีวิตลักษณะคล้ายมังกรชนิดหนึ่ง แต่มีลำตัวขนาดเล็กว่ามังกรทั่วไป มีปีกเป็นค้างคาว ปลายหางเป็นรูปหัวหอก (สามเหลี่ยม) มีขาเพียง 2 ขา(ขาหน้าและปีกเป็นส่วนเดียวกัน) บางตำนานว่าไวเวิร์นนั้นต่างจากมังกรตรงที่ไม่สามารถพ่นไฟได้ แต่ก็มีฤทธานุภาพไม่แพ้มังกรในเผ่าพันธุ์อื่น ๆ อาศัยตามโพรงถ้ำหรือภูเขาสูง ไวเวิร์นบนยอดสัญลักษณ์สถานีรถไฟเมืองดาร์บี้ ประเทศอังกฤษ ไวเวิร์น มักถูกใช้เป็นสัญลักษณ์ของชนชั้นสูงในยุโรปสมัยกลาง เช่น เป็นตราอัศวิน หรือติดตามสัญลักษณ์ของราชวงศ์ต่าง ๆ ไวเวิร์น ยังมีชื่อเรียกอื่น เช่น ไวบาน หรือ ไวเบิร์น (Waiban ออกเสียงตามสำเนียงภาษาญี่ปุ่น), วายเวิร์น (ในเกม magicfortress) เป็นต้น นอกจากนี้แล้วในยุคกลาง ในแคว้นกาตาลุญญาของสเปน ไวเวิร์นถูกเรียกว่า ไวเบรีย (Vibria) เป็นมังกรตัวเมียบินได้.

ใหม่!!: การ์เดียนครอสและไวเวิร์น · ดูเพิ่มเติม »

ไอแพด

อแพด (iPad) คือแท็บเล็ตคอมพิวเตอร์ที่ออกแบบและพัฒนาโดยบริษัทแอปเปิล โดยมีหน้าที่หลักในด้านมัลติมีเดียในด้าน ภาพยนตร์ เพลง เกม อีบุ๊ก และท่องเว็บไซต์ ขนาดและน้ำหนักของไอแพดมีขนาดเบากว่าแล็ปท็อป โดยมีน้ำหนัก 680 กรัม และ 601 กรัม สำหรับไอแพดรุ่นแรกและไอแพดรุ่นสองตามลำดับ ไอแพดเริ่มวางจำหน่ายครั้งแรกในเดือนเมษายน พ.ศ. 2553 (รุ่น Wi-fi) และในเดือนเมษายน พ.ศ. 2553 (รุ่น Wi-fi พร้อมกับ 3G) โดยไอแพดสามารถทำยอดขายได้ถึง 3 ล้านเครื่องในช่วงเวลาเพียง 80 วัน ส่วนการวางจำหน่าย ผ่านตัวแทนอย่างเป็นทางการในประเทศไทย เพิ่งเริ่มเมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2553 ไอแพดมาพร้อมกับเทคโนโลยี Multi Touch สามารถเล่นวิดีโอ, ฟังเพลง, ดูรูปภาพและเล่นอินเทอร์เน็ตได้ ไอแพดมีหน้าจอขนาด 9.7 นิ้ว มีความละเอียด 768 x 1024 พิกเซล หนา 0.5 นิ้ว ใช้ซีพียู Apple A4 ที่พัฒนาขึ้นเองโดยบริษัทแอปเปิล และในปัจจุบันไอแพดรุ่นล่าสุดมีชื่อว่า iPad Air 2 ซึ่งมีความเร็วมากกว่า iPad Air ถึง 2.5 เท่า ซึ่งมีความคมชัดกว่า HD ทีวีมาก มีน้ำหนักเพียง 469 กรัม (เดิม 652) มีกล้องแบบใหม่คือ iSight มีความละเอียด 8 MegaPixel มีจอ Multitouch ขนาด 9.7 นิ้ว ใช้ซีพียู Apple A8X สามารถใช้เครือข่าย 4G LTE (Long term Evolution) ได้ มีสองรุ่นให้เลือกคือ Wifi กับ Wifi+4G ในปัจจุบันใช้ระบบปฏิบัติการล่าสุดคือ iOS 8.1.1.

ใหม่!!: การ์เดียนครอสและไอแพด · ดูเพิ่มเติม »

ไอโฟน

อโฟน (iPhone) เป็นโทรศัพท์มือถือที่มีความสามารถใช้งานอินเทอร์เน็ตและมัลติมีเดีย ผลิตและจำหน่ายโดยบริษัทแอปเปิล โดยการทำงานของไอโฟนสามารถใช้งานส่งอีเมล ใช้เป็นโทรศัพท์เคลื่อนที่ ส่งเอสเอ็มเอส ท่องอินเทอร์เน็ตผ่านทางซอฟต์แวร์ซาฟารี ค้นหาแผนที่ ฟังเพลง และความสามารถอื่น โดยมีอุปกรณ์หลักประกอบด้วย Wi-Fi (802.11b/g) บลูทูธ 2.0 และกล้องถ่ายภาพ 2.0-megapixel ไอโฟนรุ่นแรกมีลักษณะ 2.5G quad band GSM และ EDGE และรุ่นที่สองใช้ UMTS และ HSDPA แอปเปิลได้เปิดเผยไอโฟนรุ่นแรกโดย สตีฟ จอบส์ ในงานแม็คเวิลด์ วันที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2550 และวางจำหน่ายครั้งแรกในสหรัฐอเมริกาวันที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2550 ไอโฟนได้ชื่อว่าเป็นสิ่งประดิษฐ์ยอดเยี่ยมประจำปีจากนิตยสารไทม์ ประจำปี 2550 โดยมีรุ่นถัดมาคือ ไอโฟน 3G ไอโฟน 3GS ไอโฟน 4 ไอโฟน 4S ไอโฟน 5 ไอโฟน 5C ไอโฟน 5S ไอโฟน 6 ไอโฟน 6พลัส ไอโฟน 6S ไอโฟน 6Sพลัส และ ไอโฟนSE โดยApple.Inc ได้เปิดตัวไอโฟนSE ซึ่งเปิดตัวเมื่อวันที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2559 ที่กลับไปใช้ขนาดหน้าจอเดียวกับไอโฟน 5S เนื่องจากผู้บริโภคกลุ่มใหญ่กลุ่มหนึ่งไม่ชอบขนาดหน้าจอของไอโฟน 6, 6S, 6พลัสและ 6Sพลัส ซึ่งมีขนาดใหญ่เกินไป โดยไอโฟน SE มีสเปคเครื่องที่ดีกว่า iPhone 5S เช่น ในเรื่องของความเร็ว ที่เร็วกว่าสองถึงสามเท่า รวมทั้งปรับส่วนต่าง ๆ ให้เกือบเทียบเท่าไอโฟน 6S ต่อมาได้พัฒนาไอโฟนรุ่นต่อไปคือไอโฟน7 และไอโฟน7 พลัส ไอโฟนรุ่นล่าสุดคือ ไอโฟน8 ไอโฟน8 พลัส ไอโฟนเอ็กซ.

ใหม่!!: การ์เดียนครอสและไอโฟน · ดูเพิ่มเติม »

ไฮดรา

รา (Hydra) พบสะกดว่า ไฮดร้า อาจหมายถึง.

ใหม่!!: การ์เดียนครอสและไฮดรา · ดูเพิ่มเติม »

ไททัน (เทพปกรณัม)

ทพไททัน เป็นเทพสิบสององค์ที่เรืองอำนาจในช่วงยุคทอง (Golden Age) และถูกล้มล้างอำนาจไปโดยเทพโอลิมปัส (Olympian).

ใหม่!!: การ์เดียนครอสและไททัน (เทพปกรณัม) · ดูเพิ่มเติม »

ไซคลอปส์

ไซคลอปส์ ไซคลอปส์ (กรีก: Κύκλωψ; ละติน: Cyclops หรือ Kyklops) หรือ อสูรตาเดียว เป็นสัตว์ประหลาดในตำนานกรีก ชื่อไซคลอปส์ถูกใช้ระบุถึงยักษ์ตาเดียวสองชนิด โดยชนิดแรกเป็นลูกของเจ้านภา อูรานอสและพระแม่ธรณี ไกอา ซึ่งไซครอปส์จำพวกนี้มีเด่นๆ 3 ตน คือ อาจีรอส บรอนทีส และสเตอร์โรพีท มักจะถือค้อนอันใหญ่ มีพลังแห่งสายฟ้า และมีฝีมือในด้านช่างเหล็ก ไซคลอปส์กลุ่มนี้ถูกยูเรนัสกักขังไว้ในทาทารัส จนกระทั่งซุสปลดปล่อยออกมาหลังจากที่โค่นโครนัสผู้เป็นบิดา ซึ่งไซคลอปส์ได้ตอบแทนโดยตีอาวุธต่างๆให้เหล่าเทพ ได้แก่ สายฟ้าให้แก่ ซุส สามง่าม ให้แก่ โพไซดอน หมวกล่องหน ให้แก่ ฮาเดส และเหล่าไซคลอปส์ได้เป็นลูกมือของเทพแห่งช่างเหล็กเฮฟเฟสตุสในเวลาต่อมา จนกระทั่งถูกอพอลโลสังหารเพื่อล้างแค้นให้แอสคิวลาปิอัสที่ถูกซุสใช้สายฟ้าฟาด ไซคลอปส์กลุ่มที่สองเป็นลูกหลานของโพไซดอนและพรายน้ำโทซา ไซคลอปส์กลุ่มนี้กินมนุษย์เป็นอาหาร โดยมีบทบาทในเรื่องโอดิสซีย์ ไซคลอปส์มีความนิยมมากเหมือนกัน เช่นไซคลอปส์ในการ์ตูน ไซคลอปส์ในเกม หรือในนวนิยาย หมวดหมู่:สัตว์ประหลาด.

ใหม่!!: การ์เดียนครอสและไซคลอปส์ · ดูเพิ่มเติม »

ไซเรน

ำหรับสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำจำพวกซาลาแมนเดอร์ ดูที่ ไซเรน จอห์น วิลเลี่ยม วาเตอร์เฮาส์ ไซเรน (Siren; กรีก: Σειρήν, Σειρῆνες) เป็นปีศาจในเทพปกรณัมกรีก โดยปรากฏบทบาทอย่างยิ่งจากตำนานเรื่องเจสันและเรืออาร์โกและโอดิสซีย์ ไซเรน มีลักษณะของสัตว์ผสม 3 อย่าง คือ คล้ายนางเงือก มีขาเป็นครีบปลา มีปีกและเสียงเหมือนนก แต่บ้างก็ว่า ไซเรน เป็นมนุษย์ครึ่งนกเหมือนกินร กินรี ในวรรณคดีไทย จากบทประพันธ์ตอนหนึ่ง ระบุว่า ไซเรน มีเสียงอันไพเราะ รูปร่างที่งดงามรองจากเงือกเล็กน้อย มีความสามารถในการสะกดจิตให้ผู้อื่น ทำตามในสิ่งที่ตนเองต้องการ เสียงของไซเรนไพเราะเพราะพริ้งจนทำให้คนที่เดินเรือผ่านมายังบริเวณใกล้เคียงที่ไซเรนอาศัยอยู่หลงทางเข้ามาตามเสียงเพลงของไซเรน ผู้ที่ทนฟังเสียงของนางไซเรนได้โดยไม่เสียสติจะได้รับปัญญาในการรู้จุดอ่อนของตน ในลุ่มแม่น้ำไรน์ในประเทศเยอรมนี มีอุบัติเหตุทางเรือเกิดขึ้นบ่อย ๆ เชื่อว่าเกิดจากไซเรน ที่เรียกว่า "ผู้หญิงแห่งแม่น้ำไรน์" ซึ่งปรากฏอยู่ในคติชนนิยมและวรรณกรรมต่าง ๆ ไซเรน ได้ถูกอ้างอิงถึงในวัฒนธรรมร่วมสมัยมากมาย เช่น เป็นตัวละครหนึ่งในการ์ตูนญี่ปุ่นเรื่อง เซนต์เซย่า ที่ชื่อ ไซเรน โซเรนต.

ใหม่!!: การ์เดียนครอสและไซเรน · ดูเพิ่มเติม »

เฟนรีร์

ฟนรีร์กำลังต่อสู้กับโอดินในภาพ "Kampf der untergehenden Götter" หรือ "การยุทธ์ของเทพผู้ถูกตัดสินไว้แล้ว" ในตำนานเทพเจ้าสแกนดิเนเวีย หมาป่าเฟนริล (ภาษานอร์สโบราณ Fenrir: "ผู้อาศัยในบึงเลน"Orchard (1997:42). Fenrisúlfr: "หมาป่าเฟนรีร์"Simek (2007:81). Hróðvitnir: "หมาป่าที่เลื่องลือ"Simek (2007:160). หรือ Vánagandr: "อสูรกายแห่งแม่น้ำวาน"Simek (2007:350).) เป็นหมาป่าขนาดมหึมา มีตัวตนอยู่ในบทกวีเอ็ดดา (Poetic Edda) ที่เรียบเรียงในคริสต์ศตวรรษที่ 13 จากต้นฉบับโบราณ และร้อยแก้วเอ็ดดา (Prose Edda) และ ฮีมสกรินก์กา (Heimskringla) ที่เขียนขึ้นในสมัยคริสต์ศตวรรษที่ 13 โดยสนอร์รี สเทอร์ลิวซัน (Snorri Sturluson) ทั้งในบทกวีเอ็ดดาและมหากาพย์เอ็ดดาเฟนรีร์เป็นหนึ่งในบุตรของโลกิ เป็นบิดาแห่งหมาป่าสกอลล์ (Sköll) และฮาตี (Hati Hróðvitnisson) เป็นหนึ่งในลางบอกเหตุที่จะทำให้เกิดวันแร็กนาร็อก หมาป่าตนนี้เจริญเติบโตขึ้นทุกวันกลายเป็นหมาป่าที่ดุร้ายและมีกำลังมหาศาล โอดินจึงสั่งให้พันธนาการเฟนรีร์ไว้ด้วยริบบิ้นไกลพ์นิร์ของเหล่าคนแคระที่แข็งแกร่งเหนือสิ่งอื่นใด เมื่อเหล่าเทพแอซิร์จะหลอกพันธนาการเฟนริร์ มันเรียกร้องให้เหล่าเทพพิสูจน์ความบริสุทธิ์ใจโดยการวางมือลงในปากของมัน เทพทิร์อาสาทำหน้าที่นี้ เมื่อเฟนริร์เห็นว่าตนเองโดนหลอกและไม่สามารถดิ้นหลุดจากโซ่ได้จึงกัดมือของทิร์ขาด จากคำทำนายในวันแร็กนาร็อก เฟนริร์จะหลุดออกมาได้ และสังหารโอดิน แต่ในเวลาต่อมาเฟนริร์จะถูกวีดาร์ หนึ่งในบุตรของโอดินสังหาร หมาป่าเฟนริร์เป็นการสะท้อนความเชื่อ และความรู้สึกอย่างหนึ่งของชาวไวกิ้งที่มองเห็นเหล่าหมาป่าเป็นศัตรูเป็นปีศาจร้าย นอกเหนือจากเหล่ายักษ์น้ำแข็ง (หิมะและหน้าหนาว) และยักษ์เพลิง (ภูเขาไฟ).

ใหม่!!: การ์เดียนครอสและเฟนรีร์ · ดูเพิ่มเติม »

เมฟิสโตเฟเลส

มฟิสโตเฟเลส บินข้าม Wittenberg ปรากฏในวรรณกรรมของเออแฌน เดอลาครัว เมฟิสโตเฟเลส (Mephistopheles หรือสะกด Mephistophilus, Mephistophilis, Mephostopheles, Mephisto, Mephastophilis) เป็นปีศาจในนิทานพื้นบ้านของประเทศเยอรมนี เมฟิสโตเฟเลสปรากฏเริ่มแรกในวรรณกรรมในลักษณะของปีศาจในตำนานเฟาสต์ หลังจากนั้นเมฟิสโตเฟเลสได้ถูกนำมาใช้เป็นลักษณะของปีศาจในหลากหลายเรื่อง.

ใหม่!!: การ์เดียนครอสและเมฟิสโตเฟเลส · ดูเพิ่มเติม »

เมดูซา

ในเทพปกรณัมกรีก เมดูซาเป็นสัตว์ประหลาด กอร์กอน ทั่วไปอธิบายว่ามีใบหน้าหญิงมนุษย์น่ากลัวและมีงูพิษเป็น ๆ แทนผม การจ้องเธอโดยตรงจะเปลี่ยนผู้ดูให้เป็นหิน แหล่งข้อมูลส่วนมากอธิบายว่าเธอเป็นธิดาของฟอร์ซีสและซีโต เมดูซาถูกวีรบุรุษเพอร์ซิอัสตัดหัว จากนั้นเขาใช้ศีรษะเธอเป็นอาวุธ กระทั่งเขาถวายแด่เทพีอะธีนาซึ่งนำไปติดบนโล่ของพระนาง ในสมัยโบราณคลาสสิก ภาพศีรษะเมดูซาปรากฏในอุปกรณ์ขับไล่ความชั่วร้าย เรียก กอร์กะเนียน.

ใหม่!!: การ์เดียนครอสและเมดูซา · ดูเพิ่มเติม »

เลวีอาธาน

"การสังหารเลวีอาธาน" ภาพพิมพ์ ค.ศ. 1865 โดย กุสตาฟ โดเร (Gustave Doré) เลวีอาธาน ("ม้วน; ขด", ภาษาฮิบรูมาตรฐาน Livyatan, ภาษาฮิบรูติเบเรียน) เป็นสัตว์ร้ายในทะเล ตามความในพระคัมภีร์ไบเบิ้ลในศาสนาคริสต์ อ้างไว้ในพระพันธสัญญาเดิม (เพลงสดุดี 74:13-14; โยบ 41; และ อิสยาห์ 27:1) จอมปีศาจแห่งริษยาตกเป็นตำแหน่งของงูยักษ์เลวีอาธาน มันถูกกล่าวถึงทั้งในคัมภีร์ยิวและไบเบิ้ล ว่าเป็นสัตว์ทะเลขนาดยักษ์ มีหลายหัว มีฟันแหลมคมเหมือนจระเข้ มีดวงตาดั่งขนตาของตะวัน (หมายถึงมันโผล่ตาขึ้นมาเหนือน้ำเหมือนที่จระเข้ทำเวลาล่าเหยื่อ ตามันจะโผล่พ้นน้ำมาเล็กน้อย เหมือนพระอาทิตย์โผล่พ้นเหลี่ยมเขาในตอนเช้า) บางครั้งมันก็ถูกกล่าวว่าเป็นพลังแห่งความสับสนวุ่นวายเมื่อครั้งสร้างโลก คัมภีร์ปฐมกาลกล่าวว่า "ในปฐมกาลพระเจ้าทรงเนรมิตสร้างฟ้าและแผ่นดินแผ่นดินก็ว่างเปล่า ความมืดอยู่เหนือน้ำ และพระวิญญาณของพระเจ้าปกอยู่เหนือน้ำนั้น" ผืนน้ำนั่นแหละครับคือความสับสนวุ่นวาย และก็คือเลวีอาธาน คำว่า "เลวีอาธาน" นั้น ยังหมายถึงสัตว์ประหลาดขนาดยักษ์ หรือสัตว์ขนาดใหญ่ใดๆ ก็ได้ ในภาษาฮิบรูใหม่ คำนี้มีความหมายเพียง วาฬ เท่านั้น.

ใหม่!!: การ์เดียนครอสและเลวีอาธาน · ดูเพิ่มเติม »

เสือขาว

ทความนี้เป็นบทความเกี่ยวกับ เสือขาว (สัตว์ในปกรณัม) หากต้องการดูบทความเสือขาวที่เป็นสัตว์ ดูที่ เสือขาวเบงกอล ภาพวาดของเสือขาว เสือขาว (白虎 (びゃっこ); 백호; Bạch Hổ, 白虎) เป็นหนึ่งในสี่เทพศักดิ์สิทธิ์ประจำทิศตะวันตก และฤดูใบไม้ร่วง เป็นสัตว์วิเศษของจีน เป็นเทพแห่งสงครามและการต่อสู้ เป็นตัวแทนของอำนาจบารมีและความเคารพยำเกรง เป็นเจ้าแห่งสัตว์ป่า สัตว์สี่เท้า สัตว์นักล่าทั้งมวล ในสมัยโบราณเสือขาวถูกใช้เป็นชื่อของหน่วยกำลังรบ เป็นตราสัญลักษณ์ของกองทัพ เป็นสัญลักษณ์ให้โชค ในงานหัตถกรรมต่างๆ นิยมให้เสือขาวคู่กับมังกรเขียว.

ใหม่!!: การ์เดียนครอสและเสือขาว · ดูเพิ่มเติม »

เอลฟ์

''Ängsälvor'' "เอลฟ์แห่งท้องทุ่ง" ภาพวาดของนิลส์ บลอมเมอร์ ในปี ค.ศ. 1850 เอลฟ์ (elf) คือสิ่งมีชีวิตอมนุษย์ในตำนานนอร์สและตำนานปรัมปราในกลุ่มประเทศเจอร์แมนิก (สแกนดิเนเวียและเยอรมัน) เมื่อแรกเริ่ม แนวคิดเกี่ยวกับพวกเอลฟ์คือ ชนเผ่าที่เกี่ยวข้องกับธรรมชาติและเทพแห่งความอุดมสมบูรณ์ ภาพวาดของชนเหล่านี้มักเป็นมนุษย์ทั้งชายและหญิงที่แลดูอ่อนเยาว์และงดงาม อาศัยอยู่ในป่า ในถ้ำ ใต้พื้นดิน หรือตามบ่อน้ำและตาน้ำพุ มักเชื่อกันว่าพวกเขามีชีวิตยืนยาวมากหรืออาจเป็นอมตะ รวมทั้งมีพลังเวทมนตร์วิเศษ แต่หลังจาก ลอร์ดออฟเดอะริงส์ ผลงานอันโด่งดังของ เจ. อาร์. อาร์. โทลคีน ปรากฏออกมา ภาพของเอลฟ์ก็กลายเป็นผองชนผู้เป็นอมตะและเฉลียวฉลาด ทั้งที่คำว่า เอลฟ์ ในวรรณกรรมของโทลคีนมีความหมายแตกต่างไปคนละทางกับตำนานโบราณโดยสิ้นเชิง.

ใหม่!!: การ์เดียนครอสและเอลฟ์ · ดูเพิ่มเติม »

เถาอู้

เถาอู้ เถาอู้ (檮杌 พินอิน: táowù) หรือ โทโกะสึ เป็น 1 ในจตุรมารของจีน มีลักษณะเป็นเสือหน้าคน ผสมหมูป่า มีเขี้ยวยาว และหางยาว หมวดหมู่:สิ่งมีชีวิตในตำนานจีน.

ใหม่!!: การ์เดียนครอสและเถาอู้ · ดูเพิ่มเติม »

เดอะการ์เดียน

อะการ์เดียน (The Guardian) เป็นหนังสือพิมพ์รายวันฝ่ายซ้ายกึ่งสายกลางแห่งชาติอังกฤษ ก่อตั้งใน..

ใหม่!!: การ์เดียนครอสและเดอะการ์เดียน · ดูเพิ่มเติม »

เคลพี

ลพีในเกมเมกามิเทนเซย์ วาดโดยคาซึมะ คาเนโกะ เคลพี (Kelpie) ปีศาจจำพวกพรายน้ำในนิทานพื้นบ้านของสกอตแลนด์ มีลักษณะเป็นม้าสีขาวหรือกึ่งคนกึ่งม้า สิงสถิตย์อยู่ยังแม่น้ำ, ทะเลสาบ หรือ หนองน้ำ แหล่งน้ำจืดขนาดใหญ่ เคลพี จะล่อลวงคนที่หยุดพักที่ริมน้ำที่มันอาศัยอยู่ ขณะที่หยุดพักดื่มน้ำ มันจะปรากฏตัวเป็นม้าสีขาวที่สงบเสงี่ยม แต่เมื่อขึ้นขี่หลังมัน มันจะพาดำดิ่งสู่ก้นน้ำทันที จนบุคคลนั้นจมน้ำตาย ซึ่งเคลพีจะกินซากศพจนเหลือเพียงหัวใจหรือตับไว้ แต่ก็มีเรื่องของเคลพีที่แปลงร่างเป็นมนุษย์เพื่อแต่งงานกับหญิงสาว เคลพี ยังมีชื่อเรียกอื่น ๆ ตามท้องถิ่นต่าง ๆ เช่น นักเกิล (Nuggle) ชูพิลที (Shoopiltee) โยเกิล (Njogel) แทงกี (Tangi) ในตำนานสแกนดิเนเวียเรียกว่า Bäckahästen (แปลว่า ม้าลำธาร) ในนอร์เวย์เรียก nøkken (หมายถึง พรายน้ำ) เคลพี มีลักษณะคล้ายคลึงกับเซนทอร์, ลิมนาเดส และสคิลลา ในเทพปกรณัมกรีก และม้าบ้อง ในคติความเชื่อพื้นบ้านของล้านน.

ใหม่!!: การ์เดียนครอสและเคลพี · ดูเพิ่มเติม »

เซอร์เบอรัส

ประติมากรรมเทพเจ้าเฮดีสกับเซอร์เบอรัส เซอร์เบอรัส หรือ เคร์เบรอส (Cerberus; Κέρβερος เคร์เบรอส) ในเทพปกรณัมกรีกและโรมัน เป็นหมาหลายหัว (ปกติมีสาม) มีหางอสรพิษ พังพานงู และกรงเล็บสิงโต มันเฝ้าทางเข้าโลกบาดาลเพื่อป้องกันคนตายมิให้หลบหนีและคนเป็นมิให้เข้า เซอร์เบอรัสปรากฏในวรรณกรรมกรีกและโรมันโบราณหลายงาน และในงานศิลปะและสถาปัตยกรรมทั้งโบราณและสมัยใหม่ แม้การพรรณนาเซอร์เบอรัสแตกต่างกันแล้วแต่ตีความ ความแตกต่างที่สำคัญที่สุด คือ จำนวนหัว แหล่งข้อมูลส่วนมากอธิบายหรือบรรยายไว้สามหัว แต่แหล่งอื่นแสดงเซอร์เบอรัสมีสองหัวหรือหัวเดียว มีแหล่งน้อยกว่านั้นที่แสดงจำนวนต่าง ๆ บ้างว่าห้าสิบหรือกระทั่งหนึ่งร้อย เซอร์เบอรัสเป็นลูกของอีคิดนา ครึ่งสตรีครึ่งอสรพิษ กับไทฟอน สัตว์ประหลาดยักษ์ซึ่งแม้แต่เทพเจ้ากรีกยังขยาด พี่น้องมีเลอร์เนียนไฮดรา, ออร์ธรัส (Orthrus) หมานรกสองหัว และคิเมียรา สัตว์ประหลาดสามหัว การพรรณนาสามัญของเซอร์เบอรัสในเทพปกรณัมและศิลปะกรีก คือ มีสามหัว ในงานส่วนใหญ่ สามหัวนั้นมองและเป็นเครื่องหมายของอดีต ปัจจุบันและอนาคต ขณะที่แหล่งอื่นแนะว่า หัวทั้งสามเป็นสัญลักษณ์ของการเกิด เยาว์วัยและชราวัย กล่าวกันว่า หัวของเซอร์เบอรัสมีความอยากอาหารเฉพาะเนื้อมีชีวิต ฉะนั้นจึงให้วิญญาณผู้วายชนม์เข้าโลกบาดาลได้อย่างเสรี แต่ไม่อนุญาตให้ผู้ใดออก เซอร์เบอรัสเป็นหมาเฝ้าที่ซื่อสัตย์ของเฮดีส และเฝ้าประตูเข้าออกโลกบาดาล ไม่มีบันทึกว่าเซอร์เบอรัสเป็นสุนัขพันธุ์ใด ดังนั้นในทางศิลปะจึงพบเห็นเซอร์บีรัสได้หลากหลายสายพันธุ์มาก.

ใหม่!!: การ์เดียนครอสและเซอร์เบอรัส · ดูเพิ่มเติม »

เซนทอร์

ซนทอร์ เซนทอร์ (centaur; มาจากภาษากรีกโบราณ κένταυροι) เป็นสัตว์ชนิดหนึ่งในเทพปกรณัมกรีก มีร่างส่วนบนเป็นมนุษย์ผู้ชาย แต่ส่วนลำตัวลงไปเป็นม้าหนุ่มที่มีกล้ามเนื้อเป็นมัด ๆ สง่างาม อาศัยอยู่แถบภูเขาของอาคาเดีย และเทสสาลีในประเทศกรีซ เซนทอร์มีสองตระกูล โดยตระกูลหนึ่งเกิดจาก อิคซอน อันธพาลแห่งสวรรค์ที่ขึ้นชื่อ กับอีกตระกูลที่เกิดจากโครนัส ฝ่ายหลังมีอุปนิสัยดีแตกต่างจากฝ่ายแรกมาก เซนทอร์ตระกูลอิคซอน เกิดจากอิคซอนกับเนฟีลี มีพละกำลังมาก ชอบดื่มไวน์กับชอบไล่คว้าผู้หญิง ซ้ำชอบทะเลาะเวลาเมา เซนทอร์จึงถูกมองว่าเป็นพวกขี้เมาไม่กลัวใครทั้งสิ้น เซนทอร์ตระกูลโครนัสต่างกับตระกูลอิคซอน เป็นเซนทอร์แสนดี โครนัสแต่งงานกับฟีลีร่า นางอัปสรน้ำผู้เลอโฉม มีลูกชื่อไครอน ซึ่งเป็นผู้คงแก่เรียน มีความสุขุมรอบคอบจนได้รับเลือกให้เป็นอาจารย์ของเหล่าวีรบุรุษหลายคนในตำนานกรีก เช่น อคิลลีส, เฮอร์คิวลีส, เจสัน, พีลูส, อีเนียส และบรรดาลูกศิษย์ของเขาก็ประพฤติตัวตามแบบครูบาอาจารย์ได้เป็นอย่างดี.

ใหม่!!: การ์เดียนครอสและเซนทอร์ · ดูเพิ่มเติม »

เปลี่ยนเส้นทางที่นี่:

Guardian Crossการ์เดียนครอสส์

ขาออกขาเข้า
Hey! เราอยู่ใน Facebook ตอนนี้! »