โลโก้
ยูเนี่ยนพีเดีย
การสื่อสาร
ดาวน์โหลดได้จาก Google Play
ใหม่! ดาวน์โหลด ยูเนี่ยนพีเดีย บน Android ™ของคุณ!
ติดตั้ง
เร็วกว่าเบราว์เซอร์!
 

เมดูซา

ดัชนี เมดูซา

ในเทพปกรณัมกรีก เมดูซาเป็นสัตว์ประหลาด กอร์กอน ทั่วไปอธิบายว่ามีใบหน้าหญิงมนุษย์น่ากลัวและมีงูพิษเป็น ๆ แทนผม การจ้องเธอโดยตรงจะเปลี่ยนผู้ดูให้เป็นหิน แหล่งข้อมูลส่วนมากอธิบายว่าเธอเป็นธิดาของฟอร์ซีสและซีโต เมดูซาถูกวีรบุรุษเพอร์ซิอัสตัดหัว จากนั้นเขาใช้ศีรษะเธอเป็นอาวุธ กระทั่งเขาถวายแด่เทพีอะธีนาซึ่งนำไปติดบนโล่ของพระนาง ในสมัยโบราณคลาสสิก ภาพศีรษะเมดูซาปรากฏในอุปกรณ์ขับไล่ความชั่วร้าย เรียก กอร์กะเนียน.

10 ความสัมพันธ์: กอร์กอนการาวัจโจสคิลลาอะธีนาโพไซดอนไกรอายไครเซออร์เพกาซัสเพอร์ซิอัสเมดูซา (การาวัจโจ)

กอร์กอน

มดูซ่า กอร์กอน เป็นอสูรกายน่าเกลียดน่ากลัวมีผมเป็นงู มีด้วยกันสามพี่น้องคงกระพันฆ่าไม่ตาย ยกเว้นตัวน้องสุดท้องที่ชื่อเมดูซ่าที่อาจฆ่าให้ตายได้ หากผู้ใดมองตานางเมดูซ่าจะกลายเป็นหิน ตำนานกล่าวว่าเดิมทีกอร์กอนทั้งสามเป็นเทพธิดารูปงามและอ่อนโยน มีความบริสุทธิ์เป็นพรหมจารีย์ แต่ขณะที่เมดูซ่ากำลังบูชาเทวีเอเธน่าในวิหารได้ถูกโพไซดอนหลงรักและพยายามใช้กำลังขืนใจ เรื่องรู้ถึงเทวีเอเธน่าทรงได้ฉวยโอกาสใส่ความว่าลบหลู่นางโดยการสมสู่ในวิหารของนางเนื่องด้วยความเดิมเอเธน่ากับเมดูซ่ามีแม่คนเดียวกัน และเอเธน่าต้องการทำลายเมดูซ่าให้สิ้นซาก จึงสาปให้เมดูซ่ามีหน้าตาน่าเกลียดน่ากลัว และสาปให้ผมที่สวยงามดุจเส้นไหมทองของนางกลายเป็นงูเลื้อยยั้วเยี้ยเต็มหัว จากหญิงพรหมจารีย์ที่งดงาม ก็กลายเป็นปีศาจที่น่าขยะแขยง เมดูซ่าทั้งโศกเศร้า อับอาย และน้อยใจในความอยุติธรรมทั้งที่เธอมิได้ทำผิด ทั้งที่เธอตั้งใจรักษาพรหมจารีย์ แต่นางก็มิเคยได้ผลความดีตรงนั้นเลยจนนางมีแต่ความอับอายและความแค้น จนเมดูซ่าต้องการทำลายทุกชีวิตที่ขวางหน้าจากความเกลียดชังที่ปะทุขึ้น ทุกคนที่มองหน้านางก็จะกลายเป็นหินไปหมด จนได้กล่าวขวัญเป็นอสูรกายที่ร้ายกาจที่สุดในตำนานกรีก วีรบุรษเพอร์ซีอุสเป็นผู้สังหารเมดูซ่าโดยใช้ดาบที่เทวีเอเธน่าประทานให้ตัดหัวของเมดูซ่า จากนั้นเมดูซ่าก็จบชะตากรรมจากชีวิตอันโหดร้ายที่ไร้ซึ่งความยุติธรรมของเธอในที่สุด นับว่าเป็นอสุรกายที่มีความเป็นมาอันน่าสงสารและน่าเห็นใจมากที.

ใหม่!!: เมดูซาและกอร์กอน · ดูเพิ่มเติม »

การาวัจโจ

ูรายชื่องานที่ รายชื่อภาพเขียนโดยการาวัจโจ; มีเกลันเจโล เมรีซี ดา การาวัจโจ (Michelangelo Merisi da Caravaggio ค.ศ. 1571 - 18 กรกฎาคม ค.ศ. 1610) เป็นจิตรกรสมัยบาโรกคนสำค้ญของประเทศอิตาลีในคริสต์ศตวรรษที่ 17 มีความสำคัญในการเขียนภาพสีน้ำมัน ผู้มีผลงานส่วนใหญ่ที่ โรม เนเปิลส์ ซิซิลี และประเทศมอลตา ระหว่างปี..

ใหม่!!: เมดูซาและการาวัจโจ · ดูเพิ่มเติม »

สคิลลา

ลลาบนแจกันดินเผายุคกรีกโบราณ สคิลลา (Scylla; กรีก: Σκύλλα, Skylla) เป็นอสูรกายทะเลปรากฏในเทพปกรณัมกรีก เคียงคู่กับคาริบดิส อันเป็นที่มาของสุภาษิตตะวันตกที่ว่า "ระหว่างคาริบดิสและสคิลลา" สคิลลา มีท่อนบนเป็นหญิงสาวรูปร่างหน้าตาสวยงาม แต่ท่อนล่างเป็นสุนัขดุร้ายทั้งหมด 6 หัว เชื่อว่าสคิลลาและคาริบดิสอาศัยอยู่บริเวณโขดหินแถบช่องแคบเมสสินา ใกล้กับเกาะซิซิลี ในประเทศอิตาลี ในปัจจุบัน เดิมที สคิลลาเป็นนิมฟ์หรือพรายน้ำที่มีรูปร่างหน้าตาสวยงาม เป็นบุตรีของเพอร์ซิส เทพแห่งน้ำ กลอคัส ซึ่งเป็นเทพแห่งท้องทะเลอีกองค์หนึ่งตามปกรณัม เมื่อได้มาพบเห็นสคิลลาก็หลงรักและปรารถนาอยากได้ครอบครองนาง แต่สคิลลากลัวในรูปร่างอันประหลาดของกลอคัส จึงวิ่งหนีเมื่อกลอคัสปรากฏตัวขึ้นเหนือน้ำ กลอคัสจึงเล่าเรื่องทั้งหมดนี้ให้แก่นางแม่มด เซอร์ซี เพื่อหวังให้นางช่วย แต่เมื่อเซอร์ซีได้ฟังเรื่องทั้งหมดแล้ว นางกลับหลงรักกลอคัสแทน และได้เทยาพิษลงในน้ำในจุดที่สคิลลาลงเล่นน้ำบ่อย ๆ เมื่อสคิลลาลงเล่นน้ำร่างกายท่อนล่างเมื่อแตะน้ำจึงกลับกลายเป็นสุนัขดุร้าย 6 หัวแทน และถูกตรึงอยู่ ณ ที่นั้น ไม่สามารถขยับไปไหนได้ จึงกลายเป็นอสูรกายคอยดักเล่นงานลูกเรือตามเรือที่ผ่านไปมา โดยจับกินเป็นอาหาร อีกปกรณัมหนึ่ง เล่าว่า สคิลลาเป็นชายาลับ ๆ อีกองค์ของโพไซดอน มหาเทพแห่งท้องทะเล จึงทำให้แอมฟิไทรต์ชายาใหญ่ของโพไซดอนเกิดความหึงหวง จึงเอายาพิษมาโปรยใว้ที่จุดที่สคิลลาลงเล่นน้ำ จึงกลายเป็นอสูรกายไป และบางปกรณัมก็ว่า สคิลลาถูกปราบโดยเฮราคลีส จึงกลายเป็นโขดหินไป เรื่องราวของสคลิลาและคาริบดิสปรากฏในมหากาพย์โอดิสซีย์ โดย เรือของโอดิซูสต้องผ่านช่องแคบเมสสินาในระหว่างเดินทางกลับ หลังเสร็จสงครามกรุงทรอย โอดิสซูสจำต้องเลือกว่าจะเสี่ยงเอาเรือแล่นไปใกล้คาริบดิสและเรืออาจถูกน้ำวนของนาง ดูดจนอัปปางจมไปทั้งลำหรือนำเรือเข้าไปใกล้โขดหินสคิลลาและเสี่ยงต่อการถูกจู่โจม ซึ่งสุดท้าย โอดิสซูสก็เลือกนำเรือเข้าใกล้โขดหินสคิลลาและต้องเสียลูกเรือ 6 คนโดยถูกสุนัขทั้ง 6 หัวของสคิลลาฉกไปกินหัวละคน ในวัฒนธรรมร่วมสมัย สคิลลาได้ถูกอ้างอิงถึงในการ์ตูนญี่ปุ่นเรื่อง เซนต์เซย่า โดยปรากฏเป็นมารีนเนอร์ระดับขุนพล ชื่อ สคิลลา อิโอ เป็นผู้พิทักษ์เสาค้ำมหาสมุทรแปซิฟิคใต้ โดยดัดแปลงให้สคิลลามีท่อนล่างเป็นสัตว์ป่าดุร้าย 6 ชนิดแทน.

ใหม่!!: เมดูซาและสคิลลา · ดูเพิ่มเติม »

อะธีนา

ในศาสนาและเทพปกรณัมกรีก อะธีนา (Athena) หรือ อะธีนี (Athene) หรือ แพลลัสอธีนา/อะธีนี (Pallas Athena/Athene) เป็นเทพเจ้าพรหมจรรย์แห่งปัญญา ความกล้า แรงบันดาลใจ อารยธรรม กฎหมายและความยุติธรรม การสงครามโดยชอบ คณิตศาสตร์ ความแข็งแกร่ง ยุทธศาสตร์ ศิลปะ งานฝีมือและทักษะ ภาคโรมัน คือ มิเนอร์วา มีการพรรณนาอะธีนาว่าทรงเป็นพระสหายร่วมทางผู้เฉลียวฉลาดของวีรบุรุษและเทพเจ้าอุปถัมภ์การผจญภัยของวีรบุรุษ พระนางทรงเป็นเทพเจ้าพรหมจรรย์ผู้อุปถัมภ์กรุงเอเธนส์ ชาวเอเธนส์ตั้งวิหารพาร์เธนอนบนอะโครโพลิสในกรุงเอเธนส์ (อะธีนาพาร์ธีนอส) เพื่อถวายเกียรติแด่พระนางDeacy, Susan, and Alexandra Villing.

ใหม่!!: เมดูซาและอะธีนา · ดูเพิ่มเติม »

โพไซดอน

ซดอน (Poseidon,; Ποσειδών) เป็นหนึ่งในสิบสองเทพเจ้าโอลิมปัสในเทพปกรณัมกรีก พระราชอาณาเขตหลักคือมหาสมุทร และพระองค์ทรงได้รับขนานพระนามว่า "สมุทรเทพ" นอกจากนี้ พระองค์ยังทรงได้รับขนานพระนามว่า "ผู้เขย่าโลก" (Earth-Shaker) เนื่องจากบทบาทของพระองค์ในการก่อแผ่นดินไหว และ "ผู้กำราบม้า" (tamer of horses) พระองค์มักทรงถูกพรรณาเป็นบุรุษสูงวัย มีพระเกษาหยิกและพระมัสสุ (หนวด) แผ่นจารึกอักษรไลเนียร์บีแสดงว่า ที่ไพลอสและธีบส์กรีซยุคสำริดก่อนมีเทพเจ้าโอลิมปัสมีการบูชาโพไซดอนเป็นพระเจ้าหลัก แต่ภายหลังมีการรวมพระองค์เข้าเป็นพระเจ้าโอลิมปัสเป็นพระอนุชาของเฮดีสและพระเชษฐาของซูส ตำนานพื้นบ้านบางตำนานเล่าว่า เรีย พระมารดาของพระองค์ ช่วยพระองค์ไว้โดยซ่อนพระองค์ไว้กับฝูงแกะแล้วแสร้งทำเป็นว่าให้กำเนิดลูกลาออกมา เพื่อมิให้ถูกโครนัสกลืนกินIn the 2nd century AD, a well with the name of Arne, the "lamb's well", in the neighbourhood of Mantineia in Arcadia, where old traditions lingered, was shown to Pausanias.

ใหม่!!: เมดูซาและโพไซดอน · ดูเพิ่มเติม »

ไกรอาย

''เปอร์เซอุสแย่งลูกตาจากไกรอาย'' ไกรอาย (Graeae) หรือเรียกว่า ไกรอี หรือ เกรอี ปรากฏในเทพปกรณัมกรีก เป็นสามพี่น้องแม่มดผมสีเทา ขณะเดียวกันในบางตำนานจะกล่าวว่าปรากฏในรูปร่างของครึ่งคนครึ่งห่าน ไกรอายเป็นลูกสาวของ Phorcys และ เซโต และเป็นน้องสาวของกอร์กอนHarris, Stephen L., and Gloria Platzner.

ใหม่!!: เมดูซาและไกรอาย · ดูเพิ่มเติม »

ไครเซออร์

อร์ฟู ประเทศกรีซ ไครเซออร์ (Χρυσάωρ, Khrusaōr; Chrysaor; แปลว่า "ผู้มีอาวุธทองคำ") เป็นบุคคลในเทพปกรณัมกรีก เป็นบุตรของโพไซดอน (Poseidon) เจ้าสมุทร กับเมดูซา (Medusa) อสุรกาย และเป็นพี่ชายของเพกาซัส (Pegasus) ม้ามีปีก ไครเซออร์มักปรากฏรูปโฉมเป็นบุรุษหนุ่ม สำหรับกำเนิดของไครเซออร์นั้น ย้อนไปถึงคราวที่เมดูซาเป็นหญิงรูปงาม แต่ได้ดูหมิ่นอะทีนา (Athena) เทวีแห่งการยุทธ์ ด้วยการสังวาสกับโพเซดอนในวิหารอะทีนา เทวีจึงสาปนางเป็นอสุรกายมีผมเป็นอสรพิษ บางตำราว่า อะทีนายังสาปให้นางมีปีกสีทองงอกออกมาจากศีรษะด้วย ครั้นเพอร์ซิอัส (Perseus) วีรบุรุษ มาตัดศีรษะเมดูซาไปถวายพระเจ้าพอลีเดกทิส (Polydectes) แห่งเกาะเซรีฟอส (Serifos) โลหิตเมดูซาไหลร่วงลงมหาสมุทร และไครเซออร์กับม้าเพกาซัสก็ผุดขึ้นมาจากมหาสมุทรนั้น บางตำราว่า ทันทีที่เพอร์ซิอัสตัดศีรษะเมดูซา โลหิตกระเด็นจากคอนางออกมาเป็นไครเซออร์กับเพกาซัส เทพปกรณัมว่า ต่อมา ไครเซออร์ได้เป็นพระเจ้าแผ่นดินไอเบียเรีย (Iberia) ฮีเซียด (Hesiod) กวีกรีก บรรยายเกี่ยวกับไครเซออร์ไว้ในงานเขียนเรื่อง ทีโอโกนี (Theogony) ว่า "ไครเซออร์สมรสกับคอลลีร์โรอี (Callirrhoe) ธิดาโอซีอานัส (Oceanus) ผู้รุ่งเรือง แล้วให้กำเนิดเกเรียน (geryon) ยักษ์สามหัว ทว่า เกเรียนถูกปลิดชีพด้วยกำลังอันมากล้นของเฮราคลิส (Heracles) ท่ามกลางฝูงโคกระบือที่เกเรียนพาไปเดินทอดน่อง ณ เกาะสมุทรล้อมเอรีทีส (Erytheis) ในวันที่เฮราคลิสขับไล่วัวควายเหล่านั้นเข้าสู่เมืองทีรินซ์ (Tiryns) อันศักดิ์สิทธิ์ ข้ามผ่านกระแสชลโอเคียนอส (Okeanos) และประหารออร์ทอส (Orthos) กับโคบาลยูรีเชียน (Eurytion) ณ ชายทุ่งที่รกทึบเหนือทะเลโอเชียนอส (Oceanos) อันเลื่องชื่อ".

ใหม่!!: เมดูซาและไครเซออร์ · ดูเพิ่มเติม »

เพกาซัส

รูปสลักนูนต่ำ เบลเลโรฟอนปราบไคเมร่า ด้วยการขี่เพกาซัส เพกาซัส (Pegasus; กรีก: Πήγασος; เปกาซอส หมายถึง "แข็งแรง") เป็นสัตว์ในเทพปกรณัมกรีก เป็นม้าเพศผู้รูปร่างกำยำพ่วงพีสีขาวบริสุทธิ์ และมีปีกอันกว้างสง่างามเหมือนนกพิราบ เพกาซัสเกิดมาจากนางกอร์กอน เมดูซ่า ซึ่งถูกวีรบุรุษเพอร์ซิอุสฟันคอ ในขณะที่เลือดจากลำคอพุ่งกระเซ็นนั้น เพกาซัสก็กระโจนออกมาจากลำคอของนาง เพกาซัสเป็นพี่ของคริสซาออร์ ซึ่งก็เกิดมาหลังจากนั้น ไม่มีใครสามารถปราบเพกาซัสได้เลย ตอนที่เพกาซัสเกิดมาใหม่ ๆ และออกวิ่งอย่างคึกคะนองนั้น น้ำที่กระเซ็นจากรอยเท้าที่เพกาซัสวิ่งก่อให้เกิดน้ำพุสวยงามที่เหล่ากวีและศิลปินชื่นชมกันนักหนา คือ น้ำพุฮิปโปครีนี ที่เป็นที่รู้จักในวรรณคดีกรีกโบราณ ว่ากันว่า หากใครได้ดื่มน้ำพุนี้แล้ว โอกาสที่จะเป็นกวีเอกอยู่แค่เอื้อม นอกจากนี้แล้วเพกาซัสยังทำหน้าที่คอยเก็บสายฟ้าให้ซุส เพกาซัสโดนปราบโดยเด็กหนุ่มรูปงามชาวเมืองโครินทร์ คือ เบลเลอโรฟอน เบลเลอโรฟอนเป็นโอรสของกษัตริย์เมืองโครินท์ คือ กลอคุส ซึ่งต่อมาเบลเลอโรฟอนได้ขี่เพกาซัสปราบสัตว์ประหลาดร้ายไคเมร.

ใหม่!!: เมดูซาและเพกาซัส · ดูเพิ่มเติม »

เพอร์ซิอัส

อร์ซิอัสกับศีรษะเมดูซา งานปั้นของอันโตนิโอ คาโนวา ในปี ค.ศ. 1801 ปัจจุบันตั้งอยู่ที่พิพิธภัณฑ์วาติกัน เพอร์ซิอัส (Perseus; Περσεύς) เป็นบุคคลในตำนานเทพปกรณัมกรีก เป็นบุตรของเทพซูสกับหญิงชาวมนุษย์ชื่อ นางแดนาอี ตามตำนานกรีกเพอร์ซิอัสเป็นผู้ก่อตั้งแคว้นไมซีนี และเป็นปฐมกษัตริย์ของราชวงศ์เพอร์เซอิด เขาเป็นวีรบุรุษคนแรกในปกรณัมกรีกที่มีชื่อเสียงจากการปราบสัตว์ประหลาดโบราณมากมาย ในยุครุ่งเรืองเทพโอลิมปัสทั้ง 12 องค์ ชาวกรีกเชื่อกันว่าเพอร์ซิอัสเป็นผู้ก่อตั้งเมืองไมซีนีขึ้น ณ จุดที่ได้สังหารอะคริซิอัส พระเจ้าตาของตนโดยอุบัติเหตุ นอกจากนี้เพอร์ซิอัสยังเป็นผู้สังหารเมดูซาและเป็นผู้ช่วยเหลือเจ้าหญิงแอนดรอมิดาจากเคตัส (Cetus) ปีศาจทะเลซึ่งถูกส่งมาโดยเทพโปเซดอน เพื่อทำลายเอธิโอเปีย ชื่อของเพอร์ซิอัสยังขาดข้อสรุปทางนิรุกติศาสตร์ที่ชัดเจน ทำให้มีข้อสันนิษฐานว่าอาจจะเป็นชื่อโบราณก่อนภาษากรีกจะเข้ามา แต่ก็มีผู้สันนิษฐานว่าอาจจะมีรากมาจากคำกริยากรีกว่า "πέρθειν" (perthein) แปลว่า ปล้นสะดม หรือ เข้าตีเมือง.

ใหม่!!: เมดูซาและเพอร์ซิอัส · ดูเพิ่มเติม »

เมดูซา (การาวัจโจ)

มดูซา (Medusa) เป็นภาพเขียนสีน้ำมันที่เขียนโดยการาวัจโจ จิตรกรสมัยบาโรกคนสำคัญชาวอิตาลี ภาพ “เมดูซา” เขียนราวเสร็จในปี ค.ศ. 1597 ภาพแรกที่เขียนเขียนในปี ค.ศ. 1596 ที่รู้จักกันในอีกชื่อหนึ่งว่า เมอร์ทูลา ซึ่งเป็นชื่อของกวีที่เขียนเกี่ยวกับเมดูซาและลงชื่อ มิเคล เอ เอฟ (มิเคล อันเจโล เอ เอฟ) และปัจจุบันเป็นงานสะสมส่วนบุคคล ขนาดของภาพใหญ่กว่าฉบับที่สองเล็กน้อย (60 x 55 เซนติเมตร) ที่มิได้ลงชื่อที่ปัจจุบันตั้งแสดงอยู่ที่หอศิลป์อุฟฟิซิ, ฟลอเรนซ์ในประเทศอิตาลี ในตำนานเทพเจ้ากรีก เพอร์ซิอุสใช้หัวขาดของอสูรกายเมดูซาที่มีผมเป็นงูเป็นเกราะในการเปลี่ยนศัตรูให้เป็นหิน แต่ในคริสต์ศตวรรษที่ 16 เมดูซาก็ถือกันว่าเป็นสัญลักษณ์ของชัยชนะของเหตุผลต่อความรู้สึก ที่อาจจะเป็นสาเหตุของที่มาของภาพนี้เมื่อคาร์ดินัลฟรานเชสโค มาเรีย เดล มอนเตผู้อุปถัมภ์จ้างให้การาวัจโจวาดภาพที่สองเป็นโล่ห์เกียรติยศแก่เฟอร์ดินานโดที่ 1 เดอ เมดิชิ แกรนด์ดยุคแห่งทัสเคนีในปี ค.ศ. 1601 เดล มอนเตเป็นผู้แทนของตระกูลเมดิชิในกรุงโรมและได้มีโอกาสเห็นภาพ “เมดูซา” ภาพแรกที่การาวัจโจเขียน ฉะนั้นจึงได้จ้างให้เขียนเมื่อเฟอร์ดินานโดจัดระเบียบสิ่งที่เกี่ยวกับอาวุธและการต่อสู่้ที่สะสมไว้ใหม่ ภาพ “เมดูซา เมอร์ทูลา” พบในห้องเขียนภาพของการาวัจโจเมื่อเสียชีวิตไปแล้ว กวีจามบัตติสตา มาริโน (Giambattista Marino) อ้างว่าภาพเมดูซาของเมดิชิเป็นสัญลักษณ์ของความกล้าหาญของดยุคในการได้รับชัยชนะต่อการต่อสู้กับศัตรู ในปี..

ใหม่!!: เมดูซาและเมดูซา (การาวัจโจ) · ดูเพิ่มเติม »

เปลี่ยนเส้นทางที่นี่:

Medusaเมดูซ่า

ขาออกขาเข้า
Hey! เราอยู่ใน Facebook ตอนนี้! »