เรากำลังดำเนินการเพื่อคืนค่าแอป Unionpedia บน Google Play Store
ขาออกขาเข้า
🌟เราได้ทำให้การออกแบบของเราง่ายขึ้นเพื่อการนำทางที่ดีขึ้น!
Instagram Facebook X LinkedIn

ราชอาณาจักรโรมัน

ดัชนี ราชอาณาจักรโรมัน

ราชอาณาจักรโรมัน (ละติน: Regnum Romanum) เป็นอาณาจักรที่มีผู้ปกครองเป็นกษัตริย์แห่งโรมซึ่งมาจากการเลือกตั้งของประชาชน ประวัติศาสตร์ของราชอาณาจักรโรมันไม่เป็นที่ทราบแน่นอนเพราะไม่มีหลักฐานใดใดจากสมัยนั้นนอกจากประวัติศาสตร์ที่มาเขียนขึ้นภายหลังระหว่างสมัยสาธารณรัฐโรมันและในสมัยจักรวรรดิโรมันและส่วนใหญ่เป็นเนื้อหาที่มาจากตำนาน แต่ประวัติศาสตร์ของราชอาณาจักรโรมันเริ่มด้วยการก่อตั้งกรุงโรมที่เชื่อกันว่าเกิดขึ้นในปี 753 ก่อนคริสต์ศักราชและมาสิ้นสุดลงด้วยการโค่นราชบัลลังก์และการก่อตั้งสาธารณรัฐในปี 509 ก่อนคริสต์ศักร.

สารบัญ

  1. 8 ความสัมพันธ์: กษัตริย์แห่งโรมภาษาละตินลูกิอุส ตาร์กวินิอุส ซุแปร์บุสลูเครเชียสมบูรณาญาสิทธิราชย์สาธารณรัฐโรมันจักรวรรดิโรมันโรมุลุสและแรมุส

  2. รัฐสิ้นสภาพ
  3. รัฐและดินแดนที่ก่อตั้งในศตวรรษที่ 8 ก่อนคริสตกาล
  4. สิ้นสุดในศตวรรษที่ 6 ก่อนคริสตกาล

กษัตริย์แห่งโรม

แม่หมาป่าคาปิโตลีนา สัญลักษณ์อำนาจของกษัตริย์แห่งโรม กษัตริย์แห่งโรม (Rex Romae) เป็นตำแหน่งผู้ปกครองสูงสุดของราชอาณาจักรโรมัน มีอำนาจในฐานะหัวหน้าฝ่ายบริหาร ตุลาการ และนิติบัญญัติ ตามตำนานแล้ว กษัตริย์คนแรกคือโรมุลุส ซึ่งได้สร้างกรุงโรมขึ้นเมื่อ 753 ปีก่อนคริสต์ศักราชบนเขาแพละไทน์ กรุงโรมมีกษัตริย์ทั้งหมด 7 คนซึ่งปกครองกรุงโรมจนถึง 509 ปีก่อนคริสต์ศักราช กษัตริย์คนที่เจ็ดถูกโค่นจากอำนาจจากเหตุข่มขืนลูเครเชีย แม้จะมีชื่อตำแหน่งว่าเป็นกษัตริย์แต่ก็เป็นเพียงชื่อตำแหน่งในทางปกครองเท่านั้น กษัตริย์แต่ละคนมาจากการเลือกตั้งแบบปลอดการแข่งขัน และไม่จำเป็นต้องเกี่ยวข้องทางสายเลือดกับกษัตริย์คนก่อน ระบอบการปกครองเช่นนี้จึงไม่มีชนชั้นราชวงศ์ ตำแหน่งกษัตริย์เป็นตำแหน่งที่มีอำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาดเหนือผู้คน แม้กรุงโรมจะมีวุฒิสภาแต่ก็เป็นเพียงสภาที่มีอำนาจน้อยนิดในทางปกครองเท่านั้น หน้าที่หลักของวุฒิสภาคือการสนองความปรารถนาของกษัตริย์ นอกจากโรมุลุสผู้เป็นกษัตริย์คนแรกแล้ว กษัตริย์คนต่อมามาจากการเลือกตั้งโดยประชาชนกรุงโรม วุฒิสภาจะแต่งตั้งวุฒิสมาชิกกลุ่มหนึ่งเป็นคณะอินแตร์เรกส์ (Interrex) ซึ่งจะเป็นคณะที่สรรหาและเสนอชื่อผู้ลงสมัครรับเลือกหนึ่งคนเป็นกษัตริย์ หากผู้สมัครคนนั้นแพ้การเลือกตั้ง คณะอินแตร์เรกส์ก็จะสรรหาผู้ลงสมัครรับเลือกคนใหม่ ผู้ที่ถูกเสนอชื่ออาจจะเป็นใครก็ได้โดยไม่เกี่ยงที่มา อาทิ ลูกิอุส ตาร์กวินิอุส ปริสกุส กษัตริย์คนที่ 5 มีต้นกำเนิดเป็นเพียงสามัญชนผู้อพยพมาจากอีทรัสคัน นครรัฐเพื่อนบ้าน อย่างไรก็ตาม ในตอนปลายยุคได้เกิดการแก่งแย่งอำนาจกันขึ้น ทำให้กษัตริย์องค์ที่ 6 และ 7 ไม่ได้มีที่มาจากการเลือกตั้งโดยประชาชน แต่มาจากการลงมติแต่งตั้งของวุฒิสภาเท่านั้น.

ดู ราชอาณาจักรโรมันและกษัตริย์แห่งโรม

ภาษาละติน

ษาละติน (Latin) เป็นภาษาโบราณในภาษากลุ่มอินโด-ยูโรเปียน มีต้นกำเนิดในที่ราบลาติอุม (Latium) ซึ่งเป็นพื้นที่รอบๆกรุงโรม และได้ชื่อว่าเป็นภาษาทางการในการสื่อสารของจักรวรรดิโรมัน ต่อมาภาษาละตินได้ถูกกำหนดให้เป็นภาษาสื่อสารและในพิธีสวดของศาสนจักรโรมันคาทอลิก และยังเป็นภาษาที่ใช้โดยนักวิทยาศาสตร์ นักปรัชญา และนักเทววิทยาของยุโรป ตั้งแต่ตลอดยุคกลางจนมาถึงยุคสมัยใหม่ ภาษาละตินจึงเป็นภาษาต้นฉบับของงานเขียนที่ทรงคุณค่าทั้งทางประวัติศาสตร์ และทางวรรณกรรมเป็นจำนวนมาก ภาษาอังกฤษได้รับคำในภาษาละตินเข้ามาในภาษาตนเป็นจำนวนมาก เนื่องจากอิทธิพลของเจ้าปกครองชาวแองโกล-นอร์มัน ซึ่งใช้ภาษาฝรั่งเศส นอกจากนี้คำศัพท์ที่ใช้ในสาขาวิทยาศาสตร์และการแพทย์ ล้วนเป็นคำศัพท์ภาษาละตินหรือสร้างจากภาษาละติน ภาษาละตินเป็นภาษามีวิภัติปัจจัย (การผันคำ) มีการก 7 การก (case), มีเพศ 3 เพศ, และมีพจน์ 2 พจน์ ภาษาอื่น ๆ อีกหลายภาษาที่ใช้ในปัจจุบัน พัฒนาสืบต่อมาจากภาษาละตินพื้นบ้าน ซึ่งจะเรียกกลุ่มภาษาเหล่านี้ว่า ภาษากลุ่มโรมานซ์ ภาษาที่อยู่ในกลุ่มภาษาโรมานซ์ที่สำคัญได้แก่ ภาษาฝรั่งเศส ภาษาโรมาเนีย ภาษาอิตาลี ภาษาโปรตุเกส และภาษาสเปน ภาษาส่วนใหญ่ในภาษากลุ่มอินโด-ยูโรเปียนก็มีความสัมพันธ์บางอย่างกับภาษาละติน แม้ภาษาละตินในปัจจุบัน จะมีผู้ใช้น้อยมากจนถูกนับว่าเกือบเป็นภาษาสูญแล้ว แต่การศึกษาภาษาละตินในโรงเรียนและในมหาวิทยาลัยก็ยังคงมีอยู่อย่างแพร่หลาย นอกจากนี้อักษรละติน (ที่พัฒนามาจากอักษรกรีก) ยังคงมีใช้ในหลายภาษา และเป็นอักษรที่ใช้มากที่สุดในโลก.

ดู ราชอาณาจักรโรมันและภาษาละติน

ลูกิอุส ตาร์กวินิอุส ซุแปร์บุส

ลูกิอุส ตาร์กวินิอุส ซุแปร์บุส (LVCIVS TARQUINIVS SVPERBVS) เป็นกษัตริย์แห่งโรมคนที่ 7 และเป็นคนสุดท้าย เขามีฉายาว่า ตาร์กวินิอุสผู้หยิ่งทะนง เขาเป็นลูกชายหรือหลานชายของลูกิอุส ตาร์กวินิอุส ปริสกุส กษัตริย์แห่งโรมคนที่ห้า ซุแปร์บุสได้ขึ้นครองรายช์ภายหลังการลอบสังหารแซร์วิอุส ตุลลิอุส กษัตริย์คนที่หก ซึ่งเป็นการลอบสังหารที่จัดฉากโดยเขากับภริยา โรมันภายใต้การปกครองของซุแปร์บุสไม่ได้ประสบกับความสำเร็จทางการทหารมากนัก เขามักหัวอ่อนคล้อยตามแม่ทัพนายกองที่มักจะบอกว่าโรมันสามารถจะชนะในศึกนั้นศึกนี้ได้ ความนิยมของซุแปร์บุสจึงไม่ค่อยจะดีนัก และเมื่อน้องชายเขาก่อเหตุข่มขืนลูเครเชีย ก็ทำให้ประชาชนในกรุงโรมก่อการลุกฮือโค่นล้มเขาลงจากอำนาจในปี 509 ก่อนคริสต์กาล ระบอบกษัตริย์ถูกล้มล้างและวุฒิสภาโรมันได้ประกาศจัดตั้งสาธารณรัฐโรมัน หลังถูกโค่นล้มจากอำนาจ เขาก็ลี้ภัยออกจากกรุงโรมไปพึ่งกษัตริย์ปอร์เซนาแห่งชาวอีทรัสคัน ด้วยเห็นว่าซุแปร์บุสมีเชื้อสายอีทรัสคัน กษัตริย์ปอร์เซนาจึงต้องการช่วยซุแปร์บุสคืนสู่ตำแหน่ง กษัตริย์ปอร์เซนายกทัพสู่กรุงโรม แต่สู้รบกันไม่ไม่นานก็เกิดเป็นสัญญาสงบศึกโดยไม่มีฝ่ายใดชนะ ซุแปร์บุสได้พยายามวางแผนทวงคืนบัลลังก์อีกครั้งในปี 498 หรือ 496 ก่อน..แต่ก็ไม่สำเร็จ หมวดหมู่:บุคคลที่เกิดในศตวรรษที่ 6 ก่อนคริสตกาล หมวดหมู่:พระมหากษัตริย์ผู้ทรงสละราชบัลลังก์ หมวดหมู่:กษัตริย์แห่งโรม.

ดู ราชอาณาจักรโรมันและลูกิอุส ตาร์กวินิอุส ซุแปร์บุส

ลูเครเชีย

“ลูเครเชีย” โดยอันเดรีย คาซาลิ “ทาร์ควิเนียสและลูเครเชีย” โดยทิเชียน ลูเครเชีย (ภาษาอังกฤษ: Lucretia) เป็นบุคคลในตำนานในประวัติศาสตร์ของสาธารณรัฐโรมัน สามีของลูเครเชียคือลูเชียส ทาร์ควิเนียส โคลลาทินัส (Lucius Tarquinius Collatinus) พ่อคือสเปอเรียส ลูเครเชียส ทริซิพิทินัส (Spurius Lucretius Tricipitinus) และพี่ชายพูเบียส ลูเครเชียส ทริซิพิทินัส (Publius Lucretius Tricipitinus) ตามตำนานของโรมการข่มขืนของลูเครเชียและการฆ่าตัวตายที่ตามมาเป็นสาเหตุที่นำมาซึ่งการล้มราชบัลลังก์ของโรมและการก่อตั้งโรมเป็นสาธารณรัฐ ตามคำกล่าวของ ลิวี (Livy) นักประวัติศาสตร์โรมันแล้ว กษัตริย์แห่งโรมมีโอรสชื่อเซ็กซทัส ทาร์ควิเนียส (Sextus Tarquinius) ผู้มีนิสัยดุร้าย ผู้เป็นผู้ข่มขืนสตรีในครอบครัวขุนนางชื่อนางลูเครเชียในปี 509 ก่อนคริสต์ศักราช เซ็กซทัสขู่ลูเครเชียว่าจะฆ่าถ้าไม่ยอมให้ข่มขืน และจะนำร่างที่เปลือยเปล่าของลูเครเชียไปวางเคียงข้างกับทาส เพราะการเป็นนัยว่ามีความสัมพันธ์กับชนชั้นที่ต่ำกว่าถือว่าเป็นสิ่งที่น่าอับอายเป็นอันมาก ลูเครเชียจึงต้องจำยอม หลังจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นลูเครเชียก็เรียกพี่น้องมารวมกัน และเล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หลังจากนั้นลูเครเชียก็ฆ่าตัวตาย ครอบครัวของลูเครเชียมาพบร่างของลูเครเชียปักด้วยมีดที่หน้าอก.

ดู ราชอาณาจักรโรมันและลูเครเชีย

สมบูรณาญาสิทธิราชย์

มบูรณาญาสิทธิราชย์ (Absolute Monarchy) คือ ระบอบการปกครองที่มีกษัตริย์เป็นผู้ปกครองและมีสิทธิ์ขาดในการบริหารประเทศ ในระบอบการปกครองนี้ กษัตริย์ก็คือกฎหมาย กล่าวคือ ที่มาของกฎหมายทั้งปวงอยู่ที่กษัตริย์ คำสั่ง ความต้องการต่าง ๆ ล้วนมีผลเป็นกฎหมายอมร รักษาสัตย์, กษัตริย์มีอำนาจในการปกครองแผ่นดินและพลเมืองโดยอิสระ โดยไม่มีกฎหมายหรือองค์กรตามกฎหมายใด ๆ จะห้ามปรามได้ แม้องค์กรทางศาสนาอาจทัดทานกษัตริย์จากการกระทำบางอย่างและองค์รัฏฐาธิปัตย์ (กษัตริย์) นั้นจะถูกคาดหวังว่าจะปฏิบัติตามธรรมเนียม แต่ในระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์นั้น ไม่มีรัฐธรรมนูญหรือกฎหมายใด ๆ ที่จะอยู่เหนือกว่าคำชี้ขาดของรัฏฐาธิปัตย์ ตามทฤษฎีพลเมืองนั้น ระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์มอบความไว้วางใจทั้งหมดให้กับพระเจ้าแผ่นดินที่ดีพร้อมทางสายเลือดและได้รับการเลี้ยงดูฝึกฝนมาอย่างดีตั้งแต่เกิด ในทางทฤษฎี กษัตริย์ในระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์จะมีอำนาจทั้งหมดเหนือประชาชนและแผ่นดิน รวมทั้งเหนืออภิชนและบางครั้งก็เหนือคณะสงฆ์ด้วย ส่วนในทางปฏิบัติ กษัตริย์ในระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์มักจะถูกจำกัดอำนาจ โดยทั่วไปโดยกลุ่มที่กล่าวมาหรือกลุ่มอื่น กษัตริย์บางพระองค์ (เช่นจักรวรรดิเยอรมนี ค.ศ.

ดู ราชอาณาจักรโรมันและสมบูรณาญาสิทธิราชย์

สาธารณรัฐโรมัน

รณรัฐโรมัน (Res pvblica Romana) (อังกฤษ: Roman Republic)เป็นยุคสมัยของอารยธรรมโรมันโบราณขณะมีรัฐบาลเป็นสาธารณรัฐ เริ่มต้นจากการโค่นล้มราชาธิปไตยโรมัน ซึ่งมักถือว่าเมื่อราว 509 ปีก่อน..

ดู ราชอาณาจักรโรมันและสาธารณรัฐโรมัน

จักรวรรดิโรมัน

ักรวรรดิโรมันในช่วงเวลาต่างๆกัน จักรวรรดิโรมัน (Imperivm Romanvm; Ῥωμαϊκὴ Αὐτοκρατορία หรือ Ἡ Ῥωμαίων βασιλεία; Roman Empire) เป็นช่วงระยะเวลาหนึ่งของอารยธรรมโรมันโบราณซึ่งปกครองโดยรูปแบบอัตตาธิปไตย จักรวรรดิโรมันได้สืบต่อการปกครองมาจากสาธารณรัฐโรมัน (510 ปีก่อนคริสตกาล - ศตวรรษที่ 1 ก่อนคริสตาล) ซึ่งได้อ่อนแอลงหลังจากความขัดแย้งระหว่างไกอุส มาริอุสและซุลลา และสงครามกลางเมืองระหว่างจูเลียส ซีซาร์และปอมปีย์ มีวันหลายวันที่ได้ถูกเสนอให้เป็นเส้นแบ่งของการเปลี่ยนแปลงระหว่างสาธารณรัฐและจักรวรรดิ ได้แก.

ดู ราชอาณาจักรโรมันและจักรวรรดิโรมัน

โรมุลุสและแรมุส

รูปหล่อสำริดแสดงโรมุลุสและแรมุสซึ่งมีแม่หมาป่าเป็นผู้เลี้ยงดู แผ่นเงินรูปโรมุลุสและแรมุส สมัยศตวรรษที่ 3 ก่อนคริสต์ศักราช โรมุลุส (Romvlvs; 771 ปีก่อนคริสต์ศักราช - 717 ปีก่อนคริสต์ศักราช) และ แรมุส (Remvs; 771 ปีก่อนคริสต์ศักราช - 753 ปีก่อนคริสต์ศักราช) เป็นบุคคลในเรื่องปรัมปราเกี่ยวกับการก่อตั้งกรุงโรม ทั้งสองเป็นบุตรชายฝาแฝดของเรอา ซิลวิอา นักบวชหญิงพรหมจรรย์ กับมาร์ส เทพเจ้าแห่งสงคราม ตำนานการก่อตั้งกรุงโรมปรากฏอยู่ในบันทึกของพลูทาร์ก นักปราชญ์กรีก และลิวี นักประวัติศาสตร์ชาวโรมัน โดยตำนานกล่าวว่า โรมุลุสและแรมุสถูกทิ้งไว้ริมแม่น้ำไทเบอร์มาตั้งแต่แบเบาะ และเติบโตขึ้นจากการเลี้ยงดูของหมาป่า เมื่ออายุ 18 ปี โรมุลุสและแรมุสออกเดินทางจากหมู่บ้านเพื่อไปตั้งหมู่บ้านใหม่ หมู่บ้านของโรมุลุสชื่อ "โรม" หมู่บ้านของแรมุสชื่อ "รีมอเรีย" (ปัจจุบัน ไม่มีผู้ใดทราบตำแหน่งที่แน่นอนของหมู่บ้านนี้แล้ว) ต่อมาทั้งคู่เกิดขัดแย้งกันและได้ประลองกำลังกันเมื่อวันที่ 21 เมษายน 753 ปีก่อนคริสต์ศักราช และแรมุสเสียชีวิตในการประลองครั้งนั้น ต่อมาโรมุลุสได้เป็นกษัตริย์องค์แรกของโรม โรมุลุสปกครองกรุงโรมอยู่เป็นเวลา 38 ปี และหายสาบสูญไปหลังจากเกิดพายุอย่างกะทันหัน ตำนานกล่าวว่า โรมุลุสไปเกิดใหม่บนสวรรค์ในนามของ "กวิรีนุส" (Qvirinvs).

ดู ราชอาณาจักรโรมันและโรมุลุสและแรมุส

ดูเพิ่มเติม

รัฐสิ้นสภาพ

รัฐและดินแดนที่ก่อตั้งในศตวรรษที่ 8 ก่อนคริสตกาล

สิ้นสุดในศตวรรษที่ 6 ก่อนคริสตกาล

หรือที่รู้จักกันในชื่อ Roman Kingdom