โลโก้
ยูเนี่ยนพีเดีย
การสื่อสาร
ดาวน์โหลดได้จาก Google Play
ใหม่! ดาวน์โหลด ยูเนี่ยนพีเดีย บน Android ™ของคุณ!
ฟรี
เร็วกว่าเบราว์เซอร์!
 

บอร์โซ เดสเต

ดัชนี บอร์โซ เดสเต

อร์โซ เดสเต (Borso d'Este) (ค.ศ. 1413 - 20 สิงหาคม ค.ศ. 1471) บอร์โซ เดสเตเป็นดยุกแห่งเฟอร์ราราของตระกูลเอสเตคนแรกที่ปกครองเฟอร์ราราตั้งแต่ปี ค.ศ. 1450 จนกระทั่งเสียชีวิต บอร์โซเป็นบุตรนอกสมรสนิคโคโลที่ 3 เดสเตมาร์ควิสแห่งเฟอร์รารา, โมเดนา และ เรจจิโอ และภรรยาน้อยสเตลลา เด โทโลเมอิ บอร์โซเป็นมาร์ควิสต่อจากเลโอเนลโล เดสเตเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม..

22 ความสัมพันธ์: ฟรันเชสโก เดล กอสซาพ.ศ. 1956พ.ศ. 1993พ.ศ. 1995พ.ศ. 2014สมัยฟื้นฟูศิลปวิทยาในอิตาลีสมเด็จพระสันตะปาปาปอลที่ 2สาธารณรัฐเวนิสจักรพรรดิฟรีดริชที่ 3 แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์จิตรกรรมฝาผนังดยุกตระกูลเอสเตปาลัซโซสกีฟาโนยาแฟร์ราราแอร์โกเล เด โรแบร์ตีโบโลญญาโกซีโม ตูราเมดีชีเอกสารตัวเขียนสีวิจิตร12 เมษายน18 พฤษภาคม20 สิงหาคม

ฟรันเชสโก เดล กอสซา

ฟรานเชสโค เดล คอสสา (Francesco del Cossa) (ราว ค.ศ. 1430 - ราว ค.ศ. 1477) เป็นจิตรกรยุคฟื้นฟูศิลปวิทยาของอิตาลีตอนต้นของตระกูลการเขียนภาพแบบเฟอร์ราราของคริสต์ศตวรรษที่ 15 ผู้มีความเชี่ยวชาญทางการเขียนจิตรกรรมฝาผนัง.

ใหม่!!: บอร์โซ เดสเตและฟรันเชสโก เดล กอสซา · ดูเพิ่มเติม »

พ.ศ. 1956

ทธศักราช 1956 ใกล้เคียงกั.

ใหม่!!: บอร์โซ เดสเตและพ.ศ. 1956 · ดูเพิ่มเติม »

พ.ศ. 1993

ทธศักราช 1993 ใกล้เคียงกั.

ใหม่!!: บอร์โซ เดสเตและพ.ศ. 1993 · ดูเพิ่มเติม »

พ.ศ. 1995

ทธศักราช 1995 ใกล้เคียงกั.

ใหม่!!: บอร์โซ เดสเตและพ.ศ. 1995 · ดูเพิ่มเติม »

พ.ศ. 2014

ทธศักราช 2014 ใกล้เคียงกั.

ใหม่!!: บอร์โซ เดสเตและพ.ศ. 2014 · ดูเพิ่มเติม »

สมัยฟื้นฟูศิลปวิทยาในอิตาลี

มัยฟื้นฟูศิลปวิทยาอิตาลี (ภาษาอังกฤษ: Italian Renaissance) เป็นจุดแรกของการเริ่มสมัยฟื้นฟูศิลปวิทยาซึ่งเป็นช่วงเวลาของความเจริญทางวัฒนธรรมที่สูงสุดในยุโรปที่เริ่มตั้งแต่ปลายคริสต์ศตวรรษที่ 13 ไปจนสิ้นสุดลงปลายคริสต์ศตวรรษที่ 16 ที่เป็นช่วงเวลาที่เชื่อมระหว่างยุคกลางของยุโรปกับยุโรปสมัยใหม่ตอนต้น (Early Modern Europe) คำว่า “เรอเนสซองซ์” เป็นคำสมัยใหม่ที่มาใช้กันในคริสต์ศตวรรษที่ 19 ในงานของนักประวัติศาสตร์เช่นเจคอป เบิร์คฮาร์ดท์ (Jacob Burckhardt) ที่มาของขบวนการฟื้นฟูศิลปวิทยาจะเริ่มจากการวิวัฒนาการทางวรรณกรรมของผู้ก่อตั้งในต้นคริสต์ศตวรรษที่ 14 แต่ วัฒนธรรมด้านอื่นๆของอิตาลีในขณะนั้นยังคงเป็นวัฒนธรรมของยุคกลาง ปรัชญาฟื้นฟูศิลปวิทยามิได้แพร่หลายอย่างเต็มที่จนกระทั่งปลายคริสต์ศตวรรษที่ 14 คำว่า “เรอเนสซองซ์” หรือ “Rinascimento” ในภาษาอิตาลีหมายความว่า “เกิดใหม่” และเป็นสมัยที่เป็นที่รู้จักกันดีที่สุดในการฟื้นฟูความสนใจในวัฒนธรรมของกรีกโรมันหลังจากสมัยที่นักมนุษย์วิทยาเรอเนสซองซ์ (Renaissance humanist) ตั้งชื่อว่ายุคมืด (Dark Ages) ความเปลี่ยนแปลงเหล่านี้เป็นความเปลี่ยนแปลงที่สำคัญแต่จำกัดอยู่แต่ในกลุ่มชนชั้นสูงและทิ้งให้ประชากรส่วนใหญ่ในยุโรปยังมีความเป็นอยู่ที่ไม่ต่างจากสมัยกลางที่ผ่านมา สมัยฟื้นฟูศิลปวิทยาของอิตาลีเริ่มในทัสเคนีโดยมีศูนย์กลางอยู่ที่ฟลอเรนซ์และเซียนา และต่อมาในเวนิสที่มีผลเป็นอันมาก เพราะงานต่างๆ ของกรีกโบราณถูกนำไปรวบรวมไว้ที่เวนิสซึ่งทำให้กลายเป็นแหล่งความรู้ต่างๆ ที่ใหม่ๆ ให้แก่นักมนุษยนิยม ผู้คงแก่เรียนในเวนิสในขณะนั้น ต่อมาปรัชญาฟื้นฟูศิลปวิทยาก็มามีอิทธิพลในกรุงโรม ที่ทำให้เกิดการสร้างสิ่งก่อสร้างใหม่ๆ มากมายที่ส่วนใหญ่โดยการอุปถัมภ์ของพระสันตปาปาในคริสต์ศตวรรษที่ 16 สมัยฟื้นฟูศิลปวิทยาของอิตาลีรุ่งเรืองที่สุดในปลายคริสต์ศตวรรษที่ 15 หลังจากนั้นก็ลดถอยลงหลังจากการรุกรานจากต่างประเทศที่ก่อสงครามในอิตาลี แต่การฟื้นฟูศิลปวิทยาของอิตาลีก็มิได้หยุดนิ่งลงแต่เผยแพร่ไปทั่วยุโรปและเริ่มสมัยฟื้นฟูศิลปวิทยาตอนเหนือของยุโรปและสมัยฟื้นฟูศิลปวิทยาอังกฤษและประเทศอื่นๆ ในยุโรป สมัยฟื้นฟูศิลปวิทยาของอิตาลีเป็นที่รู้จักกันดีที่สุดในความสำเร็จทางด้านวัฒนธรรม วรรณกรรมฟื้นฟูศิลปวิทยาของอิตาลีรวมนักมนุษยนิยมผู้มีชื่อเสียงเช่นเปตรากที่รู้จักกันดีในงานซอนเน็ต “Il Canzoniere”; จิโอวานนิ บอคคาซิโอ (Giovanni Boccaccio) ในงานเรื่องเล่า “Decameron” และนักมนุษย์วิทยาเรอเนสซองซ์เช่นโปลิซิอาโน (Poliziano), มาร์ซิลิโอ ฟิซิโน (Marsilio Ficino), โลเร็นโซ วาลลา (Lorenzo Valla), อัลโด มานูซิโอ (Aldo Manuzio), โพจจิโอ บราชชิโอลินิ (Poggio Bracciolini) นอกจากนั้นก็มีนักประพันธ์มหากาพย์เรอเนสซองซ์เช่นบัลดัสซาเร คาสติกลิโอเน (Baldassare Castiglione) (“The Book of the Courtier”), ลุโดวิโค อริโอสโต (Ludovico Ariosto) (“Orlando Furioso”) และทอร์ควาโท ทาสโซ (Torquato Tasso) (“Jerusalem Delivered”) และนักประพันธ์ร้อยแก้วเช่นนิคโคโล มาเคียเวลลี (“The Prince”) จิตรกรรมเรอเนสซองซ์อิตาลีเป็นจิตรกรรมที่มีอิทธิพลต่อจิตรกรรมตะวันตกต่อมาอีกหลายร้อยปี โดยมีจิตรกรเช่นไมเคิล แอนเจโล, ราฟาเอล, ซานโดร บอตติเชลลี, ทิเชียน และเลโอนาร์โด ดา วินชี และเช่นเดียวกันกับสถาปัตยกรรมฟื้นฟูศิลปวิทยา โดยมีสถาปนิกเช่นอันเดรอา ปัลลาดีโอ และงานเช่นมหาวิหารฟลอเรนซ์ และมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ในกรุงโรม ในขณะเดียวกันนักประวัติศาสตร์ในปัจจุบันเห็นว่าเป็นสมัยของความหดตัวทางเศรษฐกิจและความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ ซึ่งมามีความก้าวหน้ามากกว่าในวัฒนธรรมของโปรเตสแตนต์ในคริสต์ศตวรรษที่ 17.

ใหม่!!: บอร์โซ เดสเตและสมัยฟื้นฟูศิลปวิทยาในอิตาลี · ดูเพิ่มเติม »

สมเด็จพระสันตะปาปาปอลที่ 2

thumb สมเด็จพระสันตะปาปาปอลที่ 2 (lang-en|: Paul II) ทรงดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปาตั้งแต่ ค.ศ. 1464 ถึง ค.ศ. 1471 หมวดหมู่:บุคคลที่เกิดในปี พ.ศ. 1960 ปอลที่ 2 หมวดหมู่:บุคคลในคริสต์ศตวรรษที่ 15 หมวดหมู่:บุคคลจากเวนิส.

ใหม่!!: บอร์โซ เดสเตและสมเด็จพระสันตะปาปาปอลที่ 2 · ดูเพิ่มเติม »

สาธารณรัฐเวนิส

รณรัฐอันสงบสุขเป็นที่สุดแห่งเวนิส หรือ สาธารณรัฐเวนิส (Republic of Venice หรือ Venetian Republic, Serenissima Repubblica di Venezia) เป็นรัฐที่เริ่มขึ้นในเมืองเวนิสที่ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของประเทศอิตาลี สาธารณรัฐเวนิสรุ่งเรืองอยู่กว่าหนึ่งพันปีตั้งแต่ปลายคริสต์ศตวรรษที่ 7 จนกระทั่งถึงปี..

ใหม่!!: บอร์โซ เดสเตและสาธารณรัฐเวนิส · ดูเพิ่มเติม »

จักรพรรดิฟรีดริชที่ 3 แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์

ักรพรรดิฟรีดริชที่ 3 แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ (Frederick III, Holy Roman Emperor) (21 กันยายน ค.ศ. 1415 - 19 สิงหาคม ค.ศ. 1493) เป็นจักรพรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ในราชวงศ์ฮับส์บูร์ก ผู้ทรงครองราชบัลลังก์ระหว่างปี ค.ศ. 1452 จนเสด็จสวรรคตเมื่อวันที่ 19 สิงหาคม ค.ศ. 1493 ฟรีดริชทรงได้รับเลือกให้เป็นพระมหากษัตริย์แห่งชาวโรมันต่อจากพระเจ้าอัลเบรชท์ที่ 2 แห่งเยอรมนี (Albert II of Germany) ในปี ค.ศ. 1440 จักรพรรดิฟรีดริชที่ 3 เสด็จพระราชสมภพเมื่อวันที่ 21 กันยายน ค.ศ. 1415 ที่อินสบรุค ในออสเตรีย เป็นพระราชโอรสในเออร์เนสต์ ดยุกแห่งออสเตรียทางสายราชวงศ์ฮับส์บูร์กที่ปกครองอินเนอร์ออสเตรียที่รวมทั้งดัชชีสติเรีย ดัชชีคารินเทีย และดัชชีคาร์นีโอลา และภรรยาของเออร์เนสต์ซิมเบอร์จิสแห่งมาโซเวีย (Cymburgis of Masovia) ฟรีดริชอภิเษกสมรสเมื่อพระชนมายุได้ 37 พรรษากับเจ้าหญิงเอเลเนอร์แห่งโปรตุเกสพระชนมายุ 18 พรรษา สินสอดทองหมั้นจากเจ้าหญิงเอลินอร์ช่วยในการปลดเปลื้องหนี้สินที่ทรงมีและสร้างเสริมความมั่งคงให้แก่พระราชอำนาจของพระอง.

ใหม่!!: บอร์โซ เดสเตและจักรพรรดิฟรีดริชที่ 3 แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ · ดูเพิ่มเติม »

จิตรกรรมฝาผนัง

วาติกัน, โรม ประเทศอิตาลี จิตรกรรมฝาผนังโดยดิโอนิเซียส (Dionisius) เล่าเรื่องนักบุญนิโคลัส จิตรกรรมฝาผนัง จากมหากาพย์ “ไตรภูมิดานเต” ของดานเตโดยโดเมนิโค ดิ มิเคลลิโน (Domenico di Michelino) ที่มหาวิหารฟลอเรนซ์ จิตรกรรมฝาผนังจากบาวาเรียประเทศเยอรมนี “ที่ฝังศพของนักดำน้ำ” พบเมื่อปีค.ศ. 1968 (470 ปีก่อนคริสต์ศักราช) จิตรกรรมฝาผนังจากอจันตา (Ajanta) คริสต์ศตวรรษที่ 6 จิตรกรรมฝาผนังโคลาของนักรำที่ Brihadisvara Temple ประมาณ ค.ศ. 1100 จิตรกรรมฝาผนัง (ภาษาอังกฤษ: Mural painting) คือภาพเขียนหลายชนิดที่เขียนบนปูนบนผนังหรือเพดาน เทคนิคที่นิยมกัน คือ การวาดภาพบนผนังปูนปลาสเตอร์เปียก (fresco) โดยที่คำว่า “fresco” มาจากภาษาอิตาลี “affresco” ซึ่งมาจากคำว่า “fresco” หรือ “สด” รากศัพท์มาจากภาษาเยอรมัน.

ใหม่!!: บอร์โซ เดสเตและจิตรกรรมฝาผนัง · ดูเพิ่มเติม »

ดยุก

ก (duke) หรือ ดุ๊ก หรือ แฮร์ซอก (Herzog) เป็นบรรดาศักดิ์ของขุนนางในทวีปยุโรป เป็นตำแหน่งทางปกครองที่เป็นรองจากกษัตริย์ซึ่งปกครองดินแดนที่เรียกว่า "ดัชชี" ส่วนตำแหน่งดยุกในหมู่เกาะอังกฤษเป็นเพียงตำแหน่งที่ตั้งไว้เป็นเกียรติยศเท่านั้น ไม่มีอำนาจในทางปกครองเหมือนในประเทศยุโรปอื่นๆ ปัจจุบันตำแหน่งดยุก(ที่ไม่ใช่ราชวงศ์)ปรากฏอยู่อย่างเป็นทางการเฉพาะในสหราชอาณาจักรเท่านั้น ภริยาของดยุกมีตำแหน่งเป็น ดัชเชส (Duchess) ตามสิทธิของคู่สมรส อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่ดยุกมีแต่บุตรสาว บุตรสาวจะได้ขึ้นสืบตำแหน่งแทนเมื่อดยุกถึงแก่อสัญกรรม ซึ่งบุตรสาวที่ได้สืบตำแหน่งดยุกนี้จะมีตำแหน่งเป็น ดัชเชส ด้วยเช่นกันแต่เป็นดัชเชสจากการสืบตระกูล ในกรณีนี้ สิทธิของคู่สมรสจะไม่ส่งผ่านไปยังสามี ยกตัวอย่าง ดยุกที่ 1 แห่งมาร์ลบะระ มีเพียงธิดาเท่านั้น เมื่อเขาถึงแก่อสัญกรรม ธิดาของเขาจึงขึ้นสืบตำแหน่งต่อเป็น ดัชเชสที่ 2 แห่งมาร์ลบะระ อย่างไรก็ตาม สามีของนางจะไม่มีสิทธิหรือเกียรติยศใดๆในมาร์ลบะระ เมื่อนางถึงแก่อสัญกรรม บุตรชายของนางจึงสืบตำแหน่งต่อเป็นดยุกที่ 3 แห่งมาร์ลบะระ คำว่าดยุกมาจากภาษาละตินว่า dux ซึ่งมีความหมายว่า 'ผู้นำ' คำนี้ถูกใช้ในยุคสาธารณรัฐโรมันเพื่อสื่อถึงผู้นำทางทหารที่ไม่มียศอย่างเป็นทางการ และต่อมาก็ใช้สื่อถึงผู้บัญชาการทหารประจำมณฑล.

ใหม่!!: บอร์โซ เดสเตและดยุก · ดูเพิ่มเติม »

ตระกูลเอสเต

ตราอาร์มของตระกูลเอสเต ตระกูลเอสเต (House of Este) เป็นตระกูลของยุโรปที่แบ่งเป็นสองสาย สายอาวุโสคือ “เวลฟ-เอสเต” หรือ ตระกูลเวลฟ และสายรอง “ฟุลค์-เอสเต” (Fulc-Este) หรือที่มาเรียกว่า “ตระกูลเอสเต” ทั้งสองตระกูลเกี่ยวข้องกับตระกูลเว็ตติน (House of Wettin) ซึ่งเป็นตระกูลเก่าที่มีอายุแปดร้อยปี สายอาวุโสของตระกูลเอสเตตระกูลเวลฟเป็นต้นตระกูลของดยุคแห่งบาวาเรีย (ค.ศ. 1070–ค.ศ. 1139, ค.ศ. 1156–ค.ศ. 1180), ดยุคแห่งดยุคแห่งแซกโซนี (ค.ศ. 1138–ค.ศ. 1139, ค.ศ. 1142–ค.ศ. 1180), พระมหากษัตริย์แห่งเยอรมนี (ค.ศ. 1198–ค.ศ. 1218) และที่มีอิทธิพลในประวัติศาสตร์มากที่สุด, ดยุคแห่งบรันสวิคและลืนเนอเบิร์ก (ค.ศ. 1208–ค.ศ. 1918) ผู้ต่อมาเป็น “เจ้าชายอีเล็คเตอร์แห่งฮาโนเวอร์” ซึ่งเป็นตำแหน่งสำคัญของจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ เมื่อสองสายของตระกูลกลับมารวมตัวกันอีกครั้งในปี..

ใหม่!!: บอร์โซ เดสเตและตระกูลเอสเต · ดูเพิ่มเติม »

ปาลัซโซสกีฟาโนยา

ปาลัซโซสกีฟาโนยา (Palazzo Schifanoia) เป็นวังตั้งอยู่ที่เมืองแฟร์ราราในแคว้นเอมีเลีย-โรมัญญาในประเทศอิตาลี เป็นวังที่สร้างสำหรับตระกูลเอสเต ชื่อของวัง "Schifanoia" เชื่อกันว่ามาจากคำว่า "Schifanoia" ที่มาจากคำว่า "schivar la noia" ที่แปลว่า "หลบจากความน่าเบื่อ" ซึ่งเป็นคำบรรยายที่ตรงกับความเป็นจริงของจุดหมายในการก่อสร้างแต่เดิม สิ่งที่สำคัญที่สุดที่มีชื่อเสียงของวังนี้คือจิตรกรรมฝาผนังอุปมานิทัศน์ของ "วัฏจักรสิบสองเดือน" (Cycle of the Year) ที่เขียนโดยฟรันเชสโก เดล กอสซา และโกซีโม ตูรา ระหว่างปี..

ใหม่!!: บอร์โซ เดสเตและปาลัซโซสกีฟาโนยา · ดูเพิ่มเติม »

แฟร์รารา

แฟร์รารา (Ferrara) เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ในแคว้นเอมีเลีย-โรมัญญาในประเทศอิตาลี แฟร์ราราเป็นเมืองหลวงของจังหวัดแฟร์รารา แฟร์ราราตั้งอยู่ประมาณ 50 กิโลเมตรทางตะวันออกเฉียงเหนือของโบโลญญาบนฝั่งโปดิโวลาโนซึ่งเป็นแควของแม่น้ำโป ตัวเมืองมีถนนกว้างและวังและคฤหาสน์มากมายจากคริสต์ศตวรรษที่ 14 และ 15 เมื่อเป็นที่ตั้งสำนักของตระกูลเอสเต ความงามและความสำคัญทางวัฒนธรรมของแฟร์ราราทำให้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปี..

ใหม่!!: บอร์โซ เดสเตและแฟร์รารา · ดูเพิ่มเติม »

แอร์โกเล เด โรแบร์ตี

แอร์โคเล เดรอแบร์ติ (Ercole de' Roberti หรือ Ercole Ferrarese หรือ Ercole da Ferrara) (ราว ค.ศ. 1451 - ค.ศ. 1496) เป็นจิตรกรยุคฟื้นฟูศิลปวิทยาของอิตาลีตอนต้นของตระกูลการเขียนภาพแบบเฟอร์ราราของคริสต์ศตวรรษที่ 15 ผู้มีความเชี่ยวชาญทางการเขียนจิตรกรรมฝาผนัง แอร์โคเล เดรอแบร์ติเกิดเมื่อราว ค.ศ. 1451 เป็นบุตรของยามรักษาประตูที่ปราสาทของตระกูลเอสเต ต่อมาก็ได้เป็นจิตรกรประจำสำนักของตระกูล แต่งานเขียนของแอร์โคเลมีเหลืออยู่เพียงไม่กี่ชิ้น และงานส่วนใหญ่ก็ถูกทำลายไป จอร์โจ วาซารีรวมประวัติชีวิตของแอร์โคเล เดรอแบร์ติในหนังสือ “ชีวิตจิตรกร, ประติมากร, และสถาปนิกผู้ดีเด่น” และบรรยายถึงแอร์โคเลว่า “แอร์โคเลเป็นคนชอบดื่มไวน์เอามากๆ และความเมาอันสม่ำเสมอก็มีส่วนทำให้อายุสั้น ที่ทำมาจนอายุได้สี่สิบปีโดยไม่มีอุบัติเหตแต่อย่างใด แต่วันหนึ่งแอร์โคเลก็ล้มพับไปเพราะเส้นเลือดในสมองแตกซึ่งก็เป็นการทำให้ชีวิตสิ้นสุดในระยะเวลาไม่นานนัก”.

ใหม่!!: บอร์โซ เดสเตและแอร์โกเล เด โรแบร์ตี · ดูเพิ่มเติม »

โบโลญญา

ลญญา (Bologna) เป็นเมืองในประเทศอิตาลี เป็นเมืองหลักของแคว้นเอมีเลีย-โรมัญญาในหุบเขาโป ทางตอนเหนือของประเทศอิตาลี โดยตั้งอยู่ระหว่างแม่น้ำโปกับเทือกเขาแอเพนไนน์ นอกจากนี้ ยังมีมหาวิทยาลัยที่เก่าแก่ที่สุดคือ "Alma Mater Studiorum" ที่ก่อตั้งในปี 1088 โบโลญญายังเป็นเมืองหนึ่งที่พัฒนามากที่สุดในอิตาลี และมักติดอยู่ในอันดับต้น ๆ ของเมือง ในแง่ของคุณภาพชีวิตในอิตาลี จากข้อมูลปี 2006 ติดอยู่อันดับ 5 และอันดับที่ 12 ในปี 2007 จาก 103 เมืองในอิตาลี.

ใหม่!!: บอร์โซ เดสเตและโบโลญญา · ดูเพิ่มเติม »

โกซีโม ตูรา

ม ทูรา (Cosimo Tura หรือ Il Cosmè หรือ Cosmè Tura) (ราว ค.ศ. 1430 - ค.ศ. 1495) เป็นจิตรกรยุคฟื้นฟูศิลปวิทยาของอิตาลีตอนต้นของตระกูลการเขียนภาพแบบเฟอร์ราราของคริสต์ศตวรรษที่ 15 ผู้มีความเชี่ยวชาญทางการเขียนจิตรกรรมฝาผนัง.

ใหม่!!: บอร์โซ เดสเตและโกซีโม ตูรา · ดูเพิ่มเติม »

เมดีชี

ตระกูลเมดีชี (Medici) เป็นตระกูลที่มีอำนาจและอิทธิพลทางการเมืองของฟลอเรนซ์ระหว่างคริสต์ศตวรรษที่ 13 ถึงคริสต์ศตวรรษที่ 17 สมาชิกจากตระกูลนี้ 3 คนได้เป็น พระสันตะปาปา (สมเด็จพระสันตะปาปาลีโอที่ 10, สมเด็จพระสันตะปาปาคลีเมนต์ที่ 7, และ สมเด็จพระสันตะปาปาลีโอที่ 11) และนักปกครองของฟลอเรนซ์เองโดยเฉพาะโลเรนโซ เด เมดีชี ก็เป็นผู้อุปถัมภ์งานชิ้นสำคัญๆ ในสมัยเรอเนซองส์ ต่อมาตระกูลเมดีชีก็มีส่วนเกี่ยวข้องกับราชวงศ์ของฝรั่งเศสและอังกฤษ ความมีอิทธิพลของตระกูลเมดีชีสามารถทำให้ฟลอเรนซ์กลายมามีบทบาทสำคัญต่อความรุ่งเรืองของศิลปะและสถาปัตยกรรม ตระกูลเมดีชีและตระกูลสำคัญอื่นๆของประเทศอิตาลีในสมัยนั้นเช่น ตระกูลวิสคอนติ (Visconti) ตระกูลสฟอร์เซ (Sforza) ตระกูลต่างๆ จากมิลาน ตระกูลเอสเตแห่งเฟอร์รารา (Este of Ferrara) ตระกูลกอนซากาจากมานตัว (Gonzaga of Mantua) และตระกูลอื่นๆ ต่างก็มีส่วนสำคัญในความเจริญของศิลปะเรอเนซองส์ และ สถาปัตยกรรมเรอเนซองส์ ธนาคารเมดีชีเป็นธนาคารที่มั่งคั่งที่สุดในทวีปยุโรปและกล่าวกันว่าตระกูลเมดีชีเป็นตระกูลที่ร่ำรวยที่สุดในยุโรปสมัยนั้น ซึ่งทำให้สามารถสร้างอำนาจทางการเมืองโดยเริ่มจากฟลอเรนซ์และอิตาลีจนในที่สุดก็ขยายไปทั่วยุโรป สิ่งที่ตระกูลเมดีชีเป็นต้นตำรับทางการบัญชีคือการปรับปรุงวิธีทำบัญชีโดยการลงหลักฐานที่สามารถทำให้ติดตามเงินเข้าเงินออกได้ง่ายขึ้น (double-entry bookkeeping system).

ใหม่!!: บอร์โซ เดสเตและเมดีชี · ดูเพิ่มเติม »

เอกสารตัวเขียนสีวิจิตร

Aberdeen Bestiary) (folio 4v) การตกแต่งตัวพยัญชนะตัวแรกและขอบอย่างวิจิตรใน “หนังสือกำหนดเทศกาล” ของฝรั่งเศส ราวปี ค.ศ. 1400 เอกสารตัวเขียนสีวิจิตร (Illuminated manuscript) หรือหนังสือตัวเขียนสีวิจิตร คือเอกสารตัวเขียนที่ตัวหนังสือตกแต่งเพิ่มเติมด้วยสีสรรค์เช่นตัวหนังสือตัวแรกที่ขยายใหญ่ขึ้นและเล่นลายอย่างวิจิตร หรือเขียนขอบคัน หรือทำเป็นจุลจิตรกรรม ตามความหมายตรงตัวจะหมายถึงต้นฉบับที่ตกแต่งด้วยเงินและทอง แต่การใช้กันโดยทั่วไปโดยนักวิชาการสมัยใหม่ในปัจจุบันจะหมายถึงต้นฉบับใดก็ได้ที่มีการตกแต่งหรือหนังสือประกอบภาพจากทั้งทางตะวันตกและทางศาสนาอิสลาม งานเอกสารตัวเขียนสีวิจิตรฉบับแรกที่สุดที่มีการตกแต่งพอประมาณมาจากสมัยคริสต์ศตวรรษที่ 5 ถึงที่ 7 ส่วนใหญ่ทำในไอร์แลนด์, อิตาลี และประเทศอื่นๆ บนผืนแผ่นดินใหญ่ยุโรป ความสำคัญของเอกสารตัวเขียนสีวิจิตรมิใช่เพียงคุณค่าทางวรรณกรรมแต่ยังมีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ด้วย ซี่งจะเห็นได้จากต้นฉบับเอกสารตัวเขียนสีวิจิตรที่ทำให้เราเรียนรู้ถึงประวัติศาสตร์ โรมันและ กรีกที่ตกแต่งโดยผู้บันทึกและตกแต่งหนังสือตามอาราม เอกสารตัวเขียนสีวิจิตรส่วนใหญ่ที่ยังหลงเหลืออยู่ในปัจจุบันมาจากยุคกลางแม้ว่าการสร้างเอกสารตัวเขียนสีวิจิตรจะทำกันมาจนถึงยุคฟื้นฟูศิลปวิทยาในคริสต์ศตวรรษที่ 15 เนื้อหาของงานส่วนใหญ่ในสมัยแรก ๆ จะเป็นงานศาสนา แต่ต่อมาโดยเฉพาะในคริสต์ศตวรรษที่ 13 ก็เริ่มมีงานทางโลกเพิ่มขึ้น และเกือบทั้งหมดจะทำเป็นหนังสือแต่ก็มีบ้างที่เป็นม้วนหรือเป็นแผ่นเดียวเขียนบนหนัง (อาจจะเป็นหนังลูกวัว, แกะ, หรือแพะ) ที่มีคุณภาพดี หลังปลายยุคกลางวัสดุที่ใช้เขียนก็เปลี่ยนมาเป็นกระดาษ เมื่อวิวัฒนาการพิมพ์เพิ่งเริ่มใหม่ๆ ผู้พิมพ์ก็อาจจะทิ้งช่องว่างไว้สำหรับพยัญชนะตัวแรก, ขอบ หรือ ภายเขียนย่อส่วนแต่การพิมพ์ทำให้ ศิลปะการทำเอกสารตัวเขียนสีวิจิตรเสื่อมความนิยมลง แต่ก็ทำกันต่อมาจนถึงต้นคริสต์ศตวรรษที่ 16 แต่น้อยลงมากและทำสำหรับผู้มีฐานะดีจริงๆ เท่านั้น นอกจากเอกสารตัวเขียนสีวิจิตรจะเป็นตัวอย่างของสิ่งที่หลงเหลือมาจากยุคกลางแล้วก็ยังเป็นตัวอย่างที่ดีของจิตรกรรมที่มาจากยุคกลางด้วย และบางครั้งก็เป็นจิตรกรรมอย่างเดียวที่เหลืออยู่จากยุคนั้น.

ใหม่!!: บอร์โซ เดสเตและเอกสารตัวเขียนสีวิจิตร · ดูเพิ่มเติม »

12 เมษายน

วันที่ 12 เมษายน เป็นวันที่ 102 ของปี (วันที่ 103 ในปีอธิกสุรทิน) ตามปฏิทินสุริยคติแบบเกรกอเรียน เมื่อถึงวันนี้จะยังเหลือวันอีก 263 วันในปีนั้น.

ใหม่!!: บอร์โซ เดสเตและ12 เมษายน · ดูเพิ่มเติม »

18 พฤษภาคม

วันที่ 18 พฤษภาคม เป็นวันที่ 138 ของปี (วันที่ 139 ในปีอธิกสุรทิน) ตามปฏิทินสุริยคติแบบเกรกอเรียน เมื่อถึงวันนี้จะยังเหลือวันอีก 227 วันในปีนั้น.

ใหม่!!: บอร์โซ เดสเตและ18 พฤษภาคม · ดูเพิ่มเติม »

20 สิงหาคม

วันที่ 20 สิงหาคม เป็นวันที่ 232 ของปี (วันที่ 233 ในปีอธิกสุรทิน) ตามปฏิทินสุริยคติแบบเกรกอเรียน เมื่อถึงวันนี้จะยังเหลือวันอีก 133 วันในปีนั้น.

ใหม่!!: บอร์โซ เดสเตและ20 สิงหาคม · ดูเพิ่มเติม »

เปลี่ยนเส้นทางที่นี่:

Borso d'Este

ขาออกขาเข้า
Hey! เราอยู่ใน Facebook ตอนนี้! »