เรากำลังดำเนินการเพื่อคืนค่าแอป Unionpedia บน Google Play Store
ขาออกขาเข้า
🌟เราได้ทำให้การออกแบบของเราง่ายขึ้นเพื่อการนำทางที่ดีขึ้น!
Instagram Facebook X LinkedIn

ทรงลิ่ม

ดัชนี ทรงลิ่ม

ทรงลิ่ม ปริซึมสามเหลี่ยม ทรงลิ่ม (wedge) เป็นทรงหลายหน้า (polyhedron) ชนิดหนึ่งที่ประกอบด้วยหน้ารูปสามเหลี่ยม 2 หน้า และหน้ารูปสี่เหลี่ยมคางหมู 3 หน้า มี 6 จุดยอดและ 12 ขอบ ทรงลิ่มเป็นหนึ่งในพริสมาทอยด์ (prismatoid) ที่มีจุดยอดที่ฐานด้านหนึ่งเพียง 2 จุด หรืออาจจัดได้เป็นคิวโพลาสองเหลี่ยมก็ได้ ปริซึมสามเหลี่ยม (triangular prism) เป็นกรณีพิเศษของทรงลิ่มที่มีหน้าด้านข้างเป็นรูปสามเหลี่ยมด้านเท่าที่ขนานกันทั้งสองหน้.

สารบัญ

  1. 8 ความสัมพันธ์: พริสมาทอยด์รูปสามเหลี่ยมรูปสามเหลี่ยมด้านเท่ารูปสี่เหลี่ยมคางหมูสูตรทรงหลายหน้าคิวโพลาปริมาตร

  2. ทรงหลายหน้า

พริสมาทอยด์

ริสมาทอยด์ (prismatoid) หมายถึงทรงหลายหน้า (polyhedron) ที่จุดยอด (vertex) ทุกจุดเรียงกันอยู่บนระนาบสองระนาบที่ขนานกัน และพริสมาทอยด์ที่มีจำนวนจุดยอดบนระนาบเท่ากับทั้งสองระนาบ จะเรียกอีกอย่างว่า พริสมอยด์ (prismoid) ปริมาตรของพริสมาทอยด์ V สามารถหาได้จาก V.

ดู ทรงลิ่มและพริสมาทอยด์

รูปสามเหลี่ยม

รูปสามเหลี่ยม (อังกฤษ: triangle) เป็นหนึ่งในร่างพื้นฐานในเรขาคณิต คือรูปหลายเหลี่ยมซึ่งมี หรือจุดยอด และมี 3 ด้านหรือขอบที่เป็นส่วนของเส้นตรง รูปสามเหลี่ยมที่มีจุดยอด A, B, และ C เขียนแทนด้วย ในเรขาคณิตแบบยุคลิด จุด 3 จุดใดๆ ที่ไม่อยู่ในเส้นตรงเดียวกัน จะสามารถสร้างรูปสามเหลี่ยมได้เพียงรูปเดียว และเป็นรูปที่อยู่บนระนาบเดียว (เช่นระนาบสองมิติ).

ดู ทรงลิ่มและรูปสามเหลี่ยม

รูปสามเหลี่ยมด้านเท่า

รูปสามเหลี่ยมด้านเท่า คือรูปสามเหลี่ยมชนิดหนึ่งที่ด้านทั้งสามมีความยาวเท่ากัน ในเรขาคณิตแบบยุคลิด รูปสามเหลี่ยมด้านเท่าจัดเป็นรูปหลายเหลี่ยมมุมเท่า (equiangular polygon) กล่าวคือ มุมภายในแต่ละมุมของรูปสามเหลี่ยมมีขนาดเท่ากันคือ 60° ด้วยคุณสมบัติทั้งสอง รูปสามเหลี่ยมด้านเท่าจึงจัดเป็นรูปหลายเหลี่ยมปรกติ (regular polygon) และเรียกอีกชื่อหนึ่งได้ว่าเป็น รูปสามเหลี่ยมปรกติ รูปสามเหลี่ยมด้านเท่าที่ยาวด้านละ a\,\! หน่วย จะมีส่วนสูง (altitude) เท่ากับ \fraca หน่วย และมีพื้นที่เท่ากับ \fraca^2 ตารางหน่วย รูปสามเหลี่ยมด้านเท่าเป็นรูปสามเหลี่ยมที่มีความสมมาตรมากที่สุด คือมีสมมาตรแบบสะท้อนสามเส้น และสมมาตรแบบหมุนที่อันดับสามรอบศูนย์กลาง กรุปสมมาตรของรูปสามเหลี่ยมนี้จัดว่าเป็นกรุปการหมุนรูปของอันดับหก (dihedral group of order 6) หรือ D3 ทรงสี่หน้าปรกติ สร้างขึ้นจากรูปสามเหลี่ยมด้านเท่าสี่รูป รูปสามเหลี่ยมด้านเท่าสามารถพบได้ในโครงสร้างทางเรขาคณิตอื่นๆ หลายอย่าง เช่น รูปวงกลมที่มีรัศมีเท่ากันสองวงตัดกัน โดยมีจุดศูนย์กลางอยู่บนเส้นรอบวงของอีกวงหนึ่ง ทำให้เกิดส่วนโค้งขนาดเท่ากัน และสามารถแสดงได้ด้วยรูปสามเหลี่ยมด้านเท่า รูปสามเหลี่ยมนี้ยังเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างทรงหลายหน้า ทรงตันเพลโตสามในห้าชิ้นประกอบขึ้นจากรูปสามเหลี่ยมด้านเท่า หนึ่งในนั้นคือทรงสี่หน้าปรกติ ซึ่งประกอบด้วยหน้ารูปสามเหลี่ยมด้านเท่าทั้งสี่หน้า นอกจากนั้นรูปสามเหลี่ยมด้านเท่าสามารถนำมาเรียงติดต่อกันบนระนาบ จนเกิดเป็นรูปแบนราบสามเหลี่ยม (triangular tiling) การหารูปสามเหลี่ยมด้านเท่าที่เกี่ยวข้องกับรูปสามเหลี่ยมใดๆ สามารถหาได้จากทฤษฎีบทสามส่วนของมอร์ลีย์ (Morley's trisector theorem) Triangle Construction Animation.

ดู ทรงลิ่มและรูปสามเหลี่ยมด้านเท่า

รูปสี่เหลี่ยมคางหมู

ในทางเรขาคณิต รูปสี่เหลี่ยมคางหมู คือรูปสี่เหลี่ยมชนิดหนึ่งที่มีด้านตรงข้ามขนานกันจำนวนหนึ่งคู่ รูปสี่เหลี่ยมคางหมู ABCD เขียนแทนด้วยสัญลักษณ์ baseline ABCD หรือ ⏢ ABCD ภาษาอังกฤษสำเนียงอเมริกันเรียกรูปสี่เหลี่ยมคางหมูว่า trapezoid ในขณะที่สำเนียงอังกฤษและออสเตรเลียเรียกว่า trapezium ในทางกลับกัน สำเนียงอเมริกันเรียกรูปสี่เหลี่ยมด้านไม่ขนาน (ด้านไม่เท่า) ว่า trapezium ในขณะที่สำเนียงอังกฤษและออสเตรเลียเรียกว่า trapezoid.

ดู ทรงลิ่มและรูปสี่เหลี่ยมคางหมู

สูตร

ในทางคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ สูตร หมายถึง แนวทางสั้นๆ ที่ใช้อธิบายความรู้ด้วยสัญลักษณ์ (เช่นสูตรคณิตศาสตร์หรือสูตรเคมี) หรือความสัมพันธ์ทั่วไปในเรื่องปริมาณ หนึ่งในสูตรต่างๆ ที่เป็นที่รู้จักกันดีคือ สูตรของอัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ ที่ว่า E.

ดู ทรงลิ่มและสูตร

ทรงหลายหน้า

ทรงหลายหน้า (polyhedron, พหูพจน์: polyhedra) หมายถึง วัตถุทางเรขาคณิตที่ประกอบด้วยหน้าเรียบและขอบตรง ทรงหลายหน้าเป็นที่น่าหลงใหลของมนุษยชาติมาตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์ ซึ่งได้ศึกษาอย่างเป็นกิจลักษณะโดยชาวกรีกโบราณ ต่อเนื่องมาจนถึงนักเรียน นักคณิตศาสตร์ และศิลปินทุกวันนี้ คำว่า polyhedron มาจากภาษากรีก πολυεδρον โดยที่ poly- มาจาก πολυς แปลว่า "มากมาย" และ -edron มาจาก εδρον แปลว่า "ฐาน, ที่นั่ง, หน้า".

ดู ทรงลิ่มและทรงหลายหน้า

คิวโพลา

วโพลา หรือ รูปทรงถ้วยคว่ำ (cupola, พหูพจน์: cupolae) คือทรงหลายหน้าชนิดหนึ่งที่เกิดจากการเชื่อมระหว่างรูปหลายเหลี่ยมสองรูปที่ขนานกัน โดยที่จำนวนเหลี่ยมของรูปหนึ่งเป็นสองเท่าของอีกรูปหนึ่ง เช่น รูปสี่เหลี่ยมกับรูปแปดเหลี่ยม เป็นต้น และหน้าด้านข้างประกอบด้วยรูปสี่เหลี่ยมสลับกับรูปสามเหลี่ยม ลักษณะจึงคล้ายกับกะลาครอบ การเรียกชื่อคิวโพลาจะเรียกด้านที่มีเหลี่ยมน้อยกว่าเป็นหลัก และคิวโพลาก็เป็นพริสมาทอยด์ (primatoid) ชนิดหนึ่ง คิวโพลาสามเหลี่ยม คิวโพลาสี่เหลี่ยมจัตุรัส และคิวโพลาห้าเหลี่ยม ที่มีความยาวขอบทุกด้านเท่ากันหมด จัดได้เป็นทรงตันจอห์นสัน (Johnson solid) ซึ่งคิวโพลาเหล่านี้สามารถตัดส่วนหนึ่งออกมาจากคิวบอกทาฮีดรอน (cuboctahedron) รอมบิคิวบอกทาฮีดรอน (rhombicuboctahedron) และรอมบิโคซิโดเดคาฮีดรอน (rhombicosidodecahedron) ตามลำดับ สำหรับคิวโพลาหกเหลี่ยมด้านเท่า ที่มีความยาวขอบทุกด้านเท่ากันหมด จะกลายเป็นรูปทรงที่แบนราบอยู่บนระนาบสองมิติ ไฟล์:Geometric wedge.png|คิวโพลาสองเหลี่ยม ไฟล์:triangular_cupola.png|คิวโพลาสามเหลี่ยม ไฟล์:square_cupola.png|คิวโพลาสี่เหลี่ยม ไฟล์:Pentagonal cupola.png|คิวโพลาห้าเหลี่ยม ไฟล์:Tile 3464.svg|คิวโพลาหกเหลี่ยม.

ดู ทรงลิ่มและคิวโพลา

ปริมาตร

ออนซ์ และมิลลิลิตร ปริมาตร หมายถึง ปริมาณของปริภูมิหรือรูปทรงสามมิติ ซึ่งยึดถือหรือบรรจุอยู่ในภาชนะไม่ว่าจะสถานะใดๆก็ตาม บ่อยครั้งที่ปริมาตรระบุปริมาณเป็นตัวเลขโดยใช้หน่วยกำกับ เช่นลูกบาศก์เมตรซึ่งเป็นหน่วยอนุพันธ์เอสไอ นอกจากนี้ยังเป็นที่เข้าใจกันโดยทั่วไปว่า ปริมาตรของภาชนะคือ ความจุ ของภาชนะ เช่นปริมาณของของไหล (ของเหลวหรือแก๊ส) ที่ภาชนะนั้นสามารถบรรจุได้ มากกว่าจะหมายถึงปริมาณเนื้อวัสดุของภาชนะ รูปทรงสามมิติทางคณิตศาสตร์มักถูกกำหนดปริมาตรขึ้นด้วยพร้อมกัน ปริมาตรของรูปทรงอย่างง่ายบางชนิด เช่นมีด้านยาวเท่ากัน สันขอบตรง และรูปร่างกลมเป็นต้น สามารถคำนวณได้ง่ายโดยใช้สูตรต่าง ๆ ทางเรขาคณิต ส่วนปริมาตรของรูปทรงที่ซับซ้อนยิ่งขึ้นสามารถคำนวณได้ด้วยแคลคูลัสเชิงปริพันธ์ถ้าทราบสูตรสำหรับขอบเขตของรูปทรงนั้น รูปร่างหนึ่งมิติ (เช่นเส้นตรง) และรูปร่างสองมิติ (เช่นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส) ถูกกำหนดให้มีปริมาตรเป็นศูนย์ในปริภูมิสามมิติ ปริมาตรของของแข็ง (ไม่ว่าจะมีรูปทรงปกติหรือไม่ปกติ) สามารถตรวจวัดได้ด้วยการแทนที่ของไหล และการแทนที่ของเหลวสามารถใช้ตรวจวัดปริมาตรของแก๊สได้อีกด้วย ปริมาตรรวมของวัสดุสองชนิดโดยปกติจะมากกว่าปริมาตรของวัสดุอย่างใดอย่างหนึ่ง เว้นแต่เมื่อวัสดุหนึ่งละลายในอีกวัสดุหนึ่งแล้ว ปริมาตรรวมจะไม่เป็นไปตามหลักการบวก ในเรขาคณิตเชิงอนุพันธ์ ปริมาตรถูกอธิบายด้วยความหมายของรูปแบบปริมาตร (volume form) และเป็นตัวยืนยงแบบไรมันน์ (Riemann invariant) ที่สำคัญโดยรวม ในอุณหพลศาสตร์ ปริมาตรคือตัวแปรเสริม (parameter) ชนิดพื้นฐาน และเป็นตัวแปรควบคู่ (conjugate variable) กับความดัน.

ดู ทรงลิ่มและปริมาตร

ดูเพิ่มเติม

ทรงหลายหน้า

หรือที่รู้จักกันในชื่อ Wedgeเวดจ์