สารบัญ
4 ความสัมพันธ์: สงครามเวียดนามประเทศลาวแนวร่วมปลดปล่อยแห่งชาติเวียดนามใต้เจนีวา
- สนธิสัญญาเกี่ยวข้องกับฝรั่งเศส
- สนธิสัญญาเกี่ยวข้องกับสหภาพโซเวียต
- สนธิสัญญาเกี่ยวข้องกับสหรัฐ
- สนธิสัญญาเกี่ยวข้องกับสหราชอาณาจักร
- สนธิสัญญาเกี่ยวข้องกับสาธารณรัฐประชาชนจีน
- สนธิสัญญาเกี่ยวข้องกับอินเดีย
- สนธิสัญญาเกี่ยวข้องกับเวียดนามเหนือ
- สนธิสัญญาเกี่ยวข้องกับเวียดนามใต้
- สนธิสัญญาเกี่ยวข้องกับแคนาดา
- สนธิสัญญาเกี่ยวข้องกับไทย
สงครามเวียดนาม
งครามเวียดนาม หรือ สงครามอินโดจีนครั้งที่สอง หรือที่ชาวเวียดนามรู้จักกันในชื่อ สงครามอเมริกา เป็นสงครามตัวแทนสมัยสงครามเย็นที่เกิดขึ้นในประเทศเวียดนาม ลาวและกัมพูชาตั้งแต่เดือนธันวาคม 2498 กระทั่งกรุงไซ่ง่อนแตกเมื่อวันที่ 30 เมษายน 2518 สงครามเวียดนามนี้เกิดขึ้นหลังสงครามอินโดจีนครั้งที่หนึ่ง และมีเวียดนามเหนือซึ่งได้รับการสนับสนุนจากจีน สหภาพโซเวียตและพันธมิตรคอมมิวนิสต์อื่นเป็นคู่สงครามฝ่ายหนึ่ง กับรัฐบาลเวียดนามใต้ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐและประเทศที่ต่อต้านคอมมิวนิสต์อื่นเป็นคู่สงครามอีกฝ่ายหนึ่ง เวียดกง (หรือ แนวร่วมปลดปล่อยแห่งชาติ) เป็นแนวร่วมประชาชนคอมมิวนิสต์เวียดนามใต้ที่ติดอาวุธเบาซึ่งมีเวียดนามเหนือสั่งการ สู้รบในสงครามกองโจรต่อกำลังต่อต้านคอมมิวนิสต์ในภูมิภาค กองทัพประชาชนเวียดนาม (กองทัพเวียดนามเหนือ) ต่อสู้ในสงครามตามแบบมากกว่า และบางครั้งส่งหน่วยขนาดใหญ่เข้าสู่ยุทธการ เมื่อสงครามดำเนินไป ส่วนการต่อสู้ของเวียดกงลดลงขณะที่บทบาทของกองทัพประชาชนเวียดนามเพิ่มขึ้น กำลังสหรัฐและเวียดนามใต้อาศัยความเป็นเจ้าเวหาและอำนาจการยิงที่เหนือกว่าเพื่อดำเนินปฏิบัติการค้นหาและทำลาย ซึ่งรวมถึงกำลังภาคพื้นดิน ปืนใหญ่และการโจมตีทางอากาศ ตลอดห้วงสงคราม สหรัฐดำเนินการทัพทิ้งระเบิดทางยุทธศาสตร์ขนานใหญ่ต่อเวียดนามเหนือ และต่อมาน่านฟ้าเวียดนามเหนือกลายเป็นน่านฟ้าที่มีการป้องกันหนาแน่นที่สุดในโลก รัฐบาลสหรัฐมองว่าการเข้ามามีส่วนในสงครามของตนเป็นหนทางป้องกันการยึดเวียดนามใต้ของคอมมิวนิสต์อันเป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์การจำกัดการขยายตัวของลัทธิที่ไม่พึงปรารถนาที่ใหญ่กว่า โดยมีเป้าหมายที่แถลงไว้เพื่อหยุดการแพร่ของคอมมิวนิสต์ ตามทฤษฎีโดมิโนของสหรัฐ หากรัฐหนึ่งกลายเป็นคอมมิวนิสต์ รัฐอื่นในภูมิภาคก็จะเป็นไปด้วย ฉะนั้น นโยบายของสหรัฐจึงถือว่าการผ่อนปรนการแพร่ของคอมมิวนิสต์ทั่วประเทศเวียดนามนั้นยอมรับไม่ได้ รัฐบาลเวียดนามเหนือและเวียดกงต่อสู้เพื่อรวมเวียดนามอยู่ในการปกครองคอมมิวนิสต์ ทั้งสองมองข้อพิพาทนี้เป็นสงครามอาณานิคม ซึ่งเริ่มแรกสู้กับฝรั่งเศส โดยได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐ แล้วต่อมาสู้กับเวียดนามใต้ ซึ่งถูกมองว่าเป็นรัฐหุ่นเชิดของสหรัฐ ที่ปรึกษาทางทหารชาวอเมริกันมาถึงอินโดจีนขณะนั้นเริ่มตั้งแต่ปี 2493 การเข้ามามีส่วนของสหรัฐเพิ่มขึ้นในช่วงต้นคริสต์ทศวรรษ 1960 โดยมีระดับทหารเพิ่มเป็นสามเท่าในปี 2494 และเพิ่มอีกสามเท่าในปีต่อมา การเข้ามามีส่วนของสหรัฐทวีขึ้นอีกหลังเหตุการณ์อ่าวตังเกี๋ย ปี 2507 ซึ่งเรือพิฆาตของสหรัฐปะทะกับเรือโจมตีเร็วของเวียดนามเหนือ ซึ่งตามติดด้วยข้อมติอ่าวตังเกี๋ยซึ่งอนุญาตให้ประธานาธิบดีสหรัฐเพิ่มทหารในพื้นที่ หน่วยรบปกติของสหรัฐถูกจัดวางเริ่มตั้งแต่ปี 2498 ปฏิบัติการข้ามพรมแดนระหว่างประเทศ โดยพื้นที่ติดต่อกับประเทศลาวและกัมพูชาถูกกองทัพสหรัฐทิ้งระเบิดอย่างหนักขณะที่การเข้ามามีส่วนในสงครามของสหรัฐเพิ่มขึ้นสูงสุดในปี 2511 ปีเดียวกัน ฝ่ายคอมมิวนิสต์เปิดฉากการรุกตรุษญวน การรุกตรุษญวนไม่สัมฤทธิ์ผลในการโค่นรัฐบาลเวียดนามใต้ แต่ได้กลายเป็นจุดพลิกผันของสงคราม เพราะได้แสดงว่าเวียดนามใต้ไม่อาจป้องกันตัวเองจากเวียดนามเหนือได้ แม้สหรัฐจะทุ่มความช่วยเหลือทางทหารอย่างมหาศาลหลายปี ด้วยจุดชัยชนะของสหรัฐนั้นไม่ชัดเจน จึงค่อย ๆ มีการถอนกำลังภาคพื้นดินของสหรัฐโดยเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายเรียก การแผลงเป็นเวียดนาม (Vietnamization) ซึ่งมุ่งยุติการเข้ามามีส่วนในสงครามของสหรัฐขณะที่โอนภารกิจต่อสู้กับคอมมิวนิสต์ให้เวียดนามใต้เอง แม้ภาคีทุกฝ่ายลงนามข้อตกลงสันติภาพปารีสในเดือนมกราคม 2516 แล้วก็ตาม แต่การสู้รบยังดำเนินต่อไป ในสหรัฐและโลกตะวันตก มีการพัฒนาขบวนการต่อต้านสงครามเวียดนามขนาดใหญ่ขึ้น ขบวนการนี้ทั้งเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมต่อต้าน (Counterculture) แห่งคริสต์ทศวรรษ 1960 และเป็นปัจจัยหนึ่งของมัน การมีส่วนร่วมทางทหารของสหรัฐยุติลงเมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2516 อันเป็นผลมาจากคำแปรญัตติเคส–เชิร์ช (Case–Church Amendment) ที่รัฐสภาสหรัฐผ่าน การยึดกรุงไซ่ง่อนโดยกองทัพประชาชนเวียดนามในเดือนเมษายน 2518 เป็นจุดสิ้นสุดของสงคราม และมีการรวมชาติเวียดนามเหนือกับเวียดนามใต้ในปีต่อมา สงครามนี้คร่าชีวิตมนุษย์ไปมหาศาล ประเมินตัวเลขทหารและพลเรือนชาวเวียดนามที่ถูกสังหารมีตั้งแต่น้อยกว่า 1 ล้านคนเล็กน้อย ไปถึงกว่า 3 ล้านคน ชาวกัมพูชาเสียชีวิตราว 2-3 แสนคนHeuveline, Patrick (2001).
ดู ความตกลงระหว่างประเทศว่าด้วยความเป็นกลางของลาวและสงครามเวียดนาม
ประเทศลาว
ลาว (ລາວ) หรือชื่ออย่างเป็นทางการคือ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (ສາທາລະນະລັດ ປະຊາທິປະໄຕ ປະຊາຊົນລາວ, อักษรย่อ: ປປ.ລາວ) เป็นประเทศที่ไม่มีทางออกสู่ทะเลในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีพื้นที่ 236,800 ตารางกิโลเมตร มีพรมแดนติดต่อกับจีน ทางทิศเหนือ ติดต่อกับพม่าทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ติดต่อกับเวียดนามทางทิศตะวันออก ติดต่อกับกัมพูชาทางทิศใต้ และติดต่อกับประเทศไทยทางทิศตะวันตก กั้นด้วยแม่น้ำโขงเป็นบางช่วง.
ดู ความตกลงระหว่างประเทศว่าด้วยความเป็นกลางของลาวและประเทศลาว
แนวร่วมปลดปล่อยแห่งชาติเวียดนามใต้
แนวร่วมปลดปล่อยแห่งชาติเวียดนามใต้ หรือ เวียดกง หรือ เหวียดกง (Mặt trận Dân tộc Giải phóng miền Nam Việt Nam หรือ Việt Cộng) ก่อตั้งเมื่อ 26 ธันวาคม พ.ศ.
ดู ความตกลงระหว่างประเทศว่าด้วยความเป็นกลางของลาวและแนวร่วมปลดปล่อยแห่งชาติเวียดนามใต้
เจนีวา
นีวา (Geneva) หรือออกเสียงในภาษาท้องถิ่นว่า เฌอแนฟว์ (Genève) เป็นเมืองใหญ่อันดับสองของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ (รองจากซือริช) ถือเป็นเมืองที่มีประชากรมากที่สุดในภาครอม็องดีอันเป็นภูมิภาคที่ใช้ภาษาฝรั่งเศสเป็นหลักในสวิตเซอร์แลนด์ นครเจนีวาตั้งอยู่บริเวณต้นแม่น้ำโรนซึ่งไหลออกจากทะเลสาบเจนีวา เจนีวามีสถานะเป็นเมืองหลวงของสาธารณรัฐแห่งรัฐเจนีวา เจนีวาถือเป็นหนึ่งในเมืองศูนย์กลางของโลก โดยเป็นศูนย์กลางทางการเงิน, ศูนย์กลางทางการทูต เจนีวาถือเป็นเมืองที่มีองค์กรระหว่างประเทศตั้งอยู่มากที่สุดในโลก ในบรรดาองค์กรเหล่านี้อาทิ หน่วยงานของสหประชาชาติและกาชาดสากล เป็นต้น ในปี 2017 เจนีวาได้รับการจัดอันดับโดย Global Financial Centres Index ให้เป็นเมืองศูนย์กลางทางการเงินอันดับ 15 ของโลก และเป็นที่ 5 ของทวีปยุโรป รองจากลอนดอน, ซือริช, แฟรงเฟิร์ต และลักเซมเบิร์ก และยังได้รับการจัดอันดับโดย Mercer's Quality of Living index ให้เป็นเมืองที่น่าอยู่ที่สุดเป็นอันดับ 8 ของโลกในปีเดียวกัน.
ดู ความตกลงระหว่างประเทศว่าด้วยความเป็นกลางของลาวและเจนีวา
ดูเพิ่มเติม
สนธิสัญญาเกี่ยวข้องกับฝรั่งเศส
- กติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม
- กติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง
- กรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
- ความตกลงปารีส
- ความตกลงระหว่างประเทศว่าด้วยความเป็นกลางของลาว
- ธรรมนูญกรุงโรมว่าด้วยศาลอาญาระหว่างประเทศ
- พิธีสารมอนทรีออล
- พิธีสารเกียวโต
- พิธีสารไนโตรเจนออกไซด์
- ระบบสนธิสัญญาแอนตาร์กติก
- สนธิสัญญาการค้าอาวุธ
- สนธิสัญญามาสทริชท์
- สนธิสัญญาลิสบอน
- สนธิสัญญาว่าด้วยการตกลงขั้นสุดท้ายเกี่ยวกับดินแดนเยอรมนี
- สนธิสัญญาไม่แพร่ขยายอาวุธนิวเคลียร์
- อนุสัญญาว่าด้วยการขจัดการเลือกปฏิบัติต่อสตรีในทุกรูปแบบ
- อนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์
- อนุสัญญาว่าด้วยการป้องกันมลพิษทางทะเลเนื่องจากการทิ้งวัสดุเหลือใช้และวัสดุอย่างอื่น
- อนุสัญญาว่าด้วยระเบิดลูกปราย
- อนุสัญญาว่าด้วยอาวุธเคมี
- อนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยกฎหมายทะเล
- อนุสัญญาสิทธิบัตรสตราสบวร์ก
- อนุสัญญาห้ามอาวุธชีวภาพ
- อนุสัญญาแรมซาร์
สนธิสัญญาเกี่ยวข้องกับสหภาพโซเวียต
- กฎบัตรสหประชาชาติ
- กติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม
- กติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง
- กติกาสัญญาความเป็นกลางโซเวียต–ญี่ปุ่น
- กติกาสัญญาเคลลอก–บริยอง
- การสงบศึกมอสโก
- ความตกลงระหว่างประเทศว่าด้วยความเป็นกลางของลาว
- ปฏิญญามอสโก
- พิธีสารมอนทรีออล
- พิธีสารไนโตรเจนออกไซด์
- ระบบสนธิสัญญาแอนตาร์กติก
- สนธิสัญญาการก่อตั้งสหภาพโซเวียต
- สนธิสัญญาควบคุมอาวุธบนพื้นสมุทร
- สนธิสัญญารัฐออสเตรีย
- สนธิสัญญาว่าด้วยการตกลงขั้นสุดท้ายเกี่ยวกับดินแดนเยอรมนี
- สนธิสัญญาว่าด้วยความช่วยเหลือซึ่งกันและกันฝรั่งเศส-โซเวียต
- สนธิสัญญาสฟาลบาร์
- สนธิสัญญาสันติภาพมอสโก
- สนธิสัญญาเขตแดนเยอรมนี–สหภาพโซเวียต
- สนธิสัญญาไม่รุกรานกันระหว่างจีน-โซเวียต
- สนธิสัญญาไม่แพร่ขยายอาวุธนิวเคลียร์
- อนุสัญญากรุงเวียนนาว่าด้วยกฎหมายสนธิสัญญา
- อนุสัญญาปารีสว่าด้วยการคุ้มครองทรัพย์สินอุตสาหกรรม
- อนุสัญญาว่าด้วยการขจัดการเลือกปฏิบัติต่อสตรีในทุกรูปแบบ
- อนุสัญญาว่าด้วยการป้องกันมลพิษทางทะเลเนื่องจากการทิ้งวัสดุเหลือใช้และวัสดุอย่างอื่น
- อนุสัญญาว่าด้วยการป้องกันและลงโทษความผิดอาญาฐานฆ่าล้างเผ่าพันธุ์
- อนุสัญญาห้ามอาวุธชีวภาพ
- อนุสัญญาเจนีวาฉบับที่สอง
- อนุสัญญาเจนีวาฉบับที่หนึ่ง
- อนุสัญญาแรมซาร์
สนธิสัญญาเกี่ยวข้องกับสหรัฐ
- กฎบัตรสหประชาชาติ
- กติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง
- กติกาสัญญาเคลลอก–บริยอง
- กรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
- ความตกลงทั่วไปว่าด้วยภาษีศุลกากรและการค้า
- ความตกลงปารีส
- ความตกลงระหว่างประเทศว่าด้วยความเป็นกลางของลาว
- พิธีสารมอนทรีออล
- พิธีสารไนโตรเจนออกไซด์
- ระบบสนธิสัญญาแอนตาร์กติก
- สนธิสัญญาควบคุมอาวุธบนพื้นสมุทร
- สนธิสัญญานาวิกวอชิงตัน
- สนธิสัญญารัฐออสเตรีย
- สนธิสัญญาว่าด้วยการจำกัดและการลดอาวุธทางรัฐนาวี
- สนธิสัญญาสฟาลบาร์
- สนธิสัญญาสี่อำนาจ
- สนธิสัญญาแซ็ง-แฌร์แม็ง-อ็อง-แล (ค.ศ. 1919)
- สนธิสัญญาแบร์น
- สนธิสัญญาแวร์ซายน้อย
- สนธิสัญญาไมตรีและพาณิชย์ ค.ศ. 1833
- สนธิสัญญาไม่แพร่ขยายอาวุธนิวเคลียร์
- อนุสัญญากรุงบัวโนสไอเรส
- อนุสัญญากรุงเบิร์นว่าด้วยการคุ้มครองงานวรรณกรรมและศิลปกรรม
- อนุสัญญาปารีสว่าด้วยการคุ้มครองทรัพย์สินอุตสาหกรรม
- อนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์
- อนุสัญญาว่าด้วยการป้องกันมลพิษทางทะเลเนื่องจากการทิ้งวัสดุเหลือใช้และวัสดุอย่างอื่น
- อนุสัญญาว่าด้วยการป้องกันและลงโทษความผิดอาญาฐานฆ่าล้างเผ่าพันธุ์
- อนุสัญญาว่าด้วยอาวุธเคมี
- อนุสัญญาห้ามอาวุธชีวภาพ
- อนุสัญญาเจนีวาฉบับที่สอง
- อนุสัญญาเจนีวาฉบับที่หนึ่ง
- อนุสัญญาเมตริก
- อนุสัญญาแรมซาร์
สนธิสัญญาเกี่ยวข้องกับสหราชอาณาจักร
- กฎบัตรสหประชาชาติ
- กติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม
- กติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง
- กติกาสัญญาเคลลอก–บริยอง
- กรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
- ความตกลงทั่วไปว่าด้วยภาษีศุลกากรและการค้า
- ความตกลงปารีส
- ความตกลงมิวนิก
- ความตกลงระหว่างประเทศว่าด้วยความเป็นกลางของลาว
- ธรรมนูญกรุงโรมว่าด้วยศาลอาญาระหว่างประเทศ
- ปฏิญญาร่วมจีน-อังกฤษ
- พันธมิตรทางการทหารอังกฤษ-โปแลนด์
- พิธีสารมอนทรีออล
- พิธีสารเกียวโต
- พิธีสารไนโตรเจนออกไซด์
- ระบบสนธิสัญญาแอนตาร์กติก
- สนธิสัญญาการค้าอาวุธ
- สนธิสัญญาควบคุมอาวุธบนพื้นสมุทร
- สนธิสัญญามาสทริชท์
- สนธิสัญญารัฐออสเตรีย
- สนธิสัญญาลิสบอน
- สนธิสัญญาว่าด้วยการจำกัดและการลดอาวุธทางรัฐนาวี
- สนธิสัญญาสฟาลบาร์
- สนธิสัญญาโลคาร์โน
- สนธิสัญญาโลซาน
- สนธิสัญญาไม่แพร่ขยายอาวุธนิวเคลียร์
- องค์การสนธิสัญญากลาง
- อนุสัญญากรุงเวียนนาว่าด้วยกฎหมายสนธิสัญญา
- อนุสัญญาว่าด้วยการขจัดการเลือกปฏิบัติต่อสตรีในทุกรูปแบบ
- อนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์
- อนุสัญญาว่าด้วยการป้องกันมลพิษทางทะเลเนื่องจากการทิ้งวัสดุเหลือใช้และวัสดุอย่างอื่น
- อนุสัญญาว่าด้วยการป้องกันและลงโทษความผิดอาญาฐานฆ่าล้างเผ่าพันธุ์
- อนุสัญญาว่าด้วยระเบิดลูกปราย
- อนุสัญญาว่าด้วยอาวุธเคมี
- อนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยกฎหมายทะเล
- อนุสัญญาสิทธิบัตรสตราสบวร์ก
- อนุสัญญาห้ามอาวุธชีวภาพ
- อนุสัญญาเจนีวาฉบับที่สอง
- อนุสัญญาเจนีวาฉบับที่หนึ่ง
- อนุสัญญาแรมซาร์
สนธิสัญญาเกี่ยวข้องกับสาธารณรัฐประชาชนจีน
- กติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม
- กรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
- ความตกลงปารีส
- ความตกลงระหว่างประเทศว่าด้วยความเป็นกลางของลาว
- ปฏิญญาร่วมจีน-อังกฤษ
- พิธีสารมอนทรีออล
- พิธีสารเกียวโต
- ระบบสนธิสัญญาแอนตาร์กติก
- สนธิสัญญาควบคุมอาวุธบนพื้นสมุทร
- สนธิสัญญาไม่แพร่ขยายอาวุธนิวเคลียร์
- อนุสัญญากรุงเบิร์นว่าด้วยการคุ้มครองงานวรรณกรรมและศิลปกรรม
- อนุสัญญากรุงเวียนนาว่าด้วยกฎหมายสนธิสัญญา
- อนุสัญญาปารีสว่าด้วยการคุ้มครองทรัพย์สินอุตสาหกรรม
- อนุสัญญาว่าด้วยการขจัดการเลือกปฏิบัติต่อสตรีในทุกรูปแบบ
- อนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์
- อนุสัญญาว่าด้วยการป้องกันมลพิษทางทะเลเนื่องจากการทิ้งวัสดุเหลือใช้และวัสดุอย่างอื่น
- อนุสัญญาว่าด้วยการป้องกันและลงโทษความผิดอาญาฐานฆ่าล้างเผ่าพันธุ์
- อนุสัญญาว่าด้วยอาวุธเคมี
- อนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยกฎหมายทะเล
- อนุสัญญาห้ามอาวุธชีวภาพ
- อนุสัญญาเจนีวาฉบับที่สอง
- อนุสัญญาเจนีวาฉบับที่หนึ่ง
- อนุสัญญาเมตริก
- อนุสัญญาแรมซาร์
- โครงการความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างจีน-ไต้หวัน
สนธิสัญญาเกี่ยวข้องกับอินเดีย
- กติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม
- กติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง
- กรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
- ความตกลงปารีส
- ความตกลงระหว่างประเทศว่าด้วยความเป็นกลางของลาว
- พิธีสารมอนทรีออล
- พิธีสารเกียวโต
- ระบบสนธิสัญญาแอนตาร์กติก
- สนธิสัญญาควบคุมอาวุธบนพื้นสมุทร
- สนธิสัญญาแบร์น
- อนุสัญญาปารีสว่าด้วยการคุ้มครองทรัพย์สินอุตสาหกรรม
- อนุสัญญาว่าด้วยการขจัดการเลือกปฏิบัติต่อสตรีในทุกรูปแบบ
- อนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์
- อนุสัญญาว่าด้วยการป้องกันและลงโทษความผิดอาญาฐานฆ่าล้างเผ่าพันธุ์
- อนุสัญญาว่าด้วยอาวุธเคมี
- อนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยกฎหมายทะเล
- อนุสัญญาห้ามอาวุธชีวภาพ
- อนุสัญญาเมตริก
- อนุสัญญาแรมซาร์
สนธิสัญญาเกี่ยวข้องกับเวียดนามเหนือ
- ความตกลงระหว่างประเทศว่าด้วยความเป็นกลางของลาว
- สนธิสัญญาแบร์น
- อนุสัญญาปารีสว่าด้วยการคุ้มครองทรัพย์สินอุตสาหกรรม
- อนุสัญญาเจนีวาฉบับที่สอง
- อนุสัญญาเจนีวาฉบับที่หนึ่ง
สนธิสัญญาเกี่ยวข้องกับเวียดนามใต้
- ความตกลงระหว่างประเทศว่าด้วยความเป็นกลางของลาว
- สนธิสัญญาซานฟรานซิสโก
- อนุสัญญาว่าด้วยการป้องกันและลงโทษความผิดอาญาฐานฆ่าล้างเผ่าพันธุ์
- อนุสัญญาเจนีวาฉบับที่สอง
- อนุสัญญาเจนีวาฉบับที่หนึ่ง
สนธิสัญญาเกี่ยวข้องกับแคนาดา
- กฎบัตรสหประชาชาติ
- กติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม
- กติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง
- กติกาสัญญาเคลลอก–บริยอง
- กรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
- ความตกลงทั่วไปว่าด้วยภาษีศุลกากรและการค้า
- ความตกลงปารีส
- ความตกลงระหว่างประเทศว่าด้วยความเป็นกลางของลาว
- ธรรมนูญกรุงโรมว่าด้วยศาลอาญาระหว่างประเทศ
- พิธีสารมอนทรีออล
- พิธีสารไนโตรเจนออกไซด์
- ระบบสนธิสัญญาแอนตาร์กติก
- สนธิสัญญาควบคุมอาวุธบนพื้นสมุทร
- สนธิสัญญาซานฟรานซิสโก
- สนธิสัญญาแบร์น
- สนธิสัญญาไม่แพร่ขยายอาวุธนิวเคลียร์
- อนุสัญญากรุงเบิร์นว่าด้วยการคุ้มครองงานวรรณกรรมและศิลปกรรม
- อนุสัญญากรุงเวียนนาว่าด้วยกฎหมายสนธิสัญญา
- อนุสัญญาปารีสว่าด้วยการคุ้มครองทรัพย์สินอุตสาหกรรม
- อนุสัญญาว่าด้วยการขจัดการเลือกปฏิบัติต่อสตรีในทุกรูปแบบ
- อนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์
- อนุสัญญาว่าด้วยการป้องกันมลพิษทางทะเลเนื่องจากการทิ้งวัสดุเหลือใช้และวัสดุอย่างอื่น
- อนุสัญญาว่าด้วยการป้องกันและลงโทษความผิดอาญาฐานฆ่าล้างเผ่าพันธุ์
- อนุสัญญาว่าด้วยระเบิดลูกปราย
- อนุสัญญาว่าด้วยอาวุธเคมี
- อนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยกฎหมายทะเล
- อนุสัญญาห้ามอาวุธชีวภาพ
- อนุสัญญาเจนีวาฉบับที่สอง
- อนุสัญญาเจนีวาฉบับที่หนึ่ง
- อนุสัญญาเมตริก
- อนุสัญญาแรมซาร์
สนธิสัญญาเกี่ยวข้องกับไทย
- กฎบัตรสหประชาชาติ
- กฎบัตรอาเซียน
- กติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม
- กติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง
- กติกาสัญญาเคลลอก–บริยอง
- กรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
- ความตกลงทั่วไปว่าด้วยภาษีศุลกากรและการค้า
- ความตกลงปารีส
- ความตกลงระหว่างประเทศว่าด้วยความเป็นกลางของลาว
- ความตกลงสมบูรณ์แบบ
- ความตกลงอาเซียนว่าด้วยมลพิษจากหมอกควันข้ามแดน
- ปฏิญญากรุงเทพฯ
- พิธีสารมอนทรีออล
- พิธีสารเกียวโต
- สนธิสัญญาสยาม–ฝรั่งเศส ร.ศ. 122
- สนธิสัญญาห้ามอาวุธนิวเคลียร์
- สนธิสัญญาอังกฤษ–สยาม พ.ศ. 2452
- สนธิสัญญาเขตปลอดอาวุธนิวเคลียร์เอเชียตะวันออกเฉียงใต้
- สนธิสัญญาเบอร์นี
- สนธิสัญญาเบาว์ริง
- สนธิสัญญาแซ็ง-แฌร์แม็ง-อ็อง-แล (ค.ศ. 1919)
- สนธิสัญญาแบร์น
- สนธิสัญญาไมตรีและพาณิชย์ ค.ศ. 1833
- สนธิสัญญาไม่แพร่ขยายอาวุธนิวเคลียร์
- อนุสัญญากรุงเบิร์นว่าด้วยการคุ้มครองงานวรรณกรรมและศิลปกรรม
- อนุสัญญาปารีสว่าด้วยการคุ้มครองทรัพย์สินอุตสาหกรรม
- อนุสัญญาว่าด้วยการขจัดการเลือกปฏิบัติต่อสตรีในทุกรูปแบบ
- อนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์
- อนุสัญญาว่าด้วยอาวุธเคมี
- อนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยกฎหมายทะเล
- อนุสัญญาห้ามอาวุธชีวภาพ
- อนุสัญญาเจนีวาฉบับที่สอง
- อนุสัญญาเจนีวาฉบับที่หนึ่ง
- อนุสัญญาเมตริก
- อนุสัญญาแรมซาร์
หรือที่รู้จักกันในชื่อ ความตกลงนานาชาติว่าด้วยความเป็นกลางของลาว