โลโก้
ยูเนี่ยนพีเดีย
การสื่อสาร
ดาวน์โหลดได้จาก Google Play
ใหม่! ดาวน์โหลด ยูเนี่ยนพีเดีย บน Android ™ของคุณ!
ติดตั้ง
เร็วกว่าเบราว์เซอร์!
 

หลี่ เหลียงเหว่ย

ดัชนี หลี่ เหลียงเหว่ย

หลี่ เหลียงเหว่ย (จีนตัวเต็ม: 呂良偉; จีนตัวย่อ: 吕良伟; พินอิน: Lǚ Liángwěi) ดารานักแสดงชาวฮ่องกง และผู้ช่วยผู้กำกับภาพยนตร์ที่มีชื่อเสียง โดยใช้ชื่อภาษาอังกฤษว่า เรย์ หลุ่ย (Ray Lui; ชื่อเล่น: "หลุ่ย") เกิดเมื่อวันที่ 22 ธันวาคม ค.ศ. 1956 ที่เวียดนาม ในครอบครัวชาวฮัว หรือชาวจีนที่อาศัยอยู่ในเวียดนาม โดยมีพ่อเป็นนักธุรกิจชาวจีนที่อพยพสู่เวียดนามในช่วงทศวรรษที่ 40 โดยเป็นลูกคนกลาง มีพี่ชายและพี่สาวอย่างละคน และมีน้องชายอีก 2 คน ในปี ค.ศ. 1967 ระหว่างที่มีสงครามเวียดนาม ครอบครัวได้อพยพย้ายไปพำนักที่ฮ่องกง และตัวหลี่ เหลียงเหว่ยเองก็เข้าสู่แวดวงบันเทิง ด้วยการเป็นนักเรียนการแสดงที่สถาบันการแสดงของทีวีบี ในช่วงทศวรรษที่ 70 มีชื่อเสียงขึ้นมาในปี ค.ศ. 1980 ด้วยการรับบท "ติงลี่" ในละครโทรทัศน์เรื่อง เจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้ คู่กับ โจว เหวินฟะ และจ้าว หยาจือ ซึ่งประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก ทำให้ได้เป็นนักแดงที่มีชื่อเสียงขึ้นมา ซึ่งก่อนหน้านั้น หลี่ เหลียงเหว่ยเป็นนักแสดงในบทประกอบในละครโทรทัศน์เรื่อง มังกรหยก เท่านั้น นอกจากนี้ หลี่ เหลียงเหว่ยเคยแสดงนำในภาพยนตร์ไทย เรื่อง สงครามกับความรัก ในปี..

65 ความสัมพันธ์: ชาวจีนชื่อเล่นฟงอวิ๋น ขี่พายุทะลุฟ้าพ.ศ. 2499พ.ศ. 2510พ.ศ. 2523พ.ศ. 2532พ.ศ. 2533พ.ศ. 2544พ.ศ. 2549พ.ศ. 2550พ.ศ. 2554พ.ศ. 2559พระโพธิธรรมพระโคตมพุทธเจ้าพระเจ้าชางโจ้วพินอินการสมรสฐานข้อมูลภาพยนตร์ไทยภาพยนตร์ภาพยนตร์ไทยภาษาอังกฤษละครชุดละครโทรทัศน์ลิโป้ลุยบ้าเลือดลฺหวี่ ปู้เหวย์สรพงศ์ ชาตรีสหรัฐสถานีโทรทัศน์แห่งเอเชียสงครามเวียดนามสงป้าหลี่ ปิงปิงหง ซิ่วเฉฺวียนอักษรจีนตัวย่ออักษรจีนตัวเต็มอุรัสยา เสปอร์บันด์ฮ่องกงผู้กำกับภาพยนตร์ฌ้อปาอ๋องฌ้อปาอ๋อง ยอดขุนพลลำน้ำเลือดจักรพรรดิยงเจิ้งจักรพรรดิฮั่นเกาจู่จักรพรรดิฉงเจินจั่น เจาจิ้งจอกภูเขาหิมะทรานส์ฟอร์มเมอร์ส มหาวิบัติยุคสูญพันธุ์คริสต์ทศวรรษ 1940คริสต์ทศวรรษ 1970คนตัดคนภาคพิเศษ ตอน กำเนิดเกาจิ้ง...ประเทศไทยประเทศเวียดนามปิดเมืองล่าโจรนักธุรกิจนักแสดงโจว ไห่เม่ยโจว เหวินฟะเหอ เจียจิ้งเอไกหว่า ภาค 2เจิ้ง เจียอิ่งเจ้าพ่อกวางตุ้งเจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้เฉาไก้108 ผู้ยิ่งใหญ่เขาเหลียงซาน22 ธันวาคม ขยายดัชนี (15 มากกว่า) »

ชาวจีน

รูปวาดในกรุงปักกิ่งแสดงถึงชนเผ่าทั้ง 56 ของจีน ชาวจีน อาจหมายถึง.

ใหม่!!: หลี่ เหลียงเหว่ยและชาวจีน · ดูเพิ่มเติม »

ชื่อเล่น

ื่อเล่น คือ ชื่อของบุคคลหรือสิ่งหนึ่ง ซึ่งไม่ใช่ชื่อจริง ไม่ใช่ชื่ออย่างเป็นทางการ มักใช้แทนหรือใช้ควบคู่ไปกับชื่อที่เป็นทางการ มักใช้เรียกขานกันในหมู่เพื่อนฝูงหรือคนที่รู้จักกันเท่านั้น เพื่อให้สะดวกในการเรียก โดยมักเป็นคำพยางค์เดียว แต่บางครั้งพบว่ามีคนที่มีชื่อเล่นถึง 3 พยางค์ก็มี และยังมีคนที่มีชื่อเล่นยาวกว่าชื่อจริงก็มีเช่นกัน.

ใหม่!!: หลี่ เหลียงเหว่ยและชื่อเล่น · ดูเพิ่มเติม »

ฟงอวิ๋น ขี่พายุทะลุฟ้า

ฟงอวิ๋น ขี่พายุทะลุฟ้า (The Storm Riders) เป็นภาพยนตร์ นิยาย หนังสือการ์ตูนจีนกำลังภายใน รวมทั้งเกมส์คอมพิวเตอร.

ใหม่!!: หลี่ เหลียงเหว่ยและฟงอวิ๋น ขี่พายุทะลุฟ้า · ดูเพิ่มเติม »

พ.ศ. 2499

ทธศักราช 2499 ตรงกับปีคริสต์ศักราช 1956 เป็นปีอธิกสุรทินที่วันแรกเป็นวันอาทิตย์ตามปฏิทินเกรกอเรียน.

ใหม่!!: หลี่ เหลียงเหว่ยและพ.ศ. 2499 · ดูเพิ่มเติม »

พ.ศ. 2510

ทธศักราช 2510 ตรงกับปีคริสต์ศักราช 1967 เป็นปีปกติสุรทินที่วันแรกเป็นวันอาทิตย์ตามปฏิทินเกรกอเรียน.

ใหม่!!: หลี่ เหลียงเหว่ยและพ.ศ. 2510 · ดูเพิ่มเติม »

พ.ศ. 2523

ทธศักราช 2523 ตรงกับปีคริสต์ศักราช 1980 เป็นปีอธิกสุรทินที่วันแรกเป็นวันอังคารตามปฏิทินเกรกอเรียน.

ใหม่!!: หลี่ เหลียงเหว่ยและพ.ศ. 2523 · ดูเพิ่มเติม »

พ.ศ. 2532

ทธศักราช 2532 ตรงกับปีคริสต์ศักราช 1989 เป็นปีปกติสุรทินที่วันแรกเป็นวันอาทิตย์ตามปฏิทินเกรกอเรียน.

ใหม่!!: หลี่ เหลียงเหว่ยและพ.ศ. 2532 · ดูเพิ่มเติม »

พ.ศ. 2533

ทธศักราช 2533 ตรงกับปีคริสต์ศักราช 1990 เป็นปีปกติสุรทินที่วันแรกเป็นวันจันทร์ตามปฏิทินเกรกอเรียน.

ใหม่!!: หลี่ เหลียงเหว่ยและพ.ศ. 2533 · ดูเพิ่มเติม »

พ.ศ. 2544

ทธศักราช 2544 ตรงกับปีคริสต์ศักราช 2001 เป็นปีปกติสุรทินที่วันแรกเป็นวันจันทร์ ตามปฏิทินเกรกอเรียน.

ใหม่!!: หลี่ เหลียงเหว่ยและพ.ศ. 2544 · ดูเพิ่มเติม »

พ.ศ. 2549

ทธศักราช 2549 ตรงกับปีคริสต์ศักราช 2006 เป็นปีปกติสุรทินที่วันแรกเป็นวันอาทิตย์ตามปฏิทินเกรกอเรียน และเป็น.

ใหม่!!: หลี่ เหลียงเหว่ยและพ.ศ. 2549 · ดูเพิ่มเติม »

พ.ศ. 2550

ทธศักราช 2550 ตรงกับปีคริสต์ศักราช 2007 เป็นปีปกติสุรทินที่วันแรกเป็นวันจันทร์ตามปฏิทินเกรกอเรียน และเป็น.

ใหม่!!: หลี่ เหลียงเหว่ยและพ.ศ. 2550 · ดูเพิ่มเติม »

พ.ศ. 2554

ทธศักราช 2554 ตรงกับปีคริสต์ศักราช 2011 เป็นปีปกติสุรทินที่วันแรกเป็นวันเสาร์ตามปฏิทินเกรกอเรียน และเป็น.

ใหม่!!: หลี่ เหลียงเหว่ยและพ.ศ. 2554 · ดูเพิ่มเติม »

พ.ศ. 2559

ทธศักราช 2559 ตรงกับปีคริสต์ศักราช 2016 เป็นปีอธิกสุรทินที่วันแรกเป็นวันศุกร์ และเป็น.

ใหม่!!: หลี่ เหลียงเหว่ยและพ.ศ. 2559 · ดูเพิ่มเติม »

พระโพธิธรรม

'''"พระโพธิธรรม"''' โดยโยะชิโทะชิ (ค.ศ. 1877) พระโพธิธรรม (โพธิธรฺม, เทวนาครี बोधिधर्म; อักษรโรมัน (NLAC): bōdhidharma; 菩提達摩, พินอิน: Pútídámó, Dámó) แต่ในนิยายกำลังภายในในประเทศไทยมักเรียก ตักม้อ หรือ ตั๊กม้อ (สำเนียงแต้จิ๋ว ตรงกับจีนกลางว่า ต๋าหมอ) เป็นพระภิกษุในศาสนาพุทธฝ่ายมหายานนิกายเซน มีประวัติไม่ชัดเจนนัก แต่เชื่อกันว่ามีตัวตนอยู่จริง และเป็นผู้สถาปนาวัดเส้าหลิน ในจีน ทั้งยังได้เผยแพร่วิชามวยจีนในหมู่พระเณรของวัดเส้าหลิน จนมีชื่อเสียงมาจวบจนทุกวันนี้ ตามตำนานระบุว่า ท่านเกิดเมื่อราว..

ใหม่!!: หลี่ เหลียงเหว่ยและพระโพธิธรรม · ดูเพิ่มเติม »

พระโคตมพุทธเจ้า

ระโคตมพุทธเจ้า มีพระนามเดิมในภาษาบาลีว่า สิทธัตถะ โคตมะ หรือในภาษาสันสกฤตว่า สิทฺธารฺถ เคาตมะ (อ่านว่า /สิดทาด —/) (เทวนาครี: सिद्धार्थ गौतम) เป็นพระพุทธเจ้าพระองค์ปัจจุบัน ผู้เป็นศาสดาของศาสนาพุทธ สาวกของพระองค์ไม่นิยมออกพระนามโดยตรง แต่เรียกตามพระสมัญญาว่า "ภควา" (พระผู้มีพระภาคเจ้า) คัมภีร์พุทธศาสนาทั้งนิกายเถรวาทและนิกายมหายานบันทึกตรงกันว่า พระโคตมพุทธเจ้าทรงดำรงพระชนมชีพอยู่ระหว่าง 80 ปีก่อนพุทธศักราช จนถึงเริ่มพุทธศักราชซึ่งเป็นวันปรินิพพาน ตรงกับ 543 ปี ก่อนคริสตกาลตามตำราไทยซึ่งอ้างอิงปฏิทินสุริยคติไทยและปฏิทินจันทรคติไทย และตรงกับ 483 ปีก่อนคริสตกาลตามปฏิทินสากล พระโคตมพุทธเจ้าเป็นพระราชโอรสของพระเจ้าสุทโธทนะและพระนางสิริมหามายาแห่งศากยวงศ์ โคตมโคตร อันเป็นราชสกุลวงศ์ที่ปกครองกรุงกบิลพัสดุ์มาช้านาน ก่อนออกผนวชทรงดำรงพระอิสสริยยศเป็นรัชทายาท เมื่อเสด็จออกผนวชและบรรลุสัมมาสัมโพธิญาณเป็นพระพุทธเจ้าแล้ว ทรงได้รับการถวายพระนามต่าง ๆ อาทิ พระศากยมุนี, พระพุทธโคดม, พระโคดมพุทธเจ้า ฯลฯ แต่ทรงเรียกพระองค์เองว่า ตถาคต แปลว่า พระผู้ไปแล้วอย่างนั้น คือ ทรงปฏิญาณว่า ทรงพ้นจากทุกข์ทั้งปวง สำเร็จแล้วซึ่งอรหัตผล.

ใหม่!!: หลี่ เหลียงเหว่ยและพระโคตมพุทธเจ้า · ดูเพิ่มเติม »

พระเจ้าชางโจ้ว

้ว ตามสำเนียงกลาง หรือ ติว ตามสำเนียงฮกเกี้ยน เป็นชื่อเชิงเหยียดหยามสำหรับใช้เรียก ตี้ ซิน (帝辛) พระเจ้าแผ่นดินจีนพระองค์สุดท้ายแห่งราชวงศ์ชาง คำว่า "โจ้ว" นี้หมายถึง เตี่ยวรั้งก้นม้า (horse crupper) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของอานม้าที่ม้ามักทำสกปรก พระเจ้าโจ้วยังมีพระนามอื่นอีก คือ โจ้ว ซิน (紂辛).

ใหม่!!: หลี่ เหลียงเหว่ยและพระเจ้าชางโจ้ว · ดูเพิ่มเติม »

พินอิน

นอิน หรือ ฮั่นยฺหวี่พินอิน (แปลว่า สะกดเสียงภาษาจีน) คือระบบในการถอดเสียงภาษาจีนมาตรฐาน ด้วยตัวอักษรละติน ความหมายของพินอินคือ "การรวมเสียงเข้าด้วยกัน" (โดยนัยก็คือ การเขียนแบบสัทศาสตร์ การสะกด การถอดเสียง หรือการทับศัพท์) พินอินเริ่มต้นในปี พ.ศ. 2501 และเริ่มใช้กันในปี พ.ศ. 2522 โดย รัฐบาลของสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยใช้แทนที่ระบบการถอดเสียงแบบเก่า เช่น ระบบเวดและไจลส์ และระบบจู้อิน นอกจากนี้ ยังมีการออกแบบระบบอื่น ๆ สำหรับนำไปใช้กับภาษาพูดของจีนในถิ่นต่าง ๆ และภาษาของชนกลุ่มน้อยที่ไม่ใช้ภาษาฮั่น ในสาธารณรัฐประชาชนจีนด้วย นับแต่นั้นมา พินอินก็เป็นที่ยอมรับจากสถาบันนานาชาติหลายแห่ง รวมทั้งรัฐบาลสิงคโปร์ หอสมุดรัฐสภาอเมริกัน และสมาคมหอสมุดอเมริกัน โดยถือว่าเป็นระบบการถอดเสียงที่เหมาะสมสำหรับภาษาจีนกลาง ครั้นปี พ.ศ. 2522 องค์การมาตรฐานนานาชาติ (ISO) ก็ได้รับเอาพินอินเป็นระบบมาตรฐาน (ISO 7098) ในการถ่ายทอดเสียงภาษาจีนปัจจุบันด้วยอักษรโรมัน (the standard romanization for modern Chinese) สิ่งสำคัญที่ต้องระลึกไว้ก็คือ พินอินนั้น เป็นการทับศัพท์ด้วยอักษรโรมัน (Romanization) มิใช่การถอดเสียงแบบภาษาอังกฤษ (Anglicization) นั่นคือ การกำหนดให้ใช้ตัวอักษรตัวหนึ่ง สำหรับแทนเสียงหนึ่ง ๆ ในภาษาจีนไว้อย่างตายตัว เช่น b และ d ในระบบพินอิน เป็นเสียง "ป" และ "ต" ตามลำดับ ซึ่งแตกต่างจากระบบการออกเสียงส่วนใหญ่ ไม่ว่าอังกฤษ ฝรั่งเศส หรือภาษาอื่นในยุโรป ขณะที่อักษร j หรือ q นั้นมีเสียงไม่ตรงกับในภาษาอังกฤษเลย กล่าวสั้น ๆ ก็คือ พินอินมุ่งที่จะใช้อักษรโรมัน เพื่อแทนเสียงใดเสียงหนึ่งโดยเฉพาะ เพื่อความสะดวกในการเขียน มิได้ยืมเสียงจากระบบของอักษรโรมันมาใช้ การใช้ระบบนี้นอกจากทำให้ชาวต่างชาติเขียนอ่านภาษาจีนได้สะดวกแล้ว ยังสามารถใช้กับคอมพิวเตอร์ได้สะดวกอย่างยิ่งด้วย ต่อไปนี้เป็นการถอดเสียงภาษาจีน (ที่เขียนด้วยอักษรโรมันในระบบพินอิน) ด้วยอักษรไทย โปรดสังเกตว่า บางหน่วยเสียงในภาษาจีนไม่มีหน่วยเสียงที่ตรงกันในภาษาไทย จึงต้องอนุโลมใช้อักษรที่ใกล้เคียง ในที่นี้จึงมีอักษรไทยบางตัว ที่ต้องใช้แทนหน่วยเสียงในภาษาจีนมากกว่าหนึ่งหน่วยเสียง ทั้งนี้เพื่อเป็น "เกณฑ์อย่างคร่าว ๆ" สำหรับการเขียนคำทับศัพท์ภาษาจีน.

ใหม่!!: หลี่ เหลียงเหว่ยและพินอิน · ดูเพิ่มเติม »

การสมรส

การสมรส เป็นการรวมกันทางสังคมหรือสัญญาตามกฎหมายระหว่างคู่สมรสที่สร้างสิทธิและข้อผูกพันระหว่างคู่สมรสด้วยกัน ระหว่งคู่สมรสและบุตร และระหว่างคู่สมรสกับญาติโดยการสมรส นิยามของการสมรสแตกต่างกันไปในแต่ละวัฒนธรรม แต่โดยหลักแล้วเป็นสถาบันซึ่งความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล ซึ่งมักเป็นความสัมพันธ์แบบใกล้ชิดหรือความสัมพันธ์ทางเพศ ได้รับการรับรอง เมื่อนิยามอย่างกว้าง การสมรสถูกพิจารณาว่าเป็นวัฒนธรรมสากล ในหลายวัฒนธรรม การสมรสถูกทำให้เป็นทางการผ่านพิธีแต่งงาน ในแง่ของการรับรองตามกฎหมาย รัฐเอกราชและเขตอำนาจอื่นส่วนมากจำกัดการสมรสไว้เฉพาะระหว่างคู่สมรสต่างเพศหรือสองบุคคลที่มีเพศภาวะตรงข้ามกันในสองเพศภาวะ (gender binary) และบางรัฐเอกราชและเขตอำนาจอื่นอนุญาตการสมรสที่มีภรรยาหลายคนได้ นับแต่ปี 2543 หลายประเทศและบางเขตอำนาจอื่นอนุญาตให้การสมรสเพศเดียวกันชอบด้วยกฎหมาย ในบางวัฒนธรรม แนะนำหรือบังคับให้มีการสมรสก่อนมีกิจกรรมทางเพศใด ๆ บุคคลสมรสด้วยหลายเหตุผล มีทั้งทางกฎหมาย สังคม ลิบิโด อารมณ์ การเงิน จิตวิญญาณและศาสนา การสมรสสามารถกระทำในพิธีทางกฎหมายฝ่ายฆราวาส หรือทางฝ่ายศาสนาก็ได้ โดยปกติการสมรสสร้างข้อผูกพันที่เป็นนามธรรมหรือทางกฎหมายระหว่างปัจเจกบุคคลที่เกี่ยวข้อง บางวัฒนธรรมอนุญาตให้เลิกการสมรสได้ผ่านการหย่าร้างหรือการเพิกถอนการสมรส การสมรสที่มีคู่ครองหลายคนอาจยังเกิดขึ้นแม้จะมีกฎหมายประจำชาติก็ตาม รัฐ องค์การ ฝ่ายศาสนา กลุ่มชนเผ่า ชุมชนท้องถิ่นหรือผู้เท่าเทียมกันสามารถรับรองการสมรสได้ มักถูกมองว่าเป็นสัญญา การสมรสตามกฎหมายเป็นมโนทัศน์ทางกฎหมายที่มองการสมรสว่าเป็นสถาบันของรัฐโดยไม่เกี่ยวข้องกับศาสนา ตามกฎหมายการสมรสของเขตอำนาจ การบังคับสมรส (forced marriage) มิชอบด้วยกฎหมายในบางเขตอำน.

ใหม่!!: หลี่ เหลียงเหว่ยและการสมรส · ดูเพิ่มเติม »

ฐานข้อมูลภาพยนตร์ไทย

นข้อมูลภาพยนตร์ไทย (Thai Film Database) เป็นฐานข้อมูลออนไลน์รวบรวมเกี่ยวกับเรื่องราวของ นักแสดง ผู้กำกับ และบุคคลที่เกี่ยวข้องในวงการภาพยนตร์ไทย เป็นส่วนหนึ่งของมูลนิธิหนังไทย และเว็บไซต์ http://www.thaifilm.com เว็บไซต์ฐานข้อมูลภาพยนตร์ไทย เริ่มเปิดใช้งานตั้งแต่ปี..

ใหม่!!: หลี่ เหลียงเหว่ยและฐานข้อมูลภาพยนตร์ไทย · ดูเพิ่มเติม »

ภาพยนตร์

กล้องถ่ายภาพเคลื่อนไหวของฟ็อกซ์ในยุคแรก ๆ ภาพยนตร์ หรือ หนัง คือ กระบวนการบันทึกภาพด้วยฟิล์ม แล้วนำออกฉายให้เห็นภาพเคลื่อนไหว ภาพที่ปรากฏบนฟิล์มภาพยนตร์หลังจากผ่านกระบวนการถ่ายทำแล้วเป็นเพียงภาพนิ่งจำนวนมาก ที่มีอิริยาบถหรือแสดงอาการเคลื่อนไหวเปลี่ยนแปลงไปทีละน้อยต่อเนื่องกันเป็นช่วงๆ ตามเรื่องราวที่ได้รับการถ่ายทำและตัดต่อมา ซึ่งอาจเป็นเรื่องราวหรือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง หรือเป็นการแสดงให้เหมือนจริง หรืออาจเป็นการแสดงและสร้างภาพจากจินตนาการของผู้สร้างก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นชนิดฟิล์มเนกาทีฟ (negative) หรือฟิล์มโพซิทีฟ (positive) ซึ่งได้ถูกถ่าย อัด หรือกระทำด้วยวิธีใด ๆ ให้ปรากฏรูปหรือเสียงหรือทั้งรูปและเสียง เป็นเรื่องหรือเหตุการณ์ หรือข้อความอันจักถ่ายทอดรูปหรือเสียง หรือทั้งรูปและเสียงได้ด้วยเครื่องฉายภาพยนตร์หรือเครื่องอย่างอื่นทำนองเดียวกัน และหมายความตลอดถึงฟิล์มซึ่งได้ถูกถ่าย อัด หรือทำด้วยวิธีใด ๆ ให้ปรากฏสี เพื่ออัดลงในฟิลม์ชนิดดังกล่าว เป็นสาขาที่สร้างสรรค์ผลงานทางศิลปะในรูปของภาพเคลื่อนไหว และเป็นส่วนหนึ่งของอุตสาหกรรมบันเทิง.

ใหม่!!: หลี่ เหลียงเหว่ยและภาพยนตร์ · ดูเพิ่มเติม »

ภาพยนตร์ไทย

นตร์ไทย มีประวัติความเป็นมาที่ยาวนาน ภาพยนตร์ไทยเรื่องแรกถ่ายทำในเมืองไทย คือ เรื่อง นางสาวสุวรรณ ผู้สร้าง คือ บริษัทภาพยนตร์ ยูนิเวอร์ซัล ภาพยนตร์เรื่องนี้ใช้ผู้แสดงทั้งหมดเป็นคนไทย"" เว็บไซต์ rimpingfunds.com พ.ศ. 2470 ภาพยนตร์เรื่อง โชคสองชั้น เป็นภาพยนตร์ขนาด 35 มิลลิเมตร ขาว-ดำ ไม่มีเสียง ได้รับการยอมรับให้เป็นภาพยนตร์ประเภทเรื่องแสดงเพื่อการค้าเรื่องแรกที่สร้างโดยคนไทย ในช่วงหลัง พ.ศ. 2490 ถือเป็นช่วงยุคเฟื่องฟูของภาพยนตร์ไทย สตูดิโอถ่ายทำและภาพยนตร์มีจำนวนเพิ่มมากขึ้น หลังจากนั้นประเทศไทยเข้าสู่ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ถือเป็นช่วงซบเซาของภาพยนตร์ไทย เมื่อสงครามโลกครั้งที่ 2 ยุติลง กิจการภาพยนตร์ในประเทศไทยค่อย ๆ ฟื้นคืนกลับมา ได้เปลี่ยนไปสร้างเป็นภาพยนตร์ขนาด 16 มิลลิเมตรแทน และเมื่อบ้านเมืองเข้าสู่ภาวะคับขัน ภาพยนตร์ไทยหลายเรื่องได้แสดงบทบาทของตนในฐานะกระจกสะท้อนปัญหาการเมือง และสังคม ในช่วงเวลาระหว่างปี..

ใหม่!!: หลี่ เหลียงเหว่ยและภาพยนตร์ไทย · ดูเพิ่มเติม »

ภาษาอังกฤษ

ษาอังกฤษ หรือ ภาษาอังกฤษใหม่ เป็นภาษาในกลุ่มภาษาเจอร์แมนิกตะวันตกที่ใช้ครั้งแรกในอังกฤษสมัยต้นยุคกลาง และปัจจุบันเป็นภาษาที่ใช้กันแพร่หลายที่สุดในโลก ประชากรส่วนใหญ่ในหลายประเทศ รวมทั้ง สหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริกา แคนาดา ออสเตรเลีย ไอร์แลนด์ นิวซีแลนด์ และประเทศในแคริบเบียน พูดภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่หนึ่ง ภาษาอังกฤษเป็นภาษาแม่ที่มีผู้พูดมากที่สุดเป็นอันดับสามของโลก รองจากภาษาจีนกลางและภาษาสเปน มักมีผู้เรียนภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่สองอย่างกว้างขวาง และภาษาอังกฤษเป็นภาษาราชการของสหภาพยุโรป หลายประเทศเครือจักรภพแห่งชาติ และสหประชาชาติ ตลอดจนองค์การระดับโลกหลายองค์การ ภาษาอังกฤษเจริญขึ้นในราชอาณาจักรแองโกล-แซ็กซอนอังกฤษ และบริเวณสกอตแลนด์ตะวันออกเฉียงใต้ในปัจจุบัน หลังอิทธิพลอย่างกว้างขวางของบริเตนใหญ่และสหราชอาณาจักรตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 17 จนถึงกลางคริสต์ศตวรรษที่ 20 ผ่านจักรวรรดิอังกฤษ และรวมสหรัฐอเมริกาด้วยตั้งแต่กลางคริสต์ศตวรรษที่ 20 ภาษาอังกฤษได้แพร่หลายทั่วโลก กลายเป็นภาษาชั้นนำของวจนิพนธ์ระหว่างประเทศและเป็นภาษากลางในหลายภูมิภาค ในประวัติศาสตร์ ภาษาอังกฤษกำเนิดจากการรวมภาษาถิ่นหลายภาษาที่สัมพันธ์อย่างใกล้ชิด ซึ่งปัจจุบันเรียกรวมว่า ภาษาอังกฤษเก่า ซึ่งผู้ตั้งนิคมนำมายังฝั่งตะวันออกของบริเตนใหญ่เมื่อคริสต์ศตวรรษที่ 5 คำในภาษาอังกฤษจำนวนมากสร้างขึ้นบนพื้นฐานรากศัพท์ภาษาละติน เพราะภาษาละตินบางรูปแบบเป็นภาษากลางของคริสตจักรและชีวิตปัญญาชนยุโรปDaniel Weissbort (2006).

ใหม่!!: หลี่ เหลียงเหว่ยและภาษาอังกฤษ · ดูเพิ่มเติม »

ละครชุด

ละครชุด หรือ ซีรีส์ (series) เป็นรายการโทรทัศน์ชนิดเดียวกับละครซิทคอม แต่จะแตกต่างกันก็คือ ซีรีส์จะแบ่งเป็นภาคและแตกต่างกันด้วยเนื้อหาสถานที่ ส่วนมากจะถูกบันทึกเทปนอกสถานที่หรือสตูดิโอก็ได้ แต่ไม่เน้นที่บันทึกเทปในสตูดิโอเพราะว่าจะเป็นเหมือนซิทคอม ละครซีรีส์ของไทยก็จะมีมากมายหลายเรื่อง อาทิเช่น ตีลังกาท้าฝัน,เมืองมายาเดอะซีรีส์,พ่อไก่แม่ทูนหัว ฯลฯ ปัจจุบันละครชุดที่ได้รับความนิยม มักเป็นละครชุดจากต่างประเทศ เช่น เกาหลี และญี่ปุ่น เป็นต้น (นิยมเรียกด้วยภาษาปากว่า ซีรีส์เกาหลี ซีรีส์ญี่ปุ่น หรือซีรีส์ ตามชาติที่สร้างละครชุดนั้น.

ใหม่!!: หลี่ เหลียงเหว่ยและละครชุด · ดูเพิ่มเติม »

ละครโทรทัศน์

ละครโทรทัศน์ คือรายการทางโทรทัศน์ที่มีบทละครและเรื่องราว ไม่รวมถึงรายการจำพวก กีฬา ข่าว เรียลลิตี้โชว์ เกมโชว์ สแตนอัพคอเมดี้ และวาไรตี้โชว์ โดยละครโทรทัศน์โดยมากจะมีหลายตอน เน้นความบันเทิงเป็นหลัก เพื่อการรับชมภายในเคหสถาน นักแสดงที่แสดงในละครโทรทัศน์จะใช้หลายมุมกล้อง บางครั้งนักแสดงจะไม่ทราบว่าเมื่อไรกล้องจะจับภาพ ทางด้านบทละครโทรทัศน์ ต้องมีความละเอียดทุกขั้นตอนกว่าละครเวที เพราะบทโทรทัศน์เป็นตัวกำหนดมุมกล้อง กำหนดฉาก การแต่งกายของผู้แสดง ดนตรี เสียงประกอบ และบางเรื่องยังมีคอมพิวเตอร์กราฟิกเข้ามาเพื่อความสมจริงอีกด้ว.

ใหม่!!: หลี่ เหลียงเหว่ยและละครโทรทัศน์ · ดูเพิ่มเติม »

ลิโป้

ลิโป้ (吕布; Lü Bu;ค.ศ.155 — ค.ศ. 198) เป็นยอดนักรบผู้ที่ได้ชื่อว่าแข็งแกร่งที่สุดในยุคสามก๊ก หรือเป็นเทพเจ้าแห่งสงคราม มีร่างที่สูงใหญ่กำยำ มีสำนวนในสามก๊กกล่าวไว้ว่า “ หยืนจงหลี่ปู้ หม่าจงชื่อทู่ ” ความหมายของประโยคนี้คือ ยอดคนต้องลิโป้ ยอดม้าต้องเซ็กเธาว์ ความแข็งแกร่งที่กลายเป็นตำนาน ในฐานะของนักรบที่เก่งที่สุดในแผ่นดินยุคสามก๊ก ทั้งยังได้รับการกล่าวว่าเป็นผู้ชำนาญศึกอย่างยิ่ง แม้แต่ เล่าปรี่, กวนอู้ และเตียวหูย ที่ร่วมมือกันสู้รบกับลิโป้ก็ยังไม่สามารถเอาชนะลิโป้ได้ โดยที่ตราบใดที่เขายังถือทวนกรีดขอบตา และนั่งอยู่บนหลังม้าเซ็กเธาว์ ก็ไม่มีใครล้มเขาลงได้ ในตามตำนาน ลิโป้แม้จะเป็นคนเก่ง แต่เป็นคนที่เลี้ยงไว้ไม่ได้ เป็นคนเห็นแก่ลาภยศ เป็นบุคคลที่เตียวหุยด่าว่าเป็น "ไอ้พ่อสามลูก" จนกลายเป็นสำนวนที่ใช้มาจนทุกวันนี้ เนื่องจากเดิมทีรับราชการอยู่กับเต๊งหงวน และเต๊งหงวนไว้ใจ ถึงกับรับเป็นบุตรบุญธรรม แต่เมื่อตั๋งโต๊ะปรารถนาจะได้ลิโป้มาอยู่กับตน ด้วยการให้เกราะทองกับม้าเซ็กเธาว์ ลิโป้ก็ยอมทรยศเต๊งหงวน มาอยู่กับตั๋งโต๊ะ ครั้นเมื่ออ้องอุ้นใช้แผนสาวงาม (เตียวเสี้ยน) ให้ลิโป้กับตั๋งโต๊ะแตกแยกกัน และลิโป้ก็เป็นผู้สังหารตั๋งโต๊ะด้วยมือตนเอง หลังจากถูกโจโฉจับตัวได้ เพราะทหารฝ่ายลิโป้ทรยศ เมื่อจะโดนประหารได้อ้อนวอนเล่าปี่ ให้บอกโจโฉว่าอย่าประหารตน แต่เล่าปี่ยืนยันให้โจโฉฆ่าลิโป้ ด้วยการยกตัวอย่างของ เต๊งหงวน กับ ตั๋งโต๊ะ ให้โจโฉได้ระลึกและสั่งประหารลิโป้ในที่สุด เป็นอันปิดฉากตำนานเทพเจ้าสงครามอันเลื่องชื่อ.

ใหม่!!: หลี่ เหลียงเหว่ยและลิโป้ · ดูเพิ่มเติม »

ลุยบ้าเลือด

ลุยบ้าเลือด (Flash Point) เป็นภาพยนตร์แอ๊คชั่นสัญชาติฮ่องกง นำแสดงโดย เจิ้น จื่อตัน, กู่ เทียนเล่อ, ฟ่าน ปิงปิง, หลี่ เหลียงเหว่ย และ โจว เจ้าหลง กำกับการแสดงโดย วิลสัน ยิป.

ใหม่!!: หลี่ เหลียงเหว่ยและลุยบ้าเลือด · ดูเพิ่มเติม »

ลฺหวี่ ปู้เหวย์

ลฺหวี่ ปู้เหวย์ (291–235 ก่อนคริสตกาล) เป็นนักการเมืองแห่งรัฐฉิน (秦国) ในยุครณรัฐ (戰國時代) ของประเทศจีนโบราณ เดิมเป็นพ่อค้าที่มีอิทธิพลมาก มาจากรัฐเว่ย์ (卫国) ได้คบหากับพระเจ้าฉินจวังเซียง (秦莊襄王) แต่ครั้งที่ยังเป็นเจ้าชายยศน้อยและถูกจับเป็นองค์ประกันอยู่ในรัฐจ้าว (赵国) ต่อมาลฺหวี่ ปู้เหวย์ ได้ใช้สินบนและกลวิธีต่าง ๆ ช่วยเหลือพระเจ้าฉินจวังเซียงให้ได้ครองบัลลังก์รัฐฉินสืบต่อจากพระเจ้าฉินเซี่ยวเหวิน (秦孝文王) พระบิดา เมื่อ 249 ปีก่อนคริสตกาล พระเจ้าฉินจวังเซียงจึงตั้งลฺหวี่ ปู้เหวย์ เป็นอัครมหาเสนาบดี (相國) มีบรรดาศักดิ์ว่า เหวินซิ่นโหฺว (文信侯) ครั้นพระเจ้าฉินจวังเซียงสิ้นพระชนม์เมื่อ 247 ปีก่อนคริสตกาล อิ๋ง เจิ้ง (嬴正) โอรส สืบราชสมบัติต่อ และเป็นที่รู้จักด้วยสมัญญา ฉินฉื่อหฺวังตี้ (秦始皇帝; "ปฐมจักรพรรดิฉิน") ลฺหวี่ ปู้เหวย์ ก็ได้สำเร็จราชการแทนอิ๋ง เจิ้ง และเป็นอัครมหาเสนาบดีในรัชสมัยนี้ด้วย.

ใหม่!!: หลี่ เหลียงเหว่ยและลฺหวี่ ปู้เหวย์ · ดูเพิ่มเติม »

สรพงศ์ ชาตรี

รพงษ์ ชาตรี หรือชื่อจริง กรีพงษ์ เทียมเศวต หรือ พิทยา เทียมเศวต นักแสดงชายชั้นแนวหน้าของไทย ผู้ได้รับการเชิดชูเกียรติเป็นศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง ในปี..

ใหม่!!: หลี่ เหลียงเหว่ยและสรพงศ์ ชาตรี · ดูเพิ่มเติม »

สหรัฐ

หรัฐอเมริกา (United States of America) โดยทั่วไปเรียก สหรัฐ (United States) หรือ อเมริกา (America) เป็นสหพันธ์สาธารณรัฐ ประกอบด้วยรัฐ 50 รัฐ และหนึ่งเขตปกครองกลาง ห้าดินแดนปกครองตนเองสำคัญ และเกาะเล็กต่าง ๆ โดย 48 รัฐและเขตปกครองกลางตั้งอยู่ ณ ทวีปอเมริกาเหนือระหว่างประเทศแคนาดาและเม็กซิโก รัฐอะแลสกาอยู่มุมตะวันตกเฉียงเหนือของทวีปอเมริกาเหนือ มีเขตแดนติดต่อกับประเทศแคนาดาทางทิศตะวันออกและข้ามช่องแคบเบริงจากประเทศรัสเซียทางทิศตะวันตก และรัฐฮาวายเป็นกลุ่มเกาะในมหาสมุทรแปซิฟิกกลาง ดินแดนของสหรัฐกระจายอยู่ตามมหาสมุทรแปซิฟิกและทะเลแคริบเบียน ครอบคลุมเขตเวลาเก้าเขต ภูมิศาสตร์ ภูมิอากาศและสัตว์ป่าของประเทศหลากหลายอย่างยิ่ง สหรัฐมีพื้นที่ขนาด 9.8 ล้านตารางกิโลเมตร มีประชากรราว 326 ล้านคน ทำให้มีพื้นที่ขนาดใหญ่เป็นอันดับที่ 4 ของโลก และมีประชากรมากเป็นอันดับที่ 3 ของโลก เป็นประเทศซึ่งมีความหลากหลายทางเชื้อชาติและวัฒนธรรม และเป็นที่พำนักของประชากรเข้าเมืองใหญ่สุดในโลกAdams, J.Q., and Pearlie Strother-Adams (2001).

ใหม่!!: หลี่ เหลียงเหว่ยและสหรัฐ · ดูเพิ่มเติม »

สถานีโทรทัศน์แห่งเอเชีย

อาคารสำนักงานใหญ่ สถานีโทรทัศน์แห่งเอเชีย (Asia Television ชื่อบริษัท Asia Television Digital Media Limited ชื่อย่อ aTV) เป็นสถานีโทรทัศน์แห่งแรกในประเทศฮ่องกง และเป็นสถานีโทรทัศน์ภาคภาษาจีนแห่งแรกของโลกอีกด้วย ก่อตั้งเมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2500 ในนาม สถานีโทรทัศน์ลี่เตอ (Rediffusion Television ชื่อบริษัท Rediffusion (Hong Kong) Limited ชื่อย่อ RTV) ต่อมาในวันที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2525 พร้อมกับเปลี่ยนชื่อโดยซึ่งเป็นสถานีโทรทัศน์ที่ใช้มาจนถึงปัจจุบันนี้ เมื่อวันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2558 รัฐบาลฮ่องกงได้ลงมติให้สิ้นสุดใบอนุญาตประกอบกิจการวิทยุโทรทัศน์ภาคพื้นดินของสถานีฯ เนื่องจากเห็นว่าบริษัทประสบปัญหาทางการเงินอย่างหนัก โดยสิ้นสุดใบอนุญาตลงในวันที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558 และกำหนดยุติการออกอากาศเมื่อวันที่ 2 เมษายน ปีเดียวกัน โดยคลื่นความถี่ระบบแอนะล็อก 2 สถานี ได้โอนไปเป็นของ สถานีวิทยุโทรทัศน์ฮ่องกง (RTHK) โดยช่องที่เป็นของภาษาจีนนั้น RTHK นำรายการจากช่อง 31 ของ RTHK และช่องภาษาอังกฤษ นำรายการจากช่อง 33 (ซึ่งทวนสัญญาณรายการจากซีซีทีวี 9 ก่อนจะปรับมาทวนสัญญาณของ ซีซีทีวี 1 ในช่วงปลายเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2560) มาออกอากาศคู่ขนานกัน สวนคลื่นความถี่ระบบดิจิทัลซึ่งใช้ร่วมกับทีวีบีเจด ได้นำไปให้เอชเคเทเลวิชันเอ็นเตอร์เทนเมนท์ (HKTVE) ทำช่องรายการใหม่ ในชื่อ วิวทีวี (ViuTV) แล้วกลับมาออกอากาศอืกครั้ง เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2560 ในฐานะผู้ให้บริการ OTT.

ใหม่!!: หลี่ เหลียงเหว่ยและสถานีโทรทัศน์แห่งเอเชีย · ดูเพิ่มเติม »

สงครามเวียดนาม

งครามเวียดนาม หรือ สงครามอินโดจีนครั้งที่สอง หรือที่ชาวเวียดนามรู้จักกันในชื่อ สงครามอเมริกา เป็นสงครามตัวแทนสมัยสงครามเย็นที่เกิดขึ้นในประเทศเวียดนาม ลาวและกัมพูชาตั้งแต่เดือนธันวาคม 2498 กระทั่งกรุงไซ่ง่อนแตกเมื่อวันที่ 30 เมษายน 2518 สงครามเวียดนามนี้เกิดขึ้นหลังสงครามอินโดจีนครั้งที่หนึ่ง และมีเวียดนามเหนือซึ่งได้รับการสนับสนุนจากจีน สหภาพโซเวียตและพันธมิตรคอมมิวนิสต์อื่นเป็นคู่สงครามฝ่ายหนึ่ง กับรัฐบาลเวียดนามใต้ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐและประเทศที่ต่อต้านคอมมิวนิสต์อื่นเป็นคู่สงครามอีกฝ่ายหนึ่ง เวียดกง (หรือ แนวร่วมปลดปล่อยแห่งชาติ) เป็นแนวร่วมประชาชนคอมมิวนิสต์เวียดนามใต้ที่ติดอาวุธเบาซึ่งมีเวียดนามเหนือสั่งการ สู้รบในสงครามกองโจรต่อกำลังต่อต้านคอมมิวนิสต์ในภูมิภาค กองทัพประชาชนเวียดนาม (กองทัพเวียดนามเหนือ) ต่อสู้ในสงครามตามแบบมากกว่า และบางครั้งส่งหน่วยขนาดใหญ่เข้าสู่ยุทธการ เมื่อสงครามดำเนินไป ส่วนการต่อสู้ของเวียดกงลดลงขณะที่บทบาทของกองทัพประชาชนเวียดนามเพิ่มขึ้น กำลังสหรัฐและเวียดนามใต้อาศัยความเป็นเจ้าเวหาและอำนาจการยิงที่เหนือกว่าเพื่อดำเนินปฏิบัติการค้นหาและทำลาย ซึ่งรวมถึงกำลังภาคพื้นดิน ปืนใหญ่และการโจมตีทางอากาศ ตลอดห้วงสงคราม สหรัฐดำเนินการทัพทิ้งระเบิดทางยุทธศาสตร์ขนานใหญ่ต่อเวียดนามเหนือ และต่อมาน่านฟ้าเวียดนามเหนือกลายเป็นน่านฟ้าที่มีการป้องกันหนาแน่นที่สุดในโลก รัฐบาลสหรัฐมองว่าการเข้ามามีส่วนในสงครามของตนเป็นหนทางป้องกันการยึดเวียดนามใต้ของคอมมิวนิสต์อันเป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์การจำกัดการขยายตัวของลัทธิที่ไม่พึงปรารถนาที่ใหญ่กว่า โดยมีเป้าหมายที่แถลงไว้เพื่อหยุดการแพร่ของคอมมิวนิสต์ ตามทฤษฎีโดมิโนของสหรัฐ หากรัฐหนึ่งกลายเป็นคอมมิวนิสต์ รัฐอื่นในภูมิภาคก็จะเป็นไปด้วย ฉะนั้น นโยบายของสหรัฐจึงถือว่าการผ่อนปรนการแพร่ของคอมมิวนิสต์ทั่วประเทศเวียดนามนั้นยอมรับไม่ได้ รัฐบาลเวียดนามเหนือและเวียดกงต่อสู้เพื่อรวมเวียดนามอยู่ในการปกครองคอมมิวนิสต์ ทั้งสองมองข้อพิพาทนี้เป็นสงครามอาณานิคม ซึ่งเริ่มแรกสู้กับฝรั่งเศส โดยได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐ แล้วต่อมาสู้กับเวียดนามใต้ ซึ่งถูกมองว่าเป็นรัฐหุ่นเชิดของสหรัฐ ที่ปรึกษาทางทหารชาวอเมริกันมาถึงอินโดจีนขณะนั้นเริ่มตั้งแต่ปี 2493 การเข้ามามีส่วนของสหรัฐเพิ่มขึ้นในช่วงต้นคริสต์ทศวรรษ 1960 โดยมีระดับทหารเพิ่มเป็นสามเท่าในปี 2494 และเพิ่มอีกสามเท่าในปีต่อมา การเข้ามามีส่วนของสหรัฐทวีขึ้นอีกหลังเหตุการณ์อ่าวตังเกี๋ย ปี 2507 ซึ่งเรือพิฆาตของสหรัฐปะทะกับเรือโจมตีเร็วของเวียดนามเหนือ ซึ่งตามติดด้วยข้อมติอ่าวตังเกี๋ยซึ่งอนุญาตให้ประธานาธิบดีสหรัฐเพิ่มทหารในพื้นที่ หน่วยรบปกติของสหรัฐถูกจัดวางเริ่มตั้งแต่ปี 2498 ปฏิบัติการข้ามพรมแดนระหว่างประเทศ โดยพื้นที่ติดต่อกับประเทศลาวและกัมพูชาถูกกองทัพสหรัฐทิ้งระเบิดอย่างหนักขณะที่การเข้ามามีส่วนในสงครามของสหรัฐเพิ่มขึ้นสูงสุดในปี 2511 ปีเดียวกัน ฝ่ายคอมมิวนิสต์เปิดฉากการรุกตรุษญวน การรุกตรุษญวนไม่สัมฤทธิ์ผลในการโค่นรัฐบาลเวียดนามใต้ แต่ได้กลายเป็นจุดพลิกผันของสงคราม เพราะได้แสดงว่าเวียดนามใต้ไม่อาจป้องกันตัวเองจากเวียดนามเหนือได้ แม้สหรัฐจะทุ่มความช่วยเหลือทางทหารอย่างมหาศาลหลายปี ด้วยจุดชัยชนะของสหรัฐนั้นไม่ชัดเจน จึงค่อย ๆ มีการถอนกำลังภาคพื้นดินของสหรัฐโดยเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายเรียก การแผลงเป็นเวียดนาม (Vietnamization) ซึ่งมุ่งยุติการเข้ามามีส่วนในสงครามของสหรัฐขณะที่โอนภารกิจต่อสู้กับคอมมิวนิสต์ให้เวียดนามใต้เอง แม้ภาคีทุกฝ่ายลงนามข้อตกลงสันติภาพปารีสในเดือนมกราคม 2516 แล้วก็ตาม แต่การสู้รบยังดำเนินต่อไป ในสหรัฐและโลกตะวันตก มีการพัฒนาขบวนการต่อต้านสงครามเวียดนามขนาดใหญ่ขึ้น ขบวนการนี้ทั้งเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมต่อต้าน (Counterculture) แห่งคริสต์ทศวรรษ 1960 และเป็นปัจจัยหนึ่งของมัน การมีส่วนร่วมทางทหารของสหรัฐยุติลงเมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2516 อันเป็นผลมาจากคำแปรญัตติเคส–เชิร์ช (Case–Church Amendment) ที่รัฐสภาสหรัฐผ่าน การยึดกรุงไซ่ง่อนโดยกองทัพประชาชนเวียดนามในเดือนเมษายน 2518 เป็นจุดสิ้นสุดของสงคราม และมีการรวมชาติเวียดนามเหนือกับเวียดนามใต้ในปีต่อมา สงครามนี้คร่าชีวิตมนุษย์ไปมหาศาล ประเมินตัวเลขทหารและพลเรือนชาวเวียดนามที่ถูกสังหารมีตั้งแต่น้อยกว่า 1 ล้านคนเล็กน้อย ไปถึงกว่า 3 ล้านคน ชาวกัมพูชาเสียชีวิตราว 2-3 แสนคนHeuveline, Patrick (2001).

ใหม่!!: หลี่ เหลียงเหว่ยและสงครามเวียดนาม · ดูเพิ่มเติม »

สงป้า

ฟงอวิ๋นฉบับภาพยนตร์ พ.ศ. 2541 (ค.ศ. 1998) รับบทโดย ซอนนี่ ชิบะ สงป้า ตัวละครในนิยายกำลังภายในเรื่อง ฟงอวิ๋น ขี่พายุทะลุฟ้า เป็นเพียงฉายา ที่แปลได้ว่า "ยิ่งใหญ่" ชื่อแท้จริงไม่ปรากฏ ไม่มีที่มาที่ไป แต่ปรากฏตัวเป็นประมุขพรรคใต้หล้า พรรคใหม่แต่สามารถไต่ขึ้นเป็นอันดับหนึ่งของยุทธภพ สงป้ามีความปรารถนาต้องการเป็นยอดฝีมืออันดับหนึ่งของยุทธภพ โดยเสาะแสวงหายอดศาสตราวุธต่าง ๆ และท้าประลองกับยอดฝีมือคนอื่น ๆ และหากมีโอกาสก็จะกำจัดทิ้งเสีย สงป้าเป็นคนใจคออำมหิตโหดเหี้ยม เชื่อในโหราศาสตร์ ได้รับคำทำนายจากธุลิดินว่า ฟง (วาตะ) และ อวิ๋น (เมฆา) จะมาช่วยเสริมดวง สงป้าจึงได้รับเด็ก ๆ ที่กำพร้าพ่อแม่เข้ามาเป็นศิษย์อยู่ในพรรค สงป้าได้ถ่ายทอดสุดยอดวิทยายุทธของตนให้แก่ศิษย์เอกทั้ง 3 คือ หมัดหิมะโปรย ให้แก่ ฉินซวง ศิษย์คนโตหัวหน้าหอหิมะ ฝ่ามือเมฆาล่องลอย แก่ ปู้จิ้งอวิ๋น หัวหน้าหอเมฆา และเพลงเตะวายุกระซิบ ให้แก่ เนี่ยฟง ศิษย์คนเล็ก หัวหน้าหอวายุ สงป้ามีลูกสาวเพียงคนเดียว คือ โยวโร่ (ในฉบับภาพยนตร์ เปลี่ยนเป็น ข่งฉือ) หมวดหมู่:ตัวละครในฟงอวิ๋น ขี่พายุทะลุฟ้า en:Hung Ba.

ใหม่!!: หลี่ เหลียงเหว่ยและสงป้า · ดูเพิ่มเติม »

หลี่ ปิงปิง

หลี่ ปิงปิง (李冰冰, Li Bingbing, พินอิน: Lǐ Bīngbīng) นักแสดงและนักร้องสาวชาวจีนที่มีชื่อเสียง หลี่ ปิงปิง เกิดเมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1973 ที่เมืองฮาร์บิน มณฑลเฮย์หลงเจียง โดยที่ชื่อของเธอมีความหมายว่า "น้ำแข็ง" จบการศึกษาจากสถาบันการละครเซี่ยงไฮ้ มีผลงานในวงการบันเทิงตั้งแต่ยังไม่จบการศึกษาด้วยการถ่ายแบบและเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับโฆษณาสินค้าชิ้นต่าง ๆ และหน้าปกนิตยสาร รวมทั้งแสดงในละครโทรทัศน์และภาพยนตร์ของฮ่องกงและไต้หวัน ซึ่งส่วนมากจะเป็นบทสมทบในภาพยนตร์แนวกำลังภายในในบทของจอมยุทธ์หญิง ในปี ค.ศ. 2000 เธอจะได้รับรางวัลดารานำหญิงยอดเยี่ยมในเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติที่สิงคโปร์ครั้งที่ 13 จากผลงานเรื่อง Seventeen Years แต่การรับบทเล็ก ๆ ที่มีสีสันเป็นจอมโจรสาวในภาพยนตร์ของผู้กำกับฯ เฝิง เสี่ยวกัง เรื่อง A World without thieves ในปี ค.ศ. 2004 จนเป็นที่เตะตาและประทับใจผู้ชม ทำให้ชื่อของหลี่ ปิงปิงกลายเป็นที่รู้จักอย่างแท้จริง และขึ้นทำเนียบนักแสดงหญิงชั้นนำทั้งในและนอกของจีนแผ่นดินใหญ่ ในปี ค.ศ. 2005 เธอได้แสดงในภาพยนตร์แอ๊คชั่นเรื่อง Dragon Squad ร่วมกับแวนเนส วู หรือ อู๋ เจี้ยนหาว นักร้องหนุ่มแห่งบอยแบนด์ F 4 ที่มีชื่อเสียง โดยรับบทท้าทายเป็นนักสืบสาว ถึงขนาดที่ผู้กำกับฯ คือ เดเนียล ลี ยังให้เกียรติเธอเลือกบทด้วยตนเองด้วย นอกจากนี้ ในภาพยนตร์เรื่องนี้ยังเป็นครั้งแรกของเธอที่มีโอกาสประกบคู่กับนักแสดงจากฮอลลีวู้ด และต้องใช้บทสนทนาเป็นภาษาอังกฤษด้วย ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นที่จะทำให้เธอได้มีโอกาสเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก จนกระทั่งในปี ค.ศ. 2008 เธอก็ได้มีโอกาสแสดงในภาพยนตร์ทุนสร้างสูงในแบบกำลังภายในจินตนิมิตเรื่อง The Forbidden Kingdom คู่กับนักแสดงระดับซูเปอร์สตาร์อย่าง เฉินหลง และเจ็ต ลี และร่วมด้วยหลิว อี้เฟย์ โดยรับบทเป็นนางมารผมขาว ในปี ค.ศ. 2011 เธอได้มีโอกาสแสดงนำอีกครั้งคู่กับ เฉินหลง โดยรับบทเป็น สวี จงฮั่น ภริยาของ หวงซิง ที่รับบทโดยเฉินหลง สมาชิกพรรคถงเหมิงฮุ่ยผู้อุทิศตนให้เต็มที่กับการปฏิวัติประเทศจีน ในภาพยนตร์ทุนสร้างสูงแนวประวัติศาสตร์จีนเรื่อง 1911 แต่ว่าเมื่ออกฉายจริงแล้วฉากเลิฟซีนของเธอกับเฉินหลงได้ถูกตัดออกเกือบหมดเพื่อความเหมาะสมกับภาพยนตร์แนวนี้ ทางด้านผลงานการถ่ายแบบ หลี่ ปิงปิง ถือได้ว่าเป็นนักแสดงหญิงที่มีผลงานการถ่ายแบบถี่และมากที่สุดคนหนึ่ง โดยเฉพาะในปี..

ใหม่!!: หลี่ เหลียงเหว่ยและหลี่ ปิงปิง · ดูเพิ่มเติม »

หง ซิ่วเฉฺวียน

ประติมากรรมรูปหง ซิ่วเฉฺวียน ที่หนานจิงในปัจจุบัน หง ซิ่วเฉฺวียน ผู้นำกบฏไท่ผิงเทียนกั๋ว (太平天國運動) เกิดในครอบครัวชาวนาเชื้อสายจีนแคะ ในหมู่บ้านกวนลู่ผู่ อำเภอฮัวเสี้ยน มณฑลกวางตุ้ง เมื่อปี พ.ศ. 2356 ตรงกับรัชกาลที่ 2 ของไทย ปีระกา หง ซิ่วเฉฺวียนได้ศึกษาตำราขงจื๊อ เพื่อสอบเข้ารับราชการเช่นเดียวกับชายหนุ่มทั่วไปในสมัยนั้น และสอบไล่เป็น ซิ่วไฉ (บัณฑิตระดับต้น) ที่เมืองกวางเจาถึงสามครั้ง ก็ไม่ผ่าน ในการไปสอบ ซิ่วไฉครั้งที่สอง หง ซิ่วเฉฺวียนได้พบกับนักสอนศาสนาชาวตะวันตก และได้รับแจกหนังสือภาษาจีนอธิบายเกี่ยวกับศาสนาคริสต์จากนักสอนศาสนาผู้นั้นมาเล่มหนึ่ง หนังสือนั้นชื่อว่า "สุนทรกถาเพื่อปลุกเร้ายุคสมัย" เขียนโดยชาวจีนชื่อ เหลียง อาฝา เหลียง อาฝาเป็นผู้ช่วยของ โรเบิร์ต มอริสัน มิชชันนารีชาวอังกฤษ ผู้เดินทางมาเผยแพร่นิกายโปรเตสแทนท์ในประเทศจีนเป็นคนแรก หนังสือเล่มนี้ยังไม่มีอิทธิพลต่อหง ซิ่วเฉฺวียน จนเมื่อสอบตกเป็นครั้งที่สาม หง ซิ่วเฉฺวียนล้มป่วยหนักเจียนตายอยู่ 40 วัน ระหว่างป่วยเกิดนิมิตว่า ถูกนำไปยังสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งหนึ่ง มีแสงสว่างจ้า เขาถูกเปลี่ยนอวัยวะภายใน แล้วถูกนำไปพบกับ ผู้เฒ่าสวมเสื้อคลุมดำ ผู้เฒ่ามอบดาบวิเศษให้เขาเพื่อประหารปีศาจร้ายให้หมดสิ้น และผู้เฒ่านั้นได้ด่าบริภาษขงจื๊อมากมาย ซึ่งเมื่อหายป่วยแล้วหง ซิ่วเฉฺวียนเชื่อว่า ผู้เฒ่านั้นคือพระเจ้าและตัวเขาเองเป็นพระอนุชาของพระเจ้า เป็นพระเชษฐาของพระเยซูคริสต์ และพระผู้เป็นเจ้าได้มอบหมายให้เขากำจัดปีศาจร้ายให้หมด นั่นคือ ราชวงศ์ชิงนั่นเอง หลังจากนั้น หง ซิ่วเฉฺวียนก็ได้เปลี่ยนไปเป็นคนละคน มีคุณลักษณะของผู้นำมากขึ้น เขาหันมาสนใจหนังสือ "สุนทรกถาเพื่อปลุกเร้ายุคสมัย" ของเหลียง อาฝา จนในที่สุด เขาก็สร้างลัทธิความเชื่อแบบของเขาขึ้นมาชุดหนึ่ง ทำการเผยแพร่จนมีผู้คนเชื่อถือตามมากขึ้นเรื่อย ๆ หง ซิ่วเฉฺวียนสร้างลัทธิของเขาว่า พระผู้เป็นเจ้าส่งเขาลงมาโลกมนุษย์พร้อมด้วยดาบเพื่อสังหารปีศาจร้าย คริสต์ศาสนาแต่เดิมเป็นคำสอนทางศาสนาของชาวจีน เคยแพร่หลายมาก่อนลัทธิขงจื๊อ อาณาจักรจีนเดิมเป็นที่ประทับของพระผู้เป็นเจ้า หากแต่ปัจจุบันพวกปีศาจร้ายเข้ามาครองครอง พระผู้เป็นเจ้ามีประกาศิตให้หง ซิ่วเฉฺวียนมาปราบปีศาจร้าย โดยจุดสำคัญคือเรื่องความเสมอภาค ภราดรภาพ ตามอุดมคติของคริสต์ศาสนา ซึ่งเป็นแนวความคิดใหม่ที่โดนใจทาสกสิกรที่ถูกศักดินากดขี่ขูดรีดอย่างทารุณ หง ซิ่วเฉฺวียนไปเผยแพร่ลัทธิในเขตชาวจีนแคะที่ลำบากยากจนตามภูเขาในมณฑลกวางสี และได้สหายร่วมอุดมการณ์สำคัญสี่คนซึ่งก็ล้วนเป็นคนจีนแคะทั้งสิ้น คือ หยาง ซิ่วชิง-คนเผาถ่าน, เซียว เฉากุ้ย-คนตัดฟืน, ซือ ต๋าไค-หนุ่มลูกชายเจ้าที่ดิน และวุ่ย จางฮุย-เจ้าที่ดินและนายทุนเงินกู้ ผู้ออกทุนในการเตรียการลุกขึ้นสู้ถึงหนึ่งแสนตำลึง ทั้งสี่คนนี้ภายหลังเป็นแม่ทัพคนสำคัญของกบฏไท่ผิงเทียนกั๋ว หง ซิ่วเฉฺวียนตระเตรียมฐานที่มั่นของกองทัพไว้แถบภูเขาจื่อจิงซาน มีกำลังพลนับหมื่นคน ทางราชสำนักแมนจูจึงส่งกองทัพไปปราบในช่วงเดือนธันวาคม พ.ศ. 2393 แต่ก็พ่ายแพ้ และในครั้งนี้มีชนพื้นเมือง เช่น ชาวจ้วง, ชาวม้ง ร่วมกบฏด้วย กองกำลังสมาคมบูชาพระเจ้า (ไป้ส้างตี้หุ้ย) ของหง ซิ่วเฉฺวียนรบชนะกองทัพหลวง ก็เลยประกาศสถาปนา "ไท่ผิงเทียนกั๋ว" (太平天国) (เมืองแมนแดนสันติ) หรือเรียกสั้น ๆ ว่า "ไท่ผิง" (太平) ซึ่งเป็นสิ่งที่อยู่ในอุดมคติ หง ซิ่วเฉฺวียนสถาปนาตัวเองเป็น "เทียนหวาง "(ราชาแห่งสวรรค์) ประกาศยกเลิกประเพณีเก่า ๆ ที่เป็นการลิดรอนสิทธิมนุษยชนและขัดต่อศาสนาคริสต์ เช่น การรัดเท้าผู้หญิง,การมีโสเภณี, การสูบฝิ่น, การกราบไหว้บูชารูปเคารพ เป็นต้น รวมถึงให้มีการสอบจอหงวน ซึ่งได้ผู้ชนะเลิศเป็นจอหงวนหญิงคนเดียวในประวัติศาสตร์จีน คือ ฟู่ ซ่านเสียง และได้ยกพลสามหมื่นบุกเข้าโจมตีเมืองต่าง ๆ แถบกวางสีและกวางตุ้ง ได้รับชัยชนะยึดได้เมืองต่าง ๆ มากขึ้น จนกระทั่งสามารถตีนครหนานจิง ตั้งเป็นเมืองหลวงใช้ชื่อว่า "เทียนจิง" (เมืองสวรรค์) ตั้งสหายร่วมรบคนอื่น ๆ เป็น "หวาง" (อ๋อง) มากมายหลายคน แล้วหง ซิ่วเฉฺวียนก็วางมือ ไม่ค่อยยุ่งกับการบริหารดูแลบ้านเมือง ปล่อยให้หวางคนอื่น ๆ รับหน้าที่บริหาร ซึ่งเป็นจุดพลิกผันที่ทำให้กบฏไท่ผิงต้องล้มสลายในที่สุด เนื่องจากบรรดาหวางทั้งหลายชิงดีชิงเด่นกัน ต่างคนก็พยายามช่วงชิงผลประโยชน์ส่วนตัวให้ได้มากที่สุดและหนักสุดถึงขนาดฆ่ากันเอง ในขณะที่ตัวผู้นำคือ หง ซิ่วเฉฺวียน ก็ได้วางมือเร็วไปก่อนเวลา ท้ายสุดในปี พ.ศ. 2407 กบฏไท่ผิงก็ถึงจุดล่มสลายเมื่อพ่ายแพ้อย่างราบคาบต่อราชสำนักที่ผสมกำลังปราบปรามร่วมกับกำลังของชาติตะวันตกที่มีผลประโยชน์กับจีน เช่น อังกฤษ, ฝรั่งเศส และหง ซิ่วเฉฺวียน ได้ฆ่าตัวตาย เมื่อ พ.ศ. 2407 มีกบฏล้มตายเป็นจำนวนถึง 30 ล้านคน ในช่วงปี..

ใหม่!!: หลี่ เหลียงเหว่ยและหง ซิ่วเฉฺวียน · ดูเพิ่มเติม »

อักษรจีนตัวย่อ

Hànzì ฮั่นจื้อ แปลว่า ภาษาฮั่น หรือ ภาษาจีนกลาง เขียนด้วยอักษรจีนตัวย่อ แผนภาพออยเลอร์แสดงกลุ่มของการเปลี่ยนแปลงอักษรจีนตัวเต็มไปเป็นอักษรจีนตัวย่อ อักษรจีนตัวย่อ (เจี่ยนถี่จื้อ/เจี่ยนฮั่วจื้อ) เป็นหนึ่งในสองรูปแบบอักษรจีนมาตรฐานที่ใช้กันทั่วโลกในปัจจุบัน อักษรจีนตัวย่อประดิษฐ์และเริ่มใช้โดยรัฐบาลของสาธารณรัฐประชาชนจีน (จีนแผ่นดินใหญ่) ใน พ.ศ. 2492 เหตุที่ต้องเรียกว่าอักษรจีนตัวย่อ หรือ Simplified Chinese character ก็เพื่อให้แตกต่างจากอักษรจีนมาตรฐานอีกรูปแบบหนึ่งที่ในปัจจุบัน นั่นคือ อักษรจีนตัวเต็ม หรือ Traditional Chinese Character (อักษรจีนดั้งเดิม) อักษรจีนตัวเต็มได้ใช้ใน ฮ่องกง มาเก๊า ไต้หวัน และชุมชนชาวจีนโพ้นทะเลบางชุมชนที่เริ่มตั้งชุมชนก่อนการใช้อักษรจีนตัวย่ออย่างแพร่หลาย ส่วนอักษรจีนตัวย่อ ใช้กันใน สาธารณรัฐประชาชนจีน สิงคโปร์ และชุมชนชาวจีนโพ้นทะเลบางชุมชนที่เริ่มตั้งชุมชนหลังการใช้อักษรจีนตัวย่ออย่างแพร่หลาย อย่างไรก็ตาม ชาวไทยเชื้อสายจีนส่วนมากยังคงใช้อักษรจีนตัวเต็มเป็นหลัก แต่สำหรับการสอนภาษาจีนตามสถานศึกษาในประเทศไทยส่วนมากจะใช้อักษรจีนตัวย่อ เพื่อให้เป็นแบบแผนเดียวกันกับสาธารณรัฐประชาชนจีน.

ใหม่!!: หลี่ เหลียงเหว่ยและอักษรจีนตัวย่อ · ดูเพิ่มเติม »

อักษรจีนตัวเต็ม

Hànzì ฮั่นจื้อ แปลว่า ตัวอักษรจีน เขียนด้วยอักษรจีนตัวเต็ม อักษรจีนตัวเต็ม เป็นหนึ่งในสองรูปแบบอักษรจีนมาตรฐานที่ใช้กันทั่วโลกในปัจจุบัน ปรากฏครั้งแรกในสมัยราชวงศ์ฮั่น (พ.ศ. 337 - 763) และได้ใช้มาตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 5 ในสมัยราชวงศ์เหนือใต้ ที่ต้องเรียกว่าอักษรจีนตัวเต็ม หรืออักษรจีนดั้งเดิม ก็เพื่อให้แตกต่างจากอักษรจีนมาตรฐานอีกรูปแบบหนึ่งที่ใช้ในปัจจุบัน นั่นคือ อักษรจีนตัวย่อ ซึ่งประดิษฐ์และเริ่มใช้โดยรัฐบาลของ สาธารณรัฐประชาชนจีน (จีนแผ่นดินใหญ่) ใน พ.ศ. 2492 อักษรจีนตัวเต็มได้ใช้ใน ฮ่องกง มาเก๊า ไต้หวัน และชุมชนชาวจีนโพ้นทะเลบางชุมชนที่เริ่มตั้งชุมชนก่อนการใช้อักษรจีนตัวย่ออย่างแพร่หลาย ส่วนอักษรจีนตัวย่อ ใช้กันใน สาธารณรัฐประชาชนจีน สิงคโปร์ และชุมชนชาวจีนโพ้นทะเลบางชุมชนที่เริ่มตั้งชุมชนหลังการใช้อักษรจีนตัวย่ออย่างแพร่หลาย อย่างไรก็ตาม ชาวไทยเชื้อสายจีนส่วนมากยังคงใช้อักษรจีนตัวเต็มเป็นหลัก แต่สำหรับการสอนภาษาจีนตามสถานศึกษาในประเทศไทยส่วนมากจะใช้อักษรจีนตัวย่อ เพื่อให้เป็นแบบแผนเดียวกันกับสาธารณรัฐประชาชนจีน.

ใหม่!!: หลี่ เหลียงเหว่ยและอักษรจีนตัวเต็ม · ดูเพิ่มเติม »

อุรัสยา เสปอร์บันด์

อุรัสยา เสปอร์บันด์ (เกิด 18 มีนาคม พ.ศ. 2536) ชื่อเล่น ญาญ่า เป็นนักแสดงและนางแบบลูกครึ่งไทย-นอร์เวย์ เริ่มเข้าสู่วงการบันเทิงในปี..

ใหม่!!: หลี่ เหลียงเหว่ยและอุรัสยา เสปอร์บันด์ · ดูเพิ่มเติม »

ฮ่องกง

องกง (Hong Kong; 香港) มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า เขตบริหารพิเศษฮ่องกงแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน (Hong Kong Special Administrative Region of the People's Republic of China) เป็นเขตปกครองตนเองริมฝั่งทางใต้ของประเทศจีน ในทางภูมิศาสตร์มีสามเหลี่ยมปากแม่น้ำจูเจียงและทะเลจีนใต้โอบรอบ ฮ่องกงเป็นที่รู้จักในสกายไลน์ (skyline) ขยายและท่าเรือธรรมชาติลึก มีเนื้อที่ 1,104 กม.

ใหม่!!: หลี่ เหลียงเหว่ยและฮ่องกง · ดูเพิ่มเติม »

ผู้กำกับภาพยนตร์

วิศิษฏ์ ศาสนเที่ยง ขณะกำกับภาพยนตร์ในกองถ่ายเรื่องเปนชู้กับผี ผู้กำกับภาพยนตร์ คือผู้ที่มีหน้าที่กำกับในขั้นตอนการสร้างภาพยนตร์ โดยผู้กำกับภาพยนตร์มีหน้าที่สร้างจินตนาการจากบทหนัง แล้วถ่ายทอดความคิดทางด้านศิลปะออกมาตามแบบที่ตนเองต้องการ และเป็นคนสั่งฝ่ายอื่น ๆ ในกองถ่าย อย่างเช่น ฝ่ายผู้กำกับภาพ ผู้กำกับการแสดง ฝ่ายเทคนิค นักแสดง ออกมาอยู่ในองค์ประกอบทางศิลป์ที่ตนเองต้องการบนแผ่นฟิล์มหรือในระบบดิจิตอล อย่างไรก็ดี ผู้กำกับภาพยนตร์อาจจะควบคุมทุกอย่างตามที่ตนคิดไว้ไม่ได้เสมอไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเป็นภาพยนตร์ที่ฉายในโรง เพราะผู้อำนวยการสร้างภาพยนตร์ จะเป็นคนกำหนดงบประมาณที่จะให้ผู้กำกับใช้จ่ายได้ หรือสั่งตัดต่อหนังในขั้นตอนสุดท้ายก่อนเข้าโรงฉายหากหนังมีความยาวเกินไป หรือเพื่อดึงการจัดเรตหนังให้ต่ำลงมา หรือบางฉากอาจจะมีการเพิ่มโฆษณาเข้าไป ดังนั้นเป็นเรื่องที่ไม่แปลกหากผู้กำกับจะมีปัญหาให้คุยกับผู้อำนวยการสร้างเสมอ.

ใหม่!!: หลี่ เหลียงเหว่ยและผู้กำกับภาพยนตร์ · ดูเพิ่มเติม »

ฌ้อปาอ๋อง

หน้ากากอุปรากรฌ้อปาอ๋อง ฌ้อปาอ๋อง หรือ ซีฉู่ป้าหวัง (Xīchǔ Bàwáng, 楚霸王) เป็นขุนศึกผู้ยิ่งใหญ่ในยุคปลายราชวงศ์ฉินที่มีชื่อเสียงในประวัติศาสตร์จีน เป็นคู่ปรับคนสำคัญของหลิวปังหรือจักรพรรดิฮั่นเกาจู ปฐมจักรพรรดิจีนราชวงศ์ฮั่น ฌ้อปาอ๋อง มีชื่อเดิมว่า เซี่ยงอวี่ (Xiang Yu, 项羽) เกิดเมื่อ 232 ปีก่อนคริสตกาล ตรงกับยุคจ้านกว๋อ ที่แคว้นฌ้อ หรือ แคว้นฉู่ (ปัจจุบันครอบคลุมดินแดนของมณฑลหูหนาน, มณฑลหูเป่ย์, ฉงชิ่ง, มณฑลเหอหนาน, มณฑลอานฮุย และบางส่วนของมณฑลเจียงซูและมณฑลเจียงซี) เป็นบุคคลที่ได้รับการกล่าวขานว่ามีพละกำลังมหาศาล สามารถยกกระถางธูปที่มีน้ำหนักนับร้อยกิโลกรัมไว้บนเหนือหัวได้ เกิดในตระกูลขุนศึก ได้รับการเล่าเรียนวิชายุทธและการศึกจาก เซี่ยงเหลียง (Xiang Liang, 項梁) ผู้เป็นอา ต่อมาเมื่อปลายราชวงศ์ฉิน เกิดกบฏชาวนาและอีกหลายกบฏต่อต้านราชวงศ์ฉิน เซี่ยงอวี่ก็เป็นหนึ่งในนั้นด้วย และด้วยความสามารถ ทำให้ได้เป็นผู้นำระดับแม่ทัพ และได้ร่วมมือกับหลิวปังในการโจมตีหัวเมืองต่าง ๆ โดยวีรกรรมครั้งสำคัญคือ เมื่อ 206 ปีก่อนคริสตกาล เซี่ยงอวี่นำทัพไปที่เมืองเสียนหยาง เมืองหลวงของราชวงศ์ฉิน ทั้งที่มีกองกำลังน้อยกว่ามากถึง 10 ต่อ 1 หลังจากข้ามแม่น้ำจางเหอไปแล้ว เซี่ยง หวี่ได้สั่งการให้ทหารทั้งหมดที่พกเสบียงอาหารแห้งจำนวนที่จะพอรับประทานได้ 3 วัน และให้ทุบหม้อสำหรับปรุงอาหาร และให้เจาะรูให้เรือที่ข้ามแม่น้ำมาให้รั่วทั้งหมด เพื่อที่จะเอาชนะให้ได้ ไม่เช่นนั้นก็ตายกันหมด ซึ่งวีรกรรมตรงนี้ได้กลายมาเป็นภาษิตในภาษาจีนที่ว่า "ทุบหม้อจมเรือ" อันหมายถึง สิ่งสำคัญที่ตัดสินชะตากรรม ซึ่งเซี่ยงอวี่ได้รับชัยชนะ แต่ปรากฏเป็นกองทัพของหลิวปังที่ได้เข้าสู่เมืองหลวงก่อน พร้อมกับได้นั่งบัลลังก์ฮ่องเต้ สร้างความไม่พอใจให้แก่เซียงอวี่ ต่อมา เซียงอวี่ได้ประกาศตนเองเป็น ฌ้อปาอ๋อง อันหมายถึง "อ๋องแห่งฌ้อผู้ยิ่งใหญ่" พร้อมกับได้สถาปนาให้หลิวปังมีบรรดาศักดิ์เป็น ฮั่นอ๋อง (King of Han, 汉王) ต่อมาเซี่ยงอวี่กับหลิวปังก็แตกแยกกัน ทั้งคู่ทำสงครามแย่งชิงราชบัลลังก์กันนานถึง 4 ปี ที่เรียกกันว่า สงครามฉู่-ฮั่น (Chu–Han contention, 楚汉战争) ในระยะแรก ฌ้อปาอ๋องที่มีกองกำลังมากกว่าได้รับชัยชนะต่อเนื่องกันหลายครั้ง แต่หลิวปังซึ่งได้รับการช่วยเหลือจากที่ปรึกษาและขุนพลคนสำคัญ คือ เตียวเหลียง (Zhang Liang 張良), เซี่ยวเหอ (Xiao He, 蕭何) และ ฮั่นสิน (Han Xin, 韓信) ทำให้ได้เปรียบได้ตอนท้าย และกลายมาเป็นฝ่ายยกกองทัพปิดล้อมกองทัพฌ้อ จนฌ้อปาอ๋องและหยูจี ซึ่งเป็นนางสนมไม่มีทางหนี ขณะที่กำลังถูกปิดล้อมอยู่นั้น กล่าวกันว่าฝ่ายฮั่นได้เล่นเพลงของฌ้อดังไปถึงกองทัพของฌ้อเพื่อข่มขวัญ ทำให้ฌ้อปาอ๋องเกิดมุทะลุบุกขึ้นมาตีฝ่าวงล้อม ซึ่งทำให้ต้องเสียไพร่พลที่เหลือน้อยอยู่แล้วลงไปอีก และตัวเองต้องหนีไปจนมุมที่แม่น้ำไก่เซี่ย (ปัจจุบันอยู่ทางทิศตะวันตกของมณฑลอานฮุย) และฆ่าตัวตายด้วยการเชือดลำคอด้วยดาบในที่สุด จบชีวิตลงเมื่อปี 202 ปีก่อนคริสตกาล ขณะที่มีอายุเพียง 30 ปีเท่านั้น เรื่องราวของฌ้อปาอ๋องได้รับการเล่าขานสืบต่อกันมาในวัฒนธรรมจีนจนถึงปัจจุบัน ซึ่งส่วนใหญ่บุคลิกของฌ้อปาอ๋อง จะเป็นไปในลักษณะของ ชายรูปร่างสูงใหญ่ บึกบึน ไว้หนวดไว้เครา อุปนิสัยโหดร้าย เจ้าอารมณ์ และมุทะลุดุดัน เนื่องจากการบุกเมืองเสียนหยาง ฌ้อปาอ๋องได้สั่งเผาและฝังทั้งเป็นทหารฉินถึง 200,000 นาย และต่อมาเมื่อมีอำนาจ ก็เป็นบุคคลเจ้าอารมณ์ไม่ฟังเสียงทัดทานของผู้คนรอบข้าง ผิดกับหลิวปัง ซึ่งใจเย็น สุขุม และมีเมตตากว่า จึงเป็นที่นิยมของราษฎร ขณะเดียวกันชีวิตส่วนตัวของฌ้อปาอ๋องกับนางสนมหยูจี ที่เป็นผู้หญิงที่สวยมาก ที่อยู่เคียงข้างจนวาระสุดท้าย ก็เป็นที่เล่าขานกัน ซึ่งก่อนที่ฌ้อปาอ๋องจะลุกขึ้นมานำทัพบุกฝ่าวงล้อมของกองทัพฮั่นนั้น ได้เข้าไปร่ำลานางหยูจี พร้อมกับตีกลองร้องเพลงที่มีความหมายถึงวาระสุดท้ายของชีวิตตนเอง ซึ่งเรียกว่า "เพลงแห่งไก่เซี่ย" (Song of Gaixia, 垓下歌) ที่อาจถอดความหมายได้ว่า ซึ่งเรื่องราวของฌ้อปาอ๋อง ได้บันทึกไว้ในวรรณคดีเรื่องสำคัญแห่งการสถาปนาราชวงศ์ฮั่น คือ ไซฮั่น และในยุคปัจจุบันได้กลายเป็นตัวละครสำคัญในวัฒนธรรมร่วมสมัยมากมาย เช่น ภาพยนตร์เรื่อง The Great Conqueror's Concubine ในปี ค.ศ. 1993 นักแสดงผู้ที่รับบทฌ้อปาอ๋อง คือ หลี่ เหลียงเหว่ย หรือละครโทรทัศน์ทุนสร้างสูงในปี ค.ศ. 2011 ซึ่งผู้รับบทนี้ คือ เหอ ยุ่นตง หรืออ้างอิงถึงในภาพยนตร์เรื่อง Farewell My Concubine ในปี..

ใหม่!!: หลี่ เหลียงเหว่ยและฌ้อปาอ๋อง · ดูเพิ่มเติม »

ฌ้อปาอ๋อง ยอดขุนพลลำน้ำเลือด

้อปาอ๋อง ยอดขุนพลลำน้ำเลือด (The Great Conqueror's Concubine, หรืออีกชื่อหนึ่งคือ King of Western Chu) เป็นภาพยนตร์อิงประวัติศาสตร์จีน กำกับโดย สตีเฟ่น ฉิน และ เว่ย ฮั่นเตา นำแสดงโดย หลี่ เหลียงเหว่ย, กวน จือหลิน, จาง เฟิงอี้ และ กง ลี่ ภาพยนตร์เรื่องนี้มีเค้าโครงมาจากเหตุการณ์สงครามฉู่-ฮั่น โดยเกิดขึ้นช่วงที่ ราชวงศ์ฉิน ล่มสลาย และการกำเนิดใหม่ของ ราชวงศ์ฮั่น ภาพยนตร์เรื่องนี้มีภาคต่อคือ ฌ้อปาอ๋อง ศึกสองแผ่นดิน.

ใหม่!!: หลี่ เหลียงเหว่ยและฌ้อปาอ๋อง ยอดขุนพลลำน้ำเลือด · ดูเพิ่มเติม »

จักรพรรดิยงเจิ้ง

มเด็จพระจักรพรรดิยงเจิ้ง ทรงพระราชสมภพเมื่อ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2221 (คังซีปีที่ 17) เป็นพระโอรสลำดับที่ 4 ในจักรพรรดิคังซี มีพระนามเดิมว่า อิ้นเจิน, อิ้นเจวิน (ภาษาจีน: 胤禛) เล่ากันว่า พระองค์ร่วมวางแผนกับหลงเคอตัว ปลอมแปลงลายพระหัตถ์ของจักรพรรดิคังซีจากคำว่าองค์ชาย 14 (十四) เป็นคำว่าให้กับองค์ชาย 4 (于四) องค์ชาย 4 ขึ้นครองราชย์สืบต่อ อันเนื่องจากเหตุการณ์ความวุ่นวายในการแย่งชิงราชสมบัติกันเองระหว่างพี่น้อง ปลายรัชสมัยจักรพรรดิคังซี แต่เรื่องนี้เป็นเพียงความเชื่อที่บอกต่อกันมา ไม่มีหลักฐานทางประวัติศาสตร์ยืนยันแต่ประการใด แต่นั่นก็ทำให้พระองค์ได้ฉายาว่าเป็น "จักรพรรดิบัลลังก์เลือด" หรือ "จักรพรรดิทรราช" (ซึ่งความตรงนี้นักประวัติศาสตร์ยุคปัจจุบันมีความเห็นว่าเป็นไปไม่ได้ เพราะพินัยกรรมของจักรพรรดิคังซีแม้จะเปลี่ยนแปลงก็เปลี่ยนได้เฉพาะฉบับที่เป็นตัวอักษรฮั่นเท่านั้น แต่ฉบับอักษรแมนจูที่มีการเขียนคู่กันด้วยไม่สามารถแก้ไขได้ อีกทั้งอักษร 于 นั้นเป็นการเขียนอย่างย่อ ซึ่งปกติจะไม่ใช้ในเอกสารราชการ) เมื่อจักรพรรดิยงเจิ้งขึ้นครองราชย์ สิ่งแรกที่พระองค์กระทำคือ การเปลี่ยนแปลงวิธีการแต่งตั้งองค์รัชทายาทจากการแต่งตั้งโดยเปิดเผยอันเป็นสิ่งปฏิบัติมาแต่อดีตเป็นแต่งตั้งโดยเป็นความลับโดยเงยพระพักตร์ขึ้นทอดพระเนตรเพดานท้องพระโรงและจารึกพระนามขององค์รัชทายาทใช้หลังป้ายแผ่นหนึ่งที่มีชื่อเรียกว่า เจิ้งต้ากวางหมิง (正大光明) 2 ชุด ชุดแรกเก็บไว้กับตัวพระองค์เองอีกชุดนึงเก็บไว้ซึ่งเก็บไว้ในหีบลับปิดผนึกแล้ววางไว้ที่ป้ายโลหะหน้าท้องพระโรง และให้เปิดทั้ง 2 ป้ายนี้อ่านพร้อมกันเมื่อพระองค์สวรรคตแต่ในระหว่างที่ครองราชย์ต้องพบกับปัญหากบฏหลายต่อหลายครั้งจากบรรดาขุนนางและเหล่าองค์ชายทั้งหลายที่เป็นพี่น้องด้วยกันยงเจิ้งนับว่าเป็นจักรพรรดิที่ขยันขันแข็งมากและได้ปฏิรูปรูปแบบการปกครองการบริหารเอาไว้หลายด้านกิจวัตรของพระองค์ที่ปฏิบัติเป็นประจำคือ ตื่นบรรทมแต่ก่อนรุ่ง เข้าบรรทมในยามดึกเพราะอ่านฎีกาจนดึกดื่น รวบอำนาจ จัดสรรระบบภาษี การเงินการคลัง และขจัดการฉ้อราษฎร์บังหลวงจนถือว่าเป็นช่วงสืบทอดยุคความรุ่งเรืองต่อมาใน 3 รัชกาลนี้ (คังซี-ยงเจิ้ง-เฉียนหลง) จนสามารถยังผลให้ประเทศจีนรุ่งเรืองถึงขีดสุดในยุคของจักรพรรดิเฉียนหลง พระโอรสของพระองค์ที่ครองราชสมบัติต่อ ซึ่งในส่วนของเหตุการณ์แย่งชิงราชสมบัติระหว่างพี่น้องด้วยกันเองนั้น ที่เรียกกันว่า "ศึกสายเลือด" ได้ถูกเล่าขานสืบมาจนปัจจุบัน และนำไปเสริมเติมแต่งเพื่อสร้างเป็นละครโทรทัศน์หรือภาพยนตร์หลายต่อหลายครั้ง จักรพรรดิย่งเจิ้งสิ้นพระชนม์อย่างกะทันหัน ในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2278 ภายหลังจากการสิ้นพระชนม์อย่างกะทันหัน โดยมีสาเหตุคล้ายกับการสิ้นพระชนม์ของจิ๋นซีอ่องเต้ รัชทายาทที่สืบทอดบัลลังก์ต่อ คือ องค์ชายลำดับที่ 4 คือ เจ้าชายหงลี่ ซึ่งพระนามเมื่อครั้งขึ้นครองราชย์ คือ จักรพรรดิเฉียนหลง.

ใหม่!!: หลี่ เหลียงเหว่ยและจักรพรรดิยงเจิ้ง · ดูเพิ่มเติม »

จักรพรรดิฮั่นเกาจู่

ั่นเกาจู่ ตามภาษาจีนมาตรฐาน หรือ ฮั่นโกโจ ตามภาษาจีนฮกเกี้ยน ("อัครบรรพชนฮั่น"; 256 ปีก่อนคริสตกาล – 1 มิถุนายน 195 ปีก่อนคริสตกาล) พระนามเดิม หลิว ปัง เป็นจักรพรรดิพระองค์แรกแห่งราชวงศ์ฮั่นของจักรวรรดิจีน และเป็นผู้ก่อตั้งราชวงศ์ดังกล่าว เสวยราชย์ช่วง 202–195 ปีก่อนคริสตกาล นับเป็นหนึ่งในปฐมกษัตริย์จีนไม่กี่พระองค์ที่มาจากครอบครัวรากหญ้า ก่อนเข้าสู่อำนาจ หลิว ปัง เป็นข้าราชการชั้นผู้น้อยในราชวงศ์ฉิน ทำหน้าเป็นนายด่านที่บ้านเกิดในเทศมณฑลเพ่ย์ (沛縣) แห่งรัฐฉู่ (楚国) ที่ถูกราชวงศ์ฉินยึดครอง เมื่อฉินฉื่อหฺวังตี้ (秦始皇帝) ปฐมกษัตริย์ราชวงศ์ฉิน สิ้นพระชนม์ และจักรวรรดิฉิน (秦朝) ตกอยู่ในความวุ่นวายทางการเมือง หลิว ปัง ละทิ้งตำแหน่งราชการเข้าร่วมกบฏต่อต้านราชวงศ์ฉิน จนสามารถบีบให้จื่ออิง (子嬰) ผู้นำคนสุดท้ายของราชวงศ์ฉิน ยอมจำนนได้เมื่อ 206 ปีก่อนคริสตกาล เมื่อสิ้นราชวงศ์ฉินแล้ว เซี่ยง อฺวี่ (項羽) ผู้นำกบฏ แบ่งดินแดนฉินออกเป็นสิบแปดส่วน ให้หลิว ปัง เป็น "ราชาฮั่น" (漢王) ไปครองภูมิภาคปาฉู่ (巴蜀) อันห่างไกลและกันดาร หลิว ปัง จึงนำทัพต่อต้านเซี่ยง อฺวี่ และสามารถยึดภูมิภาคฉินทั้งสาม (三秦) ไว้ได้ นำไปสู่สงครามกลางเมืองที่เรียกว่า "สงครามฉู่–ฮั่น" (楚漢戰爭) ครั้น 202 ปีก่อนคริสตกาล หลังเกิดยุทธการไกเซี่ย (垓下之戰) หลิว ปัง มีชัยในการชิงอำนาจ จึงสามารถรวบดินแดนจีนส่วนใหญ่ไว้ในกำมือ เขาก่อตั้งราชวงศ์ฮั่น มีตนเป็นจักรพรรดิพระองค์แรก ใช้พระนาม "ฮั่นเกาจู่" รัชสมัยฮั่นเกาจู่มีการลดหย่อนภาษี ส่งเสริมลัทธิขงจื๊อ และปราบปรามกบฏเจ้าประเทศราชต่าง ๆ ฮั่นเกาจู่ยังริเริ่มนโยบายที่เรียก "วิวาห์สันติ" (和親) เพื่อสร้างความปรองดองกับกลุ่มซฺยงหนู (匈奴) หลังพ่ายแพ้ในยุทธการไป๋เติง (白登之戰) เมื่อ 200 ปีก่อนคริสตกาล ครั้น 195 ปีก่อนคริสตกาล ฮั่นเกาจู่สวรรคต พระโอรส คือ หลิว อิ๋ง (劉盈) สืบตำแหน่งต่อ ใช้พระนามว่า "ฮั่นฮุ่ย" (汉惠).

ใหม่!!: หลี่ เหลียงเหว่ยและจักรพรรดิฮั่นเกาจู่ · ดูเพิ่มเติม »

จักรพรรดิฉงเจิน

ักรพรรดิฉงเจิน (6 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1610-25 เมษายน ค.ศ. 1644) จักรพรรดิองค์ที่ 17 และองค์สุดท้ายแห่งราชวงศ์หมิง เป็นพระราชโอรสในจักรพรรดิไท่ชาง และเป็นพระราชอนุชาในจักรพรรดิเทียนฉี เมื่อพระเชษฐาสวรรคตในปี..

ใหม่!!: หลี่ เหลียงเหว่ยและจักรพรรดิฉงเจิน · ดูเพิ่มเติม »

จั่น เจา

จั่น เจา จาก ''เจ็ดผู้กล้าห้าผู้ทรงธรรม'' ฉบับพิมพ์เมื่อ พ.ศ. 2433 จั่น เจา เป็นตัวละครจากวรรณกรรมจีนเรื่อง เจ็ดผู้กล้าห้าผู้ทรงธรรม (The Seven Heroes and Five Gallants) เป็นชาวยุทธเร่ซึ่งมีความสามารถในการต่อสู้เป็นเลิศและมีฉายาว่า "จอมยุทธใต้" (Nán Xiá; "Southern Hero") ภายหลังเลื่อมใสในอุดมการณ์ของเปา เจิ่ง (Bāo Zhěng) จึงเข้าช่วยเหลือราชการของเขา และจักรพรรดิเหรินจงตั้งให้เป็นราชองครักษ์ระดับ 4 พร้อมประทานฉายาให้ว่า "แมวหลวง" (Yù Māo; "Royal Cat") เพราะเห็นกิริยาปราดเปรียวว่องไวประดุจแมว หมวดหมู่:เปาบุ้นจิ้น หมวดหมู่:เจ็ดผู้กล้าห้าผู้ทรงธรรม.

ใหม่!!: หลี่ เหลียงเหว่ยและจั่น เจา · ดูเพิ่มเติม »

จิ้งจอกภูเขาหิมะ

้งจอกภูเขาหิมะ (雪山飛狐, Fox Volant of the Snowy Mountain, Flying Fox of Snowy Mountain) หรือ เซาะฮัวปวยฮู้ เป็นนิยายกำลังภายในของกิมย้งจัดเป็นเรื่องสั้นที่เขียนได้ดีที่สุดและโดดเด่นที่สุดของยุทธจักรนิยาย โดยวิธีการดำเนินแบบเล่าเรื่อง มาตรแม้นว่าเป็นเรื่องราวเดียวกันแต่เมื่อกล่าวจากปากแต่ละคนกลับผิดแผกแตกต่างตลอดทั้งเนื้อเรื่องกล่าวถึงปริศนาลี้ลับมากมาย ใช้วิธีการผูกเรื่องคล้ายกับการสืบสวนคดีแบบปากต่อปากจากนั้นนำเรื่องราวทั้งหมดมาร้อยเรียงเข้าด้วยกันจนได้ปรากฏข้อเท็จจริง ในด้านของเนื้อหาแม้ไม่นับว่าเลิศพบจบแผ่นดินดุจดั่งสามไตรภาคมังกรหยก แปดเทพอสูรมังกรฟ้า และกระบี่เย้ยยุทธจักร แต่นับว่าสามารถสะท้อนนิสัยใจคอพื้นเพของมนุษย์ได้อย่างดีเยี่ยมเรื่องหนึ่งโดยผ่านการกล่าววาจาซึ่งสะท้อนลักษณะนิสัยและความคิดของมนุษย์ อนึ่งนั้นมาตรแม้นว่าจิ้งจอกภูเขาหิมะจะมีเนื้อเรื่องและตัวละครเกี่ยวเนื่องกันกับจิ้งจอกอหังการแต่นักอ่านสามารถอ่านโดยแยกจากกันได้ ทั้งนี้เพราะแม้ว่าจิ้งจอกภูเขาหิมะเขียนขึ้นก่อนแต่กลับเป็นเรื่องราวภายหลังจิ้งจอกอหังการ และกิมย้งแต่งโดยให้ทั้งสองเป็นเอกเทศแยกจากกัน แต่ถึงกระนั้นเมื่อนำเรื่องนี้มาสร้างภาพยนตร์หรือละครโทรทัศน์ผู้สร้างก็ยังมิวายรวมสองเรื่องเข้าด้วยกันเป็น จิ้งจอกภูเขาหิมะ เรื่องเดียวอยู่ดี.

ใหม่!!: หลี่ เหลียงเหว่ยและจิ้งจอกภูเขาหิมะ · ดูเพิ่มเติม »

ทรานส์ฟอร์มเมอร์ส มหาวิบัติยุคสูญพันธุ์

ทรานส์ฟอร์มเมอร์ส มหาวิบัติยุคสูญพันธุ์ (Transformers: Age of Extinction) เป็นภาพยนตร์อเมริกันในปี ค.ศ. 2014 และเป็นเรื่องที่ 4 ของภาพยนตร์ทรานส์ฟอร์มเมอร์ส ซึ่งต่อจากภาคทรานส์ฟอร์มเมอร์ส 3 นำแสดงโดย มาร์ก วาห์ลเบิร์ก กำกับการแสดงโดย ไมเคิล เบย์ และได้ สตีเวน สปีลเบิร์ก เป็นผู้อำนวยการบริหาร โดยออกฉายในประเทศไทยเมื่อวันที่ 25 มิถุนายน ค.ศ. 2014 ในระหว่างการสร้างทรานส์ฟอร์มเมอร์ส 3 ไชอา เลอบัฟ และไมเคิล เบย์ ได้ยืนยันว่าพวกเขาจะไม่กลับมาในภาคที่สี่ของซีรีส์ ส่วนโรแลนด์ เอมเมอริค, โจ จอห์นสตัน, จอน เทอร์เทิลเทิบ, สตีเฟน ซอมเมอร์ส, หลุยส์ เลแตร์ริเยร์ และเดวิด เยตส์ ต่างได้รับการลือว่าจะเข้ามาทำหน้าที่แทนไมเคิล.

ใหม่!!: หลี่ เหลียงเหว่ยและทรานส์ฟอร์มเมอร์ส มหาวิบัติยุคสูญพันธุ์ · ดูเพิ่มเติม »

คริสต์ทศวรรษ 1940

..

ใหม่!!: หลี่ เหลียงเหว่ยและคริสต์ทศวรรษ 1940 · ดูเพิ่มเติม »

คริสต์ทศวรรษ 1970

..

ใหม่!!: หลี่ เหลียงเหว่ยและคริสต์ทศวรรษ 1970 · ดูเพิ่มเติม »

คนตัดคนภาคพิเศษ ตอน กำเนิดเกาจิ้ง

นตัดคนภาคพิเศษ ตอน กำเนิดเกาจิ้ง (賭神三之少年賭神; God of Gamblers 3: The Early Stage) เป็นภาพยนตร์ฮ่องกง..

ใหม่!!: หลี่ เหลียงเหว่ยและคนตัดคนภาคพิเศษ ตอน กำเนิดเกาจิ้ง · ดูเพิ่มเติม »

ประเทศไทย

ประเทศไทย มีชื่ออย่างเป็นทางราชการว่า ราชอาณาจักรไทย เป็นรัฐชาติอันตั้งอยู่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เดิมมีชื่อว่า "สยาม" รัฐบาลประกาศเปลี่ยนชื่อเป็นประเทศไทยอย่างเป็นทางการตั้งแต่ปี 2482 ประเทศไทยมีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่ 50 ของโลก มีเนื้อที่ 513,115 ตารางกิโลเมตร และมีประชากรมากเป็นอันดับที่ 20 ของโลก คือ ประมาณ 66 ล้านคน กรุงเทพมหานครเป็นศูนย์กลางการบริหารราชการแผ่นดินและนครใหญ่สุดของประเทศ และการปกครองส่วนภูมิภาค จัดระเบียบเป็น 76 จังหวัด แม้จะมีการสถาปนาระบอบราชาธิปไตยภายใต้รัฐธรรมนูญและประชาธิปไตยระบบรัฐสภาในปี 2475 แต่กองทัพยังมีบทบาทในการเมืองไทยสูง ล่าสุด เกิดรัฐประหารเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 และมีการปกครองแบบเผด็จการทหารนับแต่นั้น พบหลักฐานการอยู่อาศัยอย่างต่อเนื่องในอาณาเขตประเทศไทยปัจจุบันตั้งแต่ 20,000 ปีก่อนคริสตกาล ชาวไทเริ่มอพยพเข้าสู่บริเวณนี้ในคริสต์ศตวรรษที่ 11 แล้วเข้ามาตั้งแว่นแคว้นต่าง ๆ ที่สำคัญได้แก่ อาณาจักรสุโขทัย อาณาจักรล้านนาและอาณาจักรอยุธยา นักประวัติศาสตร์มักถือว่าอาณาจักรสุโขทัยเป็นจุดเริ่มต้นของประวัติศาสตร์ไทย ต่อมาอาณาจักรอยุธยาค่อย ๆ เรืองอำนาจมากขึ้นจนเป็นมหาอำนาจในภูมิภาคในปลายคริสต์ศตวรรษที่ 14 การติดต่อกับชาติตะวันตกเริ่มด้วยผู้แทนทางทูตชาวโปรตุเกสในปี 2054 อาณาจักรรุ่งเรืองอย่างมากในรัชกาลสมเด็จพระนารายณ์มหาราช (ครองราชย์ปี 2199–2231) แต่หลังจากนั้นค่อย ๆ เสื่อมอำนาจโดยมีสาเหตุส่วนหนึ่งจากการผลัดแผ่นดินที่มีการนองเลือดหลายรัชกาล จนสุดท้ายกรุงศรีอยุธยาถูกทำลายสิ้นเชิงในปี 2310 สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีทรงรวบรวมแผ่นดินที่แตกออกเป็นก๊กต่าง ๆ และสถาปนาอาณาจักรธนบุรีที่มีอายุ 15 ปี ความวุ่นวายในช่วงปลายอาณาจักรนำไปสู่การสำเร็จโทษพระองค์โดยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ปฐมราชวงศ์จักรีแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ช่วงต้นกรุงรัตนโกสินทร์ ประเทศเผชิญภัยคุกคามจากชาติใกล้เคียง แต่หลังรัชกาลพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเป็นต้นมา ชาติตะวันตกเริ่มมีอิทธิพลในภูมิภาคเป็นอย่างมาก นำไปสู่การเข้าเป็นภาคีแห่งสนธิสัญญาไม่เป็นธรรมหลายฉบับ กระนั้น สยามไม่ตกเป็นอาณานิคมของตะวันตกชาติใด มีการปรับให้สยามทันสมัยและรวมอำนาจปกครองในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (ครองราชย์ปี 2411–53) สยามเข้าร่วมกับฝ่ายสัมพันธมิตรในสงครามโลกครั้งที่หนึ่งในปี 2460; ในปี 2475 เกิดการปฏิวัติเปลี่ยนแปลงการปกครองสู่ระบอบราชาธิปไตยภายใต้รัฐธรรมนูญโดยไม่เสียเลือดเนื้อ คณะราษฎรมีบทบาทนำทางการเมือง และในพุทธทศวรรษ 2480 นายกรัฐมนตรี จอมพล แปลก พิบูลสงคราม ดำเนินนโยบายชาตินิยมเข้มข้น ระหว่างสงครามโลกครั้งที่สอง ไทยเข้ากับฝ่ายอักษะ แต่ฝ่ายสัมพันธมิตรส่วนใหญ่ไม่ยอมรับการประกาศสงคราม ในช่วงสงครามเย็น ประเทศไทยเป็นพันธมิตรกับสหรัฐซึ่งสนับสนุนรัฐบาลทหารมาก รัฐประหารที่มีจอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์เป็นหัวหน้าคณะในปี 2500 ทำให้คณะราษฎรหมดอำนาจ รัฐบาลฟื้นฟูพระราชอำนาจและมีมาตรการต่อต้านคอมมิวนิสต์ในภูมิภาค ผลของเหตุการณ์ 14 ตุลา 2516 ทำให้เกิดประชาธิปไตยระบบรัฐสภาช่วงสั้น ๆ ประเทศไทยมีนายกรัฐมนตรีจากการเลือกตั้งครั้งแรกในปี 2531 หลังพุทธทศวรรษ 2540 มีวิกฤตการเมืองระหว่างฝ่ายที่สนับสนุนและต่อต้านอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตรมาจนปัจจุบัน รวมทั้งเกิดรัฐประหารสองครั้ง โดยครั้งล่าสุดเกิดในปี 2557 รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันเป็นฉบับที่ 20 ประกาศใช้เมื่อวันที่ 6 เมษายน 2560 หลังมีการลงประชามติรับร่างเมื่อหนึ่งปีก่อน ประเทศไทยเป็นสมาชิกสหประชาชาติ เอเปก อีกทั้งเป็นร่วมผู้ก่อตั้งอาเซียน ประเทศไทยเป็นพันธมิตรของสหรัฐตั้งแต่สนธิสัญญาซีโต้ในปี 2497 ถือเป็นประเทศอำนาจนำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และประเทศอำนาจปานกลางในเวทีโลก ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีรายได้ปานกลาง-สูงและประเทศอุตสาหกรรมใหม่ มีรายได้หลักจากภาคอุตสาหกรรมและบริการ การเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจทำให้มีการอพยพเข้าสู่เมืองในคริสต์ศตวรรษที่ 20 ตามประมาณการในปี 2560 จีดีพีของประเทศไทยมีมูลค่าราว 432,898 ล้านดอลลาร์สหรัฐ นับว่าเศรษฐกิจไทยเป็นเศรษฐกิจใหญ่สุดเป็นอันดับ 2 ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และใหญ่เป็นอันดับที่ 26 ของโลก.

ใหม่!!: หลี่ เหลียงเหว่ยและประเทศไทย · ดูเพิ่มเติม »

ประเทศเวียดนาม

วียดนาม (Việt Nam เหฺวียดนาม) มีชื่ออย่างเป็นทางการคือ สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม (Cộng hòa xã hội chủ nghĩa Việt Nam, ก่ง ฮหว่า สา โห่ย จู๋ เหงีย เหวียต นาม) เป็นประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตั้งอยู่ทางด้านตะวันออกสุดของคาบสมุทรอินโดจีน มีพรมแดนติดกับประเทศจีน ทางทิศเหนือ ประเทศลาว และประเทศกัมพูชา ทางทิศตะวันตก และอ่าวตังเกี๋ย ทะเลจีนใต้ ทางทิศตะวันออกและใต้ หรือในภาษาเวียดนามเรียกเฉพาะทะเลทางทิศตะวันออกว่า ทะเลตะวันออก (Biển Đông, เบี๋ยน ดง) เวียดนามมีประชากรมากกว่า 89 ล้านคน ถือเป็นประเทศที่มีประชากรมากที่สุดเป็นอันดับ 13 ของโลก.

ใหม่!!: หลี่ เหลียงเหว่ยและประเทศเวียดนาม · ดูเพิ่มเติม »

ปิดเมืองล่าโจร

ปิดเมืองล่าโจร (风暴; Firestorm) เป็นภาพยนตร์แอ็คชั่นฮ่องกง ค.ศ. 2013 เขียนบทและกำกับโดยหยวน จิ่นหลิน อำนวยการสร้างและนำแสดงโดยหลิว เต๋อหัว ภาพยนตร์ชุดนี้ได้รับการแปลงเป็น 3 มิติในช่วงหลังการผลิต นับเป็นภาพยนตร์ตำรวจฮ่องกง 3 มิติเรื่องแรก ปิดเมืองล่าโจร ได้รับเลือกเป็นภาพยนตร์เปิดงานสกรีนสิงคโปร์ ที่ซึ่งหลิว เต๋อหัว และหลิน เจียต้ง ได้เดินบนพรมแดงสำหรับภาพยนตร์รอบปฐมทัศน์ ภาพยนตร์ชุดนี้ยังได้รับการเปิดตัวในเทศกาลภาพยนตร์เอเชียแปซิฟิกครั้งที่ 56 เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม..

ใหม่!!: หลี่ เหลียงเหว่ยและปิดเมืองล่าโจร · ดูเพิ่มเติม »

นักธุรกิจ

นักธุรกิจ คือผู้ประกอบการหรือผู้ที่มีส่วนร่วมในการจัดการ(ระดับใดก็ได้)ของบริษัท บางครั้งอาจหมายถึงบุคคลที่เป็นองค์กรที่แสวงหากำไร (โดยปกติ)นักธุรกิจมักจะอ้างถึงบุคคลที่ทำงานในสำนักงานตลอดเวล.

ใหม่!!: หลี่ เหลียงเหว่ยและนักธุรกิจ · ดูเพิ่มเติม »

นักแสดง

กเบื้องหลังการถ่ายทำละคร นักแสดงกำลังซ้อมการแสดง นักแสดง คือ บุคคลที่ประกอบอาชีพเป็นผู้แสดง เช่น ศิลปิน, นักรำ, นักเต้น, นักดนตรี ซึ่งแสดง ท่าทาง ร้องกล่าว พากย์ แสดงตามบทเพื่อเผยแพร่ต่อผู้ชม และอื่นอื่น ซึ่งเป็นผู้มีลิขสิทธิ์ตามหลักทั่วไป กล่าวคือ เป็นผู้ที่ได้ใช้ความคิดสร้างสรรค์งานขึ้นมา นักแสดงนั้น ไม่จำกัดว่าจะเป็นบุคคลเพศ, อาชีพ, หรือ อายุเท่าไร แต่จำเป็นต้องมีความสามารถทางด้านการการแสดงออกทางสีหน้า อารมณ์และองค์ประกอบอื่น ๆ ร่วมด้วย โดยมาก คำว่า นักแสดง มักจะใช้เรียกว่า ดารา เสมอไป.

ใหม่!!: หลี่ เหลียงเหว่ยและนักแสดง · ดูเพิ่มเติม »

โจว ไห่เม่ย

ว ไห่เม่ย (周海媚, พินอิน: Zhōu Hǎimèi) หรือในชื่อภาษาอังกฤษ แคที โจว (Kathy Chow) นางแบบและนักแสดงหญิงชาวฮ่องกง เจ้าของฉายา "ชารอน สโตนแห่งเอเชีย" มีชื่อเสียงในช่วงปลายทศวรรษ 1980 ถึง 1990 โจว ไห่เม่ย จบมัธยมปลาย โจว ไห่เม่ย เกิดที่ฮ่องกง เริ่มเข้าสู่วงการจากการประกวดนางงามฮ่องกงเมื่อปี 1985 จากนั้นได้เข้าโรงเรียนการแสดงของทีวีบี มีผลงานแสดงเรื่องแรก คือ ขุนศึกตระกูลหยาง (The Yang's Saga) ตามด้วย สายเลือดทรนง (The Feud of Two Brothers) ในปี 1986 และในช่วงที่เธอได้รับความนิยมสูงสุดจากเรื่อง คู่แค้นสายโลหิต (Looking Back in Anger) ในปี 1989 ส่งผลให้เธอเป็นนางเอกอันดับหนึ่งของทีวีบี โดยทันที ช่วงปี 1989-1993 และมีผลงานต่อเนื่องจนถึงปี 1993 หลังจากปี 1993 ชื่อเสียงของเธอก็เริ่มลดน้อยลง และจากนั้นจึงหันเข้าสู่วงการภาพยนตร์ ร้องเพลง และไปแสดงภาพยนตร์ในไต้หวัน และญี่ปุ่น ปัจจุบันเธอมีผลงานแสดงน้อยลง เนื่องจากปัญหาเรื่อง.

ใหม่!!: หลี่ เหลียงเหว่ยและโจว ไห่เม่ย · ดูเพิ่มเติม »

โจว เหวินฟะ

ว เหวินฟะ ในเรื่อง ศึกโค่นบัลลังก์วังทอง (เข้าฉาย 1 กุมภาพันธ์ 2550) โจว เหวินฟะ (Chow Yun fat; เกิด 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2498 ที่เกาะลัมมา ฮ่องกง) เป็นหนึ่งในสุดยอดนักแสดงฮ่องกงที่ได้ก้าวเข้าสู่วงการภาพยนตร์นานาชาติ ในฐานะเดียวกับ บรูซ ลี และ เฉินหลง โจว เหวินฟะ เป็นนักแสดงที่มีบุคลิกโดดเด่น ได้รับการเปรียบว่าคล้ายคลึงกับแครี แกรนท์ นักแสดงฮอลลีวูดแต่ดูบึกบึนและจัดจ้านกว่า โจว เหวินฟะ เกิดบนเกาะลัมมา นอกชายฝั่งของเกาะฮ่องกง มีชีวิตวัยเด็กที่ยากไร้ แต่โชคดีที่เขาได้เรียนจนจบวิทยาลัย ชีวิตของเขาถึงจุดพลิกผันเมื่อได้รับเข้าเป็นนักแสดงฝึกหัดในบริษัททีวีบี ที่เป็นสถานีโทรทัศน์ท้องถิ่น เขาใช้เวลาไม่นานในการไต่เต้าขึ้นมาเป็นนักแสดงที่เป็นที่รู้จักของประชาชน หลังจากที่ละครโทรทัศน์เรื่องเจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้ (ภาษาจีน:上海灘 พินอิน:Shang Hai tan - แปลตรงตัวว่า'หาดเซี่ยงไฮ้') ประสบความสำเร็จใน พ.ศ. 2523 แม้ว่าโจว เหวินฟะ จะประสบความสำเร็จจากผลงานทางจอแก้วอย่างต่อเนื่อง ความฝันอันสูงสุดของเขายังคงเป็นการได้แสดงภาพยนตร์ทางจอเงิน แต่อย่างไรก็ดี การได้ไปโลดแล่นทางหนังจอเงินของเขาบางครั้งบางคราวในภาพยนตร์ต้นทุนต่ำ กลับกลายเป็นความหายนะ เขาประสบความสำเร็จในที่สุดเมื่อได้ร่วมงานกับจอห์น วู ผู้กำกับหน้าใหม่ที่ไม่มีใครรู้จักในขณะนั้น ในภาพยนตร์บู๊ต้นทุนต่ำเรื่อง โหด เลว ดี ในปีพ.ศ. 2529 ขึ้นอับดับสูงในการจัดอันดับหนังทำเงินในหลายประเทศในเอเชีย และส่งให้จอห์น วู และโจว เหวินฟะ กลายเป็นสุดยอดดารา โจว เหวินฟะได้ถือโอกาสนี้ล้างมือจากวงการโทรทัศน์และอุทิศตนให้กับการแสดงภาพยนตร์กังฟูมากขึ้น ภาพยนตร์เรื่องต่อมาของเขาเป็นเรื่องเกี่ยวกับการนองเลือดของวีรบุรุษ เรื่อง โหดตัดโหด (พ.ศ. 2532) และ ทะลักจุดแตก (พ.ศ. 2535) และภาพยนตร์รักโรแมนติกเรื่อง ดอกไม้กับนายกระจอก (พ.ศ. 2530) อย่างไรก็ตาม เขาสร้างชื่อมากที่สุดจากบทของบุรุษแกร่งผู้ทรงเกียรติ ไม่ว่าจะเป็นตำรวจหรืออาชญากร เขาได้ร่วมแสดงกับหลิวเต๋อหัว ในภาพยนตร์เรื่อง คนตัดคน (พ.ศ. 2532) กำกับโดย หวังจิ่ง ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้สร้างความประหลาดใจให้แก่คนจำนวนมาก และได้กลายเป็นภาพยนตร์ที่โด่งดังมากในฮ่องกง ทำลายสถิติหนังทำเงินทุกเรื่องที่มีมา และเป็นที่มาของภาพยนตร์แนวเจ้าพ่อพนันจำนวนมาก รวมถึงเรื่อง คนตัดเซียน ภาคต่อในแบบตลกขบขันที่มี โจวซิงฉือ แสดงนำ โจว เหวินฟะนอกจากจะเป็นดาราที่ร้อนแรงที่สุดในฮ่องกงคนหนึ่งแล้ว เขายังถูกฮอลลีวูดเรียกตัวไปเพื่อพยายามปั้นให้เขาประสบความสำเร็จในระดับนานาชาติอย่างเดียวกันกับในฮ่องกงและเอเชีย แต่คราวนี้ภาพยนตร์ฮอลลีวูดสองเรื่องแรกของเขา คือ นักฆ่ากระสุนโลกันต์ (พ.ศ. 2541) กำกับโดยอังตวน ฟูควา และคนคอรัปชั่น (พ.ศ. 2542) ไม่ประสบความสำเร็จในบ็อกซ์ออฟฟิศเท่าที่ควร ภาพยนตร์เรื่องต่อมาคือ แอนนา แอนด์ เดอะ คิง (พ.ศ. 2542) ที่ถูกแบนห้ามฉายในประเทศไทย ทำได้ดีกว่าเดิม แต่ความสำเร็จกลับตกอยู่กับดาราสาวโจดี ฟอสเตอร์เสียส่วนใหญ่ และราวกับเป็นเรื่องประชดแดกดัน เมื่อ โจว เหวินฟะ ยอมเล่นเป็นดาราสมทบในภาพยนตร์เรื่อง พยัคฆ์ระห่ำ มังกรผยองโลก (พ.ศ. 2543) กำกับโดยอั้ง ลี่ หนังเรื่องนี้กลับประสบความสำเร็จอย่างถล่มทลาย ได้ขึ้นอันดับหนังทำเงินสูงสุดในสหรัฐ และยังได้รับรางวัลออสการ์ถึงสี่สาขาด้วยกัน (ภาพยนตร์ภาษาต่างประเทศยอดเยี่ยม ดนตรีประกอบยอดเยี่ยม ถ่ายภาพยอดเยี่ยม และ กำกับศิลป์ยอดเยี่ยม) โจว เหวินฟะ ยังคงรอคอยกับความสำเร็จแบบเดียวกับที่เขาได้เคยลิ้มรสในฮ่องกง ครั้งหนึ่ง เขาเคยให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวยอมรับว่า เป้าหมายสูงสุดของเขาคือการได้รางวัลออสการ์ ในฐานะดารานำยอดเยี่ยมฝ่ายชาย และเมื่อมีคนถามว่าเขาจะทำอย่างไรหากมันไม่เป็นจริงขึ้นมา โจว เหวินฟะตอบเพียงว่า "ผมก็คงต้องหัวเราะกับมัน..." งานอดิเรกที่โจว เหวินฟะโปรดปรานคือการ.

ใหม่!!: หลี่ เหลียงเหว่ยและโจว เหวินฟะ · ดูเพิ่มเติม »

เหอ เจียจิ้ง

หอ เจียจิ้ง (Kenny Ho; 何家勁; พินอิน: Hé Jiājìng) นักแสดงชาวฮ่องกง ซึ่งมีชื่อเสียงเป็นที่นิยมของชาวไทย จากบทบาทองครักษ์วังหลวง "จั่น เจา" ในละครโทรทัศน์ชุด เปาบุ้นจิ้น ของไต้หวัน (เสนอฉายในประเทศไทย ทางไทยทีวีสีช่อง 3 เมื่อปี พ.ศ. 2537, พ.ศ. 2550 และ พ.ศ. 2558).

ใหม่!!: หลี่ เหลียงเหว่ยและเหอ เจียจิ้ง · ดูเพิ่มเติม »

เอไกหว่า ภาค 2

อไกหว่า ภาค 2 (Project A Part II) เป็นภาพยนตร์ฮ่องกงแนวแอคชั่น ออกฉายในปี..

ใหม่!!: หลี่ เหลียงเหว่ยและเอไกหว่า ภาค 2 · ดูเพิ่มเติม »

เจิ้ง เจียอิ่ง

วิน เจิ้ง หรือ เจิ้ง เจียอิ่ง (ชื่อภาษาอังกฤษ: Kevin Cheng, Zheng jia ying, Cheng Ka Wing) โด่งดังมาจากบทผู้กองหวง ในละครเรื่องข้ามฟ้าเฉือนคม องค์ชายแปด ในเรื่องปู้ปู้จิงซิน เกิดเมื่อวันที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2513 ที่แคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริก.

ใหม่!!: หลี่ เหลียงเหว่ยและเจิ้ง เจียอิ่ง · ดูเพิ่มเติม »

เจ้าพ่อกวางตุ้ง

้าพ่อกวางตุ้ง (The Canton Godfather) เป็นภาพยนตร์จีนที่ออกฉายในปี..

ใหม่!!: หลี่ เหลียงเหว่ยและเจ้าพ่อกวางตุ้ง · ดูเพิ่มเติม »

เจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้

้าพ่อเซี่ยงไฮ้ (上海灘) เป็นละครชุดคลาสสิกใน พ.ศ. 2523 ของ TVB จากฮ่องกง ซีรียส์ชุดนี้ได้รับการฉายซ้ำ, ถูกจดจำ และถูกนำไปใช้ในภาพยนตร์เรื่องอื่นหลายต่อหลายครั้ง อีกทั้งเพลงเริ่มละครก็กลายมาเป็นเพลงป๊อปในภาษาจีนกวางตุ้งที่ได้รับการจดจำ.

ใหม่!!: หลี่ เหลียงเหว่ยและเจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้ · ดูเพิ่มเติม »

เฉาไก้

ฉาไก้ หรือชื่อในสำเนียงแต้จิ๋วว่า เตียวไก่ เป็นตัวละครในวรรณกรรมจีนเรื่องซ้องกั๋ง หรือ108 ผู้กล้าหาญแห่งเขาเหลียงซาน ซึ่งเป็นหนึ่งในสี่สุดยอดวรรณกรรมจีน มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักในฐานะผู้ก่อตั้งเขาเหลียงซาน แต่อย่างไรก็ดี เฉาไก้ไม่นับว่าเป็นหนึ่งใน 108 ผู้กล้า เพราะว่าเขาเสียชีวิตก่อนทั้ง 108 ผู้กล้าจะรวมตัวกัน เฉาไก้เสียชีวิตจากพิษของลูกธนูที่สื่อเหวินกงเป็นผู้ยิงในการต่อสู้ที่ป้อมตระกูลเจิง หลังจากเฉาไก้เสียชีวิต เขาก็ได้กลายเป็นศูนย์รวมจิตใจของพลพรรคเหลียงซาน และมีการทำพิธีเพื่อบูชาดวงวิญญาณของเฉาไก้อย่างสม่ำเสมอ.

ใหม่!!: หลี่ เหลียงเหว่ยและเฉาไก้ · ดูเพิ่มเติม »

108 ผู้ยิ่งใหญ่เขาเหลียงซาน

108 ผู้ยิ่งใหญ่เขาเหลียงซาน (All Men Are Brothers) เป็นละครโทรทัศน์ที่กล่าวถึงเรื่องราวของวรรณกรรมที่เป็น 1 ใน 4 สุดยอดวรรณกรรมจีน เรื่อง ซ้องกั๋ง ในประเทศมาเลเซีย จะออกอากาศช่อง 8TV นำแสดงโดย จาง ฮั่นอวี่, หลี่ จงฮั่น, หู ตง, หวง ไห่ผิง, เฉิน หลง, เจียง กังฉาน, เจ้า หู, เหยิน กวน, อัน อี่เซวียน ออกอากาศทางช่อง ช่อง 3 แฟมิลี ในประเทศไท.

ใหม่!!: หลี่ เหลียงเหว่ยและ108 ผู้ยิ่งใหญ่เขาเหลียงซาน · ดูเพิ่มเติม »

22 ธันวาคม

วันที่ 22 ธันวาคม เป็นวันที่ 356 ของปี (วันที่ 357 ในปีอธิกสุรทิน) ตามปฏิทินสุริยคติแบบเกรกอเรียน เมื่อถึงวันนี้จะยังเหลือวันอีก 9 วันในปีนั้น.

ใหม่!!: หลี่ เหลียงเหว่ยและ22 ธันวาคม · ดูเพิ่มเติม »

เปลี่ยนเส้นทางที่นี่:

Ray Luiหลี่ เหลี่ยงเหว่ยหลี่เหลียงเหว่ย

ขาออกขาเข้า
Hey! เราอยู่ใน Facebook ตอนนี้! »