เรากำลังดำเนินการเพื่อคืนค่าแอป Unionpedia บน Google Play Store
ขาออกขาเข้า
🌟เราได้ทำให้การออกแบบของเราง่ายขึ้นเพื่อการนำทางที่ดีขึ้น!
Instagram Facebook X LinkedIn

มหาวิหารนักบุญเปโตรเดิม

ดัชนี มหาวิหารนักบุญเปโตรเดิม

วาดมหาวิหารนักบุญเปโตรเดิมสมัยคริสต์ศตวรรษที่ 19 โดยเชื่อกันว่าจะเป็นภาพมหาวิหารเมื่อราว ค.ศ. 1450 มหาวิหารนักบุญเปโตรเดิม เป็นสิ่งก่อสร้างซึ่งเคยตั้งอยู่ ณ จุดที่เป็นที่ตั้งของมหาวิหารนักบุญเปโตรหลังปัจจุบันในกรุงโรมตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 4 ถึง 16 การก่อสร้างมหาวิหาร ซึ่งตั้งอยู่เหนือเซอร์คัสเนโรในอดีต เริ่มต้นขึ้นระหว่างรัชสมัยของจักรพรรดิคอนสแตนตินที่ 1 ชื่อ "มหาวิหารนักบุญเปโตรเดิม" ถูกใช้สืบมานับตั้งแต่การก่อกร้างมหาวิหารปัจจุบันเพื่อแยกสิ่งก่อสร้างทั้งสองนี้.

เปิดใน Google Maps

สารบัญ

  1. 12 ความสัมพันธ์: ชาร์เลอมาญมหาวิหารมหาวิหารนักบุญเปโตรสมเด็จพระสันตะปาปาจูลิอุสที่ 2อาวีญงปาปาซีจักรพรรดิคอนสตันไทน์มหาราชจักรพรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์จักรวรรดิโรมันซีโมนเปโตรโรมโคมระย้าเลออน บัตติสตา อัลแบร์ตี

ชาร์เลอมาญ

ร์เลอมาญ (Charlemagne) หรือชื่อในภาษาเยอรมันคือ คาร์ลมหาราช (Karl der Große) เป็นกษัตริย์แห่งชาวแฟรงก์ (ฝรั่งเศสโบราณ) ตั้งแต่ปี..

ดู มหาวิหารนักบุญเปโตรเดิมและชาร์เลอมาญ

มหาวิหาร

มหาวิหาร หมายถึง วิหารหรือเทวสถานขนาดใหญ่; ในพุทธศาสนสถาน อาจหมายถึง.

ดู มหาวิหารนักบุญเปโตรเดิมและมหาวิหาร

มหาวิหารนักบุญเปโตร

มหาวิหารนักบุญเปโตร (Basilica of Saint Peter, Basilica Sancti Petri) รู้จักกันโดยชาวอิตาลีว่า Basilica di San Pietro in Vaticano หรือเรียกกันสั้น ๆ ว่าเซนต์ปีเตอร์สบาซิลิกา (Saint Peter's Basilica) เป็นมหาวิหารเอกหนึ่งในสี่แห่งในกรุงโรม นครรัฐวาติกัน (อีกสามมหาวิหาร คือ มหาวิหารนักบุญยอห์น ลาเตรัน มหาวิหารซันตามาเรียมัจโจเร และมหาวิหารนักบุญเปาโลนอกกำแพง).

ดู มหาวิหารนักบุญเปโตรเดิมและมหาวิหารนักบุญเปโตร

สมเด็จพระสันตะปาปาจูลิอุสที่ 2

มเด็จพระสันตะปาปาจูลิอุสที่ 2 (ละติน: Julius II) พระสันตะปาปาจูลิอุสที่ 2 มีพระฉายานามว่า “พระสันตะปาปาผู้เหี้ยมโหด” (Il Papa Terribile) พระนามเมื่อเกิดคือจูเลียโน จูลิอาโน เดลลา โรเวเร ทรงดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปาระหว่างปี ค.ศ.

ดู มหาวิหารนักบุญเปโตรเดิมและสมเด็จพระสันตะปาปาจูลิอุสที่ 2

อาวีญงปาปาซี

พระราชวังพระสันตะปาปาแห่งอาวีญง อาวีญงปาปาซี (Avignon Papacy) หรือ สมณสมัยอาวีญง คือช่วงเวลาที่พระสันตะปาปา 7 พระองค์ประทับ ณ เมืองอาวีญง ราชอาณาจักรฝรั่งเศส แทนการประทับที่กรุงโรมตามปกติ สืบเนื่องมาจากความขัดแย้งระหว่างองค์พระสันตะปาปากับพระมหากษัตริย์ฝรั่งเศส ภายหลังจากความขัดแย้งระหว่างสมเด็จพระสันตะปาปาบอนิเฟซที่ 8 กับพระเจ้าฟิลิปที่ 3 แห่งฝรั่งเศส และการสิ้นพระชนม์ของสมเด็จพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ที่ 11 ผู้สืบทอดตำแหน่งสมเด็จพระสันตะปาปาต่อจากสมเด็จพระสันตะปาปาบอนิเฟซที่ 8 และดำรงสมณศักดิ์ได้เพียง 8 เดือน การประชุมเลือกตั้งพระสันตะปาปาให้อาร์ชบิชอปแบร์ทร็อง ชาวฝรั่งเศส ขึ้นดำรงสมณศักดิ์เป็นสมเด็จพระสันตะปาปาพระองค์ใหม่ในปี..

ดู มหาวิหารนักบุญเปโตรเดิมและอาวีญงปาปาซี

จักรพรรดิคอนสตันไทน์มหาราช

ักรพรรดิคอนสตันไทน์ที่ 1 จักรพรรดิคอนสตันไทน์ที่ 1 (ConstantineI 27 กุมภาพันธ์ ประมาณ ค.ศ. 272Birth dates vary but most modern historians use "ca. 272". Lenski, "Reign of Constantine", 59.

ดู มหาวิหารนักบุญเปโตรเดิมและจักรพรรดิคอนสตันไทน์มหาราช

จักรพรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์

ักรพรรดิแห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ (Kaiser des Heiligen Römischen Reiches; Emperor of the Holy Roman Empire) หรือจักรพรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ (Holy Roman Emperor) หรือจักรพรรดิโรมัน-เยอรมัน (Römisch-Deutscher Kaiser) เป็นคำที่นักประวัติศาสตร์ใช้หมายถึงประมุขรัฐในสมัยกลางที่พระสันตะปาปาทรงแต่งตั้งให้เป็น "จักรพรรดิแห่งชาวโรมัน" ต่อมาตำแหน่งนี้มาจากการเลือกตั้งแต่ยังคงต้องรับราชาภิเษกจากพระสันตะปาปาอยู่ จนตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 16 เป็นต้นมาจึงหมายถึงผู้ปกครองจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ซึ่งเป็นมีอาณาเขตครอบคลุมดินแดนยุโรปกลาง.

ดู มหาวิหารนักบุญเปโตรเดิมและจักรพรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์

จักรวรรดิโรมัน

ักรวรรดิโรมันในช่วงเวลาต่างๆกัน จักรวรรดิโรมัน (Imperivm Romanvm; Ῥωμαϊκὴ Αὐτοκρατορία หรือ Ἡ Ῥωμαίων βασιλεία; Roman Empire) เป็นช่วงระยะเวลาหนึ่งของอารยธรรมโรมันโบราณซึ่งปกครองโดยรูปแบบอัตตาธิปไตย จักรวรรดิโรมันได้สืบต่อการปกครองมาจากสาธารณรัฐโรมัน (510 ปีก่อนคริสตกาล - ศตวรรษที่ 1 ก่อนคริสตาล) ซึ่งได้อ่อนแอลงหลังจากความขัดแย้งระหว่างไกอุส มาริอุสและซุลลา และสงครามกลางเมืองระหว่างจูเลียส ซีซาร์และปอมปีย์ มีวันหลายวันที่ได้ถูกเสนอให้เป็นเส้นแบ่งของการเปลี่ยนแปลงระหว่างสาธารณรัฐและจักรวรรดิ ได้แก.

ดู มหาวิหารนักบุญเปโตรเดิมและจักรวรรดิโรมัน

ซีโมนเปโตร

ซีโมนเปโตร (Σιμων Πέτρος ซีมอน เปโตฺรส) หรืออัครทูตเปโตร (Απόστολος Πέτρος อะโปสโตโลส เปโตฺรส) ชาวคาทอลิกเรียกว่านักบุญเปโตร (Saint Peter) เดิมชื่อซีโมน เป็นชาวประมงคนหนึ่งของตำบลเบทไซดา (ลก.

ดู มหาวิหารนักบุญเปโตรเดิมและซีโมนเปโตร

โรม

ลอสเซียม สัญลักษณ์ที่สำคัญของโรม โรม (Rome; Roma) เป็นเมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของแคว้นลัตซีโยและประเทศอิตาลี ตั้งอยู่ทางตอนกลางของประเทศ ในเขตตัวเมืองมีประชากรอาศัยอยู่ประมาณ 2.5 ล้านคน ถ้ารวมเมืองโดยรอบจะมีประมาณ 4.3 ล้านคน โดยมีจำนวนประชากรใกล้เคียงกับมิลานและเนเปิลส์ นอกจากนี้ โรมยังเป็นที่ตั้งของนครรัฐวาติกัน ซึ่งเป็นดินแดนที่ประทับของพระสันตะปาปาแห่งศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิกอีกด้วย หลังสิ้นสุดยุคกลาง โรมได้อยู่ภายใต้การปกครองของพระสันตะปาปา เช่น สมเด็จพระสันตะปาปาอเล็กซานเดอร์ที่ 6 และสมเด็จพระสันตะปาปาลีโอที่ 10 ผู้ซึ่งสร้างสรรค์ให้โรมกลายเป็นหนึ่งในศูนย์กลางของสมัยฟื้นฟูศิลปวิทยาในอิตาลีเช่นเดียวกับฟลอเรนซ์ ซึ่งในยุคสมัยดังกล่าว ได้มีการก่อสร้างมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์แบบที่เห็นในปัจจุบัน และมีเกลันเจโลได้วาดภาพปูนเปียกประดับภายในโบสถ์น้อยซิสทีน ศิลปินและสถาปนิกที่มีชื่อเสียงอย่างบรามันเต แบร์นินี และราฟาเอล ซึ่งพำนักอยู่ในโรมเป็นครั้งคราว ได้มีส่วนช่วยสรางสรรค์สถาปัตยกรรมแบบสมัยฟื้นฟูศิลปวิทยาและแบบบารอกในโรมด้วยเช่นกัน ใน พ.ศ.

ดู มหาวิหารนักบุญเปโตรเดิมและโรม

โคมระย้า

มระย้า โคมระย้า หรือ แชนเดอเลียร์ (chandelier) เป็นชื่อเรียกลักษณะของโคมไฟตกแต่งที่แขวนบนเพดาน ซึ่งปัจจุบันโดยทั่วไปจะพบโคมไฟลักษณะนี้ ตามห้องโถงของสถานที่หรูหรา เช่น โรงแรม หรือ บ้านคนรวย คำว่า "chandelier" เป็นภาษาฝรั่งเศส แปลเป็นอังกฤษว่า "candleholder" ซึ่งก็คือเชิงเทียนที่แขวนลงมาจากเพดาน แชนเดอเลียร์ในยุคแรกทำจากไม้รูปกากบาทอย่างง่ายๆ มีเหล็กแหลมไว้ปักเทียนข้างบน ใช้ในโบสถ์ทั่วยุโรป และในคฤหาสน์ของเศรษฐี ต่อมามีการพัฒนาโดยนำโลหะมาดัดจนมีลวดลายสวยงามประณีตอ่อนช้อย นอกจากจะแสดงถึงฐานะทางการเงินของเจ้าของบ้านที่มีแสงสว่างยามค่ำคืนในยุคนั้นแล้ว เสน่ห์ของแชนเดอเลียร์แบบดั้งเดิมอยู่ที่แสงเทียนและเงาที่เกิดจากลวดลายของแชนเดอเลียร์ การนำกระจก แผ่นทองแดง และหินคริสตัลมาห้อยบนแชนเดอเลียร์ในยุคหลังๆทำให้มีแสงระยิบระยับมากขึ้น แต่หินคริสตัลหายากและราคาแพง ในปี1676 ช่างทำแก้วชาวอังกฤษจึงได้คิดค้นนำแก้วมาผสมกับสารตะกั่ว (lead oxide) แล้วเจียรจนมีประกายงดงามมากกว่าหินคริสตัล ในช่วงปี 1700 แชนเดอเลียร์เริ่มมีรูปทรงอ่อนช้อยมากขึ้น เมื่อมีการนำแก้วเป่ามาใช้ประดับแชนเดอเลียร์จากประเทศอิตาลีที่เรียกว่าสไตล์เวเนเชียน (Venetian Style) กระแสความนิยมของแชนเดอเลียร์กลับมาพร้อมกับการใส่สีลงไปบนแก้ว เป็นสีสันของการตกแต่งยุคปัจจุบันบวกกับรูปทรงและลวดลายหรูหราของแชนเดอเลียร์ในอดีต แม้กระทั่งสีดำที่อาจจะดูไม่เข้าท่าในสมัยก่อน แต่ตอนนี้กลับดูสวยแปลกตาดี เหมาะกับการตกแต่งแนววินเทจ แนวโบฮีเมีย และ Classic-Chic ซึ่งเน้นการดึงลวดลายเก่าและใหม่มาผสมผสานกัน.

ดู มหาวิหารนักบุญเปโตรเดิมและโคมระย้า

เลออน บัตติสตา อัลแบร์ตี

ลีออน บาตติสตา อัลเบอร์ติ ลีออน บาตติสตา อัลเบอร์ติ (Leon Battista Alberti) (18 กุมภาพันธ์พ.ศ. 1947 – 25 เมษายน พ.ศ. 2015) เป็นผู้รู้รอบด้าน ผู้เป็นปราชญ์ สถาปนิก นักเขียน กวี นักภาษาศาสตร์ นักปรัชญา นักถอดรหัส ชาวอิตาลี ได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งใน ผู้ที่มีอิทธิพลอย่างมากต่อการพัฒนาของศิลปวิทยาการในยุคเรอเนซอง.

ดู มหาวิหารนักบุญเปโตรเดิมและเลออน บัตติสตา อัลแบร์ตี

หรือที่รู้จักกันในชื่อ มหาวิหารเซนต์ปีเตอร์เก่า