โลโก้
ยูเนี่ยนพีเดีย
การสื่อสาร
ดาวน์โหลดได้จาก Google Play
ใหม่! ดาวน์โหลด ยูเนี่ยนพีเดีย บน Android ™ของคุณ!
ฟรี
เร็วกว่าเบราว์เซอร์!
 

นักบุญฟรานซิสเกิดปีติสานติ์ (การาวัจโจ)

ดัชนี นักบุญฟรานซิสเกิดปีติสานติ์ (การาวัจโจ)

นักบุญฟรานซิสปลื้ม หรือ ความปิติของนักบุญฟรานซิสแห่งอาซิซี (Saint Francis of Assisi in Ecstasy หรือ The Ecstasy of Saint Francis of Assisi) เป็นภาพเขียนสีน้ำมันที่เขียนโดยคาราวัจโจจิตรกรสมัยบาโรกคนสำคัญชาวอิตาลีที่ปัจจุบันตั้งแสดงอยู่ที่พิพิธภัณฑ์แวดส์เวิร์ธแอนธีเนียม, ฮาร์ทฟอร์ด, คอนเนตทิคัตในสหรัฐอเมริกา ภาพ “นักบุญฟรานซิสปลื้ม” เขียนราวปี ค.ศ. 1595 เป็นภาพเขียนภาพแรกที่คาราวัจโจเขียนที่เกี่ยวกับศาสนาและเชื่อกันว่าเป็นภาพที่เขียนไม่นานหลังจากที่ย้ายไปพักอาศัยอยู่กับคาร์ดินัลฟรานเชสโค มาเรีย เดล มอนเต และคงเป็นภาพที่เขียนตามความประสงค์ของเดล มอนเตและคงเป็นภาพแรกที่เขียนในฐานะ “จิตรกรของเดล มอนเต” ที่เชื่อกันว่าคาราวัจโจใช้เป็นการบรรยายตัวเองอยู่หลายปีขณะที่พำนักอยู่ในวังมาดามา (Palazzo Madama) ของเดล มอนเต ภาพนี้เป็นภาพของนักบุญฟรานซิสแห่งอาซิซิ ซึ่งเป็นชื่อที่คาร์ดินัลใช้ในชั่วขณะที่ได้รับรอยแผลศักดิ์สิทธิ์ที่เป็นรอยแผลเดียวกับตำแหน่งแผลของพระเยซูเมื่อทรงถูกตรึงกางเขน การรับรอยแผลเป็นเรื่องที่บรรยายโดยหลวงพี่เลโอผู้เป็นสหายของนักบุญฟรานซิสในปี ค.ศ. 1224 ตามคำบรรยายแล้วนักบุญฟรานซิสออกไปในป่ากับผู้ติดตามกลุ่มหนึ่งเพื่อไปทำสมาธิ เมื่อตกกลางคือนหลวงพี่เลโอก็เห็นปรากฏการณ์ของดรุณเทพ หกปีกซึ่งเป็นเทวดาวรรณะหนึ่งลงมาปรากฏตัวตามคำสวดมนต์ของนักบุญฟรานซิสที่ว่ามีความเข้าใจถึงความทุกข์ทรมานของพระเยซูและในความรักของพระองค์: ทันใดนั้นก็มีแสงส่องสว่างลงมาราวกับสวรรค์ระเบิดเป็นแสงสีที่เต็มไปด้วยสีสรรค์และดวงดาวที่พร่าพราย ท่ามกลางสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นก็มีแสงที่สว่างที่จัดจ้าที่พุ่งลงมาจากฟ้าด้วยความเร็วอย่างน่าหวาดหวั่นและมาหยุดลงโดยไม่เคลื่อนไหวเหนือหินแหลมหน้านักบุญฟรานซิส ที่ปรากฏเป็นรูปลักษณ์ที่เป็นเพลิงมีปีกตรึงบนกางเขน สองปีกเพลิงพุ่งขึ้นไปข้างบน อีกสองปีกกางออกไปด้านข้าง และอีกสองปีกปิดตัวพระเพลิง และแผลที่มือและที่เท้ามีเลือดกระเด็นออกมา ตัวพระเพลิงที่เรืองแสงมีใบหน้าที่งามดั่งเทพแต่ในขณะเดียวกันก็เป็นใบหน้าที่เศร้า และเป็นใบหน้าของพระเยซู ในทันใดนั้นก็มีเลือดและไฟพุ่งเป็นสายออกมาจากรอยแผลของพระองค์มายังมือและเท้าของนักบุญฟรานซิสและตาปูที่หัวใจที่ทรงถูกแทงด้วยหอก นักบุญฟรานซิสเปล่งเสียงร้องดังออกมาด้วยความปิติและความเจ็บปวดเมื่อตัวพระเพลิงประทับร่างลงบนนักบุญฟรานซิสเหมือนรูปสะท้อนที่เต็มไปด้วยความรัก, ความงาม และความเศร้า เมื่อได้รับรอยแผลบนร่างกายแล้วและด้วยความปิติดั่งเพลิงของทั้งร่างกายและจิตใจแล้ว นักบุญฟรานซิสก็ทรุดลงและหมดสติลงในกองเลือด ภาพที่คาราวัจโจเขียนไม่มีความเป็นนาฏกรรมที่ใกล้เคียงกับคำบรรยายของหลวงพี่เลโอแต่อย่างใด ดรุณเทพหกปีกมาแทนด้ยวเทวดาสองปีธรรมดา นอกจากนั้นคาราวัจโจก็ละเว้นฉากการเผชิญหน้าอันรุนแรงระหว่างพระเยซูกับนักบุญฟรานซิส ไม่มีสายเลือดที่พุ่งกระฉูดลงมายังนักบุญฟรานซิส ไม่มีกองเลือด ไม่มีรูปพระเยซูในรูปของดรุณเทพ ภาพของคาราวัจโจเป็นแต่เพียงภาพของเทวดาที่ประคองนักบุญฟรานซิสอย่างอย่างอ่อนโยนโดยมีสหายของนักบุญอยู่ใกลออกไปในความมืดที่แทบจะมองไม่เห็น หัวเรื่องนี้เป็นหัวเรื่องที่นิยมวาดกันมาตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 13: จอตโต ดี บอนโดเน เขียนหัวข้อนี้ในปีราวปี..

16 ความสัมพันธ์: บารอกฟรังซิสแห่งอัสซีซีฟรันเชสโก มารีอา เดล มอนเตพ.ศ. 1767พ.ศ. 2138การาวัจโจรัฐคอนเนตทิคัตสหรัฐสติกมาตาจอตโต ดี บอนโดเนจิตรกรรมสีน้ำมันคนโกงไพ่ (คาราวัจโจ)นักดนตรี (คาราวัจโจ)โจวันนี เบลลีนีเด็กชายปอกผลไม้ (คาราวัจโจ)เครูบ

บารอก

“การแต่งงานของนักบุญแคทเธอรินแห่งอเล็กซานเดรีย” (The Mystic Marriage of St. Catherine) โดย อันโตนิโอ ดา คอร์เรจจิโอ บารอก (Baroque) หรือบาโรก เป็นสมัยหนึ่งของศิลปะตะวันตกซึ่งเริ่มประมาณต้นคริสต์ศตวรรษที่ 17 ที่กรุงโรม ประเทศอิตาลี บาโรกจะเน้นความเป็นนาฏกรรม ศิลปะจะแสดงความขัดแย้ง (tension) และความหรูหรา โอ่อ่า บาโรกเป็นลักษณะของ ประติมากรรม จิตรกรรม วรรณกรรม นาฏศิลป์ และดนตรี ถ้ากล่าวถึงดนตรีแบบบารอกก็จะหมายถึงสมัยสุดท้ายของเคาน์เตอร์พ็อยต์ (Counterpoint) ที่กล่างวถึงความสัมพันธ์ของการเล่นระหว่างเสียงหรือเครื่องดนตรีมากกว่าสองชนิดที่อาจจะสะท้อนกันและกัน แต่คนละระดับเสียง หรือบางครั้งก็อาจจะสลับเสียงสะท้อน หรือไม่อีกทีก็อาจจะย้อนแก่นสาร (reversing theme) ของดนตรีชิ้นนั้นไปเลย ยุคบารอกรุ่งเรืองขึ้นมาด้วยการสนับสนุนจากคริสตจักรโรมันคาทอลิก ระหว่างการประชุมสภาสังคายนาแห่งเทรนต์ เมื่อปี..

ใหม่!!: นักบุญฟรานซิสเกิดปีติสานติ์ (การาวัจโจ)และบารอก · ดูเพิ่มเติม »

ฟรังซิสแห่งอัสซีซี

นักบุญฟรังซิสแห่งอัสซีซีราชบัณฑิตยสถาน, พจนานุกรมศัพท์ศาสนาสากล ฉบับราชบัณฑิตยสถาน, พิมพ์ครั้งที่ 3, ราชบัณฑิตยสถาน, 2552, หน้า 148 (Saint Francis of Assisi) มีนามเดิมว่า ฟรันเชสโก ดี ปีเอโตร ดี แบร์นาร์โดเน เป็นไฟรเออร์และนักเทศน์ในนิกายโรมันคาทอลิกชาวอิตาลี ผู้ก่อตั้งคณะฟรันซิสกัน คณะกลาริส และคณะชั้นสามของนักบุญฟรังซิส แม้นักบุญฟรังซิสจะไม่ใช่บาทหลวง แต่ถือเป็นศาสนบุคคลที่ไดัรับการเคารพนับถือมากที่สุดคนหนึ่งในประวัติศาสตร์Brady, Ignatius Charles.

ใหม่!!: นักบุญฟรานซิสเกิดปีติสานติ์ (การาวัจโจ)และฟรังซิสแห่งอัสซีซี · ดูเพิ่มเติม »

ฟรันเชสโก มารีอา เดล มอนเต

ฟรันเชสโก มารีอา บอร์โบเน เดล มอนเต (Francesco Maria Borbone Del Monte; 5 กรกฎาคม ค.ศ. 1549, เวนิส - 27 สิงหาคม ค.ศ. 1627, โรม) เป็นนักบวชชาวอิตาลีที่มีตำแหน่งเป็นคาร์ดินัล เดล มอนเตเป็นนักการทูตและนักสะสมศิลปะคนสำคัญ ความสำคัญของเดล มอนเตอยู่ที่เป็นหนึ่งในผู้อุปถัมภ์การาวัจโจผู้เป็นจิตรกรยุคบาโรกคนสำคัญของอิตาลี และเป็นผู้สะสมศิลปะที่เป็นงานชิ้นสำคัญ ๆ ในยุคนั้น.

ใหม่!!: นักบุญฟรานซิสเกิดปีติสานติ์ (การาวัจโจ)และฟรันเชสโก มารีอา เดล มอนเต · ดูเพิ่มเติม »

พ.ศ. 1767

ทธศักราช 1767 ใกล้เคียงกั.

ใหม่!!: นักบุญฟรานซิสเกิดปีติสานติ์ (การาวัจโจ)และพ.ศ. 1767 · ดูเพิ่มเติม »

พ.ศ. 2138

ทธศักราช 2138 ใกล้เคียงกั.

ใหม่!!: นักบุญฟรานซิสเกิดปีติสานติ์ (การาวัจโจ)และพ.ศ. 2138 · ดูเพิ่มเติม »

การาวัจโจ

ูรายชื่องานที่ รายชื่อภาพเขียนโดยการาวัจโจ; มีเกลันเจโล เมรีซี ดา การาวัจโจ (Michelangelo Merisi da Caravaggio ค.ศ. 1571 - 18 กรกฎาคม ค.ศ. 1610) เป็นจิตรกรสมัยบาโรกคนสำค้ญของประเทศอิตาลีในคริสต์ศตวรรษที่ 17 มีความสำคัญในการเขียนภาพสีน้ำมัน ผู้มีผลงานส่วนใหญ่ที่ โรม เนเปิลส์ ซิซิลี และประเทศมอลตา ระหว่างปี..

ใหม่!!: นักบุญฟรานซิสเกิดปีติสานติ์ (การาวัจโจ)และการาวัจโจ · ดูเพิ่มเติม »

รัฐคอนเนตทิคัต

รัฐคอนเนตทิคัต (Connecticut, ตัว c ตัวที่สองไม่ออกเสียง) เป็นรัฐทางตะวันออก ในสหรัฐอเมริกาอยู่ในเขตนิวอิงแลนด์ เมืองหลวงของคอนเนตทิคัตคือ ฮาร์ตฟอร์ด ชื่อของคอนเนตทิคัต มาจากชื่อของอินเดียนแดงเผ่าโมฮีแกน จากคำว่า "Quinnehtukqut" หมายถึง ดินแดนแห่งแม่น้ำสายยาว มหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงในรัฐได้แก่ มหาวิทยาลัยเยล และ มหาวิทยาลัยคอนเนตทิคัตที่มีชื่อทางด้านบาสเกตบอล ไฟล์:Nehemiah_Royce_House,_Wallingford,_Connecticut.JPG ไฟล์:Five_Mile_Point_Light_-_New_Haven_CT.jpg ไฟล์:Main_Street,_Hartford_CT.jpg.

ใหม่!!: นักบุญฟรานซิสเกิดปีติสานติ์ (การาวัจโจ)และรัฐคอนเนตทิคัต · ดูเพิ่มเติม »

สหรัฐ

หรัฐอเมริกา (United States of America) โดยทั่วไปเรียก สหรัฐ (United States) หรือ อเมริกา (America) เป็นสหพันธ์สาธารณรัฐ ประกอบด้วยรัฐ 50 รัฐ และหนึ่งเขตปกครองกลาง ห้าดินแดนปกครองตนเองสำคัญ และเกาะเล็กต่าง ๆ โดย 48 รัฐและเขตปกครองกลางตั้งอยู่ ณ ทวีปอเมริกาเหนือระหว่างประเทศแคนาดาและเม็กซิโก รัฐอะแลสกาอยู่มุมตะวันตกเฉียงเหนือของทวีปอเมริกาเหนือ มีเขตแดนติดต่อกับประเทศแคนาดาทางทิศตะวันออกและข้ามช่องแคบเบริงจากประเทศรัสเซียทางทิศตะวันตก และรัฐฮาวายเป็นกลุ่มเกาะในมหาสมุทรแปซิฟิกกลาง ดินแดนของสหรัฐกระจายอยู่ตามมหาสมุทรแปซิฟิกและทะเลแคริบเบียน ครอบคลุมเขตเวลาเก้าเขต ภูมิศาสตร์ ภูมิอากาศและสัตว์ป่าของประเทศหลากหลายอย่างยิ่ง สหรัฐมีพื้นที่ขนาด 9.8 ล้านตารางกิโลเมตร มีประชากรราว 326 ล้านคน ทำให้มีพื้นที่ขนาดใหญ่เป็นอันดับที่ 4 ของโลก และมีประชากรมากเป็นอันดับที่ 3 ของโลก เป็นประเทศซึ่งมีความหลากหลายทางเชื้อชาติและวัฒนธรรม และเป็นที่พำนักของประชากรเข้าเมืองใหญ่สุดในโลกAdams, J.Q., and Pearlie Strother-Adams (2001).

ใหม่!!: นักบุญฟรานซิสเกิดปีติสานติ์ (การาวัจโจ)และสหรัฐ · ดูเพิ่มเติม »

สติกมาตา

นักบุญฟรังซิสแห่งอัสซีซีได้รับ “แผลศักดิ์สิทธิ์” โดย เจนตีเล ดา ฟาบรีอาโน แผลศักดิ์สิทธิ์ (Stigmata) คือเครื่องหมาย, แผล หรือความรู้สึกในบริเวณที่ตรงกับรอยแผลของพระเยซูเมื่อทรงถูกตรึงกางเขน คำว่า “แผลศักดิ์สิทธิ์” มาจากบรรทัดหนึ่งของข้อเขียนในจดหมายของนักบุญเปาโลถึงชาวกาลาเทียที่กล่าวว่า “ข้าพเจ้ามีรอยประทับตราของพระเยซูติดอยู่ที่กายของข้าพเจ้าแล้ว” “Stigmata” เป็นพหูพจน์ของคำภาษากรีก “στίγμα” (stígma) ซึ่งแปลว่าเครื่องหมาย หรือ ตรา ซึ่งอาจจะใช้เป็นเครื่องหมายประทับความเป็นเจ้าของของสัตว์หรือทาส ผู้ที่มี “แผลศักดิ์สิทธิ์” เรียกว่า “ผู้มีแผลศักดิ์สิทธิ์” (stigmatic) สาเหตุของการเกิด “แผลศักดิ์สิทธิ์” ก็ต่างๆ กันแล้วแต่บุคคล ผู้ที่ได้รับมักจะเป็นสมาชิกคณะนักบวชคาทอลิก และส่วนใหญ่เป็นสตรีPoulain, A. (1912).

ใหม่!!: นักบุญฟรานซิสเกิดปีติสานติ์ (การาวัจโจ)และสติกมาตา · ดูเพิ่มเติม »

จอตโต ดี บอนโดเน

อตโต ดี บอนโดเน จอตโต ดี บอนโดเน (Giotto di Bondone) (ค.ศ. 1267 – 8 มกราคม ค.ศ. 1337), เป็นที่รู้จักกันโดยทั่วไปในนาม จอตโต (Giotto), เป็นสถาปนิกและจิตรกรชาวอิตาลี จากเมืองฟลอเรนซ์ ได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในผู้มีส่วนสร้างสรรค์ผลงาน ที่ก่อให้เกิดกระแสใหม่ในสังคมที่นำไปสู่ยุคฟื้นฟูศิลปวิทยา ในที่สุด จอตโต ดี บอนโดเนเป็นจิตรกรร่วมสมัยกับจิโอวานนี วิลลานิผู้กล่าวว่าจอตโตเป็นช่างผู้มีความสามารถที่สุดในสมัยนั้น เป็นผู้วาดภาพตามกฎของธรรมชาติ และจอตโตได้รับเงินเดีอนจากรัฐบาลเมืองฟลอเรนซ์เนื่องมาจากความสามารถBartlett, Kenneth R. (1992).

ใหม่!!: นักบุญฟรานซิสเกิดปีติสานติ์ (การาวัจโจ)และจอตโต ดี บอนโดเน · ดูเพิ่มเติม »

จิตรกรรมสีน้ำมัน

"โมนาลิซา" โดยเลโอนาร์โด ดา วินชี ราว ค.ศ. 1503-1506 จิตรกรรมสีน้ำมัน หรือ ภาพเขียนสีน้ำมัน (oil painting) คือการเขียนภาพโดยใช้สีฝุ่นที่ผสมกับน้ำมันแห้ง (drying oil) — โดยเฉพาะในตอนต้นของยุโรปสมัยใหม่, น้ำมันลินสีด (linseed oil) ตามปกติแล้วก็จะต้มน้ำมันเช่นลินสีดกับยางสนหรือยางสนหอม (frankincense) ส่วนผสมนี้เรียกว่า "น้ำมันเคลือบ" (varnish) ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้ภาพเขียนมีความหนาและเป็นเงา น้ำมันอื่นที่ใช้ก็มีน้ำมันเม็ดฝิ่น, น้ำมันวอลนัต, และน้ำมันดอกคำฝอย น้ำมันแต่ละอย่างก็มีคุณภาพต่าง ๆ กัน เช่นอาจจะทำให้สืเหลืองน้อยลง หรือใช้เวลาแห้งไม่เท่ากัน บางครั้งก็จะเห็นความแตกต่างจากเงาของภาพเขียนแล้วแต่ชนิดของน้ำมัน จิตรกรจะใช้น้ำมันหลายชนิดในภาพเขียนเดียวกันเพื่อให้ได้ลักษณะของภาพเขียนออกมาตามที่ต้องการ การแสดงออกของสีก็จะต่างกันตามแต่วัสดุที่ใช้เขียน.

ใหม่!!: นักบุญฟรานซิสเกิดปีติสานติ์ (การาวัจโจ)และจิตรกรรมสีน้ำมัน · ดูเพิ่มเติม »

คนโกงไพ่ (คาราวัจโจ)

นโกงไพ่ (ภาษาอังกฤษ: Cardsharps) เป็นภาพเขียนสีน้ำมันที่เขียนโดยคาราวัจโจจิตรกรสมัยบาโรกคนสำคัญชาวอิตาลีที่ปัจจุบันตั้งแสดงอยู่ที่พิพิธภัณฑ์ศิลปะคิมเบลล์, ฟอร์ทเวิร์ธในสหรัฐอเมริกา ภาพ “คนโกงไพ่” เขียนราวปี ค.ศ. 1594 เป็นภาพที่เป็นก้าวสำคัญของคาราวัจโจที่เขียนเมื่อพยายามตั้งตัวไปเป็นช่างเขียนอิสระหลังจากที่ทำงานอยู่กับจุยเซ็ปปิ เซซาริที่ได้เขียนแต่ “ผักกับผลไม้” อยู่ระยะหนึ่ง คาราวัจโจออกจากห้องเขียนภาพของจุยเซ็ปปิ เซซาริในเดือนมกราคม ค.ศ. 1594 และเริ่มขายงานเขียนผ่านนักค้าศิลปะคอนแสตนติโนโดยมีโพรสเปโร ออร์ซิจิตรกรแมนเนอริสม์เป็นผู้ช่วย ออร์ซิแนะนำคาราวัจโจในแวดวงคนที่รู้จักทั้งผู้สะสมศิลปะและผู้อุปถัมภ์ ภาพเขียนแสดงเด็กหนุ่มที่แต่งตัวอย่างหรูหราแต่เป็นเพียงเด็กหนุ่มที่ยังไม่ประสีประสากับโลกที่กำลังเล่นไพ่กับเด็กชายอีกคนหนึ่ง เด็กคนที่สองคนที่โกงไพ่มีไพ่อีกใบหนึ่งเหน็บไว้ที่เข็มขัดข้างหลังเอว ซ่อนจากเด็กชายอีกคนหนึ่งแต่ไม่ได้ซ่อนจากผู้ชมภาพ และชายหนุ่มใหญ่ที่แอบมองจากหลังผู้ที่โดนโกงและส่งสัญญาณให้คู่ร่วมมือ นอกจากนั้นเด็กคนที่สองก็ยังมีมีดเหน็บอยู่ที่เอวสำหรับใช้ในโอกาสที่สถานะการณ์อาจจะเปลี่ยนแปลง ภาพนี้เป็นภาพที่สองในหัวข้อที่คล้ายคลึงกันที่คาราวัจโจเขียน ภาพแรก “หมอดู” เป็นภาพที่ทำให้เริ่มมีผู้สนใจและเริ่มเป็นที่รู้จัก ทั้ง “หมอดู” และ “การโกงไพ่” เป็นหัวข้อการเขียนภาพที่ใหม่ในขณะนั้น ที่ใช้ฉากความเป็นจริงของชีวิตตามถนนในการเขียนภาพ โดยเฉพาะการเขียนรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ เช่นปลายนิ้วถุงมือที่เป็นรูของชายที่มีอายุมากกว่า หรือสายตาของเด็กคนที่สองที่มองไปยังหนุ่มใหญ่อย่างพะวักพะวน รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ เช่นนี้ที่เป็นการแสดงความเข้าใจอย่างลึกซึ้งทางจิตวิทยา - บุคคลสามคนที่อยู่ในเหตุการณ์เดียวกันแต่แต่ละคนต่างก็มีบทบาทของตนเองภาพในเหตุการณ์ที่ร่วมกัน - เด็กหนุ่มที่ยังไม่มีประสบการณ์ที่ถูกหลอก, เด็กอีกคนหนึ่งที่อายุไล่ๆ กันที่เป็นเด็กที่ถูกทำให้เสียคนโดยหนุ่มใหญ่ “คนโกงไพ่กับเอโพดำ” โดยชอร์ช เดอ ลา ตูร์ ราว ค.ศ. 1620-ค.ศ. 1640 “คนโกงไพ่” เป็นภาพที่วาดแบบที่แสดงความเป็นจริงของความทารุณของชีวิตคนชั้นต่ำ แต่ขณะเดียวกันก็ใช้สีเรืองอย่างการวาดภาพของเวนิส “คนโกงไพ่” กลายมาเป็นภาพที่เป็นที่นิยมกันมาก ออร์ซิถึงกับ “ไปเที่ยวเป่าประกาศถึงการวาดแบบใหม่ของคาราวัจโจและทำให้เพิ่มชื่อเสียงในการเป็นจิตรกรมากขึ้น” ภาพนี้มีด้วยกันถึง 50 ก็อปปีและจากจิตรกรคนอื่นๆ เช่นภาพ “คนโกงไพ่กับเอโพดำ” โดยชอร์ช เดอ ลา ตูร์ที่ใช้หัวข้อเดียวกัน ไม่ว่าจะโดยคอนแสตนติโนหรือออร์ซิ คาราวัจโจก็ได้รับความสนใจจากคาร์ดินัลฟรานเชสโค มาเรีย เดล มอนเตผู้ซื้อภาพและกลายมาเป็นผู้อุปถัมภ์คนสำคัญคนแรก โดยให้ที่พำนักในวังมาดามาหลังจตุรัสนาวาร์โร จากนั้นภาพก็ตกไปเป็นของคาร์ดินัลอันโตนิโอ บาร์แบรินิผู้เป็นหลานของสมเด็จพระสันตะปาปาเออร์บันที่ 8 ที่ต่อมาคาราวัจโจเขียนภาพเหมือนให้(“ภาพเหมือนของมาฟเฟโอ บาร์เบอรินิ”) ในปี..

ใหม่!!: นักบุญฟรานซิสเกิดปีติสานติ์ (การาวัจโจ)และคนโกงไพ่ (คาราวัจโจ) · ดูเพิ่มเติม »

นักดนตรี (คาราวัจโจ)

นักดนตรี (The Musicians) เป็นภาพเขียนสีน้ำมันที่เขียนโดยคาราวัจโจจิตรกรสมัยบาโรกคนสำคัญชาวอิตาลีที่ปัจจุบันตั้งแสดงอยู่ที่พิพิธภัณฑ์เมโทรโปลิตัน, นครนิวยอร์กในสหรัฐอเมริกา ภาพ “นักดนตรี” เขียนราวเสร็จในปี ค.ศ. 1595 ราว..

ใหม่!!: นักบุญฟรานซิสเกิดปีติสานติ์ (การาวัจโจ)และนักดนตรี (คาราวัจโจ) · ดูเพิ่มเติม »

โจวันนี เบลลีนี

“การนำพระเยซูเข้าวัด” (Presentation in the Temple) โดย จิโอวานนี เบลลินี (ราว ค.ศ. 1499-1500), พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ศิลปะ, เวียนนา, ประเทศออสเตรีย จิโอวานนี เบลลินี (Giovanni Bellini) (ค.ศ. 1430 - ค.ศ. 1516) เป็นจิตรกรสมัยเรอเนซองส์ของประเทศอิตาลีในคริสต์ศตวรรษที่ 15 มีความเชี่ยวชาญทางการเขียนภาพสีน้ำมัน เบลลินีเป็นครอบครัวจิตรกรจากเวนิส จิโอวานนี เบลลินีเป็นลูกของจาคโคโป เบลลินี เป็นน้องชายของ เจ็นทิลี เบลลินี และเป็นน้องเขยของอันเดรีย มานเทนยา (Andrea Mantegna) จิโอวานนี เบลลินีมีชื่อว่าเป็นผู้ปฏิวัติการเขียนภาพแบบเวนิสในการออกไปทางแบบที่ให้ความรู้สึกอ่อนหวาน (sensuous) และเป็นสีสรรค์ (colouristic) เบลลินีใช้สีน้ำมันที่ใสและแห้งช้าซึ่งเมื่อแห้งทำให้มีภาพมีสีเข้มขึ้น เหลือบ และเป็นเงาที่ละเอียด การใช้สีที่ sumptuous และ ภูมิทัศน์ที่มีบรรยากาศมีผลต่อการอิทธิพลต่อการเขียนภาพแบบเวนิสโดยเฉพาะต่อจอร์จิโอเนและทิเทียน ผู้เป็นลูกศิษย์ของเบลลินีเอง.

ใหม่!!: นักบุญฟรานซิสเกิดปีติสานติ์ (การาวัจโจ)และโจวันนี เบลลีนี · ดูเพิ่มเติม »

เด็กชายปอกผลไม้ (คาราวัจโจ)

็กชายปอกผลไม้ (ภาษาอังกฤษ: Boy Peeling Fruit) เป็นภาพเขียนสีน้ำมันที่เขียนโดยคาราวัจโจจิตรกรสมัยบาโรกคนสำคัญชาวอิตาลีที่ปัจจุบันตั้งแสดงอยู่ที่มูลนิธิโรเบอร์โต ลอนกีห์, โรมในประเทศอิตาลี ภาพ “เด็กชายปอกผลไม้” เขียนราวระหว่างปี ค.ศ. 1592 ถึงปี ค.ศ. 1593 เป็นงานที่เชื่อกันว่าเป็นงานชิ้นแรกของคาราวัจโจที่เขียนไม่นานหลังจากมาถึงโรมจากมิลานในกลางปี ค.ศ. 1592 ที่อยู่ระหว่างนี้ไม่ทราบแน่นอนแต่ตามคำกล่าวของจุยเลียโน มันชินิ (Giulio Mancini) คาราวัจโจพักอยู่ระยะหนึ่งกับพันดุลโฟ พุชชิที่วังโคโลนนา แต่ไม่นานก็ย้ายเพราะไม่พอใจในวิธีที่พุชชิปฏิบัติด้วย (พุชชิให้แต่ผักเขียวกับผู้ที่พักอยู่ในบ้านจนคาราวัจโจตั้งชื่อเล่นให้ว่า “มอนซิยอร์สลัด”) ในช่วงนั้นคาราวัจโจกก็อปปีงานศาสนาให้พุชชิแต่ไม่มีอะไรหลงเหลืออยู่ ในขณะเดียวกันก็เขียนงานสองสามชิ้นของตนเองที่รวมทั้งงานชิ้นนี้ซึ่งอาจจะวาดหลังจากที่พำนักกับมันชินิ และเมื่อไปทำงานกับจุยเซ็ปปิ เซซาริ หรือ “คาวาเลียร์ดาร์ปิโน” ช่างเขียนคนโปรดของสมเด็จพระสันตะปาปาคลีเมนต์ที่ 8 ผู้เป็นช่างเขียนที่มีความสำเร็จดีในเวิร์คช็อพที่คล้ายโรงงาน ระหว่างนั้นคาราวัจโจก็ได้แต่เขียน “ดอกไม้และผลไม้” งาน “เด็กชายปอกผลไม้” เป็นงานที่เขียนสำหรับขายนอกเวิร์คช็อพแต่เป็นงานที่ยึดจากดาร์พิโนโดยคาร์ดินัลสคิปิโอเน บอร์เกเซ (Scipione Borghese) ในปี..

ใหม่!!: นักบุญฟรานซิสเกิดปีติสานติ์ (การาวัจโจ)และเด็กชายปอกผลไม้ (คาราวัจโจ) · ดูเพิ่มเติม »

เครูบ

วกเครูบตามจินตนาการของคริสเตียนป้องกันประตูทางเข้าสวนอีเด็น โดจจุสโต เดอ เมนาบวย ราว ค.ศ. 1377 เครูบ (cherub (เอก.) cherubim (พหู.), כרוב, พหูพจน์ כרובים, cherub, พหูพจน์ cherubi) เป็นทูตสวรรค์ประเภทหนึ่งที่กล่าวถึงหลายครั้งในคัมภีร์ไบเบิล ในภาษาอังกฤษปัจจุบันคำนี้มักจะใช้เรียกเทวดาเด็ก ๆ ที่ปรากฏในงานศิลปะ ซึ่งตามความหมายทางการแล้วแตกต่างจาก “เครูบ” ในบทความนี้ มีบรรยายว่าเครูบมีปีก ผู้เผยพระวจนะบรรยายไว้ในคัมภีร์เอเสเคียลว่าเป็นกลุ่มสิ่งมีชีวิต (creature) ที่แต่ละตนมีหน้าสี่หน้า: สิงห์โต, วัว, เหยี่ยว และมนุษย์ และเชื่อกันว่ามีมือเหมือนมนุษย์, เท้าเหมือนวัว, และมีปีกสี่ปีก สองปีกตั้งขึ้นประกบกันและแบกบัลลังก์พระเจ้า อีกสองปีกหลุบลงปิดบังร่างของตนเอง เครูบมีกล่าวถึงในคัมภีร์ฮิบรูในโทราห์ (หนังสือห้าเล่มของโมเสส) พระธรรมเอเสเคียล และพระธรรมอิสยาห์ ในพันธสัญญาใหม่ของคริสต์ศาสนา กล่าวถึงเครูบในพระธรรมวิวรณ์ พหูพจน์ของคำว่า “Cherub” คือ “Cherubim” หรือ “Cherubs” แต่ผู้ใช้ภาษาอังกฤษไม่มีความคุ้นเคยกับพหูพจน์ของภาษาฮิบรูบางครั้งจึงใช้ “Cherubims” ในกรณีที่เป็นพหูพจน์เช่นในคัมภีร์ไบเบิลฉบับพระเจ้าเจมส์ (King James Bible) at Bible Gateway.com.

ใหม่!!: นักบุญฟรานซิสเกิดปีติสานติ์ (การาวัจโจ)และเครูบ · ดูเพิ่มเติม »

เปลี่ยนเส้นทางที่นี่:

Saint Francis of Assisi in Ecstasy (Caravaggio)นักบุญฟรานซิสปลื้ม (การาวัจโจ)นักบุญฟรานซิสปลื้ม (คาราวัจจิโอ)นักบุญฟรานซิสปลื้ม (คาราวัจโจ)

ขาออกขาเข้า
Hey! เราอยู่ใน Facebook ตอนนี้! »