โลโก้
ยูเนี่ยนพีเดีย
การสื่อสาร
ดาวน์โหลดได้จาก Google Play
ใหม่! ดาวน์โหลด ยูเนี่ยนพีเดีย บน Android ™ของคุณ!
ติดตั้ง
เร็วกว่าเบราว์เซอร์!
 

นกกระเรียน

ดัชนี นกกระเรียน

นกกระเรียน เป็นนกขนาดใหญ่ คอและขายาว อยู่ในอันดับ Gruiformes และวงศ์นกกระเรียน (Gruidae) มี 15 ชนิด คล้ายนกกระสาแต่เวลาบินนกกระเรียนจะเหยียดคอตรง ไม่งอพับมาด้านหลังเหมือนนกกระสา นกกระเรียนอาศัยอยู่ทั่วโลกยกเว้นทวีปแอนตาร์กติกาและทวีปอเมริกาใต้ นกส่วนมากไม่ถูกคุกคามมากนัก ยกเว้นบางชนิดที่ถูกคุกคามจนวิกฤติ เช่น นกกระเรียนกู.

32 ความสัมพันธ์: พืชวงศ์นกกระสาสกุลสัตว์สัตว์มีแกนสันหลังสัตว์สะเทินน้ำสะเทินบกสัตว์ปีกสปีชีส์อันดับสัตว์ฟันแทะอินเทอร์เน็ตอาร์ไคฟ์ธัญพืชทวีปอเมริกาใต้ทวีปแอนตาร์กติกาปลานกกระเรียนฟ้านกกระเรียนกู่นกกระเรียนมงกุฎนกกระเรียนมงกุฎดำนกกระเรียนมงกุฎแดงนกกระเรียนมงกุฎเทานกกระเรียนยุโรปนกกระเรียนหมวกขาวนกกระเรียนออสเตรเลียนกกระเรียนคอขาวนกกระเรียนคอดำนกกระเรียนไทยนกกระเรียนไซบีเรียนกกระเรียนเล็กนกกระเรียนเหนียงคอยาวนกกระเรียนเนินทรายแมลงเบอร์รี

พืช

ืช เป็นสิ่งมีชีวิตกลุ่มใหญ่ประเภทหนึ่ง (มีประมาณ 350,000 สปีชีส์ ถูกระบุแล้ว 287,655 สปีชีส์ เป็นพืชดอก 258,650 ชนิด และพืชไม่มีท่อลำเลียง 18,000 ชนิด) อยู่ในอาณาจักรพืช (Kingdom Plantea) ประกอบด้วย ไม้ยืนต้น ไม้ดอก พืชล้มลุก และเฟิร์น พบได้ทั้งบนบกและในน้ำ เป็นสิ่งมีชีวิตที่เนื้อเยื่อส่วนใหญ่ประกอบด้วยหลายเซลล์ นิวเคลียสมีผนังเซลล์ ห่อหุ้ม เคลื่อนที่ไม่ได้ ได้แค่เอียงตัว จะสามารถเห็นได้ชัดเจน.เมื่อมีแดดส่อง พืชจะเอียงตัวไปที่แดด ไม่มีอวัยวะเกี่ยวกับความรู้สึก มีคลอโรฟิลล์ซึ่งเป็นสารสีเขียว ช่วยในการสังเคราะห์และเจริญเติบโต.

ใหม่!!: นกกระเรียนและพืช · ดูเพิ่มเติม »

วงศ์นกกระสา

นกกระสา เป็นนกลุยน้ำขนาดใหญ่ ขายาว คอยาว และปากยาวแข็ง อยู่ในอันดับนกกระสา (Ciconiiformes) ใช้ชื่อวงศ์ว่า Ciconiidae พบทั้งหมดทั่วโลก 19 ชนิด ใน 6 สกุล.

ใหม่!!: นกกระเรียนและวงศ์นกกระสา · ดูเพิ่มเติม »

สกุล

กุล อาจหมายถึง.

ใหม่!!: นกกระเรียนและสกุล · ดูเพิ่มเติม »

สัตว์

ัตว์ (Animal) เป็นสิ่งมีชีวิตยูแคริโอตหลายเซลล์ในอาณาจักร Animalia (หรือเรียก เมตาซัว) แผนกาย (body plan) ของพวกมันสุดท้ายคงที่เมื่อพัฒนา แม้สัตว์บางชนิดมีกระบวนการการเปลี่ยนสัณฐานภายหลังในช่วงชีวิต สัตว์ส่วนใหญ่เคลื่อนที่ได้ สัตว์ทุกชนิดต้องกินสิ่งมีชีวิตอื่นหรือผลิตภัณฑ์ของสิ่งมีชีวิตเพื่อการดำรงชีพ (สิ่งมีชีวิตสร้างอาหารเองไม่ได้) ไฟลัมสัตว์ที่รู้จักกันดีที่สุดปรากฏในบันทึกฟอสซิลเป็นสปีชีส์ภาคพื้นสมุทรระหว่างการระเบิดแคมเบรียน (Cambrian explosion) ประมาณ 542 ล้านปีก่อน สัตว์แบ่งเป็นกลุ่มย่อยหลายกลุ่ม บางกลุ่ม เช่น สัตว์มีกระดูกสันหลัง (นก สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม สัตว์สะเทินน้ำสะเทินบก สัตว์เลื้อยคลาน ปลา) มอลลัสกา (หอยกาบ หอยนางรม ปลาหมึก หมึกสาย หอยทาก) สัตว์ขาปล้อง (กิ้งกือ ตะขาบ แมลง แมงมุม แมงป่อง ปู ลอบสเตอร์ กุ้ง) สัตว์พวกหนอนปล้อง (ไส้เดือนดิน ปลิง) ฟองน้ำ และแมงกะพรุน.

ใหม่!!: นกกระเรียนและสัตว์ · ดูเพิ่มเติม »

สัตว์มีแกนสันหลัง

ัตว์มีแกนสันหลัง คือสัตว์ในไฟลัมคอร์ดาตา พวกมันจะมีแกนสันหลัง ใยประสาทส่วนหลังกลวง ช่องคอหอย หลอดเส้นประสาทกลวงส่วนหลัง และหางหลังทวารหนัก ในช่วงหนึ่งของวงจรชีวิต สัตว์มีแกนสันหลังเป็นพวกดิวเทอโรสโตม กล่าวคือในช่วงระยะตัวอ่อน ทวารหนักเกิดก่อนปาก และเป็นซีโลเมตที่มีสมมาตรด้านข้าง ในกรณีของสัตว์มีแกนสันหลังที่มีกระดูกสันหลัง แกนสันหลังจะถูกแทนที่โดยกระดูกสันหลังในช่วงเจริญเติบโต และพวกมันอาจจะมีปล้องตามร่างกาย ในอนุกรมวิธาน ตัวไฟลัมเองประกอบไปด้วยไฟลัมย่อยเวอร์เตบราตา (ซึ่งประกอบด้วย ปลา สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ สัตว์เลื้อยคลาน สัตว์ปีก และสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม) ทูนิคาตา (ซึ่งรวมทั้งซาล์ปและเพรียงหัวหอม) และเซฟาโลคอร์ดาตา ประกอบด้วยแหลนทะเล และยังรวมถึงบางกลุ่มที่สูญพันธุ์ไปแล้ว บางครั้งกลุ่มสัตว์มีกระดูกสันหลังถูกจัดรวมอยู่กับกลุ่มสัตว์มีกระโหลกศีรษะ สัตว์มีแกนสันหลังมีมากกว่า 65,000 สปีชีส์ที่ยังมีชีวิตอยู่ กว่าครึ่งเป็นพวกปลากระดูกแข็ง วาฬและเหยี่ยวเพเรกริน สัตว์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดและเคลื่อนที่เร็วที่สุดตามลำดับ เป็นสัตว์มีแกนสันหลังเช่นเดียวกันกับมนุษย์ ซากดึกดำบรรพ์ของสัตว์มีแกนสันหลังยุคแรกๆ มีอายุย้อนไปถึงในช่วงการระเบิดยุคแคมเบรียน.

ใหม่!!: นกกระเรียนและสัตว์มีแกนสันหลัง · ดูเพิ่มเติม »

สัตว์สะเทินน้ำสะเทินบก

ัตว์สะเทินน้ำสะเทินบก หรือที่นิยมเรียกทั่วไปว่า สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ (Amphibians) เป็นสัตว์มีกระดูกสันหลังที่อยู่ในชั้น Amphibia อาศัยอยู่ได้ทั้งในน้ำและบนบก มีลักษณะเฉพาะ คือ ผิวหนังมีต่อมเมือกทำให้ผิวหนังชุ่มชื้นตลอดเวลา ผิวหนังเปียกลื่นอยู่เสมอ ไม่มีเกล็ดตัวไม่แห้งหรือไม่มีขน หายใจด้วยเหงือก, ปอด, ผิวหนัง หรือผิวในปากในคอ โดยชั้นผิวหนังนั้นมีลักษณะพิเศษสามารถแลกเปลี่ยนออกซิเจนได้เนื่องจากมีโครงข่ายหลอดเลือดฝอยจำนวนมาก เพื่อใช้ในการหายใจ สืบพันธุ์โดยการผสมพันธุ์ภายนอกลำตัว สืบพันธุ์เมื่ออายุ 2–3 ปี ออกลูกเป็นไข่อยู่ในน้ำ ไม่มีเปลือก วางไข่เป็นกลุ่มในน้ำมีสารเป็นวุ้นหุ้ม ลูกอ่อนที่ออกจากไข่มีรูปร่างคล้ายปลาเรียกว่า "ลูกอ๊อด" อยู่ในน้ำหายใจด้วยเหงือก เมื่อเติบโตเต็มที่แล้วมีปอดหายใจ ขึ้นบกได้ แต่ต้องอยู่ใกล้น้ำ สัตว์สะเทินน้ำสะเทินบกส่วนใหญ่จะมีการเปลี่ยนแปลงรูปร่างทั้งภายนอกและภายในอย่างสิ้นเชิง ไปตามวงจรชีวิต ตัวอ่อนอาศัยอยู่ในน้ำ หายใจด้วยเหงือก เมื่อโตขึ้นจะเปลี่ยนรูปร่างอาศัยอยู่บนบก หายใจด้วยปอดหรือผิวหนัง โดยเฉพาะในช่วงฤดูแล้งในช่วงระหว่างฤดูหนาวถึงฤดูร้อน ส่วนใหญ่จะขุดรูจำศีล เพื่อหนีความแห้งแล้ง มิให้ผิวหนังแห้ง ถ้าผิวหนังแห้งจะหายใจไม่ได้และตายในที่สุด เพราะก๊าชจากอากาศต้องละลายไปกับน้ำเมือกที่ผิวหนัง แล้วจึงแพร่เข้าสู่กระแสโลหิต ระยะนี้จะใช้อาหารที่สะสมไว้ในร่างกายอย่างช้า ๆ นิวต์และซาลามานเดอร์ก็เป็นสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำเหมือนกัน แต่แตกตางกันตรงที่นิวต์และซาลามานเดอร์จะยังคงหางของมันไว้ เมื่อเจริญเติบโตเต็มที่ สัตว์สะเทินน้ำสะเทินบกถือเป็นสัตว์เลือดเย็นเช่นเดียวกับสัตว์พวกปลา หรือแมลง หรือสัตว์เลื้อยคลาน ปัจจุบันมีการอนุกรมวิธานสัตว์ในชั้นแล้วกว่า 6,500 ชน.

ใหม่!!: นกกระเรียนและสัตว์สะเทินน้ำสะเทินบก · ดูเพิ่มเติม »

สัตว์ปีก

ัตว์ปีก หรือ นก (รวมถึง ไก่, เป็ด, ห่าน, ไก่ฟ้า) จัดอยู่ในไฟลัมสัตว์มีแกนสันหลัง ชั้น Aves (คำว่า Aves เป็นภาษาละติน หมายถึง นก) โดยมีลักษณะทั่วไปคือ เป็นสัตว์ทวิบาท เลือดอุ่น ออกลูกเป็นไข่ รยางค์คู่หน้าเปลี่ยนแปลงไปเป็นปีก มีขนนก และมีกระดูกที่กลวงเบา ในปัจจุบันทั่วโลกมีนกอยู่ประมาณ 8,800 ถึง 9,800 ชนิด (ตามการจัดอนุกรมวิธานที่ต่างกัน) ซึ่งนับว่านกเป็นชั้นของสัตว์มีกระดูกสันหลังที่มีความหลากหลายมากที่สุด ในบรรดาชั้นของสัตว์มีกระดูกสันหลังทั้งหลายที่อาศัยอยู่บนพื้นดิน ความหลากหลายของนกนับเนื่องไปตั้งแต่ในเรื่องของขนาดตัว สีสัน เสียงร้อง อาหารการกิน และถิ่นที่อยู่อาศัย นกเป็นสัตว์ที่มีความสำคัญเป็นอันมากทั้งต่อระบบนิเวศและต่อชีวิตมนุษย์ ความสัมพันธ์ระหว่างคนกับนกเป็นไปอย่างแน่นแฟ้น และการเกื้อกูลกันระหว่างนกกับสรรพสิ่งต่างๆ ตามธรรมชาติก็เป็นไปอย่างแนบแน่น ถ้าหากปราศจากนก คงเป็นเรื่องยากที่จะจินตนาการถึงการดำรงอยู่ต่อไปของชีวภาคใบนี้.

ใหม่!!: นกกระเรียนและสัตว์ปีก · ดูเพิ่มเติม »

สปีชีส์

ในวิชาชีววิทยา ชนิด หรือทับศัพท์ว่า สปีชีส์ (species, ย่อ: sp., รูปพหูพจน์ย่อ: spp.) เป็นหน่วยการจำแนกชั้นทางวิทยาศาสตร์พื้นฐานและอันดับอนุกรมวิธานหนึ่ง มักนิยามว่า สปีชีส์เป็นกลุ่มอินทรีย์ใหญ่สุดที่สามารถสืบพันธุ์แล้วออกลูกที่สืบพันธุ์ได้ การมีลักษณะปรับตัวเฉพาะบางท้องถิ่นอาจแบ่งสปีชีส์ต่ออีกได้เป็น "ชื่อต่ำกว่าระดับชนิด" (infraspecific taxa) เช่น ชนิดย่อย (ในทางพฤกษศาสตร์ มีใช้คำอื่น เช่น พันธุ์ (variety) พันธุ์ย่อยและแบบ (forma)).

ใหม่!!: นกกระเรียนและสปีชีส์ · ดูเพิ่มเติม »

อันดับสัตว์ฟันแทะ

อันดับสัตว์ฟันแทะ (Rodent, ชื่อวิทยาศาสตร์: Rodentia) เป็นอันดับในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยน้ำนมอันดับหนึ่ง ที่มีความหลากหลายมาก ใช้ชื่ออันดับว่า Rodentia ลักษณะโดยรวมของสัตว์ในอันดับนี้ คือ มีฟันหน้าในขากรรไกรบน 2 ซี่ และขากรรไกรล่าง 2 ซี่ ลักษณะของฟันหน้ามีรูปร่างคล้ายสิ่ว มีความแข็งแรงมาก ใช้สำหรับกัด ขุด และแทะอาหาร ไม่มีฟันเขี้ยว ทำให้เกิดช่องว่างระหว่างฟันหน้าและฟันหน้ากราม ผิวเคลือบทางด้านนอกของฟันหน้าเป็นอีนาเมล จึงทำให้ฟันแข็งแรง นอกจากนี้ฟันหน้าของสัตว์ในอันดับนี้ยังเป็นรูทเลสส์ โดยที่ฟันจะไม่หยุดการเจริญเติบโต เฉลี่ย 12 เซนติเมตรครึ่งต่อปี เนื่องจากมีเลือดมาหล่อเลี้ยงฟันตลอดเวลา จึงต้องแทะฟันเสมอ ๆเพื่อให้ฟันสึกกร่อน มิฉะนั้นฟันจะทะลุออกมานอกปาก ทำให้การหุบปากและการกินอาหารลำบากทำให้อดตายได้ รูปร่างลักษณะภายนอกของสัตว์ในอันดับนี้แตกต่างกัน รวมทั้งแหล่งอาศัย บางจำพวกก็อาศัยอยู่บนต้นไม้ ขุดรูอยู่ใต้ดินหรือบนดิน เช่นเดียวกับชนิดของอาหาร ซึ่งอาจจะเป็นผลไม้เปลือกแข็ง, เมล็ดไม้, รากไม้ หรือกินทุกสิ่งทุกอย่างทั้งพืชและเนื้อสัตว์ ซึ่งสัตว์ในอันดับนี้ที่มนุษย์รู้จักกันเป็นอย่างดี ได้แก่ หนู, กระรอก, เม่น, บีเวอร์ เป็นต้น พบกระจายพันธุ์ไปในทุกพื้นที่ทั่วโลก ในภูมิประเทศที่หลากหลาย ขณะที่กระต่าย, กระแตและตุ่นหรือหนูผี หรือชูการ์ไกลเดอร์ แม้จะมีรูปลักษณะภายนอกคล้ายคลึงกัน แต่ถูกจัดออกมาเป็นอันดับต่างหาก สัตว์ในอันดับนี้ที่มีขนาดเล็กที่สุด คือ หนูจิ๋วแอฟริกัน (Mus minutoides) พบในทวีปแอฟริกา ที่มีขนาดใหญ่เต็มที่จากส่วนหัวจรดปลายหาง 30-80 มิลลิเมตร (1.2-3.1 นิ้ว) ความยาวหาง 20-40 มิลลิเมตร (0.79-1.6 นิ้ว) น้ำหนักประมาณ 3-12 กรัม (0.11-0.42 ออนซ์) และที่มีขนาดใหญ่ที่สุด คือ คาปิบารา (Hydrochoerus hydrochaeris) พบในอเมริกาใต้ ที่มีน้ำหนักได้มากถึง 65 กิโลกรัม และมีรายงานว่าพบมากถึง 91 กิโลกรัม.

ใหม่!!: นกกระเรียนและอันดับสัตว์ฟันแทะ · ดูเพิ่มเติม »

อินเทอร์เน็ตอาร์ไคฟ์

Internet Archive (Bibliotheca Alexandrina) อินเทอร์เน็ตอาร์ไคฟ์ (Internet Archive) เป็นองค์กรไม่แสวงหากำไรที่เก็บข้อมูลเว็บไซต์ทั่วไปในลักษณะของห้องสมุดดิจิตัล โดยมีสำนักงานตั้งอยู่ที่ เพรซีดีโอ ในซานฟรานซิสโก สหรัฐอเมริกา โดยมีศูนย์ข้อมูลอยู่ที่ ซานฟรานซิสโก เรดวูดซิตี และ เมาน์เทนวิว โดยข้อมูลที่เก็บไว้ได้แก่ภาพหน้าจอของเว็บไซต์ในแต่ละช่วงเวลา และข้อมูลของเว็บไซต์นั้น.

ใหม่!!: นกกระเรียนและอินเทอร์เน็ตอาร์ไคฟ์ · ดูเพิ่มเติม »

ธัญพืช

้าวโอ๊ต ข้าวบาร์เลย์ และผลิตภัณฑ์ต่างๆจากธัญพืช ธัญพืช คือพืชที่มนุษย์เพาะปลูกเพื่อเก็บเกี่ยวเมล็ด นั่นคือ แมงลัก ลูกเดือย ข้าวโพด ถั่วต่างๆ เม็ดขนุน สะตอ มะม่วงหิมพานต์ ข้าวประเภทต่างๆ มีการเพาะปลูกธัญพืชทั่วโลกมากกว่าผลผลิตทางเกษตรชนิดใดๆ และเป็นแหล่งอาหารที่ให้พลังงานแก่มนุษย์มากที่สุด ในประเทศกำลังพัฒนาบางประเทศ ธัญพืชจะเป็นอาหารหลักของประชากรทั้งประเทศ ขณะที่ในประเทศพัฒนาแล้ว การบริโภคธัญพืชจะน้อยลง ส่วนใหญ่ประเทศพัฒนาแล้วจะบริโภคธัญพืชแปลงรูป คือ ขนมปังนั่นเอง ประโยชน์ของธัญพืช การที่เราควรใช้ ธัญพืชหรือเมล็ดพืชเต็มรูป เพื่อให้ได้พลังชีวิตทั้งหมด ของเมล็ดพืช หากธัญพืชถูกขัดสี บี้ หรือบด มันจะสูญเสียพลังในการงอก แป้งที่แตกออกมา ไม่เพียงแต่เสียพลังชีวิตของมัน แต่จะทำให้ธัญพืชถูกทำลายโดยการอ๊อกซิเดชั่นไขมันที่ดีที่เป็นส่วนประกอบ ย้อนกลับไปเมื่อยุคสงครามโลกครั้งที่ 1 และ 2 ได้เกิดภาวะขาดแคลนอาหาร ทำให้เนื้อ นม เนย ไข่ กลายเป็นของหายาก และมีราคาแพง ประชาชนส่วนใหญ่จึงต้องรับประทานข้าวโอ๊ต ข้าวบาร์เล่ย์เป็นหลัก ปรากฏว่าช่วงนั้นชาวยุโรปเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งน้อยมาก ทั้งนี้ เนื่องจาก ข้าวเมืองหนาวทั้ง 2 ชนิดนี้มีสารแอนติออกซิเดนต์สูง จึงช่วยป้องกันความเสื่อมและการถูกทำลายของเซลล์ทั่วร่างกายอันเป็นสาเหตุของมะเร็งได้ - See more at: http://travel.truelife.com/detail/95385#sthash.0Vmuo8rJ.dpuf.

ใหม่!!: นกกระเรียนและธัญพืช · ดูเพิ่มเติม »

ทวีปอเมริกาใต้

แผนที่ดาวเทียมแสดงส่วนประกอบทางภูมิศาสตร์ของทวีปอเมริกาใต้ แผนที่ทวีปอเมริกาใต้ ทวีปอเมริกาใต้ เป็นทวีปที่เส้นศูนย์สูตรโลกพาดผ่าน พื้นที่ส่วนใหญ่อยู่ในซีกโลกใต้ ขนาบข้างด้วยมหาสมุทรแปซิฟิกและมหาสมุทรแอตแลนติก ในทางภูมิศาสตร์ ทวีปอเมริกาใต้เพิ่งจะเคลื่อนมาบรรจบกับทวีปอเมริกาเหนือเมื่อไม่นานมานี้ ทำให้เกิดคอคอดปานามา เทือกเขาแอนดีสที่มีอายุน้อยและไม่หยุดนิ่งพาดผ่านเขตด้านตะวันตกของทวีป ดินแดนทางตะวันออกของเทือกเขาแอนดีส คือ แอ่งแม่น้ำแอมะซอน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเขตป่าดิบชื้น ทวีปอเมริกาใต้มีพื้นที่กว้างใหญ่เป็นอันดับ 4 รองจากเอเชีย แอฟริกา และอเมริกาเหนือตามลำดับ ส่วนจำนวนประชากรเป็นอันดับ 5 รองจากเอเชีย แอฟริกา ยุโรป และอเมริกาเหนือ.

ใหม่!!: นกกระเรียนและทวีปอเมริกาใต้ · ดูเพิ่มเติม »

ทวีปแอนตาร์กติกา

วเทียมของทวีปแอนตาร์กติกา แอนตาร์กติกา (Antarctica) เป็นทวีปที่อยู่ใต้สุดของโลกตั้งอยู่ในภูมิภาคแอนตาร์กติกในซีกโลกใต้และเป็นที่ตั้งขั้วโลกใต้ทางภูมิศาสตร์ เกือบทั้งหมดอยู่ในวงกลมแอนตาร์กติกและล้อมลอบด้วยมหาสมุทรใต้ มีพื้นที่ประมาณ 14,000,000 ตารางกิโลเมตร เป็นทวีปที่ใหญ่เป็นอันดับ 5 ของโลกใหญ่กว่าทวีปออสเตรเลียถึง 2 เท่า พื้นที่ 98% ของทวีปปกคลุมด้วยน้ำแข็งหนาเฉลี่ย 1.9 กิโลเมตร ซึ่งครอบคลุมพื้นที่เกือบจะถึงเหนือสุดของคาบสมุทรแอนตาร์กติก โดยค่าเฉลี่ยแล้วแอนตาร์กติกาเป็นทวีปที่หนาวที่สุด แห้งแล้งที่สุด ลมแรงที่สุดและมีความสูงโดยเฉลี่ยมากที่สุด แอนตาร์กติกาเป็นทะเลทรายที่มีหยาดน้ำฟ้าเฉลี่ย 200 มิลลิเมตรต่อปีตามแนวชายฝั่งและพื้นที่ภายใน แม้ว่าช่วงที่หนาวสุดของปีจะมีอุณหภูมิเฉลี่ย −63 °C แต่อุณหภูมิอาจต่ำถึง −89.2 °C (และอาจถึง -94.7 ° C หากวัดจากอากาศ) บางสถานที่มีคนราว 1,000 ถึง 5,000 คนอาศัยในสถานีวิจัยที่กระจายอยู่ทั่วที้งทวีปตลอดทั้งปี สิ่งมีชีวิตในแอนตาร์กติกาจะเป็นพวกสาหร่าย แบคทีเรีย เห็ดรา พืช โพรทิสต์และสัตว์บางชนิดเช่นตัวเห็บ ตัวไร นีมาโทดา เพนกวิน สัตว์ตีนครีบและหมีน้ำส่วนพืชก็จะเป็นพวกทันดรา แม้ว่ามีตำนานเล่าขานเกี่ยวกับการมีอยู่ของดินแดนใต้ตั้งแต่ยุคโบราณ แอนตาร์กติกาถูกระบุว่าเป็นดินแดนสุดท้ายบนโลกในประวัติศาสตร์ที่ถูกค้นพบเพราะไม่มีใครเคยพบเลยจนกระทั่ง..

ใหม่!!: นกกระเรียนและทวีปแอนตาร์กติกา · ดูเพิ่มเติม »

ปลา

ปลา (อังกฤษ: Fish) จัดอยู่ในไฟลัมสัตว์มีกระดูกสันหลัง เป็นสัตว์ที่อาศัยอยู่ในแหล่งน้ำ เป็นสัตว์เลือดเย็น หายใจด้วยเหงือกและมีกระดูกสันหลัง สามารถเคลื่อนไหวไปมาด้วยครีบและกล้ามเนื้อของลำตัว บางชนิดมีเกล็ดปกคลุมทั่วตัว บางชนิดไม่มีเกล็ดแต่ปกคลุมด้วยเมือกลื่น ๆ หรือแผ่นกระดูก มีหัวใจสองห้องและมีขากรรไกร สัตว์ที่อาศัยอยู่ในแหล่งน้ำบางประเภท ถูกเรียกติดปากว่าปลาเช่นเดียวกันเช่น ปลาดาว, โลมา, วาฬและหมึก ซึ่งสัตว์ทั้งหมดนี้ก็มีแหล่งอาศัยอยู่ในน้ำด้วยกันทั้งสิ้น แต่ไม่ได้จัดอยู่ในจำพวกเดียวกันกับปลา ด้วยลักษณะทางกายวิภาคและสรีรวิทยาที่แตกต่างกันเช่น ปลาดาวเป็นสัตว์ที่ไม่มีกระดูกสันหลังเช่นเดียวกับปลา มีโครงสร้างที่เป็นหินปูน โลมาและวาฬถูกจัดเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่สามารถหายใจได้ทางปอดไม่ใช่ทางเหงือก และปลาหมึกจัดเป็นสัตว์ที่ไม่มีกระดูกสันหลัง แต่ถูกจัดรวมอยู่กับสัตว์ประเภทเดียวกันกับหอ.

ใหม่!!: นกกระเรียนและปลา · ดูเพิ่มเติม »

นกกระเรียนฟ้า

นกกระเรียนฟ้า นกกระเรียนฟ้า (Blue Crane Stanley Crane หรือ Paradise Crane) เป็นนกประจำชาติของประเทศแอฟริกาใต้ เป็นนกตัวสูง อาศัยอยู่บนพื้นดิน แต่จัดเป็นนกในวงศ์นกกระเรียน นกมีความสูง 100–120 ซม.และมีน้ำหนัก 4-6.2 กก.

ใหม่!!: นกกระเรียนและนกกระเรียนฟ้า · ดูเพิ่มเติม »

นกกระเรียนกู่

นกกระเรียนกู่ (Whooping Crane) เป็นนกที่สูงที่สุดในทวีปอเมริกาเหนือ เป็นนกกระเรียนที่กำลังจะสูญพันธุ์ ชื่อนกกระเรียนกู่จากเสียงกู่ร้องของนก เป็นนกกระเรียนหนึ่งในสองชนิดที่พบในอเมริกาเหนือ อีกชนิดคือนกกระเรียนเนินทราย มีอายุ 22-24 ปีในธรรมชาติ ปัจจุบันคาดว่ามีเหลืออยู่ประมาณ 250 ตัว.

ใหม่!!: นกกระเรียนและนกกระเรียนกู่ · ดูเพิ่มเติม »

นกกระเรียนมงกุฎ

นกกระเรียนมงกุฎ (Crowned crane) เป็นนกกระเรียนสกุลหนึ่ง จัดอยู่ในสกุล Balearica และวงศ์ย่อย Balearicinae มีลักษณะทั่วไป คือ ส่วนหัวมีขนเป็นหงอนพู่เป็นเส้นตรงสีทองขึ้นเรียงเป็นแผงคล้ายมงกุฎ อันเป็นที่มาของชื่อสามัญ และยังมีนิ้วตีนหลังยาวพบที่จะสามารถเกาะคอนบนต้นไม้ จำแนกออกได้เป็น 2 ชนิด โดยพบกระจายพันธุ์ในทวีปแอฟริกา จนถึงตอนใต้ของทะเลทรายสะฮาร.

ใหม่!!: นกกระเรียนและนกกระเรียนมงกุฎ · ดูเพิ่มเติม »

นกกระเรียนมงกุฎดำ

นกกระเรียนมงกุฎดำ (Black Crowned Crane หรือ Kaffir Crane) เป็นนกในวงศ์นกกระเรียน พบในทุ่งหญ้าสะวันนาในทวีปแอฟริกาทางใต้ของทะเลทรายซาฮารา ทำรังในพื้นที่เปียกชื้น มี 2 ชนิดย่อยคือ B. p. pavonina พบในทางตะวันตกและ B. p. ceciliae พบในทางตะวันออกของแอฟริกา นกกระเรียนชนิดนี้และญาติของมัน นกกระเรียนมงกุฎเทาเป็นนกกระเรียนที่สามารถเกาะคอนบนต้นไม้ได้ เพราะมีนิ้วเท้าหลังยาวพอที่จะจับกิ่งไม้ได้ ด้วยเหตุผลนี้จึงเชื่อว่านกกระเรียนสกุล Balearica เป็นสมาชิกที่คล้ายบรรพบุรุษของนกกระเรียนเป็นอย่างมาก นกกระเรียนมงกุฎดำยาวประมาณ 1 เมตร ช่วงปีกว้าง 1.87 เมตร หนักประมาณ 3.6 กิโลกรัม นกกระเรียนมงกุฎดำกินหญ้า แมลง สัตว์เลื้อยคลาน และ สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดเล็กเป็นอาหาร มันกำลังถูกคุคามจากการสูญเสียถิ่นที่อยู่และกำลังลดจำนวนลง โดยเฉพาะทางด้านตะวันตกของแอฟริก.

ใหม่!!: นกกระเรียนและนกกระเรียนมงกุฎดำ · ดูเพิ่มเติม »

นกกระเรียนมงกุฎแดง

วนหัวของนกกระเรียนมงกุฎแดง นกกระเรียนมงกุฎแดง หรือ นกกระเรียนญี่ปุ่น หรือ นกกระเรียนแมนจูเรีย (Red-crowned crane).

ใหม่!!: นกกระเรียนและนกกระเรียนมงกุฎแดง · ดูเพิ่มเติม »

นกกระเรียนมงกุฎเทา

thumb นกกระเรียนมงกุฎเทา หรือ นกกระเรียนหงอนพู่ (Grey crowned crane) เป็นนกในวงศ์นกกระเรียน พบในทุ่งหญ้าสะวันนาในทวีปแอฟริกาทางใต้ของทะเลทรายซาฮารา ทำรังในพื้นที่เปียกชื้น ไม่ใช่นกอ.

ใหม่!!: นกกระเรียนและนกกระเรียนมงกุฎเทา · ดูเพิ่มเติม »

นกกระเรียนยุโรป

นกกระเรียนยุโรป (Eurasian Crane) หรือ นกกระเรียนธรรมดา (Common Crane) เป็นนกในวงศ์นกกระเรียน ลูกนกที่รัฐราชสถาน, อินเดีย นกโตเต็มที่และลูกนกที่รัฐราชสถาน, อินเดีย นกกระเรียนยุโรปเป็นนกขนาดใหญ่ นกกระเรียนขนาดกลาง สูง 100-130 ซม.ช่วงปีกกว้าง 180-240 ซม.หนัก 4.5-6 กก.

ใหม่!!: นกกระเรียนและนกกระเรียนยุโรป · ดูเพิ่มเติม »

นกกระเรียนหมวกขาว

นกกระเรียนหมวกขาว (Hooded Crane) เป็นนกกระเรียนขนาดเล็ก มีลำตัวสีเทา คอส่วนบนและหัวเป็นสีขาว มีหนังเปลือยสีแดงตรงกระหม่อมเหนือตา ถึงมันเป็นนกกระเรียนขนาดเล็กแต่ก็ยังถือว่าเป็นนกขนาดใหญ่ ยาว 1 เมตร ช่วงปีกกว้าง 1.87 เมตร และหนัก 3.7 กิโลกรัม นกกระเรียนหมวกขาวมีแหล่งผสมพันธุ์วางไข่ในกลางถึงใต้และตะวันออกเฉียงใต้ของไซบีเรีย และในประเทศมองโกเลียแต่ยังคงไม่เป็นที่แน่ใจนัก ในฤดูหนาวประชากรมากกว่า 80% จะอยู่ที่ ไอซูมิ (Izumi) ทางตอนใต้ของประเทศญี่ปุ่น นอกจากนี้ยังพบในประเทศเกาหลีใต้และจีน ประชากรของนกชนิดนี้ประมาณกันว่าเหลืออยู่ 9,500 ตัว สาเหตุหลักที่คุกคามต่อการอยู่รอดของนกคือการสูญเสียและเสื่อมโทรมของพื้นที่ชุ่มน้ำในประเทศจีนและเกาหลีใต้ ซึ่งเป็นผลมาจากการพัฒนาและการสร้างเขื่อน นกกระเรียนหมวกขาวถูกจัดสถานะเป็นเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ในบัญชีแดงของสหภาพเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ และจัดอยู่ในบัญชีที่ 1 และ 2 ของCITES ได้มีการจัดตั้งสมาคม Grus monacha International Aid (白头鹤的故事) ขึ้นเพื่อหาทางอนุรักษ์นกชนิดนี้.

ใหม่!!: นกกระเรียนและนกกระเรียนหมวกขาว · ดูเพิ่มเติม »

นกกระเรียนออสเตรเลีย

นกกระเรียนออสเตรเลีย หรือ บรอลกา (Brolga) เป็นนกในวงศ์นกกระเรียน ชอบอยู่รวมกันเป็นฝูง อาศัยอยู่ในทางตะวันออกของประเทศออสเตรเลีย และเป็นสัญลักษณ์ของรัฐควีนส์แลน.

ใหม่!!: นกกระเรียนและนกกระเรียนออสเตรเลีย · ดูเพิ่มเติม »

นกกระเรียนคอขาว

นกกระเรียนคอขาว (White-naped Crane) เป็นนกในวงศ์นกกระเรียน เป็นนกขนาดใหญ่ ยาว 112-125 ซม.

ใหม่!!: นกกระเรียนและนกกระเรียนคอขาว · ดูเพิ่มเติม »

นกกระเรียนคอดำ

นกกระเรียนคอดำ (Black-necked Crane) เป็นนกกระเรียนขนาดกลาง พบในประเทศจีนบริเวณทะเลสาบปานกงในที่ราบสูงทิเบต ลำตัวยาว 139 ซม.ช่วงปีกกว้าง 235 ซม.และหนัก 5.5 กก.

ใหม่!!: นกกระเรียนและนกกระเรียนคอดำ · ดูเพิ่มเติม »

นกกระเรียนไทย

thumb thumb นกกระเรียนไทย หรือ นกกระเรียน (sarus crane) เป็นนกขนาดใหญ่ที่ไม่ใช่นกอพยพ พบในบางพื้นที่ของอนุทวีปอินเดีย เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และประเทศออสเตรเลีย เป็นนกบินได้ที่สูงที่สุดในโลก เมื่อยืนจะสูงถึง 1.8 เมตร สังเกตเห็นได้ง่าย ในพื้นที่ชุ่มน้ำเปิดโล่ง นกกระเรียนไทยแตกต่างจากนกกระเรียนอื่นในพื้นที่เพราะมีสีเทาทั้งตัวและมีสีแดงที่หัวและบริเวณคอด้านบน หากินในที่ลุ่มมีน้ำขังบริเวณน้ำตื้น กินราก หัว แมลง สัตว์น้ำ และสัตว์มีกระดูกสันหลังขนาดเล็กเป็นอาหาร นกกระเรียนไทยเหมือนกับนกกระเรียนอื่นที่มักมีคู่ตัวเดียวตลอดชีวิต นกกระเรียนจะปกป้องอาณาเขตและเกี้ยวพาราสีโดยการกางปีก ส่งเสียงร้อง กระโดดซึ่งดูคล้ายกับการเต้นรำ ในประเทศอินเดียนกกระเรียนเป็นสัญลักษณ์ของความซื่อสัตย์ในชีวิตแต่งงาน เชื่อกันว่าเมื่อคู่ตาย นกอีกตัวจะเศร้าโศกจนตรอมใจตายตาม ฤดูผสมพันธุ์หลักอยู่ในฤดูฝน คู่นกจะสร้างรังเป็น "เกาะ" รูปวงกลมจากกก อ้อ และพงหญ้า มีเส้นผ่าศูนย์กลางเกือบสองเมตรและสูงเพียงพอที่จะอยู่เหนือจากน้ำรอบรัง นกกระเรียนไทยกำลังลดลงอย่างรวดเร็วในคริสต์ศตวรรษที่ผ่านมา คาดกันว่าประชากรมีเพียง 10 หรือน้อยกว่า (ประมาณร้อยละ 2.5) ของจำนวนที่มีอยู่ในคริสต์ทศวรรษ 1850 ประเทศอินเดียคือแหล่งที่มั่นของนกชนิดนี้ ที่ซึ่งนกเป็นที่เคารพและอาศัยอยู่ในพื้นที่การเกษตรใกล้กับมนุษย์ นกกระเรียนนั้นสูญหายไปจากพื้นที่การกระจายพันธุ์ในหลาย ๆ พื้นที่ในอดีต.

ใหม่!!: นกกระเรียนและนกกระเรียนไทย · ดูเพิ่มเติม »

นกกระเรียนไซบีเรีย

นกกระเรียนไซบีเรีย นกกระเรียนขาวไซบีเรีย หรือ นกกระเรียนหิมะ เป็นนกในวงศ์นกกระเรียน นกชนิดนี้ทำรังวางไข่ในบริเวณใกล้ขั้วโลกเหนือของประเทศรัสเซีย ในสาธารณรัฐซาฮาและทางตะวันตกของไซบีเรีย เป็นนกอพยพระยะทางไกล ประชากรทางตะวันออกอาศัยในบริเวณแม่น้ำแยงซีและทะเลสาบผอหยางในประเทศจีน ประชากรทางตอนกลางอาศัยอยู่ที่อุทยานแห่งชาติเคโอลาเดโอ ประเทศอินเดีย (ประชากรตัวสุดท้ายของนกกระเรียนไซบีเรียกลุ่มนี้ถูกพบเมื่อปี ค.ศ. 2002) และประชากรทางตะวันตกอาศัยอยู่ในเฟ่ะเรดูนเค่ะนอรในประเทศอิหร่าน นกกระเรียนอาศัยในพื้นที่ชุ่มน้ำ กินหน่อ ราก และหัวพืชน้ำเป็นอาหาร.

ใหม่!!: นกกระเรียนและนกกระเรียนไซบีเรีย · ดูเพิ่มเติม »

นกกระเรียนเล็ก

นกกระเรียนเล็ก หรือ นกกระเรียนเดมเมอเซลล์ (Demoiselle crane) เป็นนกกระเรียนชนิดหนึ่ง ขยายพันธุ์ในเอเชียกลาง พบเพียงไม่กี่แห่งในประเทศไซปรัสและทางตะวันออกของประเทศตุรกี และถึงแม้จะไกลอย่างทางตอนเหนือและตะวันตกของประเทศปากีสถาน ในฤดูหนาวนกจะอพยพไปทวีปแอฟริกาและเอเชียใต้.

ใหม่!!: นกกระเรียนและนกกระเรียนเล็ก · ดูเพิ่มเติม »

นกกระเรียนเหนียงคอยาว

นกกระเรียนเหนียงคอยาว (Wattled Crane) เป็นนกขนาดใหญ่ในวงศ์นกกระเรียน พบในทวีปแอฟริกา ทางใต้ของทะเลทรายสะฮารา เป็นสปีชีส์เดียวในสกุล นกกระเรียนชนิดนี้สูงถึง 175 ซม.

ใหม่!!: นกกระเรียนและนกกระเรียนเหนียงคอยาว · ดูเพิ่มเติม »

นกกระเรียนเนินทราย

นกกระเรียนเนินทราย (Sandhill Crane) เป็นนกกระเรียนขนาดใหญ่ของทวีปอเมริกาเหนือและทางตะวันออกเฉียงเหนือของไซบีเรีย ชื่อมาจากถิ่นอาศัยที่แม่น้ำแพลท (Platte River) บนริมเนินทรายของรัฐเนแบรสกาในอเมริกาตะวันตกกลาง ซึ่งเป็นบริเวณที่นกกระเรียนเนินทรายเล็ก (Grus canadensis canadensis) มากถึง 450,000 ตัวอพยพมาที่นี่เป็นประจำทุกปี.

ใหม่!!: นกกระเรียนและนกกระเรียนเนินทราย · ดูเพิ่มเติม »

แมลง

แมลง (Insect) เป็นสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง จัดอยู่ในไฟลัมอาร์โทรโพดา จำแนกออกเป็นไฟลัมต่าง ๆ ได้ 13 กลุ่ม มีลักษณะสำคัญคือมีลำตัวเป็นปล้องคล้อง ซึ่งอาจแบ่งเป็น 2 หรือ 3 ส่วน สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน ลำตัวทั้งสองด้านซ้ายขวามีความเหมือนและมีขนาดเท่ากัน มีเปลือกห่อหุ้มลำตัวด้วยสารไคติน (Chitinous Exoskeleton) ไม่มีขน หายใจแบบใช้เหงือกหรือใช้รูหายใจ มีวัฎจักรวงจรชีวิตในการเจริญเติบโตแบบไข่ มีการลอกคราบเป็นบางครั้งแล้วสร้างผนังหรือเปลือกห่อหุ้มลำตัวใหม่ มีรยางค์เป็นคู่และเป็นปล้อง ส่วนใหญ่นักกีฏวิทยามักใช้รยางค์ในการแบ่งเพศผู้เพศเมียของแมลง มีอวัยวะภายในที่มีท่อทางเดินอาหารเป็นท่อยาวตลอดจากปากไปถึงทวารหนัก ระบบเลือดเป็นแบบเปิดและมีท่อเลือดอยู่ทางด้านสันหลังเหนือระบบทางเดินอาหาร มีระบบประสาทที่ประกอบไปด้วยสมองอยู่เหนือท่ออาหาร มีเส้นประสาทขนาดใหญ่หนึ่งคู่เชื่อมต่อจากสมอง มีการรวมตัวเป็นระยะก่อเกิดเป็นปมประสาท เส้นประสาทขนาดใหญ่ของแมลง จะอยู่ทางด้านล่างของลำตัวใต้ท่ออาหาร มีกล้ามเนื้อแบบเรียบอยู่ตามลำตัวบทปฏิบัติการกีฎวิทยาเบื้องต้น, ภาควิชากีฎวิทยา คณะเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์, ร. ดร.สาวิตรี มาไลยพันธุ์, สำนักพิมพ์รั้วเขียว,..

ใหม่!!: นกกระเรียนและแมลง · ดูเพิ่มเติม »

เบอร์รี

อร์รี (berry) ในทางพฤกษศาสตร์หมายถึงผลไม้ที่เนื้อและเมล็ดเกิดขึ้นจากรังไข่เดียว แต่โดยทั่วไป คำว่าเบอร์รีมักจะถูกใช้เรียกผลไม้ลูกเล็ก ๆ กลม ๆ หรือเหลี่ยม ๆ สีสันสดใส มีรสเปรี้ยวหรือหวาน เช่น สตรอเบอร์รี บลูเบอร์รี แรสเบอร์รี ฯลฯ เสียมากกว่า, TheFreeDictionary สืบค้นวันที่ 5 มกราคม 2555.

ใหม่!!: นกกระเรียนและเบอร์รี · ดูเพิ่มเติม »

เปลี่ยนเส้นทางที่นี่:

Gruidae

ขาออกขาเข้า
Hey! เราอยู่ใน Facebook ตอนนี้! »