โลโก้
ยูเนี่ยนพีเดีย
การสื่อสาร
ดาวน์โหลดได้จาก Google Play
ใหม่! ดาวน์โหลด ยูเนี่ยนพีเดีย บน Android ™ของคุณ!
ฟรี
เร็วกว่าเบราว์เซอร์!
 

เครื่องประดับ

ดัชนี เครื่องประดับ

รื่องประดับ เป็นสิ่งของที่ใช้เสริมเติมแต่งร่างกายเพิ่มเติมจากเสื้อผ้าที่สวมใส่ โดยทำให้รูปแบบการแต่งตัวมีลักษณะที่เปลี่ยนไป ถึงแม้ว่าเสื้อผ้าที่สวมใส่จะเป็นชุดเดิม ก็สามารถสร้างความรู้สึกเปลี่ยนไปได้เมื่อทำการเปลี่ยนเครื่องประดับหรืออัญมณี ในเรื่องความเชื่อและศาสนา เครื่องประดับยังคงถูกนำมาใช้ เช่น พระเครื่อง ไม้กางเขน หรือประคำ เป็นต้น เครื่องประดับชนิดต่าง.

70 ความสัมพันธ์: ชั้นสแคโฟโปดาชาวซาโปเทกพระนางเจ้าสุวัทนา พระวรราชเทวีพระแก้วเชียงแสนพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ บ้านเก่าพิพิธภัณฑ์แอร์มิทาชพิพิธภัณฑ์ในจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยพูมา (บริษัท)การเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พ.ศ. 2552มหาสีลวชาดกมนุษย์ที่มีกายวิภาคปัจจุบันม้าน้ำยากูซ่ายุคสัมฤทธิ์ยุคโลหะวัดบุพพารามวาฬมีฟันวาฬสเปิร์มวงศ์ย่อยหอยมือเสือวงศ์ปลาปักเป้าฟันสองซี่สร้อยคอสังข์รดน้ำสำเพ็งสิ่งประดิษฐ์สถาบันทักษิณคดีศึกษา มหาวิทยาลัยทักษิณหอยสังข์มะระหอยงวงช้างมุกหอยปีกนางฟ้าหุ่นกระบอกไทยอะพาไทต์อัลโฟนส์ มูคาอันดับด้วงอารยธรรมลุ่มแม่น้ำสินธุอำพันถนนเยาวราชทองคำสำรองทองคำสีดาวทะเลด้วงกว่างครั่งประเทศอันดอร์ราปลากระเบนปลาปักเป้าหนามทุเรียนปลาปักเป้าหนามทุเรียนหนามยาวปลาปักเป้าหนามทุเรียนด่างดำปูนปลาสเตอร์นาก (โลหะ)นิลแพลทินัมแก๊งตกทอง...แมลงทับแมลงทับกลมขาเขียวแหล่งโบราณคดีบ้านดอนตาเพชรแหวนแหวนพรหมจรรย์โลหะมีค่าโขนไข่มุกไนกี้ (บริษัท)เชียงเฮงเส็งเวทีเดินแบบเอ็ด กีนเจ้าจอมแว่น ในรัชกาลที่ 1เข็มกลัดตรึงเข็มกลัดประดับเดอะซิมส์ 2 ทริปซ่าส์เงินไซซีเต่ากระเปลือกหอยICD-10 บทที่ 20: สาเหตุภายนอกของการเจ็บป่วยและการตาย ขยายดัชนี (20 มากกว่า) »

ชั้นสแคโฟโปดา

ั้นสแคโฟโปดา (ชั้น: Scaphopoda) เป็นหนึ่งในชั้นของไฟลัมมอลลัสคาที่ยังสืบเผ่าพันธุ์มาจนปัจจุบัน ซึ่งสัตว์ในชั้นนี้พบมีอยู่มายาวนานกว่า 240 ล้านปีมาแล้ว โดยพบหลักฐานในซากดึกดำบรรพ์ ปัจจุบันพบแล้วประมาณ 1,000 ชนิด ซึ่งเรียกกันในชื่อสามัญว่า หอยงาช้าง หรือ หอยฟันช้าง(Tusk Shell) ทุกชนิดจะอาศัยอยู่ภายใต้พื้นทรายใต้ทะเล มีรูปร่างโดยรวม คือ เปลือกมีรูปร่างคล้ายฝักดาบซามูไรหรืองาของช้าง มีลักษณะเรียวยาว โค้งตรงกลางเล็กน้อย หน้าตัดเป็นทรงค่อนข้างกลม มีช่องเปิดที่ปลายสุดของทั้งสองด้านซึ่งด้านหนึ่งจะใหญ่กว่าอีกด้านเสมอ มีขนาดตั้งแต่ 5 มิลลิเมตรจนถึง 15 เซนติเมตร ศัพท์คำว่า Scaphopoda นั้น สามารถแปลเป็นภาษาอังกฤษได้ว่า "เท้าเป็นจอบ" (shovel-footed) มีลักษณะโครงสร้างคือ ไม่มีตา ไม่มีเส้นเลือด ไม่มีแม้กระทั่งอวัยวะสำคัญอย่าง หัวใจ โดยเลือดจะถูกสูบโดยแรงดันน้ำภายในเนื้อเยื่อจากการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อเท้าที่มีรูปร่างคล้ายจอบ ที่ใช้ขุดเจาะเพื่อแทรกเปลืองลงวางตัวดิ่งในพื้นทราย มีอวัยวะพิเศษคล้ายหนวดเล็ก ๆ รอบ ๆ ปากด้านล่างเรียกว่า "captacula" ทำหน้าที่ดักจับอาหารเข้าสู่ปากเพื่อบดเคี้ยวและย่อยสลาย แล้วพ่นทิ้งออกอีกทางเป็นของเสีย เปลือกของหอยงาช้าง นั้น ผู้หญิงในอินเดียนแดงเผ่าลาโคตาใช้ทำเครื่องประดับสำหรับตกแต่งเสื้อผ้าหรือชุดที่สวมใส่เช่นเดียวกับขนของเม่น.

ใหม่!!: เครื่องประดับและชั้นสแคโฟโปดา · ดูเพิ่มเติม »

ชาวซาโปเทก

กลุ่มชนซาโปเทคส์และมิกซ์เทคส์ของโออาฆากา ในสารบบของซาโปเทค มีเทพเจ้าหลายองค์มาก องค์ที่สำคัญได้แก่ ปิตาโอ โคโซบี (Pitao Cozobi) เทพเจ้าแห่งข้าวโพดและการเก็บเกี่ยว เทพเจ้าเสือ (The Jaguar God) ผู้พิทักษ์ถ้ำ ปิตาโอ ฮู (Pitao Xoo) เทพเจ้าแห่งแผ่นดินไหว เทพเจ้างูสามตัว (the Goddess of three Serpents) ผู้เกี่ยวข้องกับเรื่องอาหาร เทพเจ้าผู้อาวุโส (the Old God) เทพเจ้าค้างคาว (the Bat God) เทพเจ้าแห่งความมืดมัวและใต้บาดาล นอกจากนี้ยังมีเทพนกจะงอยปากกว้าง (the Board-Beaked Bird God) ซึ่งไม่ปรากฏชื่อที่ชัดเจน และยังมีสัตว์อื่น ๆ ที่นำมาเป็นรูปเคารพด้วย อาทิ กะรอกเม็กซิกันและนกนานาชน.

ใหม่!!: เครื่องประดับและชาวซาโปเทก · ดูเพิ่มเติม »

พระนางเจ้าสุวัทนา พระวรราชเทวี

ระนางเจ้าสุวัทนา พระวรราชเทวี (15 เมษายน พ.ศ. 2448 — 10 ตุลาคม พ.ศ. 2528) เป็นพระวรราชเทวีในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระนามเดิมว่า เครือแก้ว อภัยวงศ์ บุตรีของพระยาอภัยภูเบศร (เลื่อม อภัยวงศ์) กับคุณเล็ก บุนนาค ต่อมาได้รับพระราชทานนามจากสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวว่า สุวัทนา ได้เข้ารับราชการฝ่ายใน ในตำแหน่งเจ้าจอมสุวัทนา และได้รับการสถาปนาเป็น พระนางเจ้าสุวัทนา พระวรราชเทวี ตามลำดับ พระองค์ได้ให้ประสูติการแก่พระราชธิดาเพียงพระองค์เดียวในรัชกาลคือ สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี แต่หลังจากประสูติพระเจ้าลูกเธอได้เพียงหนึ่งวัน พระราชสวามีได้สวรรคตลง พระองค์และพระธิดาจึงได้เสด็จไปประทับยังสหราชอาณาจักรกว่า 20 ปี ภายหลังจึงได้เสด็จนิวัตประเทศไทยโดยพำนักในวังรื่นฤดี เป็นการถาวรตั้งแต่ปี..

ใหม่!!: เครื่องประดับและพระนางเจ้าสุวัทนา พระวรราชเทวี · ดูเพิ่มเติม »

พระแก้วเชียงแสน

ระแก้วเชียงแสน เป็นพระพุทธรูปแก้วผลึกใส ศิลปะแบบล้านนารุ่นหลัง ราวพุทธศตวรรษที่ 20 หน้าตักกว้าง 6.2 เซนติเมตร สูง 9.15 เซนติเมตร (ไม่รวมฐาน) โดยมีความสำคัญคือเป็นพระแก้วประจำรัชกาลที่ 4.

ใหม่!!: เครื่องประดับและพระแก้วเชียงแสน · ดูเพิ่มเติม »

พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ บ้านเก่า

ัณฑ์สถานแห่งชาติบ้านเก่า อยู่ที่ตำบลบ้านเก่า ริมฝั่งแม่น้ำแควน้อย เขตอำเภอเมืองกาญจนบุรี อยู่ห่างจากตัวเมืองประมาณ 35 กิโลเมตร บ้านเก่าเป็นแหล่งอารยธรรมก่อนประวัติศาสตร์ที่สำคัญของโลก ในระหว่าง..

ใหม่!!: เครื่องประดับและพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ บ้านเก่า · ดูเพิ่มเติม »

พิพิธภัณฑ์แอร์มิทาช

ัณฑ์แอร์มิทาช หรือ พิพิธภัณฑ์เฮอร์มิเทจ (Hermitage Museum; Государственный Эрмитаж, Gosudarstvennyj Èrmitaž; musée de l’Ermitage) เป็นพิพิธภัณฑ์ที่ตั้งอยู่ที่เมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กในประเทศรัสเซีย พิพิธภัณฑ์แอร์มิทาชเป็นพิพิธภัณฑ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกแห่งหนึ่งที่มีงานศิลปะในความครอบครองเป็นจำนวนราวสามล้านชิ้นThe Guinness book of world records และพิพิธภัณฑ์ศิลปะที่เก่าที่สุดในโลก งานศิลปะจำนวนมหาศาลตั้งแสดงอยู่ในอาคารหกหลัง อาคารเอกคือพระราชวังฤดูหนาวที่เคยเป็นที่ประทับของซาร์ แอร์มิทาชมีสาขาที่อัมสเตอร์ดัม, ลอนดอน, ลาสเวกัส และแฟร์ราราในอิตาลี พิพิธภัณฑ์แอร์มิทาชได้รับการบันทึกในหนังสือบันทึกสถิติโลกกินเนสส์ว่าเป็นหอศิลป์ที่มีงานสะสมมากชิ้นที่สุดในโลก.

ใหม่!!: เครื่องประดับและพิพิธภัณฑ์แอร์มิทาช · ดูเพิ่มเติม »

พิพิธภัณฑ์ในจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

ัณฑ์ในจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ภายในเขตพื้นที่ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยนั้น นอกจากเป็นที่ตั้งของคณะต่าง ๆ แล้ว ยังมีพิพิธภัณฑ์ที่ตั้งอยู่ตามคณะต่าง ๆ เพื่อเป็นแหล่งถ่ายทอดความรู้ทั้งในเชิงวิชาการและการอนุรักษ์ นอกจากนั้น จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยยังได้รับมอบหมายให้เป็นผู้ดูแลพิพิธภัณฑ์ที่อยู่ในส่วนภูมิภาคด้วย ได้แก่ พิพิธภัณฑ์พระตำหนักดาราภิรมย์ จังหวัดเชียงใหม่ และพิพิธภัณฑ์พระจุฑาธุชราชฐาน จังหวัดชลบุรีด้ว.

ใหม่!!: เครื่องประดับและพิพิธภัณฑ์ในจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย · ดูเพิ่มเติม »

พูมา (บริษัท)

ำหรับพูมาที่เป็นสัตว์จำพวกเสือดูที่: เสือพูมา พูมา เป็นบริษัทผลิตเสื้อผ้าและเสื้อผ้ากีฬา จากประเทศเยอรมนี โดยก่อตั้งเมื่อปี ค.ศ. 1924 โดยสองพี่น้องตระกูลแดสส์เลอร์ อาดิ แดสส์เลอร์ และน้องชาย รูดอล์ฟ แดสส์เลอร์ ในนามของบริษัทอาดิดาส ต่อมาในปี..

ใหม่!!: เครื่องประดับและพูมา (บริษัท) · ดูเพิ่มเติม »

การเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พ.ศ. 2552

ปสเตอร์รณรงค์ให้ไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ในวันที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2552 การเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร..

ใหม่!!: เครื่องประดับและการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พ.ศ. 2552 · ดูเพิ่มเติม »

มหาสีลวชาดก

มหาสีลวชาดก เป็นเรื่องที่ว่าด้วยการปรารภความเพียร ในครั้งที่พระโคตมพุทธเจ้าเสวยพระชาติเป็น พระมหาสีลวร.

ใหม่!!: เครื่องประดับและมหาสีลวชาดก · ดูเพิ่มเติม »

มนุษย์ที่มีกายวิภาคปัจจุบัน

ในสาขาบรรพมานุษยวิทยา คำว่า มนุษย์ที่มีกายวิภาคปัจจุบัน หรือ มนุษย์ปัจจุบัน (anatomically modern human, ตัวย่อ AMH) หรือ โฮโมเซเปียนส์ที่มีกายวิภาคปัจจุบัน (anatomically modern Homo sapiens, ตัวย่อ AMHS) หมายถึงสมาชิกของมนุษย์สปีชีส์ Homo sapiens ที่มีรูปพรรณสัณฐานภายในพิสัยลักษณะปรากฏของมนุษย์ปัจจุบัน มนุษย์ปัจจุบันวิวัฒนาการมาจากมนุษย์โบราณ (archaic humans) ยุคหินกลาง (แอฟริกา) ประมาณ 300,000 ปีก่อน.

ใหม่!!: เครื่องประดับและมนุษย์ที่มีกายวิภาคปัจจุบัน · ดูเพิ่มเติม »

ม้าน้ำ

ม้าน้ำ เป็นปลากระดูกแข็งที่อาศัยอยู่ในทะเลจำพวกหนึ่ง จัดอยู่ในวงศ์ย่อย Hippocampinae (ซึ่งมีอยู่ 2 สกุล คือหนึ่งสกุลนั้นคือ ปลาจิ้มฟันจระเข้สัน ที่อยู่ในสกุล Histiogamphelus มีรูปร่างคล้ายปลาจิ้มฟันจระเข้ผสมกับม้าน้ำ) ในวงศ์ Syngnathidae อันเป็นวงศ์เดียวกับปลาจิ้มฟันจระเข้และมังกรทะเล ในอันดับ Syngnathiformes.

ใหม่!!: เครื่องประดับและม้าน้ำ · ดูเพิ่มเติม »

ยากูซ่า

ตัวอักษรคำว่า "ยากูซ่า" แบบคะตะคะนะ ยากูซ่า หรือที่รู้จักกันในชื่อว่า โกะกุโด นั้นเป็นสมาชิกของกลุ่มอาชญากรรมที่ก่อตั้งขึ้นมาตั้งแต่สมัยโบราณใน ประเทศญี่ปุ่น ในปัจจุบันนี้ ยากูซ่าเป็นปรากฏการณ์ของกลุ่มอาชญากรรมที่ใหญ่ที่สุดในโลก สื่อตะวันตกนั้นในบางครั้งจะเรียกกลุ่มยากูซ่านี้ว่า “มาเฟียญี่ปุ่น”.

ใหม่!!: เครื่องประดับและยากูซ่า · ดูเพิ่มเติม »

ยุคสัมฤทธิ์

ำริดคือยุคที่มนุษย์อาศัยอยู่เป็นชุมชนที่ใหญ่ขึ้น ดำรงชีวิตด้วยการเพาะปลูก ปลูกข้าว มีการเลี้ยงสัตว์ ชีวิตความเป็นอยู่ได้ดีขึ้นกว่ายุคหิน รู้จักการทำสำริดเป็นเครื่องประดับ ยุคสำริดสิ้นสุดลงในช่วง 1206-1150 ปีก่อนคริสตกาล ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่จักรวรรดิฮิตไทต์ และอาณาจักรไมซีเนียล่มสลาย ยุคต่อมาหลังยุคสัมฤทธิ์ คือ ยุคเหล็ก.

ใหม่!!: เครื่องประดับและยุคสัมฤทธิ์ · ดูเพิ่มเติม »

ยุคโลหะ

ลหะ (Metal Age) เป็นยุคที่อยู่ในช่วงยุคก่อนประวัติศาสตร์ เกิดขึ้นเมื่อประมาณ 5,000-900 ปีก่อนพุทธศักราช ยุคที่มนุษย์รู้จักนำเอาแร่โลหะมาจากธรรมชาตินำมาใช้เพื่อประโยชน์ เช่น ทองแดง, สำริด และเหล็ก นำมาหล่อหรือขึ้นเป็นมีด, หอก และดาบ เพื่อใช้ในการล่าสัตว์ หรือมาประกอบเป็นเครื่องมือ เครื่องใช้ และเครื่องประดับ มนุษย์สมัยนี้พัฒนาการเป็นอยู่อาศัยและการเกษตรกรรมให้ดียิ่งขึ้น เช่น การสร้างบ้านให้ใต้ถุนบ้านสูง.

ใหม่!!: เครื่องประดับและยุคโลหะ · ดูเพิ่มเติม »

วัดบุพพาราม

วัดบุพพารามมหาวิหาร เป็นพระวิหารที่อยู่ใกล้เคียงกับมหาวิหารเชตวัน ทางใต้ของนครสาวัตถี เมืองหลวงของแคว้นโกศล นางวิสาขามหาอุบาสิกา ผู้เป็นเอตทัคคะในบรรดาทายิกาทั้งปวงเป็นผู้สร้างถวาย โดยขายเครื่องประดับประจำตัวตั้งแต่แต่งงาน เรียกชื่อว่ามหาลดาปสาธน์ เป็นเครื่องอาภรณ์งามวิจิตประกอบด้วยรัตนะ 7 ประการมีค่ามากถึง 90 ล้านกหาปนะ และได้รับยกย่องว่าเป็นของสำหรับผู้มีบุญในสมัยพุทธกาลมีเพียง 3 คน คือ นางวิสาขา พระนางมัลลิกา และลูกเศรษฐี ณ พาราณาสี นางวิสาขานำมาสร้างวัดถวายพระพุทธเจ้าและพระภิกษุสงฆ์ คือ มิคารมาตุปราสาท วัดบุพพาราม ณ พระนครสาวัตถี โดยมีพระมหาโมคคัลลานะ อัครสาวกเบื้องซ้ายเป็นนวกัมมาธฏฐายี พระพุทธองค์เสด็จมาจำพรรษาที่วัดบุพพารามเป็นเวลา 6 พรรษ.

ใหม่!!: เครื่องประดับและวัดบุพพาราม · ดูเพิ่มเติม »

วาฬมีฟัน

ฟันของวาฬสเปิร์ม ซึ่งเป็นวาฬมีฟันที่มีขนาดใหญ่ที่สุด วาฬมีฟัน (Toothed whales) เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมกลุ่มหนึ่งที่อาศัยอยู่ในน้ำทั้งทะเล, น้ำกร่อย และน้ำจืดบ้างบางส่วน เป็นอันดับย่อยของอันดับวาฬและโลมา (Cetacea) ใช้ชื่ออันดับย่อยว่า Odonceti (/โอ-ดอน-โต-เซ-เตส/) วาฬมีฟันนั้นประกอบไปด้วยวาฬและโลมา เป็นสัตว์กินเนื้อ ด้วยการไล่ล่าสัตว์น้ำต่าง ๆ เป็นอาหาร เช่น ปลา รวมถึงสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมในทะเลบางจำพวก เช่น สิงโตทะเล หรือแมวน้ำ ได้ในบางชนิด ขณะที่บางชนิดกินสัตว์มีเปลือกแข็งอย่าง หอย หรือครัสเตเชียน ได้ด้วย มีขนาดลำตัวเล็กกว่าวาฬไม่มีฟันมาก วาฬมีฟัน บางชนิดมีฟันเพียง 2-3 ซี่ แต่ส่วนมากจะมีฟันแข็งแรงเรียงเป็นแถวทั้งขากรรไกรบนและล่าง โดยวาฬมีฟันที่มีขนาดใหญ่ที่สุด คือ วาฬสเปิร์ม ที่มีความยาวได้ถึง 60 ฟุต มีรูปร่างคล้ายลูกอ๊อดขนาดใหญ่ มีหัวเป็นสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่มากที่ภายในมีไขมันและน้ำมันอยู่เป็นจำนวนมาก วาฬสเปิร์มสามารถดำน้ำได้ลึกและกินหมึกเป็นอาหาร โดยเฉพาะอย่างหมึกยักษ์ ขณะที่วาฬมีฟันที่มีขนาดเล็กที่สุด คือ โลมาลาพลาตา อาศัยอยู่ตามแถบชายฝั่ง, ปากแม่น้ำ ของทวีปอเมริกาใต้ฝั่งแอตแลนติก ที่มีความยาวเต็มที่ไม่ถึง 2 เมตร นับเป็นสัตว์ในอันดับนี้ที่มีขนาดเล็กที่สุดในโลกด้วย วาฬเพชฌฆาต หรือวาฬออร์กา นับเป็นวาฬมีฟันที่มีลำตัวยาวประมาณ 30 ฟุต เป็นวาฬที่มีศักยภาพในการไล่ล่าสูง โดยจะทำการล่าเป็นฝูงและสามัคคีกัน ซึ่งวาฬเพชฌฆาตนอกจากจะล่าปลาขนาดเล็กกินเป็นอาหารด้วยแล้ว ยังอาจจะกินปลาขนาดใหญ่และเป็นอันตรายอย่าง ปลาฉลามขาว รวมถึงสัตว์เลือดอุ่นทะเล เช่น นกทะเล, นกเพนกวิน, แมวน้ำ, สิงโตทะเล หรือแม้แต่วาฬหรือโลมาด้วยกันเป็นอาหารได้ด้วยวาฬและโลมา หน้า 37-42, "สัตว์สวยป่างาม" (ชมรมนิเวศวิทยา มหาวิทยาลัยมหิดล, สิงหาคม 2518) วาฬีมีฟันชนิดหนึ่ง คือ นาร์วาล เป็นวาฬที่อาศัยอยู่เป็นฝูงเฉพาะมหาสมุทรอาร์กติกในแถบขั้วโลกเหนือ มีลักษณะเฉพาะ คือ มีฟันที่แปลก วาฬนาร์วาลจะมีฟัน 2 ซี่เมื่อแรกเกิด แต่นาร์วาลตัวผู้เมื่อเจริญเติบโตขึ้นฟันข้างซ้ายจะยาวไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งกลายเป็นสิ่งที่แหลมยาวเหมือนงาช้างหรือเขาสัตว์ ลักษณะม้วนเป็นเกลียวที่ยาวได้ถึง 3 เมตร (10 ฟุต) เหมือนยูนิคอร์น ในเทพปกรณัมกรีก ซึ่งนาร์วาลจะใช้เขาแหลมนี้ในการเจาะเซาะน้ำแข็งในการว่ายน้ำ รวมถึงใช้ต่อสู้ป้องกันตัวและแย่งชิงตัวเมียด้วย ซึ่งตัวเมียจะมีเขานี้เพียงสั้น ๆ รวมถึงใช้ขุดหาอาหารตามพื้นน้ำเป็นอาหาร ส่วนใหญ่ได้แก่ ปลาลิ้นหมา และครัสเตเชียน และหอยต่าง ๆ มนุษย์จะใช้ประโยชน์จากวาฬมีฟันด้วยการใช้ฟันและเขี้ยวแกะสลักมาแต่โบราณ นับเป็นของหายาก ล้ำค่า ขณะที่เขาของนาร์วาล ในอดีตมีความเชื่อว่าเป็นเขาของยูนิคอร์นจริง ๆ ถือเป็นของล้ำค่าและเป็นเครื่องประดับที่มีร.

ใหม่!!: เครื่องประดับและวาฬมีฟัน · ดูเพิ่มเติม »

วาฬสเปิร์ม

วาฬสเปิร์ม หรือ วาฬหัวทุย (Sperm whale) เป็นวาฬขนาดใหญ่ชนิดหนึ่ง จัดเป็นวาฬมีฟัน (Odontoceti) ชนิดที่ใหญ่ที่สุด วาฬสเปิร์มมีลักษณะเด่น คือ มีส่วนหัวใหญ่และยาวมากเกือบร้อยละ 40 ของลำตัว ลำตัวสีเทาดำผิวหนังเป็นรอยย่นตลอดลำตัว ส่วนหน้าผากตั้งฉากตรงขึ้นจากปลายปากบน และเป็นแนวหักลาดไปทางส่วนหลัง ท่อหายใจรูเดียว อยู่ส่วนบนเยื้องไปด้านซ้ายของหัวครีบหลัง มีลักษณะเป็นสันนูนขึ้นมาตั้งอยู่ค่อนไปทางท้ายลำตัว และมีสันเป็นลอน ๆ ไปจนเกือบถึงโคนหาง ครีบข้างค่อนข้างเล็กปลายมนเหมือนใบพาย ไม่มีครีบหลัง ขากรรไกรล่างแคบยาวและเล็กมากเมื่อเทียบกับส่วนหัว ฟันเป็นเขี้ยวจำนวน 16-30 คู่ บนขากรรไกรล่าง ขากรรไกรบนไม่มีฟัน แต่จะมีช่องสำหรับรองรับฟันล่างเวลาหุบปากเท่านั้น อย่างไรก็ตามอาจพบฟัน 10-16 คู่ ในกระดูกขากรรไกรบนของวาฬที่มีอายุมาก ๆ นอกจากนี้แล้วบริเวณรอบ ๆ ปากจะเป็นสีขาว ซึ่งเชื่อกันว่าในที่ ๆ น้ำลึกสีขาวนี้จะเรืองแสงในความมืด ใช้เป็นเครื่องล่อเหยื่อต่าง ๆ ของวาฬสเปิร์ม มีขนาดโตเต็มที่ยาวประมาณ 15-20 เมตร ลูกแรกเกิดยาว 3.5-4.5 เมตร แม่วาฬใช้เวลาตั้งท้องนาน 16-17 เดือน ลูกจะอาศัยอยู่กับแม่เป็นเวลาประมาณ 13 เดือนจึงแยกออกหากินอิสระ ขนาดโตเต็มที่ยาว 12-18 เมตร น้ำหนักมากถึง 28 ตัน วาฬสเปิร์ม เป็นวาฬที่อาศัยอยู่รวมกันเป็นฝูง และเป็นวาฬชนิดที่ดำน้ำได้ลึกที่สุด มีรายงานว่าสามารถดำน้ำได้ลึกถึง 1,000 เมตร โดยใช้เวลาประมาณ 40 นาที มีรายงานจากการติดตามวาฬที่ติดเครื่องหมายด้วยระบบโซน่า พบว่าสามารถดำน้ำได้ลึกถึง 2,800-3,000 เมตร โดยใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมง จากการสูดหายใจเพียงครั้งเดียวที่ผิวน้ำที่มีแรงกดดันเท่ากับที่มนุษย์หายใจ ซึ่งในระดับความลึกกว่า 1,000 เมตร แรงกดของอากาศมากกว่าที่ผิวน้ำ 100 เท่า บีบอัดปอดของวาฬให้เหลือเพียงร้อยละ 1 ของปริมาตรทั้งหมด แต่ขณะที่ยังเป็นวาฬวัยอ่อนอยู่ จะยังไม่สามารถดำน้ำลึกได้เหมือนตัวที่โตเต็มวัย นอกจากนี้แล้ววาฬสเปิร์มยังเป็นวาฬชนิดที่ชอบกินหมึกเป็นอาหารมากที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งหมึกมหึมา (Mesonychoteuthis hamiltoni) ซึ่งเป็นหมึกชนิดที่ใหญ่ที่สุดในโลก ที่มีความยาวได้ถึง 14 เมตร ในระดับความลึกระดับ 1,000 เมตร หรือหมึกกล้วยยักษ์ (Architeuthis dux) ที่มีขนาดรองลงมา โดยอาจยาวได้ถึง 12 เมตร โดยมีการพบซากจะงอยปากของหมึกในกระเพาะของวาฬสเปิร์ม ซึ่งวาฬบางตัวจะมีผิวหนังที่เป็นรอยแผลจากปุ่มดูดของหนวดหมึกปรากฏอยู่ รอยแผลเป็นบนผิวหนังวาฬสเปิร์มจากปุ่มดูดของหมึกมหึมา วาฬสเปิร์ม เป็นวาฬที่พบได้ในทะเลและมหาสมุทรทั่วโลก ในน่านน้ำไทยพบรายงานเพียง 3 จังหวัด คือ พังงา, ภูเก็ต และสตูล และถูกจัดเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองตามกฎหมาย วาฬสเปิร์ม นับเป็นวาฬอีกชนิดหนึ่งที่ถูกล่าจากมนุษย์มาตั้งแต่สมัยโบราณ ด้วยการนำเขี้ยวและฟันมาเป็นทำเครื่องประดับ ไขมันในอุตสาหกรรมต่าง ๆ เนื้อสำหรับรับประทาน นอกจากนี้แล้วอาเจียนหรือมูลของวาฬสเปิร์มยังมีลักษณะแข็งเหมือนอำพัน และมีกลิ่นหอมเป็นลักษณะพิเศษ เป็นของหายาก ราคาแพง ใช้เป็นส่วนสำคัญในการผลิตหัวน้ำหอมและยาไทยได้ด้วย เรียกว่า "อำพันขี้ปลา" หรือ "อำพันทะเล" หรือ "ขี้ปลาวาฬ" และที่ส่วนหัวยังมีสารพิเศษคล้ายไขมันหรือขี้ผึ้ง เรียกว่า "ไขปลาวาฬ" ซึ่งใช้ในการผลิตโลชั่น และเวชภัณฑ์ชนิดต่าง ๆ อันเป็นที่มาของชื่อสามัญ ซึ่งวาฬสเปิร์มได้ถูกอ้างอิงถึงในวรรณกรรมที่มีชื่อเสียงระดับโลก คือ "โมบิดิก" ของเฮอร์มัน เมลวิลล์ ในปี ค.ศ. 1855 ที่เป็นเรื่องราวของการล่าวาฬสเปิร์มเผือกตัวหนึ่งที่มีนิสัยดุร้าย ชื่อ โมบิดิก หรือในวรรณกรรมเยาวชนเรื่อง "พินอคคิโอ" ที่ตอนท้ายเรื่องพินอคคิโอผจญภัยเข้าไปอยู่ในท้องของวาฬ ซึ่งก็คือ วาฬสเปิร์ม เป็นต้น ในปัจจุบัน มีผลการศึกษาทางวิทยาศาสตร์พบว่า วาฬสเปิร์มรวมถึงวาฬชนิดอื่น ๆ มีขนาดลำตัวที่เล็กลงจากอดีต บ่งบอกว่าเป็นสัตว์ที่อยู่ในสถานะใกล้สูญพันธุ์ โดยเฉพาะวาฬสเปิร์มนั้นในปี..

ใหม่!!: เครื่องประดับและวาฬสเปิร์ม · ดูเพิ่มเติม »

วงศ์ย่อยหอยมือเสือ

วงศ์ย่อยหอยมือเสือ (Giant clam; วงศ์ย่อย: Tridacninae) เป็นวงศ์ย่อยของหอยสองฝา ในวงศ์ใหญ่ Cardiidae ใช้ชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Tridacninae เป็นหอยสองฝาที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก แบ่งออกได้เป็น 2 สกุล 9 ชนิด ได้แก.

ใหม่!!: เครื่องประดับและวงศ์ย่อยหอยมือเสือ · ดูเพิ่มเติม »

วงศ์ปลาปักเป้าฟันสองซี่

วงศ์ปลาปักเป้าฟันสองซี่ (Porcupinefish, Blowfish, Globefish, Balloonfish, Burrfish, วงศ์: Diodontidae) เป็นวงศ์ของปลากระดูกแข็งในอันดับปลาปักเป้า (Tetraodontiformes) วงศ์หนึ่ง ใช้ชื่อวงศ์ว่า Diodontidae ซึ่งมีความหมายว่า "ฟันสองซี่" มีรูปร่างคล้ายกับปลาปักเป้าในวงศ์ Tetraodontidae แต่ว่าปลาปักเป้าในวงศ์ปลาปักเป้าฟันสองซี่นี้ มีฟันแหลมคมที่ใช้สำหรับกัดกินสัตว์มีเปลือกรวมถึงปะการังชนิดต่าง ๆ สองซี่ใหญ่ ๆ ในปาก เชื่อมติดต่อกันบนขากรรไกร โดยที่ไม่มีร่องผ่าตรงกลาง มีเส้นข้างลำตัวไม่สมบูรณ์ ครีบอกมีขนาดใหญ่คล้ายพัด ครีบหลัง และครีบก้นอยู่ค่อนไปทางด้านท้ายของลำตัว ครีบหลังไม่มีก้านครีบแข็ง ไม่มีครีบท้อง ครีบหางกลมมน มีรูปร่างอ้วน กลม แบนข้างเล็กน้อย สามารถขยายร่างกายให้กลมเหมือนลูกบอลได้ ด้วยการสูดอากาศหรือน้ำเข้าไปในช่องท้อง และผิวหนังจะมีหนามแหลมคมทั่วทั้งตัว ซึ่งจะตั้งตรงทั้งตัวเพื่อป้องกันตัวเองจากศัตรูด้วย พบกระจายพันธุ์โดยทั่วไปในทะเลทั้งเขตร้อน, เขตอบอุ่น และเขตหนาว โดยเป็นปลาน้ำเค็มทั้งหมด จัดเป็นปลาที่มีขนาดกลางจนถึงขนาดใหญ่ โดยสามารถยาวได้ถึง 2 ฟุต เป็นปลาที่มีสารเตโตรโดท็อกซิน อย่างร้ายแรง จึงไม่ใช้ในการบริโภค แต่นิยมเลี้ยงเป็นปลาสวยงาม ทั้งในตู้ปลาส่วนบุคคลหรือในพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ และนิยมทำเป็นเครื่องประดับ โดยเฉพาะการสตัฟฟ์เวลาที่พองตัวออก.

ใหม่!!: เครื่องประดับและวงศ์ปลาปักเป้าฟันสองซี่ · ดูเพิ่มเติม »

สร้อยคอ

ร้อยคอ คือวัตถุเครื่องประดับที่ใช้สวมใส่รอบลำคอ มักจะเป็นผลิตมาจากโลหะ และมักจะติดอยู่กับจี้หรือวัตถุห้อยระย้า สร้อยคออาจผลิตจากผ้า หรือในอาจผลิตได้จากหิน (โดยเฉพาะหินอัญมณี) เศษไม้ และ/หรือเปลือกหอยรูปแบบและขนาดต่าง.

ใหม่!!: เครื่องประดับและสร้อยคอ · ดูเพิ่มเติม »

สังข์รดน้ำ

ังข์รดน้ำ (Valambari shank, Great indian chank) เป็นหอยทะเลฝาเดี่ยวชนิดหนึ่ง ในวงศ์หอยสังข์มงคล (Turbinellidae) จัดเป็นหอยขนาดใหญ่ มีเปลือกหนา รูปเปลือกค่อนข้างป้อม วงเกลียวตัวกลม ส่วนปลายมีร่องยาวปานกลาง ส่วนยอดเตี้ย ช่องเปลือกรูปรี ขอบด้านในมีสัน 3-4 อัน ผิวชั้นนอกสุดสีน้ำตาล เป็นชั้นที่บางและหลุดล่อนง่าย และมักจะหลุดออกเมื่อหอยตาย เปลือกชั้นรองลงไปเป็นส่วนที่มีความหนาและแข็ง ค่อนข้างเรียบ มีสีขาวนวลหรือสีขาวอมชมพู พบกระจายพันธุ์อยู่เฉพาะมหาสมุทรอินเดียทางตอนใต้ของประเทศอินเดียและประเทศศรีลังกาเท่านั้น อาศัยอยู่ตามพื้นน้ำที่เป็นพื้นทราย กินหนอนตัวแบนและแพลงก์ตอนเป็นอาหาร สังข์รดน้ำ โดยปกติแล้วจะมีเปลือกเวียนทางซ้าย (อุตราวรรต) ตามเข็มนาฬิกา แต่มีบางตัวที่เวียนไปทางด้านขวา (ทักษิณาวรรต) ซึ่งพบได้น้อยมาก ซึ่งหอยลักษณะนี้ตามคติของศาสนาฮินดูจะถือเป็นมงคล (ตามคติของพราหมณ์-ฮินดู ขว.

ใหม่!!: เครื่องประดับและสังข์รดน้ำ · ดูเพิ่มเติม »

สำเพ็ง

ตลาดสำเพ็งในปัจจุบัน แผนที่ของเขตสัมพันธวงศ์ (สำเพ็งปรากฏอยู่ในชื่อ Wanit 1 Road หรือ Sampheng Road ซึ่งเริ่มมาจากย่านตลาดน้อย ในขณะที่ส่วนที่เป็นย่านการค้าที่คึกคัก จะเริ่มต้นจากบริเวณถนนราชวงศ์ไปจนสิ้นสุดที่ฝั่งถนนจักรเพชร ในเขตพระนคร) สำเพ็ง หรือ สามเพ็ง (อักษรโรมัน: Sampheng) เป็นย่านการค้าแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานคร ตั้งอยู่ในแขวงจักรวรรดิ เขตสัมพันธวงศ์ อยู่ใกล้กับย่านเยาวราช, ถนนราชวงศ์ และต่อเนื่องไปถึงสะพานหัน, พาหุรัดและวังบูรพา ในพื้นที่แขวงวังบูรพาภิรมย์ เขตพระนคร ทั้งนี้สำเพ็งในปัจจุบัน รู้จักกันดีในชื่ออย่างเป็นทางการว่า ซอยวานิช 1 และในช่วงระหว่างสะพานหันถึงถนนจักรวรรดิเรียกว่า ตรอกหัวเม็ด สำเพ็งเริ่มต้นจากที่พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช องค์ปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์จักรี ผู้ทรงสถาปนาสร้างกรุงรัตนโกสินทร์ขึ้นที่ฝั่งขวาของแม่น้ำเจ้าพระยา ให้เป็นราชธานีแห่งใหม่แทนที่กรุงธนบุรี ในปี.ศ 2325 โดยมีพระบรมมหาราชวังตั้งขึ้นในพื้นที่ ๆ แต่เดิมเป็นที่ตั้งของชุมชนชาวจีน และโปรดให้ย้ายชุมชนชาวจีนออกไปตั้งถิ่นฐานใหม่นอกประตูพระนครทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ ขนานไปกับลำน้ำเจ้าพระยา ตั้งแต่คลองวัดสามปลื้ม (วัดจักรวรรดิราชาวาส) ไปจนถึงคลองสามเพ็ง หรือสำเพ็ง ที่มาของชื่อ "สำเพ็ง" นั้นไม่มีใครทราบว่ามีความหมายว่ากระไร หรือมาจากคำว่าอะไร ได้มีผู้สันนิษฐานไปต่าง ๆ นานา บ้างก็ว่ามาจากคำว่า "สามแพร่ง" หรือมาคำจีนแต้จิ๋วว่า "สามเผง" (อักษรจีน: 三聘; จีนกลางออกเสียง ซั้นผิ่ง) แปลตรงตัวได้ว่า "ศานติทั้งสาม" ซึ่งก็ไม่มีใครทราบความหมายหรือคำแปลที่แท้จริง หรือบ้างก็ว่ามาจากคำว่า "สามปลื้ม" ก็มี ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว กิจการค้าของชาวจีนที่ได้ตั้งถิ่นฐานอยู่ในย่านสำเพ็งเติบโตขึ้นเป็นลำดับ ชาวตะวันตกที่เข้ามาติดต่อการค้ากับสยามประเทศ เรียกขานย่านสำเพ็งว่า "ตลาดจีน" หรือ "Chinese Bazaar" ในบันทึกของมิชชันนารีที่ได้เข้ามาเยี่ยมดูย่านสำเพ็งในปี..

ใหม่!!: เครื่องประดับและสำเพ็ง · ดูเพิ่มเติม »

สิ่งประดิษฐ์

งประดิษฐ์ (invention) หรือ นวัตกรรมที่มนุษย์สร้างขึ้น ไม่ว่าจะกระด้วยความฉลาดหรือบังเอิญ แล้วผู้ที่ประดิษฐ์สิ่งของ เรามักจะเรียกว่านักประดิษฐ์ (inventor) สิ่งประดิษฐ์คือสิ่งของต่างๆที่เกิดจากความต้องการของมนุษย์เพื่อใช้ในการแสวงหาประโยชน์ หรือ อำนวยความสะดวกสบายต่าง.

ใหม่!!: เครื่องประดับและสิ่งประดิษฐ์ · ดูเพิ่มเติม »

สถาบันทักษิณคดีศึกษา มหาวิทยาลัยทักษิณ

ันทักษิณคดีศึกษา มหาวิทยาลัยทักษิณ หมู่ที่ 1 ตำบลเกาะยอ อำเภอเมืองสงขลา จังหวัดสงขล.

ใหม่!!: เครื่องประดับและสถาบันทักษิณคดีศึกษา มหาวิทยาลัยทักษิณ · ดูเพิ่มเติม »

หอยสังข์มะระ

หอยสังข์มะระ (Murex shell, Ramose murex, Branched murex) เป็นหอยฝาเดียวจำพวกหอยสังข์ จัดอยู่ในวงศ์หอยหนาม เป็นหอยฝาเดียวขนาดกลางที่มีเปลือกหนา ด้านปากมีหนามยื่นยาวออกไปและมีร่องลึก บนเปลือกมีหนามจำนวน 3 แถว เรียงตัวตามความยาว หนามแต่ละอันพับเป็นราง ปลายไม่แหลมและไม่แผ่แบน โดยแถวที่อยู่ขอบด้านนอกมีแง่ยื่นออกไปทางด้านข้างมากกว่าแถวอื่น ช่องเปิดปากกว้าง ความยาวเปลือกประมาณ 25 เซนติเมตร พื้นผิวเปลือกสีขาว พบอาศัยอยู่ตามแนวปะการัง ใต้เขตน้ำขึ้น-น้ำลง พบกระจายพันธุ์อย่างกว้างขวางในเขตอินโด-แปซิฟิก และพบถึงยังแอฟริกาใต้, ทะเลแดง, อ่าวโอมาน, มอริเชียส, อ่าวไทย, โปลินีเซีย, ตอนใต้ของญี่ปุ่น, นิวแคลิโดเนีย และรัฐควีนส์แลนด์ ในออสเตรเลีย เป็นหอยที่นิยมนำเนื้อมารับประทาน และเปลือกใช้ในการทำเครื่องประดับเพื่อความสวยงาม.

ใหม่!!: เครื่องประดับและหอยสังข์มะระ · ดูเพิ่มเติม »

หอยงวงช้างมุก

หอยงวงช้างมุก (Chambered nautilus, Pearly nautilus) เป็นสัตว์น้ำไม่มีกระดูกสันหลังชนิดหนึ่ง อยู่ในไฟลัมมอลลัสคา ชั้นเซฟาโลโพดา จัดเป็นหอยงวงช้าง (Nautilidae) ชนิดหนึ่ง มีลักษณะของเปลือกค่อนข้างโตและมีพื้นสีขาว มีลายสีส้มอมแดง จากบริเวณปากไปจนถึงก้นเปลือกหอย โดยเป็นสัตว์ที่มีชีวิตอยู่มาตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์ โดยมีการพบซากฟอสซิลที่ทะเลเกาะลูซอน ในประเทศฟิลิปปินส์ มีขนาดประมาณ 10-25 เซนติเมตร พบได้ทั่วไปในน่านน้ำเขตอินโด-แปซิฟิก จนถึงฟิลิปปิน, ทะเลญี่ปุ่น, ทะเลซูลู จนถึงเกรตแบร์ริเออร์รีฟ แบ่งออกได้เป็น 2 ชนิดย่อย (ดูในตาราง) ในน่านน้ำไทยจัดว่าหาได้ยาก โดยจะพบได้น้อยที่ฝั่งทะเลอันดามัน เช่น เกาะอาดัง, หมู่เกาะสิมิลัน, เกาะหลีเป๊ะ โดยไม่พบในอ่าวไทย เป็นสัตว์ที่ว่ายและหากินในแถบกลางน้ำและพื้นดิน โดยสามารถดำน้ำได้ถึง 3 กิโลเมตร จับสัตว์น้ำขนาดเล็กกว่า เช่น ปลาหรือกุ้ง เป็นอาหาร รวมทั้งซากสัตว์ทั่วไป เป็นสัตว์ที่ใช้เนื้อรับประทานได้เช่นเดียวกับหมึกหรือหอยทั่วไป เปลือกใช้ประโยชน์ในการทำเครื่องประดับ รวมถึงการจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำทั่วไป ซึ่งหอยงวงช้างมุกจะไม่ค่อยเคลื่อนไหวมากนัก ทั้งนี้เนื่องจากในธรรมชาติอาศัยอยู่ในน้ำลึก แต่จะลอยตัวนิ่ง ๆ อยู่ข้างตู้มากกว่า อุณหภูมิที่ใช้เลี้ยงจะอยู่ที่ประมาณ 18-20 องศาเซลเซียส และเป็นสัตว์ที่ไม่กินอาหารมากนัก จนสามารถให้อาหารเพียงแค่สัปดาห์ละครั้งหรือ 2 ครั้งเท่านั้น โดยสามารถใช้ไม้เสียบล่อให้มากินหรือให้อาหารเองกับมือได้ นอกจากนี้แล้วในสถานที่เลี้ยงพบว่า หอยงวงช้างมุกสามารถวางไข่ได้ด้วย โดยจะวางไข่ติดกับก้อนหิน ไข่ใช้ระยะเวลาฟัก 8 เดือน หรือมากกว่าขึ้นอยู่กับอุณหภูมิของน้ำ ตัวอ่อนมีเส้นผ่าศูนย์กลางเพียง 3 เซนติเมตร แต่อย่างไรก็ตาม จวบจนปัจจุบันยังไม่สามารถเลี้ยงลูกหอยงวงช้างมุกจนกระทั่งโตเต็มวัยได้.

ใหม่!!: เครื่องประดับและหอยงวงช้างมุก · ดูเพิ่มเติม »

หอยปีกนางฟ้า

หอยปีกนางฟ้า (Lister's conch, Lister's spider conch) เป็นหอยฝาเดี่ยวชนิดหนึ่ง ในวงศ์หอยชักตีน (Strombidae) มีเปลือกแข็งมีวงก้นประมาณ 9-10 วง ปากยาว มีขอบเปลือกแผ่ยื่นกว้างออกมาจากลำตัวเป็นปีกดูสวยงาม และที่ตัวเปลือกเองจะมีลวดลายสวยงามด้วยเช่นกัน กินซากอินทรียสารที่เน่าเปื่อยเป็นอาหาร มีความยาวเต็มที่ประมาณ 10-13 เซนติเมตร จะพบได้ในเขตน้ำลึกของมหาสมุทรอินเดียเท่านั้น โดยมักพบบริเวณไหล่ทวีปอยู่ตามพื้นทะเลที่เป็นโคลน พบมากทางทะเลอันดามันและอ่าวเบงกอล เป็นหอยที่มีความสวยงามมากชนิดหนึ่ง จึงนิยมที่จะใช้ทำเครื่องประดับ และเก็บสะสม.

ใหม่!!: เครื่องประดับและหอยปีกนางฟ้า · ดูเพิ่มเติม »

หุ่นกระบอกไทย

หุ่นกระบอกไทย ที่ใช้แสดงกันในปัจจุบัน สันนิษฐานว่า สร้างขึ้นโดยอาศัยกรรมลิขิตการสร้างหุ่นกระบอกตามแบบหุ่น ซึ่ง หม่อมราชวงศ์เถาะได้คิดประดิษฐ์ดัดแปลงขึ้น กล่าวคือ ตัวหุ่นกระบอกประกอบขึ้นด้วยส่วนสำคัญ 4 ส่วน ได้แก่ ศีรษะหุ่น ลำตัว มือ เครื่องแต่งกายและเครื่องประดับ หุ่นกระบอก ส่วนที่เลียนแบบอวัยวะของคนจริงๆ คือศีรษะและมือทั้ง 2 ข้าง เท่านั้น ส่วนลำตัวหุ่น เป็นกระบอกไม้ไผ่ทั้งปล้องสอดเข้าไปตรงลำคอ ศีรษะและลำตัวถอดออกจากกันได้ เมื่อไม่ใช้แสดงแล้วก็จะถอดออกและเก็บไว้แยกกัน โดยถอดส่วนศีรษะเก็บตั้งไว้บนฐานที่ประดิษฐ์ขึ้นเพื่อตั้งศีรษะหุ่นกระบอก ลำตัวที่เป็นกระบอกไม่ไผ่เมื่อถอดออกแล้วจะนำแยกเก็บต่างหากจากตัวเสื้อที่มีลักษณะคล้ายถุงตัวเสื้อซึ่งมีมือติดอยู่ทั้ง 2 ข้าง พับเก็บใส่หีบ ศีรษะของหุ่นกระบอกส่วนมากจะทำด้วยไม้เนื้อเบาทั้งแท่ง เช่น ไม้ทองหลาง ไม้โมก ไม้สักทอง ไม้ที่นำมาใช้ควรเป็นไม้เนื้อดีไม่มีตรา แท่งไม้ควรมีขนาดกว้างประมาณ 12 เซนติเมตร และความยาวประมาณ 20 เซนติเมตร เมื่อได้ไม้แล้วช่างก็จะนำมาแกะให้เป็นรูปศีรษะ รูปหน้า และ ลำคอ ส่วนของรูปหน้าและศีรษะยาวประมาณ 10 - 12 เซนติเมตร ส่วนของลำคอยาวประมาณ 8 เซนติเมตร คว้านให้เป็นรูปกว้างพอที่กระบอกไม้ไผ่รวกจะสอดเข้าไปได้โดยสะดวก เหตุที่ต้องทำลำคอใหญ่ยาว เพราะจะใช้เป็นส่วนต่อกับกระบอกไม้ไผ่ที่เป็นส่วนลำตัวหุ่น เมื่อสวมเสื้อคลุมทับอีกชั้นหนุ่งก็จะได้รูปลำคอพอดี ขั้นต่อไป คือ ปั้นแต่งด้วยรักสมุกหรือดินให้เป็นจมูก ปาก คิ้ว หู ประเพณีนิยมเกี่ยวกับความเชื่อในการประดิษฐ์ศีรษะหุ่นกระบอกอย่างหนึ่ง คือ ต้องมีพิธีไหว้ครู พีธีเบิกเนตรหุ่น คล้ายกับการประดิษฐ์หัวโขนถือกันว่าเป็นสิ่งต้องกระทำ ฉะนั้น การเขียนดวงตาของหุ่นกระบอกจึงจะทำเป็นขั้นตอนสุดท้าย และต้องทำในพิธีด้วยลำตัวของหุ่นกระบอก ซึ่งก็คือ กระบอกไม้ไผ่รวก ยาวประมาณ 30 - 40 เซนติเมตร กระบอกไม้ไผ่ที่จะทำเป็นลำตัวหรือแกนให้คนเชิดจับถือ ควรมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 3 - 4 เซนติเมตร อวัยวะส่วนที่เป็นมือ มักแกะด้วยไม้ มีขนาดประมาณ 4 - 5 เซติเมตร ให้พอดีกับขนาดของตัวหุ่นหรือทำด้วยหนังตัดเป็นรูปมือมีนิ้ว และดัดให้อ่อนอย่างมือละคร โดยมือขวาของหุ่นตัวพระจะกำอาวุธไว้เสมอ จึงเจาะรูตรงกลางไว้สำหรับเสียบอาวุธซึ่งจะเปลี่ยนไปได้ตามเนื้อเรื่อง ถ้าในบทไม่กำหนดให้ถืออะไรก็ปล่อยไว้ให้กำมือเฉยๆเช่นนั้น มือซ้ายเป็นรูปมือแบตั้งวงรำ ถ้าเป็นมือตัวนางโดยมากจะตั้งวงรำทั้ง 2 ข้าง มือทั้ง 2 ข้าง จะตอกติดกับเรียวไม้ไผ่เล็กๆ 2 อัน ขนาดความยาวของเรียวไม้ไผ่เท่ากับปล้องไม้ไผ่ที่ทำเป็นลำตัวสำหรับจับเชิด ชาวหุ่นกระบอกเรียกเรียวไม้ไผ่ทั้ง 2 ข้าง ของหุ่นกระบอกคู่นี้ว่า ตะเกี.

ใหม่!!: เครื่องประดับและหุ่นกระบอกไทย · ดูเพิ่มเติม »

อะพาไทต์

อะพาไทต์ (Apatite) (Ca5 (PO4) 3 (F,Cl,OH)) เป็นแร่ที่อยู่ในกลุ่มฟอสเฟต มีค่าความแข็งที่ 5 ตามสเกลของโมส์ (Moh's scale).

ใหม่!!: เครื่องประดับและอะพาไทต์ · ดูเพิ่มเติม »

อัลโฟนส์ มูคา

อัลโฟนส์ มารียา มูคา (Alfons Maria Mucha) เป็นศิลปินแนวนวศิลป์ (Art Nouveau) ที่มีผลงานออกแบบอย่างหลากหลาย ทั้งภาพโปสเตอร์ ปฏิทิน ภาพประกอบหนังสือ งานพิมพ์ ภาพพิมพ์หิน งานโลหะ งานหนัง การออกแบบเครื่องประดับ และการออกแบบของตกแต่งบ้าน อีกทั้งยังมีผลงานวาดภาพเกี่ยวกับประวัติศาสตร์อีกด้วย นับว่าเป็นศิลปินมากความสามารถ และมีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่โดดเด่นคนหนึ่ง.

ใหม่!!: เครื่องประดับและอัลโฟนส์ มูคา · ดูเพิ่มเติม »

อันดับด้วง

้วง หรือ แมลงปีกแข็ง (Beetle) จัดเป็นแมลงในอันดับ Coleoptera ซึ่งสามารถแบ่งออกได้เป็นอันดับย่อยอีก 4 อันดับ (ดูในตาราง) จัดเป็นแมลงที่มีวงจรชีวิตสมบูรณ์ คือ เป็น ไข่, หนอน, ดักแด้ และตัวเต็มวัย ด้วง หรือ แมลงปีกแข็งนั้น นับเป็นแมลงที่มีจำนวนมากที่สุดในโลก กล่าวคือ มีประมาณร้อยละ 40 ของแมลงที่มีอยู่ทั้งหมด (ประมาณ 400,000 ชนิด) มีลักษณะเด่นโดยรวม คือ ในวัยเต็มตัวจะมีปีก 2 คู่ โดยปีกคู่หน้าเป็นปีกที่มีความแข็งเท่ากันหรือเกือบเท่ากันตลอดทั้งแผ่น เรียกว่า Elytra ซึ่งมาจากภาษากรีก (ἔλυτρον) ซึ่งหมายถึง แผ่น หรือ ปีก ส่วนปีกคู่หลังเป็นแผ่นปีกใหญ่ค่อนข้างโปร่งแสง เมื่อเวลาเกาะอยู่ปีกคู่หลังจะพับซ้อนกันอย่างมีระเบียบและซ่อนอยู่ภายใต้ปีกคู่หน้าอย่างมิดชิด และเมื่อต้องการบิน ปีกคู่หลังนี้จะกางออก โดยการเปิดกางออกของปีกคู่หน้าขึ้นก่อนที่จะเหยียดกางปีกคู่หลังนี้ออกมาบินอย่างรวดเร็ว เมื่อเวลาที่จะเกาะหรือคลาน จะหุบปีกโดยปีกคู่หน้าจะประกบกันสนิทเป็นเส้นตรงอยู่ตรงกลางลำตัว ปีกคู่หน้าจึงทำหน้าที่เสมือนเกราะป้องกันตัวและปีกคู่หลัง ในขณะที่บินปีกคู่หน้านี้จะไม่ช่วยในการบินแต่จะช่วยในการทรงตัว อย่างไรก็ตาม จะมีด้วงบางชนิดที่ปีกคู่หน้าเชื่อมติดกัน จึงไม่สามารถบินได้ และบางชนิดก็มีปีกคู่หน้าเล็กหรือสั้นกว่าลำตัวมากจนไม่สามารถปิดส่วนท้องได้สนิท.

ใหม่!!: เครื่องประดับและอันดับด้วง · ดูเพิ่มเติม »

อารยธรรมลุ่มแม่น้ำสินธุ

อาณาเขตอารยธรรมลุ่มแม่น้ำสินธุ อารยธรรมลุ่มแม่น้ำสินธุ เป็นอารยธรรมในยุคสำริด (ประมาณ 2500 - 1900 ก่อนคริสตกาล) ถือกำเนิดขึ้นบริเวณลุ่มแม่น้ำสินธุในประเทศอินเดียและปากีสถานในปัจจุบัน ถือเป็นอารยธรรมยุคแรกๆของโลก ซึ่งนักโบราณคดีเรียกว่ายุคฮารัปปัน วัฒนธรรมเก่าสุดเริ่มจาก.

ใหม่!!: เครื่องประดับและอารยธรรมลุ่มแม่น้ำสินธุ · ดูเพิ่มเติม »

อำพัน

อำพันตกแต่งเป็นเหรียญประดับรูปไข่ขนาด 2x1.3 นิ้ว อำพัน เป็นซากดึกดำบรรพ์ของยางไม้ เป็นสิ่งมีค่าด้วยสีสันและความสวยงามของมัน อำพันที่มีคุณภาพดีเยี่ยมจะถูกนำมาผลิตเป็นเครื่องประดับและอัญมณี แม้ว่าอำพันจะไม่จัดเป็นแร่แต่ก็ถูกจัดให้เป็นพลอย โดยทั่วไปแล้วจะเข้าใจผิดกันว่าอำพันเกิดจากน้ำเลี้ยงของต้นไม้ แต่แท้ที่จริงแล้ว น้ำเลี้ยงเป็นของเหลวที่ไหลเวียนอยู่ในระบบท่อลำเลียงของพืช ขณะที่ยางไม้เป็นอินทรียวัตถุเนื้ออสัณฐานกึ่งแข็งที่ถูกขับออกมาผ่านเซลล์เอพิทีเลียมของพืช เพราะว่าอำพันเคยเป็นยางไม้ที่เหนียวนิ่มเราจึงพบว่าอาจมีแมลงหรือแม้แต่สัตว์มีกระดูกสันหลังขนาดเล็กอยู่ในเนื้อของมันได้ ยางไม้ที่มีสภาพเป็นกึ่งซากดึกดำบรรพ์รู้จักกันในนามของโคปอล สีของอำพันมีได้หลากหลายสีสัน ปรกติแล้วจะมีสีน้ำตาล เหลือง หรือส้ม เนื้อของอำพันเองอาจมีสีได้ตั้งแต่ขาวไปจนถึงเป็นสีเหลืองมะนาวอ่อนๆ หรืออาจเป็นสีน้ำตาลจนถึงเกือบสีดำ สีที่พบน้อยได้แก่สีแดงที่บางทีก็เรียกว่าอำพันเชอรี่ อำพันสีเขียวและสีฟ้าหายากที่มีการขุดค้นหากันมาก อำพันที่มีค่าสูงมากๆจะมีเนื้อโปร่งใส ในทางตรงกันข้ามอำพันที่พบกันมากทั่วไปจะมีสีขุ่นหรือมีเนื้อทึบแสง อำพันเนื้อทึบแสงมักมีฟองอากาศเล็กๆเป็นจำนวนมากที่รู้จักกันในนามของอำพันบาสตาร์ดหมายถึงอำพันปลอม ซึ่งแท้ที่จริงแล้วก็เป็นอำพันของแท้ๆนั่นเอง.

ใหม่!!: เครื่องประดับและอำพัน · ดูเพิ่มเติม »

ถนนเยาวราช

รรยายกาศของเยาวราชยามค่ำคืนและร้านอาหารริมทาง ถนนเยาวราช (Thanon Yaowarat; 耀華力路) เป็นถนนสายหนึ่งในกรุงเทพมหานคร ระยะทางความยาวตลอดเส้นทางประมาณ 1.5 กิโลเมตร ได้รับการกล่าวขานและขนานนามว่าเป็น "ถนนมังกร" โดยมีจุดเริ่มต้นของหัวมังกรที่ซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษาบริเวณวงเวียนโอเดียน ท้องมังกรอยู่ที่บริเวณตลาดเก่าเยาวราชและสิ้นสุดปลายหางมังกรที่บริเวณปลายสุดของถนน สร้างขึ้นในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ใช้ระยะเวลาในการตัดถนน 8 ปี ตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2434 - พ.ศ. 2443 เพื่อให้เยาวราชกลายเป็นสถานที่สำหรับส่งเสริมการค้าขาย เดิมทีชื่อ "ถนนยุพราช" และได้โปรดเกล้าพระราชทานนามใหม่ว่า "ถนนเยาวราช" ถนนเยาวราชประกอบไปด้วยจุดสำคัญหลายจุดเช่น วงเวียนโอเดียน, ถนนเจริญกรุง ซึ่งอยู่ในท้องที่แขวงสัมพันธวงศ์ เขตสัมพันธวงศ์ ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของถนนเยาวราชตัดกับถนนทรงสวัสดิ์ (สี่แยกเฉลิมบุรี), ถนนราชวงศ์ (สี่แยกราชวงศ์) และถนนจักรวรรดิ (สี่แยกวัดตึก) ข้ามคลองรอบกรุง (สะพานภาณุพันธุ์) เข้าสู่ท้องที่แขวงวังบูรพาภิรมย์ เขตพระนคร สิ้นสุดที่แยกถนนพีระพงษ์ตัดกับถนนมหาไชยและถนนจักรเพชร บริเวณถนนเยาวราชเป็นแหล่งชุมชนชาวจีนและชาวไทยเชื้อสายจีนเป็นจำนวนมาก จัดเป็นย่านธุรกิจการค้า, การเงิน การธนาคาร, ร้านทอง, ภัตตาคาร ร้านอาหาร, ร้านค้า ฯลฯ รวมทั้งแหล่งท่องเที่ยวสำคัญแห่งหนึ่งของกรุงเทพมหานครโดยได้รับการขนานนามว่าเป็น "ไชนาทาวน์แห่งกรุงเทพมหานคร" จากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ และถือว่าเป็นไชนาทาวน์หรือชุมชนชาวจีนที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก.

ใหม่!!: เครื่องประดับและถนนเยาวราช · ดูเพิ่มเติม »

ทองคำสำรอง

ทองคำสำรอง (gold reserve) เป็นสินทรัพย์ชนิดหนึ่ง ที่ธนาคารกลางของประเทศ หรือองค์กรทางการเงินระหว่างประเทศ ได้ซื้อเก็บสะสมไว้เป็นส่วนหนึ่งของทุนสำรองระหว่างประเทศ เพื่อเป็นการลงทุนและเป็นหลักประกันทางการเงินของประเทศและองค์กรนั้นๆ ทองคำ 1 ตันมีมูลค่าเท่ากับ 41.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (1.38 พันล้านบาท) ณ ราคาวันที่ 24 สิงหาคม..

ใหม่!!: เครื่องประดับและทองคำสำรอง · ดูเพิ่มเติม »

ทองคำสี

ทองคำบริสุทธิ์จะมีสีเหลือง แต่ทองอาจจะเป็นสีอื่นได้โดยการเจือธาตุอื่นลงไปในทองตามสัดส่วนที่ต่างกัน เช่น ทองคำ 14 ส่วนโลหะเจือ 10 ส่วนจะเป็นทอง 14 กะรัตหรือทองคำ 18 ส่วนโลหะเจือ 6 ส่วนก็จะเป็นทอง 18 กะรัต ปกติจะแสดงเป็นสัดส่วนแทน เช่น 14/24 เท่ากับ 0.585 (ปัดเศษ) และ 18/24 เท่ากับ 0.750 มีธาตุกว่า 100 ชนิดที่สามารถเจือลงในทองได้ แต่โดยปกติแล้วจะเจือเงินเพื่อให้ทองมีสีขาว เจือทองแดงเพื่อให้ทองมีสีแดง ถ้าผสมทองแดงและเงินในอัตราส่วน 50/50 จะให้โลหะเจือที่มีสีคล้ายทอง แผนภูมิสี 3 ธาตุของโลหะเจือ Ag-Au-Cu.

ใหม่!!: เครื่องประดับและทองคำสี · ดูเพิ่มเติม »

ดาวทะเล

วทะเล หรือ ปลาดาว เป็นสัตว์ทะเลไม่มีกระดูกสันหลัง ที่อยู่ในชั้น Asteroidea ลักษณะทั่วไป มีลำตัวแยกเป็นห้าแฉกคล้ายรูปดาวเรียกว่า แขน ส่วนกลาง มีลักษณะเป็นจานกลม ด้านหลังมีตุ่มหินปูน ขนาดเล็กกระจายอยู่ทั่วไป มีปากอยู่ด้านล่างบริเวณ จุดกึ่งกลางของ ลำตัว ใต้แขนแต่ละข้างมีหนวดสั้น ๆ เรียงตามส่วนยาว ของแขนเป็นคู่ ๆ มีลักษณะเป็นกล้ามเนื้อที่เหนียวและแข็งแรงเรียกว่า โปเดีย ใช้สำหรับยึดเกาะกับเคลื่อนที่ มีสีต่าง ๆ ออกไป ทั้ง ขาว, ชมพู, แดง, ดำ, ม่วง หรือน้ำเงิน เป็นต้น พบอยู่ตามชายฝั่งทะเล โขดหิน และบางส่วนอาจพบได้ถึงพื้นทะเลลึก กินหอยสองฝา โดยเฉพาะ หอยนางรม, กุ้ง, ปู หนอน และ สัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังอื่น ๆ เช่น ฟองน้ำหรือปะการัง เป็นอาหาร.

ใหม่!!: เครื่องประดับและดาวทะเล · ดูเพิ่มเติม »

ด้วงกว่าง

้วงกว่าง หรือ กว่าง หรือ แมงกว่าง หรือ แมงกวาง หรือ แมงคาม เป็นแมลงในวงศ์ย่อย Dynastinae จัดอยู่ในวงศ์ใหญ่ Scarabaeidae ในอันดับแมลงปีกแข็ง (Coleoptera).

ใหม่!!: เครื่องประดับและด้วงกว่าง · ดูเพิ่มเติม »

ครั่ง

รั่ง (Lac) คือแมลงจำพวกเพลี้ยหลายชนิดที่อยู่ในวงศ์ Kerridae อาทิ Laccifer lacca ถือว่าเป็นแมลงที่เป็นศัตรูต่อพืชตามธรรมชาติ ที่จะใช้งวงปากเจาะเพื่อดูดน้ำเลี้ยงของต้นไม้ ประเภทไม้เนื้อแข็ง แต่ว่ากลับเป็นแมลงที่มีประโยชน์ต่อมนุษย์เป็นอย่างมากนับจากอดีตจนถึงปัจจุบัน ครั่งจะขับสารชนิดหนึ่งซึ่งมีลักษณะเป็นเหมือนยางหรือชันออกมาไว้ป้องกันตัวเองจากศัตรู ซึ่งสารที่ขับถ่ายออกมานี้เรียกว่า "ครั่งดิบ" ตามชื่อเรียก สารนี้มีสีแดงม่วง ลักษณะคล้ายขี้ผึ้งสีเหลืองแก่ หรือยางสีส้ม ซึ่งมนุษย์ได้นำมาใช้ประโยชน์กันมานานกว่า 4,000 ปี แล้วในหลายอารยธรรม โดยใช้เป็นสมุนไพร เป็นยารักษาโรคโลหิตจาง, โรคลมขัดข้อ เป็นต้น นอกจากนี้ยังนำไปใช้ในอุตสาหกรรมการทำเชลแล็ก, แลกเกอร์, เครื่องใช้, เครื่องประดับต่าง ๆ, ย้อมสีผ้า สีโลหะ หรือผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ตลอดจนใช้ประทับในการไปรษณีย์ขนส่งหรือตราประทับเอกสารทางราชการใด ๆ ปัจจุบันครั่งเป็นสินค้าออกที่สำคัญของหลาย ๆ ประเทศ อาทิ อินเดีย, ไทย ซึ่งมีการเลี้ยงในเชิงเกษตร มีราคาขายที่แพงมาก.

ใหม่!!: เครื่องประดับและครั่ง · ดูเพิ่มเติม »

ประเทศอันดอร์รา

อันดอร์รา (Andorra) หรือ ราชรัฐอันดอร์รา (Principat d'Andorra) เป็นประเทศที่ไม่มีทางออกสู่ทะเล มีพื้นที่ขนาดเล็ก อยู่ในทางตะวันตกเฉียงใต้ของทวีปยุโรป อยู่ในเทือกเขาพิเรนีสทางตะวันออก มีอาณาเขตติดกับประเทศฝรั่งเศสและสเปน เดิมเคยเป็นประเทศอยู่โดดเดี่ยว ปัจจุบันอันดอร์รานับเป็นประเทศที่มั่งคั่งประเทศหนึ่ง โดยมีรายได้หลักจากการท่องเที่ยว และยังเป็นประเทศที่มีการเก็บภาษีที่ต่ำมากด้ว.

ใหม่!!: เครื่องประดับและประเทศอันดอร์รา · ดูเพิ่มเติม »

ปลากระเบน

ปลากระเบน คือ ปลากระดูกอ่อนจำพวกหนึ่งที่อยู่ในชั้นย่อยอีลาสโมแบรนชิไอ (Elasmobranchii) ในอันดับใหญ่ที่ใช้ชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Batoidea หรือ Rajomorphii มีประมาณ 400 ชนิด พบได้ทั้งน้ำจืดสนิท, น้ำกร่อย และทะเล มีรูปร่างแบนราบ ครีบทั้งหมดอยู่ชิดติดกับลำตัวด้านข้าง มีท่อน้ำออก 1 คู่ อยู่ด้านหลังของหัว ซึ่งทำหน้าที่ให้น้ำผ่านเข้าทางเพื่อไหลเวียนผ่านเหงือกเพื่อการหายใจ ซึ่งจะไม่ไหลเวียนผ่านปากซึ่งอยู่ด้านล่างลำตัว เหมือนปลากระดูกอ่อนหรือปลากระดูกแข็งจำพวกอื่น หากินบริเวณพื้นน้ำ ในปากไม่มีฟันแหลมคมเหมือนปลาฉลาม ดังนั้นการกินอาหารจึงค่อยเป็นค่อยไป ด้วยการเคี้ยวอย่างช้า ๆ ซึ่งอาหารส่วนมากก็ได้แก่ หอย, กุ้ง, ปู หรือปลาขนาดเล็กตามพื้นน้ำ เป็นส่วนใหญ่ แบ่งออกได้เป็น 4 อันดับ (ดูในตาราง) ซึ่งก็แบ่งออกได้เป็นหลายวงศ์, หลายสกุล ขนาดแตกต่างหลากหลายไปตามสกุลและชนิด กระจายไปตามเขตอบอุ่นทั่วโลก เช่น วงศ์ปลากระเบนธง (Dasyatidae) รูปร่างค่อนข้างกลม จะงอยปากแหลม หางยาวคล้ายแส้ มีเงี่ยงแหลมคม ที่มีพิษบริเวณโคนหาง 1-2 ชิ้น ที่เมื่อหักไปแล้วสามารถงอกใหม่ได้, วงศ์ปลากระเบนนก (Myliobatidae) มีส่วนหัวโหนก ครีบด้านข้างแยกออกจากส่วนหัวเห็นได้ชัดเจน และครีบขยายออกด้านข้างเสมือนกับปีกของนก ปลายแหลม ใช้สำหรับว่ายน้ำในลักษณะโบกโบยเหมือนนกบินในทะเล ส่วนปลากระเบนไฟฟ้า พบเฉพาะในทะเล มีขนาดเล็ก มีรูปร่างต่างไปจากปลากระเบนจำพวกอื่น ๆ ที่โคนหางไม่มีเงี่ยง และสามารถผลิตไฟฟ้าเพื่อป้องกันตัวและล่าเหยื่อได้ด้วย ปลากระเบน เป็นปลาที่มนุษย์ผูกพันมาตั้งแต่อดีต ด้วยการใช้เนื้อในการรับประทาน สามารถนำไปปรุงเป็นอาหารต่าง ๆ เช่น ผัดเผ็ด, ผัดขี้เมา หรือผัดฉ่า เช่นเดียวกับปลาฉลามได้ ในปลากระเบนบางวงศ์ เช่น วงศ์ปลากระเบนหางสั้น (Potamotrygonidae) มีลำตัวกลมเหมือนจานข้าวหรือแผ่นซีดี จะงอยปากไม่แหลม มีส่วนหางที่สั้น มีถิ่นกำเนิดเฉพาะในแม่น้ำของทวีปอเมริกาใต้ มีสีสันและลวดลายตามลำตัวสวยงาม และสามารถแพร่ขยายพันธุ์ในที่เลี้ยงได้ง่าย จึงนิยมเลี้ยงและเพาะขยายพันธุ์กันเป็นปลาสวยงาม นอกจากนี้แล้ว ปลากระเบนส่วนมากจะมีเกล็ดเป็นตุ่มแข็งบริเวณกลางหลัง ซึ่งสามารถนำไปใช้ประโยชน์ต่าง ๆ เช่น ผลิตเป็นเครื่องหนัง เช่น กระเป๋า ได้ นอกจากนี้แล้วยังนำไปทำเป็นเครื่องประดับเช่น แหวน เป็นต้น.

ใหม่!!: เครื่องประดับและปลากระเบน · ดูเพิ่มเติม »

ปลาปักเป้าหนามทุเรียน

ปลาปักเป้าหนามทุเรียน (Porcupinefishes, Balloonfishes) เป็นสกุลของปลากระดูกแข็งในอันดับปลาปักเป้า (Tetraodontiformes) ในวงศ์ปลาปักเป้าฟัน 2 ซี่ (Diodontidae) ใช้ชื่อสกุลว่า Diodon (/ได-โอ-ดอน/) ปลาปักเป้าหนามทุเรียนนั้น มีรูปร่างคล้ายปลาปักเป้าทั่วไป แต่มีรูปร่างเพรียวยาว หนังหยาบหนา และมีหนามแข็งชี้ไปข้างท้ายลำตัวตลอดทั้งตัว ซึ่งหนามนี้จะตั้งแข็งตรงเมื่อพองตัวกลมคล้ายลูกบอล เพื่อใช้ในการป้องตัวตัวเองจากนักล่าขนาดใหญ่กว่าในธรรมชาติ เช่น ปลาฉลาม ครีบหางเป็นทรงกลม มีขนาดโตเต็มที่ประมาณ 60 เซนติเมตร มีลักษณะเด่น คือ มีฟันที่แหลมคมจำนวน 2 ซี่ภายในช่องปากใช้สำหรับขบกัดสัตว์มีเปลือกต่าง ๆ เป็นอาหาร เช่น กุ้ง, ปู, หอยฝาเดี่ยว หรือหอยสองฝา เป็นต้น ปลาปักเป้าหนามทุเรียนมีลักษณะแตกต่างไปจากปลาปักเป้าสกุลอื่นในวงศ์เดียวกัน คือ ลักษณะของหนามบนลำตัว มีทั้งหมด 5 ชนิด (ดูในเนื้อหา) กระจายพันธุ์ไปในทะเลและมหาสมุทรต่าง ๆ ทั่วโลก เป็นปลาที่นิยมเลี้ยงเป็นปลาสวยงามตามบ้านหรือในพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ และนิยมนำมาสตัฟฟ์เป็นเครื่องประดับโดยเฉพาะเมื่อยามพองตัว แต่ถือเป็นปลาที่มีอันตราย หากได้รับประทานเข้าไป เนื่องจากมีสารพิษชนิด เตโตรโดท็อกซิน และซิกัวเตราอย่างรุนแรง.

ใหม่!!: เครื่องประดับและปลาปักเป้าหนามทุเรียน · ดูเพิ่มเติม »

ปลาปักเป้าหนามทุเรียนหนามยาว

ปลาปักเป้าหนามทุเรียนหนามยาว หรือ ปลาปักเป้าสามแถบ (long-spine porcupinefish, spiny balloonfish, freckled ballonfish) เป็นปลาปักเป้าชนิดหนึ่ง จัดอยู่ในวงศ์ปลาปักเป้าฟัน 2 ซี่ (Diodontidae) มีตัวค่อนข้างกลมและแบนทางด้านบนเล็กน้อย หัวขนาดใหญ่เรียวเล็กลงไปทางหาง ตากลมโตกลอกไปมาได้และมีหนังตายื่นลงมาเป็นติ่ง ปากหนามีฟันเชื่อมต่อกัน ครีบหูมีขนาดใหญ่คลี่ออกคล้ายพัด ครีบหลังมีอันเดียวอยู่เยื้องไปทางหาง ไม่มีครีบท้อง ครีบทวารอยู่ตรงกับครีบหลัง ครีบหางโค้งกลม ขนาดโตเต็มที่ได้ถึง 50 เซนติเมตร ผิวลำตัวเป็นหนังย่นและมีหนามแข็งพับลู่ไปทางหาง ซึ่งเมื่ออยู่ในยามปกติก็เห็นได้ชัดเจน แต่จะตั้งขึ้นเมื่อตกใจหรือถูกรบกวนและพองตัวได้ พื้นลำตัวมีสีน้ำตาลเขียว มีลายจุดสีดำเป็นปื้นตามลำตัวและบนหลัง ซึ่งเมื่อปลาโตขึ้นจุดเหล่านี้จะค่อย ๆ จางไป จัดเป็นปลาปักเป้าที่มีขนาดใหญ่ชนิดหนึ่ง พบกระจายพันธุ์อย่างกว้างขวางในแนวปะการังเขตร้อนและเขตอบอุ่น ตั้งแต่ฟลอริดา, บาฮามาส, บราซิล, หมู่เกาะกาลาปากอส, เกาะอีสเตอร์ รอบ ๆ แอฟริกาใต้, เรอูนียง, ทะเลแดง, มาดากัสการ์, มอริเชียส, หมู่เกาะฮาวาย, อ่าวเบงกอล, อินโด-แปซิฟิก, ทะเลอันดามัน, อ่าวไทย, อ่าวตังเกี๋ย, ทะเลเหลือง, ทะเลจีนใต้, ทะเลจีนตะวันออก พบไปจนถึงทะเลญี่ปุ่น, ทะเลฟิลิปปิน และเกรตแบร์ริเออร์รีฟ เป็นปลาที่ไม่ใช้เนื้อในการบริโภค แต่นิยมทำมาเป็นเครื่องประดับ โดยนำมาสตัฟฟ์เมื่อเวลาที่พองตัวออก และเลี้ยงเป็นปลาสวยงาม.

ใหม่!!: เครื่องประดับและปลาปักเป้าหนามทุเรียนหนามยาว · ดูเพิ่มเติม »

ปลาปักเป้าหนามทุเรียนด่างดำ

ปลาปักเป้าหนามทุเรียนด่างดำ (Black-blotched porcupinefish) ปลาทะเลชนิดหนึ่ง ในวงศ์ปลาปักเป้าฟันสองซี่ (Diodontidae) เป็นปลาปักเป้าหนามทุเรียนชนิดหนึ่ง มีรูปร่างทรงกลม มีขากรรไกรและฟันแบบไม่ผ่าซีก ผิวหนังมีหนามสั้น ที่บริเวณใต้ตามีหนามชิ้นหนึ่งชี้ลงด้านล่าง ครีบทุกครีบมีขนาดเล็กปลายมน ลำตัวสีเทาอมเหลือง มีจุดเด่น คือ มีดวงสีดำขนาดใหญ่ที่มีขอบขาวทั่วตัว ครีบทุกครีบมีสีเหลืองใสโปร่งแสง ใต้ท้องสีขาว มีความยาวเต็มที่ประมาณ 30-45 เซนติเมตร พบใหญ่ที่สุด 65 เซนติเมตร อาศัยอยู่ตามโพรงหินและวัสดุต่าง ๆ ใต้น้ำ พบกระจายพันธุ์ในแถบอินโด-แปซิฟิก จากแอฟริกาใต้จนถึงทะเลญี่ปุ่น จนถึงตอนใต้ของออสเตรเลีย และหมู่เกาะมาร์แชลล์ ในน่านน้ำไทยพบได้ชุกชุม ทั้งฝั่งอ่าวไทยและทะเลอันดามัน มักพบตามชายฝั่งและแนวปะการัง กินอาหารจำพวก สัตว์น้ำขนาดเล็กที่อยู่บริเวณพื้นทะเล เป็นปลาที่มีพิษ เนื้อใช้รับประทานไม่ได้ นิยมสตั๊ฟฟ์ทำเป็นเครื่องประดับ และเลี้ยงแสดงในพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ.

ใหม่!!: เครื่องประดับและปลาปักเป้าหนามทุเรียนด่างดำ · ดูเพิ่มเติม »

ปูนปลาสเตอร์

ปูนปลาสเตอร์ (Plaster หรือ Plaster of Paris) คือปูนที่ใช้ทำประโยชน์หลายอย่างเช่น วัสดุก่อสร้าง และได้มีการค้นพบมากว่า 9,000 ปีแล้ว โดยได้มีการค้นพบที่คาบสมุทรอนาโตเลียและซีเรีย แต่ที่เรารู้จักกันดีก็คือการนำมาเป็นวัสดุก่อสร้างในการทำพีระมิดของชาวอียิปต์ เมื่อประมาณ 5,000 ปี โดยมีการบันทึกถึงขั้นตอนการผลิต (นำ gypsum มาเผาแล้วบดให้เป็นผง และนำไปผสมกับน้ำเมื่อต้องการใช้งาน) ใช้เป็นวัสดุเชื่อมต่อระหว่างก้อนหินแต่ละก้อนในการสร้างพีระมิด และได้ถูกใช้งานมาเรื่อยๆ ตามหน้าประวัติศาสตร์อันยาวนานของวงการก่อสร้าง จนกระทั่งในช่วงศตวรรษที่ 20 ปูนปลาสเตอร์เริ่มที่จะนำมาใช้อย่างกว้างขวางนอกอุตสาหกรรมก่อสร้าง อาทิเช่น การนำมาใช้ในอุตสาหกรรมเซรามิก (สุขภัณฑ์, เครื่องใช้บนโต๊ะอาหาร, เครื่องประดับ), ในวงการทันตกรรม, การหล่อโลหะ, เครื่องประดับ, เครื่องมือการแพทย์, เครื่องสำอางและอีกหลายๆ คุณสมบัติหลักที่ทำให้นิยมใช้งานก็คือความสามารถที่จะแข็งตัวได้รูปตามแม่พิมพ์ที่ใช้ โดยที่มีการเปลี่ยนแปลงขนาดเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ปูนปลาสเตอร์ หรือที่เรียกทางเคมีว่า Calcium sulfate hemihydrates ได้มาจากการนำแร่ยิบซั่ม (Gypsum) ซึ่งมีอยู่ทั่วไปในธรรมชาติมาให้ความร้อน (ประมาณ 150 °C) เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างทางเคมีดังสมการ และเมื่อนำไปผสมน้ำเพื่อใช้งานก็จะเกิดปฏิกิริยาย้อนกลับดังนี้ โดยจะปลดปล่อยพลังงานออกมาในรูปของพลังงานความร้อน ในกระบวนการผลิตปูนปลาสเตอร์ จะได้ปูนปลาสเตอร์ออกมา 2 ชนิดคือ Beta (&beta) plaster และ Alpha (&alpha) plaster ซึ่งจะให้คุณสมบัติที่แตกต่างกันไปทั้งในเรื่องของความแข็งแรง และการดูดซึม/คายน้ำของตัวปูนปลาสเตอร์เอง ในการผลิตเพื่อออกมาจำหน่าย ทางผู้ผลิตเองจะมีการผสมระหว่างปูนทั้งสองชนิดนี้ในอัตราส่วนต่างๆ กัน รวมถึงอาจมีสารเคมีบางอย่างผสมรวมไปด้วยเพื่อให้ได้ปูนปลาสเตอร์ที่มีคุณสมบัติตรงตามความต้องการใช้งานแต่ละชนิด อาทิเช่น ปูนปลาสเตอร์สำหรับการทำ Case mould จะต้องมีการแข็งแรง ทนต่อการขยายตัวได้ดี และไม่ต้องการคุณสมบัติในการดูด/คายน้ำ ปูนปลาสเตอร์สำหรับทำแม่พิมพ์งานหล่อน้ำดิน ต้องการคุณสมบัติที่ดีของการดูด/คายน้ำ แต่ไม่ต้องการเรื่องความแข็งแรงมากนัก และ ปูนปลาสเตอร์สำหรับทำแม่พิมพ์งาน Ram press ต้องการความทนทางต่อแรงอัดสูง เป็นต้น หมวดหมู่:สารประกอบแคลเซียม หมวดหมู่:วัสดุก่อสร้าง.

ใหม่!!: เครื่องประดับและปูนปลาสเตอร์ · ดูเพิ่มเติม »

นาก (โลหะ)

็มขัดนาก นาก เป็นโลหะผสมที่เกิดจากการผสมระหว่าง ทองแดง ทองคำ และ เงิน ในประเทศไทยหรือกลุ่มประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นิยมนำมาทำเป็นเครื่องประดับ เช่น กำไล สร้อยคอ เข็มขัด มีสีแตกต่างกัน เรียกว่าสีนาก ขึ้นอยู่กับอัตราส่วนผสมของธาตุที่นำมาผสมกัน มีความแข็งแรงกว่าทองคำ ทนต่อการกัดกร่อน.

ใหม่!!: เครื่องประดับและนาก (โลหะ) · ดูเพิ่มเติม »

นิล

นิล (Black Spinel) เป็นแร่รัตนชาติชนิดหนึ่ง ในสมัยโบราณเรียกกันว่า "มณีนิล" เพราะถือว่านิลคืออัญมณีชนิดหนึ่ง และเชื่อกันว่านิลมีพลังศักดิ์สิทธิ์ซ่อนอยู่สามารถปกป้องให้พ้นภยันอันตรายได้ เพราะนักรบในสมัยโบราณของไทยได้ใช้ "นิลและโป่งขาม" เป็นเครื่องรางในการออกศึก ต่อมานิลถูกนำมาใช้เป็นเครื่องบอกฐานะ ยศศักดิ์ จนในที่สุดก็นำมาใช้เป็นเครื่องประดับจวบจนปัจจุบัน.

ใหม่!!: เครื่องประดับและนิล · ดูเพิ่มเติม »

แพลทินัม

แพลทินัม หรือ ทองคำขาว (Platinum) คือธาตุเคมีที่มีเลขอะตอม 78 และสัญลักษณ์คือ Pt เป็นธาตุโลหะทรานซิชัน มีสีเงินเทา มีน้ำหนักมาก สามารถยืดและตีเป็นแผ่นได้ แพลทินัมทนต่อการกัดกร่อนมาก ในธรรมชาติพบอยู่กับสินแร่ของนิกเกิลและทองแดง ปัจจุบันแพลทินัมมีราคาสูงกว่าทองคำ 2-3 เท่า แพลทินัมสามารถใช้ทำเครื่องประดับ อุปกรณ์ในห้องทดลอง ตัวนำไฟฟ้า งานทันตกรรม และเครื่องกรองไอเสียในรถยนต์ ธาตุแพลทินัมเรียกได้อีกอย่างว่า ทองคำขาว ซึ่งอาจจะสร้างความสับสนกับ ทองขาว (White gold) แพลทินัมจะแกะลายได้สวยกว่าทองเนื่องจากความหนาแน่นสูง และเมื่อใช้ไปในระยะยาวจะยังคงมีลายที่คมชัดเหมือนเดิมไม่สึกออกไปเหมือนทอง (แพลทินัมจะน้ำหนักเท่าเดิมไม่สูญหายเหมือนทองที่พอใช้ไปเรื่อยๆ เนื้อทองจะหลุดร่อนทุกครั้งที่กระทบกับวัตถุอื่นๆ).

ใหม่!!: เครื่องประดับและแพลทินัม · ดูเพิ่มเติม »

แก๊งตกทอง

แก๊งตกทอง เป็นกลุ่มมิจฉาชีพที่ทำมาหากินโดยวิธี แกล้งทำสร้อยทองคำ (ปลอม) ตกอยู่ตามย่านชุมชน หรือตลาด ทำทีเป็นว่าพบพร้อมเหยื่อที่เล็งไว้ จำเป็นต้องเอาทองคำมาแบ่งกัน แต่ไม่มีเวลานำไปขาย จึงแนะนำให้เหยื่อ ถอดเครื่องประดับหรือเงิน ซึ่งดูแล้วน่าจะน้อยกว่าทองคำที่พบเจอหลายเท่ามาให้มิจฉาชีพ กว่าจะรู้ว่าเป็นทองปลอม มิจฉาชีพก็หายตัวพร้อมเครื่องประดับหรือเงินของเหยื่อไปไกลแล้ว วิธีการเช่นนี้ปรากฏเป็นข่าวทางสื่อมวลชนในประเทศไทยอยู่บ่อยๆ แม้กระนั้น ก็ยังคงมีผู้เป็นเหยื่ออยู่เสมอ เหยื่อบางคนบอกว่าเหมือนป้ายยา หรือถูกสะกดจิตทำให้รู้สึกมึนงง ถอดเครื่องประดับหรือมอบเงินให้มิจฉาชีพไปอย่างไม่รู้ตัว อย่างไรก็ตาม มีความเห็นของตำรวจที่เคยรับผิดชอบคดีว่า ส่วนหนึ่งเกิดจากความโลภของเหยื่อเอง และถึงแม้ว่าจะไม่ใช่เหตุการณ์ มิจฉาชีพแก๊งตกทองจริง แต่เป็น แต่เป็นเหตุการณ์จริงที่พบเจอทองคำแล้วนำมาแบ่งกัน ตามกฏหมายประเทศไทย ถือเป็น ความผิดฐานลักทรัพย์ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 334 บัญญัติว่า ผู้ใดเอาทรัพย์ของผู้อื่น หรือที่ผู้อื่นเป็นเจ้าของรวมอยู่ด้วยไปโดยทุจริต ผู้นั้นกระทำความผิดฐานลักทรัพย์ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี และปรับไม่เกิน 6,000.-บาท หรือ ความผิดฐานยักยอกทรัพย์สินหาย ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 352 บัญญัติว่า ผู้ใดครอบครองทรัพย์ของผู้อื่น หรือที่ผู้อื่นเป็นเจ้าของรวมอยู่ด้วย เบียดบังเอาทรัพย์นั้นเป็นของตนหรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต ผู้นั้นกระทำผิดฐานยักยอก ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 6,000.-บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หมวดหมู่:มิจฉาชีพ หมวดหมู่:กลฉ้อฉล.

ใหม่!!: เครื่องประดับและแก๊งตกทอง · ดูเพิ่มเติม »

แมลงทับ

แมลงทับ (Jewel beetle, Metallic wood-boring beetle, Buprestid) เป็นแมลงในอันดับแมลงปีกแข็ง (Coleoptera) โดยจัดอยู่ในวงศ์ Buprestidae แมลงทับมีรูปร่างโดยรวม คือ มีลำตัวยาวโค้งนูน ส่วนที่เป็นปีกแข็งมีความแข็งมาก หัวมีขนาดเล็กซ่อนอยู่ใต้อกปล้องแรกซึ่งโค้งมนเรียวไปทางหัวเชื่อมกับอกปล้องกลางซึ่งกว้างกว่าส่วนอื่น ๆ ท้องมนเรียวไปทางปลายหาง ปีกแข็งหุ้มส่วนท้องจนหมด มีหนวดที่เป็นแบบใบไม้ มีลักษณะเด่น คือ มีสีสันที่สวยงามมาก หลายชนิด หลายสกุลมีสีเงางามแวววาวราวกับอัญมณี หลายชนิดเป็นสีที่หลากหลาย ทั้ง น้ำเงิน, แดง, ดำ และเหลือง จึงทำให้แมลงทับถูกมนุษย์จับนำมาใช้ทำเป็นเครื่องประดับต่าง ๆ มานานแล้วในหลายชนชาติ แมลงทับพบในเขตร้อนและเขตอบอุ่นทั่วโลก ปัจจุบันพบแล้วกว่า 15,000 ชนิด ใน 450 สกุล และที่สูญพันธุ์ไปแล้วเป็นซากดึกดำบรรพ์กว่า 100 ชนิด บางชนิดมีความยาวถึง 77 มิลลิเมตร แมลงทับเมื่อขยายพันธุ์ จะเจาะเข้าไปวางไข่ในต้นไม้หรือวางไข่ไว้ในดินใกล้รากของไม้ที่ตัวหนอนจะกินเป็นอาหาร จึงนับเป็นแมลงศัตรูพืชอีกจำพวกหนึ่ง ซึ่งแมลงทับใช้เวลาในการเป็นไข่-ตัวหนอน-ดักแด้ราว 1 ปี เหมือนเช่นแมงคีมหรือด้วงกว่าง อันเป็นแมลงปีกแข็งแต่ต่างวงศ์กัน แมลงทับนับเป็นแมลงปีกแข็งที่บินได้เร็วและสูงมาก และเมื่อถูกรบกวนจะมีพฤติกรรมแกล้งตาย โดยจะอยู่เฉย ๆ หรือหล่นจากต้นไม้ที่เกาะอยู่เพื่อลวงศัตรูให้เข้าใจผิดว่าตายแล้ว สำหรับแมลงทับชนิดที่พบในประเทศไทย มีอยู่ 2 ชนิดที่พบได้บ่อยที่สุด คือ แมลงทับกลมขาเขียว (Sternocera aequisignata) พบมากในภาคกลาง และแมลงทับกลมขาแดง (S. ruficornis) พบมากในภาคอีสาน ซึ่งทั้ง 2 ชนิดนี้กินใบอ่อนของมะขามเทศเป็นอาหาร และมีสีเขียวเหลือบทองเป็นมันแวววาวทั้งคู่ ซึ่งปัจจุบันนี้ได้มีความพยายามของทางการที่จะอนุรักษ์สายพันธุ์ของแมลงทับมิให้สูญพันธุ์ และมีการนำเอาปีกแมลงทับทั้ง 2 ชนิดนี้ทำเป็นงานหัตถกรรมชนิดต่าง ๆ ในโครงการพระราชดำริ ศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพพิเศษ บางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีน.

ใหม่!!: เครื่องประดับและแมลงทับ · ดูเพิ่มเติม »

แมลงทับกลมขาเขียว

แมลงทับกลมขาเขียว หรือ แมลงทับบ้านขาเขียว หรือ แมลงทับเขียว เป็นแมลงปีกแข็งชนิดหนึ่ง จัดอยู่ในวงศ์แมลงทับ (Buprestidae) มีมีลำตัวยาวโค้งนูน ส่วนที่เป็นปีกแข็งมีความแข็งมาก หัวมีขนาดเล็กซ่อนอยู่ใต้อกปล้องแรกซึ่งโค้งมนเรียวไปทางหัวเชื่อมกับอกปล้องกลางซึ่งกว้างกว่าส่วนอื่น ๆ ท้องมนเรียวไปทางปลายหาง ปีกแข็งหุ้มส่วนท้องจนหมด ปีกแข็งเป็นสีเขียวเลื่อมเหลือบทองมีความแวววาวสวยงาม มีหนวดเป็นเส้นแบบใบไม้ หัวมีขนาดใหญ่ แมลงทับกลมขาเขียว มีวงจรชีวิตยาวประมาณ 1-2 ปี โดยเป็นตัวหนอน 8-20 เดือน ในดินที่มีธาตุอาหารอุดมสมบูรณ์ ในความลึกประมาณ 10-20 เซนติเมตร ในระยะที่ยังเป็นไข่ประมาณ 2-3 เดือน ฟองไข่มีลักษณะกลมรี สีเหลือง ระยะเป็นดักแด้จะอยู่ในปลอกดินหุ้มลำตัวประมาณ 2-3 เดือน แต่เมื่อเป็นตัวเต็มวัยแล้วจะมีอายุประมาณ 2-3 เดือนเท่านั้น โดยจะผุดขึ้นมาจากดินในช่วงฤดูฝน ที่พื้นดินมีความชุ่มชื้น โดยจะออกหากินทันทีและผสมพันธุ์ตามเรือนยอดไม้ วางไข่ครั้งละ 12 ฟอง ซึ่งจัดว่าน้อยสำหรับแมลงปีกแข็ง จะกินอาหารจำพวก ยอดไม้ โดยเฉพาะยอดอ่อน ๆ ของพืชหลายชนิด เช่น มะขามเทศ เป็นต้น ในประเทศไทยพบได้ทั่วไปในหลายพื้นที่ ทั้งใน ป่าละเมาะหรือแม้แต่สวนสาธารณะหรือสวนผลไม้ต่าง ๆ โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคกลาง มักพบเป็นกลุ่มเล็ก ๆ นับเป็นแมลงทับ 1 ใน 2 ชนิดที่พบได้บ่อยและรู้จักกันดีที่สุดในประเทศไทย (อีกหนึ่งชนิดนั้น คือ แมลงทับกลมขาแดง (S. ruficornis)) เป็นแมลงที่มีความสวยงาม จึงถูกใช้ประโยชน์ต่าง ๆ จากปีกแข็งที่มีสีเขียวเลื่อม ด้วยการทำเป็นเครื่องประดับต่าง ๆ ซึ่งสีของปีกนั้นสามารถคงทนอยู่ได้นานถึง 50 ปี.

ใหม่!!: เครื่องประดับและแมลงทับกลมขาเขียว · ดูเพิ่มเติม »

แหล่งโบราณคดีบ้านดอนตาเพชร

แหล่งโบราณคดีบ้านดอนตาเพชร อยู่ที่บ้านดอนตาเพชร ที่อำเภอพนมทวน จังหวัดกาญจนบุรี มีหลายอย่างซึ่งเป็นหลักฐานที่ยืนยันว่าบ้านดอนตาเพชรคือบริเวณที่ตะวันตกและตะวันออกมาพบกัน แบบอย่างที่มาจากทางตาวันออกที่พบที่นี่คือตุ้มหูและจี้ห้อยคอ หรือ ลิง-ลิง-โอ เป็นรูปสัตว์ที่มีเขาสองหัวสำหรับห้อยคอ และตุ้มหูที่มียอดแหลมประดับสามยอด ที่เป็นเหมือนเครื่องประดับทั่วไปในบริเวณเอเชียตะวันออก ซึ่งพบว่าเป็นโบราณวัตถุชนิดนี้เป็นวัตถุชิ้นหนึ่งซึ่ง พวกซาหวีนในเวียดนามปัจจุบันใช้กันมาก ซึ่งนี่เองที่เป็นหลักฐานสำคัญว่าพื้นที่บริเวณนี้มีการติดต่อสัมพันธ์กับภายนอกทางทะเลที่มีความเก่าแก่ นอกจากนี้จี้ห้อยคออีกชนิดหนึ่งที่พบคือจี้ห้อยคอรูปสิงห์เผ่น ซึ่งเป็นแบบอย่างมาจากทางตะวันตกคืออินเดีย นอกจากนี้ลูกปัดหินสีที่พบบริเวณนี้ยังพบในแถมอินเดียอีกด้วย อาจสรุปได้ว่าแหล่งโบราณคดีบ้านดอนตาเพชรเคยเป็นชุมชนโบราณที่มีการติดต่อทางทะเลกับทั้งอินเดียและทางตะวันออก แหล่งโบราณคดีบ้านดอนตาเพชร ค้นพบครั้งแรก เมื่อวันที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2518 เมื่อโรงเรียนวัดสาลวนาราม ได้ให้นักเรียนช่วยกันขุดหลุมดินเพื่อปักเสารั้ว ได้พบหลักฐานโบราณวัตถุเป็นจำนวนมาก สำหรับการขุดสำรวจทางโบราณคดีได้ทำการขุดสำรวจทั้งสิ้น สี่ ครั้งด้วยกันครั้งที่ 1 โดย กรมศิลปากรได้มอบหมาย ครั้งที่ 2 ดำเนินงานขุดค้นศึกษาในช่วงปี พ.ศ. 2523 – 2524 และ ครั้งที่ 3 ดำเนินงานในช่วงปี พ.ศ. 2527 – 2528 ซึ่งเป็นโครงการร่วมมือระหว่างกรมศิลปากรกับมหาวิทยาลัยลอนดอน ครั้งที่ 4 ดำเนินงานขุดค้นศึกษาในช่วงวันที่ 9 สิงหาคม ถึง 12 กันยายน พ.ศ. 2543 ภายใต้ชื่อโครงการศึกษาและพัฒนาแหล่งโบราณคดีบ้านดอนตาเพชร โดยความร่วมมือระหว่างกระทรวงศึกษาธิการ สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติและกรมศิลปากร มีอายุอยู่ที่ประมาณ 2500 ปีมาแล้วหรืออยู่ในยุคเหล็ก.

ใหม่!!: เครื่องประดับและแหล่งโบราณคดีบ้านดอนตาเพชร · ดูเพิ่มเติม »

แหวน

แหวนหมั้น แหวน คือเครื่องประดับที่ปกติใส่ไว้รอบนิ้ว หรืออาจมีชนิดอื่น ๆ ที่นำไปใส่ในอวัยวะอื่น ๆ หัวแหวนอาจทำมาจากเพชร พลอย ไม้ แก้ว หรือ พลาสติก การใส่แหวนยังเป็นสัญลักษณ์บางอย่างทางสังคม เช่น ฐานะ สถานะการหมั้น การเป็นแชมป์กีฬา เป็นต้น.

ใหม่!!: เครื่องประดับและแหวน · ดูเพิ่มเติม »

แหวนพรหมจรรย์

พรหมจรรย์ (Purity Ring หรือ Chastity Ring, Abstinence Ring) เป็นเครื่องประดับที่ถูกสร้างขึ้นเมื่อยุคคริสต์ทศวรรษ 1990 โดยกลุ่มรณรงค์ให้มีเพศสัมพันธ์เพียงเหมาะสมของศาสนาคริสต์ในสหรัฐอเมริกา ผู้สวมจะได้รับแหวนนี้เป็นของขวัญจากผู้ปกครองเป็นส่วนมาก โดยเฉพาะวันเกิดของตัวเองที่ย่างเข้าสู่ช่วงวัยรุ่น โดยการสวมแหวนนี้เปรียบเสมือนคำสาบานกับพระเจ้าว่าจะไม่มีเพศสัมพันธ์กับใครจนกว่าจะแต่งงานเท่านั้น แม้ว่าในภายแรกนั้นแหวนนี้ถูกจัดทำในสหรัฐอเมริกาเท่านั้น แต่ปัจจุบันก็ได้แพร่หลายไปในประเทศอื่นๆ แม้ผู้ใส่จะไม่ใช่ศาสนาคริสต์ก็ตาม เพราะเปรียบเสมือนเครื่องเตือนใจอย่างหนึ่ง การถอดแหวนออกจะกระทำได้เมื่อผู้สวมได้เมื่อสูญเสียความบริสุทธิ์หรือแต่งงานแล้วเท่านั้น หากถอดแหวนออกเมื่อยังไม่ได้เข้าพิธีสมรสก็ถือว่าผิดคำสาบานกับพระเจ้า นิ้วที่สวมใส่ไม่มีการบังคับ แต่ส่วนใหญ่จะถูกปลูกฝังให้สวมที่นิ้วนางข้างซ้าย เมื่อสมรสแล้วจึงใช้แหวนแต่งงานมาสวมแทน ปัจจุบันนี้ ได้มีการสร้าง Purity Necklace (สร้อยคอ) ขึ้นมาด้วย หากผู้สวมแหวนไม่สามารถสวมได้ในบางสถานการณ์ ก็สามารถถอดได้ นอกจากนี้ บางคนได้เปลี่ยนจากแหวนให้เป็นสร้อยคอโดยการใช้สายสร้อยคล้องกับแหวนไว้แล้วคล้องคอไว้ ก็ถือว่าเป็นการสวมอีกแบบหนึ่ง แหวนนี้มักจะถูกสลักเป็นคำส่วนใหญ่ โดยมักใช้เป็นคำว่า True Love Waits แต่ปัจจุบันเริ่มมีการประดับเพชรและตัดคำออกเพื่อความทันสมัยขึ้นแล้ว หมวดหมู่:แหวน.

ใหม่!!: เครื่องประดับและแหวนพรหมจรรย์ · ดูเพิ่มเติม »

โลหะมีค่า

ทองคำแท่ง โลหะมีค่า (precious metal) เป็นกลุ่มโลหะที่มีมูลค่าทางเศรษฐกิจสูงกว่าโลหะทั่วไป ส่วนใหญ่ไม่ค่อยทำปฏิกิริยารีดอกซ์ เป็นโลหะหายาก นิยมทำเป็นเครื่องประดับ เช่น เงิน ทองคำ แพลทินัม โรเดียม อิริเดียม ออสเมียม รีเนียม รูทีเนียม โลหะมีค่าที่มีมูลค่าด้านเศรษฐกิจสูงที่สุดหรือราคาแพงที่สุดคือ โรเดียม ซึ่งราคาสูงกว่าทองคำประมาณ 10 เท่า มีจุดหลอมละลายสูง.

ใหม่!!: เครื่องประดับและโลหะมีค่า · ดูเพิ่มเติม »

โขน

น เป็นศิลปะการแสดงชั้นสูงของไทยที่มีความสง่างาม อลังการและอ่อนช้อย การแสดงประเภทหนึ่งที่ใช้ท่ารำตามแบบละครใน แตกต่างเพียงท่ารำที่มีการเพิ่มตัวแสดง เปลี่ยนทำนองเพลงที่ใช้ในการดำเนินเรื่องไม่ให้เหมือนกับละคร แสดงเป็นเรื่องราวโดยลำดับก่อนหลังเหมือนละครทุกประการ ซึ่งไม่เรียกการแสดงเหล่านี้ว่าละครแต่เรียกว่าโขนแทน มีประวัติยาวนานตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา จากหลักฐานจดหมายเหตุลาลูแบร์ เอกอัครราชทูตฝรั่งเศสในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ได้มีการกล่าวถึงการแสดงโขนว่า เป็นการเต้นออกท่าทาง ประกอบกับเสียงซอและเครื่องดนตรีประเภทต่าง ๆ ผู้แสดงจะสวมหน้ากากปิดบังใบหน้าตนเองและถืออาวุธว่าด้วยการแสดงและการละเล่นอย่างอื่นของชาวสยาม, มหรสพสามอย่างของชาวสยาม,จดหมายเหตุ ลา ลู แบร์ ราชอาณาจักรสยาม, เขียนโดย: มองซิเอร์ เดอ ลาลูแบร์, แปลโดย: สันต์ ท. โกมลบุตร, สำนักพิมพ์ศรีปัญญา, 2548, หน้า 157 โขนเป็นจุดศูนย์รวมของศาสตร์และศิลป์หลากหลายแขนงเช่น วรรณกรรม วรรณศิลป์ นาฏศิลป์ คีตศิลป์ หัตถศิลป์คำนำการแสดงโขนชุดนางลอย, สูจิบัตรการแสดงโขนชุด นางลอย, มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ, ระหว่างวันที่ 19 -20 และ 22 -24 พฤศจิกายน 2553, หอประชุมใหญ่ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย โดยนำเอาวิธีเล่นและการแต่งตัวบางชนิดมาจากการเล่นชักนาคดึกดำบรรพ์ มีท่าทางการต่อสู้ที่โลดโผน ท่ารำ ท่าเต้นเช่น ท่าปฐมในการไหว้ครูของกระบี่กระบอง รวมทั้งการนำศิลปะการพากย์ การเจรจา หน้าพาทย์และเพลงดนตรีเข้ามาประกอบการแสดง ในการแสดงโขน ลักษณะสำคัญอยู่ที่ผู้แสดงต้องสวมหัวโขน ซึ่งเป็นเครื่องสวมครอบหุ้มตั้งแต่ศีรษะถึงคอ เจาะรูสองรูบริเวณดวงตาให้สามารถมองเห็น แสดงอารมณ์ผ่านทางการร่ายรำ สร้างตามลักษณะของตัวละครนั้น ๆ เช่น ตัวยักษ์ ตัวลิง ตัวเทวดา ฯลฯ ตกแต่งด้วยสี ลงรักปิดทอง ประดับกระจก บ้างก็เรียกว่าหน้าโขน ในสมัยโบราณ ตัวพระและตัวเทวดาต่างสวมหัวโขนในการแสดง ต่อมาภายหลังมีการเปลี่ยนแปลงไม่ต้องสวมหัวโขน คงใช้ใบหน้าจริงเช่นเดียวกับละคร แต่งกายแบบเดียวกับละครใน เครื่องแต่งกายของตัวพระและตัวยักษ์ในสมัยโบราณมักมีสองสีคือ สีหนึ่งเป็นสีเสื้อ อีกสีหนึ่งเป็นสีแขนโดยสมมุติแทนเกราะ เป็นลายหนุนประเภทลายพุ่ม หรือลายกระจังตาอ้อย ส่วนเครื่องแต่งกายตัวลิงจะเป็นลายวงทักษิณาวรรต โดยสมมุติเป็นขนของลิงหรือหมี ดำเนินเรื่องด้วยการกล่าวคำนำเล่าเรื่องเป็นทำนองเรียกว่าพากย์อย่างหนึ่ง กับเจรจาเป็นทำนองอย่างหนึ่ง ใช้กาพย์ยานีและกาพย์ฉบัง โดยมีผู้ให้เสียงแทนเรียกว่าผู้พากย์และเจรจา มีต้นเสียงและลูกคู่ร้องบทให้ ใช้วงปี่พาทย์เครื่องห้าประกอบการแสดง นิยมแสดงเรื่องรามเกียรติ์และอุณรุท ปัจจุบันสถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์มีหน้าที่หลักในการสืบทอดการฝึกหัดโขน และกรมศิลปากร มีหน้าที่ในการจัดการแสดงคำนำการแสดงโขนชุดพรหมมาศ, สูจิบัตรการแสดงโขนชุด พรหมมาศ, มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ, ระหว่างวันที่ 25 และ 27 -28 ธันวาคม 2550, หอประชุมใหญ่ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไท.

ใหม่!!: เครื่องประดับและโขน · ดูเพิ่มเติม »

ไข่มุก

มุก เป็นอัญมณี มีสีขาว เงินยวง ชมพูและสีทอง โดยนำมาจากสัตว์จำพวกหอยนางรม อาจจะนับได้ว่าเป็นอัญมณีชนิดเดียวในโลกที่เกิดมาจากสัตว์ ไข่มุกสามารถนำมาทำเป็นเครื่องประดับ หรือนำมาบดในการใช้เป็นเครื่องสำอาง ความเชื่อของไข่มุก เป็นอัญมณีแห่งสายน้ำ เสริมสง่าราศีให้กับเพศหญิงก่อให้เกิดความนุ่มนวล อ่อนหวาน แก้ปัญหาทางด้านอารมณ์ ในปัจจุบันนี้ ประเทศจีน ถือได้ว่าเป็นประเทศที่ติดอันดับต้น ๆ ของการส่งไข่มุกออกสู่ตลาดโลก ไข่มุกที่คุณภาพดีนั้น ควรมีอายุการเลี้ยงอยู่ที่ 8 เดือน ถึง 2 ปี ยิ่งเลี้ยงไว้ได้นาน ความสวยงามแวววาวยิ่งมีมากขึ้น แต่ส่วนมากที่พบในตลาดไข่มุกนั้น จะมีอายุการเลี้ยงอยู่ที่ 2-5 ปี แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมด้วย เช่น มลภาวะทางน้ำ อุณหภูมิ และความอุดมสมบูรณ์ของทะเล.

ใหม่!!: เครื่องประดับและไข่มุก · ดูเพิ่มเติม »

ไนกี้ (บริษัท)

ร้านค้าไนกี้ที่ฮ่องกง ไนกี้ เป็นบริษัทผลิตเครื่องกีฬา อย่างรองเท้า อุปกรณ์กีฬา เสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย มีบริษัทแม่อยู่ที่สหรัฐอเมริกา ก่อตั้งโดย บิลล์ บาวเวอร์แมน และ ฟิล ไนต.

ใหม่!!: เครื่องประดับและไนกี้ (บริษัท) · ดูเพิ่มเติม »

เชียงเฮงเส็ง

ตำแหน่งของร้านจากกูเกิลเอิร์ธ ภายในร้านเชียงเฮงเส็ง สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จมายังร้านเชียงเฮงเส็ง สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จออกจากร้านเชียงเฮงเส็ง ร้านเชียงเฮงเส็ง เป็นร้านขายตะเกียงร้านหนึ่ง ตั้งอยู่บนถนนแปลงนาม (เยาวราช 10) แขวงสัมพันธวงศ์ เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพมหานคร ร้านเชียงเฮงเส็ง เป็นร้านขายตะเกียงที่มีชื่อเสียงมากร้านหนึ่ง ร้านเชียงเฮงเส็งเคยลงหนังสือและออกรายการโทรทัศน์มากมาย นอกจากนี้สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารียังเคยเสด็จมาที่ร้านแห่งนี้ ในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2546 ซึ่งเป็นวันหลังวันตรุษจีน 1 วันของปีนั้นด้ว.

ใหม่!!: เครื่องประดับและเชียงเฮงเส็ง · ดูเพิ่มเติม »

เวทีเดินแบบ

นางแบบขณะเดินแบบบนเวที เวทีเดินแบบ (runway, catwalk, ramp) เป็นยกพื้นลักษณะแคบและราบซึ่งทอดตัวเข้าไปในห้องประชุมหรือทอดตัวอยู่ท่ามกลางส่วนต่าง ๆ ของบริเวณที่นั่งกลางแจ้ง สำหรับให้นางแบบหรือนายแบบเดินแสดงเสื้อผ้าหรือเครื่องประดับระหว่างการแสดงแฟชั่น การเดินแบบบนเวทีส่วนใหญ่จะจัดขึ้นภายในอาคารสำหรับกำบังลมฟ้าอากาศ แต่บางครั้งก็จัดแสดงกลางแจ้ง ในงานสัปดาห์แฟชั่นปารี..

ใหม่!!: เครื่องประดับและเวทีเดินแบบ · ดูเพิ่มเติม »

เอ็ด กีน

อ็ดเวิร์ด ทีโอดอร์ กีน (Edward Theodore Gein) หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ เอ็ด กีน (Ed Gein) เป็นฆาตกรฆ่าต่อเนื่องโรคจิตชาวอเมริกันที่มีชื่อเสียง.

ใหม่!!: เครื่องประดับและเอ็ด กีน · ดูเพิ่มเติม »

เจ้าจอมแว่น ในรัชกาลที่ 1

้าจอมแว่น หรือ เจ้าคุณจอมแว่น พระนามเดิมว่า เจ้านางคำแว่น หรือ อาชญานางคำแว่น บ้างออกพระนามว่า เจ้านางบัวตอง ชาวลาวและชาวอีสานนิยมออกคำลำลองพระนามว่า เจ้านางเขียวค้อม เป็นพระบรมวงศานุวงศ์จากนครเวียงจันทน์ อดีตนางพระกำนัลในพระอัครมเหสีของสมเด็จพระเจ้าสิริบุญสารแห่งเวียงจันทน์ ต่อมาได้รับการสถาปนาเป็นพระสนมเอกในพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช (รัชกาลที่ 1) ผู้รับใช้เบื้องพระยุคลบาทอย่างใกล้ชิด ตั้งแต่เมื่อครั้งรัชสมัยสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีจนผลัดราชวงศ์ใหม่ เจ้าจอมแว่นเป็นพระสนมเอกที่มีอิทธิพลต่อราชสำนักสยามฝ่ายในอย่างสูง จนชาววังได้ยกย่องให้เป็น เจ้าคุณข้างใน และถือเป็นเจ้าคุณองค์แรกในพระราชวงศ์จักรี อีกทั้งยังเป็นเจ้านายชั้นผู้ใหญ่ที่คอยอภิบาลสมเด็จพระเจ้าลูกเธอที่ยังทรงพระเยาว์อย่างเข้มงวด จนได้รับฉายาว่า คุณเสือ.

ใหม่!!: เครื่องประดับและเจ้าจอมแว่น ในรัชกาลที่ 1 · ดูเพิ่มเติม »

เข็มกลัดตรึง

็มกลัดตรึง หรือ เข็มกลัดฟิบิวลา (Fibula แปลว่า “กลัดติด” Yarwood (1986:180).) เป็นเข็มกลัดประดับโบราณ (brooch) ภาษาละติน “fibulae” มีความหมายเฉพาะว่าเป็นเข็มกลัดแบบโรมัน แต่ต่อมาความหมายของคำนี้ก็กว้างขึ้นจนครอบคลุมเข็มกลัดจากยุคโบราณทั้งหมด และ จากยุคกลางตอนต้น เข็มกลัดตรึงไม่เหมือนกับเข็มกลัดสมัยใหม่ที่ไม่แต่จะเป็นเครื่องตกแต่งเท่านั้นแต่ยังมีประโยชน์ใช้สอยที่รวมทั้งตรึงเสื้อผ้าให้ติดตัว ที่รวมทั้งเสื้อคลุมปล่อยชาย (cloak) เข็มกลัดฟิบิวลามาแทนที่เข็มกลัดตรงที่คล้ายไม้กลัดที่ใช้ในการเหน็บเสื้อผ้าในยุคหิน และ ยุคสำริด ต่อมาในยุคกลางเข็มกลัดฟิบิวลาก็มาแทนที่ด้วยกระดุม แต่เข็มกลัด (safety-pin) ที่แปลงมาจากเข็มกลัดฟิบิวลาก็ยังใช้สอยกันจนกระทั่งทุกวันนี้.

ใหม่!!: เครื่องประดับและเข็มกลัดตรึง · ดูเพิ่มเติม »

เข็มกลัดประดับ

็มกลัดประดับ (Brooch หรือ broach) หรือในสมัยโบราณเรียกว่า “เข็มกลัดตรึง” หรือ “เข็มกลัดฟิบิวลา” เป็นเครื่องประดับที่ทำด้วยอัญมณีที่ออกแบบเพื่อใช้ติดประดับเสื้อผ้า เข็มกลัดประดับมักจะทำด้วยโลหะที่มักจะเป็นเงิน หรือ ทอง แต่บางครั้งก็ทำด้วยสำริดหรือวัสดุอื่น เข็มกลัดประดับมักจะแตกแต่งด้วยเครื่องเคลือบหรืออัญมณี บางครั้งก็จะใช้สอยในการตกแต่งเท่านั้น หรือบางครั้งก็จะมีประโยชน์ใช้สอยด้วยเช่นใช้ในการตรึงเสื้อผ้าให้ติดตัว หรือ หรือสำหรับเสื้อคลุมปล่อยชาย (cloak) เข็มกลัดประดับแรกที่สุดมาจากยุคสำริด แต่เพราะลักษณะของเข็มกลัดประดับมักจะเปลี่ยนแปลงไปตามแฟชันทำให้กลายเป็นเครื่องมืออย่างหนึ่งในการใช้ระบุยุคสมัยในประวัติศาสตร.

ใหม่!!: เครื่องประดับและเข็มกลัดประดับ · ดูเพิ่มเติม »

เดอะซิมส์ 2 ทริปซ่าส์

ไม่มีคำอธิบาย.

ใหม่!!: เครื่องประดับและเดอะซิมส์ 2 ทริปซ่าส์ · ดูเพิ่มเติม »

เงินไซซี

งินไซซี เป็นเงินแท่งซึ่งมีแหล่งกำเนิดมาจากประเทศจีน โดยพ่อค้าชาวจีนนำเข้ามาเพื่อใช้ในการซื้อสินค้าเมื่อครั้งสมัยกรุงสุโขทัยเป็นราชธานี โดยอาณาเขตทางตอนเหนือของสุโขทัยคือ อาณาจักรล้านนาไทย มีเนื้อที่ครอบคลุมถึงจังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย ลำปาง และน่าน ก็มีเงินท้องถิ่นของตนใช้อยู่ ได้แก่ เงินกำไล เงินเจียง เงินดอกไม้ และเงินท้อก แต่เงินไซซีก็เป็นเงินตราอีกชนิดหนึ่งที่ได้รับการยอมรับและใช้เป็นสื่อกลางในการค้าขายในอาณาจักรล้านนาไทยในขณะนั้นด้ว.

ใหม่!!: เครื่องประดับและเงินไซซี · ดูเพิ่มเติม »

เต่ากระ

ต่ากระ หรือ เต่าปากเหยี่ยว (Hawksbill sea turtle) จัดอยู่ในไฟลัมสัตว์มีแกนสันหลังชั้นสัตว์เลื้อยคลาน และเป็นสิ่งมีชีวิตเพียงชนิดเดียวเท่านั้นที่อยู่ในสกุล Eretmochelys มีลักษณะคล้ายเต่าตนุ (Chelonia mydas) โดยที่เป็นเต่าทะเลขนาดกลาง มีลำตัวไม่ใหญ่มากนัก จะงอยปากแหลมงองุ้มคล้ายกับจะงอยปากของนกเหยี่ยว มีเกล็ดบริเวณหัวด้านหน้า 2 คู่ และเกล็ดบริเวณด้านข้างข้างละ 4 เกล็ด ลักษณะของกระดองมีลวดลายและสีสันสวยงาม ขอบกระดองเป็นหยักโดยรอบ ซึ่งในอดีตมักจะถูกนำไปทำเป็นเครื่องประดับและข้าวของต่าง ๆ เช่น หวี เมื่อโตเต็มที่ จะมีขนาดความยาวประมาณ 100 เซนติเมตร และมีน้ำหนักประมาณ 120 กิโลกรัม เต่ากระพบกระจายพันธุ์ในเขตอบอุ่นในมหาสมุทรทั่วทั้งโลก โดยมักอาศัยอยู่ใกล้ชายฝั่งที่สงบเงียบไม่มีการรบกวน จากการศึกษาพบว่า เต่ากระกินทั้งได้พืชและสัตว์ โดยใช้ปากที่งองุ้มนี้กินทั้งสาหร่ายทะเล, หญ้าทะเล รวมทั้งสัตว์น้ำประเภทต่าง ๆ รวมถึงปะการังด้วย วางไข่บนชายหาดครั้งละ 150-250 ฟอง จัดเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองประเภทที่ 1 ตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พุทธศักราช 2535 และจัดเป็น 1 ใน 4 ชนิดของเต่าทะเลที่พบได้ในน่านน้ำไท.

ใหม่!!: เครื่องประดับและเต่ากระ · ดูเพิ่มเติม »

เปลือกหอย

ปลือกหอยนานาชนิด เปลือกหอย หรือ ฝาหอย หรือ กาบหอย คือ สสารที่เป็นของแข็งที่ห่อหุ้มลำตัวภายนอกของสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังในไฟลัมมอลลัสคา หรือที่นิยมเรียกกันติดปากว่า หอย มีลักษณะแตกต่างกันออกไป ซึ่งหอยจะใช้เป็นเครื่องอำพรางอันตรายจากสัตว์อื่น เป็นสัญลักษณ์สื่อสารระหว่างกัน และช่วยควบคุมอุณหภูมิภายในเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงของกระแสน้ำ เปลือกหอยเป็นสิ่งที่ติดตัวกับหอยมานับตั้งแต่ยังเป็นตัวอ่อนและฟักออกมาจากไข่ โดยไม่ต้องลอกคราบเหมือนสัตว์ในไฟลัมอาร์โธพอดหรือ ครัสเตเชียน โดยขนาดจะใหญ่ขึ้นมาตามขนาดของตัวหอย เปลือกหอยประกอบด้วยสารจำพวกแคลเซียมคาร์บอเนตเป็นส่วนใหญ่ ส่วนที่เหลือเป็นสารอื่น ๆ เช่น แคลเซียมฟอสเฟต, แมกนีเซียมคาร์บอเนต, แมกนีเซียมฟอสเฟต, แมกนีเซียมซิลิเกต, โปรตีนประเภทคอนไคโอลิน เปลือกหอยแบ่งออกเป็น 3 ชั้น คือ.

ใหม่!!: เครื่องประดับและเปลือกหอย · ดูเพิ่มเติม »

ICD-10 บทที่ 20: สาเหตุภายนอกของการเจ็บป่วยและการตาย

ป็นบัญชีโรคย่อยหนึ่งจากบัญชีจำแนกทางสถิติระหว่างประเทศของโรคและปัญหาสุขภาพที่เกี่ยวข้อง ฉบับทบทวนครั้งที่ 10 (ICD-10) ซึ่งเป็นรหัสของโรคและอาการ อาการแสดง ความผิดปกติที่ตรวจพบ อาการนำ สภาพสังคม หรือสาเหตุภายนอกของการบาดเจ็บหรือโรค จัดทำขึ้นโดยองค์การอนามัยโลกโดยแล้วเสร็จในปี..

ใหม่!!: เครื่องประดับและICD-10 บทที่ 20: สาเหตุภายนอกของการเจ็บป่วยและการตาย · ดูเพิ่มเติม »

ขาออกขาเข้า
Hey! เราอยู่ใน Facebook ตอนนี้! »