เรากำลังดำเนินการเพื่อคืนค่าแอป Unionpedia บน Google Play Store
🌟เราได้ทำให้การออกแบบของเราง่ายขึ้นเพื่อการนำทางที่ดีขึ้น!
Instagram Facebook X LinkedIn

เมดูซาและแมงกะพรุนไฟ

ทางลัด: ความแตกต่างความคล้ายคลึงกันค่าสัมประสิทธิ์การเปรียบเทียบ Jaccardการอ้างอิง

ความแตกต่างระหว่าง เมดูซาและแมงกะพรุนไฟ

เมดูซา vs. แมงกะพรุนไฟ

ในเทพปกรณัมกรีก เมดูซาเป็นสัตว์ประหลาด กอร์กอน ทั่วไปอธิบายว่ามีใบหน้าหญิงมนุษย์น่ากลัวและมีงูพิษเป็น ๆ แทนผม การจ้องเธอโดยตรงจะเปลี่ยนผู้ดูให้เป็นหิน แหล่งข้อมูลส่วนมากอธิบายว่าเธอเป็นธิดาของฟอร์ซีสและซีโต เมดูซาถูกวีรบุรุษเพอร์ซิอัสตัดหัว จากนั้นเขาใช้ศีรษะเธอเป็นอาวุธ กระทั่งเขาถวายแด่เทพีอะธีนาซึ่งนำไปติดบนโล่ของพระนาง ในสมัยโบราณคลาสสิก ภาพศีรษะเมดูซาปรากฏในอุปกรณ์ขับไล่ความชั่วร้าย เรียก กอร์กะเนียน. แมงกะพรุนไฟ หรือ ตำแยทะเล เป็นสัตว์น้ำไม่มีกระดูกจำพวกแมงกะพรุนสกุลหนึ่ง ใช้ชื่อสกุลว่า Chrysaora (/ไคร-เซ-ออ-รา/) จัดอยู่ในชั้นแมงกะพรุนแท้ หรือไซโฟซัว โดยแมงกะพรุนไฟ มีลักษณะทั่วไปคล้ายร่ม แต่มีสีลำตัวและหนวดเป็นสีแดงสดหรือสีส้ม ด้านบนมีจุดสีขาวอยู่ทั่วไป สังเกตได้ง่าย ปากและหนวดยื่นออกมาทางด้านล่างหรือด้านท้อง เส้นหนวดมีจำนวนมากเป็นสายยาวกว่าลำตัว พบในทะเลทั้งบริเวณชายฝั่งและไกลฝั่ง ในช่วงฤดูมรสุมอาจพบได้ในเขตน้ำกร่อย จัดเป็นแมงกะพรุนที่มีพิษร้ายแรงมากอีกจำพวกหนึ่ง เมื่อโดนต่อยจากเข็มพิษแล้วจะมีอาการเจ็บปวดที่บริเวณบาดแผล จะมีอาการเจ็บ ปวดบริเวณบาดแผลอย่างรุนแรงภายในระยะเวลา 44 นาที บางครั้งอาจพบหนวดแมงกะพรุนขาดติดอยู่บนผิวสัมผัส ผิวหนังมีแนวผื่นแดง หรือรอยไหม้ ตามรอยหนวด ปวดแสบปวดร้อน บวมแดงจากการอักเสบและอาจเป็นหนองจากการติดเชื้อสำทับ อาการบวมแดงอาจหายไปได้ในเวลาไม่ช้า แต่รอยไหม้และรอยแผลเป็นที่เกิดขึ้นจะต้องใช้เวลารักษานานหลายปี หรืออยู่ถาวรตลอดไป นอกจากนี้อาจมีอาการไอ, น้ำมูกและน้ำตาไหล และอาการข้างเคียงอื่น ๆ เช่น เหงื่อออกมาก กล้ามเนื้อเป็นตะคริว, อ่อนเพลีย และหมดสติ จากการฉีดพิษที่สกัดจากแมงกะพรุนไฟเข้าไปในสัตว์ทดลองพบว่าทำให้การทำงานของตับและไตผิดปรกติ จนอาจเป็นอันตรายถึงตายได้ แต่ยังไม่มีรายงานว่าเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตมนุษย์ และผลที่ออกมาค่อนข้างทุกข์โศกพอสมควร โดยที่ชื่อวิทยาศาสตร์ของแมงกะพรุนไฟนั้น คือ Chrysaora มีที่มาจากเทพปกรณัมกรีก คือ ไครเซออร์ซึ่งเป็นโอรสของโปเซดอน เทพเจ้าแห่งท้องทะเลกับเมดูซ่า เป็นอนุชาของเพกาซัส โดยที่ชื่อนี้มีความหมายว่า "บุรุษผู้ถืออาวุธทองคำ".

ความคล้ายคลึงกันระหว่าง เมดูซาและแมงกะพรุนไฟ

เมดูซาและแมงกะพรุนไฟ มี 3 สิ่งที่เหมือนกัน (ใน ยูเนี่ยนพีเดีย): โพไซดอนไครเซออร์เพกาซัส

โพไซดอน

ซดอน (Poseidon,; Ποσειδών) เป็นหนึ่งในสิบสองเทพเจ้าโอลิมปัสในเทพปกรณัมกรีก พระราชอาณาเขตหลักคือมหาสมุทร และพระองค์ทรงได้รับขนานพระนามว่า "สมุทรเทพ" นอกจากนี้ พระองค์ยังทรงได้รับขนานพระนามว่า "ผู้เขย่าโลก" (Earth-Shaker) เนื่องจากบทบาทของพระองค์ในการก่อแผ่นดินไหว และ "ผู้กำราบม้า" (tamer of horses) พระองค์มักทรงถูกพรรณาเป็นบุรุษสูงวัย มีพระเกษาหยิกและพระมัสสุ (หนวด) แผ่นจารึกอักษรไลเนียร์บีแสดงว่า ที่ไพลอสและธีบส์กรีซยุคสำริดก่อนมีเทพเจ้าโอลิมปัสมีการบูชาโพไซดอนเป็นพระเจ้าหลัก แต่ภายหลังมีการรวมพระองค์เข้าเป็นพระเจ้าโอลิมปัสเป็นพระอนุชาของเฮดีสและพระเชษฐาของซูส ตำนานพื้นบ้านบางตำนานเล่าว่า เรีย พระมารดาของพระองค์ ช่วยพระองค์ไว้โดยซ่อนพระองค์ไว้กับฝูงแกะแล้วแสร้งทำเป็นว่าให้กำเนิดลูกลาออกมา เพื่อมิให้ถูกโครนัสกลืนกินIn the 2nd century AD, a well with the name of Arne, the "lamb's well", in the neighbourhood of Mantineia in Arcadia, where old traditions lingered, was shown to Pausanias.

เมดูซาและโพไซดอน · แมงกะพรุนไฟและโพไซดอน · ดูเพิ่มเติม »

ไครเซออร์

อร์ฟู ประเทศกรีซ ไครเซออร์ (Χρυσάωρ, Khrusaōr; Chrysaor; แปลว่า "ผู้มีอาวุธทองคำ") เป็นบุคคลในเทพปกรณัมกรีก เป็นบุตรของโพไซดอน (Poseidon) เจ้าสมุทร กับเมดูซา (Medusa) อสุรกาย และเป็นพี่ชายของเพกาซัส (Pegasus) ม้ามีปีก ไครเซออร์มักปรากฏรูปโฉมเป็นบุรุษหนุ่ม สำหรับกำเนิดของไครเซออร์นั้น ย้อนไปถึงคราวที่เมดูซาเป็นหญิงรูปงาม แต่ได้ดูหมิ่นอะทีนา (Athena) เทวีแห่งการยุทธ์ ด้วยการสังวาสกับโพเซดอนในวิหารอะทีนา เทวีจึงสาปนางเป็นอสุรกายมีผมเป็นอสรพิษ บางตำราว่า อะทีนายังสาปให้นางมีปีกสีทองงอกออกมาจากศีรษะด้วย ครั้นเพอร์ซิอัส (Perseus) วีรบุรุษ มาตัดศีรษะเมดูซาไปถวายพระเจ้าพอลีเดกทิส (Polydectes) แห่งเกาะเซรีฟอส (Serifos) โลหิตเมดูซาไหลร่วงลงมหาสมุทร และไครเซออร์กับม้าเพกาซัสก็ผุดขึ้นมาจากมหาสมุทรนั้น บางตำราว่า ทันทีที่เพอร์ซิอัสตัดศีรษะเมดูซา โลหิตกระเด็นจากคอนางออกมาเป็นไครเซออร์กับเพกาซัส เทพปกรณัมว่า ต่อมา ไครเซออร์ได้เป็นพระเจ้าแผ่นดินไอเบียเรีย (Iberia) ฮีเซียด (Hesiod) กวีกรีก บรรยายเกี่ยวกับไครเซออร์ไว้ในงานเขียนเรื่อง ทีโอโกนี (Theogony) ว่า "ไครเซออร์สมรสกับคอลลีร์โรอี (Callirrhoe) ธิดาโอซีอานัส (Oceanus) ผู้รุ่งเรือง แล้วให้กำเนิดเกเรียน (geryon) ยักษ์สามหัว ทว่า เกเรียนถูกปลิดชีพด้วยกำลังอันมากล้นของเฮราคลิส (Heracles) ท่ามกลางฝูงโคกระบือที่เกเรียนพาไปเดินทอดน่อง ณ เกาะสมุทรล้อมเอรีทีส (Erytheis) ในวันที่เฮราคลิสขับไล่วัวควายเหล่านั้นเข้าสู่เมืองทีรินซ์ (Tiryns) อันศักดิ์สิทธิ์ ข้ามผ่านกระแสชลโอเคียนอส (Okeanos) และประหารออร์ทอส (Orthos) กับโคบาลยูรีเชียน (Eurytion) ณ ชายทุ่งที่รกทึบเหนือทะเลโอเชียนอส (Oceanos) อันเลื่องชื่อ".

เมดูซาและไครเซออร์ · แมงกะพรุนไฟและไครเซออร์ · ดูเพิ่มเติม »

เพกาซัส

รูปสลักนูนต่ำ เบลเลโรฟอนปราบไคเมร่า ด้วยการขี่เพกาซัส เพกาซัส (Pegasus; กรีก: Πήγασος; เปกาซอส หมายถึง "แข็งแรง") เป็นสัตว์ในเทพปกรณัมกรีก เป็นม้าเพศผู้รูปร่างกำยำพ่วงพีสีขาวบริสุทธิ์ และมีปีกอันกว้างสง่างามเหมือนนกพิราบ เพกาซัสเกิดมาจากนางกอร์กอน เมดูซ่า ซึ่งถูกวีรบุรุษเพอร์ซิอุสฟันคอ ในขณะที่เลือดจากลำคอพุ่งกระเซ็นนั้น เพกาซัสก็กระโจนออกมาจากลำคอของนาง เพกาซัสเป็นพี่ของคริสซาออร์ ซึ่งก็เกิดมาหลังจากนั้น ไม่มีใครสามารถปราบเพกาซัสได้เลย ตอนที่เพกาซัสเกิดมาใหม่ ๆ และออกวิ่งอย่างคึกคะนองนั้น น้ำที่กระเซ็นจากรอยเท้าที่เพกาซัสวิ่งก่อให้เกิดน้ำพุสวยงามที่เหล่ากวีและศิลปินชื่นชมกันนักหนา คือ น้ำพุฮิปโปครีนี ที่เป็นที่รู้จักในวรรณคดีกรีกโบราณ ว่ากันว่า หากใครได้ดื่มน้ำพุนี้แล้ว โอกาสที่จะเป็นกวีเอกอยู่แค่เอื้อม นอกจากนี้แล้วเพกาซัสยังทำหน้าที่คอยเก็บสายฟ้าให้ซุส เพกาซัสโดนปราบโดยเด็กหนุ่มรูปงามชาวเมืองโครินทร์ คือ เบลเลอโรฟอน เบลเลอโรฟอนเป็นโอรสของกษัตริย์เมืองโครินท์ คือ กลอคุส ซึ่งต่อมาเบลเลอโรฟอนได้ขี่เพกาซัสปราบสัตว์ประหลาดร้ายไคเมร.

เพกาซัสและเมดูซา · เพกาซัสและแมงกะพรุนไฟ · ดูเพิ่มเติม »

รายการด้านบนตอบคำถามต่อไปนี้

การเปรียบเทียบระหว่าง เมดูซาและแมงกะพรุนไฟ

เมดูซา มี 10 ความสัมพันธ์ขณะที่ แมงกะพรุนไฟ มี 14 ขณะที่พวกเขามีเหมือนกัน 3, ดัชนี Jaccard คือ 12.50% = 3 / (10 + 14)

การอ้างอิง

บทความนี้แสดงความสัมพันธ์ระหว่าง เมดูซาและแมงกะพรุนไฟ หากต้องการเข้าถึงบทความแต่ละบทความที่ได้รับการรวบรวมข้อมูลโปรดไปที่: