โลโก้
ยูเนี่ยนพีเดีย
การสื่อสาร
ดาวน์โหลดได้จาก Google Play
ใหม่! ดาวน์โหลด ยูเนี่ยนพีเดีย บน Android ™ของคุณ!
ฟรี
เร็วกว่าเบราว์เซอร์!
 

ฝีรอบทอนซิล

ดัชนี ฝีรอบทอนซิล

ฝีรอบทอนซิล (peritonsillar abscess, quinsy, quinsey) เป็นภาวะแทรกซ้อนอย่างหนึ่งของทอนซิลอักเสบ ทำให้เกิดหนองคั่งเป็นฝีขึ้นที่ฐานของทอนซิล ในบริเวณที่เรียกว่าช่องว่างรอบทอนซิล (peritonsillar space) ผู้ป่วยจะมีอาการไข้ เจ็บคอ อ้าปากลำบาก และเสียงเปลี่ยน ส่วนใหญ่จะเจ็บมากเพียงข้างเดียว ภาวะแทรกซ้อนที่สำคัญคือการอุดกั้นทางเดินหายใจ และปอดอักเสบจากการสำลัก ส่วนใหญ่เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียบางชนิด โดยเฉพาะคอหอยอักเสบจากเชื้อสเตร็ปโตค็อกคัส ส่วนใหญ่จะไม่เกิดในผู้ที่เคยตัดทอนซิลออกไปแล้ว การวินิจฉัยทำได้โดยดูจากประวัติและผลการตรวจร่างกาย บางครั้งอาจจำเป็นต้องถ่ายภาพรังสีเพื่อตรวจหาภาวะแทรกซ้อนในกรณีที่สงสัย การรักษาทำได้โดยการผ่าตัดเอาหนองออกจากฝี ให้ยาปฏิชีวินะ สารน้ำ และยาแก้ปวดลดไข้ บางครั้งอาจต้องใช้สเตียรอยด์ร่วมด้วย ส่วนใหญ่ไม่จำเป็นต้องนอนรักษาในโรงพยาบาล ในสหรัฐอเมริกาพบผู้ป่วยประมาณ 3 ต่อ 10,000 คน-ปี ผู้ป่วยส่วนใหญ่เป็นวัยผู้ใหญ่ตอนต้น.

10 ความสัมพันธ์: ฝากล่องเสียงอักเสบฝียาปฏิชีวนะสเตอรอยด์หนองทอนซิลอักเสบคอหอยอักเสบจากเชื้อสเตร็ปโตค็อกคัสแบคทีเรียโรคติดเชื้อโมโนนิวคลีโอซิสไข้

ฝากล่องเสียงอักเสบ

ฝากล่องเสียงอักเสบ (epiglottitis) เป็นการอักเสบของฝากล่องเสียง (epiglottis) ซึ่งเป็นแผ่นฝาที่สุดโคนลิ้น มีหน้าที่คอยกั้นไม่ให้อาหารหล่นลงไปยังหลอดลม จากตำแหน่งนี้หากฝากล่องเสียงบวมจะมีการขัดขวางการหายใจ เป็นภาวะฉุกเฉินทางการแพทย์.

ใหม่!!: ฝีรอบทอนซิลและฝากล่องเสียงอักเสบ · ดูเพิ่มเติม »

ฝี

ฝี เป็นกลุ่มของหนองซึ่งเป็นซากเม็ดเลือดขาวชนิดนิวโตรฟิล (neutrophil) ที่ตายแล้วสะสมอยู่ภายในโพรงของเนื้อเยื่อซึ่งเป็นกระบวนการของการติดเชื้อ มักมีสาเหตุมาจากเชื้อแบคทีเรียหรือปรสิต หรือเกิดจากสิ่งแปลกปลอมภายนอกอื่นๆ เช่น เศษวัสดุ กระสุน หรือเข็มทิ่ม ฝีเป็นกระบวนการตอบสนองของเนื้อเยื่อในร่างกายต่อเชื้อโรคเพื่อจำกัดการแพร่กระจายไม่ให้ไปยังส่วนอื่นๆ ของร่างกาย จุลชีพก่อโรคหรือสิ่งแปลกปลอมที่เข้ามาในร่างกายจะมีการทำลายเซลล์ที่ตำแหน่งนั้น ทำให้เกิดการหลั่งสารพิษ สารพิษจะกระตุ้นกระบวนการอักเสบ ซึ่งทำให้มีเม็ดเลือดขาวจำนวนมากเข้ามาในบริเวณที่เชื้อโรคบุกรุกและเกิดการไหลเวียนของเลือดในบริเวณนั้นมากขึ้น โครงสร้างของฝีภายนอกจะประกอบด้วยผนังหรือแคปซูลล้อมรอบ ซึ่งเกิดจากเซลล์ปกติข้างเคียงมาล้อมเพื่อจำกัดไม่ให้หนองไปติดต่อยังส่วนอื่นๆ อย่างไรก็ตามแคปซูลที่ล้อมรอบโพรงหนองนั้นอาจทำให้เซลล์ในระบบภูมิคุ้มกันไม่สามารถเข้ามากำจัดเชื้อแบคทีเรียหรือจุลชีพก่อโรคในหนองนั้นได้ ฝีมีความแตกต่างจากหนองขัง (empyema) ในแง่ที่ว่าหนองขังเป็นกลุ่มของหนองในโพรงที่มีมาก่อนอยู่แล้ว แต่ฝีเป็นโพรงหนองที่สร้างขึ้นมาภายหลังการติดเชื้อ.

ใหม่!!: ฝีรอบทอนซิลและฝี · ดูเพิ่มเติม »

ยาปฏิชีวนะ

การดื้อยาปฏิชีวนะในกลุ่มเพนิซิลลินอย่างรุนแรง ยาปฏิชีวนะ (Antibiotics จากภาษากรีซโบราณ αντιβιοτικά, antiviotika) หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า ยาฆ่าเชื้อแบคทีเรีย (Antibacterials) เป็นกลุ่มย่อยของยาอีกกลุ่มหนึ่งในกลุ่มยาต้านจุลชีพ (Antimicrobial drugs) ซึ่งเป็นยาที่ถูกใช้ในการรักษาและป้องกันการติดเชื้อแบคทีเรีย โดยอาจออกฤทธิ์ฆ่าหรือยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียอย่างใดอย่างหนึ่งหรือทั้งสอง ยาปฏิชีวนะบางชนิดอาจมีคุณสมบัติเป็นมีคุณสมบัติเป็นสารต้านโพรโทซัวได้ เช่น เมโทรนิดาโซล ทั้งนี้ ยาปฏิชีวนะไม่มีฤทธิ์ในการต้านไวรัสที่เป็นสาเหตุของโรคต่างๆ เช่น ไข้หวัด หรือ ไข้หวัดใหญ่ เป็นต้น โดยยาที่มีฤทธิ์ต่อเชื้อไวรัสจะถูกจัดอยู่ในกลุ่มยาต้านไวรัส ซึ่งเป็นกลุ่มย่อยอีกกลุ่มหนึ่งของยาต้านจุลชีพ ในบางครั้ง คำว่า ยาปฏิชีวนะ (ซึ่งหมายถึง "การต่อต้านชีวิต") ถูกนำมาใช้เพื่อสื่อความถึงสารใดๆที่นำมาใช้เพื่อต้านจุลินทรีย์ ซึ่งมีความหมายเดียวกันกับคำว่า ยาต้านจุลชีพ บางแหล่งมีการใช้คำว่า ยาปฏิชีวนะ และ ยาฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ในความหมายที่แยกจากกันไป โดยคำว่า ยา (สาร) ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย จะสื่อความถึง สบู่ และน้ำยาฆ่าเชื้อ ขณะที่คำว่า ยาปฏิชีวนะ จะหมายถึงยาที่ใช้ในทางการแพทย์เพื่อฆ่าเชื้อแบคทีเรีย การพัฒนายาปฏิชีวนะเริ่มต้นในช่วงศตวรรษที่ 20 พร้อมกับการพัฒนาเรื่องการให้วัคซีนเพื่อป้องกันโรคจากเชื้อจุลชีพต่างๆ การเกิดขึ้นของยาปฏิชีวนะนำมาซึ่งการกำจัดโรคติดเชื้อแบคทีเรียต่างๆ ออกไปหลายชนิด เช่น กรณีของวัณโรคที่ระบาดในประเทศกำลังพัฒนา อย่างไรก็ตาม ด้วยประสิทธิภาพที่ดีและการเข้าถึงยาที่ง่ายนำไปสู่การใช้ยาปฏิชีวนะในทางที่ผิด พร้อมๆกับการที่แบคทีเรียมีการพัฒนาจนกลายพันธุ์เป็นเชื้อแบคทีเรียที่ดื้อต่อยาปฏิชีวนะ ปัญหาดังข้างต้นได้แพร่กระจายเป็นวงกว้าง จนเป็นปัญหาสำคัญของการสาธารณสุขในทุกประเทศทั่วโลก จนองค์การอนามัยโลก (World Health Organization) ได้ประกาศให้ปัญหาการดื้อยาของเชื้อแบคทีเรียเป็น "ปัญหาสำคัญเร่งด่วนที่สุดที่เกิดขึ้นในทุกภูมิภาคทั่วโลกและทุกคนล้วนจะต้องได้รับผลกระทบจากปัญหานี้ ไม่ว่าวัยใด หรือประเทศใดก็ตาม".

ใหม่!!: ฝีรอบทอนซิลและยาปฏิชีวนะ · ดูเพิ่มเติม »

สเตอรอยด์

ตอรอยด์ (อังกฤษ: steroid) เป็นลิพิดที่มีคุณสมบัติพิเศษ โดยที่โครงสร้างคาร์บอนจะเป็นวงแหวน 4 วงเชื่อมต่อกัน ความแตกต่างของชนิดสเตอรอยด์จะผันแปรไปตามฟังก์ชันนัลกรุป (functional group) ที่ติดอยู่กับวงแหวนเหล่านี้ มีสเตอรอยด์แตกต่างกันนับร้อยชนิดที่สามารถตรวจพบในพืชและสัตว์ ตัวอย่างบทบาทสำคัญของสเตอรอยด์ในสิ่งมีชีวิตส่วนใหญ่คือ ฮอร์โมน Steroid skeleton. Carbons 18 and above can be absent. ในสรีรวิทยาและการแพทย์ของมนุษย์ สารสเตอรอยด์ที่สำคัญส่วนใหญ่ คือ คอเลสเตอรอล, สเตอรอยด์, ฮอร์โมน และสารตั้งต้น (precursor) และเมแทบอไลต์ คอเลสเตอรอลเป็นสารประกอบประเภท สเตอรอยด์แอลกอฮอล์ ซึ่งเป็นส่วนประกอบของเยื่อหุ้มเซลล์ในสัตว์ แต่อย่างไรก็ดี ถ้ามันมีปริมาณมากเกินไปจะทำให้เกิดโรค และภาวะผิดปกติมากมาย เช่น ภาวะผนังเส้นโลหิตแดงหนาและมีความยึดหยุ่นน้อยลง (atherosclerosis) สเตอรอยด์อื่นส่วนใหญ่ถูกสังเคราะห์จาก คอเลสเตอรอลฮอร์โมนต่าง ๆ เช่น ฮอร์โมนเพศของสัตว์มีกระดูกสันหลัง (vertebrate) ก็เป็นสเตอรอยด์ที่สร้างจากคอเลสเตอรอล สเตอรอยด์แบ่งเป็นประเภทต่าง ๆ ดังนี้.

ใหม่!!: ฝีรอบทอนซิลและสเตอรอยด์ · ดูเพิ่มเติม »

หนอง

หนอง อาจหมายถึง.

ใหม่!!: ฝีรอบทอนซิลและหนอง · ดูเพิ่มเติม »

ทอนซิลอักเสบ

ทอนซิลอักเสบ (Tonsillitis) เป็นการอักเสบของต่อมทอนซิลที่มักพบได้ทั่วไปและบ่อยครั้ง ผู้ป่วยอาจมีอาการเจ็บคอและเป็นไข้ร่วมด้วย มักมีสาเหตุมาจากการติดเชื้อไวรัสหรือแบคทีเรีย ซึ่งแบคทีเรียที่พบในอาการนี้ ส่วนมากเป็นแบคทีเรียชนิด Streptococcus pyogenes ทั้งนี้หากปราศจากการรักษา ในผู้ป่วย 40% อาการจะบรรเทาลงเองภายในสามวัน และในผู้ป่วย 85% อาการจะบรรเทาลงเองภายในหนึ่งสัปดาห.

ใหม่!!: ฝีรอบทอนซิลและทอนซิลอักเสบ · ดูเพิ่มเติม »

คอหอยอักเสบจากเชื้อสเตร็ปโตค็อกคัส

อหอยอักเสบจากเชื้อสเตร็ปโตค็อกคัส หรือ เจ็บคอสเตร็ปโธรท (Strep throat) เป็นการอักเสบที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรียที่มีชื่อว่า สเตรปโตค็อกคัส กลุ่มเอ (Group A streptococcus) สเตรปโธรทส่งผลกระทบต่อคอ ต่อมทอนซิล (ต่อมรูปวงรีสองต่อมในลำคอ ซึ่งอยู่ด้านหลังของปาก) และอาจส่งผลต่อกล่องเสียง (หลอดเสียง) อาการที่พบบ่อย ได้แก่ มีไข้ เจ็บคอ และต่อม (หรือที่เรียกว่าต่อมน้ำเหลือง) ในลำคอบวม สเตรปโธรทเป็นสาเหตุของอาการเจ็บคอคิดเป็นร้อยละ 37 ในกลุ่มผู้ป่วยเด็ก การเจ็บคอสเตรปโธรท สามารถเกิดการติดต่อได้โดยการคลุกคลีใกล้ชิดกับผู้ป่วย หากต้องการตรวจสอบให้แน่ใจว่าผู้ป่วยนั้นๆ ป่วยเป็นเจ็บคอสเตรปโธรท ก็ต้องใช้การทดสอบที่เรียกว่าการเพาะเชื้อ (throat culture) จากสารคัดหลั่งในลำคอ อย่างไรก็ดี แม้ว่าจะไม่มีการทดสอบนี้การวินิจฉัยโรคก็อาจทำได้จากพื้นฐานอาการของโรค ในกรณีที่ผู้ป่วยมีแนวโน้มของโรคหรือเป็นโรคอย่างแน่นอน ก็สามารถใช้ยาปฏิชีวนะ (ยาที่ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย) เพื่อป้องกันไม่ให้โรครุนแรงยิ่งขึ้นและหายจากโรคได้เร็วขึ้น.

ใหม่!!: ฝีรอบทอนซิลและคอหอยอักเสบจากเชื้อสเตร็ปโตค็อกคัส · ดูเพิ่มเติม »

แบคทีเรีย

แบคทีเรีย หรือ บัคเตรี เป็นประเภทของสิ่งมีชีวิตประเภทใหญ่ประเภทหนึ่ง มีขนาดเล็ก มองด้วยตาเปล่าไม่เห็น ส่วนใหญ่มีเซลล์เดียว และมีโครงสร้างเซลล์ที่ไม่ซับซ้อนมาก และโดยทั่วไปแบคทีเรียแบ่งได้หลายรูปแ.

ใหม่!!: ฝีรอบทอนซิลและแบคทีเรีย · ดูเพิ่มเติม »

โรคติดเชื้อโมโนนิวคลีโอซิส

รคติดเชื้อโมโนนิวคลีโอซิส (infectious mononucleosis, IM) หรือ โมโน เป็นโรคติดเชื้อชนิดหนึ่ง เกิดจากการติดเชื้อไวรัสเอ็ปสไตน์-บาร์หรืออีบีวี ผู้ป่วยส่วนใหญ่เป็นผู้ป่วยเด็ก ซึ่งมักมีอาการไม่รุนแรง หากผู้ป่วยเป็นวัยรุ่นหรือผู้ใหญ่ตอนต้น มักมีอาการไข้ เจ็บคอ ต่อมน้ำเหลืองที่คอโต และอ่อนเพลีย อาการมักดีขึ้นภายใน 2-4 สัปดาห์ แต่อาจอ่อนเพลียต่อได้หลายเดือน บางรายมีตับโตหรือม้ามโตร่วมด้วย อาจพบการฉีดขาดของม้ามได้ แต่พบน้อย ไม่ถึง 1% เชื้อทีเป็นสาเหตุหลักของโรคนี้คือเชื้อไวรัสเอ็ปสไตน์-บาร์หรืออีบีวี มีอีกชื่อว่าไวรัสเฮอร์ปีส์ในมนุษย์ ชนิดที่ 4 ซึ่งอยู่ในแฟมิลีไวรัสเฮอร์ปีส์ นอกจากนี้ยังมีเชื้ออื่นอีกแต่พบไม่บ่อย ส่วนใหญ่ติดต่อผ่านทางน้ำลาย ช่องทางอื่นที่พบได้น้อยคือทางน้ำอสุจิและทางเลือด ผู้ป่วยอาจติดเชื้อผ่านการสัมผัสวัตถุที่ปนเปื้อน เช่น แก้วน้ำ แปรงสีฟัน ผู้ติดเชื้อสามารถแพร่เชื้อได้ตั้งแต่ 1 สัปดาห์ ก่อนเริ่มแสดงอาการ การวินิจฉัยทำได้โดยดูจากอาการเป็นหลัก บางครั้งอาจจำเป็นต้องตรวจยืนยันโดยการตรวจหาแอนติบอดีในเลือด ผลการตรวจนับเม็ดเลือดมักพบว่ามีเม็ดเลือดขาวชนิดลิมโฟซัยต์สูงกว่าปกติ โดยเป็นลิมโฟซัยต์แบบผิดปกติ (atypical) มากกว่า 10% ในสมัยก่อนเคยมีชุดตรวจสำเร็จรูปเช่น monospot แต่ปัจจุบันไม่แนะนำให้ใช้แล้ว เนื่องจากมีความแม่นยำต่ำ ยังไม่มีวัคซีนที่ใช้ป้องกันเชื้อนี้ การป้องกันโรคยังคงเน้นไปที่การงดใช้สิ่งของส่วนตัวร่วมกัน และงดจูบกับผู้ป่วย ผู้ป่วยมักมีอาการดีขึ้นได้เอง การรักษาเป็นการบรรเทาอาการและการรักษาประคับประคองโดยทั่วไป ได้แก่ การดื่มน้ำ พักผ่อนให้เพียงพอ ใช้ยาแก้ปวดลดไข้เพื่อบรรเทาอาการไข้และอาการปวด เช่น พาราเซตามอล หรือไอบูโปรเฟน ในกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว ผู้ป่วยส่วนใหญ่จะเป็นวัยรุ่นถึงวัยผู้ใหญ่ตอนต้นอายุประมาณ 15-24 ปี ส่วนในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาผู้ป่วยส่วนใหญ่จะเป็นเด็กเล็ก ซึ่งมักมีอาการไม่รุนแรง หากพิจารณาเฉพาะกลุ่มผู้ป่วยอายุ 16-20 ปี ที่มีอาการเจ็บคอ จะพบว่ามีสาเหตุจากโรคนี้ราว 8% ในสหรัฐอเมริกาพบผู้ป่วยโรคนี้ประมาณ 45 ต่อประชากรแสนคน คนทั่วไปราว 95% จะเคยมีการติดเชื้ออีบีวีมาก่อน โรคนี้พบได้ตลอดปี ได้รับการบรรยายรายละเอียดของโรคเป็นครั้งแรกเมื่อช่วงปี..

ใหม่!!: ฝีรอบทอนซิลและโรคติดเชื้อโมโนนิวคลีโอซิส · ดูเพิ่มเติม »

ไข้

้ หรือ อาการตัวร้อน ปรับปรุงเมื่อ 6..

ใหม่!!: ฝีรอบทอนซิลและไข้ · ดูเพิ่มเติม »

เปลี่ยนเส้นทางที่นี่:

Peritonsillar abscessQuinseyQuinsy

ขาออกขาเข้า
Hey! เราอยู่ใน Facebook ตอนนี้! »