โลโก้
ยูเนี่ยนพีเดีย
การสื่อสาร
ดาวน์โหลดได้จาก Google Play
ใหม่! ดาวน์โหลด ยูเนี่ยนพีเดีย บน Android ™ของคุณ!
ฟรี
เร็วกว่าเบราว์เซอร์!
 

มิดเดิลเวท

ดัชนี มิดเดิลเวท

มิดเดิลเวท (Middleweight) เป็นพิกัดน้ำหนักมวยในระดับกลาง นักมวยที่จะชกในพิกัดนี้จะต้องมีน้ำหนักมากกว่า 154 ปอนด์ (69.853 กิโลกรัม) และไม่เกิน 160 ปอนด์ (72.576 กิโลกรัม) โดยรุ่นมิดเดิลเวทนี้ ได้ถือกำเนิดขึ้นในปี ค.ศ. 1850 พร้อมกับพิกัดน้ำหนักไลท์เวท และเฮฟวี่เวท ด้วย ในแวดวงมวยสากลนั้นมีนักมวยในพิกัดมิดเดิลเวทนี้มากมาย จัดเป็นพิกัดที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะในช่วงกลางทศวรรษที่ 80 ใน ชูการ์ เรย์ เลียวนาร์ด, โธมัส เฮิร์นส์, โรแบร์โต้ ดูรัน และมาร์วิน แฮ็กเลอร์ ได้ชื่อว่าเป็น "สี่ทหารเสือแห่งรุ่นกลาง" โดยทั้ง 4 นั้นจะวนเวียนชกกันทั้งหมดในพิกัดนี้หรือใกล้เคียง นอกจากนั้นแล้วก็ยังมีนักมวยอีกหลายรายที่มีชื่อเสียงที่ชกในพิกัดนี้ทั้งในอดีตและปัจจุบัน ได้แก่ ร็อคกี้ กราเซียโน่, เจค ลาม็อตตา, กัง แซชุล, สมพงษ์ เวชสิทธิ์, สมเดช ยนตรกิจ, อภิเดช ศิษย์หิรัญ, รอย โจนส์ จูเนียร์, เบอร์นาร์ด ฮอปกินส์, ออสการ์ เดอ ลา โฮยา, เฟลิกซ์ ทรินิแดด, เกนนาดี้ โกลอฟกิ้น, มิเกล คอตโต เป็นต้น ในส่วนของมวยสากลสมัครเล่นของไทยนั้น ยังไม่มีใครประสบความสำเร็จถึงการคว้าเหรียญทองในระดับโอลิมปิก ที่ประสบความสำเร็จสูงสุด คือ สุริยา ปราสาทหินพิมาย ที่ได้รับเหรียญทองแดง ในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก ที่กรุงเอเธนส์ ประเทศกรีซ เมื่อปี ค.ศ. 2004.

28 ความสัมพันธ์: ชูการ์ เรย์ เลนเนิร์ดพ.ศ. 2393พ.ศ. 2540พ.ศ. 2547กัง แซชุลกิโลกรัมมวยมวยสากลมาร์วิน แฮ็กเลอร์มีเกล กอตโตรอย โจนส์ จูเนียร์สมพงษ์ เวชสิทธิ์สมเดช ยนตรกิจสยามสปอร์ตซินดิเคทสุริยา ปราสาทหินพิมายอภิเดช ศิษย์หิรัญออสการ์ เดอ ลา โฮยาคริสต์ทศวรรษ 1980ประเทศกรีซน้ำหนักโรเบร์โต ดูรันโอลิมปิกฤดูร้อนโอลิมปิกฤดูร้อน 2004โธมัส เฮิร์นส์ไลท์เวทเบอร์นาร์ด ฮอปกินส์เอเธนส์เฮฟวี่เวท

ชูการ์ เรย์ เลนเนิร์ด

การชกครั้งแรกระหว่าง เลนเนิร์ด กับ ดูรัน ซึ่งเลนเนิร์ดเป็นฝ่ายแพ้คะแนน 15 ยก เสียแชมป์โลกและเป็นการแพ้ครั้งแรก ชูการ์ เรย์ ลีโอนาร์ด (Sugar Ray Leonard) (มักจะอ่านผิดเป็น เลนเนิร์ด) ยอดนักชกชาวอเมริกันในทศวรรษที่ 80 เจ้าของตำแหน่งแชมเปี้ยนโลก 5 รุ่น มีชื่อจริงว่า เรย์ ชาเลส ลีโอนาร์ด (Ray Charles Leonard) เกิดเมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม ค.ศ. 1956 ที่เมืองวิลมิงตัน รัฐเซาท์แคโรไลนา ลีโอนาร์ดเริ่มการชกมวยจากมวยสากลสมัครเล่นมาก่อน จนได้เป็นตัวแทนทีมชาติสหรัฐอเมริกาชกโอลิมปิคที่มอนทรีออล ประเทศแคนาดา และชนะเลิศได้เหรียญทองในรุ่นไลท์เวลเตอร์เวท จากนั้นเลนเนิร์ดเริ่มต้นการชกมวยสากลอาชีพเป็นครั้งแรกในปีถัดมา จากการเทรนของ แองเจโล่ ดันดี เทรนเนอร์ระดับโลก อดีตเทรนเนอร์ของ มูฮัมหมัด อาลี จนได้ชิงแชมป์โลกครั้งแรกเมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน ค.ศ. 1979 ในรุ่นเวลเตอร์เวทของสภามวยโลก (WBC) กับ วิลเฟรด เบนิเตซ นักมวยชาวเปอร์โตริกัน ที่ลาสเวกัส ผลการชกเลนเนิร์ดชนะคะแนน 15 ยก ได้เป็นแชมป์โลกรุ่นแรก และเลนเนิร์ดก็สามารถป้องกันตำแหน่งไว้ได้ 1 ครั้ง เมื่อชนะน็อก เดวีย์ กรีน ยกที่ 4 จากนั้น ก็เป็นฝ่ายแพ้คะแนน 15 ยก แก่ โรแบร์โต้ ดูรัน นักมวยจอมตะลุยชาวปานาเมียน เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน ค.ศ. 1980 ที่มอนทรีออล แต่อีก 5 เดือนถัดมา เลนเนิร์ดก็เป็นฝ่ายเอาชนะดูรันแย่งแชมป์โลกกลับคืนมาได้ โดยที่ดูรันเป็นฝ่ายขอยอมแพ้เอง เลนเนิร์ดคว้าแชมป์โลกในรุ่นที่ 2 โดยการเอาชนะน็อกยก 9 อายุบ คาลูเล่ เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน ค.ศ. 1981 ได้เป็นแชมป์โลกรุ่นจูเนียร์มิดเดิลเวท ของสมาคมมวยโลก (WBA) แต่ไม่ได้ชกป้องกันตำแหน่งกับใครเลย เพราะเลนเนิร์ดต้องการที่จะชกกับ โธมัส เฮิร์นส์ อีกหนึ่งยอดนักชกที่กำลังมีฟอร์มร้อนแรงในขณะนั้น ซึ่งเฮิร์นส์เป็นเจ้าของแชมป์โลกเวลเตอร์เวท สมาคมมวยโลก จึงเป็นการล้มแชมป์เวลเตอร์สองสถาบัน ระหว่าง เลนเนิร์ด แชมป์ สภามวยโลก(WBC) สามารถชนะน็อกยก 14 เฮิร์นส์ได้ที่ซีซาร์ พาเลซ ลาสเวกัส ทำให้เลนเนิร์ดได้เป็นแชมป์โลกพร้อมกันถึง 2 สถาบัน จากนั้นเลนเนิร์ดก็ประกาศแขวนนวมไปเมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน ค.ศ. 1982 แต่แล้วในวันที่ 11 พฤษภาคม ค.ศ. 1985 เลนเนิร์ดก็หวนกลับคืนสู่วงการมวยอีกครั้ง โดยการชนะน็อกยก 9 เควิน โฮเวิร์ด นักมวยรุ่นน้องชาติเดียวกัน แม้จะเอาชนะน็อกได้ แต่ในครั้งนี้เลนเนิร์ดได้ถูกหมัดของโฮเวิร์ดชกลงไปให้กรรมการนับก่อนเป็นครั้งแรกในชีวิตการชกมวยด้วย หลังจากการชกครั้งนี้ เลนเนิร์ดก็ประกาศแขวนนวมอีกครั้ง คราวนี้ยาวนานถึง 3 ปี แล้วจู่ ๆ เลนเนิร์ดก็กลับมาชกมวยอีกครั้ง โดยไม่ได้อุ่นเครื่องกับใครเลย และท้าชิงแชมป์โลกในรุ่นมิดเดิลเวท สภามวยโลก กับ มาร์วิน แฮ็กเลอร์ ยอดนักชกอีกคนหนึ่งในรุ่นกลางของทศวรรษที่ 80 การชกกันของทั้งคู่ดำเนินไปจนถึงยกสุดท้าย ผลการชกปรากฏว่ากรรมการรวมคะแนนแล้วตัดสินให้เลนเนิร์ดเป็นฝ่ายชนะคะแนนไปโดยไม่เอกฉันท์ ทำให้เลนเนิร์ดได้ตำแหน่งแชมป์โลกในรุ่นที่ 3 แต่มีหลายความเห็นเห็นว่าแฮ็กเลอร์น่าจะเป็นฝ่ายชนะมากกว่า หลังจากชกครั้งนี้ มาร์วิน แฮ็กเลอร์ ก็ได้แขวนนวมไปอย่างถาวร โดยที่ไม่กลับมาชกมวยอีกเลย สำหรับลีโอนาร์ดแล้ว ในครั้งต่อมาได้สร้างความประหลาดมากในวงการมวยโลก เมื่อขอขึ้นชกเดิมพันตำแหน่งแชมป์โลกพร้อมกันถึง 2 รุ่น กับ ดอน ลาดอนเด้ นักมวยชาวแคนาเดี้ยน โดยเป็นการชิงแชมป์โลกรุ่นซูเปอร์มิดเดิลเวท สภามวยโลกที่ว่างอยู่ และชิงแชมป์โลกรุ่นไลท์เฮฟวี่เวท สภามวยโลก ที่ลาดอนเด้เป็นแชมป์โลกอยู่ด้วย ซึ่งการชกในแบบนี้เป็นการชกในครั้งแรกและครั้งเดียวตราบจนถึงทุกวันนี้ของวงการมวยโลก ผลการชกปรากฏว่า เลนเนิร์ดเป็นฝ่ายเอาชนะน็อกยก 9 ลาดอนเด้ ไปได้ ซึ่งทำให้เลนเนิร์ดเป็นนักมวยคนที่ 2 ของโลกที่ได้แชมป์โลกถึง 5 รุ่น หลังการได้แชมป์โลกรุ่นซูเปอร์มิดเดิลเวท ขององค์กรมวยโลก (WBO) ของ โธมัส เฮิร์นส์ เพียง 3 วันเท่านั้น จากนั้นลีโอนาร์ดก็สละตำแหน่งแชมป์โลกไลท์เฮฟวี่เวท ในอีก 8 วันต่อมา และชกป้องกันตำแหน่งแชมป์โลกซูเปอร์มิดเดิลเวท เอาไว้ 2 ครั้ง โดยเสมอกับ โธมัส เฮิร์นส์ 12 ยก ในแบบที่ลีโอนาร์ดน่าจะแพ้มากกว่า เพราะลีโอนาร์ดถูกเฮิร์นส์ชกลงไปให้กรรมการนับ 8 ถึง 2 ครั้ง และอีกครั้งเมื่อเอาชนะคะแนน โรแบร์โต้ ดูรัน ไปได้ ก่อนจะแขวนนวมอีกครั้งในเดือนสิงหาคม ค.ศ. 1990 9 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1991 ลีโอนาร์ดก็กลับมาชิงแชมป์โลกอีกครั้งในรุ่นซูเปอร์เวลเตอร์เวท สภามวยโลก กับ เทอร์รี่ นอริส นักมวยอันตรายรุ่นน้องร่วมชาติ คราวนี้ลีโอนาร์ดถูกนอริสถลุงอย่างหนัก และเป็นฝ่ายแพ้คะแนนไปอย่างขาดลอย และประกาศแขวนนวมอีกครั้ง ซึ่งครั้งนี้ไม่มีใครคิดว่าลีโอนาร์ดจะกลับมาชกมวยอีกแล้วอย่างแน่นอน แต่เมื่อหลายปีผ่านไป ในวันที่ 1 มิถุนายน ค.ศ. 1997 ลีโอนาร์ดก็หวนกลับมาสู่สังเวียนมวยอีกครั้ง โดยครั้งนี้พบกับ เฮคเตอร์ คามาโช่ นักมวยจอมลีลาชาวเปอร์โตริกัน ซึ่งในขณะนั้นคามาโช่เองก็อยู่ในปลายๆ ชีวิตการชกมวยแล้วเหมือนกัน ผลการชกลีโอนาร์ดไม่อาจสู้อะไรได้กับคามาโช่เลย และถูกถล่มอยู่ฝ่ายเดียวจนแพ้น็อกไปในยกที่ 5 เท่านั้น ในแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อนในชีวิต ซึ่งนี่คือการชกมวยครั้งสุดท้ายในชีวิตของลีโอนาร์ดอีกด้วย ชูการ์ เรย์ ลีโอนาร์ด (Sugar Ray Leonard) ได้ชื่อว่าเป็นยอดนักมวยในรุ่นกลางในทศวรรษที่ 80 ร่วมกับ โธมัส เฮิร์นส์, โรแบร์โต้ ดูรัน และ มาร์วิน แฮ็กเลอร์ ได้รับการยอมรับว่าเป็นนักมวยที่ชกอย่างชาญฉลาด ลีโอนาร์ดไม่ใช่นักมวยประเภทหมัดหนักหรือบู๊ล้างผลาญ หากแต่เป็นมวยที่มีชั้นเชิงลีลา แต่ในหลายครั้งก็สามารถเอาชนะน็อกคู่ต่อสู้ได้อย่างเด็ดขาด ซึ่งชื่อหน้าคำว่า "ชูการ์ เรย์" นั้น ลีโอนาร์ดนำมาจากชื่อของ ชูการ์ เรย์ โรบินสัน ยอดนักมวยในรุ่นมิดเดิลเวทกลางทศวรรษที่ 50 ซึ่งในปี ค.ศ. 2005 ได้ถูกจัดให้เป็นนักมวยที่เก่งที่สุดในโลกตลอดกาล และในส่วนของลีโอนาร์ดนั้น เขาถูกจัดให้อยู่ในอันดับ 6 ด้วยเช่นกัน.

ใหม่!!: มิดเดิลเวทและชูการ์ เรย์ เลนเนิร์ด · ดูเพิ่มเติม »

พ.ศ. 2393

ทธศักราช 2393 ใกล้เคียงกั.

ใหม่!!: มิดเดิลเวทและพ.ศ. 2393 · ดูเพิ่มเติม »

พ.ศ. 2540

ทธศักราช 2540 ตรงกับปีคริสต์ศักราช 1997 เป็นปีปกติสุรทินที่วันแรกเป็นวันพุธตามปฏิทินเกรกอเรียน.

ใหม่!!: มิดเดิลเวทและพ.ศ. 2540 · ดูเพิ่มเติม »

พ.ศ. 2547

ทธศักราช 2547 ตรงกับปีคริสต์ศักราช 2004 เป็นปีอธิกสุรทินที่วันแรกเป็นวันพฤหัสบดีตามปฏิทินเกรกอเรียน เป็นปีอธิกมาส ปกติวาร ตามปฏิทินไทยจันทรคติ และกำหนดให้เป็น.

ใหม่!!: มิดเดิลเวทและพ.ศ. 2547 · ดูเพิ่มเติม »

กัง แซชุล

กัง แซชุล (강새철; Kang Sae-Chul) เป็นนักมวยสากลอาชีพชาวเกาหลีใต้ในระดับที่มีชื่อเสียงคนแรกของเกาหลีใต้.

ใหม่!!: มิดเดิลเวทและกัง แซชุล · ดูเพิ่มเติม »

กิโลกรัม

กิโลกรัม อักษรย่อ กก. (kilogram: kg) เป็นหน่วยฐานเอสไอของมวล นิยามไว้เท่ากับมวลของมวลต้นแบบระหว่างชาติของกิโลกรัม โดยสร้างจากโลหะเจือแพลตินัม-อิริเดียม.

ใหม่!!: มิดเดิลเวทและกิโลกรัม · ดูเพิ่มเติม »

มวย

มวย อาจหมายถึง.

ใหม่!!: มิดเดิลเวทและมวย · ดูเพิ่มเติม »

มวยสากล

การแข่งขันมวยสากลระดับโลกระหว่าง รีการ์โด โดมิงเกวซ (ซ้าย) ฮุกซ้ายใส่ ออเรออน'ส ราฟาเอล ออร์ตีซ ที่แคลิฟอร์เนีย พ.ศ. 2548 มวยสากล (Boxing) เป็นศิลปะการต่อสู้ชนิดหนึ่งที่สู้กันด้วยหมัดทั้ง 2 ข้าง มีการแข่งขันตั้งแต่สมัยกีฬาโอลิมปิกยุคโบราณ และเป็นที่นิยมมาจนถึงปัจจุบัน มวยสากล จะกำหนดการให้คะแนน ถ้าไม่มีฝ่ายไหนแพ้ชนะน็อต จะตัดสินจากคะแนนรวมยกที่ 20 คือยกสุดท้.

ใหม่!!: มิดเดิลเวทและมวยสากล · ดูเพิ่มเติม »

มาร์วิน แฮ็กเลอร์

มาร์วิน แฮ็กเลอร์ (Marvin Hagler) เจ้าของแชมป์โลกมิดเดิลเวท 3 สถาบันหลักในปี ค.ศ. 1980 - ค.ศ. 1987 1 ใน 4 ยอดนักชกรุ่นกลางแห่งทศวรรษที่ 80 ร่วมกับ ชูการ์ เรย์ เลนเนิร์ด, โธมัส เฮิร์นส์ และ โรแบร์โต้ ดูรัน แฮ็กเลอร์มีชื่อจริงแต่กำเนิดว่า มาร์วิน นาธาเนียล แฮ็กเลอร์ (Marvin Nathaniel Hagler) เกิดเมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม ค.ศ. 1954 ที่เมืองนิวอาร์ก รัฐนิวเจอร์ซีย์ แฮ็กเลอร์เริ่มการชกมวยจากมวยสากลสมัครเล่นมาก่อน ก่อนจะหันมาชกมวยสากลอาชีพในปี ค.ศ. 1973 ทำสถิติชนะทั้งหมด 46 ครั้ง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการชนะน็อกและชนะที.เค.โอ. มีเสมอเพียงครั้งเดียวและสะดุดแพ้เพียง 2 ครั้ง ขึ้นชิงแชมป์โลกรุ่นมิดเดิลเวทพร้อมกันถึง 2 สถาบัน คือ WBA และ WBC กับ วิโต อันตูโอเฟอร์โม นักมวยชาวอิตาเลียน เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน ค.ศ. 1979 ที่ลาสเวกัส ผลปรากฏว่าทั้งคู่เสมอกันในการยกครบ 15 ยก จากนั้นแฮ็กเลอร์จึงชกทำฟอร์มชนะรวดอีก 3 ครั้ง ก็ได้ขึ้นชิงแชมป์โลกอีกครั้งใน 2 สถาบันเดิม กับ อลัน มินเธอร์ นักมวยชาวอังกฤษเจ้าของตำแหน่งเดิม ที่สนามเวมบลีย์ มหานครลอนดอน ประเทศอังกฤษ ในถิ่นของมินเธอร์เอง ซึ่งผลการชก แฮ็กเลอร์สามารถเอาชนะที..โอ.มินเธอร์ได้เพียงแค่ยกที่ 3 กลายเป็นแชมป์โลกมิดเดิลเวทของ WBA และ WBC ไปเลยทันที จากนั้นแฮ็กเลอร์ก็เดินหน้าป้องกันตำแหน่งแชมป์โลกได้ถึง 12 ครั้ง โดยได้แชมป์โลกสถาบันใหม่คือ IBF ที่เพิ่งก่อตั้งมาด้วย โดยที่ IBF ได้มอบตำแหน่งให้แก่แฮ็กเลอร์ไปเลยโดยดุษฎี และการป้องกันตำแหน่งของแฮ็กเลอร์นั้น ได้ผ่านนักมวยดี ๆ หลายคนซึ่งแฮ็กเลอร์ก็สามารถเอาชนะได้อย่างงดงามทุกครั้ง เช่น วิโต อันตูโอเฟอร์โม คู่ปรับเก่าที่เคยเสมอกันมาก่อน, มุสตาฟา แฮมโช่ นักมวยชาวซีเรียน, จอห์น มูกาบี้ นักมวยชาวอูกันดา, ฮวน โดมิงโก โรดัล นักมวยชาวอาร์เจนไตน์, โรแบร์โต้ ดูรัน รวมทั้ง โธมัส เฮิร์นส์ ด้วย จนกระทั่งถึงการป้องกันตำแหน่งครั้งที่ 13 แฮ็กเลอร์ ต้องพบกับ ชูการ์ เรย์ เลนเนิร์ด ที่แขวนนวมไปนานถึง 3 ปี และหวนกลับคืนมาอีกครั้งโดยที่ไม่ได้อุ่นเครื่องชกกับใครอีกเลย ก่อนชกแฮ็กเลอร์ได้ประกาศว่าถ้าเขาแพ้เลนเนิร์ด เขาจะแขวนนวมทันที ซึ่งผลการชกออกมาก็ปรากฏว่า แฮ็กเลอร์สามารถทำได้ดีกว่า แต่เมื่อรวมคะแนน 12 ยกกันแล้ว กรรมการตัดสินให้เลนเนิร์ดเป็นฝ่ายชนะ หลังจากนั้นแฮ็กเลอร์ก็ได้แขวนนวมเลิกชกไปทันทีดังที่ได้ลั่นวาจาไว้ และไม่กลับมายุ่งเกี่ยวกับวงการมวยในฐานะใด ๆ อีกเลย มาร์วิน แฮ็กเลอร์ เป็นนักมวยที่ถนัดซ้าย มีพลังกำปั้นที่หนักหน่วง มีเอกลักษณ์คือ ศีรษะที่โล้นเลี่ยน ซึ่งแฟนมวยชาวไทยให้ฉายาว่า "ไอ้โล้นซ่า" ส่วนในฉายาภาษาอังกฤษคือ " Marvelous" หลังแขวนนวมแฮ็กเลอร์ได้ไปใช้ชีวิตอยู่ในประเทศอิตาลี เปิดร้านขายอาหารอิตาเลียน และหันไปเป็นนักแสดงประกอบตามภาพยนตร์เรื่องต่าง ๆ ของอิตาลี พร้อมกับได้เปลี่ยนชื่อจริงของตัวเองเป็น มาร์เวลัส มาร์วิน แฮ็กเลอร์ (Marvelous Marvin Hagler) ตามชื่อที่ใช้เรียกในสมัยที่ยังชกมวย ปัจจุบัน แฮ็กเลอร์ได้อาศัยอยู่ที่เมืองบล็อกตัน รัฐแมสซาชูเซต.

ใหม่!!: มิดเดิลเวทและมาร์วิน แฮ็กเลอร์ · ดูเพิ่มเติม »

มีเกล กอตโต

มีเกล อันเคล กอตโต วาซเกวซ (Miguel Angel Cotto Vazquez) เป็นนักมวยสากลอาชีพชาว เปอร์โตริโก เกิดเมื่อวันที่ 29 ตุลาคม ค.ศ. 1980 เป็นนักมวยสากลอาชีพแชมป์โลก 4 รุ่นคนแรกของประเทศเปอร์โตริโกเคยชกกับนักมวยที่มีชื่อเสียงระดับโลกมาแล้วเช่น แซบ จูดาห์,เชน มอสลีย์,อันโตนิโอ มาร์การิโต,แมนนี่ ปาเกียว,ฟลอยด์ เมย์เวทเธอร์ จูเนียร์,เซร์คีโอ มาร์ติเนซ เป็นต้น จนได้รับการกล่าวขานว่าเป็นนักมวยชาวเปอร์โตริโกที่ชาวโลกรู้จักดีที่สุด เป็นอดีตแชมป์โลกไลท์เวลเตอร์เวท ของ องค์กรมวยโลก(WBO) เวลเตอร์เวท ของ สมาคมมวยโลก(WBA) องค์กรมวยโลก(WBO) ซูเปอร์เวลเตอร์เวท ของ สมาคมมวยโลก(WBA) และ มิดเดิลเวท ของ สภามวยโลก(WBC) เป็นต้น.

ใหม่!!: มิดเดิลเวทและมีเกล กอตโต · ดูเพิ่มเติม »

รอย โจนส์ จูเนียร์

รอย โจนส์ จูเนียร์ (Roy Jones, Jr.) มีชื่อจริงว่า รอย ลีเวสต้า โจนส์ จูเนียร์ (Roy Levesta Jones, Jr.) เกิดวันที่ 16 มกราคม ค.ศ. 1969 ที่เมืองเพนซาโคล่า รัฐฟลอริดา นักมวยสากลชาวอเมริกัน เขาคืออดีตแชมป์โลกสี่รุ่น และได้รับการยอมรับอย่างมากว่าเป็นหนึ่งในนักมวยที่เก่งที่สุดตลอดกาล รอย โจนส์ จูเนียร์ มีชื่อเสียงโด่งดังมาตั้งแต่ยังชกมวยสากลสมัครเล่นอยู่ เมื่อติดทีมชาติสหรัฐอเมริกา ในรุ่นไลท์มิดเดิลเวท ในการแข่งขันโอลิมปิคที่โซล ประเทศเกาหลีใต้ โจนส์สามารถผ่านไปจนถึงรอบชิงชนะเลิศได้ แต่ปรากฏว่าเมื่อต้องพบกับ ปาร์ค ซี-ฮัน นักมวยเจ้าภาพ โจนส์ถูกปล้นชัยชนะไปอย่างหน้าตาเฉย โดยแพ้คะแนนไปอย่างขัดสายตาคนดูทั้งโลก ซึ่งผลการชกในครั้งนี้ถือเป็นข้อครหาข้อหนึ่งของการแข่งขันโอลิมปิคครั้งนี้เลยทีเดียว หลังจากนั้น จึงหันมาชกมวยสากลอาชีพ มีสถิติชนะรวด โดยไม่มีแพ้หรือเสมอ จนได้มีโอกาสชิงแชมป์โลกรุ่นมิดเดิลเวท สหพันธ์มวยนานาชาติ (IBF) ที่ว่างอยู่กับ เบอร์นาร์ด ฮอปกินส์ นักมวยเพื่อนร่วมชาติ ผลปรากฏว่าโจนส์เป็นฝ่ายเอาชนะคะแนนไปได้อย่างเอกฉันท์เมื่อครบ 12 ยก เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม ค.ศ. 1993 ในรุ่นนี้โจนส์ป้องกันแชมป์เพียงครั้งเดียว โดยชนะน็อกไปในยกที่ 2 จากนั้นจึงสละเข็มขัดขึ้นไปชกในรุ่นที่ใหญ่กว่าเดิม คือ ซูเปอร์มิดเดิลเวท และได้ชิงแชมป์โลกในรุ่นนี้ของ IBF กับ เจมส์ โทนีย์ ยอดนักชกไร้พ่ายในเวลานั้น ปรากฏว่าโจนส์ก็สามารถเอาชนะได้อย่างขาดลอยอีกเมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน ค.ศ. 1994 รอย โจนส์ จูเนียร์ ป้องกันตำแหน่งแชมป์ซูเปอร์มิดเดิลเวทไว้ได้ทั้งหมด 5 ครั้ง แล้วจึงสละแชมป์ขยับขึ้นไปชกในรุ่นไลท์เฮฟวี่เวท จนได้โอกาสชิงแชมป์ที่ว่างของ WBC กับ ไมค์ แม็คคัลลัม ก็ปรากฏว่าโจนส์ก็เป็นฝ่ายเอาชนะคะแนนไปได้อีกเมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน ค.ศ. 1996 ที่เมืองแทมปา แต่แล้วนักมวยไร้พ่ายอย่าง รอย โจนส์ จูเนียร์ ก้ต้องมาพบกับความพ่ายแพ้เป็นครั้งแรก เมื่อป้องกันตำแหน่งแชมป์ไลท์เฮฟวี่เวทนี้ครั้งแรก เมื่อแพ้ฟาลว์ต่อ มอนเทล กริฟฟิน ไปอย่างไม่มีใครคาดคิดมาก่อน เพราะชกติดพันขณะที่กริฟฟินทรุดลงไปในยกที่ 9 กรรมการห้ามบนเวทีเห็นว่าเป็นการชกซ้ำ จึงตัดสินให้โจนส์แพ้ไป รอย โจนส์ จูเนียร์ จึงเก็บความแค้นนี้ไว้ และมาระบายออกเมื่อได้โอกาสล้างตากับกริฟฟินอีกครั้ง คราวนี้โจนส์น็อกกริฟฟินแย่งเข็มขัดแชมป์คืนมาได้แค่ยกแรกเท่านั้นเอง เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม ค.ศ. 1997 รอย โจนส์ ป้องกันตำแหน่งในรุ่นไลท์เฮฟวี่เวทนี้ไว้ได้ถึง 12 ครั้ง โดยทำการรวบแชมป์ของทั้ง 3 สถาบันใหญ่ และสถาบันเล็ก ๆ อย่าง IBO และ IBA และรวมถึงสถาบันระดับภูมิภาคอย่าง NBA ด้วย ซึ่งในช่วงนี้ รอย โจนส์ จูเนียร์ ได้รับการยกย่องให้เป็นนักมวยที่เก่งกาจที่สุดในโลกเมื่อเทียบกันปอนด์ต่อปอนด์ จนเรียกได้เลยว่า ไม่มีใครที่จะเป็นคู่ปรับกับโจนส์ได้ในรุ่นระหว่างนี้ บวกกับการออกหมัดที่ว่องไวมาก จนกล่าวได้ว่าเป็นสปีดหมัดที่ไวที่สุดในวงการมวยโลกเท่าที่เคยมีมาเลยทีเดียว จากนั้น รอย โจนส์ จึงข้ามไปชกในรุ่นเฮฟวี่เวท ซึ่งโจนส์ก็ประสบความสำเร็จเมื่อเป็นฝ่ายเอาชนะคะแนน จอห์น รุยซ์ แชมป์โลกเฮฟวี่เวทชาวอเมริกัน ของ WBA ไปได้เมื่อวันที่ 1 มีนาคม ค.ศ. 2003 ทั้งที่ก่อนการชกโจนส์ชั่งน้ำหนักได้เพียงแค่ 193 ปอนด์เท่านั้น (88 กิโลกรัม) ขณะที่รุยซ์หนักถึง 226 ปอนด์ (103 กิโลกรัม) และนับว่าโจนส์เป็นนักมวยที่ขึ้นมาจากรุ่นมิดเดิลเวทเป็นคนแรกในรอบ 106 ปี ที่สามารถเอาชนะในรุ่นเฮฟวี่เวทได้ และเป็นคนแรกด้วยที่ขึ้นมาจากรุ่นมิดเดิลเวทที่ได้แชมป์โลกในรุ่นเฮฟวี่เวท จากนั้นโจนส์ก็ได้สละแชมป์โลกไปโดยไม่ได้ป้องกันตำแหน่งกับใคร เพื่อลดกลับไปชกในรุ่นไลท์เฮฟวี่เวทที่เหมาะสมกับตนเองตามเดิม และโจนส์ก็สามารถเอาชนะคะแนน อันโตนิโอ ทาร์เวอร์ นักมวยเพื่อนร่วมชาติเจ้าของเหรียญทองแดงในโอลิมปิคที่แอตแลนต้า ได้เป็นแชมป์โลกไลท์เฮฟวี่เวทของ WBC และ IBO อีกครั้ง แต่ผลการชกครั้งนี้หลายฝ่ายเห็นว่าทาร์เวอร์ทำได้ดีกว่าและน่าจะเป็นฝ่ายชนะคะแนนมากกว่า ทั้งคู่จึงได้ล้างตากันอีกครั้ง ในวันที่ 15 มีนาคม ค.ศ. 2004 คราวนี้ปรากฏว่าเป็นฝ่ายเทรเวอร์ที่เอาชนะทีเคโอโจนส์ได้ไปอย่างหายสงสัย จากนั้นรอย โจนส์ ได้หวนกลับมาชิงแชมป์โลกอีกครั้งของ IBF กับ เกล็น จอห์นสัน นักชกชาวจาเมก้า ปรากฏว่าโจนส์เป็นฝ่ายแพ้น็อกจอห์นสันไปอีกในยกที่ 9 เมื่อเดือนกันยายน ปีเดียวกัน หลังจากนั้นในวันที่ 1 ตุลาคม ค.ศ. 2005 โจนส์ก็ได้มีโอกาสชกล้างตาอีกครั้งกับทาร์เวอร์ คราวนี้โจนส์ก็เป็นฝ่ายแพ้คะแนน 12 ยกไปอีก ท่ามกลางเสียงกล่าวขานว่า หมดยุคของเขาแล้ว รอย โจนส์ จูเนียร์ ยังคงชกทำฟอร์มไปอีก 3 ครั้ง รวมทั้งการเอาชนะคะแนน เฟลิกซ์ ทรินิแดด อดีตยอดนักมวยชาวเปอร์โตริกันที่หวนกลับชกอีกครั้งในรุ่นไลท์เฮฟวี่เวทด้วย และรอย โจนส์ ก็ได้พบกับ โจ คัลซากี้ ยอดนักชกชาวเวลส์ ผู้เป็นเจ้าของสถิติไม่แพ้ใครและเป็นแชมป์ไลท์เฮฟวี่เวทผู้ป้องกันตำแหน่งไว้ได้มากมายของ WBO เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน ค.ศ. 2008 และเป็นฝ่ายแพ้คะแนนไปเมื่อครบ 12 ยก ท่ามกลางหน้าตาที่แตกยับเยิบ และรอย โจนส์ ก็ยังไม่ได้ขึ้นเวทีอีกเลยนับจากนี้ ในช่วงที่รุ่งเรือง รอย โจนส์ จูเนียร์ นอกจากถูกยกย่องว่าเป็นนักมวยที่เก่งที่สุดในโลกเมื่อเทียบกันปอนด์ต่อปอนด์แล้ว เขายังใช้เวลาว่างจากการชกมวยเล่นบาสเก็ตบอลด้วย โดยเล่นในทีมของรัฐฟลอริดาบ้านเกิดในลีกระดับรองมาจาก NBA และยังเป็นศิลปินเพลงแร็พ ได้ออกอัลบั้มถึงหลายชุด และยังเป็นนักแสดงภาพยนตร์ฮอลลีวู้ดในบทตัวประกอบอีกด้วย ผลงานการแสดงของโจนส์ก็ได้แก่ ''The Devil's Avocate'' ในปี ค.ศ. 1996 และ ''The Matrix Reloaded'' ในปี ค.ศ. 2003 เป็นต้น.

ใหม่!!: มิดเดิลเวทและรอย โจนส์ จูเนียร์ · ดูเพิ่มเติม »

สมพงษ์ เวชสิทธิ์

มพงษ์ เวชสิทธิ์ หรือนายดวง ทองคำดี เกิดเมื่อ 1 มกราคม พ.ศ. 2455 สถิติการชก 50 ครั้ง ชนะ 31 (น็อค 15) เสมอ 4 แพ้ 15.

ใหม่!!: มิดเดิลเวทและสมพงษ์ เวชสิทธิ์ · ดูเพิ่มเติม »

สมเดช ยนตรกิจ

มเดช ยนตรกิจ หรือ สำรวย ธานี (เกิดเมื่อ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2474 ที่จังหวัดสุพรรณบุรี เสียชีวิตวันที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 ที่โรงพยาบาลทหารผ่านศึก)ปิดตำนาน.

ใหม่!!: มิดเดิลเวทและสมเดช ยนตรกิจ · ดูเพิ่มเติม »

สยามสปอร์ตซินดิเคท

ริษัท สยามสปอร์ต ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) (Siam Sport Syndicate Public Company Limited; ชื่อเดิม: ห้างหุ้นส่วนจำกัด สยามสปอร์ต พับลิชชิง และ บริษัท สยามสปอร์ต พรินติง จำกัด) เป็นผู้ประกอบกิจการสื่อสารมวลชน ประเภทกีฬาและสันทนาการหลายชนิดคือ หนังสือพิมพ์ นิตยสาร วิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และสื่อประสม (Multimedia) ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2516 โดยระวิ โหลทอง อดีตหัวหน้าข่าวกีฬาหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ เริ่มจัดพิมพ์นิตยสารกีฬาสยามขึ้นเป็นฉบับแรก และมีนิตยสารสตาร์ซอคเก้อร์รายสัปดาห์ กับหนังสือพิมพ์สยามกีฬารายวัน เป็นสื่อสิ่งพิมพ์ที่สร้างชื่อเสียงให้แก่บริษัทฯ ปัจจุบันมีวิลักษณ์ โหลทอง บุตรชายของระวิ เป็นประธานกรรมการ.

ใหม่!!: มิดเดิลเวทและสยามสปอร์ตซินดิเคท · ดูเพิ่มเติม »

สุริยา ปราสาทหินพิมาย

อก สุริยา ปราสาทหินพิมาย (เกิดวันที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2522; เป็นหลานปู่ของสุข ปราสาทหินพิมาย) เป็นนักมวยสากลสมัครเล่นทีมชาติไทย เจ้าของเหรียญเงิน เอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 14 ที่เกาหลีใต้ จากนั้นมาคว้าเหรียญทองแดง ในกีฬาโอลิมปิก ครั้งที่ 28 ที่กรุงเอเธนส์ ประเทศกรีซในรุ่นมิดเดิลเวท 75 กก.

ใหม่!!: มิดเดิลเวทและสุริยา ปราสาทหินพิมาย · ดูเพิ่มเติม »

อภิเดช ศิษย์หิรัญ

อภิเดช ศิษย์หิรัญ (ชื่อเล่น: ตังค์; 1 กันยายน พ.ศ. 2484 — 4 เมษายน พ.ศ. 2556) เป็นนักมวยไทยคนเดียวที่มีลูกเตะเป็นอาวุธสำคัญสามารถชงเท้าเข้าก้านคอคู่ต่อสู้แล้วไล่ลงมาถึงขาพับ 3 จังหวะด้วยความรวดเร็ว โดยเฉพาะแข้งขวา จนได้รับฉายา "จอมเตะแห่งบางนกแขวก".

ใหม่!!: มิดเดิลเวทและอภิเดช ศิษย์หิรัญ · ดูเพิ่มเติม »

ออสการ์ เดอ ลา โฮยา

ออสการ์ เดอ ลา โฮยา (Oscar De La Hoya) เกิดเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1971 ที่เมืองมอนเตเบลโล ในอีสต์ ลอสแอนเจลิส แคลิฟอร์เนี.

ใหม่!!: มิดเดิลเวทและออสการ์ เดอ ลา โฮยา · ดูเพิ่มเติม »

คริสต์ทศวรรษ 1980

ริสต์ทศวรรษ 1980 (1980s) หรือยุคเอจตี้ส์ เป็นทศวรรษที่เริ่มต้นตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ค.ศ. 1980 ถึง 31 ธันวาคม ค.ศ. 1989 เป็นช่วงเวลาที่เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงด้านสังคม เศรษฐกิจ การเปลี่ยนแปลงทั่วไปอย่างความร่ำรวย การผลิตที่เปลี่ยนไปสู่ยุคเศรษฐกิจแบบอุตสาหกรรม เศรษฐกิจเสรีที่พัฒนาไปทั่วโลก บริษัทข้ามชาติทางด้านอุตสาหกรรมที่เข้าสู่ประเทศอย่าง ประเทศไทย มาเลเซีย เม็กซิโก เกาหลีใต้ ไต้หวัน ประเทศจีน และเศรษฐกิจตลาดใหม่ในยุโรปตะวันออก ตามมาด้วยการล่มสลายของคอมมิวนิสต์ในยุโรปตะวันออก ประเทศญี่ปุ่นและเยอรมนีถือเป็นประเทศที่เห็นเด่นชัดว่าพัฒนาทางด้านเศรษฐกิจอย่างรวดเร็วตลอดทศวรรษนี้ ประเทศกำลังพัฒนาทั่วโลกมีประสบความยากลำบากด้านความเจริญเติบโตด้านเศรษฐกิจและสังคม ที่ประเทศเหล่านั้นพบกับปัญหาหนี้สินในคริสต์ทศวรรษ 1980 ประเทศเหล่านี้ต้องการความช่วยเหลือด้านการเงินจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศและธนาคารโลก ประเทศเอธิโอเปียประสบปัญหาความยากจนในช่วงกลางคริสต์ทศวรรษ 1980 ผลคือประเทศต้องการความช่วยเหลือจากต่างชาติในด้านอาหารกับประชากรและทั่วโลกต่างกันช่วยหาเงินช่วยเหลือต่อชาวเอธิโอเปีย อย่างเช่นคอนเสิร์ตไลฟ์เอด ในปี 1985 ที่จัดขึ้นเพื่อหาเงินดังกล่าว ปัญหาด้านสงคราม เกิดความรุนแรงในตะวันออกกลาง อย่างสงครามอิรัก-อิหร่าน และความขัดแย้งในเลบานอนช่วงปี 1982 ถึง 1983 และกองทัพอเมริกันเข้าบุกลิเบียในปี 1985 และ Intifada ในฉนวนกาซาและเวสต์แบงก์ คริสต์ทศวรรษ 1980 ยังเป็นยุคที่มีอัตราการเติบโตของจำนวนประชากรอย่างมาก ไปทั่วโลก มากกว่าแม้ในคริสต์ทศวรรษ 1970 และคริสต์ทศวรรษ 1990 มีอัตราการเติบโตของจำนวนประชากรมากขึ้นอย่างมากโดยเฉพาะชาวแอฟริกา ตะวันออกกลาง และเอเชียใต้ ตลอดทศวรรษ ด้วยอัตราการเพิ่มใกล้หรือมากกว่า 4% ต่อปี.

ใหม่!!: มิดเดิลเวทและคริสต์ทศวรรษ 1980 · ดูเพิ่มเติม »

ประเทศกรีซ

กรีซ (Greece; Ελλάδα, Elládha เอลาฑา หรือ Ελλάς, Ellás) หรือเรียกอย่างเป็นทางการว่า สาธารณรัฐเฮลเลนิก (Hellenic Republic; Ελληνική Δημοκρατία, Ellinikí Dhimokratía) เป็นประเทศที่ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของทวีปยุโรป ตอนใต้สุดของคาบสมุทรบอลข่าน มีพรมแดนทางเหนือติดกับประเทศบัลแกเรีย มาซิโดเนีย และแอลเบเนีย มีพรมแดนทางตะวันออกติดกับประเทศตุรกี อยู่ติดทะเลอีเจียนทางด้านตะวันออก ติดทะเลไอโอเนียนและทะเลเมดิเตอร์เรเนียนทางด้านตะวันตกและใต้ กรีซนับว่าเป็นแหล่งอารยธรรมตะวันตกอันยิ่งใหญ่ และมีประวัติศาสตร์อันยาวนาน ซึ่งกรีซได้แผ่อิทธิพลไปยัง 3 ทวีป ชาวกรีกเรียกประเทศตัวเองว่า Hellas ซึ่งภาษากรีกในปัจจุบันออกเสียง ว่า Ellas โดยในการพูดทั่วไปจะใช้คำว่า Ellada และมักจะเรียกตัวเองว่า Hellenes แม้กระทั่งในภาษาอังกฤษ ซึ่งคำภาษาอังกฤษ "Greece" มาจากชื่อละตินว่า Graecia หมายถึงพื้นที่ทางเหนือของกรีซในปัจจุบัน ซึ่งมีกลุ่มคนที่เรียกว่า Graikos อาศัยอยู.

ใหม่!!: มิดเดิลเวทและประเทศกรีซ · ดูเพิ่มเติม »

น้ำหนัก

เครื่องชั่งสปริงเป็นเครื่องมือชนิดหนึ่งที่ใช้วัดขนาดของน้ำหนัก ในทางวิทยาศาสตร์และวิศวกรรมศาสตร์ น้ำหนัก หมายถึงแรงบนวัตถุอันเนื่องมาจากความโน้มถ่วง ขนาดของน้ำหนักในปริมาณสเกลาร์ มักเขียนแทนด้วย W แบบตัวเอน คือผลคูณของมวลของวัตถุ m กับขนาดของความเร่งเนื่องจากความโน้มถ่วง g นั่นคือ ถ้าหากพิจารณาน้ำหนักว่าเป็นเวกเตอร์ จะเขียนแทนด้วย W แบบตัวหนา หน่วยวัดของน้ำหนักใช้อย่างเดียวกันกับหน่วยวัดของแรง ซึ่งหน่วยเอสไอก็คือนิวตัน ยกตัวอย่าง วัตถุหนึ่งมีมวลเท่ากับ 1 กิโลกรัม มีน้ำหนักประมาณ 9.8 นิวตันบนพื้นผิวโลก มีน้ำหนักประมาณหนึ่งในหกเท่าบนพื้นผิวดวงจันทร์ และมีน้ำหนักที่เกือบจะเป็นศูนย์ในห้วงอวกาศที่ไกลออกไปจากเทหวัตถุอันจะส่งผลให้เกิดความโน้มถ่วง ในทางนิติศาสตร์และการพาณิชย์ น้ำหนัก มีความหมายเดียวกันกับมวล The National Standard of Canada, CAN/CSA-Z234.1-89 Canadian Metric Practice Guide, January 1989.

ใหม่!!: มิดเดิลเวทและน้ำหนัก · ดูเพิ่มเติม »

โรเบร์โต ดูรัน

การชกครั้งแรกระหว่างดูรันกับเลียวนาร์ด ในครั้งแรก เมื่อปี ค.ศ. 1980 ซึ่งดูรันสามารถเอาชนะคะแนนไปได้ นับเป็นนักมวยรายแรกที่สร้างความปราชัยแก่เลียวนาร์ดได้และนับเป็นหนึ่งในการชกที่ดีที่สุดในชีวิตของดูรัน โรเบร์โต ดูรัน ซามาเนียโก (Roberto Durán Samaniego) วีรบุรุษนักชกแห่งปานามา และอดีตแชมป์โลก 4 รุ่น ดูรันถือได้ว่าเป็นยอดนักมวยขวัญใจชาวปานามา เช่นเดียวกับคูลีโอ เซซาร์ ชาเบซ ที่เป็นยอดนักมวยขวัญใจชาวเม็กซิโก ดูรันเกิดเมื่อวันที่ 26 มิถุนายน ค.ศ. 1951 ที่เมืองกวาราเร ประเทศปานามา เริ่มชกมวยสากลอาชีพครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 1967 ในรุ่นไลต์เวต ทำสถิติชนะรวดจนได้ชิงแชมป์โลกในรุ่นไลต์เวต สมาคมมวยโลก (WBA) กับ เคน บูชาแนน นักชาวสกอตแลนด์ ที่นิวยอร์กซิตี เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน ค.ศ. 1972 ดูรันสามารถเอาชนะน็อกบูชาแนนไปได้ในยกที่ 13 จากนั้นดูรันได้ชกนอกรอบอีก 3 ครั้ง 2 ครั้งแรกสามารถเอาชนะน็อกนักมวยโนเนมได้เพียงยกแรก แต่ในครั้งที่ 3 ดูรันต้องพบกับความพ่ายแพ้ครั้งแรกในชีวิตแก่นักมวยชาวเปอร์โตริโก เอสเตบัน เด เฮซุส ซึ่งต่อมากลายมาเป็นคู่ปรับคนสำคัญอีกคนหนึ่งของดูรัน ดูรันป้องกันตำแหน่งแชมป์โลกไลต์เวตของ WBA ไว้ได้ถึง 12 ครั้ง นับว่าเป็นสถิติการป้องกันตำแหน่งแชมป์โลกสูงสุดของรุ่นไลต์เวตมาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งครั้งสุดท้ายในการป้องกันตำแหน่งรุ่นนี้คือ การเดิมพันแชมป์ในรุ่นด้วยกันกับแชมป์โลกของสภามวยโลก (WBC) กับเอสเตบัน เด เฮซุส คู่ปรับเก่า ผลปรากฏว่าดูรันสามารถเอาชนะน็อกได้ในยกที่ 12 เมื่อวันที่ 21 มกราคม ค.ศ. 1978 ต่อมา ดูรันสละแชมป์ไลต์เวต 2 สถาบันนี้ไป เพื่อก้าวขึ้นไปชกในรุ่นที่ใหญ่กว่า คือ เวลเตอร์เวต ซึ่งในขณะนั้น ชูการ์ เรย์ เลียวนาร์ด ยอดนักชกชาวอเมริกันเป็นเจ้าของตำแหน่งแชมป์โลกของสภามวยโลก และยังมีสถิติไม่เคยแพ้ใคร เมื่อทั้งคู่มาพบกัน ไม่มีใครคาดคิดว่ามวยบู๊อย่างดูรันจะเอาชนะมวยที่มีชั้นเชิงอย่างเลียวนาร์ดได้ แต่ทว่าดูรันก็ใช้ความแข็งแกร่ง ทรหดกว่า เดินบดเข้าหาเลียวนาร์ดตลอดการชกทั้ง 15 ยก จนในที่สุดก็สามารถเอาชนะคะแนนเลียวนาร์ดได้ ในวันที่ 20 มิถุนายน ค.ศ. 1980 ที่มอนทรีออล ประเทศแคนาดา ได้เป็นแชมป์โลกในรุ่นที่ 2 อีก 5 เดือนต่อมา ทั้งคู่ได้มีโอกาสล้างตากันอีกครั้งที่นิวออร์ลีนส์ คราวนี้เลียวนาร์ดเตรียมตัวมาดีกว่าเก่า สามารถแก้ทางของดูรันได้ จนดูรันไม่สามารถทำอะไรได้เหมือนครั้งแรก จนดูรันเป็นฝ่ายขอยอมแพ้ไปเองดื้อ ๆ ในระหว่างพักยกที่ 7 ขึ้นยกที่ 8 โดยบอกเป็นภาษาสเปนว่า "No Más" (ไม่เอาแล้ว) เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน ปีเดียวกัน ทั้ง ๆ ที่ดูรันก็สามารถชกต่อไปอีกได้ ต่อมาดูรันก็สามารถได้เป็นแชมป์โลกในรุ่นที่ 3 ได้ เมื่อเอาชนะน็อกยก 8 เดวี่ มัวร์ นักมวยชาวอเมริกัน เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน ค.ศ. 1983 ได้แชมป์โลกในรุ่นจูเนียร์มิดเดิลเวต สมาคมมวยโลก ซึ่งก่อนหน้านั้นดูรันเกือบได้เป็นแชมป์โลกรุ่นที่ 3 มาแล้ว แต่เป็นฝ่ายแพ้คะแนน 15 ยก แก่ วิลเฟรด เบนิเตซ นักมวยชาวเปอร์โตริกัน เจ้าของตำแหน่งแชมป์โลกซูเปอร์เวลเตอร์เวต สภามวยโลก เมื่อปี ค.ศ. 1982 ในทศวรรษที่ 80 นี้ โรเบร์โต ดูรัน ถือได้ว่าเป็น 1 ใน 4 ยอดนักชกแห่งรุ่นกลาง (ตั้งแต่เวลเตอร์เวตจนถึงซูเปอร์มิดเดิลเวต-ประกอบไปด้วย ชูการ์ เรย์ เลียวนาร์ด, โรเบร์โต ดูรัน, ทอมัส เฮินส์ และมาร์วิน แฮ็กเลอร์ ซึ่งนักมวยทั้ง 4 นี้จะพบกันเองตลอด และผลัดแพ้-ผลัดชนะกัน) ต่อมา ดูรันได้ขึ้นชิงแชมป์โลกรุ่นที่ 4 กับ มาร์วิน แฮ็กเลอร์ เจ้าของตำแหน่งแชมป์โลกมิดเดิลเวต 3 สถาบันใหญ่ แต่เมื่อครบ 15 ยกแล้ว ดูรันเป็นฝ่ายแพ้คะแนนขาดลอย เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน ค.ศ. 1983 ต่อมา ดูรันก็เป็นฝ่ายแพ้น็อกแค่ยก 2 แก่ทอมัส เฮินส์ ในการชิงแชมป์โลกซูเปอร์เวลเตอร์เวต สภามวยโลก ที่เฮิร์นส์เป็นแชมป์โลกอยู่อย่างชนิดที่สู้ไม่ได้เลย เพราะดูรันเป็นฝ่ายที่รับหมัดของเฮิร์นส์แต่เพียงฝ่ายเดียว เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน ค.ศ. 1984 ที่ลาสเวกัส จากนั้นดูรันก็ไม่ได้ขึ้นเวตีอีกลย จนหลายฝ่ายคิดว่าเขาคงจะแขวนนวมไปแล้ว แต่ดูรันก็หวนกลับมาชกอีกครั้งในปี ค.ศ. 1986 ชนะทั้งหมด 7 ครั้ง มีสะดุดแพ้อยู่ครั้งเดียวเมื่อแพ้คะแนนต่อร็อบบี ซิมส์ 24 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1989 ดูรันก็ได้ครองแชมป์โลกรุ่นที่ 4 เมื่อชนะคะแนน 12 ยก ต่อ ไอแรน บาร์กเลย์ นักมวยชาวอเมริกัน ได้เป็นแชมป์โลกในรุ่นมิดเดิลเวตของสภามวยโลกที่แอตแลนติกซิตี ครั้งถัดมา ดูรันพยายามที่จะเป็นแชมป์โลกรุ่นที่ 5 ให้ได้ โดยข้ามขึ้นไปชิงแชมป์โลกรุ่นซูเปอร์มิดเดิลเวต สภามวยโลก กับ ชูการ์ เรย์ เลียวนาร์ด อดีตคู่ปรับเก่า แต่ดูรันก็เป็นฝ่ายแพ้คะแนนไปอย่างขาดลอยอีก เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม ค.ศ. 1989 ที่ลาสเวกัส ด้วยอายุที่มากขึ้น แต่โรเบร์โต ดูรัน ก็ยังไม่มีความตั้งใจที่เลิกชกมวย เขายังคงพากเพียรขึ้นเวทีอีกเรื่อย ๆ จนกระทั่งทำฟอร์มชนะอีก 8 ครั้ง ก็ขึ้นชิงแชมป์โลกอีกครั้งในรุ่นซูเปอร์มิดเดิลเวต สถาบันเล็ก ๆ อย่าง IBC กับ วินนี่ ปาเซียนซ่า แต่ก็เป็นฝ่ายแพ้คะแนนไปอีกถึง 2 ครั้ง เมื่อปี ค.ศ. 1994 และ ค.ศ. 1995 รวมทั้งชิงแชมป์ในรุ่นเดียวกันนี้ กับสถาบันแห่งนี้ กับ เอกตอร์ กามาโช ยอดนักมวยจอมลีลาชาวเปอร์โตริกัน เมื่อปี ค.ศ. 1996 ก็เป็นฝ่ายแพ้คะแนน 12 ยกไปอีก ดูรันยังคงพยายามชิงแชมป์ต่อไป ในปี ค.ศ. 1998 ดูรันเป็นฝ่ายแพ้เคะแนน 12 ยก แก่ วิลเลียม จอปปี เจ้าของตำแหน่งแชมป์โลกมิดเดิลเวต สมาคมมวยโลก ชาวอเมริกัน ดูรันชกมวยเป็นครั้งสุดท้ายเป็นฝ่ายแพ้คะแนน 12 ยก แก่ เอกตอร์ กามาโช อีกครั้ง เมื่อปี ค.ศ. 2001 ที่เดนเวอร์ โคโลราโด โดยที่ดูรันมีอายุถึง 50 ปีแล้ว โรเบร์โต ดูรัน ถือได้ว่าเป็นวีรบุรุษนักชกชาวปานามา เป็นนักมวยที่มีสภาพร่างกายแข็งแกร่ง หมัดหนักทั้งซ้ายและขวา เป็นมวยในสไตล์ไฟเตอร์เดินหน้าเข้าชนกับคู่ต่อสู้ตลอด เป็นนักมวยที่ไว้หนวดทำให้หน้าตาดูดุดัน จนได้ฉายาในภาษาอังกฤษว่า "Hands of Stone" ในขณะที่แฟนมวยชาวไทยให้ฉายาว่า "มนุษย์หิน" ปัจจุบัน ดูรันได้รับการเกียรติให้ตั้งชื่อเป็นสนามกีฬาในร่ม ในกรุงปานามาซิตี ประเทศปานามา ชื่อ "โรเบร์โต ดูรัน อารีนา".

ใหม่!!: มิดเดิลเวทและโรเบร์โต ดูรัน · ดูเพิ่มเติม »

โอลิมปิกฤดูร้อน

กีฬาโอลิมปิกฤดูร้อน หรือ ซัมเมอร์โอลิมปิกเกมส์ (Summer Olympic Games) เป็นการแข่งขันกีฬาหลายชนิดระหว่างประเทศ ซึ่งตามปกติจะมีการจัดแข่งขันทุกสี่ปี โดยคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (International Olympic Committee หรือ IOC) ในแต่ละครั้งจะมีการมอบเหรียญรางวัล ผู้ชนะเลิศได้เหรียญทอง อันดับสองได้เหรียญเงิน และอันดับสามได้เหรียญทองแดง การมอบเหรียญนี้เป็นประเพณีตั้งแต่ปี 1904 ต่อมามีการจัดแข่งขันโอลิมปิกฤดูหนาว อันสืบเนื่องมาจากความสำเร็จของโอลิมปิกฤดูร้อน การแข่งขันนั้นเริ่มต้นครั้งแรกด้วยกีฬาเพียง 42 ประเภท และนักกีฬาชายเพียง 250 คน จนมีจำนวนเพิ่มขึ้นถึงมากกว่า 10,000 คน ของนักกีฬาชายและหญิงจาก 202 ประเทศทั่วโลก คณะกรรมการจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อน 2008 ที่ปักกิ่ง คาดการณ์ว่าจะมีนักกีฬาเข้าร่วมแข่งขันประมาณ 10,500 คน เข้าชิงชัยใน 302 รายการ ในขณะที่กีฬาโอลิมปิกฤดูร้อน 2004 ที่คณะกรรมการจัดการแข่งขันได้ประมาณการไว้ว่าจะมีนักกีฬาเข้าร่วมแข่งขันประมาณ 10,500 คน แต่ก็เกิดการคลาดเคลื่อนขึ้นเพราะมีผู้เข้าแข่งขันกว่า 11,099 คน ใน 301 รายการแข่งขัน นักกีฬาถูกส่งเข้าแข่งขันโดยคณะกรรมการโอลิมปิกของประเทศต่าง ๆ (NOC-National Olympic Committee) เพื่อแสดงจำนวนพลเมืองในบังคับของประเทศตน เพลงชาติและธงชาติประกอบพิธีมอบเหรียญ และตารางแสดงจำนวนเหรียญที่ชนะ โดยถูกใช้อย่างกว้างขวางในบางประเทศ โดยปกติแล้วเฉพาะประเทศที่ได้รับการรับรองเท่านั้นที่จะมีผู้แทนได้ แต่มีแค่เพียงประเทศมหาอำนาจบางประเทศเท่านั้นที่ได้รับอนุญาตให้มีส่วนร่วม โดยมีเพียง 4 ประเทศที่ส่งนักกีฬาเข้าแข่งขันในโอลิมปิกฤดูร้อนทุกครั้ง ได้แก่ ออสเตรเลีย สหราชอาณาจักร กรีซ และสวิตเซอร์แลนด์ และมีเพียงประเทศเดียวเท่านั้นที่ชนะและได้รับเหรียญทองอย่างน้อย 1 เหรียญจากการแข่งขันทุกครั้ง คือ สหราชอาณาจักร โดยได้รับตั้งแต่ 1 เหรียญทอง ในปี 1904 1952 และ 1996 จนถึงได้รับ 56 เหรียญทอง ในปี 1908.

ใหม่!!: มิดเดิลเวทและโอลิมปิกฤดูร้อน · ดูเพิ่มเติม »

โอลิมปิกฤดูร้อน 2004

มหกรรมกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อนครั้งที่ 25 ประจำปี..

ใหม่!!: มิดเดิลเวทและโอลิมปิกฤดูร้อน 2004 · ดูเพิ่มเติม »

โธมัส เฮิร์นส์

มัส เฮิร์นส์ (Thomas Hearns) หรือ ทอมมี่ เฮิร์นส์ (Tommy Hearns) แชมป์โลก 5 รุ่นคนแรกของโลก เจ้าของฉายา "The Hit Man" หรือ "Detroit Cobra".

ใหม่!!: มิดเดิลเวทและโธมัส เฮิร์นส์ · ดูเพิ่มเติม »

ไลท์เวท

ลท์เวท (Lightweight) ชื่อเรียกรุ่นมวยรุ่นเล็กรุ่นหนึ่ง โดยนักมวยที่จะชกในรุ่นนี้ต้องมีน้ำหนักมากกว่า 130 ปอนด์ (58.967 กิโลกรัม) และไม่เกิน 135 ปอนด์ (61.235 กิโลกรัม) โดยทุกสถาบันจะเรียกชื่อนี้เหมือนกันหมด สำหรับนักมวยไทยยังไม่เคยมีใครได้เป็นแชมป์โลกในรุ่นนี้ และยังไม่เคยประสบความสำเร็จในแบบมวยสากลสมัครเล่นระดับโลก เช่น กีฬาโอลิมปิก เป็นต้น สำหรับนักมวยต่างชาติที่มีชื่อเสียง ที่ชกในพิกัดนี้ ได้แก่ อเล็กซิส อาร์กูเอลโล่, คิม ดุ๊กกู, โรแบร์โต ดูรัน, เจฟฟ์ เฟเนค, อซูม่าห์ เนลสัน, มิเกล แองเจิล กอนซาเลซ, ฮูลิโอ ซีซาร์ ชาเวซ, ออสการ์ เดอ ลา โฮยา, แมนนี่ ปาเกียว, อาเมียร์ ข่าน เป็นต้น สำหรับประวัติศาสตร์ของรุ่นไลท์เวท ถือว่าเป็นพิกัดน้ำหนักมวย 3 รุ่นแรกของโลกด้วย โดยถือกำเนิดขึ้นมาในปี ค.ศ. 1850 พร้อมกับรุ่นมิดเดิลเวท และเฮฟวี่เวท.

ใหม่!!: มิดเดิลเวทและไลท์เวท · ดูเพิ่มเติม »

เบอร์นาร์ด ฮอปกินส์

อร์นาร์ด ฮอปกินส์ (Bernard Hopkins) อดีตนักมวยสากลอาชีพชาวอเมริกัน ผู้เป็นอดีตแชมป์โลกในรุ่นมิดเดิลเวท และไลท์เฮฟวี่เวท เป็นเจ้าของสถิติแชมป์โลกที่มีอายุมากที่สุดในโลก โดยได้แชมป์โลกครั้งสุดท้ายเมื่ออายุมากถึง 51 ปี และได้รับการจัดอันดับให้เป็นนักมวยยอดเยี่ยมอันดับ 3 ใน 10 อันดับนักมวยยอดเยี่ยมของรุ่นมิดเดิลเวทในรอบ 50 ปี ของนิตยสารเดอะริง และยกย่องให้เป็นแชมป์หนึ่งเดียว หรือแชมป์เกียรติยศด้วย เป็นแชมป์โลกของสถาบันหลักครบทุกสถาบัน รวมถึงสถาบันย่อยหลายสถาบัน ฮอปกินส์ มีชื่อจริงว่า เบอร์นาร์ด ฮัมฟรีย์ ฮอปกินส์ จูเนียร์ (Bernard Humphrey Hopkins Jr.) เกิดเมื่อวันที่ 15 มกราคม..

ใหม่!!: มิดเดิลเวทและเบอร์นาร์ด ฮอปกินส์ · ดูเพิ่มเติม »

เอเธนส์

อเธนส์ (Athens; Αθήνα อธีนา) เป็นเมืองหลวงของประเทศกรีซ และยังเป็นเมืองใหญ่ที่สุดในประเทศกรีซ ใช้ชื่อตามพระเจ้าอะธีนาในปุราณวิทยา เป็นหนี่งในเมืองที่เก่าแก่ที่สุดในโลก โดนกินช่วงระยะเวลามากกว่า 3,400 ปี และมีการตั้งถิ่นฐานมาตั้งแต่ประมาณช่วงสหัสวรรษที่ 11 และ 7 ก่อนคริสตกาล ในช่วงยุคคลาสสิกของกรีซ หรือประมาณปีที่ 508-322 ก่อนคริสต์ศักราช เอเธนส์ขึ้นสู่จุดสูงสุดของอำนาจ และเป็นนครรัฐที่มีอิทธิพลอย่างมากในยุคนั้น อีกทั้งยังเป็นศูนย์กลางของศิลปะ การเรียนรู้ และปรัชญา เมืองเอเธนส์ยังได้รับการอ้างอิงอย่างกว้างขวางว่าเป็นต้นกำเนิดของอารยธรรมตะวันตก และเป็นที่ที่การปกครองระบอบประชาธิปไตยถือกำเนิดขึ้นเป็นครั้งแรก ปัจจุบันเอเธนส์เป็นเมืองนานาชาติที่ทันสมัย เป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ การเงิน อุตสาหกรรม การเมือง และชีวิตทางวัฒนธรรมในกรีซ และภูมิภาคตะวันออกเฉียงใต้ของยุโรป เป็นที่ตั้งของท่าเรือไพรีอัส ซึ่งเป็นท่าเรือผู้โดยสารที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป เอเธนส์ถูกจัดอันดับให้เป็นเมืองที่รวยที่สุดอันดับที่ 39 ของโลก ในปี 2012 ประชากรในเขตเทศบาลเมือง บนขนาดพื้นที่ มีประมาณ 655,442 คน (796,442 คน ณ ปี ค.ศ. 2004) ส่วนประชากรในเขตเมือง (urban area) ทั้งหมด บนขนาดพื้นที่ มี 3,090,508 คน ตามสถิติเมื่อปี..

ใหม่!!: มิดเดิลเวทและเอเธนส์ · ดูเพิ่มเติม »

เฮฟวี่เวท

ฟวี่เวท (Heavyweight) เป็นพิกัดน้ำหนักการชกมวยสากลอาชีพที่จัดว่าเป็นรุ่นที่ใหญ่ที่สุด โดยนักมวยที่จะชกในรุ่นนี้ต้องมีน้ำหนักมากกว่า 200 ปอนด์ (90.900 กิโลกรัม) ขึ้นไป โดยความเป็นมาของพิกัดน้ำหนักรุ่นนี้ เป็นไปได้ว่ามีมาตั้งแต่ยุคศตวรรษที่ 17 เมื่อ เจมส์ ฟิกก์ นักมวยชาวอังกฤษผู้ประกาศว่าตนเป็นแชมป์โลกคนแรกของโลก ได้พัฒนาการชกมวยให้มีรูปแบบและกติกาที่ชัดเจน ซึ่งในศตวรรษต่อมา มาร์เควซแห่งควีนเบอร์รี่ ได้สนับสนุนให้มีการชกแบบ 12 ยก และได้ออกกติกาขึ้นมาชัดเจน ในชื่อว่า กติกาแห่งควีนเบอร์รี่ หรือ กฎมาร์เควซแห่งควีนเบอร์รี่ ที่กำหนดให้ในแต่ละยกต้องมี 3 นาทีชัดเจน และกำหนดให้นักมวยต้องสวมนวมขึ้นชก และแบ่งพิกัดน้ำหนักออกเป็นรุ่น ๆ ในปี ค.ศ. 1850 โดยแรกเริ่มมีเพียง 3 พิกัดเท่านั้นคือ ไลท์เวท, มิดเดิลเวท และเฮฟวี่เวท พร้อมกับศักราชของการชกมวยสากลในแบบสมัยใหม่ก็ได้เริ่มต้นขึ้น พิกัดน้ำหนักรุ่นเฮฟวี่เวทนี้ จัดได้ว่าเป็นรุ่นที่มีประวัติศาสตร์มากมาย ด้วยความที่เป็นรุ่นที่ใหญ่ที่สุด นักมวยที่ขึ้นชกแต่ละคนจะมีรูปร่างใหญ่โตเป็นส่วนใหญ่ จึงสามารถดึงดูดความสนใจของผู้คนได้เป็นอย่างมาก โดยนักมวยที่มีชื่อเสียงที่ได้ชกในพิกัดนี้ ได้แก่ จอห์น แอล. ซัลลิแวน ผู้ได้ชื่อว่าเป็นแชมป์โลกในแบบสวมนวมเป็นคนแรกของโลก, แจ๊ค จอห์นสัน นักมวยผิวดำคนแรกที่ได้แชมป์ในรุ่นนี้, แจ็ค เดมป์เซย์ นักมวยผิวขาวที่ได้รับความนิยมในช่วงทศวรรษที่ 19-20, ร็อคกี้ มาร์เซียโน่ นักมวยผิวขาวที่ได้ชื่อว่าเป็นแชมป์โลกคนเดียวจนถึงปัจจุบันนี้ ที่ไม่เคยแพ้ใครจนกระทั่งแขวนนวม, โจ หลุยส์ นักมวยผู้ทำสถิติการชกป้องกันตำแหน่งแชมป์โลกได้มากครั้งที่สุดในโลก, มูฮัมหมัด อาลี นักมวยผู้ได้เหรียญทองกีฬาโอลิมปิกและเป็นแชมป์โลกถึง 3 ครั้ง ผู้เป็นตำนาน, จอร์จ โฟร์แมน, โจ ฟราเซียร์ ผู้เป็นคู่ปรับคนสำคัญของอาลี, ไมค์ ไทสัน แชมป์โลก 3 สถาบันคนแรกของรุ่นนี้ ผู้สร้างความตื่นตัวของรุ่นในทศวรรษที่ 80, อีแวนเดอร์ โฮลีฟิลด์ อดีตนักมวยสากลสมัครเล่นเหรียญทองแดงในกีฬาโอลิมปิก ตลอดจน วิตาลี คลิทช์โก และวลาดิเมียร์ คลิทช์โก นักมวยผิวขาวสองพี่น้องชาวยูเครน รูปร่างสูงใหญ่ ผู้ซึ่งเป็นแชมป์โลกและยังคงชกเคลื่อนไหวอยู่ในปัจจุบัน แต่สำหรับมวยสากลสมัครเล่น พิกัดเฮฟวี่เวทนี้ ยังไม่ถือว่าเป็นรุ่นที่ใหญ่ที่สุด หากแต่ยังมีรุ่น ซูเปอร์เฮฟวี่เวท ที่ใหญ่กว่านี้ กล่าวคือ น้ำหนักมากกว่า 201 ปอนด์ขึ้นไป.

ใหม่!!: มิดเดิลเวทและเฮฟวี่เวท · ดูเพิ่มเติม »

เปลี่ยนเส้นทางที่นี่:

Middleweightมิดเดิลเวตมิดเดิ้ลเวท

ขาออกขาเข้า
Hey! เราอยู่ใน Facebook ตอนนี้! »