โลโก้
ยูเนี่ยนพีเดีย
การสื่อสาร
ดาวน์โหลดได้จาก Google Play
ใหม่! ดาวน์โหลด ยูเนี่ยนพีเดีย บน Android ™ของคุณ!
ติดตั้ง
เร็วกว่าเบราว์เซอร์!
 

ปางประทานอภัย

ดัชนี ปางประทานอภัย

ระพุทธรูปปางนี้ มีตำนานดังนี้ สมัยหนึ่งพระผู้มีพระภาคเจ้าเสด็จประทับอยู่ที่อัมพวันสวนของหมอชีวกโกมารภัจจ์ ใกล้พระนครราชคฤห์ แคว้นมคธรัฐ เวลานั้นพระเจ้าอชาตศัตรูเป็นพระมหากษัตริย์ปกครองแคว้นมคธรัฐ แต่ความเป็นพระมหากษัตริย์ของพระองค์ไม่สู้จะเรียบร้อย ด้วยเหตุ ๓ ประการ คือ ๑ พระองค์ทรงพระชนมายุน้อย ๒ ทรงเป็นขบถชิงราชสมบัติจากพระราชบิดา ๓ ทรงคบหานับถือพระเทวทัตต์เป็นอาจารย์ ดังนั้น จึงไม่ได้รับความนิยมนับถือจากประชาราษฎร์โดยสมบูรณ์ เนื่องจากพระเจ้าอชาตศัตรูเป็นพระโอรสพระเจ้าพิมพิสาร ประสูติจากพระนางเจ้าเวเทหิ อัครมเหสี สมัยเมื่อยังเยาว์พระชนมายุอยู่นั้น ดำรงศักดิ์เป็นรัชทายาท ได้รับความเอาใจจากพระบิดาและมารดา ตลอดพระญาติผู้ใหญ่เสียจนเคยตัว ทรงทำอะไรตามพระทัยเสมอจนเป็นนิสัย เป็นเหตุให้ไม่อยู่ในพระโอวาท เลือกหาครูอาจารย์ตามใจชอบ ข้อนี้เป็นเหตุให้สมาคมด้วยพระเทวทัตต์ จนนับถือและยกย่องพระเทวทัตต์ขึ้นเป็นอาจารย์หาได้กราบทูลให้พระเจ้าพิมพิสาร พระชนกนาถให้ทรงทราบก่อนไม่ ยิ่งพระเทวทัตต์ตามประวัติของท่าน ก็เป็นเจ้าชายสืบสายกษัตริย์พระนครเทวทหะมาแต่เดิม ย่อมจักปฏิบัติงานให้ต้องพระทัยอชาตสัตตุราชกุมารได้เป็นอย่างดี แล้วอย่างนี้ไฉนอชาตสัตตุราชกุมารจะไม่โปรด แปลว่าได้พระอาจารย์ที่เคยเป็นเจ้าชายมีศักดิ์ศรีควรแก่การเคารพนับถือยิ่งนัก ดังนั้น เมื่อพระเทวทัตต์จะถวายโอวาทอย่างใด ๆ อชาตสัตตุราชกุมาร ก็ทรงเชื่อถือยินดีอยู่ในโอวาทของอาจารย์ด้วยความเคารพ เมื่อพระเทวทัตต์ตกอยู่ในอำนาจของตัณหา มานะ ทิฏฐิ คิดมักใหญ่ใฝ่สูง มีความปรารถนาลามก คิดจะเป็นผู้ปกครองพระสงฆ์ ถึงกับได้ทูลขอพระผู้มีพระภาคเจ้า เมื่อพระศาสดาไม่ทรงประทาน ด้วยทรงทราบสันดานพาลของพระเทวทัตต์ที่ประพฤติตัวเลว เกินฐานะ พระเทวทัตต์ก็ไม่พอใจถึงอาฆาต ชักชวนพระภิกษุบวชใหม่ มีความรู้น้อยให้มาเป็นพวก ถึงทำสังฆเภททำลายหมู่สงฆ์แยกคณะออกจากพระผู้มีพระภาคในที่สุด ก็เมื่อพระเทวทัตต์มีนิสัยพาลอย่างนี้แล้ว ไฉนเมื่อได้เป็นอาจารย์อชาตสัตตุราชกุมารแล้วจะไม่คิดลามกยิ่งขึ้น เพราะตั้งจิตไว้ผิดแต่แรกดังนั้นเมื่อได้โอกาสก็ถวายคำแนะนำให้อชาตสัตตุราชกุมารขบถ โดยให้ลอบปลงพระชนม์ชีพพระเจ้าพิมพิสารพระราชบิดาเสีย เพื่อเป็นพระมหากษัตริย์ปกครองราชอาณาจักร หากจะรอไปจนพระราชบิดาสวรรคตพระกุมารอาจสิ้นพระชนม์เสียก่อน เลยชวด ไม่ได้เป็นกษัตริย์ เมื่อพระกุมารปลงพระชนม์พระเจ้าพิมพิสารแล้ว จะได้ขึ้นเป็นพระราชาปกครองราชอาณาจักร ส่วนพระเทวทัตต์เอง ก็จะพยายามปลงพระชนม์พระสัมพุทธเจ้าแล้วก็จะขึ้นปกครองพระภิกษุสงฆ์ ถึงความเป็นใหญ่ในพุทธจักรสืบไป ครั้นพระกุมารเชื่อถือพระเทวทัตต์ จึงได้ซ่อนกฤชลอบเสด็จเข้าไปในห้องผทมพระเจ้าพิมพิสารเพื่อปลงพระชนม์พระบิดา แต่บังเอิญถูกราชบุรุษจับได้ พระเจ้าพิมพิสารทราบความประสงค์ของพระกุมาร ก็ทรงพอพระทัยให้พระกุมารขึ้นเป็นพระมหากษัตริย์ จึงทรงลาออกจากราชสมบัติและทรงยกพระโอรสขึ้นเป็นพระมหากษัตริย์ ปกครองราชอาณาจักรตามพระประสงค์ แม้เช่นนั้นแล้วพระเทวทัตต์ก็หาได้หยุดเพียงเท่านี้ไม่ เพราะมีนิสัยเป็นพาล ได้แนะนำให้พระเจ้าอชาตสัตตุราช ปลงพระชนม์พระราชบิดาเสียอีก ชั้นต้นพระเจ้าอชาตศัตรูไม่ทรงทำตามเพราะไม่ทรงเห็นด้วย โดยรับสั่งว่าพระบิดาก็ทรงเมตตา พระราชทานฐานันดรศักดิ์สูงสุดให้สมประสงค์เช่นนี้แล้ว พระเทวทัตต์ก็ทูลว่า พระเจ้าพิมพิสารมีเจ้านายและข้าราชบริพารเคารพนับถือมาก หากปล่อยไว้ภายหลังไม่ทรงพอพระทัยขึ้น ก็สามารถจะกำจัดพระองค์เสียเมื่อใดก็ได้ พระเจ้าอชาตศัตรูทรงเห็นตาม ในที่สุดก็รับสั่งให้จับพระราชบิดาจำคุก และทรมานจนสิ้นพระชนม์ เป็นอันว่าได้ทรงทำปิตุฆาตุ อันเป็นอนันตริยกรรมบาปอย่างมหันต์ เพราะการแนะนำของพระเทวทัตต์โดยแท้ ส่วนพระเทวทัตต์ ก็เริ่มวางแผนการทำร้ายพระพุทธเจ้า เมื่อปกครองพระภิกษุด้วยสันดานพาล โดยทูลขอนายทหารแม่นธนู พระเจ้าอชาตศัตรูลอบส่งไปประทุษร้ายพระผู้มีพระภาคด้วยธนูอันกำซาบด้วยยาพิษหลายครั้งหลายหน แต่ด้วยพุทธานุภาพ นายทหารเหล่านั้นกลับเลื่อมใสในพระธรรมเทศนาแสดงตนเป็นอุบาสกนับถือพระรัตนตรัยเสียทุกคน เมื่อไม่สมประสงค์ พระเทวทัตต์ก็ผูกใจเจ็บยิ่งขึ้น วันหนึ่งได้พยายามลอบขึ้นไปภูเขาคิชฌกูฎในเวลาเช้า ขณะที่พระผู้มีพระภาคเจ้าเสด็จลงมาโปรดสัตว์ ครั้นพระผู้มีพระภาคเจ้าเสด็จกลับขึ้นไป พระเทวทัตต์ได้กลิ้งก้อนศิลาใหญ่ลงมาหมายจะล้างพระชนม์ชีพของพระผู้มีพระภาค แต่ด้วยพุทธานุภาพก้อนศิลาใหญ่ก็หาได้ถูกต้องพระกายแต่อย่างใดไม่ เพียงแต่สะเก็ดหินชิ้นหนึ่งได้กระเด็นไปต้องพระบาทให้ห้อพระโลหิตขึ้นเท่านั้น แม้อย่างนั้นก็จัดว่าทำอนันตริยกรรมบาปหนัก ด้วยการทำร้ายพระพุทธเจ้าจนถึงให้พระบาทห้อพระโลหิตขึ้น แม้จะประทุษร้ายได้เพียงนั้นแล้ว พระเทวทัตต์ก็ยังไม่พอใจ เพราะปลงพระชนม์ไม่ได้ดังประสงค์ ต่อมาจึงได้ทูลขอพระราชทานพญาช้างนาฬาคิรีซึ่งกำลังซับมันคลั่งและดุร้ายที่สุดโดยให้นายควาญช้างมอมเหล้าถึง ๑๖ กระออม และสั่งให้ควาญช้างให้ปล่อยช้างทำร้ายพระพุทธเจ้า ยามเสด็จออกโปรดสัตว์ในเวลาเช้า แต่ด้วยพุทธานุภาพ พระพุทธเจ้าได้ทรงทรมานช้างให้สร่างเมาและหมอบถวายบังคมแทบพระยุคลบาท และเดินกลับโรงช้างด้วยอาการอันสงบปรากฏแก่มหาชนเป็นอันมาก แทนที่ผลร้ายจะเกิดแก่พระสัมพุทธเจ้า การกลับปรากฏเป็นผลดีแก่พระพุทธศาสนาเป็นเกียรติอันสูงแก่พระสัมพุทธเจ้ามหาชนพากันลงโทษพระเจ้าอชาตศัตรูและพระเทวทัตต์ ขึ้นโพนทนาติเตียนอย่างสาดเสียเทเสีย เป็นอเนกประการ ซ้ำก่อความไม่สงบเป็นภัยแก่การบริหารพระนครอีกด้วย เรื่องนี้ได้ทำให้พระเจ้าอชาตศัตรูตกพระทัยมาก ทรงนึกถึงความผิดของพระองค์ที่ทรงหลงเชื่อถือพระเทวทัตต์ ซึ่งเป็นพาลขึ้นทันที ฉะนั้นเพื่อป้องกันเหตุร้ายอันจะพึงมีแก่ราชบัลลังก์ของพระองค์ จึงทรงตัดสินพระทัยเลิกคบค้าพระเทวทัตต์เด็ดขาด ตัดไทยทานอาหารที่ถวายการบำรุงพระเทวทัตต์ตลอดบริษัทบริวารพระเทวทัตต์ออกเสียทุกประการ เวลานั้น พระเจ้าอชาตศัตรูต้องทรงโทมนัสเป็นทุกข์ใจมาก พระองค์กลายเป็นบุคคลไม่มีศาสนา เป็นบุคคลไม่มีหลักธรรมทางใจ ว้าเหว่ ทรงลำบากพระทัยมาก เพราะโดยปกติพระองค์ทรงมีพระปรีชา ไม่ทรงเลื่อมใสลัทธิของครูทั้ง ๖ ซึ่งมหาชนพากันนิยมนับถืออยู่แล้ว ครั้นทรงหันมาทางพระเทวทัตต์ก็ผิดหวังอีก เป็นการหนีเสือปะจรเข้ ทำให้พระองค์รำลึกถึงพระพุทธเจ้า อยากจะไปเฝ้า ไปขอประทานอภัยโทษที่ทรงล่วงเกิน ไปขอประทานพระโอวาทซึ่งแน่พระทัยว่าพระพุทธเจ้าจะทรงพระกรุณาประทานด้วยพระเมตตา แต่จู่ ๆ จะหันเข้าไปเฝ้าพระพุทธเจ้า ก็ทรงรู้สึกขวยพระทัยเพราะทรงระลึกถึงความผิดที่ได้ทรงทำไว้นั้น เป็นการสร้างพระองค์ เป็นศัตรูต่อพระพุทธเจ้าอยู่ไม่น้อย คือ:- ๑. การที่พระองค์ทรงปลงพระชนม์พระเจ้าพิมพิสารพระราชบิดาซึ่งเป็นพระโสดาบันสาวกของพระพุทธเจ้า และเป็นผู้อุปถัมภ์พระพุทธศาสนาอย่างสำคัญนั้น เป็นการกระทบกระเทือนต่อพระพุทธเจ้า และการพระศาสนาอย่างรุนแรง.

0 ความสัมพันธ์

ขาออกขาเข้า
Hey! เราอยู่ใน Facebook ตอนนี้! »