โลโก้
ยูเนี่ยนพีเดีย
การสื่อสาร
ดาวน์โหลดได้จาก Google Play
ใหม่! ดาวน์โหลด ยูเนี่ยนพีเดีย บน Android ™ของคุณ!
ฟรี
เร็วกว่าเบราว์เซอร์!
 

ปลาหิมะ

ดัชนี ปลาหิมะ

ปลาหิมะ (sablefish, sable, black cod, butterfish, bluefish, candlefish, coal cod; ギンダラ; /กิน-ดะ-ระ/) เป็นชื่อทางการค้าที่เรียกปลาชนิดหนึ่ง ที่อยู่ในวงศ์ปลาหิมะ (Anoplopomatidae) จัดเป็นปลาเพียงชนิดเดียวที่อยู่ในสกุล Anoplopoma ปลาหิมะ เป็นปลาที่อาศัยอยู่ในน้ำลึกประมาณ 300–3,500 เมตร บริเวณมหาสมุทรแปซิฟิกเหนือจนถึงทะเลญี่ปุ่นในแถบที่พื้นทะเลเป็นโคลน เป็นปลาที่เจริญเติบโตช้า วางไข่ได้เมื่ออายุ 10 ปี อายุยืน ความยาวสูงสุดที่พบประมาณ 2.2 เมตร น้ำหนัก 120 กิโลกรัม กินปลาหมึก, กุ้ง, ปู และปลาเป็นอาหาร ปลาหิมะ เป็นปลาเนื้อสีขาว เนื้อนิ่ม รสชาติกลมกล่อม เนื้อมีลักษณะคล้ายเนื้อปลากะพงขาว แต่เนื้อปลาหิมะจะมีไขมันผสมอยู่สูงกว่า เนื้อของมันสามารถใช้ประกอบอาหารได้หลายประเภทเช่น ต้ม, ย่าง, อบ, ทอด รวมถึง รับประทานสดเป็นซาชิมิ โดยเป็นเนื้อปลาที่มีราคาแพงในญี่ปุ่น คุณค่าทางสารอาหาร เนื้อปลาหิมะอุดมไปด้วยกรดไขมันโอเมก้า เช่น กรดไขมันโอเมกา-3 ที่มีประโยชน์แก่ร่างก.

9 ความสัมพันธ์: กรดไขมันโอเมกา-3สัตว์สัตว์มีแกนสันหลังอันดับปลาแมงป่องทะเลญี่ปุ่นซาชิมิปลากะพงขาวปลาที่มีก้านครีบโอเมกา

กรดไขมันโอเมกา-3

Chia เมล็ดที่อุดมไปด้วยโอเมก้า 3 กรดไขมันโอเมกา-3 (ω-3 หรือ omega-3) ซึ่งเป็นโครงสร้างไขมันสำคัญในสมองและจอประสาทตา ดร.อลัน ไรอัน จาก มาร์เท็ค ไบโอไซน์ส (Martek Biosciences) จะนำเสนอผลของการบริโภคกรดไขมันโอเมกา-3 ในเด็กอายุ 4 ขวบ ที่มีสุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์ดี ซึ่งแสดงให้เห็นว่ายิ่งมีระดับกรดไขมันโอเมกา-3 ในเลือดมากเท่าใด เด็กก็จะทำแบบทดสอบด้านการรับรู้ได้ดีเท่านั้น ซึ่งแสดงให้เห็นว่าควรมีการผสมกรดไขมันโอเมกา-3 ในอาหารสำหรับเด็ก กรดไขมันโอเมกา-3 พบได้ในไขมันปลา แต่ผู้เชี่ยวชาญมากมายแนะนำว่าสตรีและเด็กควรบริโภคไขมันปลาในปริมาณจำกัด กรดไขมันโอเมกา-3 เป็นกลุ่มของกรดไขมันชนิดที่ไม่อิ่มตัวสูง เป็นหนึ่งในกรดไขมันจำเป็น (Essential Fatty acid) ที่ร่างกายมนุษย์ขาดไม่ได้ ซึ่งในสูตรโครงสร้างโมเลกุลจะมีพันธะคู่อยู่ไม่น้อยกว่า 3 แห่ง โดยพันธะคู่แรกจะอยู่ที่ตำแหน่งของคาร์บอนตัวที่ 3 นับจากปลายโมเลกุลด้านที่มีกลุ่มเมธิล (methyl group) เข้าไป ส่วนพันธะคู่ต่อไปจะอยู่ตรงตำแหน่งคาร์บอนถัดไปครั้งละ 3 ตำแหน่ง สารสำคัญในตัวมันมี 2 ตัว คือ Eicosopentaenoic (EPA) และ Docosahexaenoic (DHA) กรดไขมันโอเมกา-3 มีบทบาทสำคัญต่อโครงสร้างและการทำงานของสมอง ตับ และระบบประสาทเกี่ยวกับการพัฒนาเรียนรู้ รวมทั้งเกี่ยวกับเรตินาในการมองเห็น นอกจากนี้ยังมีบทบาทสำคัญอย่างมากต่อโภชนาการและสุขภาพของคนเรา เช่น ช่วยลดระดับโคเลสเตอรอล และไตรเอธิลกลีเซอรอล (triethylglycerol) ในพลาสมา ควบคุมระดับไลโปโปรตีน (lipoprotien) และมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงองค์ประกอบและหน้าที่ของเกล็ดเลือด จึงมีแนวโน้มก่อให้เกิดผลดีในการลดอันตรายของโรคทางเดินหายใจ โรคไขมันในเส้นเลือด โรคหัวใจและโรคซึมเศร้า โอเมกา-3 พบมากในปลาทะเล และ ปลาน้ำจืดบางชน.

ใหม่!!: ปลาหิมะและกรดไขมันโอเมกา-3 · ดูเพิ่มเติม »

สัตว์

ัตว์ (Animal) เป็นสิ่งมีชีวิตยูแคริโอตหลายเซลล์ในอาณาจักร Animalia (หรือเรียก เมตาซัว) แผนกาย (body plan) ของพวกมันสุดท้ายคงที่เมื่อพัฒนา แม้สัตว์บางชนิดมีกระบวนการการเปลี่ยนสัณฐานภายหลังในช่วงชีวิต สัตว์ส่วนใหญ่เคลื่อนที่ได้ สัตว์ทุกชนิดต้องกินสิ่งมีชีวิตอื่นหรือผลิตภัณฑ์ของสิ่งมีชีวิตเพื่อการดำรงชีพ (สิ่งมีชีวิตสร้างอาหารเองไม่ได้) ไฟลัมสัตว์ที่รู้จักกันดีที่สุดปรากฏในบันทึกฟอสซิลเป็นสปีชีส์ภาคพื้นสมุทรระหว่างการระเบิดแคมเบรียน (Cambrian explosion) ประมาณ 542 ล้านปีก่อน สัตว์แบ่งเป็นกลุ่มย่อยหลายกลุ่ม บางกลุ่ม เช่น สัตว์มีกระดูกสันหลัง (นก สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม สัตว์สะเทินน้ำสะเทินบก สัตว์เลื้อยคลาน ปลา) มอลลัสกา (หอยกาบ หอยนางรม ปลาหมึก หมึกสาย หอยทาก) สัตว์ขาปล้อง (กิ้งกือ ตะขาบ แมลง แมงมุม แมงป่อง ปู ลอบสเตอร์ กุ้ง) สัตว์พวกหนอนปล้อง (ไส้เดือนดิน ปลิง) ฟองน้ำ และแมงกะพรุน.

ใหม่!!: ปลาหิมะและสัตว์ · ดูเพิ่มเติม »

สัตว์มีแกนสันหลัง

ัตว์มีแกนสันหลัง คือสัตว์ในไฟลัมคอร์ดาตา พวกมันจะมีแกนสันหลัง ใยประสาทส่วนหลังกลวง ช่องคอหอย หลอดเส้นประสาทกลวงส่วนหลัง และหางหลังทวารหนัก ในช่วงหนึ่งของวงจรชีวิต สัตว์มีแกนสันหลังเป็นพวกดิวเทอโรสโตม กล่าวคือในช่วงระยะตัวอ่อน ทวารหนักเกิดก่อนปาก และเป็นซีโลเมตที่มีสมมาตรด้านข้าง ในกรณีของสัตว์มีแกนสันหลังที่มีกระดูกสันหลัง แกนสันหลังจะถูกแทนที่โดยกระดูกสันหลังในช่วงเจริญเติบโต และพวกมันอาจจะมีปล้องตามร่างกาย ในอนุกรมวิธาน ตัวไฟลัมเองประกอบไปด้วยไฟลัมย่อยเวอร์เตบราตา (ซึ่งประกอบด้วย ปลา สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ สัตว์เลื้อยคลาน สัตว์ปีก และสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม) ทูนิคาตา (ซึ่งรวมทั้งซาล์ปและเพรียงหัวหอม) และเซฟาโลคอร์ดาตา ประกอบด้วยแหลนทะเล และยังรวมถึงบางกลุ่มที่สูญพันธุ์ไปแล้ว บางครั้งกลุ่มสัตว์มีกระดูกสันหลังถูกจัดรวมอยู่กับกลุ่มสัตว์มีกระโหลกศีรษะ สัตว์มีแกนสันหลังมีมากกว่า 65,000 สปีชีส์ที่ยังมีชีวิตอยู่ กว่าครึ่งเป็นพวกปลากระดูกแข็ง วาฬและเหยี่ยวเพเรกริน สัตว์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดและเคลื่อนที่เร็วที่สุดตามลำดับ เป็นสัตว์มีแกนสันหลังเช่นเดียวกันกับมนุษย์ ซากดึกดำบรรพ์ของสัตว์มีแกนสันหลังยุคแรกๆ มีอายุย้อนไปถึงในช่วงการระเบิดยุคแคมเบรียน.

ใหม่!!: ปลาหิมะและสัตว์มีแกนสันหลัง · ดูเพิ่มเติม »

อันดับปลาแมงป่อง

อันดับปลาแมงป่อง หรือ อันดับปลาสิงโต (Mail-cheeked fish, Scorpion fish, Sculpin, Stonefish) เป็นอันดับของปลาทะเลกระดูกแข็งอันดับหนึ่ง ใช้ชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Scorpaeniformes ทั้งหมดเป็นปลากินเนื้อเป็นอาหาร มีลักษณะเด่น คือ ปากกว้าง มีลำตัวป้อม สามารถที่จะพรางตัวกลมกลืนไปกับสภาพแวดล้อมต่าง ๆ ได้ ขณะที่หลายชนิดมีสีสันฉูดฉายลายตา มีครีบต่าง ๆ แผ่กางใหญ่ ครีบอกและครีบหางกลม บริเวณส่วนหัวมักมีหนามหรือติ่ง บางชนิดมีพัฒนาการของผิวหนังให้เป็นเส้นหรือแผ่นยื่นยาวออกมา มีทั้งว่ายน้ำได้ ซึ่งชนิดที่ว่ายน้ำนั้นมักจะว่ายช้า ๆ และนอนนิ่ง ๆ บนพื้นทราย เพื่อรอปลาเล็ก ๆ หลงเข้ามา โดยมีเงี่ยงพิษร้ายแรงที่บริเวณปลายครีบไว้เป็นอาวุธป้องกันตัวจากศัตรูผู้ล่า มิได้มีไว้เพื่อล่าอาหารแต่อย่างใด ซึ่งสามารถทำอันตรายต่อมนุษย์ได้ด้วย โดยพิษนั้นจะอยู่ที่ก้านครีบโดยเฉพาะครีบแหลมที่บนหลัง ครีบข้างลำตัว ครีบพิษเหล่านี้ไม่ได้มีไว้สำหรับการทิ่มแทงเหยื่อ เมื่อตกใจจะสะบัดครีบทิ่มแทงผู้รุกราน เมื่อครีบทิ่มแทงเข้าไปในเนื้อ หนังหุ้มครีบจะลอกออก ต่อมพิษก็จะทำการฉีดพิษเข้าไปในบาดแผลผู้รุกราน ซึ่งเป็นสารประกอบโปรตีน พิษร้ายแรงนี้จะสร้างความเจ็บปวดให้กับผู้ที่โดนแทง จะมีอาการเจ็บปวดและอาจทำให้ระบบต่าง ๆ ของร่างกาย เช่น ระบบประสาท, ระบบการเต้นของหัวใจล้มเหลวซึ่งจะเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ ในส่วนของผู้บาดเจ็บทั่วไปอาจจะมีอาการเจ็บปวดนานราว 24 ชั่วโมงแล้วอาการก็จะทุเลาลง ในขณะที่บางรายอาจจะมีอาการเจ็บปวดไปอีกหลายวัน ปลาในอันดับนี้ ที่เป็นที่รู้จักดี คือ ปลาหิน, ปลาแมงป่อง, ปลาสิงโต ซึ่งสามารถจำแนกออกได้อีก 26 วงศ์ ใน 7 อันดับย่อ.

ใหม่!!: ปลาหิมะและอันดับปลาแมงป่อง · ดูเพิ่มเติม »

ทะเลญี่ปุ่น

ทะเลญี่ปุ่น เป็นทะเลชายอาณาเขตทางตะวันตกของมหาสมุทรแปซิฟิก ระหว่างแผ่นดินใหญ่เอเชีย หมู่เกาะญี่ปุ่น และเกาะซาฮาลิน ล้อมรอบด้วยประเทศญี่ปุ่น เกาหลีใต้ เกาหลีเหนือ และรัสเซีย เป็นผืนน้ำที่ถูกปิดกั้นจากมหาสมุทรแปซิฟิกเกือบสมบูรณ์ ทำให้แทบไม่มีปรากฏการณ์น้ำขึ้นน้ำลง ซึ่งคล้ายกับทะเลเมดิเตอร์เรเนียน และความโดดเดี่ยวเช่นนี้ยังทำให้จำนวนชนิดพันธุ์สัตว์และความเค็มของน้ำมีน้อยกว่าในมหาสมุทร ภายในพื้นที่ไม่มีเกาะ อ่าว หรือแหลมขนาดใหญ่ สมดุลของน้ำได้รับอิทธิพลอย่างมากจากกระแสน้ำที่ไหลเข้าและออกผ่านช่องแคบต่างๆ ที่เชื่อมต่อกับทะเลรอบข้างและมหาสมุทรแปซิฟิก ขณะที่แม่น้ำที่ไหลลงสู่ทะเลแห่งนี้มีจำนวนน้อย จึงมีผลต่อปริมาตรน้ำในทะเลเพียงไม่เกินร้อยละ 1 น้ำในทะเลญี่ปุ่นมีความเข้มข้นของออกซิเจนละลายอยู่สูง ส่งผลให้ความอุดมสมบูรณ์ทางชีวภาพ การประมงจึงมีความสำคัญทางเศรษฐกิจในภูมิภาคนี้ และการขนส่งทางเรือในทะเลญี่ปุนกำลังเติบโตขึ้นเรื่อยๆ ตามการเติบโตทางเศรษฐกิจของภูมิภาคเอเชียตะวันออก แม้ว่าในอดีตจะไม่คับคั่งนักเนื่องด้วยประเด็นปัญหาทางการเมือง ขณะที่ชื่อของผืนน้ำแห่งนี้ยังคงเป็นประเด็นขัดแย้ง เนื่องจากเกาหลีใต้พยายามเรียกร้องให้ใช้ชื่อว่า ทะเลตะวันออก.

ใหม่!!: ปลาหิมะและทะเลญี่ปุ่น · ดูเพิ่มเติม »

ซาชิมิ

ซาชิมิ (ด้านหน้า) ซาชิมิ (刺身) เป็นอาหารญี่ปุ่นแบบประณีตชนิดหนึ่ง ประกอบด้วยเนื้อสัตว์หรือเนื้อปลาดิบสด แล่ให้เป็นชิ้น ๆ คำว่า ซาชิมิ หมายถึง "ร่างกายที่ถูกเจาะ" กล่าวคือ 刺身.

ใหม่!!: ปลาหิมะและซาชิมิ · ดูเพิ่มเติม »

ปลากะพงขาว

ปลากะพงขาว เป็นปลาทะเลชนิดหนึ่งที่สามารถปรับตัวให้อยู่ในน้ำจืดหรือน้ำกร่อยได้ อยู่ในวงศ์ปลากะพงขาว (Latidae) มีรูปร่างลำตัวหนาและด้านข้างแบน หัวโต จะงอยปากค่อนข้างยาวและแหลม นัยน์ตาโต ปากกว้างยืดหดได้ มุมปากอยู่เลยไปทางหลังนัยน์ตา ฟันเป็นฟันเขี้ยวอยู่บนขากรรไกรบนและล่าง ขอบกระดูกแก้มเป็นหนามแหลม ขอบกระดูกกระพุ้งเหงือกแข็งและคม คอดหางมีขนาดใหญ่และแข็งแรง เกล็ดใหญ่มีขอบหยักเป็นหนามเมื่อลูบจะสากมือ ครีบหลังอันแรกมีก้านครีบเป็นหนามแข็ง ปลายแหลม อันที่สองเป็นครีบอ่อนมีขนาดใกล้เคียงกัน ครีบใหญ่ปลายกลมมน พื้นลำตัวสีขาวเงินปนน้ำตาล แนวสันท้องสีขาวเงิน มีขนาดความยาวประมาณ 20-40 เซนติเมตร พบใหญ่สุดถึง 2 เมตร หนักได้ถึง 60 กิโลกรัม โดยปลาที่พบในทะเลจะมีขนาดใหญ่กว่าปลาที่พบในน้ำจืด พบกระจายทั่วไปในชายฝั่งทะเลของทวีปเอเชียไปจนถึงตอนเหนือของออสเตรเลีย โดยเป็นปลาที่อพยพไปมาระหว่างทะเลกับน้ำจืด โดยพ่อแม่ปลาจะว่ายจากชายฝั่งเข้ามาวางไข่ในป่าชายเลนหรือปากแม่น้ำ จนกระทั่งลูกปลาฟักและเติบโตแข็งแรงดีแล้ว จึงจะว่ายกลับสู่ทะเล บางครั้งพบอยู่ไกลจากทะเลนับเป็นร้อย ๆ กิโลเมตร เช่นที่ แม่น้ำโขง ก็มีเป็นปลากินเนื้อ อาหารได้แก่ สัตว์น้ำ, ปลา, กุ้ง ที่มีขนาดเล็กกว่า เป็นปลาเศรษฐกิจที่กรมประมงส่งเสริมให้เลี้ยง เกษตรกรนิยมผลิตลูกปลาชนิดนี้ส่งไปจำหน่ายยังประเทศมาเลเซียและไต้หวัน เนื้อมีรสชาติดี นำมาประกอบอาหารได้หลายประเภท เช่น แปะซะ, นึ่งบ๊วย เป็นต้น และนิยมตกเป็นเกมกีฬา อีกทั้งยังเลี้ยงเป็นปลาสวยงามได้อีกด้วย ปลากะพงขาวยังมีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า "ปลากะพงน้ำจืด" ขณะที่ชื่อท้องถิ่นในลุ่มแม่น้ำบางปะกงเรียก "ปลาโจ้โล้".

ใหม่!!: ปลาหิมะและปลากะพงขาว · ดูเพิ่มเติม »

ปลาที่มีก้านครีบ

ปลาที่มีก้านครีบ (Ray-finned fishes) เป็นชั้นย่อยของปลากระดูกแข็ง (Osteichthyes) ชั้นหนึ่ง ใช้ชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Actinopterygii (/แอก-ติ-โน-เทอ-ริ-กิ-ไอ/) เป็นปลาที่เคลื่อนไหวโดยอาศัยครีบและกล้ามเนื้อลำตัวเป็นสำคัญ ซึ่งแบ่งออกได้เป็น ก้านครีบแข็ง และก้านครีบอ่อน ซึ่งปลาส่วนใหญ่ในปัจจุบัน จะถูกจัดอยู่ในชั้นนี้ บรรพบุรุษของปลาในชั้นนี้จะมีขนาดเล็ก มีเกราะหุ้มตัวหนา มีปอดและเหงือก ชื่อ Andreolepis hedei โดยพบเป็นฟอสซิลอยู่ในยุคปลายซิลลูเรียนเมื่อกว่า 420 ล้านปีก่อนที่รัสเซีย, สวีเดน และเอสโตเนีย ปลาชั้นนี้มีการวิวัฒนาการอยู่ 3 ขั้นตอน คือ.

ใหม่!!: ปลาหิมะและปลาที่มีก้านครีบ · ดูเพิ่มเติม »

โอเมกา

โอเมกา (omega; ωμέγα, ตัวใหญ่ Ω, ตัวเล็ก ω) เป็นอักษรกรีกตัวที่ 24 ซึ่งเป็นตัวสุดท้าย และมีค่าของเลขกรีกเท่ากับ 800 ปัจจุบันใช้เขียนแทนหน่วยของความต้านทานไฟฟ้า (โอห์ม) อโอเมกา.

ใหม่!!: ปลาหิมะและโอเมกา · ดูเพิ่มเติม »

เปลี่ยนเส้นทางที่นี่:

AnoplopomaAnoplopoma fimbriaSablefish

ขาออกขาเข้า
Hey! เราอยู่ใน Facebook ตอนนี้! »