โลโก้
ยูเนี่ยนพีเดีย
การสื่อสาร
ดาวน์โหลดได้จาก Google Play
ใหม่! ดาวน์โหลด ยูเนี่ยนพีเดีย บน Android ™ของคุณ!
ฟรี
เร็วกว่าเบราว์เซอร์!
 

ไลท์เฮฟวี่เวท

ดัชนี ไลท์เฮฟวี่เวท

ลท์เฮฟวี่เวท (Light heavyweight) พิกัดน้ำหนักมวยรุ่นหนึ่ง ในรุ่นใหญ่ เป็นพิกัดที่อยู่ระหว่างรุ่นซูเปอร์มิดเดิลเวท (168 ปอนด์) กับครุยเซอร์เวท (190 ปอนด์) โดยนักมวยที่จะชกในพิกัดนี้ ต้องมีน้ำหนักตัวมากกว่า 168 ปอนด์ (ประมาณ 76.374 กิโลกรัม) และไม่เกิน 175 ปอนด์ (79.379 กิโลกรัม) ซึ่งพิกัดนี้มีทั้งในมวยสากลสมัครเล่นและมวยสากลอาชีพ และทุกสถาบันเรียกชื่อนี้เหมือนกันหมด ไลท์เฮฟวี่เวท เป็นพิกัดที่ได้รับความนิยมมากอีกพิกัดหนึ่ง โดยถือเป็นรุ่นใหญ่ที่รองก็เพียงเฮฟวี่เวท อันเป็นรุ่นที่ใหญ่ที่สุด มีนักมวยที่มีชื่อเสียงหลากหลายคนชกหรือเคยชกในพิกัดนี้ ก่อนที่จะทำน้ำหนักขึ้นไปชกในรุนที่ใหญ่กว่าต่อไป เช่น มูฮัมหมัด อาลี (มวยสากลสมัครเล่นในโอลิมปิก), เบอร์นาร์ด ฮอปกินส์, อีแวนเดอร์ โฮลีฟิลด์, ดาริอุซ มิคาลเชฟสกี, เวอร์จิล ฮิลล์, รอย โจนส์ จูเนียร์ เป็นต้น.

14 ความสัมพันธ์: ชูการ์ เรย์ เลนเนิร์ดช้างเผือก เกียรติทรงฤทธิ์กีฬามวยสากลในซีเกมส์ 2017มวยสากลสมัครเล่นชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งที่ 32มูฮัมหมัด อาลีรอย โจนส์ จูเนียร์รอคกี มาร์ซีอาโนร็อบ กามันสมาคมมวยโลกครุยเซอร์เวทซูเปอร์มิดเดิลเวทซูเปอร์ซิกเวิลด์บ็อกซิ่งคลาสสิกโธมัส เฮิร์นส์เบอร์นาร์ด ฮอปกินส์

ชูการ์ เรย์ เลนเนิร์ด

การชกครั้งแรกระหว่าง เลนเนิร์ด กับ ดูรัน ซึ่งเลนเนิร์ดเป็นฝ่ายแพ้คะแนน 15 ยก เสียแชมป์โลกและเป็นการแพ้ครั้งแรก ชูการ์ เรย์ ลีโอนาร์ด (Sugar Ray Leonard) (มักจะอ่านผิดเป็น เลนเนิร์ด) ยอดนักชกชาวอเมริกันในทศวรรษที่ 80 เจ้าของตำแหน่งแชมเปี้ยนโลก 5 รุ่น มีชื่อจริงว่า เรย์ ชาเลส ลีโอนาร์ด (Ray Charles Leonard) เกิดเมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม ค.ศ. 1956 ที่เมืองวิลมิงตัน รัฐเซาท์แคโรไลนา ลีโอนาร์ดเริ่มการชกมวยจากมวยสากลสมัครเล่นมาก่อน จนได้เป็นตัวแทนทีมชาติสหรัฐอเมริกาชกโอลิมปิคที่มอนทรีออล ประเทศแคนาดา และชนะเลิศได้เหรียญทองในรุ่นไลท์เวลเตอร์เวท จากนั้นเลนเนิร์ดเริ่มต้นการชกมวยสากลอาชีพเป็นครั้งแรกในปีถัดมา จากการเทรนของ แองเจโล่ ดันดี เทรนเนอร์ระดับโลก อดีตเทรนเนอร์ของ มูฮัมหมัด อาลี จนได้ชิงแชมป์โลกครั้งแรกเมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน ค.ศ. 1979 ในรุ่นเวลเตอร์เวทของสภามวยโลก (WBC) กับ วิลเฟรด เบนิเตซ นักมวยชาวเปอร์โตริกัน ที่ลาสเวกัส ผลการชกเลนเนิร์ดชนะคะแนน 15 ยก ได้เป็นแชมป์โลกรุ่นแรก และเลนเนิร์ดก็สามารถป้องกันตำแหน่งไว้ได้ 1 ครั้ง เมื่อชนะน็อก เดวีย์ กรีน ยกที่ 4 จากนั้น ก็เป็นฝ่ายแพ้คะแนน 15 ยก แก่ โรแบร์โต้ ดูรัน นักมวยจอมตะลุยชาวปานาเมียน เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน ค.ศ. 1980 ที่มอนทรีออล แต่อีก 5 เดือนถัดมา เลนเนิร์ดก็เป็นฝ่ายเอาชนะดูรันแย่งแชมป์โลกกลับคืนมาได้ โดยที่ดูรันเป็นฝ่ายขอยอมแพ้เอง เลนเนิร์ดคว้าแชมป์โลกในรุ่นที่ 2 โดยการเอาชนะน็อกยก 9 อายุบ คาลูเล่ เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน ค.ศ. 1981 ได้เป็นแชมป์โลกรุ่นจูเนียร์มิดเดิลเวท ของสมาคมมวยโลก (WBA) แต่ไม่ได้ชกป้องกันตำแหน่งกับใครเลย เพราะเลนเนิร์ดต้องการที่จะชกกับ โธมัส เฮิร์นส์ อีกหนึ่งยอดนักชกที่กำลังมีฟอร์มร้อนแรงในขณะนั้น ซึ่งเฮิร์นส์เป็นเจ้าของแชมป์โลกเวลเตอร์เวท สมาคมมวยโลก จึงเป็นการล้มแชมป์เวลเตอร์สองสถาบัน ระหว่าง เลนเนิร์ด แชมป์ สภามวยโลก(WBC) สามารถชนะน็อกยก 14 เฮิร์นส์ได้ที่ซีซาร์ พาเลซ ลาสเวกัส ทำให้เลนเนิร์ดได้เป็นแชมป์โลกพร้อมกันถึง 2 สถาบัน จากนั้นเลนเนิร์ดก็ประกาศแขวนนวมไปเมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน ค.ศ. 1982 แต่แล้วในวันที่ 11 พฤษภาคม ค.ศ. 1985 เลนเนิร์ดก็หวนกลับคืนสู่วงการมวยอีกครั้ง โดยการชนะน็อกยก 9 เควิน โฮเวิร์ด นักมวยรุ่นน้องชาติเดียวกัน แม้จะเอาชนะน็อกได้ แต่ในครั้งนี้เลนเนิร์ดได้ถูกหมัดของโฮเวิร์ดชกลงไปให้กรรมการนับก่อนเป็นครั้งแรกในชีวิตการชกมวยด้วย หลังจากการชกครั้งนี้ เลนเนิร์ดก็ประกาศแขวนนวมอีกครั้ง คราวนี้ยาวนานถึง 3 ปี แล้วจู่ ๆ เลนเนิร์ดก็กลับมาชกมวยอีกครั้ง โดยไม่ได้อุ่นเครื่องกับใครเลย และท้าชิงแชมป์โลกในรุ่นมิดเดิลเวท สภามวยโลก กับ มาร์วิน แฮ็กเลอร์ ยอดนักชกอีกคนหนึ่งในรุ่นกลางของทศวรรษที่ 80 การชกกันของทั้งคู่ดำเนินไปจนถึงยกสุดท้าย ผลการชกปรากฏว่ากรรมการรวมคะแนนแล้วตัดสินให้เลนเนิร์ดเป็นฝ่ายชนะคะแนนไปโดยไม่เอกฉันท์ ทำให้เลนเนิร์ดได้ตำแหน่งแชมป์โลกในรุ่นที่ 3 แต่มีหลายความเห็นเห็นว่าแฮ็กเลอร์น่าจะเป็นฝ่ายชนะมากกว่า หลังจากชกครั้งนี้ มาร์วิน แฮ็กเลอร์ ก็ได้แขวนนวมไปอย่างถาวร โดยที่ไม่กลับมาชกมวยอีกเลย สำหรับลีโอนาร์ดแล้ว ในครั้งต่อมาได้สร้างความประหลาดมากในวงการมวยโลก เมื่อขอขึ้นชกเดิมพันตำแหน่งแชมป์โลกพร้อมกันถึง 2 รุ่น กับ ดอน ลาดอนเด้ นักมวยชาวแคนาเดี้ยน โดยเป็นการชิงแชมป์โลกรุ่นซูเปอร์มิดเดิลเวท สภามวยโลกที่ว่างอยู่ และชิงแชมป์โลกรุ่นไลท์เฮฟวี่เวท สภามวยโลก ที่ลาดอนเด้เป็นแชมป์โลกอยู่ด้วย ซึ่งการชกในแบบนี้เป็นการชกในครั้งแรกและครั้งเดียวตราบจนถึงทุกวันนี้ของวงการมวยโลก ผลการชกปรากฏว่า เลนเนิร์ดเป็นฝ่ายเอาชนะน็อกยก 9 ลาดอนเด้ ไปได้ ซึ่งทำให้เลนเนิร์ดเป็นนักมวยคนที่ 2 ของโลกที่ได้แชมป์โลกถึง 5 รุ่น หลังการได้แชมป์โลกรุ่นซูเปอร์มิดเดิลเวท ขององค์กรมวยโลก (WBO) ของ โธมัส เฮิร์นส์ เพียง 3 วันเท่านั้น จากนั้นลีโอนาร์ดก็สละตำแหน่งแชมป์โลกไลท์เฮฟวี่เวท ในอีก 8 วันต่อมา และชกป้องกันตำแหน่งแชมป์โลกซูเปอร์มิดเดิลเวท เอาไว้ 2 ครั้ง โดยเสมอกับ โธมัส เฮิร์นส์ 12 ยก ในแบบที่ลีโอนาร์ดน่าจะแพ้มากกว่า เพราะลีโอนาร์ดถูกเฮิร์นส์ชกลงไปให้กรรมการนับ 8 ถึง 2 ครั้ง และอีกครั้งเมื่อเอาชนะคะแนน โรแบร์โต้ ดูรัน ไปได้ ก่อนจะแขวนนวมอีกครั้งในเดือนสิงหาคม ค.ศ. 1990 9 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1991 ลีโอนาร์ดก็กลับมาชิงแชมป์โลกอีกครั้งในรุ่นซูเปอร์เวลเตอร์เวท สภามวยโลก กับ เทอร์รี่ นอริส นักมวยอันตรายรุ่นน้องร่วมชาติ คราวนี้ลีโอนาร์ดถูกนอริสถลุงอย่างหนัก และเป็นฝ่ายแพ้คะแนนไปอย่างขาดลอย และประกาศแขวนนวมอีกครั้ง ซึ่งครั้งนี้ไม่มีใครคิดว่าลีโอนาร์ดจะกลับมาชกมวยอีกแล้วอย่างแน่นอน แต่เมื่อหลายปีผ่านไป ในวันที่ 1 มิถุนายน ค.ศ. 1997 ลีโอนาร์ดก็หวนกลับมาสู่สังเวียนมวยอีกครั้ง โดยครั้งนี้พบกับ เฮคเตอร์ คามาโช่ นักมวยจอมลีลาชาวเปอร์โตริกัน ซึ่งในขณะนั้นคามาโช่เองก็อยู่ในปลายๆ ชีวิตการชกมวยแล้วเหมือนกัน ผลการชกลีโอนาร์ดไม่อาจสู้อะไรได้กับคามาโช่เลย และถูกถล่มอยู่ฝ่ายเดียวจนแพ้น็อกไปในยกที่ 5 เท่านั้น ในแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อนในชีวิต ซึ่งนี่คือการชกมวยครั้งสุดท้ายในชีวิตของลีโอนาร์ดอีกด้วย ชูการ์ เรย์ ลีโอนาร์ด (Sugar Ray Leonard) ได้ชื่อว่าเป็นยอดนักมวยในรุ่นกลางในทศวรรษที่ 80 ร่วมกับ โธมัส เฮิร์นส์, โรแบร์โต้ ดูรัน และ มาร์วิน แฮ็กเลอร์ ได้รับการยอมรับว่าเป็นนักมวยที่ชกอย่างชาญฉลาด ลีโอนาร์ดไม่ใช่นักมวยประเภทหมัดหนักหรือบู๊ล้างผลาญ หากแต่เป็นมวยที่มีชั้นเชิงลีลา แต่ในหลายครั้งก็สามารถเอาชนะน็อกคู่ต่อสู้ได้อย่างเด็ดขาด ซึ่งชื่อหน้าคำว่า "ชูการ์ เรย์" นั้น ลีโอนาร์ดนำมาจากชื่อของ ชูการ์ เรย์ โรบินสัน ยอดนักมวยในรุ่นมิดเดิลเวทกลางทศวรรษที่ 50 ซึ่งในปี ค.ศ. 2005 ได้ถูกจัดให้เป็นนักมวยที่เก่งที่สุดในโลกตลอดกาล และในส่วนของลีโอนาร์ดนั้น เขาถูกจัดให้อยู่ในอันดับ 6 ด้วยเช่นกัน.

ใหม่!!: ไลท์เฮฟวี่เวทและชูการ์ เรย์ เลนเนิร์ด · ดูเพิ่มเติม »

ช้างเผือก เกียรติทรงฤทธิ์

้างเผือก เกียรติทรงฤทธิ์ อดีตนักมวยไทยและนักมวยคิกบ็อกซิ่งและเค-วันชาวไทย เป็นนักมวยถนัดซ้าย มีชื่อจริงว่า สมชาย รอบแคว้น เกิดเมื่อวันที่ 13 ตุลาคม..

ใหม่!!: ไลท์เฮฟวี่เวทและช้างเผือก เกียรติทรงฤทธิ์ · ดูเพิ่มเติม »

กีฬามวยสากลในซีเกมส์ 2017

การแข่งขัน มวยสากล ที่ ซีเกมส์ 2017 ใน กัวลาลัมเปอร์ จะจัดขึ้นที่ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติมาเทรด ใน เซแกมบัต.

ใหม่!!: ไลท์เฮฟวี่เวทและกีฬามวยสากลในซีเกมส์ 2017 · ดูเพิ่มเติม »

มวยสากลสมัครเล่นชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งที่ 32

การแข่งขันมวยสากลสมัครเล่นชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งที่ 32 จัดขึ้นในวันที่ 2-7 เมษายน พ.ศ. 2553 ที่ เอ็มซีซีฮอลล์ เดอะมอลล์ งามวงศ์วาน.

ใหม่!!: ไลท์เฮฟวี่เวทและมวยสากลสมัครเล่นชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งที่ 32 · ดูเพิ่มเติม »

มูฮัมหมัด อาลี

มูฮัมหมัด อาลี (Muhammad Ali) เป็นอดีตยอดนักมวยชาวอเมริกันในรุ่นเฮฟวี่เวทผู้เป็นตำนาน อาลีมีชื่อจริงแต่กำเนิดว่า เคสเซียส มาเซลลัส เคลย์ จูเนียร์ (Cassius Marcellus Clay Jr.) แต่นิยมเรียกว่า เคสเซียส เคลย์ (Cassius Clay) เกิดเมื่อวันที่ 17 มกราคม ค.ศ. 1942 ที่เมืองหลุยส์วิลล์ รัฐเคนตักกี้ สหรัฐอเมริก.

ใหม่!!: ไลท์เฮฟวี่เวทและมูฮัมหมัด อาลี · ดูเพิ่มเติม »

รอย โจนส์ จูเนียร์

รอย โจนส์ จูเนียร์ (Roy Jones, Jr.) มีชื่อจริงว่า รอย ลีเวสต้า โจนส์ จูเนียร์ (Roy Levesta Jones, Jr.) เกิดวันที่ 16 มกราคม ค.ศ. 1969 ที่เมืองเพนซาโคล่า รัฐฟลอริดา นักมวยสากลชาวอเมริกัน เขาคืออดีตแชมป์โลกสี่รุ่น และได้รับการยอมรับอย่างมากว่าเป็นหนึ่งในนักมวยที่เก่งที่สุดตลอดกาล รอย โจนส์ จูเนียร์ มีชื่อเสียงโด่งดังมาตั้งแต่ยังชกมวยสากลสมัครเล่นอยู่ เมื่อติดทีมชาติสหรัฐอเมริกา ในรุ่นไลท์มิดเดิลเวท ในการแข่งขันโอลิมปิคที่โซล ประเทศเกาหลีใต้ โจนส์สามารถผ่านไปจนถึงรอบชิงชนะเลิศได้ แต่ปรากฏว่าเมื่อต้องพบกับ ปาร์ค ซี-ฮัน นักมวยเจ้าภาพ โจนส์ถูกปล้นชัยชนะไปอย่างหน้าตาเฉย โดยแพ้คะแนนไปอย่างขัดสายตาคนดูทั้งโลก ซึ่งผลการชกในครั้งนี้ถือเป็นข้อครหาข้อหนึ่งของการแข่งขันโอลิมปิคครั้งนี้เลยทีเดียว หลังจากนั้น จึงหันมาชกมวยสากลอาชีพ มีสถิติชนะรวด โดยไม่มีแพ้หรือเสมอ จนได้มีโอกาสชิงแชมป์โลกรุ่นมิดเดิลเวท สหพันธ์มวยนานาชาติ (IBF) ที่ว่างอยู่กับ เบอร์นาร์ด ฮอปกินส์ นักมวยเพื่อนร่วมชาติ ผลปรากฏว่าโจนส์เป็นฝ่ายเอาชนะคะแนนไปได้อย่างเอกฉันท์เมื่อครบ 12 ยก เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม ค.ศ. 1993 ในรุ่นนี้โจนส์ป้องกันแชมป์เพียงครั้งเดียว โดยชนะน็อกไปในยกที่ 2 จากนั้นจึงสละเข็มขัดขึ้นไปชกในรุ่นที่ใหญ่กว่าเดิม คือ ซูเปอร์มิดเดิลเวท และได้ชิงแชมป์โลกในรุ่นนี้ของ IBF กับ เจมส์ โทนีย์ ยอดนักชกไร้พ่ายในเวลานั้น ปรากฏว่าโจนส์ก็สามารถเอาชนะได้อย่างขาดลอยอีกเมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน ค.ศ. 1994 รอย โจนส์ จูเนียร์ ป้องกันตำแหน่งแชมป์ซูเปอร์มิดเดิลเวทไว้ได้ทั้งหมด 5 ครั้ง แล้วจึงสละแชมป์ขยับขึ้นไปชกในรุ่นไลท์เฮฟวี่เวท จนได้โอกาสชิงแชมป์ที่ว่างของ WBC กับ ไมค์ แม็คคัลลัม ก็ปรากฏว่าโจนส์ก็เป็นฝ่ายเอาชนะคะแนนไปได้อีกเมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน ค.ศ. 1996 ที่เมืองแทมปา แต่แล้วนักมวยไร้พ่ายอย่าง รอย โจนส์ จูเนียร์ ก้ต้องมาพบกับความพ่ายแพ้เป็นครั้งแรก เมื่อป้องกันตำแหน่งแชมป์ไลท์เฮฟวี่เวทนี้ครั้งแรก เมื่อแพ้ฟาลว์ต่อ มอนเทล กริฟฟิน ไปอย่างไม่มีใครคาดคิดมาก่อน เพราะชกติดพันขณะที่กริฟฟินทรุดลงไปในยกที่ 9 กรรมการห้ามบนเวทีเห็นว่าเป็นการชกซ้ำ จึงตัดสินให้โจนส์แพ้ไป รอย โจนส์ จูเนียร์ จึงเก็บความแค้นนี้ไว้ และมาระบายออกเมื่อได้โอกาสล้างตากับกริฟฟินอีกครั้ง คราวนี้โจนส์น็อกกริฟฟินแย่งเข็มขัดแชมป์คืนมาได้แค่ยกแรกเท่านั้นเอง เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม ค.ศ. 1997 รอย โจนส์ ป้องกันตำแหน่งในรุ่นไลท์เฮฟวี่เวทนี้ไว้ได้ถึง 12 ครั้ง โดยทำการรวบแชมป์ของทั้ง 3 สถาบันใหญ่ และสถาบันเล็ก ๆ อย่าง IBO และ IBA และรวมถึงสถาบันระดับภูมิภาคอย่าง NBA ด้วย ซึ่งในช่วงนี้ รอย โจนส์ จูเนียร์ ได้รับการยกย่องให้เป็นนักมวยที่เก่งกาจที่สุดในโลกเมื่อเทียบกันปอนด์ต่อปอนด์ จนเรียกได้เลยว่า ไม่มีใครที่จะเป็นคู่ปรับกับโจนส์ได้ในรุ่นระหว่างนี้ บวกกับการออกหมัดที่ว่องไวมาก จนกล่าวได้ว่าเป็นสปีดหมัดที่ไวที่สุดในวงการมวยโลกเท่าที่เคยมีมาเลยทีเดียว จากนั้น รอย โจนส์ จึงข้ามไปชกในรุ่นเฮฟวี่เวท ซึ่งโจนส์ก็ประสบความสำเร็จเมื่อเป็นฝ่ายเอาชนะคะแนน จอห์น รุยซ์ แชมป์โลกเฮฟวี่เวทชาวอเมริกัน ของ WBA ไปได้เมื่อวันที่ 1 มีนาคม ค.ศ. 2003 ทั้งที่ก่อนการชกโจนส์ชั่งน้ำหนักได้เพียงแค่ 193 ปอนด์เท่านั้น (88 กิโลกรัม) ขณะที่รุยซ์หนักถึง 226 ปอนด์ (103 กิโลกรัม) และนับว่าโจนส์เป็นนักมวยที่ขึ้นมาจากรุ่นมิดเดิลเวทเป็นคนแรกในรอบ 106 ปี ที่สามารถเอาชนะในรุ่นเฮฟวี่เวทได้ และเป็นคนแรกด้วยที่ขึ้นมาจากรุ่นมิดเดิลเวทที่ได้แชมป์โลกในรุ่นเฮฟวี่เวท จากนั้นโจนส์ก็ได้สละแชมป์โลกไปโดยไม่ได้ป้องกันตำแหน่งกับใคร เพื่อลดกลับไปชกในรุ่นไลท์เฮฟวี่เวทที่เหมาะสมกับตนเองตามเดิม และโจนส์ก็สามารถเอาชนะคะแนน อันโตนิโอ ทาร์เวอร์ นักมวยเพื่อนร่วมชาติเจ้าของเหรียญทองแดงในโอลิมปิคที่แอตแลนต้า ได้เป็นแชมป์โลกไลท์เฮฟวี่เวทของ WBC และ IBO อีกครั้ง แต่ผลการชกครั้งนี้หลายฝ่ายเห็นว่าทาร์เวอร์ทำได้ดีกว่าและน่าจะเป็นฝ่ายชนะคะแนนมากกว่า ทั้งคู่จึงได้ล้างตากันอีกครั้ง ในวันที่ 15 มีนาคม ค.ศ. 2004 คราวนี้ปรากฏว่าเป็นฝ่ายเทรเวอร์ที่เอาชนะทีเคโอโจนส์ได้ไปอย่างหายสงสัย จากนั้นรอย โจนส์ ได้หวนกลับมาชิงแชมป์โลกอีกครั้งของ IBF กับ เกล็น จอห์นสัน นักชกชาวจาเมก้า ปรากฏว่าโจนส์เป็นฝ่ายแพ้น็อกจอห์นสันไปอีกในยกที่ 9 เมื่อเดือนกันยายน ปีเดียวกัน หลังจากนั้นในวันที่ 1 ตุลาคม ค.ศ. 2005 โจนส์ก็ได้มีโอกาสชกล้างตาอีกครั้งกับทาร์เวอร์ คราวนี้โจนส์ก็เป็นฝ่ายแพ้คะแนน 12 ยกไปอีก ท่ามกลางเสียงกล่าวขานว่า หมดยุคของเขาแล้ว รอย โจนส์ จูเนียร์ ยังคงชกทำฟอร์มไปอีก 3 ครั้ง รวมทั้งการเอาชนะคะแนน เฟลิกซ์ ทรินิแดด อดีตยอดนักมวยชาวเปอร์โตริกันที่หวนกลับชกอีกครั้งในรุ่นไลท์เฮฟวี่เวทด้วย และรอย โจนส์ ก็ได้พบกับ โจ คัลซากี้ ยอดนักชกชาวเวลส์ ผู้เป็นเจ้าของสถิติไม่แพ้ใครและเป็นแชมป์ไลท์เฮฟวี่เวทผู้ป้องกันตำแหน่งไว้ได้มากมายของ WBO เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน ค.ศ. 2008 และเป็นฝ่ายแพ้คะแนนไปเมื่อครบ 12 ยก ท่ามกลางหน้าตาที่แตกยับเยิบ และรอย โจนส์ ก็ยังไม่ได้ขึ้นเวทีอีกเลยนับจากนี้ ในช่วงที่รุ่งเรือง รอย โจนส์ จูเนียร์ นอกจากถูกยกย่องว่าเป็นนักมวยที่เก่งที่สุดในโลกเมื่อเทียบกันปอนด์ต่อปอนด์แล้ว เขายังใช้เวลาว่างจากการชกมวยเล่นบาสเก็ตบอลด้วย โดยเล่นในทีมของรัฐฟลอริดาบ้านเกิดในลีกระดับรองมาจาก NBA และยังเป็นศิลปินเพลงแร็พ ได้ออกอัลบั้มถึงหลายชุด และยังเป็นนักแสดงภาพยนตร์ฮอลลีวู้ดในบทตัวประกอบอีกด้วย ผลงานการแสดงของโจนส์ก็ได้แก่ ''The Devil's Avocate'' ในปี ค.ศ. 1996 และ ''The Matrix Reloaded'' ในปี ค.ศ. 2003 เป็นต้น.

ใหม่!!: ไลท์เฮฟวี่เวทและรอย โจนส์ จูเนียร์ · ดูเพิ่มเติม »

รอคกี มาร์ซีอาโน

อนุสาวรีย์ร็อคกี้ มาร์เซียโน่ ที่ประเทศอิตาลี ร็อคกี้ มาร์เซียโน่ (Rocky Marciano) ยอดนักมวยผิวขาวในรุ่นเฮฟวี่เวทผู้เป็นตำนานอีกคนหนึ่งในวงการมวยโลก ร็อคกี้ มาร์เซียโน่ มีชื่อจริงว่า ร็อคโก้ ฟรานซิส มาเคเจียโน่ (Rocco Francis Marchegiano) เกิดเมื่อวันที่ 1 กันยายน ค.ศ. 1923 ที่เมืองบล็อกตัน รัฐแมสซาชูเซตส์ เป็นชาวอเมริกันเชื้อสายอิตาเลียน เมื่อวัยเด็กมาร์เซียโน่ชอบที่จะเล่นเบสบอลมาก แต่แม้จะมีความสามารถบวกกับร่างกายที่แข็งแกร่ง ก็ยังไม่สามารถเอาดีด้านนี้ได้ เพราะความเป็นหนุ่มเลือดร้อน ที่ชอบละตำแหน่งแคชเชอร์ไปไล่ชกต่อยคู่แข่งอยู่บ่อย ๆ จนโค้ชเอือมระอา ต่อมาเมื่อถูกเกณฑ์ทหาร ที่ทำให้เกิดจุดหักเหสำคัญในชีวิต เมื่อมาร์เซียโน่เข้าฝึกฝนมวย และค้นพบพรสวรรค์ของตัวเองที่มีพลังหมัดดุดัน จนประสบความสำเร็จอย่างน่าพอใจในการชกมวยสากลสมัครเล่น กับทัวร์นาเมนต์ของกองทัพ อย่างไรก็ตาม หลังจากปลดประจำการในปี ค.ศ. 1946 และหันมาชกมวยสมัครเล่นบ้างแล้ว มาร์เซียโน่ก็ยังคงชอบการเล่นเบสบอลและหวนกลับไปพยายามคัดตัวกับทีมชิคาโกคลับ แต่เมื่อไม่ได้ดังหวัง ก็ถือเป็นการปิดฉากชีวิตนักเบสบอลของมาร์เซียโน่ไปถาวร ก่อนจะหันมาเอาจริงเอาจังกับการเป็นนักมวย โดยเริ่มชกอาชีพในปี ค.ศ. 1947 โดยชกครั้งแรกกับ ลี เอพเพอร์สัน ปรากฏว่ามร์เซียโน่เป็นฝ่ายชนะน็อกไปในยก 3 แต่มาร์เซียโน่ก็หวนกลับไปชกมวยสมัครเล่นอีก จนตัดใจมาชกอาชีพอย่างจริงจังในปี ค.ศ. 1948 ด้วยพลังกำปั้นที่หนักหน่วงถือเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้มาร์เซียโน่แจ้งเกิดได้อย่างสง่างาม 16 ไฟต์แรกของการชกอาชีพ เป็นการถลุงคู่ชกแบบไม่ครบยกทั้งหมด แถมในจำนวนนี้มีอยู่ 9 ไฟต์ที่ระฆังหมดยก 1 ยังไม่ทันจะได้ตี นักมวยฝ่ายตรงข้ามก็ลงไปกองกับพื้นเวทีแล้ว มีนักมวยเพียง 2 รายเท่านั้นที่สามารถยืนสู้กับมาร์เซียโน่ได้จนครบยก คือ ดอน โมการ์ด และ โรแลนด์ ลา สตาร์ซ่า แต่กระนั้นการชกกับทั้ง 2 นี้ ทั้งคู่ก็เกือบจวนเจียนจะเอาตัวไม่รอดในหลาย ๆ ครั้ง และทำให้อันดับของมาร์เซียโน่ขึ้นสู่รองแชมป์โลก และทำให้ร็อคกี้ มาร์เซียโน่ ได้รับฉายาว่า "The Brockton Blockbuster" หรือ "The Rock" สมกับชื่อ ร็อคกี้ ที่เหมือนกับเทือกเขาร็อกกี้ที่ยิ่งใหญ่ในทวีปอเมริกาเหนือ สำหรับแฟนมวยชาวไทยให้ฉายาว่า "ไอ้หมัดภูผาหิน" ระหว่างรอชิงแชมป์โลก มาร์เซียโน่ต้องเจอกับการคู่ชกที่เขาลำบากใจมากที่สุด นั่นคือ โจ หลุยส์ ตำนานแชมป์โลกเฮฟวี่เวทอีกคนหนึ่งที่เป็นขวัญใจของมาร์เซียโน่ในวัยเด็ก โจ หลุยส์ เป็นเจ้าของสถิติป้องกันตำแหน่งแชมป์โลกได้ยาวนานที่สุดในโลกถึง 25 ครั้ง (ซึ่งยังเป็นสถิติมาจนปัจจุบัน) เมื่อต้องกลายมาเป็นคู่ต่อสู้ โจ หลุยส์ก็เป็นฝ่ายถูกมาร์เซียโน่ถลุงยับพ่ายไปในยกที่ 8 และหลังจากรอมานานถึง 2 ปี ร็อคกี้ มาร์เซียโน่ ก็ได้มีโอกาสชิงแชมป์โลกกับ เจอร์ซี่ โจ วัลค็อทท์ ในวัย 29 ปี มาร์เซียโน่ถูก วัลค็อทท์ แชมป์โลกวัย 42 ปี ทำคะแนนนำขาดลอยด้วยความเจนสังเวียนที่ทำให้มาร์เซียโน่แทบไม่มีโอกาสและส่อแววแห่งความพ่ายแพ้อย่างเห็นได้ชัดตลอด 12 ยก แต่แล้วจู่ ๆ ในยกที่ 13 มาร์เซียโน่ก็ปล่อยหมัดเข้าที่ปลายคางของวัลค็อทท์ ทำให้เจอร์ซี่ โจ วัลค็อทท์ แพ้น็อกไปทันทีในยกนี้ ร็อคกี้ มาร์เซียโน่ ถูกจารึกในฐานะแชมป์โลกรุ่นเฮฟวี่เวทร่างเล็ก เพราะว่าเมื่อดูจากรูปร่างแล้ว แทบไม่น่าเชื่อ ด้วยความสูงเพียงแค่ 5 ฟุต 11 นิ้ว หนักไม่ถึง 190 ปอนด์ (เต็มพิกัดรุ่นเฮฟวี่เวท) แถมช่วงชกยังสั้นเพียง 68 นิ้ว อันเป็นช่วงชกที่ถือว่าสั้นที่สุดในบรรดาแชมป์โลกรุ่นเฮฟวี่เวทเท่าที่เคยมีมาเลยทีเดียว แต่กลับมีพลังหมัดที่หนักปานภูผาหิน และอีกไม่ถึง 8 เดือนต่อมา มาร์เซียโน่ก็เปิดโอกาสให้วัลค็อทท์ได้แก้มืออีกครั้ง คราวนี้ มาร์เซียโน่ไม่ปล่อยให้เสียเวลาการชกมากเหมือนครั้งแรก ก็เร่งปิดฉากน็อกวัลค็อทท์ซ้ำเป็นครั้งที่ 2 ได้ด้วยเวลาเพียง 2 นาทีเศษของยกแรกเท่านั้น หลังจากนั้นมาร์เซียโน่ก็ขึ้นป้องกันตำแหน่งอีก 5 ครั้งชนะรวด กลายเป็นขวัญใจชาวอเมริกัน โดยเฉพาะชาวผิวขาว เพราะถือได้ว่าเป็นนักมวยที่เชิดหน้าชูตาชาวผิวขาวได้ เป็นนักมวยผู้เรียกศรัทธาแฟนมวย สามารถเรียกผู้ชมเต็มสนามได้ทุกครั้งที่ขึ้นชก แต่แล้วหลังจากป้องกันตำแหน่งเป็นครั้งที่ 6 ด้วยการชนะน็อกนักมวยผู้ได้ชื่อว่ามีสถิติการชกมากที่สุดในโลก อดีตแชมป์โลกในรุ่นไลท์เฮฟวี่เวท อย่าง อาร์ชี่ มัวร์ มาร์เซียโน่ก็ประกาศแขวนนวมไปในวัยเพียง 33 ปี ในปี ค.ศ. 1955 ถือว่ายังอยู่ในวัยฉกรรจ์ หลังแขวนนวม ร็อคกี้ มาร์เซียโน่ ได้เดินทางมาประเทศไทยครั้งหนึ่งในปี ค.ศ. 1969 เพื่อมาดูมวยไทยที่เวทีราชดำเนิน ด้วยการต้อนรับจาก อาจารย์เจือ จักษุรักษ์ กรรมการมวยระดับโลกของไทยในเวลานั้น ร็อคกี้ มาร์เซียโน่ เสียชีวิตอย่างกะทันหันจากอุบัติเหตุที่เครื่องบินส่วนตัวตกที่เมืองนิวตัน รัฐไอโอวา ในวันที่ 31 สิงหาคม ค.ศ. 1969 ด้วยวัย 45 ปี (อีกเพียง 1 วัน ก็จะครบ 46 ปี) ทิ้งการชกไว้เป็นตำนานของสุดยอดนักมวยหมัดหนักปานภูผาหิน และเป็นนักมวยในรุ่นเฮฟวี่เวทที่ได้แชมป์โลกที่ไม่มีสถิติเสมอใครหรือแพ้ใครแม้สักครั้งเดียวจนกระทั่งแขวนนวม ซึ่งมาร์เซียโน่มีสถิติการชกทั้งหมด 49 ครั้ง และเป็นการชนะน็อกถึง 43 ครั้ง อีกทั้ง ยังเป็นแรงบันดาลใจให้แก่ ซิลเวสเตอร์ สตอลโลน สร้างเป็นภาพยนตร์ในปี ค.ศ. 1976 เรื่อง Rocky ซึ่งเป็นเรื่องราวของนักมวยผิวขาวรุ่นเฮฟวี่เวทที่ต่อสู้ทั้งบนเวทีและชีวิตจริงจนกระทั่งได้เป็นแชมป์โลกในที่สุด และในปี ค.ศ. 2005 ร็อคกี้ มาร์เซียโน่ ถูกจัดอันดับให้เป็นนักมวยยอดเยี่ยมตลอดกาลของโลกในอันดับที่ 8.

ใหม่!!: ไลท์เฮฟวี่เวทและรอคกี มาร์ซีอาโน · ดูเพิ่มเติม »

ร็อบ กามัน

ร็อบ กามัน (Rob Kaman) เกิดวันที่ 5 มิถุนายน ค.ศ. 1960 ที่กรุงอัมสเตอร์ดัม เป็นทั้งนักมวยไทยและคิกบ็อกเซอร์อดีตแชมป์โลก 9 สมัยชาวดัตช์ โดยถือได้ว่าเป็นนักมวยที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของทุกสมัยที่ผ่านมา และได้รับการขนานนามว่า "มิสเตอร์โลว์คิก" เนื่องด้วยผลงานการเตะต่ำอันน่าสะพรึงกลัวของเขา ทั้งนี้ ร็อบ กามัน เป็นชาวต่างชาติคนแรกที่เดินทางมาฝึกมวยไทย ณ ค่ายมวยศิษย์ยอดธง.

ใหม่!!: ไลท์เฮฟวี่เวทและร็อบ กามัน · ดูเพิ่มเติม »

สมาคมมวยโลก

ำหรับ WBA ความหมายอื่น ดูที่: สโมสรฟุตบอลเวสต์บรอมวิชอัลเบียน สัญลักษณ์สมาคมมวยโลก เข็มขัดแชมป์โลกสมาคมมวยโลก สมาคมมวยโลก (World Boxing Association, ตัวย่อ: WBA; Asociación Mundial de Boxeo, ตัวย่อ: AMB) สถาบันที่ดูแลและควบคุมการชกมวยสากลในระดับโลก สมาคมมวยโลกก่อตั้งขึ้นในวันที่ 23 สิงหาคม ค.ศ. 1962 โดยแยกตัวออกมาจากสถาบันสมาคมมวยแห่งชาติ (National Boxing Association - NBA) ของสหรัฐอเมริกา โดยกลุ่มผู้ร่วมก่อตั้งเป็นบุคคลในวงการมวยชาวอเมริกันและต่อมาจึงมีชาติในสมาชิกกลุ่มลาตินอเมริกาเข้าร่วมด้วยอีกหลายชาติ ปัจจุบัน สมาคมมวยโลก เป็นอีกหนึ่งสถาบันมวยสากลที่ได้รับการยอมรับว่ามีมาตรฐานและได้รับความนิยมเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก มี กิลแบร์โต เมนโดซา ชาวเวเนซุเอลาเป็นประธาน ที่ตั้งสถาบัน ตั้งอยู่ที่กรุงคารากัส ประเทศเวเนซุเอล.

ใหม่!!: ไลท์เฮฟวี่เวทและสมาคมมวยโลก · ดูเพิ่มเติม »

ครุยเซอร์เวท

รุยเซอร์เวท (Cruiserweight) พิกัดน้ำหนักมวยรุ่นหนึ่ง เป็นพิกัดที่อยู่ระหว่างรุ่นไลท์เฮฟวี่เวท (170 ปอนด์) กับเฮฟวี่เวท (190 ปอนด์ขึ้นไป) ที่เป็นรุ่นที่ใหญ่ที่สุด โดยรุ่นครุยเซอร์เวท เป็นรุ่นที่มีน้ำหนักมากกว่า 175 ปอนด์ (79.379 กิโลกรัม) และไม่เกิน 190 ปอนด์ (86.183 กิโลกรัม) ถือเป็นรุ่นที่ใหญ่ที่สุดเป็นรองก็เพียงเฮฟวี่เวทเท่านั้น จึงได้รับการขนานนามว่าเป็น "รุ่นน้องยักษ์" แต่ไม่ปรากฏในการชกมวยสากลสมัครเล่น และทุกสถาบันเรียกพิกัดชื่อรุ่นนี้เหมือนกันหมด แต่ทว่า พิกัดรุ่นนี้กลับไม่ได้รับความนิยมนักเมื่อเทียบกับรุ่นอื่น ๆ โดยแฟนมวยมักจะให้ความสนใจที่รุ่นเฮฟวี่เวทมากกว่า จึงมีนักมวยหลายคนที่ชกในรุ่นนี้และได้เลื่อนพิกัดขึ้นไปชกในรุ่นเฮฟวี่เวทมากกว่า อาทิ อีแวนเดอร์ โฮลี่ฟิลด์, เดวิด เฮย์, อัล โคล เป็นต้น.

ใหม่!!: ไลท์เฮฟวี่เวทและครุยเซอร์เวท · ดูเพิ่มเติม »

ซูเปอร์มิดเดิลเวท

ซูเปอร์มิดเดิลเวท (Super middleweight) เป็นพิกัดน้ำหนักมวยพิกัดหนึ่ง อยู่ระหว่างรุ่นมิดเดิลเวท (160 ปอนด์) กับรุ่นไลท์เฮฟวี่เวท (175 ปอนด์) โดยนักมวยที่จะชกในพิกัดนี้จะมีน้ำหนักตัวมากกว่า 160 ปอนด์ (71.575 กิโลกรัม) และไม่เกิน 168 ปอนด์ (ประมาณ 76.374 กิโลกรัม) โดยที่พิกัดนี้ไม่มีในมวยสากลสมัครเล่น และทุกสถาบันเรียกชื่อนี้เหมือนกันหมด พิกัดรุ่นนี้ได้รับความนิยมอย่างมากในทศวรรษที่ 80 โดย โธมัส เฮิร์นส์ กลายเป็นนักมวยคนแรกของโลกที่ได้เป็นแชมป์โลกถึง 6 รุ่น เมื่อเป็นฝ่ายเอาชนะเจมส์ คินเช่น ได้แชมป์โลกซูเปอร์มิดเดิลเวท ขององค์กรมวยโลก (WBO) ไปได้ ต่อมา ชูการ์ เรย์ เลียวนาร์ด ก็สามารถเอาชนะ ดอนนี่ ลาลอนเด ไปได้และได้แชมป์โลกพร้อมกันถึง 2 พิกัด คือ ซูเปอร์มิดเดิลเวท และไลท์เฮฟวี่เวท ถือเป็นการชกชิงแชมป์โลกพร้อมกันถึง 2 พิกัดเป็นครั้งแรกของโลกด้วย ในปี ค.ศ. 2009-ค.ศ. 2010 ได้มีการจัดชกแบบทัวร์นาเมนต์ของนักมวยระดับชั้นแนวหน้าในพิกัดนี้และมิดเดิลเวท ถึง 6 คน ในชื่อ "ซูเปอร์ซิกเวิลด์บ็อกซิ่งคลาสสิก" มีการจัดชกทั้งในยุโรปและสหรัฐอเมริกา ซึ่งผลการแข่งขัน ปรากฏว่า อังเดร วอร์ด นักมวยชาวอเมริกันเป็นผู้ชนะในรายการนี้ได้ครองตำแหน่งแชมป์โลก ถึง 2 สถาบัน สำหรับนักมวยรายอื่นที่มีชื่อเสียงที่เคยชกในพิกัดนี้ นอกจากที่ได้กล่าวมาแล้ว ได้แก่ โรแบร์โต้ ดูรัน, รอย โจนส์ จูเนียร์, โจ คัลซากี้, เบอร์นาร์ด ฮอปกินส์, ไนเจล เบนน์ เป็นต้น.

ใหม่!!: ไลท์เฮฟวี่เวทและซูเปอร์มิดเดิลเวท · ดูเพิ่มเติม »

ซูเปอร์ซิกเวิลด์บ็อกซิ่งคลาสสิก

ปสเตอร์โฆษณาการแข่งขัน ซูเปอร์ซิกเวิลด์บ็อกซิ่งคลาสสิก (Super Six World Boxing Classic) เป็นชื่อรายการแข่งขันชกมวยสากลอาชีพในรุ่นมิดเดิลเวท (160 ปอนด์) และซูเปอร์มิดเดิลเวท (168 ปอนด์) ของนักมวยในรุ่นพิกัดนี้ทั้งหมด 6 คน โดยผู้ชนะได้จะตำแหน่งแชมป์โลกในรุ่นซูเปอร์มิดเดิลเวทของสถาบันสภามวยโลก (WBC) และสมาคมมวยโลก (WBA) พร้อมกันทีเดียวเลย 2 สถาบัน.

ใหม่!!: ไลท์เฮฟวี่เวทและซูเปอร์ซิกเวิลด์บ็อกซิ่งคลาสสิก · ดูเพิ่มเติม »

โธมัส เฮิร์นส์

มัส เฮิร์นส์ (Thomas Hearns) หรือ ทอมมี่ เฮิร์นส์ (Tommy Hearns) แชมป์โลก 5 รุ่นคนแรกของโลก เจ้าของฉายา "The Hit Man" หรือ "Detroit Cobra".

ใหม่!!: ไลท์เฮฟวี่เวทและโธมัส เฮิร์นส์ · ดูเพิ่มเติม »

เบอร์นาร์ด ฮอปกินส์

อร์นาร์ด ฮอปกินส์ (Bernard Hopkins) อดีตนักมวยสากลอาชีพชาวอเมริกัน ผู้เป็นอดีตแชมป์โลกในรุ่นมิดเดิลเวท และไลท์เฮฟวี่เวท เป็นเจ้าของสถิติแชมป์โลกที่มีอายุมากที่สุดในโลก โดยได้แชมป์โลกครั้งสุดท้ายเมื่ออายุมากถึง 51 ปี และได้รับการจัดอันดับให้เป็นนักมวยยอดเยี่ยมอันดับ 3 ใน 10 อันดับนักมวยยอดเยี่ยมของรุ่นมิดเดิลเวทในรอบ 50 ปี ของนิตยสารเดอะริง และยกย่องให้เป็นแชมป์หนึ่งเดียว หรือแชมป์เกียรติยศด้วย เป็นแชมป์โลกของสถาบันหลักครบทุกสถาบัน รวมถึงสถาบันย่อยหลายสถาบัน ฮอปกินส์ มีชื่อจริงว่า เบอร์นาร์ด ฮัมฟรีย์ ฮอปกินส์ จูเนียร์ (Bernard Humphrey Hopkins Jr.) เกิดเมื่อวันที่ 15 มกราคม..

ใหม่!!: ไลท์เฮฟวี่เวทและเบอร์นาร์ด ฮอปกินส์ · ดูเพิ่มเติม »

เปลี่ยนเส้นทางที่นี่:

Light Heavyweightไลท์เฮฟวี่เวตไลต์เฮฟวี่เวทไลต์เฮฟวี่เวต

ขาออกขาเข้า
Hey! เราอยู่ใน Facebook ตอนนี้! »