สารบัญ
16 ความสัมพันธ์: การริเริ่มออกกฎหมายของประชาชน (สวิตเซอร์แลนด์)การทดสอบโดสต์การค้าประเวณีเด็กการฉวยประโยชน์การค้าทางเพศจากเด็กการเหมารวมการเตรียมเด็กเพื่อทารุณกรรมทางเพศภาพเหมือนตนเองสื่อลามกอนาจารเด็กสื่ออีโรติกาเด็กผู้บรรยายเรื่องผู้ไม่น่าเชื่อถือจ็อนเบอเน แรมซีย์ปมเอดิเพิสโรคกามวิปริตเซ็กซ์ทัวร์เด็กCOPINE ScaleICD-10 บทที่ 5: ความผิดปกติทางจิตและพฤติกรรม
การริเริ่มออกกฎหมายของประชาชน (สวิตเซอร์แลนด์)
การเดินขบวนหน้ารัฐสภาของสวิตเซอร์แลนด์ เพื่อสนับสนุนการริเริ่มเปลี่ยนรัฐธรรมนูญสหพันธรัฐโดยประชาชนเพื่อ "ห้ามการส่งออกอุปกรณ์ทางทหาร" ในปี 2550 ซึ่งต่อมาลงประชามติเมื่อปี 2552 โดยประชาชนส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วย การริเริ่มออกกฎหมายของประชาชน หรือ การริเริ่มออกกฎหมายโดยประชาชน (popular initiative, Volksinitiative, Initiative populaire, Iniziativa popolare, Iniziativa dal pievel) เป็นกลไกทางประชาธิปไตยโดยตรงที่ให้ประชาชนเสนอกฎหมายในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ไม่ว่าจะในระดับสหพันธรัฐ รัฐ หรือเทศบาล ในระดับสหพันธรัฐและรัฐ คำนี้หมายถึงการเปลี่ยนรัฐธรรมนูญในระดับนั้น ๆ ซึ่งเป็นกลไกการปกครองโดยตรงนอกเหนือไปจากการขอ/การลงประชามติและการถอดถอนผู้ได้รับเลือกตั้ง.
ดู โรคใคร่เด็กและการริเริ่มออกกฎหมายของประชาชน (สวิตเซอร์แลนด์)
การทดสอบโดสต์
การทดสอบโดสต์ (Dost test) เป็นแนวทางการตัดสินภาพอนาจารเด็กของประเทศสหรัฐอเมริกา โดยมีองค์ประกอบ 6 อย่างที่ตั้งขึ้นในปี 2529 ในคดีศาลรัฐบาลกลางชั้นต้น คือ "สหรัฐอเมริกากับนายโดสต์ (United States v.
ดู โรคใคร่เด็กและการทดสอบโดสต์
การค้าประเวณีเด็ก
การค้าประเวณีเด็ก (Prostitution of children, child prostitution) เป็นการค้าประเวณีที่เกี่ยวกับเด็ก เป็นรูปแบบหนึ่งของการฉวยประโยชน์การค้าทางเพศจากเด็ก เด็กในที่นี้มักจะหมายถึงผู้เยาว์ หรือบุคคลที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ ในเขตกฎหมายโดยมาก การค้าประเวณีเด็กผิดกฎหมายโดยเป็นส่วนของกฎหมายห้ามการค้าประเวณีโดยทั่ว ๆ ไป การค้าประเวณีเด็กมักจะปรากฏในรูปแบบของการค้าเซ็กซ์ (sex trafficking) ที่เด็กถูกลักพาตัว หรือถูกหลอกให้เข้าไปเกี่ยวข้องกับการค้าเพศ หรือว่า เป็นเซ็กซ์เพื่อการอยู่รอด ที่เด็กจะร่วมกิจกรรมทางเพศแลกเปลี่ยนกับปัจจัยสี่ที่จำเป็นต่อชีวิตรวมทั้งอาหารและที่อยู่อาศัย การค้าประเวณีเด็กมักจะเกี่ยวข้องกับสื่อลามกอนาจารเด็ก และบางครั้งจะเกิดขึ้นคาบเกี่ยวกัน และมีคนที่เดินทางไปต่างประเทศเพื่อจะเที่ยวเซ็กซ์ทัวร์เด็ก งานวิจัยแสดงว่า อาจจะมีเด็กมากถึง 10 ล้านคนทั่วโลกที่ค้าประเวณี โดยมีปัญหาหนักที่สุดในทวีปอเมริกาใต้และเอเชีย แต่ก็เป็นปัญหาทั่วโลก ทั้งในประเทศกำลังพัฒนาและพัฒนาแล้ว สหประชาชาติได้กำหนดว่า การค้าประเวณีเด็กผิดกฎหมายสากล โดยมีการรณรงค์และองค์กรต่าง ๆ ที่จัดตั้งขึ้นเพื่อต่อต้านการปฏิบัติการเช่นนี้ เด็กโดยมากที่เกี่ยวข้องเป็นหญิง อาจจะอายุเพียงแค่ 4-5 ขวบ เรียนน้อยมากและถูกคนแปลกหน้าหลอกได้ง.
ดู โรคใคร่เด็กและการค้าประเวณีเด็ก
การฉวยประโยชน์การค้าทางเพศจากเด็ก
การฉวยประโยชน์การค้าทางเพศจากเด็ก (Commercial sexual exploitation of children ตัวย่อ CSEC) เป็นธุรกรรมทางการค้าที่อาศัยการฉวยประโยชน์ทางเพศ (sexual exploitation) จากเด็ก เช่นการค้าประเวณี และสื่อลามกอนาจาร อาจจะมีการบีบบังคับและการใช้ความรุนแรงต่อเด็ก เท่ากับเป็นแรงงานบังคับและเป็นรูปแบบความเป็นทาสยุคปัจจุบัน รวมทั้งการให้บริการทางเพศของเด็กเพื่อผลประโยชน์แลกเปลี่ยน จะเป็นเงินทองหรืออะไรอย่างอื่นก็ดี ปฏิญญาของงานประชุมโลกใหญ่ต้านการฉวยประโยชน์การค้าทางเพศจากเด็ก (Declaration of the First World Congress against Commercial Sexual Exploitation of Children) ที่ประชุมในเมืองสตอกโฮล์มปี 2539 นิยาม CSEC ว่า CSEC ยังหมายถึงเซ็กซ์ทัวร์ และธุรกรรมทางเพศแบบอื่น ๆ ที่เด็กร่วมกิจกรรมทางเพศเพื่อแลกปัจจัยที่จำเป็นต่อชีวิต เช่น อาหาร ที่อยู่อาศัย หรือการศึกษา รวมทั้งรูปแบบที่สมาชิกในบ้านไม่ห้ามหรือแจ้งตำรวจเกี่ยวกับทารุณกรรมต่อเด็ก เนื่องจากได้ผลประโยชน์จากผู้กระทำผิด และอาจรวมการแต่งงานแบบคลุมถุงชนสำหรับเด็กที่ยังไม่ถึงอายุที่ยอมให้ร่วมประเวณีได้ ที่เด็กไม่ได้ยินยอมและถูกทารุณทางเพศ ศูนย์เพื่อเด็กหายและถูกฉวยผลประโยชน์แห่งชาติ (National Center for Missing and Exploited Children) ซึ่งเป็นองค์การไม่แสวงหาผลกำไรเอกชน (แต่เบื้องต้นจัดตั้งโดยรัฐสภาแห่งสหรัฐอเมริกา) กล่าวว่า เด็กหญิง 1 ใน 5 และเด็กชาย 1 ใน 10 จะถูกฉวยประโยชน์หรือทารุณกรรมทางเพศก่อนจะโตเป็นผู้หใญ่ ส่วนกองทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ (UNICEF) กล่าวว่า การฉวยประโยชน์ทางเพศจากเด็กเป็น "การล่วงละเมิดสิทธิที่รุนแรงที่สุดที่เด็กคนหนึ่งอาจจะต้องอดทนอดกลั้น".
ดู โรคใคร่เด็กและการฉวยประโยชน์การค้าทางเพศจากเด็ก
การเหมารวม
รูปลักษณ์ของโฮเมอร์ ซิมป์สันแสดงถึงการมองชายวัยกลางคนผิวขาวจากอเมริกากลางแบบเหมารวม การเหมารวม หรือ สามัญทัศน์ (Stereotype) คือ คตินิยมหรือทัศนคติของสังคมทั่วไปที่มีต่อกลุ่มคนอื่น ชาติอื่น หรือลักษณะของบุคคลบางประเภทจนกลายเป็นมาตรฐาน มีพื้นฐานมาจากการสรุปเอาจากข้อสมมุติพื้นฐานที่มีแนวโน้มที่เป็นอัตวิสัย การเหมารวมเกิดขึ้นจากความคิดที่คุ้นเคยทางมโนธรรม เช่น จากพฤติกรรมบางอย่าง หรือลักษณะพิเศษอันแตกต่างจากผู้อื่นที่ปรากฏและเป็นที่สังเกตอยู่ชั่วระยะเวลาอันยาวพอประมาณ การที่แนวคิดทางวัฒนธรรม (Meme) จะกลายมาเป็นสิ่งที่ยอมรับกันโดยสังคมโดยทั่วไปได้ สามัญทัศน์ไม่อาจจะเป็นแนวคิดที่ผิดไปทั้งหมด และจะต้องมีองค์ประกอบที่สังคมยอมรับ (Social recognition) การเหมารวมมิได้ใช้แต่เฉพาะกลุ่มคนแต่อาจจะใช้ในสถานะการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างสม่ำเสมอจนสามารถทำนายผลที่จะออกมาได้ การเหมารวมอาจจะเป็นได้ทั้ง “ดี” และ “ไม่ดี” แต่แนวคิดทางของการเหมารวมส่วนใหญ่แล้วยากที่จะเสนอภาพพจน์ทางบวกของกลุ่มชน.
การเตรียมเด็กเพื่อทารุณกรรมทางเพศ
การเตรียมเด็กเพื่อทารุณกรรมทางเพศ (Child grooming) เป็นการสร้างความเป็นมิตรและความรู้สึกดี ๆ กับเด็ก และบางครั้งกับครอบครัวของเด็ก เพื่อลดความระมัดระวังโดยมีจุดประสงค์เพื่อจะทารุณเด็กทางเพศ เป็นวิธีการหลอกล่อเด็กเพื่อที่จะขายเด็ก หรือชักนำเด็กให้เข้าสู่วงจรธุรกิจการค้าประเวณี หรือเพื่อผลิตสื่อลามกอนาจาร อาชญากรรมเยี่ยงนี้มีการกล่าวถึงโดยหลายนัยหลายแบบ เริ่มตั้งแต่อนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการปราบปรามการค้าผู้หญิงและเด็ก (International Convention for the Suppression of the Traffic in Women and Children) ในปี 2464 ซึ่งเป็นสนธิสัญญาพหุภาคีของสันนิบาตชาติที่พยายามแก้ปัญหาระหว่างประเทศในการค้าผู้หญิงและเด็กเพื่อการไม่ชอบ แต่ปัญหาในตอนนั้นเป็นแบบนานาชาติ ส่วนแนวคิดเรื่องแก๊งคนไม่ดีที่เสาะหาเหยื่อตระเตรียมเด็กในพื้นที่ เป็นเรื่องอัปเดตล่าสุดโดยศูนย์การฉวยประโยชน์จากเด็กและป้องกันเด็กออนไลน์ (Child Exploitation and Online Protection Centre) ที่เป็นหน่วยตำรวจของสหราชอาณาจักรในปี 2553.
ดู โรคใคร่เด็กและการเตรียมเด็กเพื่อทารุณกรรมทางเพศ
ภาพเหมือนตนเอง
หมือนตนเองของอัลเบรชท์ ดือเรอร์, ค.ศ. 1493. สีน้ำมันเดิมบนหนัง, พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์, ปารีส ภาพนี้เป็นภาพเหมือนตนเองอย่างเป็นทางการภาพแรก ๆ ดือเรอร์แต่งตัวแบบอิตาลีที่สะท้อนให้เห็นถึงความสำเร็จระดับสากล ภาพเหมือนตนเอง (Self-portrait) คือภาพเหมือนของศิลปินเองผู้อาจจะวาด เขียนด้วยสี ถ่ายภาพ หรือแกะสลักด้วยตนเอง แม้ว่าศิลปินจะสร้างภาพเหมือนของตนเองมาแต่โบราณ แต่ก็ไม่ได้ทำกันอย่างแพร่หลาย หรือบอกได้ว่าเป็นภาพเหมือนของศิลปินเองจริง ๆ หรือวาดเป็นบุคคลหัวใจของภาพมาจนกระทั่งเมื่อต้นยุคฟื้นฟูศิลปวิทยาในกลางคริสต์ทศวรรษ1400 กระจกที่มีคุณภาพดีขึ้นและราคาถูกลงทำการเขียนภาพเหมือนบนจิตรกรรมแผง จิตรกร ประติมากร และช่างแกะพิมพ์มีการทำกันมากขึ้น ตัวอย่างแรกก็ได้แก่ "ภาพเหมือนของชายคนหนึ่ง (ภาพเหมือนตนเอง?)" ที่เขียนโดยยัน ฟัน ไอก์ ของปี..
ดู โรคใคร่เด็กและภาพเหมือนตนเอง
สื่อลามกอนาจารเด็ก
ื่อลามกอนาจารเด็ก (Child pornography) คือสื่อลามกอนาจารที่ฉวยประโยชน์จากเด็ก (รวมทั้งวัยรุ่น) มีจุดประสงค์เพื่อเร้าอารมณ์ทางเพศ ซึ่งอาจจะผลิตโดยทำร้ายเด็กทางเพศ (เช่น ภาพทารุณเด็กทางเพศ) หรืออาจจะเป็นสื่อแบบเทียมคือเป็นสื่อแต่ง ใช้ผู้ใหญ่ที่แต่งให้เหมือนเด็ก หรือเป็นภาพสร้างขึ้นโดยใช้คอมพิวเตอร์ล้วน ๆ โดยบางทีแม้ภาพวาดหรือแอนิเมชัน ก็สามารถพิจารณาว่าเป็นสื่อเทียมได้เหมือนกัน ทารุณกรรมต่อเด็กเกิดขึ้นเมื่อมีกิจกรรมทางเพศกับเด็ก หรือให้เด็กแสดงบริเวณอวัยวะเพศหรือบริเวณหัวหน่าวเพื่อเร้าอารมณ์ แล้วบันทึกลงในสื่อ สื่อที่ใช้อาจมีหลายแบบ รวมทั้งวรรณกรรม นิตยสาร ภาพถ่าย ประติมากรรม จิตรกรรม การ์ตูน แอนิเมชัน บันทึกเสียง วิดีโอ และวิดีโอเกม กฎหมายเกี่ยวกับสื่อลามกอนาจารเด็กมักจะรวมภาพทางเพศที่เกี่ยวกับเด็กก่อนวัยเจริญพันธุ์ เด็กวัยเจริญพันธุ์ ผู้เยาว์หลังวัยเจริญพันธุ์ และภาพเด็กที่สร้างโดยคอมพิวเตอร์ ผู้ทำผิดเกี่ยวกับสื่อลามกอนาจารเด็กที่ถูกจับโดยมากจะมีรูปเด็กก่อนวัยเจริญพันธุ์ ในประเทศสหรัฐอเมริกา ผู้ที่มีภาพเด็กหลังวัยเจริญพันธุ์มีโอกาสน้อยกว่าที่จะถูกดำเนินคดี แม้ว่าจะผิดกฎหมายเช่นกัน ผู้ผลิตสื่อนาจารเด็กพยายามจะหลีกเลี่ยงการถูกดำเนินคดีโดยขายสื่อนอกประเทศ แต่ก็มีการจับกุมผู้ทำผิดเช่นนี้เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ในประเทศต่าง ๆ คนใคร่เด็กดูและเก็บสะสมสื่อเด็กก่อนวัยเจริญพันธุ์มีจุดประสงค์หลายอย่าง เริ่มตั้งแต่การใช้เพื่อประโยชน์ทางเพศส่วนตัว การแลกเปลี่ยนกับคนใคร่เด็กอื่น ๆ การเตรียมเด็กเพื่อทารุณกรรมทางเพศ หรือการหลอกล่อเด็กให้ติดกับเพื่อฉวยประโยชน์ทางเพศ เช่น เพื่อทำสื่อลามกหรือเพื่อการค้าประเวณี เด็กบางครั้งก็ผลิตสื่อลามกเองหรือเพราะถูกบีบบังคับโดยผู้ใหญ่ สื่อลามกอนาจารเด็กผิดกฎหมายและจะถูกตรวจพิจารณาในที่ต่าง ๆ โดยมากในโลก รวมทั้งประเทศไทยที่นิยามคำว่า "เด็ก" ว่าหมายถึงบุคคลที่มีอายุไม่เกิน 18 ปี ประเทศสมาชิกขององค์การตำรวจอาชญากรรมระหว่างประเทศ (Interpol) 94 ประเทศจาก 187 มีกฎหมายโดยเฉพาะในเรื่องนี้โดยปี 2551 และนี่ยังไม่ได้รวมประเทศที่ห้ามสื่อลามกทุกอย่าง ในบรรดา 94 ประเทศเหล่านี้ การมีสื่อลามกอนาจารเด็กจัดเป็นอาชญากรรมใน 58 ประเทศไม่ว่าตั้งใจจะขายหรือเผยแพร่หรือไม่ รวมทั้งประเทศไทย ทั้งการเผยแพร่และการมี จัดเป็นอาชญากรรมในประเทศตะวันตกโดยมาก มีขบวนการที่ขับเคลื่อนให้สื่อลามกอนาจารเด็กเป็นสิ่งผิดกฎหมายทั่วโลก รวมทั้งองค์กรเช่นสหประชาชาติและคณะกรรมาธิการยุโรป เหตุผลที่ต้องมีกฎหมายสื่อลามกเด็กเป็นการเฉพาะ เหตุผลที่ประเทศต่างๆ มีกฎหมายสื่อลามกเด็กโดยเฉพาะแยกต่างหากจากกฎหมายสื่อลามกผู้ใหญ่ เนื่องจากแนวคิดควบคุมสื่อลามกทั้งสองประเภทต่างกัน เหตุผลหลักในการกำหนดโทษอาญากับการกระทำที่เกี่ยวกับสื่อลามกผู้ใหญ่ตั้งอยู่บนแนวคิดเรื่องการปกป้องศีลธรรมโดยรวมของสังคม กล่าวคือ ภาครัฐเชื่อว่าการปล่อยให้มีการผลิต จำหน่าย หรือ เผยแพร่สื่อลามกผู้ใหญ่อย่างเสรีอาจก่อให้เกิดความเสื่อมทรามต่อศีลธรรมทางเพศของคนในสังคมได้ การกำหนดโทษอาญาเพื่อควบคุมและปราบปรามสื่อลามกเด็กมีเหตุผลพื้นฐานที่ต่างออกไป กล่าวคือ เพื่อปกป้องคุ้มครองเด็กจากการถูกล่วงละเมิดทางเพศ เพราะการผลิตสื่อลามกเด็ก (โดยเฉพาะที่ใช้เด็กจริงๆ แสดง) เป็นรูปแบบหนึ่งของการล่วงละเมิดทางเพศจากเด็ก ในด้านร่างกาย เด็กยังไม่เจริญเติบโตเต็มที่ การให้เด็กมีกิจกรรมทางเพศอาจก่อให้เกิดการบาดเจ็บในด้านจิตใจ เนื่องจากการเรียนรู้ของเด็กยังไม่พัฒนาเพียงพอที่จะเข้าใจในเรื่องความเหมาะสมของเรื่องเพศ การบังคับหรือล่อลวงให้เด็กมีกิจกรรมทางเพศหรือการถ่ายภาพยั่วยุทางเพศต่างๆ ถือได้ว่าเป็นการทำร้ายจิตใจเด็ก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อเด็กพบว่าสิ่งที่ตนกระทำไปเป็นเรื่องไม่เหมาะสมสำหรับวัยตัวเอง ก็อาจเกิดความอับอายกลายเป็นบาดแผลทางจิตใจซึ่งอาจจะฝังลึกในใจเด็กไปตลอดชีวิต นอกจากนี้ ในหลายๆ กรณี การที่เด็กเข้าร่วมกิจกรรมทางเพศโดยไม่สมัครใจหรือเกิดจากการล่อลวง บังคับข่มขู่ หรือความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ซึ่งอาจกล่าวได้ว่าเป็นการแสวงหาประโยชน์อันมิชอบจากความเยาว์วัยของเด็กที่ยังไม่มีความสามารถในการตัดสินใจเพียงพอเกี่ยวกับความเหมาะสมของการมีเพศสัมพันธ์ ยิ่งในกรณีของสื่อลามกเด็กบนอินเทอร์เน็ต ผลกระทบร้ายแรงต่อตัวเด็กอาจขยายเป็นวงกว้างกว่า กล่าวคือ ภาพหรือคลิปวิดีโอบันทึกการล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็กดังกล่าวจะถูกส่งผ่านต่อกันไปและหมุนเวียนอยู่ในโลกไซเบอร์ไม่มีวันสิ้นสุด สิ่งนี้ยิ่งสร้างบาดแผลทางใจให้กับเด็กผู้ปรากฏในสื่อลามกอย่างไม่มีทางเยียวยาหรือลบเลือนออกไปได้.
ดู โรคใคร่เด็กและสื่อลามกอนาจารเด็ก
สื่ออีโรติกาเด็ก
ื่ออีโรติกาเด็ก (Child erotica) เป็นสื่อเกี่ยวกับเด็กที่ไม่ใช่สื่อลามกอนาจารโดยตรง แต่เป็นสื่อที่ใช้เพื่อจุดประสงค์ทางเพศ เป็นการใช้คำที่กว้างขวางกว่าสื่อลามกอนาจารเด็ก เพราะว่ารวมเอาสื่อที่อาจทำให้เกิดอารมณ์เพศ รวมทั้งรูปภาพที่ไม่เกี่ยวกับเพศ, หนังสือหรือนิตยสารเกี่ยวกับเด็กหรือเกี่ยวกับความใคร่เด็ก, ของเล่น, สมุดบันทึกประจำวัน หรือเสื้อผ้า ผู้สืบสวนคดีพบว่า คนใคร่เด็กและผู้ทำผิดทารุณเด็กทางเพศ มักจะสะสมสื่ออีโรติกาเด็ก โดยอาจเป็นรูปแบบของพฤติกรรมย้ำคิดย้ำทำ (compulsive behavior) และโดยอาจใช้เป็นตัวแทนสื่อลามกอนาจารเด็กที่ผิดกฎหมายหรือหาได้ยาก แต่สื่อเช่นนี้ บ่อยครั้งก็ยังสามารถใช้เป็นหลักฐานในศาลเกี่ยวกับพฤติกรรมที่เป็นอาชญากรรม ภาพอีโรติกาเด็กอาจจะเผยแพร่ทางอินเทอร์เน็ต โดยปรากฏคล้ายกับรูปโมเดลเด็กที่ไม่ได้ทำเพื่ออนาจาร.
ดู โรคใคร่เด็กและสื่ออีโรติกาเด็ก
ผู้บรรยายเรื่องผู้ไม่น่าเชื่อถือ
ประกอบโดยกุสตาฟว์ ดอเรของบารอนมึนช์เฮาเซน ผู้บรรยายเรื่องที่เกินเลยจากความจริงที่ถือว่าเป็น “ผู้บรรยายเรื่องผู้ไม่น่าเชื่อถือ” ผู้บรรยายเรื่องผู้ไม่น่าเชื่อถือ (Unreliable narrator) ในนวนิยาย (ที่ใช้ในวรรณกรรม, การละคร, ภาพยนตร์ และอื่น ๆ) “ผู้บรรยายเรื่องผู้ไม่น่าเชื่อถือ” (คำที่คิดขึ้นโดยเวย์น ซี.
ดู โรคใคร่เด็กและผู้บรรยายเรื่องผู้ไม่น่าเชื่อถือ
จ็อนเบอเน แรมซีย์
็อนเบอเน แพทริเชีย แรมซีย์ (JonBenét Patricia Ramsey; 6 สิงหาคม 1990 – 25 ธันวาคม 1996) เป็นชาวอเมริกันผู้เข้าประกวดนางงามเด็ก ซึ่งถูกฆ่าที่บ้านในเมืองโบลเดอร์ รัฐโคโลราโด สหรัฐอเมริกา ในปี 1996 เมื่ออายุได้หกปี โดยเจ้าพนักงานตำรวจพบศพของเธอที่ชั้นใต้ดินของบ้านแปดชั่วโมงหลังบิดามารดาร้องทุกข์ว่า เธอหายไป ชันสูตรพลิกศพพบว่า ถูกตีศีรษะและรัดคอจนตาย แม้คณะลูกขุนใหญ่ไต่สวนหลายครั้งแล้ว คดียังมิได้รับการคลี่คลาย และเป็นที่สนใจของสาธารณชนและสื่อมวลชนจนบัดนี้ เมื่อแรก เจ้าพนักงานรัฐโคโลราโดสงสัยว่า บิดา มารดา หรือพี่ชายของจ็อนเบอเนฆ่าเธอ แต่คนเหล่านี้พ้นข้อสงสัยบางส่วนไปในปี 2003 เมื่อดีเอ็นเอที่ได้จากเสื้อผ้าของผู้ตายพิสูจน์ว่า พวกเขาไม่เกี่ยวข้องhttp://www.9news.com/pdfs/ramseyDA.pdf และพ้นข้อสงสัยโดยสิ้นเชิงในเดือนกรกฎาคม 2008 ครั้นเดือนกุมภาพันธ์ ปีถัดมา อัยการแขวงส่งสำนวนคดีคืนให้กรมตำรวจเมืองโบลเดอร์ไปสอบสวนใหม่ และกระบวนการยังดำเนินอยู่ในปัจจุบัน รายงานของสื่อมวลชนมักว่าด้วยบทบาทของจ็อนเบอเนในการประกวดนางงามเด็ก ความมั่งคั่งของบิดามารดาเธอ และพยานหลักฐานอันผิดประหลาดในสำนวน ทั้งยังตั้งคำถามเรื่องการทำคดีของเจ้าพนักงานตำรวจโดยรวมด้วย เป็นเหตุให้ครอบครัวของจ็อนเบอเน และมิตรสหายของครอบครัวนี้ กับสื่อมวลชนหลายราย ฟ้องร้องกันฐานหมิ่นประมาทอยู่หลายคดี.
ดู โรคใคร่เด็กและจ็อนเบอเน แรมซีย์
ปมเอดิเพิส
ัณฑสถานทางศิลปะเมโทรโพลิแทน คำว่า ปมเอดิเพิส (Oedipus complex) อธิบายอารมณ์และความคิดซึ่งจิตเก็บไว้ในจิตไร้สำนึกโดยการกดเก็บพลวัต (dynamic repression) ซึ่งสนใจความปรารถนาของเด็กในการใฝ่ใจเชิงสังวาสกับบิดามารดาเพศตรงข้ามกับตน คือ ชายดึงดูดกับมารดาของตน หญิงดึงดูดกับบิดาของตน) ซิกมุนด์ ฟรอยด์ ผู้ประดิษฐ์คำว่า "ปมเอดิเพิส" เชื่อว่าปมเอดิเพิสเป็นความปรารถนาบิดามารดาทั้งในชายและหญิง ฟรอยด์คัดค้านคำว่า "ปมอิเล็กตรา" ที่คาร์ล กุสทัฟ ยุงเสนออธิบายปมเอดิเพิสที่ปรากฏในเด็กหญิง ปมเอดิเพิสปรากฏในพัฒนาการความต้องการทางเพศขั้นที่สาม คือ ขั้นอวัยวะเพศ (อายุ 3–6 ปี) จากทั้งหมดห้าขั้น ได้แก่ (1) ขั้นปาก (2) ขั้นทวารหนัก (3) ขั้นอวัยวะเพศ (4) ขั้นแฝง และ (5) ขั้นสนใจเพศตรงข้าม ซึ่งแลห่งงของความพึงพอใจของลิบิโด (libido) อยู่ในอีโรจีเนียสโซน (erogenous zone) ต่าง ๆ ของกายเด็ก ในทฤษฎีจิตวิเคราะห์สำนักฟรอยด์คลาสสิก การเลียนแบบบิดามารดาเพศเดียวกันของเด็ก (identification) เป็นการแก้ปมเอดิเพิสและปมอิเล็กตราที่สำเร็จ เป็นประสบการณ์ทางจิตวิทยาสำคัญซึ่งจำเป็นต่อการพัฒนาบทบาทและอัตลักษณ์ทางเพศผู้ใหญ่ ซิกมุนด์ ฟรอยด์ยังเสนอว่า เด็กชายและเด็กหญิงเผชิญปมนี้ต่างกัน เด็กชายในรูปของความวิตกกังวลการตอน (castration anxiety) เด็กหญิงในรูปของความอิจฉาองคชาต (penis envy) และการแก้ไขปมที่ไม่สำเร็จอาจนำไปสู่โรคประสาท โรคใคร่เด็กและรักร่วมเพศ ชายและหญิงที่ติดอยู่ในขั้นเอดิเพิสและอิเล็กตราในพัฒนาการความต้องการทางเพศนั้นอาจถือว่า "ยึดติดมารดา" และ "ยึดติดบิดา" ในชีวิตผู้ใหญ่ ประสบการณ์นี้อาจนำให้เลือกคู่ครองที่เหมือนบิดาหรือมารดาของตน.
โรคกามวิปริต
รคกามวิปริต (paraphilia, sexual perversion, sexual deviation) หรือ กามวิปริต เป็นประสบการณ์ความตื่นตัวทางเพศระดับสูงต่อวัตถุ สถานการณ์ หรือบุคคลที่ไม่ทั่วไป แต่ก็ไม่มีมติส่วนใหญ่ของนักวิชาการว่าเส้นแบ่งระหว่างความสนใจทางเพศที่แปลก กับโรคกามวิปริตอยู่ที่ไหน มีข้อโต้แย้งที่ยังไม่ยุติว่า กามวิปริตแบบไหน ควรจะมีรายชื่ออยู่ในคู่มือวินิจฉัยทางแพทย์เช่น คู่มือการวินิจฉัยและสถิติสำหรับความผิดปกติทางจิต (DSM) หรือ บัญชีจำแนกทางสถิติระหว่างประเทศของโรคและปัญหาสุขภาพที่เกี่ยวข้อง (ICD) หรือถ้าจะต้องมีโดยประการทั้งปวง จำนวนประเภทและอนุกรมวิธาน (taxonomy) ของกามวิปริตก็ยังโต้เถียงยังไม่ยุติอีกด้วย มีหนังสือเล่มหนึ่งที่มีรายการถึง 549 ประเภท ส่วน DSM-5 มีรายการความผิดปกติทางกามวิปริต (paraphilic disorder) 8 ประเภท นักวิชาการได้เสนอการจัดหมวดหมู่ย่อยแบบต่าง ๆ โดยอ้างว่า วิธีการจัดหมวดหมู่แบบอื่น ๆ เช่นวิธีการที่รวมมิติทั้งหมด วิธีกำหนดอาการเป็นพิสัย หรือวิธีกำหนดตามคำให้การของคนไข้ (complaint-oriented) จะเข้ากับหลักฐานได้ดีกว.
เซ็กซ์ทัวร์เด็ก
ซ็กซ์ทัวร์เด็ก เป็นเซ็กซ์ทัวร์ที่มีจุดหมายเพื่อใช้บริการในการค้าประเวณีเด็ก ซึ่งเป็นรูปแบบของการทารุณเด็กทางเพศที่อำนวยโดยระบบการค้า เซ็กซ์ทัวร์เด็กอาจมีผลทั้งทางกายและใจต่อเด็กที่ถูกฉวยประโยชน์ รวมทั้ง "โรค (รวมทั้งเอชไอวีหรือเอดส์) การติดสารเสพติด การตั้งครรภ์ ทุพโภชนาการ รอยด่างทางสังคม และอาจถึงตาย" เซ็กซ์ทัวร์เด็กเป็นส่วนของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวมีค่าหลายหมื่นล้านบาท เป็นการค้าประเวณีเด็กซึ่งเป็นส่วนของปัญหาการฉวยประโยชน์การค้าทางเพศจากเด็ก (CSEC) ที่กว้างขวางครอบคลุมกว่า โดยมีเด็กเป็นเหยื่อจากเซ็กซ์ทัวร์ประมาณ 2 ล้านคนทั่วโลก cited in เด็กโสเภณีในทัวร์เซ็กซ์บ่อยครั้งถูกหลอกหรือถูกลักพาตัวบังคับให้กลายเป็นทาสทางเพศ คนใช้บริการทางเพศจากเด็กสามารถจัดประเภทได้โดยแรงจูงใจ และผิดจากความเชื่อที่แพร่หลาย คนใคร่เด็กโดยมากไม่ใช่คนใช้บริการ มีคนที่ชอบใจทารุณเด็ก เพราะอาจจะรู้สึกว่า โอกาสเสี่ยงต่อกามโรคจะต่ำกว่า และก็มีคนที่ใช้ตามโอกาส คือคนที่ไม่ได้แสวงหาเด็กโดยตรง แต่ว่าทำไปตามโอกาสที่มี และอาจจะไม่สนใจอายุของโสเภณีก่อนที่จะเริ่มกิจกรรมทางเพศ เด็กโดยมากที่ถูกฉวยประโยชน์มีอายุต่ำกว่า 12 ขวบ ส่วนคนใคร่เด็กอาจจะใช้อินเทอร์เน็ตเพื่อวางแผนการเดินทาง โดยสืบหาและแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับบริการเซ็กทัวร์เด็ก และว่าเด็กที่ไหนสามารถหาได้ง่ายที่สุด ซึ่งโดยปกติทั่วไปจะเป็นเขตที่มีรายได้ต่ำ มีรัฐบาลบางประเทศที่ออกฎหมายให้สามารถดำเนินคดีต่อประชาชนของตนเนื่องจากการทารุณเด็กทางเพศที่ทำนอกประเทศ แต่ว่า แม้ว่ากฎหมายต่อต้านทัวร์เซ็กซ์เด็กอาจจะปรามคนทำผิดแบบตามโอกาสที่ทำตามอารมณ์ชั่ววูบ คนใคร่เด็กที่เดินทางเฉพาะเจาะจงเพื่อฉวยประโยชน์จากเด็กจะห้ามไม่ได้อย่างง.
ดู โรคใคร่เด็กและเซ็กซ์ทัวร์เด็ก
COPINE Scale
COPINE Scale เป็นมาตราสำหรับประเมินที่สร้างขึ้นในประเทศไอร์แลนด์แล้วต่อมาใช้ในสหราชอาณาจักรเพื่อจัดลำดับความร้ายแรงของรูปทารุณเด็กทางเพศ โดยตามกฎหมายของประเทศ คำว่า "เด็ก" หมายถึงบุคคลที่อายุต่ำกว่า 18 ปี เจ้าหน้าที่ของโปรเจ็กต์ COPINE (Combating Paedophile Information Networks in Europe แปลว่า เครือข่ายข้อมูลต่อสู้คนใคร่เด็กในยุโรป) พัฒนามาตราสำหรับประเมินนี้ขึ้น โดยเป็นโปรเจ็กต์ที่ตั้งขึ้นเมื่อปี 2540 และมีสำนักงานอยู่ที่คณะจิตวิทยาประยุกต์ที่มหาวิทยาลัยคอลเลจคอร์ก (University College Cork) ในประเทศไอร์แลน.
ICD-10 บทที่ 5: ความผิดปกติทางจิตและพฤติกรรม
ป็นบัญชีโรคย่อยหนึ่งจากบัญชีจำแนกทางสถิติระหว่างประเทศของโรคและปัญหาสุขภาพที่เกี่ยวข้อง ฉบับทบทวนครั้งที่ 10 (ICD-10) ซึ่งเป็นรหัสของโรคและอาการ อาการแสดง ความผิดปกติที่ตรวจพบ อาการนำ สภาพสังคม หรือสาเหตุภายนอกของการบาดเจ็บหรือโรค จัดทำขึ้นโดยองค์การอนามัยโลกโดยแล้วเสร็จในปี..
ดู โรคใคร่เด็กและICD-10 บทที่ 5: ความผิดปกติทางจิตและพฤติกรรม
หรือที่รู้จักกันในชื่อ InfantophileInfantophiliaNepiophileNepiophiliaPaedophiliaPedophilePedophiliaPedophilic disorderกามวิปริตแบบใคร่เด็กอาการใคร่ทารกอารมณ์ทางเพศกับเด็กอารมณ์เพศกับเด็กความผิดปกติทางจิตแบบใคร่เด็กความผิดปกติแบบใคร่เด็กความต้องการทางเพศกับเด็กความใคร่ทารกคนใคร่ทารกใคร่เด็กโรคมีอารมณ์เพศกับเด็กโรคมีความต้องการทางเพศกับเด็ก