โลโก้
ยูเนี่ยนพีเดีย
การสื่อสาร
ดาวน์โหลดได้จาก Google Play
ใหม่! ดาวน์โหลด ยูเนี่ยนพีเดีย บน Android ™ของคุณ!
ดาวน์โหลด
เร็วกว่าเบราว์เซอร์!
 

แคว้นอารากอน

ดัชนี แคว้นอารากอน

แผนที่การกระจายภาษาในแคว้นอารากอน ภาษาสเปนใช้พูดทั่วไปในแคว้น และเป็นภาษาราชการเพียงภาษาเดียว อารากอน (สเปนและAragón) หรือ อะราโก (Aragó) เป็นแคว้นปกครองตนเองทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศสเปน มีอาณาเขตทางทิศเหนือติดต่อกับประเทศฝรั่งเศส ทางทิศตะวันออกติดต่อกับแคว้นกาตาลุญญา ทางทิศใต้ติดต่อกับแคว้นบาเลนเซีย และทางทิศตะวันตกติดต่อกับแคว้นกัสติยา-ลามันชา แคว้นกัสติยาและเลออน แคว้นลารีโอคา และแคว้นนาวาร์ ประกอบด้วยจังหวัดซาราโกซา จังหวัดอูเอสกา และจังหวัดเตรูเอล มีแม่น้ำเอโบรไหลผ่านในพื้นที่ ตอนเหนือเป็นภูเขาสูง มีหุบเขาที่อุดมสมบูรณ์และสวยงาม ส่วนตอนใต้ค่อนข้างแห้งแล้ง นอกจากจังหวัดทั้งสามแล้ว แคว้นอารากอนยังแบ่งย่อยออกเป็น 33 เทศมณฑล (comarcas) อีกด้ว.

44 ความสัมพันธ์: บูร์โกสฟรันซิสโก คาเบียร์ฟรันซิสโก โกยาพระเจ้าเฟร์นันโดที่ 2 แห่งอารากอนพระเจ้าเฟลีเปที่ 2 แห่งสเปนการ์กาซอนการเลือกตั้งทั่วไปในสเปน พ.ศ. 2554การเลือกตั้งทั่วไปในสเปน พ.ศ. 2558ภาษากาตาลาภาษาอารากอนมอนซอนราชวงศ์ตรัสตามาราราชสหพันธ์ฟุตบอลสเปนราชอาณาจักรอารากอนราฟาเอล เดล เรียโกรายชื่อธงในประเทศสเปนรายชื่อแหล่งมรดกโลกในประเทศสเปนรายชื่อเขตการปกครองรายพระนามและรายนามผู้ปกครองร่วมแห่งอันดอร์ราลัทธิคอมมิวนิสต์สิทธิของกลุ่มบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศเรียงตามประเทศหรือดินแดนอัลอันดะลุสอัศวินฮอสปิทัลเลอร์อารันอิล โตรวาโตเรอุปราชจังหวัดของประเทศสเปนซาราโกซาซานเตียโก รามอน อี กาฮาลประวัติศาสตร์สเปนประวัติศาสตร์ออสเตรียประเทศสเปนแม่น้ำเทกัสแคว้นกัสติยา-ลามันชาแคว้นกาตาลุญญาแคว้นลาริโอฆาแคว้นปกครองตนเองของประเทศสเปนแคว้นนาวาร์โยลันเดอแห่งอารากอนเบียทริซแห่งโพรว็องซ์เส้นขนานที่ 40 องศาเหนือExpo Zaragoza 200812 กันยายน2 มกราคม

บูร์โกส

ที่ตั้งเมืองบูร์โกสในประเทศสเปน มหาวิหารบูร์โกส อนุสาวรีย์เอลซิด ช่องโค้งซานตามารีอา บูร์โกส (Burgos) เป็นเมืองหลักของจังหวัดบูร์โกสในแคว้นกัสติยาและเลออน ทางภาคเหนือของประเทศสเปน ตั้งอยู่บริเวณขอบด้านเหนือของที่ราบสูงตอนกลาง (Meseta Central) ห่างจากบายาโดลิดเมืองหลักของแคว้นไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ 122 กิโลเมตร และห่างจากกรุงมาดริดไปทางทิศเหนือ 244.7 กิโลเมตร มีประชากรประมาณ 173,600 คนเฉพาะในอาณาเขตของเมืองและอีกประมาณ 10,000 คนในเขตชานเมือง ปรากฏหลักฐานทางประวัติศาสตร์ว่ามีมนุษย์ดึกดำบรรพ์ (เช่น มนุษย์นีแอนเดอร์ทัล) เข้ามาตั้งถิ่นฐานบริเวณที่เป็นเมืองบูร์โกสในปัจจุบันอย่างน้อยตั้งแต่ยุคหินใหม่ และเมื่อชาวโรมันได้เข้าครอบครองพื้นที่แถบนี้ ก็พบว่ามีชนพื้นเมืองเคลติเบเรียนอาศัยอยู่ก่อนแล้ว ในสมัยจักรวรรดิโรมันดินแดนนี้เป็นส่วนหนึ่งของจังหวัดฮิสปาเนียซีเตรีออร์และของจังหวัดฮิสปาเนียตาร์ราโกเนนซิสในเวลาต่อมา ในคริสต์ศตวรรษที่ 5 ชาววิซิกอทสามารถขับไล่ชาวซูเอบีออกไปได้และมีอำนาจในแถบนี้แทน จนกระทั่งชาวอาหรับบุกยึดคาบสมุทรไอบีเรียในต้นคริสต์ศตวรรษที่ 8 แถบนี้จึงตกเป็นของชาวอาหรับด้วย แต่ก็ไม่ได้ทิ้งร่องรอยที่แสดงการครอบครองไว้มากนัก พระเจ้าอัลฟอนโซที่ 3 มหาราชทรงตีเมืองนี้คืนได้สำเร็จประมาณกลางคริสต์ศตวรรษที่ 9 และสร้างปราสาทไว้เป็นจำนวนมากเพื่อใช้ป้องกันอาณาจักรของชาวคริสต์ทางเหนือที่ได้ขยายพื้นที่ลงมาทางทิศใต้นับจากนั้น ดินแดนแถบนี้ภายหลังจึงมีชื่อเรียกว่า กัสติยา ซึ่งแปลว่า "ดินแดนแห่งปราสาท" บูร์โกสได้รับการจัดตั้งขึ้นเป็นเมืองตั้งแต่ ค.ศ. 884 เมื่อเดียโก โรดรีเกซ ปอร์เซโลส (Diego Rodríguez Porcelos) เคานต์แห่งกัสติยาปกครองดินแดนแถบนี้โดยมีคำสั่งให้สนับสนุนการเพิ่มของจำนวนประชากรชาวคริสต์ เขาก็ได้รวบรวมผู้คนในพื้นที่ชนบทรอบ ๆ เข้ามาอยู่ในหมู่บ้านที่ล้อมรอบด้วยป้อมปราการแห่งนี้ โดยมีฐานะเป็นเมืองหน้าด่านบริเวณเขตแดนอาณาจักรชาวคริสต์ที่กำลังขยายเขตออกไปดังกล่าว ชื่อในภาษาของชาววิซิกอทของเมืองบูร์โกส (baurgs) มีความหมายว่า "หมู่บ้านซึ่งล้อมรอบด้วยกำแพงที่มั่นคง" ต่อมาเมืองนี้ก็เริ่มมีคำเรียกต่อท้ายชื่อว่า "กาปุตกัสเตลไล" (Caput Castellae) แปลว่า "หัวหน้าของกัสติยา" เคาน์ตีแห่งบูร์โกสซึ่งขึ้นต่อกษัตริย์แห่งเลออนนั้นยังคงถูกปกครองต่อมาโดยเคานต์อีกหลายคนและเริ่มขยายเขตออกไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งเฟร์นัน กอนซาเลซ (Fernán González) เคานต์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคนหนึ่งได้ประกาศเอกราชขณะที่ราชอาณาจักรเลออนอ่อนแอลง บูร์โกสเป็นที่ตั้งของสำนักบิชอปตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 10 และในคริสต์ศตวรรษที่ 11 ก็กลายเป็นเมืองหลวงของราชอาณาจักรกัสติยา นอกจากนี้ยังเป็นที่หยุดพักหลักบนเส้นทางที่จะไปสู่เมืองซานเตียโกเดกอมโปสเตลาของบรรดานักแสวงบุญ และเป็นศูนย์กลางทางการค้าระหว่างดินแดนแถบทะเลกันตาเบรียกับดินแดนทางทิศใต้ เป็นจุดดึงดูดพ่อค้าชาวต่างชาติจำนวนมาก ซึ่งต่อมาจะเป็นผู้มีอำนาจกลุ่มหนึ่งในเมืองนี้และกีดกันชาวต่างชาติกลุ่มอื่นไม่ให้เข้ามามีอิทธิพล ตลอดทั้งคริสต์ศตวรรษที่ 13 และคริสต์ศตวรรษที่ 14 บูร์โกสมักจะเป็นสถานที่ประทับของกษัตริย์แห่งเลออนและกัสติยา (จนกระทั่งถึงคริสต์ศตวรรษที่ 16) ประมวลกฎหมายแห่งบูร์โกส (Leyes de Burgos) ซึ่งเป็นกฎหมายชุดแรกที่ใช้ควบคุมการประพฤติตนของชาวสเปนที่เข้าไปตั้งถิ่นฐานในทวีปอเมริกาได้รับการประกาศใช้ที่เมืองนี้เมื่อปี ค.ศ. 1512 ตั้งแต่อดีตนั้นบูร์โกสเคยถูกใช้เป็นพื้นที่การรบหลายครั้ง เช่น ในสงครามระหว่างชาวคริสต์กับชาวมัวร์ (ชาวอาหรับ) ระหว่างแคว้นเลออนและแคว้นนาวาร์ ระหว่างแคว้นกัสติยาและแคว้นอารากอน มาจนถึงคริสต์ศตวรรษที่ 19 ในสงครามคาบสมุทร (รบกับกองทัพฝรั่งเศสของนโปเลียน) และในช่วงสงครามกลางเมืองสเปน (ค.ศ. 1934-1939) บูร์โกสก็เป็นเมืองหลวงของกองกำลังชาตินิยมที่มีนายพลฟรังโกเป็นผู้นำ.

ใหม่!!: แคว้นอารากอนและบูร์โกส · ดูเพิ่มเติม »

ฟรันซิสโก คาเบียร์

นักบุญฟรันซิสโก คาเบียร์ (Francis Xavier, Francisco Javier, Frantzisko XabierkoaFranciscus Xaverius) ชื่อจริง Francisco de Jaso y Azpilicueta (อ่านว่า ฟรันซิสโก เด คาโซ อี อัซปีลีกูเอตา) ในประเทศไทยรู้จักในนาม ฟรังซิสเซเวียร์ เป็นบาทหลวงโรมันคาทอลิกชาวแคว้นนาวาร์ ประเทศสเปน เป็นผู้นำศาสนาคริสต์มาเผยแพร่ที่ประเทศญี่ปุ่นเป็นคนแรกตลอดจนประเทศต่าง ๆ เช่น อินเดีย ศรีลังกา มาเลเซีย จีน ญี่ปุ่น เสียชีวิต ณ หมู่เกาะซ้างชวน ประเทศจีน และได้รับการประกาศเป็นนักบุญ ฟรันซิสโก คาเบียร์ เป็นสมาชิกแรกเริ่ม และหนึ่งในสมาชิกที่มีชื่อเสี่ยงมากที่สุดคนหนึ่งของคณะแห่งพระเยซูเจ้า ซึ่งเขามีความสนิทสนมกับ นักบุญอิกเนเชียสแห่งโลโยลาผู้ก่อตั้งคณ.

ใหม่!!: แคว้นอารากอนและฟรันซิสโก คาเบียร์ · ดูเพิ่มเติม »

ฟรันซิสโก โกยา

ฟรันซิสโก โกยา ฟรันซิสโก โกยา (Francisco Goya) ชื่อเต็ม ฟรันซิสโก โคเซ เด โกยา อี ลูเซียนเตส (Francisco José de Goya y Lucientes) 30 มีนาคม พ.ศ. 2289 (ค.ศ. 1746) - 16 เมษายน พ.ศ. 2371 (ค.ศ. 1828) จิตรกรและศิลปินภาพพิมพ์แนวศิลปะจินตนิยม (Romanticism) ชาวสเปน ได้รับการยกย่องว่าทั้งเป็น "Old Master" คนสุดท้ายและเป็นศิลปินแนวสมัยใหม่คนแรก เขาวาดทิวทัศน์งดงามในสไตล์โรโคโคได้อย่างสมบูรณ์แบบไม่เหมือนจิตรกรชาวสเปนท่านอื่น ฟรันซิสโก โกยา เป็นแรงบันดาลใจให้กับศิลปินรุ่นหลังในแนวต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น แนวสำแดงพลังอารมณ์ (Expressionist) หรือ แนวเหนือจริง (Surrealist) ต่างได้รับแรงบันดาลใจจากฟรานซิสโก เด โกยาทั้งสิ้น เขาถูกแต่งตั้งให้เป็นจิตรกรราชสำนักคนแรกของสเปน.

ใหม่!!: แคว้นอารากอนและฟรันซิสโก โกยา · ดูเพิ่มเติม »

พระเจ้าเฟร์นันโดที่ 2 แห่งอารากอน

ระเจ้าเฟรนานโดที่ 2, พระเจ้าเฟอร์ดินานด์ที่ 2 แห่งอารากอน หรือ พระเจ้าเฟอร์ดินานด์ที่ 5 แห่งคาสตีล (สเปน: Fernando II de Aragón, อังกฤษ: Ferdinand II of Aragon; 10 มีนาคม พ.ศ. 1995 - 23 มกราคม พ.ศ. 2059) เป็นกษัตริย์แห่งอารากอน (พ.ศ. 2022 - พ.ศ. 2059), กษัตริย์แห่งซิชิลี (พ.ศ. 2011 - พ.ศ. 2059) กษัตริย์แห่งเนเปิลส์ (พ.ศ. 2047 - พ.ศ. 2059) กษัตริย์แห่งวาเลนเซีย ซาร์ดิเนีย เคานท์แห่งบาร์เซโลนา, กษัตริย์แห่งคาสตีล (พระสวามีในพระราชินีนาถแห่งคาสตีล) (พ.ศ. 2017 - พ.ศ. 2047) และหลังจากนั้นก็เป็นกษัตริย์อย่างแท้จริงแต่แท้จริงแล้วผู้ที่ได้เป็นกษัตริย์แห่งคาสตีลคือพระธิดาของพระองค์ เจ้าหญิงโจแอนนาผู้วิปล.

ใหม่!!: แคว้นอารากอนและพระเจ้าเฟร์นันโดที่ 2 แห่งอารากอน · ดูเพิ่มเติม »

พระเจ้าเฟลีเปที่ 2 แห่งสเปน

ระเจ้าเฟลีเปที่ 2 แห่งสเปน (Felipe II de España; พ.ศ. 2070-พ.ศ. 2141) ทรงสืบเชื้อสายมาจาก ราชวงศ์ฮับสบูร์กแห่งออสเตรีย ทรงดำรงฐานะเป็นทั้งกษัตริย์แห่งสเปนและโปรตุเกส โดยทรงเป็นกษัตริย์แห่งโปรตุเกสในพระนาม พระเจ้าฟีลีเปที่ 1 (Filipe I) รัชสมัยของพระองค์เป็นช่วงเวลาที่สเปนสามารถดำรงฐานะความเป็นชาติมหาอำนาจที่ทรงอิทธิพลทางทะเลมากที่สุดในโลก ซึ่งเป็นผลมาจากการดำเนินนโยบายขยายอำนาจของสเปนในรัชสมัยของพระอง.

ใหม่!!: แคว้นอารากอนและพระเจ้าเฟลีเปที่ 2 แห่งสเปน · ดูเพิ่มเติม »

การ์กาซอน

การ์กาซอน (Carcassonne) เป็นเมืองที่มีกำแพงป้องกันเมืองล้อมรอบที่ตั้งอยู่จังหวัดโอดในอดีตแคว้นล็องก์ด็อกในประเทศฝรั่งเศส เมืองการ์กาซอนแยกออกเป็นสองส่วน “Cité de Carcassonne” ซึ่งเป็นบริเวณเมืองที่ล้อมรอบด้วยกำแพงเมือง และ “ville basse” ซึ่งเป็นบริเวณปริมณฑลรอบตัวเมืองเก่า ที่มาของการ์กาซอนมาจากตำนานพื้นบ้านที่กล่าวว่าหลังจากประมุขของปราสาทชื่อ “การ์กัส” สามารถยุติการล้อมเมืองได้ก็ทำการสั่นระฆังเพื่อเป็นการเฉลิมฉลอง “Carcas sona” แต่การสร้างเป็นประติมากรรมฟื้นฟูกอธิคบนคอลัมน์บนประตูนาร์บอนเป็นของใหม่ ป้อมปราการที่บูรณปฏิสังขรณ์ใหม่หมดในปี..

ใหม่!!: แคว้นอารากอนและการ์กาซอน · ดูเพิ่มเติม »

การเลือกตั้งทั่วไปในสเปน พ.ศ. 2554

การเลือกตั้งทั่วไปในสเปน..

ใหม่!!: แคว้นอารากอนและการเลือกตั้งทั่วไปในสเปน พ.ศ. 2554 · ดูเพิ่มเติม »

การเลือกตั้งทั่วไปในสเปน พ.ศ. 2558

การเลือกตั้งทั่วไปในสเปน..

ใหม่!!: แคว้นอารากอนและการเลือกตั้งทั่วไปในสเปน พ.ศ. 2558 · ดูเพิ่มเติม »

ภาษากาตาลา

ษากาตาลา (català) หรือ ภาษาแคทาแลน (Catalan) เป็นภาษาหนึ่งในกลุ่มภาษาโรมานซ์ รวมทั้งเป็นภาษาประจำชาติของประเทศอันดอร์ราและภาษาราชการร่วมในแคว้นปกครองตนเองหมู่เกาะแบลีแอริก บาเลนเซีย (ในชื่อ ภาษาบาเลนเซีย) และกาตาลุญญาของประเทศสเปน มีผู้พูดหรือผู้รู้ภาษานี้ประมาณ 10 ล้านคน ซึ่งอาศัยทั้งในสเปน อันดอร์รา รวมไปถึงภาคตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศฝรั่งเศส (โดยเฉพาะในจังหวัดปีเรเน-ออเรียงตาล) และเมืองอัลเกโรบนเกาะซาร์ดิเนีย ประเทศอิตาลี.

ใหม่!!: แคว้นอารากอนและภาษากาตาลา · ดูเพิ่มเติม »

ภาษาอารากอน

ษาอารากอน (aragonés; Aragonese language) เป็นภาษากลุ่มโรมานซ์ พูดในแคว้นอารากอน ประเทศสเปน มีผู้พูดประมาณ 10,000 - 30,000 คน.

ใหม่!!: แคว้นอารากอนและภาษาอารากอน · ดูเพิ่มเติม »

มอนซอน

มอนซอน (Monzón) เป็นเมืองเล็ก ๆ ในแห่งหนึ่งในแคว้นปกครองตนเองอารากอน ประเทศสเปน ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของแคว้น (ในท้องที่ซิงกาเมดิโอของจังหวัดอูเอสกา) และอยู่ติดกับแม่น้ำซิงกาและแม่น้ำโซซา ในปี..

ใหม่!!: แคว้นอารากอนและมอนซอน · ดูเพิ่มเติม »

ราชวงศ์ตรัสตามารา

ตราราชวงศ์คาสตีลและเลออน สายราชวงศ์ตรัสตามารา ตราราชวงศ์อารากอน บาเลนเซีย และซิชิลี สายราชวงศ์ตรัสตามารา ราชวงศ์ตรัสตามารา (House of Trastámara) เป็นราชวงศ์ในกษัตริย์แห่งคาบสมุทรไอบีเรียที่ปกครองอาณาจักรคาสตีลตั้งแต่ พ.ศ. 1912 ถึง พ.ศ. 2047 ในอารากอนและซิชิลีตั้งแต่ พ.ศ. 1955 ถึง พ.ศ. 2059 ในนาวาร์ตั้งแต่ พ.ศ. 1968 ถึง พ.ศ. 2022 และในเนเปิลส์ตั้งแต่ พ.ศ. 1985 ถึง พ.ศ. 2044 ราชวงศ์นี้ได้นำชื่อมาจากเคานต์แห่งตรัสตามารา ซึ่งเป็นตำแหน่งของพระเจ้าเฮนรีที่ 2 แห่งคาสตีลก่อนจะขึ้นครองราชย์ในปี พ.ศ. 1912 ในระหว่างสงครามกลางเมืองพระองค์ได้กำจัดพระเชษฐาต่างมารดาคือ พระเจ้าเปโดรแห่งคาสตีล และทรงขึ้นครองราชย์ ในช่วงการประนีประนอมที่เมืองกัสเป เจ้าชายเฟอร์ดินานด์แห่งอันเตเกรา บุตรองค์ที่ 2 ของพระเจ้าจอห์นที่ 1 แห่งคาสตีลได้รับเลือกจากชนชั้นสูงในอารากอน บาร์เซโลนา และบาเลนเซียให้เป็นกษัตริย์โดยเฉลิมพระนาม "พระเจ้าเฟอร์ดินานด์ที่ 1" และเป็นราชวงศ์สายแรก ใน พ.ศ. 1968 พระเจ้าจอห์นที่ 2 แห่งอารากอน บุตรองค์ที่ 2 ของพระเจ้าเฟอร์ดินานด์ที่ 1 ทรงอภิเษกสมรสกับสมเด็จพระราชินีแห่งนาวาร์ จึงทรงกลายเป็นกษัตริย์แห่งนาวาร์ หลังจากพระองค์สวรรคต ธิดาของพระองค์คือเจ้าหญิงเอเลนอร์ได้ครองราชสมบัติสืบต่อจากพระบิดาเพียงระยะเวลาหนึ่ง ใน พ.ศ. 1985 พระเจ้าอัลฟอนโซที่ 5 แห่งอารากอนได้ทรงกลายเป็นกษัตริย์แห่งเนเปิลส์จากการยึดครองเนเปิลส์ และทรงดำรงตำแหน่งนี้จนพระองค์สวรรคตเมื่อปี พ.ศ. 2001 บุตรของพระองค์ได้รับช่วงต่อและกำเนิดสายราชวงศ์นี้ กษัตริย์ในสายราชวงศ์นี้ล้วนแต่มีความสำคัญและได้รับการกล่าวถึงอยู่เสมอ ได้แก.

ใหม่!!: แคว้นอารากอนและราชวงศ์ตรัสตามารา · ดูเพิ่มเติม »

ราชสหพันธ์ฟุตบอลสเปน

ราชสหพันธ์ฟุตบอลสเปน (Real Federación Española de Fútbol) หรือ เอร์เรเฟฟ (RFEF) เป็นหน่วยงานที่ทำหน้าที่ดูแลกิจการฟุตบอลต่าง ๆ ในประเทศสเปน ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1913 โดยสืบทอดองค์กรมาจากสหพันธ์สโมสรฟุตบอลสเปน (Federación Española de Clubs de Football) ซึ่งได้รับการก่อตั้งในปี ค.ศ. 1909 ปัจจุบันสหพันธ์มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่นครฟุตบอลในเมืองลัสโรซัส ทางทิศตะวันตกของกรุงมาดริด ราชสหพันธ์ฟุตบอลสเปนเป็นสมาชิกสหพันธ์ฟุตบอลระหว่างประเทศ, สหภาพสมาคมฟุตบอลยุโรป และคณะกรรมการโอลิมปิกสเปน มีหน้าที่จัดการแข่งขันในระดับชั้นที่ 3 ของระบบลีกฟุตบอลสเปน และดูแลการแข่งขันในระดับชั้นที่ 1, ระดับชั้นที่ 2 (จัดโดยสันนิบาตฟุตบอลอาชีพแห่งชาติ) และระดับชั้นที่ 4 (จัดโดยสหพันธ์ฟุตบอลของแต่ละแคว้นและนครปกครองตนเอง) นอกจากนี้ยังเป็นผู้รับผิดชอบการบริหารจัดการฟุตบอลทีมชาติสเปน (ชาย), ฟุตบอลหญิงทีมชาติสเปน, ฟุตบอลเยาวชนทีมชาติสเปน รวมทั้งฟุตซอลทีมชาติสเปนอีกด้ว.

ใหม่!!: แคว้นอารากอนและราชสหพันธ์ฟุตบอลสเปน · ดูเพิ่มเติม »

ราชอาณาจักรอารากอน

ราชอาณาจักรอารากอน (Reino de Aragón; Kingdom of Aragon) เป็นราชอาณาจักรที่ตั้งอยู่ในบริเวณตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศสเปนระหว่างปี ค.ศ. 1035 ถึงปี ค.ศ. 1707 โดยมีพระเจ้ารามีโรที่ 1 แห่งอารากอนแห่งราชวงศ์อารากอนเป็นกษัตริย์องค์แรก อาณาจักรอารากอนเป็นอาณาจักรแบบราชาธิปไตย อาณาบริเวณเป็นบริเวณเดียวกับแคว้นอารากอนในประเทศสเปนปัจจุบัน ราชอาณาจักรอารากอนเดิมเป็นส่วนหนึ่งของ “ราชบัลลังก์อารากอน” (Crown of Aragon) ซึ่งรวมทั้งราชอาณาจักรบาเลนเซียและราชรัฐคาเทโลเนีย ซึ่งมีประมุขร่วมกัน อารากอนกอร์เตส (รัฐสภา) ราชอาณาจักรเดิมเป็นแคว้นฟิวดัลของชาวแฟรงก์รอบเมืองคากาซึ่งรวมตัวกับราชอาณาจักรปัมโปลนาที่ต่อมาเป็นราชอาณาจักรนาวาร์ในปี ค.ศ. 925 แคว้นอารากองแยกตัวจากราชอาณาจักรนาวาร์ในปี ค.ศ. 1035 และเลื่อนฐานะขึ้นเป็นอาณาจักรเต็มตัวโดยพระเจ้ารามีโรที่ 1 อาณาจักรอารากอนขยายตัวไปทางใต้ทางอวยสกา ในปี ค.ศ. 1096 และต่อมาซาราโกซา ในปี ค.ศ. 1118 จนกระทั่งปี ค.ศ. 1285 พรมแดนทางใต้ที่สุดของอารากอนเป็นดินแดนจากมัวร์ อาณาจักรอารากอนรวมกับราชบัลลังก์อารากอนหลังจากการเสกสมรสระหว่างสองราชวงศ์ในปี ค.ศ. 1150 ระหว่างรามอน เบเรงเกร์ที่ 4 เคานต์แห่งบาร์เซโลนา และเปโตรนีลาแห่งอารากอน พระราชินีแห่งอารากอน พระโอรสของทั้งสองพระองค์ได้รับดินแดนของทั้งสองอาณาจักร นอกจากนั้นพระเจ้าแผ่นดินแห่งอารากอนยังได้รับตำแหน่งเพิ่มเป็นเคานต์แห่งบาร์เซโลนา ปกครองดินแดนเดิมและราชรัฐคาเทโลเนีย และต่อมาหมู่เกาะแบลีแอริก ราชอาณาจักรบาเลนเซีย ราชอาณาจักรซิซิลี ราชอาณาจักรเนเปิลส์ และราชอาณาจักรซาร์ดิเนีย พระเจ้าแผ่นดินแห่งอารากอนเป็นพระเจ้าแผ่นดินองค์แรกที่ทรงปกครองบริเวณอารากอนโดยตรงและทรงดำรงตำแหน่งพระเจ้าแผ่นดินแห่งบาเลนเซีย พระเจ้าแผ่นดินแห่งมายอร์กา (ชั่วระยะหนึ่ง) เคานต์แห่งบาร์เซโลนา ลอร์ดแห่งมงเปลีเย และดุ๊กแห่งเอเธนส์ (ชั่วระยะหนึ่ง) แต่ละตำแหน่งที่ได้มาหรือเสียไปก็เป็นการเพื่มหรือลดดินแดนภายใต้การปกครองในคริสต์ศตวรรษที่ 14 อำนาจของพระมหากษัตริย์แห่งอารากอนก็จำกัดลงเพียงบริเวณอารากอนเองตามข้อตกลง “สหภาพอารากอน” (Union of Aragon) ราชบัลลังก์อารากอนถูกยุบเลิกโดยปริยายหลังจากการรวมกับราชบัลลังก์คาสตีล แต่หลังจากการรวมตัวอารากอนก็ยังรักษาอำนาจบางอย่างอยู่บ้างจนกระทั่งมาสิ้นสุดลงทั้งหมดตามพระราชกฤษฎีกานวยบาปลันตา (Nueva Planta decrees) ที่ออกในปี ค.ศ. 1707.

ใหม่!!: แคว้นอารากอนและราชอาณาจักรอารากอน · ดูเพิ่มเติม »

ราฟาเอล เดล เรียโก

ราฟาเอล เดล ริเอโก ราฟาเอล เดล ริเอโก อี นุญเญซ (Rafael del Riego y Nuñez; 9 เมษายน ค.ศ. 1784 - 7 พฤศจิกายน ค.ศ. 1823) เป็นนายพลและนักการเมืองเสรีนิยมชาวสเปน ริเอโกเกิดเมื่อวันที่ 9 เมษายน ค.ศ. 1784 (บางแหล่งว่าเกิดเมื่อ 24 พฤศจิกายน ค.ศ. 1785) ที่เมืองซานตามาริอาเดตุญญัสในแคว้นอัสตูเรียส เมื่อจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยโอบิเอโดในปี ค.ศ. 1807 แล้ว ได้ย้ายไปยังกรุงมาดริด เพื่อเข้าเป็นทหารในกองทัพบก ปีต่อมา (ค.ศ. 1808) ระหว่างสงครามประกาศเอกราชสเปน ริเอโกถูกทางฝรั่งเศสจับกุมตัว และถูกนำไปขังไว้ที่เอสโกเรียล ซึ่งเขาสามารถหลบหนีจากที่นั่นได้ในเวลาต่อมา วันที่ 10 พฤศจิกายนปีเดียวกันนั้น ริเอโกได้เข้าร่วมรบในยุทธการเอสปิโนซาเดโลสมอนเตโรส (Battle of Espinosa de los Monteros) ซึ่งเขาถูกจับเป็นเชลยอีกครั้ง สามวันถัดจากนั้น เขาถูกส่งตัวไปยังฝรั่งเศสและได้รับการปล่อยตัวในเวลาต่อมา จากนั้นริเอโกได้เดินทางท่องเที่ยวไปยังอังกฤษและแคว้นต่าง ๆ ในเยอรมนีปัจจุบัน แล้วจึงกลับไปยังสเปนใน ค.ศ. 1814 และเข้าร่วมในกองทัพบกอีกครั้งโดยได้รับยศเป็นพันโท ช่วงหกปีในระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์นับจากนั้น ริเอโกเข้าร่วมกับกลุ่มฟรีเมสันและกลุ่มเสรีนิยมเพื่อสมคบกันต่อต้านพระเจ้าเฟอร์ดินันด์ที่ 7 ในปี ค.ศ. 1819 พระเจ้าเฟอร์ดินันด์ที่ 7 ทรงแต่งทัพจำนวน 10 กองพันออกไปปราบปรามขบวนการต่อต้านในอเมริกาใต้ ซึ่งริเอโกได้รับแต่งตั้งเป็นผู้บัญชาการกองพันชาวอัสตูเรียส อย่างไรก็ตาม หลังจากเขาไปถึงเมืองท่ากาดิซ เมื่อถึงวันที่ 1 มกราคม ค.ศ. 1820 เดล ริเอโกพร้อมทั้งนายทหารคนอื่น ๆ ได้ก่อกบฏขึ้นและเรียกร้องให้นำรัฐธรรมนูญฉบับ ค.ศ. 1812 กลับมาใช้อีกครั้ง ความขัดแย้งครั้งนี้ภายหลังจะเรียกกันว่าสงครามกลางเมืองสเปน ค.ศ. 1820-1823 กองทหารของริเอโกได้เคลื่อนทัพผ่านเมืองต่าง ๆ ในแคว้นอันดาลูเซีย โดยหวังที่จะปลุกเร้าให้เกิดการลุกฮือขึ้นต่อต้านกษัตริย์ แต่ไม่เป็นผล อย่างในก็ตามได้เกิดการลุกฮือขึ้นในแคว้นกาลิเซีย และแผ่ขยายไปทั่วทั้งประเทศสเปน เมื่อถึงวันที่ 7 มีนาคม ปีเดียวกัน กองทหารโดยการนำของนายพลบาเยสเตโรสได้ล้อมพระราชวังในกรุงมาดริดไว้ และในวันที่ 10 มีนาคม พระเจ้าเฟอร์ดินันด์ที่ 7 ทรงยินยอมให้นำรัฐธรรมนูญกลับมาบังคับใช้อีกครั้ง รัฐบาล "หัวก้าวหน้า" ที่ตั้งขึ้นใหม่ได้แต่งตั้งริเอโกเป็นจอมพล และเป็นผู้ว่าการแคว้นกาลิเซีย ในวันที่ 8 มกราคม ค.ศ. 1821 เขาย้ายไปว่าการแคว้นอารากอน และย้ายไปพำนักในนครซาราโกซา ปีเดียวกันนั้นในวันที่ 18 มิถุนายน เขาเข้าพิธีสมรสกับมาริอา เตเรซา เดล ริเอโก อี บุสติโยส (Maria Teresa del Riego y Bustillos) ผู้เป็นลูกพี่ลูกน้อง เมื่อถึงวันที่ 4 กันยายน ค.ศ. 1821 หลังจากที่ความพยายามก่อการปฏิวัติ (โดยบุคคลกลุ่มอื่น) เพื่อล้มล้างระบอบกษัตริย์ล้มเหลว ริเอโกถูกกล่าวหาว่านิยมระบอบสาธารณรัฐและถูกนำไปคุมขังไว้ อย่างไรก็ตาม ความนิยมของประชาชนในตัวริเอโกยิ่งเพิ่มสูงขึ้น อันนำไปสู่การประท้วงในกรุงมาดริดเพื่อให้ปล่อยตัวเขาเป็นอิสระ จนกระทั่งเดือนมีนาคม ค.ศ. 1822 ริเอโกได้รับเลือกเป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติสเปน (กอร์เตสเฆเนราเลส - Cortes Generales) และได้รับการปล่อยตัวจากที่คุมขังในที่สุด หมวดหมู่:ทหารชาวสเปน หมวดหมู่:นักการเมืองสเปน หมวดหมู่:นายพลชาวสเปน.

ใหม่!!: แคว้นอารากอนและราฟาเอล เดล เรียโก · ดูเพิ่มเติม »

รายชื่อธงในประเทศสเปน

นี้คือธงต่างๆ ที่ใช้ในประเทศสเปน ทั้งในอดีตและปัจจุบัน สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมของธงชาติ ดูที่ ธงชาติสเปน.

ใหม่!!: แคว้นอารากอนและรายชื่อธงในประเทศสเปน · ดูเพิ่มเติม »

รายชื่อแหล่งมรดกโลกในประเทศสเปน

องค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) ได้ขึ้นทะเบียนแหล่งมรดกโลกของประเทศสเปนทั้งสิ้น 46 แหล่ง เป็นแหล่งมรดกโลกทางวัฒนธรรม 40 แหล่ง มรดกโลกทางธรรมชาติ 4 แหล่ง และมรดกโลกแบบผสมอีก 2 แหล่ง.

ใหม่!!: แคว้นอารากอนและรายชื่อแหล่งมรดกโลกในประเทศสเปน · ดูเพิ่มเติม »

รายชื่อเขตการปกครอง

รายชื่อเขตปกครองในระดับบนสุดของประเทศต่าง ๆ ที่มีการปกครองแบบสหพันธรัฐหรือรัฐรวม รวมทั้งเขตการปกครองในระดับบนสุดของเอกรัฐหรือรัฐเดี่ยวบางแห่ง.

ใหม่!!: แคว้นอารากอนและรายชื่อเขตการปกครอง · ดูเพิ่มเติม »

รายพระนามและรายนามผู้ปกครองร่วมแห่งอันดอร์รา

รายพระนามผู้ปกครองร่วมแห่งอันดอร์รา ซึ่งเป็นประมุขของราชรัฐอันดอร์รา ไฟล์:Joan Enric Vives.jpg|ฌูอัน อันริก บิบัส ซิซิเลีย ประมุขร่วมฝ่ายพระราชาคณะแห่งอันดอร์รา ดำรงตำแหน่ง 12 พฤษภาคม..

ใหม่!!: แคว้นอารากอนและรายพระนามและรายนามผู้ปกครองร่วมแห่งอันดอร์รา · ดูเพิ่มเติม »

ลัทธิคอมมิวนิสต์

ในทางรัฐศาสตร์และสังคมศาสตร์ ลัทธิคอมมิวนิสต์ (communism; communis แปลว่า "ร่วมกัน" หรือ "สากล") คืออุดมการณ์และขบวนการทางสังคม การเมือง และเศรษฐกิจ ซึ่งมีจุดมุ่งหมายสูงสุดคือการสถาปนาสังคมคอมมิวนิสต์ อันเป็นระเบียบทางสังคมบนพื้นฐานของความเป็นเจ้าของร่วมกัน (Common ownership) ของปัจจัยการผลิต (Means of production) และปราศจากชนชั้นทางสังคม เงินตรา และรัฐ ลัทธิคอมมิวนิสต์ปรากฏอยู่ในปรัชญาหรือแนวคิดหลากหลายทฤษฎีที่โดยรวม ๆ แล้วจะรวมถึงลัทธิมากซ์-อนาธิปไตย (ลัทธิคอมมิวนิสต์-อนาธิปไตย) และอุดมการณ์ทางการเมืองอื่น ๆ ซึ่งเชื่อมโยงกับสองแนวคิดนี้ โดยที่ทั้งหมดนี้มีบทวิเคราะห์สรุปร่วมกันว่าระเบียบทางสังคมในปัจจุบันอันถือกำเนิดถึงจากระบบเศรษฐกิจแบบทุนนิยม ประกอบไปด้วยชนชั้นทางสังคมสองชนชั้นหลักคือ "ชนชั้นแรงงาน" ผู้ที่ต้องทำงานเพื่ออยู่รอดและถือเป็นกลุ่มคนส่วนมากในสังคม และ "ชนชั้นนายทุน" อันเป็นชนกลุ่มน้อยในสังคม ผู้ถือเอากำไรจากการจ้างวานชนชั้นแรงงานผ่านการครอบครองปัจจัยการผลิตไว้เฉพาะส่วนตน ที่ซึ่งความขัดแย้งระหว่างสองชนชั้นนี้เองที่จะก่อให้เกิดการปฏิวัติ อันเป็นองค์ประกอบตั้งต้นที่จะช่วยให้เกิดการเปลี่ยนผ่านไปสู่การเป็นเจ้าของปัจจัยการผลิตร่วมกันของคนในสังคม (Social ownership) ด้วยความที่ลัทธิคอมมิวนิสต์มีอุดมคติที่ตรงกันข้ามกับลัทธิเสรีนิยมทางเศรษฐกิจ (Economic Liberalism) จึงทำให้เกิดความหวาดกลัวและการต่อต้านลัทธิคอมมิวนิสต์อย่างกว้างขวางในช่วงสงครามเย็น ดังจะเห็นได้จากกระแส "ความหวาดกลัวแดง" (Red Scare) หรือ ลัทธิแม็คคาร์ธี ในอเมริกาช่วงต้นสงครามเย็น.

ใหม่!!: แคว้นอารากอนและลัทธิคอมมิวนิสต์ · ดูเพิ่มเติม »

สิทธิของกลุ่มบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศเรียงตามประเทศหรือดินแดน

กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศ (LGBT) แตกต่างกันไปในแต่ละประเทศหรือดินแดน ตั้งแต่การรับรองการสมรสเพศเดียวกันตามกฎหมายหรือคู่ชีวิตในรูปแบบอื่น จนถึงโทษประหารชีวิตสำหรับกิจกรรมทางเพศหรือการแสดงออกของบุคคลเพศเดียวกัน สิทธิของกลุ่มบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศถูกจัดว่าเป็นสิทธิมนุษยชนและสิทธิพลเมือง ซึ่งประกอบไปด้วย แต่ไม่จำกัดเพียง.

ใหม่!!: แคว้นอารากอนและสิทธิของกลุ่มบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศเรียงตามประเทศหรือดินแดน · ดูเพิ่มเติม »

อัลอันดะลุส

อัลอันดะลุส (الأندلس; Al-Andalus) เป็นชื่อภาษาอาหรับของบริเวณคาบสมุทรไอบีเรียและเซ็พติเมเนียที่ปกครองโดยอาหรับและชาวมุสลิมในแอฟริกาเหนือ (ที่เรียกโดยทั่วไปว่ามัวร์) ในช่วงเวลาต่าง ๆ กันระหว่าง..

ใหม่!!: แคว้นอารากอนและอัลอันดะลุส · ดูเพิ่มเติม »

อัศวินฮอสปิทัลเลอร์

ณะอัศวินฮอสปิทัลเลอร์ (Knights Hospitaller) หรือคณะฮอสปิทัลเลอร์ (Order of Hospitallers) เป็นคณะบุรุษที่ทำงานที่โรงพยาบาลอมาลฟิที่ตั้งขึ้นในเยรูซาเลมในปี..

ใหม่!!: แคว้นอารากอนและอัศวินฮอสปิทัลเลอร์ · ดูเพิ่มเติม »

อารัน

อารัน (อารันและAran) หรือ อะรัน (Aran) มีชื่อทางการเดิมว่า บัลดารัน (อารัน: Val d'Aran) เป็นเขตการปกครองที่มีฐานะเป็น "หน่วยดินแดนพิเศษ" ทางตอนเหนือสุดของจังหวัดแยย์ดา แคว้นกาตาลุญญา ประเทศสเปน ครอบคลุมบริเวณหุบเขาอารันซึ่งมีเนื้อที่ 620.47 ตารางกิโลเมตร (239.56 ตารางไมล์) ในเทือกเขาพิเรนีส ดินแดนนี้เป็นหนึ่งในพื้นที่สองแห่งของสเปนแผ่นดินใหญ่ (และเป็นพื้นที่แห่งเดียวของกาตาลุญญาแผ่นดินใหญ่) ที่ตั้งอยู่ทางด้านเหนือของเทือกเขา อารันมีอาณาเขตจรดฝรั่งเศสทางทิศเหนือ จรดแคว้นอารากอนทางทิศตะวันตก และจรดเทศมณฑลอัลตาริบาโกร์ซาและปัลยัสซูบิราของแคว้นกาตาลุญญาทางทิศใต้และทิศตะวันออกตามลำดับ เมืองหลักของอารันคือบิเอ็ลยอซึ่งมีประชากรจำนวน 5,474 คน (พ.ศ. 2557) ในขณะที่ประชากรทั้งหมดของอารันมีจำนวน 9,991 คน (พ.ศ. 2557) ข้อมูลจากสำมะโนภาษาศาสตร..

ใหม่!!: แคว้นอารากอนและอารัน · ดูเพิ่มเติม »

อิล โตรวาโตเร

ปสเตอร์การแสดงในสหรัฐอเมริกา อิลโตรวาโตเร (Il trovatore; The Troubadour) เป็นอุปรากรภาษาอิตาลีความยาว 4 องก์ ที่เขียนโดยจูเซปเป แวร์ดี จากบทละครภาษาสเปนเรื่อง El Trovador ของอันโตนิโอ การ์เซีย กูเทียเรซ (1813 - 1884) เรื่องราวเกี่ยวกับพวกยิปซี เกิดขึ้นในแคว้นบิสเคย์ และแคว้นอารากองในประเทศสเปนในคริสต์ศตวรรษที่ 15 อิลโตรวาโตเรแสดงรอบปฐมทัศน์ครั้งแรกเมื่อวันที่ 19 มกราคม..

ใหม่!!: แคว้นอารากอนและอิล โตรวาโตเร · ดูเพิ่มเติม »

อุปราช

หลุยส์ เมานต์แบ็ทแตน อุปราชแห่งอินเดียคนสุดท้าย อุปราช หรือ "ไวซรอย" (Viceroy) เป็นตำแหน่งที่แต่งตั้งโดยพระมหากษัตริย์เพื่อให้ปกครองเขต แว่นแคว้น หรืออาณาจักร เป็นผู้สำเร็จราชการในพระปรมาภิไธยของพระมหากษัตริย์ มาจากภาษาละติน "vice-" แปลว่า ผู้แทน กับภาษาฝรั่งเศส "roi" แปลว่าพระมหากษัตริย์ หากอุปราชเป็นสตรี จะเรียกว่า "ไวซแรน" ซึ่งใช้เรียกพระชายาของอุปราชด้วย ในยุโรป โดยเฉพาะก่อนช่วงศตวรรษที่ 18 พระมหากษัตริย์สเปนได้แต่งตั้งอุปราชประจำแคว้นอารากอง บาเลนเซีย คาตาโลเนีย นาวารร์ ซาร์ดีเนีย ซิซิลี เนเปิลส์ และโปรตุเกส (ช่วงปี ค.ศ. 1580-1640) โดยภายหลังการเถลิงอำนาจของราชวงศ์บูร์บงของสเปน เขตการปกครองของอุปราช ได้ถูกเปลี่ยนไปอยู่ในรูปของ Captaincies General แทน ต่อมาในภายหลังสงครามสืบราชบัลลังก์สเปน แคว้นเหล่านี้ที่อยู่ในอิตาลีได้แยกตัวเองเป็นอิสระ โดยยังใช้ระบบอุปราชเพื่อปกครองอยู่ เช่นแคว้นซาร์ดีเนียยังมีตำแหน่งอุปราชอยู่จนถึงปี..1848 ตำแหน่งอุปราชในไทยเรียกว่ากรมพระราชวังบวรสถานมงคล.

ใหม่!!: แคว้นอารากอนและอุปราช · ดูเพิ่มเติม »

จังหวัดของประเทศสเปน

ประเทศสเปนและแคว้นปกครองตนเองของประเทศสเปนสามารถแบ่งออกเป็นจังหวัดได้ทั้งหมดห้าสิบจังหวัด (provincias,; เอกพจน์: provincia)ในภาษาอื่นของสเปน.

ใหม่!!: แคว้นอารากอนและจังหวัดของประเทศสเปน · ดูเพิ่มเติม »

ซาราโกซา

แม่น้ำเอโบรขณะไหลผ่านเมืองซาราโกซา ซาราโกซา (Zaragoza) เป็นเมืองหลักของจังหวัดซาราโกซาและแคว้นอารากอน ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศสเปน ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเอโบรและแควสาขาอูเอร์บาและกาเยโก ในหุบเขาตอนกลางของแคว้นซึ่งมีภูมิทัศน์ที่หลากหลาย ตั้งแต่ทะเลทราย ("โลสโมเนโกรส") ป่าหนาทึบ ทุ่งหญ้า ไปจนถึงทิวเขา ข้อมูลในปี ค.ศ. 2007 จากสภาเมืองซาราโกซา เมืองนี้มีประชากร 667,034 คนมากที่สุดเป็นอันดับที่ 5 ของประเทศ และมากกว่าครึ่งหนึ่งของจำนวนประชากรทั้งแคว้น ซาราโกซาตั้งอยู่ที่ความสูง 199 เมตรจากระดับน้ำทะเล และเป็นจุดตัดระหว่างเส้นทางที่จะไปยังมาดริด บาร์เซโลนา บาเลนเซีย บิลบาโอ และตูลูซ (ประเทศฝรั่งเศส) โดยเมืองทั้งหมดนี้ตั้งอยู่ห่างจากซาราโกซาประมาณ 300 กิโลเมตร บริเวณเมืองนี้เคยเป็นหมู่บ้านที่มีชื่อว่า ซัลดูบา (Salduba) เป็นชื่อในภาษาพิวนิกของกองทัพคาร์เทจซึ่งตั้งอยู่บนซากหมู่บ้านชาวเคลติเบเรียนเดิม จนกระทั่งในปลายคริสต์ศตวรรษที่ 1 เมื่อกองทัพโรมันได้เข้ารุกรานคาบสมุทรไอบีเรีย บริเวณนี้จึงตกอยู่ในการดูแลของกองรักษาด่านซึ่งจัดตั้งขึ้นโดยจักรพรรดิออกุสตุส และกลายเป็นเมืองที่มีชื่อว่า ไกซาเรากุสตา (Caesaraugusta) มีฐานะเป็นเมืองหลวงของจังหวัดฮิสปาเนียซีเตรีออร์ ในต้นคริสต์ศตวรรษที่ 7 ชาวอาหรับได้เข้ายึดเมืองนี้และตั้งชื่อใหม่ว่า ซารากุสตา (Saraqusta; سرقسطة) ซึ่งภายหลังได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรกาหลิบแห่งกอร์โดบา (ราชวงศ์อุไมยัด) และเจริญรุ่งเรืองขึ้นเป็นเมืองอาหรับที่ใหญ่ที่สุดทางภาคเหนือของคาบสมุทร จากนั้นในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 11 ซาราโกซาเป็นหนึ่งในกลุ่มราชอาณาจักรไตฟา (รัฐมุสลิมหลายสิบรัฐที่แตกออกมาหลังการล่มสลายของอาณาจักรกอร์โดบา) และถูกชาวอาหรับอีกกลุ่มจากจักรวรรดิอัลโมราวิดเข้าครอบครอง ในที่สุดเมื่อต้นคริสต์ศตวรรษที่ 12 ชาวอารากอน (นับถือศาสนาคริสต์) ก็สามารถยึดเมืองนี้ได้จากพวกอัลโมราวิดและได้ตั้งเป็นเมืองหลวงของราชอาณาจักรอารากอน ซึ่งเป็นหนึ่งในดินแดนต่าง ๆ บนคาบสมุทรไอบีเรียที่จะพัฒนาเป็นราชอาณาจักรสเปนในเวลาต่อม.

ใหม่!!: แคว้นอารากอนและซาราโกซา · ดูเพิ่มเติม »

ซานเตียโก รามอน อี กาฮาล

ซานเตียโก รามอน อี กาฮาล (Santiago Ramón y Cajal) ForMemRS (1 พฤษภาคม 2395 – 18 ตุลาคม 2477) เป็นแพทย์ อาจารย์ พยาธิแพทย์ นักมิญชวิทยาและนักประสาทวิทยาศาสตร์ชาวสเปน ได้รับรางวัลรางวัลโนเบลสาขาสรีรวิทยาหรือการแพทย์ในปี..1906 (พ.ศ. 2449) จากการศึกษาระบบประสาทด้วยการย้อมสี เป็นบุตรของ คุสโต รามอน กาซาซุส กับอันโตเนีย กาฮาล การสำรวจรุ่นบุกเบิกของเขาเกี่ยวกับโครงสร้างจุลทรรศน์ของสมอง เป็นงานต้นฉบับในประสาทวิทยาศาสตร์ จึงได้รับการพิจารณาว่าเป็นบิดาของประสาทวิทยาศาสตร์ เขามีความชำนาญในการวาดรูปและภาพวาดเซลล์สมองเป็นร้อย ๆ ของเขาก็ยังถูกใช้ในการศึกษาจนกระทั่งถึงทุกวันนี้.

ใหม่!!: แคว้นอารากอนและซานเตียโก รามอน อี กาฮาล · ดูเพิ่มเติม »

ประวัติศาสตร์สเปน

ตราสัญลักษณ์ของประเทศสเปน โบสถ์ซานตามารีอาเดลนารังโก เมืองโอเบียโด ภาคเหนือ อารามหลวงเอลเอสโกเรียล กรุงมาดริด ภาคกลาง พิพิธภัณฑ์วิจิตรศิลป์ เมืองบาเลนเซีย ภาคตะวันออก ปราสาทอาลัมบรา เมืองกรานาดา ภาคใต้ ประวัติศาสตร์สเปน คือเรื่องราวความเป็นมาเกี่ยวกับอาณาบริเวณส่วนใหญ่บนคาบสมุทรไอบีเรียในภูมิภาคยุโรปใต้ซึ่งมีพัฒนาการสืบเนื่องมาตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์ ผ่านยุครุ่งเรืองและยุคตกต่ำของจักรวรรดิสากลแห่งแรกของโลกจนกลายมาเป็นราชอาณาจักรสเปนในปัจจุบัน อันเป็นช่วงฟื้นฟูตนเองหลังสมัยการปกครองแบบเผด็จการของนายพลฟรังโกได้ผ่านพ้นไป มีอยู่หลายช่วงที่ประวัติศาสตร์การเมืองและการทหารของสเปนเต็มไปด้วยความวุ่นวายและความรุนแรง ส่วนใหญ่เกิดจากนโยบายและความพยายามที่จะจัดการกับความแตกต่างทางเชื้อชาติ ศาสนา และความคิดความเชื่อในดินแดนของตนนั่นเอง มนุษย์สมัยใหม่เข้ามาในคาบสมุทรไอบีเรียเป็นเวลานานกว่า 35,000 ปีมาแล้ว ตามมาด้วยคลื่นผู้รุกรานและผู้ตั้งอาณานิคมชนชาติต่าง ๆ ได้แก่ ชาวเคลต์ ชาวฟินิเชีย ชาวคาร์เทจ และชาวกรีกตลอดระยะเวลานับพัน ๆ ปี เมื่อถึงประมาณ 200 ปีก่อนคริสต์ศักราช ทั้งคาบสมุทรจึงตกเป็นส่วนหนึ่งของสาธารณรัฐโรมัน ก่อนจะตกไปอยู่ภายใต้การปกครองจากชาววิซิกอท และในปี ค.ศ. 711 ชาวแอฟริกาเหนือซึ่งเป็นชาวมุสลิม (ชาวมัวร์) ก็เริ่มเข้ามามีอำนาจ ในที่สุดอาณาจักรอิสลามก็ได้รับการสถาปนาขึ้นบนคาบสมุทรแห่งนี้และยืนหยัดได้เป็นเวลาประมาณ 750 ปี ซึ่งพื้นที่ที่ชาวมุสลิมครอบครองนั้นเป็นที่รู้จักกันในชื่อ อัลอันดะลุส แต่ในช่วงเวลาเดียวกันนี้ยังเป็นช่วงที่เรียกว่า "เรกองกิสตา" หรือการยึดดินแดนคืนของชาวคริสต์ซึ่งค่อย ๆ รุกลงไปทางใต้ เหตุการณ์เหล่านี้ดำเนินไปถึงจุดสิ้นสุดเมื่อชาวคริสต์สามารถพิชิตที่มั่นแห่งสุดท้ายของชาวมุสลิมที่กรานาดาได้ในปี ค.ศ. 1492 จากนั้นราชอาณาจักรและรัฐคาทอลิกต่าง ๆ บนคาบสมุทรไอบีเรียก็ได้พัฒนาขึ้น รวมทั้งราชอาณาจักรคาสตีลและราชอาณาจักรอารากอนด้วย ซึ่งการรวมกันของอาณาจักรทั้งสองนี้จะนำไปสู่ความเป็นปึกแผ่นของรัฐชาติสเปนในเวลาต่อมา ปี..

ใหม่!!: แคว้นอารากอนและประวัติศาสตร์สเปน · ดูเพิ่มเติม »

ประวัติศาสตร์ออสเตรีย

ตราแผ่นดินของออสเตรียปัจจุบัน ประวัติศาสตร์ออสเตรีย ในช่วงก่อนปลายศตวรรษที่ 8 ประเทศออสเตรียมีชนชาติอพยพต่าง ๆ อพยพเข้ามาตั้งถิ่นฐาน ได้แก่ ชนเผ่าเยอรมันที่ข้ามแม่น้ำดานูบลงมาทางตอนใต้ และชาวสลาฟที่อาศัยอยู่ทางตอนใต้ออสเตรีย จนสิ้นสุดศตวรรษที่ 8 ชาร์เลอมาญ (Charlemagne) ได้ก่อตั้งเขตชายแดนระหว่างแม่น้ำอินส์ แรบและดราวา เพื่อเป็นป้อมปราการ ป้องกันการรุกราน ของชาวเอวาร์ และภายหลังจากที่ชาวโรมันได้อพยพออกไป นักบวชชาวไอริชและสก็อตจึงได้เข้ามาเผยแพร่คริสต์ศาสนา ในดินแดนบริเวณเทือกเขาอัลไพน์แห่งนี้ ราชวงศ์บาเบนแบร์ก (Babenberg) ของชาวบาวาเรียนได้เข้าปกครองออสเตรียในปี..

ใหม่!!: แคว้นอารากอนและประวัติศาสตร์ออสเตรีย · ดูเพิ่มเติม »

ประเทศสเปน

ไม่มีคำอธิบาย.

ใหม่!!: แคว้นอารากอนและประเทศสเปน · ดูเพิ่มเติม »

แม่น้ำเทกัส

ทกัส (Tagus), ตาโฆ (Tajo) หรือ แตฌู (Tejo) เป็นแม่น้ำที่ยาวที่สุดในคาบสมุทรไอบีเรีย มีความยาว 1,038 กิโลเมตร โดยอยู่ในสเปน 716 กิโลเมตร เป็นพรมแดนธรรมชาติระหว่างโปรตุเกสกับสเปน 47 กิโลเมตร ส่วนระยะทางที่เหลือ 275 กิโลเมตรอยู่ในโปรตุเกส แม่น้ำเทกัสมีบริเวณลุ่มน้ำ 80,100 ตารางกิโลเมตร (ใหญ่เป็นอันดับที่ 2 รองจากลุ่มน้ำโดรู) ช่วงที่อยู่ในสเปนมีความกว้างไม่มากนัก แต่เมื่อเลยปราสาทอัลโมรอลในโปรตุเกสไปแล้วจึงเริ่มกว้างขึ้น ปัจจุบันมีเขื่อนอัลกันตาราคอยควบคุมปริมาณน้ำของแม่น้ำสายนี้อยู่ แม่น้ำเทกัสมีต้นน้ำอยู่ที่ภูเขาอัลบาร์ราซินในทิวเขาซิสเตมาอิเบริโก แคว้นอารากอน และไหลไปลงมหาสมุทรแอตแลนติกที่กรุงลิสบอน สะพานที่ใหญ่ที่สุดที่สร้างข้ามแม่น้ำสายนี้คือสะพานวัชกู ดา กามา (กรุงลิสบอน) ความยาวรวม 17.2 กิโลเมตร ซึ่งเป็นสะพานที่ใหญ่ที่สุดในทวีปยุโรปด้วย เมืองสำคัญที่แม่น้ำเทกัสไหลผ่าน ได้แก่ อารังฆูเอซ, โตเลโด และตาลาเบราเดลาเรย์นาในสเปน ซังตาไรและลิสบอนในโปรตุเกส ภาพ:Tagus River Panorama - Toledo, Spain - Dec 2006.jpg|แม่น้ำเทกัสที่เมืองโตเลโด ประเทศสเปน ภาพ:Porto de Lisboa (3).jpg|ท่าเรือกรุงลิสบอนที่ปากน้ำเทกัส เทกัส เทกัส.

ใหม่!!: แคว้นอารากอนและแม่น้ำเทกัส · ดูเพิ่มเติม »

แคว้นกัสติยา-ลามันชา

กัสติยา-ลามันชา (Castilla-La Mancha) เป็นแคว้นปกครองตนเองของประเทศสเปน มีอาณาเขตติดต่อกับแคว้นกัสติยาและเลออน แคว้นมาดริด แคว้นอารากอน แคว้นบาเลนเซีย แคว้นมูร์เซีย แคว้นอันดาลูเซีย และแคว้นเอซเตรมาดูรา กัสติยา-ลามันชา หมวดหมู่:รัฐและดินแดนที่ก่อตั้งในปี พ.ศ. 2525.

ใหม่!!: แคว้นอารากอนและแคว้นกัสติยา-ลามันชา · ดูเพิ่มเติม »

แคว้นกาตาลุญญา

กาตาลุญญา (Catalunya; Cataluña), กาตาลุญญอ (อารัน: Catalonha) หรือ แคทาโลเนีย (Catalonia) เป็นภูมิภาคหนึ่งทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือสุดของคาบสมุทรไอบีเรีย ปัจจุบัน สถานะทางรัฐธรรมนูญของภูมิภาคนี้เป็นประเด็นข้อพิพาทระหว่างราชอาณาจักรสเปนซึ่งถือว่ากาตาลุญญาเป็นแคว้นปกครองตนเองแห่งหนึ่งของตน กับฌานาราลิตัตดากาตาลุญญา (ทบวงการปกครองในท้องถิ่น) ซึ่งถือว่ากาตาลุญญาเป็นสาธารณรัฐเอกราชหลังจากที่สภานิติบัญญัติกาตาลุญญาประกาศเอกราชจากสเปนเมื่อวันที่ 27 ตุลาคม..

ใหม่!!: แคว้นอารากอนและแคว้นกาตาลุญญา · ดูเพิ่มเติม »

แคว้นลาริโอฆา

ลาริโอฆา (La Rioja) หรือ เอร์ริโอชา (Errioxa) เป็นจังหวัดและแคว้นปกครองตนเองในภาคเหนือของประเทศสเปน เมืองหลักคือโลกรอญโญ ส่วนเมืองสำคัญอื่น ๆ ในเขตการปกครองนี้ได้แก่ กาลาออร์รา, อาร์เนโด, อัลฟาโร, อาโร, ซานโตโดมิงโก เด ลา กัลซาดา และนาเฆรา ลาริโอฆามีอาณาเขตติดต่อกับแคว้นประเทศบาสก์ (จังหวัดอาลาบา) แคว้นนาวาร์ แคว้นอารากอน (จังหวัดซาราโกซา) และแคว้นกัสติยาและเลออน (จังหวัดโซเรียและจังหวัดบูร์โกส) แม่น้ำเอโบร ไหลผ่านในพื้นที่เช่นเดียวกับแม่น้ำโอฆา (Río Oja) ซึ่งเป็นที่มาของชื่อเขตการปกครอง ลาริโอฆา ลาริโอฆา หมวดหมู่:รัฐและดินแดนที่ก่อตั้งในปี พ.ศ. 2525.

ใหม่!!: แคว้นอารากอนและแคว้นลาริโอฆา · ดูเพิ่มเติม »

แคว้นปกครองตนเองของประเทศสเปน

ในประเทศสเปน แคว้นปกครองตนเอง หรือ ประชาคมปกครองตนเอง (comunidad autónoma; comunitat autònoma; comunidade autónoma; autonomia erkidegoa) เป็นเขตทางการเมืองและการปกครองในระดับบนสุดที่ได้รับการจัดตั้งโดยอาศัยอำนาจตามรัฐธรรมนูญสเปน พ.ศ. 2521 โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อรับประกันความเป็นอิสระในการปกครองตนเอง (อย่างมีข้อจำกัด) ของชาติทางประวัติศาสตร์และภูมิภาคต่าง ๆ ที่ประกอบกันเป็นสเปนArticle 2.

ใหม่!!: แคว้นอารากอนและแคว้นปกครองตนเองของประเทศสเปน · ดูเพิ่มเติม »

แคว้นนาวาร์

นาวาร์ (Navarre), นาบาร์รา (Navarra) หรือ นาฟาร์โรอา (Nafarroa) เป็นจังหวัดและแคว้นปกครองตนเองทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศสเปน มีอาณาเขตทางทิศเหนือติดต่อกับประเทศฝรั่งเศส ทิศตะวันออกติดต่อกับแคว้นอารากอน ทิศใต้ติดต่อกับแคว้นอารากอนและแคว้นลารีโอคา ส่วนทางทิศตะวันตกติดต่อกับแคว้นบาสก.

ใหม่!!: แคว้นอารากอนและแคว้นนาวาร์ · ดูเพิ่มเติม »

โยลันเดอแห่งอารากอน

ลันเดอแห่งอารากอน (Yolande of Aragon หรือ Jolantha de Aragon หรือ Violant d'Aragó) (11 สิงหาคม ค.ศ. 1384 - 14 พฤศจิกายน ค.ศ. 1442) โยลันเดอแห่งอารากอนเป็นเป็นพระราชธิดาของพระเจ้าจอห์นที่ 1 แห่งอารากอนและโยลันเดอแห่งบาร์ โยลันเดอแห่งอารากอนมีบทบาทสำคัญในประวัติศาสตร์ของจักรวรรดิอองชู, ฝรั่งเศส และ อารากอน ระหว่างครึ่งแรกของคริสต์ศตวรรษที่ 15 โยลันเดออ้างสิทธิในราชบัลลังก์อารากอนหลังจากการสิ้นพระชนม์ของพระเชษฐภคินีโจน เคานเทสแห่งฟัวซ์พระมเหสีในพระปิตุลาพระเจ้ามาร์ตินที่ 1 แห่งอารากอน แต่บัลลังก์ตกไปเป็นของพระปิตุลาซึ่งอาจจะเป็นเพราะกฎการสืบราชบัลลังก์อาจจะลำเอียงไปทางการมอบสิทธิแก่ทายาทที่เป็นชายก็เป็นได้ แต่พระเจ้ามาร์ตินก็มาสิ้นพระชนม์โดยไม่มีทายาทในปี..

ใหม่!!: แคว้นอารากอนและโยลันเดอแห่งอารากอน · ดูเพิ่มเติม »

เบียทริซแห่งโพรว็องซ์

ียทริซแห่งโพรว็องซ์ (Beatrice of Provence; ค.ศ. 1229 – 23 กันยายน ค.ศ. 1267) เป็นเคานเตสผู้ปกครองโพรว็องซ์และฟอร์แกลคิเยร์ตั้งแต..

ใหม่!!: แคว้นอารากอนและเบียทริซแห่งโพรว็องซ์ · ดูเพิ่มเติม »

เส้นขนานที่ 40 องศาเหนือ

้นขนานที่ 40 องศาเหนือ คือวงกลมละติจูดที่ 40 องศา ด้านเหนือของระนาบศูนย์สูตรโลก เส้นนี้ลากผ่านทวีปยุโรป ทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ทวีปเอเชีย มหาสมุทรแปซิฟิก ทวีปอเมริกาเหนือ และมหาสมุทรแอตแลนติก ที่ละติจูดนี้ ดวงอาทิตย์จะมองเห็นได้เป็นเวลา 15 ชั่วโมง 1 นาที ในระหว่างครีษมายัน และ 9 ชั่วโมง 20 นาที ในระหว่างเหมายัน.

ใหม่!!: แคว้นอารากอนและเส้นขนานที่ 40 องศาเหนือ · ดูเพิ่มเติม »

Expo Zaragoza 2008

Expo Zaragoza 2008 งานแสดงนิทรรศการนานาชาติที่เมืองซาราโกซา ราชอาณาจักรสเปน ระหว่างวันที่ 14 มิถุนายน ถึง 14 กันยายน 2551 ณ เมืองซาราโกซา ราชอาณาจักรสเปน มีวัตถุประสงค์เพื่อผลักดันให้ประเทศต่างๆ เห็นความสำคัญเรื่องการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืนและให้ความสำคัญของทรัพยากรน้ำต่อการพัฒนาเศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม คุณภาพชีวิตตลอดจนการป้องกันปัญหาความขัดแย้งของภูมิภาค เรื่องการขาดแคลนทรัพยากรน้ำในอนาคต ทั้งนี้ ซาราโกซาได้รับคัดเลือกให้เป็นเมืองศูนย์กลางในการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำแห่งทศวรรษ (ค.ศ.2005 – 2015) ขององค์การสหประชาชาติด้ว.

ใหม่!!: แคว้นอารากอนและExpo Zaragoza 2008 · ดูเพิ่มเติม »

12 กันยายน

วันที่ 12 กันยายน เป็นวันที่ 255 ของปี (วันที่ 256 ในปีอธิกสุรทิน) ตามปฏิทินสุริยคติแบบเกรกอเรียน เมื่อถึงวันนี้จะยังเหลือวันอีก 110 วันในปีนั้น.

ใหม่!!: แคว้นอารากอนและ12 กันยายน · ดูเพิ่มเติม »

2 มกราคม

วันที่ 2 มกราคม เป็นวันที่ 2 ของปี ตามปฏิทินสุริยคติแบบเกรกอเรียน เมื่อถึงวันนี้จะยังเหลือวันอีก 363 วันในปีนั้น (364 วันในปีอธิกสุรทิน).

ใหม่!!: แคว้นอารากอนและ2 มกราคม · ดูเพิ่มเติม »

เปลี่ยนเส้นทางที่นี่:

Aragonอรากอนอารากอนแคว้นอารากอง

ขาออกขาเข้า
Hey! เราอยู่ใน Facebook ตอนนี้! »