สารบัญ
12 ความสัมพันธ์: กรงเล็บกระดูกขาวก๊วยเจ๋งลิ้มเซียวเอ็งสิบแปดฝ่ามือพิชิตมังกรหวัง ฉงหยางอาวเอี๊ยงฮงอิดเต็งไต้ซืออึ้งเซียะจิวแป๊ะทงเอี้ยก้วยเค็กซาเซียวเหล่งนึ่ง
กรงเล็บกระดูกขาว
กรงเล็บกระดูกขาว หรือ กรงเล็บกระดูกขาวเก้ามหากาฬ หรือ ห้าดรรชนีทะลวงศีรษะ (Jiu Yin Bai Gu Zhao, "Ninefold Yin White-Bone Claws") วิชาหนึ่งในนิยายกำลังภายในของกิมย้ง เรื่องมังกรหยก เป็นยอดวิชากรงเล็บพิษเย็น บันทึกอยู่ในเก้าอิมจินเอ็งเล่มท้าย ผู้ที่ฝึกวิชานี้และเป็นที่เกรงขามในยุทธภพคือ ลมทมิฬคู่พิฆาต หรือ ศพเหล็กและศพทองแดง (ตั้งเฮียงฮวงและบ๊วยเถี่ยวฮวง) ซึ่งแต่เดิมเป็นศิษย์ของเจ้าเกาะดอกท้อ มารบูรพา แต่ได้ทำความผิดเอาไว้และกลัวถูกลงโทษ จึงได้ขโมยเก้าอิมจินเอ็งเล่มท้ายของอาจารย์ แล้วหนีออกมา แต่ไม่สามารถเข้าใจความหมายที่แท้จริงของเคล็ดวิชาได้ จึงฝึกวิชากรงเล็บแบบผิด ๆ ต้องใช้เด็กทารกในการฝึกวิชา และใช้กรงเล็บเจาะทะลวงที่หัวของศัตรูอย่างโหดเหี้ยม ทำให้กลายเป็นมารร้ายของยุทธภพ ต่อมาทั้งสองคนได้หลบตัวจากการไล่ตามล่าของสกุลบ้านเมฆขาว ไปอยู่ที่ชายแดนมองโกล ซึ้งมีถ้ำอยู่ในเขตชายแดนมองโกล โดยที่ ตั้งเฮี้ยงฮวงได้ทำงานคัดลอกเคล็ดวิชา ลงโดยทำการสัก ลงบนหน้าอกของตนเอง และเผาคัมภีร์ท้ายเล่มทิ้งไป หมวดหมู่:วิทยายุทธในนิยายกำลังภายใน.
ดู เก้าอิมจินเอ็งและกรงเล็บกระดูกขาว
ก๊วยเจ๋ง
ก๊วยเจ๋ง (Guo Jing;; เสียชีวิต 31 มกราคม ค.ศ. 1173) เป็นตัวละครเอกในนิยายกำลังภายในของกิมย้ง เรื่องมังกรหยก และมีบทบาทในมังกรหยก ภาค 2 ก๊วยเจ๋งเป็น 1 ในห้ายอดฝีมือยุคที่ 2 มีฉายาว่า"จอมยุทธอุดร" แทนที่ยาจกอุดรอ้งฉิกกงและเป็นพี่น้องรวมสบานกับจิวแป๊ะทงอีกด้วย พ่อของก๊วยเจ๋งถูกสังหารตั้งแต่เขายังเป็นทารกในครรภ์ ทำให้แม่ของเขาพาหนีขึ้นเหนือ ก๊วยเจ๋งได้รับการเลี้ยงดูจากเผ่ามองโกล และมีเพื่อนในวัยเด็กเป็นลูกชายของเจงกีส ข่านที่มีนามว่า เซลุย หลังจากนั้นก๊วยเจ๋งได้รับคำสั่งของอาจารย์ให้เดินทางเข้าสู่ยุทธจักร และได้พบกับอึ้งย้ง ก๊วยเจ๋งเป็นศิษย์ของเจ็ดประหลาดแห่งกังหนำรับคำแนะนำด้านกำลังภายในจากเบ๊เง็ก และได้รับสืบทอดวิชาสิบแปดฝ่ามือพิชิตมังกร จากประมุขพรรคกระยาจก อั้งฉิกกง ด้วยความช่วยเหลือของอึ้งย้ง รวมถึงรับการถ่ายทอดวิชาคัมภีร์เก้าอิมจินเก็ง วิชาสองมือขัดแย้ง และวิชาว่างเวิ้งว้างจากเฒ่าทารกจิวแป๊ะทง ในการประลองกับอ้าวเอี้ยงโคกที่เกาะดอกท้อก๊วยเจ๋งได้เอ่ยเนื้อหาในคัมภีร์เก้าอิมจินเกงออกมาโดยครบถ้วน โดยไม่ทราบมาก่อนเลยว่านั่นเป็นคำในคัมภีร์ ทำให้อึ้งเอี๊ยะซือคิดว่าภรรยาของตนดลบรรดาลช่วยเลือกก๊วยเจ๋งให้เป็นลูกเขย ครั้งนั้นทำให้อึ้งเอี๊ยะซือยอมรับก๊วยเจ๋งในฐานะบุตรเขย ในมังกรหยก ภาค 2 ทั้งสองคนได้แต่งงานกันและมีลูก 3 คน คือ ก๊วยพู๊ ก๊วยพั่วลู่และก๊วยเซียง ก๊วยเจ๋งยังได้รับเอี้ยก้วย ลูกชายของเอี้ยคังน้องร่วมสาบานซึ่งเป็นศัตรูในมังกรหยกภาคแรกมาเลี้ยงดูด้วย ก๊วยเจ๋งมีชื่อเสียงในด้านวิชาฝีมือ แต่ก็มีชื่อในทางลบด้านปัญญาทึบด้วยเช่นกัน เขาเป็นคนซื่อและมีจิตใจดี มีเมตตา หมวดหมู่:ตัวละครในนิยายกำลังภายใน หมวดหมู่:มังกรหยก หมวดหมู่:ตัวละครที่เป็นนักยิงธนู.
ลิ้มเซียวเอ็ง
ลิ้มเฉียวเอ็ง (Lin Chaoying, 林朝英) เป็นบูรพาจารย์ผู้ก่อตั้งสำนักสุสานโบราณ เป็นจอมยุทธหญิงที่มีวรยุทธสูงส่งคนหนึ่ง นับตามศักดิ์เป็นอาจารย์ยายของเซียวเหล่งนึ่งกับลี้มกโช้ว ตอนที่เฮ้งเต็งเอี๊ยงปล่อยวางกับเรื่องภายนอกขังตัวอยู่แต่ในสุสานโบราณไม่ยอมออกมาพบผู้คน จนกระทั่งลิ้มเฉียวเอ็งเป็นคนร้องด่าเฮ้งเต็งเอี้ยงอยู่หน้าสุสานโบราณเจ็ดวันเจ็ดคืน เฮ้งเต็งเอี๊ยงจึงยอมออกมาและยอมท่องยุทธภพอีกครั้งโดยมีลิ้มเฉียวเอ็งติดตามไปด้วย ทั้งสองช่วยเหลือคนดีกำจัดคนชั่ว ต่อต้านศัตรูที่รุกรานประเทศด้วยกันจนเกิดเป็นความรัก แต่เฮ้งเต็งเอี้ยงยึดมั่นในอุดมการณ์ หากบ้านเมืองยังไม่สงบสุขจะไม่คิดเรื่องส่วนตัวเด็ดขาด ทำให้เฮ้งเต็งเอี้ยงไม่ยอมแต่งงานกับลิ้มเฉียวเอ็ง ทำให้ลิ้มเฉียวเอ็งเกิดความคับแค้นในใจจึงท้าประลองกับเฮ้งเต็งเอี้ยงอยู่บ่อยครั้ง แต่ก็ไม่สามารถเอาชนะเฮ้งเต็งเอี้ยงได้ นางจึงเปลี่ยนวิธีการประลองเป็นการเขียนอักษรบนแผ่นศิลา และมีข้อพนันที่ว่าหากนางชนะเฮ้งเต็งเอี๊ยงต้องแต่งงานกับนางหรือไม่ก็บวชเป็นนักพรตอยู่บนเขาจงหนำ การประลองครั้งนี้เฮ้งเต็งเอี้ยงเป็นผู้แพ้ แม้ว่าจะรู้ว่านางเอาชนะด้วยเล่ห์แต่ก็ไม่ถือโกรธ และเลือกที่จะบวขชเป็นนักพรตก่อตั้งสำนักช่วนจินในกาลต่อมา และยกสุสานโบราณให้ลิ้มเฉียวเอ็ง ลิ้มเฉียวเอ็งเก็บตัวอยู่ในสุสานโบราณคิดค้นยอดวรยุทธที่สามารถสยบวรยุทธของสำนักช่วนจิน วรยุทธที่นางคิดค้นได้ล้วนพิศดารร้ายกาจ เพียงแต่นางไม่ค่อยได้ออกสู่ยุทธภพวรยุทธของสุสานโบราณจึงไม่เป็นที่รู้จักนัก แต่ก็ถือว่าวรยุทธของนางเหนือชั้นเทียบเท่าได้กับห้ายอดฝีมือ ก่อนนางจะตายได้ถ่ายทอดวรยุทธทั้งหมดให้สาวใช้คนหนึ่ง ซึ่งต่อมาสาวใช้คนนี้ก็รับศิษย์ไว้สองคนคือ เซียวเหล่งนึ้งกับลี้มกโชว้ แม้ว่าลิ้มเฉียวเอ็งจะแค้นเคืองเฮ้งเต็งเอี้ยงขนาดไหน แต่ในจิตใจส่วนลึกก็รักมากจนไม่อาจพรรณนา และในวาระสุดท้ายของชีวิตเฮ้งเต็งเอี้ยงก็ได้มาคารวะศพของนางในสุสานโบราณ และได้พบกับวรยุทธที่นางคิดค้นไว้ล้วนสยบวรยุทธของสำนักช่วนจินทั้งสิ้น เฮ้งเต็งเอี้ยงจึงใช้เคล็ดวิชาจากคัมภีร์เก้าอิมจินเก็งส่วนหนึ่ง มาคิดเป็นวิชาที่สามารถสยบวรยุทธที่ลิ้มเฉียวเอ็งคิดค้นขึ้นได้ หมวดหมู่:มังกรหยก หมวดหมู่:ตัวละครในนิยายกำลังภายใน vi:Nhân vật trong Thần điêu hiệp lữ#Lâm Triều Anh.
ดู เก้าอิมจินเอ็งและลิ้มเซียวเอ็ง
สิบแปดฝ่ามือพิชิตมังกร
แปดฝ่ามือพิชิตมังกร หรือเรียกอีกแบบว่า ฝ่ามือสยบมังกรสิบแปดท่า เป็นวิทยายุทธในนิยายกำลังภายในหลายเรื่องของกิมย้ง เดิม สิบแปดฝ่ามือพิชิตมังกร มิได้เป็นวิชาประจำของพรรคกระยาจกในยุคแรกๆ ทว่า เฉียวฟงในวัยแปดขวบ ได้มีวาสนาพบพานกับเสียนขู่ไต้ซือ จากวัดเส้าหลิน และรับเฉียวฟงเป็นศิษย์ฝึกวรยุทธ์อย่างลับๆ ได้ร่ำเรียนวิชาพื้นฐานของวัดเส้าหลิน ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือวิชากรงเล็บมังกร มีกระบวนท่าเพียงแปดท่าเท่านั้น เป็นหนึ่งในวิชาพื้นฐาน 72 ยอดวิชาของวัดเส้าหลิน ด้วยความเป็นผู้มีทักษะยุทธ จึงฝึกฝนจนแตกฉานและประยุกต์เป็น สิบแปดฝ่ามือพิชิตมังกร ต่อมาอวงเกี่ยมทง ได้รับเฉียวฟง เข้าพรรคกระยาจก เหตุเพราะต้องการทดแทนความผิดที่สังหารครอบครัวของเฉียวฟง เมื่อเฉียวฟงอายุยี่สิบสามปี ได้รับการถ่ายทอดเพลงไม้เท้าตีสุนัขจากอวงเกี่ยมทง และขึ้นเป็นประมุขพรรคกระยาจก จวบจนเฉียวฟงอายุสามสิบเอ็ดถูกเปิดโปงเรื่องชาติกำเนิด ทำให้ต้องสละตำแหน่งประมุขพรรคกระยาจก จึงไม่ได้มีการถ่ายทอดฝ่ามือที่สมบูรณ์ชุดนี้สู่ศิษย์ในพรรค อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่เฉียวฟงเป็นประมุขพรรคกระยาจกนั้น ศิษย์ในสำนักระดับ 6-8 กระสอบ ที่ทำความดีความชอบ ประมุขจะถ่ายทอดให้คนละท่า-สองท่า ดังนั้น กระบวนท่าที่สืบทอดจึงหลงเหลือเพียงครึ่งหนึ่งเท่านั้น ต่อมาอั้งฉิกกงในเรื่องมังกรหยกได้คิดค้นเพิ่มเติมอีก 9 ฝ่ามือ เพื่อให้ครบตามชื่อ รวมเป็นสิบแปดท่าตามเดิม แต่ไม่สามารถคงอานุภาพเทียบเท่ากับสิบแปดฝ่ามือพิชิตมังกรของต้นฉบับเดิมได้ วิชาฝ่ามือนี้มีบทบาทอย่างกว้างขวางในนิยายของกิมย้ง ผู้ใช้วิชานี้มักจะเป็นยอดแห่งจอมยุทธในยุคนั้นๆ แม้ว่าในยุคหลังๆจะเสื่อมถอยลงแต่ก็ยังมีการพูดถึงอยู่ ฝ่ามือพิชิตมังกรสิบแปดท่าเป็นวิชาประจำพรรคกระยาจก ซึ่งเป็นพรรคที่ยิ่งใหญ่มีสมาชิกนับแสนกระจายอยู่ทั้วแผ่นดิน วิชาฝีมือนี่เป็นไปในทางกล้าแกร่งตรงไปตรงมา ผู้ที่เหมาะกับการฝึกวิชานี้จะต้องมีร่างกายกำยำแข็งแรง จึงไม่เหมาะกับสตรี วิชานี้มีผู้ใช้อยู่หลายคน บางคนแม้ไม่ใช่ศิษย์พรรคกระยาจกก็มีโอกาสได้ฝึก แต่ที่โดดเด่นสะท้านยุทธภพ มีดังนี้ เฉียวฟงเหนือ หรือ เซียวฟง พูดถึงวิชาฝีมือนี้ต้องกล่าวย้อนไปถึงยอดคนในยุคแรกๆ ตั้งแต่ยุคของแปดเทพอสูรมังกรฟ้า ช่วงราชวงศ์ซ้องเหนือ (คริสต์ศตวรรษที่ 11) ก็มียอดคนผู้หนึ่งใช้วิชานี้ได้อย่างช่ำชองยิ่ง นั่นคือ เฉียวฟง จอมยุทธผู้เรืองนามในยุคนั้น ซึ่งเป็นที่ยอมรับกันว่าในยุคแปดเทพฯนั้นเป็นยุคที่มียอดวิชาที่สุดร้ายกาจแสนพิสดารอยู่มากมาย จอมยุทธแต่ละคนล้วนมีฝีมือสูงเยี่ยมเป็นที่สุด แต่กระนั้น เฉียวฟงยังคงใช้ วิชา สิบแปดฝ่ามือพิชิตมังกร วิชาเดียวนี้ โลดแล่นอยู่ในยุทธจักรในยุคแปดเทพฯ ได้อย่างองอาจไร้ผู้ต่อต้าน การเจอกับเฒ่าสารพัดพิษอย่างติงชุนชิวที่ขณะนั้นมีอาจื่อ น้องสาวอาจูคนรักของเฉียวฟงเป็นตัวประกัน เขาใช้เพียงแค่พลังฝ่ามือจากท่ามังกรผยองได้สำนึกเข้าโจมตี กิมย้งบอกว่า การโจมตีของเฉียวฟงนั้นใช้เพียงแค่ 3 ฝ่ามือ มีระบุใน 8 เทพอสูรมังกรฟ้า เล่ม 5 หน้า 51 ฝ่ามือแรกสร้างพลังลมจากระยะสิบห้าสิบหกวา (ซึ่งจอมยุทธชั้นเยี่ยมโจมตีด้วยพลังฝ่ามือจากลมได้ไม่เกิน 5 วา แต่เฉียวฟงสามารถโจมตีได้ไกลกว่า 3-4 เท่า) แต่ที่เด็ดกว่านั้นคือ ท่าร่าง เพราะขณะที่ลมฝ่ามือแรกยังไปไม่ถึง เฉียวฟงก็โดดเข้าไปฟาดฝ่ามือที่สองอีกในระยะเหลือแค่หกวา กลายเป็นว่าลมฝ่ามือแรกถูกหนุนจากฝ่ามือที่สอง แต่ไม่เท่านั้น ยังพุ่งต่อไปฟาดฝ่ามือที่สามในระยะประชิดตัว ซึ่งรวมเข้ากับฝ่ามือแรกและฝ่ามือที่สอง เป็นการใช้ 3 ฝ่ามือในระยะทางที่แตกต่าง ในเวลาที่แตกต่าง แต่เป็นการบรรลุถึงพร้อมกันอย่างน่าอัศจรรย์ ผลก็คือ พลังฝ่ามือมังกรผยองได้สำนึกยกกำลังสาม ที่ทำให้เต็งชุนชิวหัวซุกหัวซุนจนต้องปล่อยมือจากอาจื่อทันที!! “พริบตานั้น เต็งชุนชิวรู้สึกลมหายใจอึดอัดขัดข้อง พลังฝ่ามือของฝ่ายตรงข้ามคล้ายระลอกคลื่นและคล้ายเป็นกำแพงชั้นหนึ่งโถมทับใส่มันไหนเลยมีแผนรับมือ แต่หากต้านรับด้วยมือเดียวคงถูกกระแทกแขนหัก หรือไม่ก็กระดูกทั่วร่างหักหมดสิ้น...” หรือแม้แต่หลวงจีนชราที่กวาดลานวัดเส้าหลิน ผู้สำเร็จเคล็ดวิชาคัมภีร์เปลี่ยนเส้นเอ็น ยังยอมรับว่าสิบแปดฝ่ามือพิชิตมังกร สมเป็นวิชาฝีมืออันดับหนึ่งแห่งแผ่นดิน มีระบุใน 8 เทพอสูรมังกรฟ้า เล่ม 5 หน้า 179 หลวงจีนชราถูกมือขวาของเฉียวฟงกระแทกตามติด เมื่อฟาดถูกทรวงอกของหลวงจีนชรานั้น มีเสียงกรอบแกรบ กระดูกซี่โครงของหลวงจีนชราถูกกระแทกหักไปหลายซี่ หลวงจีนชรากล่าวกับเฉียวฟงว่า "ฝีมืออันยอดเยี่ยม สิบแปดฝ่ามือพิชิตมังกร สมเป็นวิชาฝีมืออันดับหนึ่งแห่งแผ่นดินจริงๆ" จึงกล่าวได้ว่า เฉียวฟงเป็นผู้ที่ใช้ท่าสิบแปดฝ่ามือพิชิตมังกร ได้รุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ที่เคยมีมา ยาจกอุดรอั้งฉิกกง มาถึงยุคของมังกรหยก วิชานี่ยังคงอนุภาพร้ายกาจสั่นครอนยุทธภพ อั้งฉิกกงได้รับการถ่ายทอดยอดวิชานี้จากประมุขพรรคกระยาจกคนก่อนครึ่งหนึ่ง เนื่องจากฝ่ามือที่ตกทอดมาไม่ครบถ้วน ครึ่งหนึ่งเกิดจากการบัญญัติคิดค้นขึ้นเอง มาตรว่ากระบวนท่ามีจำกัด แต่ทุกกระบวนท่าล้วนทรงอานุภาพ ครั้งกระโน้นตอนวิจารณ์กระบี่กับเฮ้งเตงเอี้ยง อึ้งเอี๊ยะซือ อาวเอี้ยงฮง และอิดเต็งไต้ซือ บนยอดเขาฮั้วซัว อั้งฉิกกงยังฝึกปรือเพลงฝ่ามือชุดนี้ไม่สำเร็จสมบูรณ์ แต่เฮ้งเต็งเอี้ยงและพวกก็ให้คำนิยมชมเชยต่อเพลงฝ่ามือชุดนี้ ภายหลังอั้งฉิกกงมักทอดถอนใจ หากแม้นตัวเองทุ่มเทความเพียรพยายามฝึกปรือตั้งแต่หลายปีก่อน อย่างนั้นตำแหน่งยอดฝีมือที่หนึ่งแห่งแผ่นดิน อาจไม่ตกเป็นของประมุขนิกายช้วนจินก่าเฮ้งเต็งเอี้ยง หากแต่เป็นขชองท่านแล้ว มีระบุใน มังกรหยก เล่ม 2 หน้า 128-129 ก๊วยเจ๋ง ได้รับการสืบทอดวิชานี้มาจากอั้งฉิกกง และเป็นอีกผู้หนึ่งที่มีความสำเร็จในยอดวิชานี้อย่างที่สุด สามารถใช่ร่วมกับวิชาอื่นๆที่ตัวเองมีได้อย่างกลมกลืน สำหรับในมังกรหยกภาคสองนั้น วิชานี้ของก๊วยเจ๋งได้สำแดงเดจครั้งแรกตอนที่ประทะกับอาวเอี้ยงฮง โดยก๊วยเจ๋งใช้ออกด้วยท่ามังกรผยองได้สำนึก กิมย้งนั้นได้อธิบายความร้ายกาจของกระบวนท่านี้ว่า ก๊วยเจ๋งทบทวนฝึกกระบวนท่านี้โดยไม่ว่างเว้น ตอนแรกเริ่มฝึกปรือก็ร้ายกาจยิ่ง บวกกับการมานะฝึกปรือตลอดมา นับว่าก้าวถึงขั้นสุดยอด ตอนแรกที่ผลักมือออกดูไปคล้ายราบเรียบธรรมดา แต่พอเผชิญการต่อต้านสามารถเพิ่มพลังตามหลังอีกสิบสามชั้นในชั่วพริบตา แต่ละชั้นทวีความกล้าแข็ง เป็นอนุภาพการทำลายล้างอย่างรุนแรง นี่เป็นเคล็ดความพิสดารที่ก๊วยเจ๋งได้คิดจากการศึกษาคัมภีร์เก้าอิม เพียงนับกระบวนท่านี้ แม้แต่อั้งฉิกกงเมื่อครั้งกระโน้น ก็ไม่มีความสำเร็จลึกล้ำถึงขั้นนี้ มีระบุใน เอี้ยก่วยเจ้าอินทรี เล่ม 1 หน้า 111 จากนั้นในตอนขึ้นเขาไปสำนักช้วนจินก่า ก๊วยเจ๋งก็ได้สำแดงเดชกระบวนท่านี้อีกครั้ง เพื่อฝ่าค่ายกลใหญ่ฟ้าดาวเหนือ โดยสามารถใช้วิชา ฝ่ามือพิชิตมังกรสิบแปดท่ารวมกับวิชาสองมือพันตูของจิวแป๊ะธงได้อย่างสอดคล้อง ดังความตอนนี้ ก๊วยเจ๋งมือซ้ายใช้ออกด้วยท่ามังกรซ่อนกบดาน มือขวาใช้ด้วยท่ามังกรผยองได้สำนึก สำแดงวิชาสองมือพันตูกันเอง แยกย้ายจู่โจมด้านซ้ายขวาโดยพร้อมเพรียง ยังไม่ทันใช้กระบวนท่าถึงที่สุด พลันแปรเปลี่ยนแต่กลางคัน ท่ามังกรซ่อนกบดานเปลี่ยนเป็นท่ามังกรผยองได้สำนึก ท่ามังกรผยองได้สำนึกกลายเป็นท่ามังกรซ่อนกบดาน ก๊วยเจ๋งใช้วิชาสองมือพันตูกันเอง ฝ่ามือทั้งสองใช้กระบวนท่าที่แตกต่างกัน นับเป็นความยากลำบากอยู่แล้ว มิหนำซ้ำยังสามารถเปลี่ยนแปลงกระบวนท่าได้กลางคันอีกด้วยมีระบุใน เอี้ยก่วยเจ้าอินทรี เล่ม 1 หน้า 186 และเมื่อตอนบุกค่ายมองโกล ก๊วยเจ๋งต้องประทะกับราชครูกิมลุ้นและพวก ซึ่งเป็นคู่ต่อสู้ที่ตึงมือยิ่ง กิมย้งยังได้อธิบายถึงความสำเร็จของวิชานี้ของก๊วยเจ๋งที่นำยอดวิชาที่ร่ำเรียนมาผสมผสานกลมกลืนกันใช้ออกได้อย่างยอดเยี่ยม เกือบยี่สิบปีมานี้ ก๊วยเจ๋งฝึกปรือเคล็ดวิชาในคัมภีร์เก้าอิม พลังของสิบแปดฝ่ามือพิชิตมังกรบัดเดี๋ยวอ่อนบัดเดี๋ยวแข็ง บัดเดี๋ยวยืดบัดเดี๋ยวหด ในความกล้าแกร่งสุดยอดกลับแฝงประสิทธิภาพของความอ่อนหยุ่น บวกกับท่าฝ่ามือของเขา เคลือบแฝงค่ายกลฟ้าดาวเหนือของสำนักชวนจินก่า ขณะที่โรมรันสามารถพุ่งตัวย้อนไปมา ผู้คนหนึ่งคล้ายแปลงร่างเป็นเจ็ดคน มีระบุใน เอี้ยก่วยเจ้าอินทรี เล่ม 3 หน้า 61 นอกจากยอดคนเหล่านี้ก็ยังมีอีกหลายคนที่ใช้วิชานี้ได้ ก๊วยเจ๋งก็ได้ถ่ายทอดวิชานี้ให้แก่ลูกและศิษย์ บู๊ตุงยู้ก็เคยจะใช้ท่านี้เพื่อต่อสู้กับฮั่วตู แต่ด้วยพลังฝีมือที่อ่อนด้อยของบู๊ตุงยู้ไหนเลยจะแสดงอนุภาพของยอดวิชานี้ได้ แต่เพียงแค่ตั้งท่า ก็ข่มขวัญราชบุตรฮั่วตูได้ สุดท้ายก็ไม่มีผู้ใดใช้ยอดวิชานี้ได้อย่างสมบูรณ์อีก หลังจากนั้นวิชานี้ก็ค่อยๆเสื่อมถอยลงไปเรื่อยๆ รายชื่อฝ่ามือพิชิตมังกรสิบแปดท่า 1.
ดู เก้าอิมจินเอ็งและสิบแปดฝ่ามือพิชิตมังกร
หวัง ฉงหยาง
้งเตงเอี้ยง เฮ้งเตงเอี้ยง เกิดในช่วง..
ดู เก้าอิมจินเอ็งและหวัง ฉงหยาง
อาวเอี๊ยงฮง
พิษประจิมอาวเอี๊ยงฮง (Ouyang Feng - 欧阳锋) เป็นตัวละครในนิยายกำลังภายในของกิมย้ง เรื่องมังกรหยก และปรากฏตัวในมังกรหยก ภาค 2 เป็นหนึ่งในห้ายอดฝีมือที่ประลองยุทธบนเขาหัวซาน เชี่ยวชาญการใช้พิษ และสัตว์มีพิษต่างๆ แตกฉานลมปราณคางคก และเพลงไม้เท้าอสรพิษ ลมปราณคางคกของอาวเอี๊ยงฮงแพ้ทางกับวรยุทธของเฮ้งเตงเอี้ยงนั่นคือวิชาพลังธาตุธรรมชาติ อาวเอี๊ยงฮงมีบุตรชายหนึ่งคนชื่ออาวเอี๊ยงโคก หรือ อ้าวเอียงกงจื้อ ซึ่งเกิดกับพี่สะใภ้ ภายหลังอาวเอี๊ยงโคกถูกเอี้ยคังฆ่าตาย อาวเอี๊ยงฮงเคยบังคับให้ก๊วยเจ๋งเขียนเคล็ดวิชาในคัมภีร์เก้าอิมจินเอ็งให้ตน แต่ก๊วยเจ๋งเขียนคัมภีร์ย้อนกลับให้ โดยอั้งฉิกกงบอกให้ก๊วยเจ๋งคัดลอกเคล็ดคัมภีร์เก้าอิมแบบทวนทิศให้อาวเอี๊ยงฮงฝึกตามจนอาวเอี๊ยงฮงถูกธาตุไฟแทรกกลายเป็นคนเสียสติ แต่ก็สำเร็จวิชาเก้าอิมแบบทวนทิศกลาย เป็นยอดฝีมืออันดับหนึ่งในการประลองยุทธเขาหัวซานครั้งที่สอง ในภายหลังอาวเอี๊ยงฮงรับเอี้ยก้วยเป็นบุตรบุญธรรม ถึงจะชั่วร้ายอย่างไร แต่อ้าวเอียงฮงนับได้ว่ามีคุณธรรมอย่างหนึ่ง คือ เป็นคนไม่ผิดคำพูด เมื่อครั้งที่อยู่ในเหตุการณ์ที่ศาลเจ้าร้าง รับปากอึ้งย้งว่าจะปล่อยกัวเต็งอัก ก็กระทำตามวาจาสัตย์ อ้าวเอียงฮงในภาคจอมยุทธอินทรีถือเป็นอาจารย์ของเอี้ยก้วยสอนวิชาลมปราณคางคก และในที่สุดได้สิ้นใจไปพร้อมกับศัตรูคนสำคัญของตนคือ อั้งฉิกกง โดยก่อนตายได้ลืมความแค้นที่มีต่อกันจนหมดสิ้น พร้อมใจกันถ่ายทอดวิชาครั้งสุดท้ายให้กับเอี้ยก้วย หมวดหมู่:ตัวละครในนิยายกำลังภายใน หมวดหมู่:ห้ายอดฝีมือ.
ดู เก้าอิมจินเอ็งและอาวเอี๊ยงฮง
อิดเต็งไต้ซือ
อิดเต็งไต้ซือ (Duan Zhixing - 段智兴) เป็นตัวละครในนิยายกำลังภายในของกิมย้ง เรื่องมังกรหยก และปรากฏตัวในมังกรหยก ภาค 2 เดิมเป็นฮ่องเต้แคว้นต้าหลี่ชื่อ ต้วนตี่เฮง หนึ่งในห้ายอดฝีมือที่ประลองยุทธถกกระบี่เขาหัวซาน ฉายาราชันย์ทักษิณ แตกฉานดรรชนีเอกสุริยัน (อิดเอี๋ยนจี่) และได้รับการถ่ายทอดวิชาพลังธาตุธรรมชาติจากเฮ้งเตงเอี้ยง ซึ่งเป็นวิชาที่พิษประจิมเกรงมากเพราะสามารถสยบลมปราณคางคกได้ ซึ่งในกาลนั้นเฮ้งเตงเอี้ยงได้พาศิษย์น้อง จิวแปะทงมาด้วย ทำให้เกิดเรื่องราวโกลาหล ภายหลังออกบวชไม่ยุ่งเรื่องทางโลก ภายในใจลึกๆของอิดเต็งไต้ซือนั้นรักสนมเล่ามาก เพียงเพราะผู้ที่ฝึกวิชาดรรชนีเอกสุริยัน จำเป็นจะต้องดำรงตนไม่ยุ่งเกี่ยวกับเรื่องกามารมณ์ ซึ่งสาเหตุนี้ก็เป็นสาเหตุเดียวกัน ที่ทำให้ความรักของเฮ้งเตงเอี้ยงกับลิ้มเชี่ยวเองเป็นเพียงเรื่องของในใจเท่านั้น ต่อมาอึ้งย้งได้ขอความช่วยเหลือให้ราชันย์ทักษิณรักษาอาการบาดเจ็บที่ได้รับมาจากฮิ้วโชยยิ่ม อันทำให้สูญกำลังไปมาก แต่เมื่อได้ฝึกและเดินพลังตามหลักวิชาเก้าอิมที่ได้รับการแนะนำตามที่ก๊วยเจ๋งแนะนำ จึงคืนพละกำลังได้อย่างรวดเร็วอึ้งย้งเปลี่ยนฉายาให้ใหม่ว่า สมณะทักษิน หมวดหมู่:ตัวละครในนิยายกำลังภายใน หมวดหมู่:ห้ายอดฝีมือ.
ดู เก้าอิมจินเอ็งและอิดเต็งไต้ซือ
อึ้งเซียะ
อึ้งเซียะ (Huang Shang) เป็นตัวละครที่ถูกกล่าวอ้างถึงโดยตัวละครในนิยายเรื่อง มังกรหยก เท่านั้น ดังนั้นความเก่งกาจของอึ้งเซียะจึงมิอาจประเมินได้ การสร้างตัวละครอุปโลกน์อย่าง อึ้งเซียะ นั้น คาดว่าน่าจะได้อิทธิพลมาจากเทพบุตรงูทองแหเซาะหงี เนื่องจากทั้งสองคนนั้นมีบุคลิก และเหตุการณ์เกือบใกล้เคียงกัน กล่าวคือ ทั้งอึ้งเซียะและแหเซาะหงีนั้น ต่างก็ฝึกวิชาเพื่อนำไปใช้แก้แค้นแทนครอบครัวด้วยกันทั้งคู่, แนวทางวิชาของทั้งสองคนก็เป็นแบบผสมผสานวิชาของค่ายสำนักต่างๆ เข้าไว้ด้วยกัน, รวมกับบุคลิกที่แปลกประหลาดของทั้งสองคนก็ทำให้น่าเชื่อว่า อึ้งเซียะได้รับอิทธิพลมาจากแหเซาะหงีตัวละครอุปโลกน์จากเรื่อง เพ็กฮ้วยเกี้ยม มาสูงมากทีเดียว เนื่องจาก เพ็กฮ้วยเกี้ยม นั้นได้เขียนขึ้นมาก่อนเรื่อง มังกรหยก ภาค 1.
จิวแป๊ะทง
วแป๊ะทง เป็นตัวละครในนิยายกำลังภายในของกิมย้ง เรื่องมังกรหยก และปรากฏตัวในมังกรหยก ภาค 2.
เอี้ยก้วย
อี้ยก้วย (อังกฤษ:Yang Guo,จีนตัวเต็ม: 楊過; จีนตัวย่อ: 杨过; พินอิน: Yáng Guò) เป็นตัวละครในนิยายกำลังภายใน บทประพันธ์โดย กิมย้ง ที่นำเอาประวัติศาสตร์จีนช่วงหนึ่งซึ่งตรงกับราชวงศ์ซ้องใต้ (หนานซ้อง-น่ำซ้อง) หรือประมาณ..
เค็กซา
็กซา หรือ โกวซ่า (แปลว่า นังโง่) เป็นตัวละครในนิยายกำลังภายในเรื่องมังกรหยก.
เซียวเหล่งนึ่ง
ซียวเหล่งนึ่ง เซียวเหล่งนึ่ง บ้างสะกดเป็น เซียวเล่งนึ่ง หรือ เซียวเล้งนึ่ง เป็นหนึ่งในสตรีงามที่สุดในนิยายกำลังภายใน ไม่ทราบบิดามารดา เซียวเหล่งนึ่งถูกทิ้งไว้นอกนอกตำหนักเต้งเอี้ยงของสำนักช้วนจินก่าตั้งแต่ยังเป็นทารก แต่ตำหนักเต้งเอี้ยงเป็นสถาบันพรต ย่อมไม่สะดวกกับการเลี้ยงดูเด็กทารก บังเอิญสาวใช้ของลิ้มเซียวเอ็งผ่านมาเห็น ด้วยความเวทนาจึงได้รับอุปการะไว้ นำกลับไปเลี้ยงดูที่สุสานโบราณและรับเป็นศิษย์ถ่ายทอดวิชาให้ สตรีแซ่เล้งมีนามว่ากระไร บุคคลภายนอกย่อมไม่อาจทราบได้ จึงเรียกขานนางเป็น เซียวเหล่งนึ่ง ซึ่งแปลว่า ธิดามังกรน้อย เซียวเหล่งนึ่งปรากฏตัวครั้งแรกให้ผู้อ่านได้ยลโฉม ด้วยฉากในสุสานโบราณ ตอนที่ยายซุนสาวใช้ของนาง นำเอี้ยก้วยมารักษาอาการพิษจากผึ้งหยก โดยกิมย้งท่านได้บรรยายไว้ว่า นางอยู่ในชุดสีขาวราวแพรเบาบางห่อหุ้มคลุมกาย คล้ายกับเรือนร่างอยู่ท่ามกลางหมอกควัน นอกจากผมเผ้าที่ดำขลับ ตลอดทั้งร่างขาวผ่องราวหิมะ วงหน้างามพิลาสล้ำเหนือหญิงใดในโลกหล้า เมื่อเอี้ยก้วยได้เห็นถึงกับรู้สึกว่าสตรีนางนี้สดใสสะคราญ จนไม่อาจจับจ้องมองตรง.
ดู เก้าอิมจินเอ็งและเซียวเหล่งนึ่ง
หรือที่รู้จักกันในชื่อ เก้าอิม