สารบัญ
1 ความสัมพันธ์: สถาปัตยกรรมฟื้นฟูโรมาเนสก์
สถาปัตยกรรมฟื้นฟูโรมาเนสก์
ซิลิกาซานอัมโบรจิโอในมิลานในอิตาลี อัลบานี, นิวยอร์ก สถาปัตยกรรมฟื้นฟูโรมาเนสก์ (Romanesque Revival architecture หรือ Neo-Romanesque) เป็นลักษณะสถาปัตยกรรมที่รุ่งเรืองในคริสต์ศตวรรษที่ 19 ที่มีอิทธพลมาจากลักษณะสถาปัตยกรรมสถาปัตยกรรมโรมาเนสก์ของคริสต์ศตวรรษที่ 11 และ 12 ลักษณะสำคัญของสถาปัตยกรรมฟื้นฟูโรมาเนสก์ก็จะมีซุ้มโค้งครึ่งวงกลม, โค้งครึ่งวงกลมเหนือหน้าต่าง และ แนวหิน, อิฐ หรือ ชิงเกิลที่เรียงเป็นแนวบนผนัง แต่สิ่งที่ต่างจากต้นฉบับคือส่วนที่เป็นโค้งจะเป็นโค้งที่ง่ายๆ ไม่ซับซ้อนเช่นที่ใช้ในสถาปัตยกรรมโรมาเนสก์ดั้งเดิม ลักษณะสถาปัตยกรรมนี้เป็นที่นิยมกันในการก่อสร้างตึกเรียนของมหาวิทยาลัยในปลายคริสต์ศตวรรษที่ 19 จนถึงต้นคริสต์ศตวรรษที่ 20 โดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกา เช่นที่มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ลอสแอนเจลิส และที่ มหาวิทยาลัยเซาเทิร์นแคลิฟอร์เนีย นอกจากนั้นก็ยังเป็นที่นิยมกันในการก่อสร้างคริสต์ศาสนสถาน และ ศาสนสถานของศาสนายูดายอีกด้วย ผู้ที่มีบทบาทสำคัญที่มีอิทธิพลมากที่สุดคนหนึ่งในบรรดาสถาปนิกชาวอเมริกันในรูปแบบที่เรียกว่า “โรมาเนสก์อิสระ” คือเฮนรี ฮ็อบสัน ริชาร์ดสัน สถาปัตยกรรมที่วิวัฒนาการมาจากตัวอย่างที่วางไว้โดยริชาร์ดสันจึงเรียกกันว่า “สถาปัตยกรรมโรมาเนสก์ริชาร์ดสัน”.(Richardsonian Romanesque) สถาปัตยกรรมฟื้นฟูโรมาเนสก์ในระยะแรกตระกูลหนึ่งที่เรียกว่า “สถาปัตยกรรมรุนด์โบเก็นชตีล”.(Richardsonian Romanesque) หรือ “สถาปัตยกรรมโค้งกลม” นิยมกันในดินแดนเยอรมนี และ ในดินแดนที่ชาวเยอรมันไปตั้งถิ่นฐานในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1830 ในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 19 การเลือกลักษณะสถาปัตยกรรมในการก่อสร้างคริสต์ศาสนสถานอังกลิคันก็ขึ้นอยู่กับผู้เกี่ยวข้องกับสังฆมณฑล ถ้าเป็นคริสต์ศาสนสถานของไฮห์อังกลิคันก็มักจะมีอิทธิพลจากขบวนการอ๊อกซฟอร์ดที่จะนิยมสร้างแบบสถาปัตยกรรมฟื้นฟูกอธิค แต่ถ้าเป็นคริสต์ศาสนสถานของโลว์อังกลิคันและบรอดเชิร์ชก็มักจะเป็นแบบฟื้นฟูโรมาเนสก.
ดู อาสนวิหารมาร์แซย์และสถาปัตยกรรมฟื้นฟูโรมาเนสก์
หรือที่รู้จักกันในชื่อ Cathédrale Sainte-Marie-Majeure de MarseilleMarseille Cathedralมหาวิหารมาร์แซย์มหาวิหารแซงเตอมารีมาเฌอร์แห่งมาร์เซย์