โลโก้
ยูเนี่ยนพีเดีย
การสื่อสาร
ดาวน์โหลดได้จาก Google Play
ใหม่! ดาวน์โหลด ยูเนี่ยนพีเดีย บน Android ™ของคุณ!
ติดตั้ง
เร็วกว่าเบราว์เซอร์!
 

สงครามสืบราชบัลลังก์สเปน

ดัชนี สงครามสืบราชบัลลังก์สเปน

งครามสืบราชบัลลังก์สเปน (ภาษาอังกฤษ: War of the Spanish Succession) (ค.ศ. 1702–ค.ศ. 1714) ซึ่งรวมทั้งสงครามพระนางแอนน์ (Queen Anne's War) ใน ทวีปอเมริกาเหนือเป็นสงครามครั้งสำคัญครั้งหนึ่งของทวีปยุโรปเกี่ยวกับปัญหาการสืบสันติวงศ์ของบัลลังก์สเปน ซึ่งเป็นผลให้มีการเปลี่ยนความสมดุลทางอำนาจในยุโรป ผู้เป็นผู้นำทางทหารที่สำคัญๆ ในสงครามครั้งนี้ก็ได้แก่โคลด ลุยส์ เฮคเตอร์ แห่งวิลลาร์ส, เจมส์ ฟิทซเจมส์ ดยุกแห่งเบอร์วิก, จอห์น เชอร์ชิล ดยุกแห่งมาร์ลบะระ และเจ้าชายยูจีนแห่งซาวอย ในปี..

48 ความสัมพันธ์: บรันเดินบวร์ค-ปรัสเซียบริษัทเซาธ์ซีบาดาโฆซชเตฟันสโดมพระมหากษัตริย์อารากอนพระมหากษัตริย์ในปรัสเซียพระราชบัญญัติความมั่นคง ค.ศ. 1704พระเจ้าการ์โลสที่ 3 แห่งสเปนพระเจ้าวิตโตรีโอ อาเมเดโอที่ 2 แห่งซาร์ดิเนียพระเจ้าเฟรเดอริกที่ 1 แห่งสวีเดนพระเจ้าเปดรูที่ 2 แห่งโปรตุเกสกองทัพสเปนกองทัพปรัสเซียการล้อมบางกอกการสงครามสมัยใหม่ตอนต้นยิบรอลตาร์รัฐร่วมประมุขราชบัลลังก์กัสติยาราชวงศ์ฮาพส์บวร์คราชอาณาจักรปรัสเซียราชอาณาจักรเลอองรายชื่อสนธิสัญญารายพระนามเจ้าผู้ครองราชรัฐลักเซมเบิร์กวังเบลนิมสมเด็จพระราชินีนาถแอนน์แห่งบริเตนใหญ่สาธารณรัฐดัตช์สงครามสืบราชบัลลังก์สงครามเก้าปีสนธิสัญญายูเทรกต์อุปราชจอห์น เชอร์ชิล ดยุกแห่งมาร์ลบะระจักรวรรดิบริติชจักรวรรดิสเปนตูร์แนซาราห์ เชอร์ชิล ดัชเชสแห่งมาร์ลบะระประวัติศาสตร์ฝรั่งเศสประวัติศาสตร์สหรัฐประวัติศาสตร์สเปนประวัติศาสตร์อังกฤษประเทศสเปนแฟร์ดีนันด์ อัลเบร็คท์ที่ 2 ดยุกแห่งเบราน์ชไวค์-โวลเฟนบึทเทิลแมรีแห่งโมดีนา สมเด็จพระราชินีแห่งอังกฤษแมรีแห่งเบอร์กันดีแคว้นกาตาลุญญาเชอวาเลีย เดอ ฟอบังเจ้าชายยูจีนแห่งซาวอยเคานต์แห่งบาร์เซโลนาเนเธอร์แลนด์ของสเปน

บรันเดินบวร์ค-ปรัสเซีย

รันเดินบวร์ค-ปรัสเซีย (Brandenburg-Preußen, Brandenburg-Prussia) เป็นรัฐร่วมประมุขที่เกิดจากการรวมตัวระหว่างดัชชีปรัสเซียและรัฐมาร์เกรฟบรันเดินบวร์คในปี ค.ศ. 1618 รัฐนี้ปกครองโดยสาขาของราชวงศ์โฮเอ็นโซลเลิร์นที่ก่อนหน้านั้นปกครองบรันเดินบวร์ค คำว่า "บรันเดินบวร์ค-ปรัสเซีย" เป็นคำที่ใช้เรียกสหราชอาณาจักรนี้มาจนถึงปี..

ใหม่!!: สงครามสืบราชบัลลังก์สเปนและบรันเดินบวร์ค-ปรัสเซีย · ดูเพิ่มเติม »

บริษัทเซาธ์ซี

“เหตุการณ์ฟองสบู่แตกเซาธ์ซี” โดยเอ็ดเวิร์ด แม็ทธิว วอร์ด, หอศิลป์เทท บริษัทเซาธ์ซี (South Sea Company) เป็นบริษัทร่วมหุ้น (joint stock company) ของราชอาณาจักรบริเตนใหญ่ที่ทำการค้าขายในทวีปอเมริกาใต้ระหว่างคริสต์ศตวรรษที่ 18 บริษัทก่อตั้งขึ้นเมื่อปี..

ใหม่!!: สงครามสืบราชบัลลังก์สเปนและบริษัทเซาธ์ซี · ดูเพิ่มเติม »

บาดาโฆซ

ซ (Badajoz) หรือ บาอาโฮห์ (เอซเตรมาดูรา: Baajós) เป็นเมืองหลักของจังหวัดบาดาโฆซในแคว้นปกครองตนเองเอซเตรมาดูรา ประเทศสเปน เมืองนี้ตั้งอยู่บนฝั่งซ้ายของแม่น้ำกวาเดียนาใกล้ชายแดนประเทศโปรตุเกส มีประชากรทั้งสิ้น 151,565 คนในปี..

ใหม่!!: สงครามสืบราชบัลลังก์สเปนและบาดาโฆซ · ดูเพิ่มเติม »

ชเตฟันสโดม

การขยายอาสนวิหารนักบุญสเทเฟน: The '''หอโรมันและประตูยักษ์''' จากซากไหม้ของโบสถ์แรกใช้เป็นส่วนหนึ่งของสิ่งก่อสร้างแบบโรมาเนสก์'''โบสถ์ที่สอง''' สร้างแทนโบสถ์เดิม สี่สิบปีต่อมา ก็เริ่มก่อสร้าง '''Albertine Choir''' แบบกอธิค; ห้าสิบห้าปีหลังจากนั้นก็สร้าง '''ส่วนต่อเติมดยุกรูดอล์ฟที่ 4''' รอบบริเวณ '''โบสถ์ที่สอง''' ที่ต่อมาถูกรื้อทิ้ง เหลือโบสถ์ที่สามให้เป็นสิ่งก่อสร้างที่เห็นกันอยู่ในปัจจุบัน อาสนวิหารนักบุญสเทเฟน หรือ ชเตฟันสโดม (Stephansdom, St.) เป็นอาสนวิหารโรมันคาทอลิกในอัครมุขมณฑลเวียนนา และเป็นที่ตั้งอาสนะของอาร์ชบิชอปแห่งเวียนนา ตัวอาสนวิหารตั้งอยู่ใจกลางกรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย สถาปัตยกรรมที่เห็นอยู่ในปัจจุบันเป็นแบบโรมานเนสก์ และ กอทิก ริเริ่มโดยรูดอล์ฟที่ 4 ดยุกแห่งออสเตรีย โบสถ์ปัจจุบันตั้งอยู่บนซากโบสถ์เดิมที่สร้างก่อนหน้านั้นสองโบสถ์ โบสถ์แรกเป็นโบสถ์ประจำเขตแพริชที่ได้รับการเสกในปี ค.ศ. 1147 อาสนวิหารนักบุญสเทเฟนเป็นสิ่งก่อสร้างที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งในกรุงเวียนนาที่เห็นได้อย่างเด่นชัดจากหลังคากระเบื้องหลากสี.

ใหม่!!: สงครามสืบราชบัลลังก์สเปนและชเตฟันสโดม · ดูเพิ่มเติม »

พระมหากษัตริย์อารากอน

ราชอาณาจักรอารากอนถูกก่อตั้งขึ้นในช่วงระหว่าง..

ใหม่!!: สงครามสืบราชบัลลังก์สเปนและพระมหากษัตริย์อารากอน · ดูเพิ่มเติม »

พระมหากษัตริย์ในปรัสเซีย

ระราชพิธีราชาภิเษกของพระเจ้าฟรีดริชที่ 1 ณ ปราสาทเคอนิกสแบร์ก พระมหากษัตริย์ในปรัสเซีย (King in Prussia) คือพระอิสริยยศที่ถูกใช้โดยผู้คัดเลือกแห่งบรันเดนบูร์ก ตั้งแต่ปี..

ใหม่!!: สงครามสืบราชบัลลังก์สเปนและพระมหากษัตริย์ในปรัสเซีย · ดูเพิ่มเติม »

พระราชบัญญัติความมั่นคง ค.ศ. 1704

ระราชบัญญัติเพื่อความปลอดภั..

ใหม่!!: สงครามสืบราชบัลลังก์สเปนและพระราชบัญญัติความมั่นคง ค.ศ. 1704 · ดูเพิ่มเติม »

พระเจ้าการ์โลสที่ 3 แห่งสเปน

ระวังสับสนกับ จักรพรรดิคาร์ลที่ 6 แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ ผู้ปกครองสเปนในช่วงเวลาสั้นๆในช่วงสงครามสืบราชบัลลังก์สเปน ในฐานะ ชาร์ลส์ที่ 3 พระเจ้าการ์โลสที่ 3 แห่งสเปน หรือสำเนียงภาษาอังกฤษ พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 (สเปน;การ์โลส, อิตาลี; การ์โล; 20 มกราคม ค.ศ. 1716 - 14 ธันวาคม ค.ศ. 1788 เป็นพระมหากษัตริย์แห่งสเปนและชาวสเปนระหว่างปี 1759 - 1788 ทรงเป็นพระโอรสพระองค์ที่ห้าในพระเจ้าเฟลีเปที่ 5 แห่งสเปน กับพระมเหสีพระองค์ที่สองเอลิซาเบธ ฟาร์เนเซ ในปี 1731 เจ้าชายการ์โลสพระชนมายุ 15 ชันษาได้กลายเป็นดยุคแห่งปาร์มาและปิอาเซนซา ในฐานะชาร์ลส์ที่ 1 หลังจากการสวรรคตของแอนโตนิโอ ฟาร์เนส ผู้เป็นพระปิตุลา ในปี 1734 ในฐานะดยุกแห่งปาร์มา ทรงได้รับชัยชนะในสงครามสืบราชบัลลังก์โปแลนด์ ทรงได้รับการราชาภิเศกเป็นพระมหากษัตริย์แห่งเนเปิลส์และซิซิลี ในปี 1735 ในฐานะ ชาร์ลส์ที่ 7 แห่งเนเปิลส์ และ ชาร์ลส์ที่ 5 แห่งซิซิลี ในปี 1738 ทรงอภิเษกสมรสกับเจ้าหญิงมาเรีย อเมเลียแห่งแซกโซนี มีพระราชโอรสและธิดารวมทั้งสิ้น 13 พระองค์ พระเจ้าการ์โลสและมาเรีย อเมเลียทรงประทับอยู่ที่เนเปิลส์เป็นเวลา 19 ปี จนพระนางมาเรีย เมเลียสิ้นพระชนม์ในปี 1760 เมื่อเสด็จเสวยราชสมบัติเป็นพระมหากษัตริย์แห่งสเปนในวันที่ 10 สิงหาคม 1759 เป็นช่วงเวลาที่พระองค์ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ในสมบูรณาญาสิทธิราชย์อันทรงภูมิธรรม โดยในวันที่ 6 ตุลาคม 1759 ทรงสละราชบัลลังก์เนเปิลส์และซิซิลีให้อินฟันเตเฟอร์ดินานด์ พระโอรสพระองค์ที่สามผู้ทรงโปรดปรานโดยได้เสวยราชสมบัติเป็นพระเจ้าเฟอร์ดินานด์ที่ 1 แห่งซิซิลีทั้งสอง ในฐานะกษัตริย์แห่งสเปน พระเจ้าการ์โลสที่ 3 ทรงเป็นหนึ่งกษัตริย์ผู้ได้รับอิทธิพลจากยุคเรืองปัญญา โดยทรงมีความพยายามที่จะช่วยเหลืออาณาจักรของพระองค์ที่กำลังเสื่อมสลายถึงการปฏิรูปที่อ่อนตัวลง เช่น คริสตจักรและพระราชวงศ์ ในการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ เพื่ออำนวยความสะดวกทางการค้า การพานิชย์ และการเกษตรที่ทันสมัยและการหลีกเลี่ยงสงคราม ทรงไม่ประสบความสำเร็จในระดับที่น่าพอใจกับการควบคุมเงินและถูกบังคับให้ยืมเงินเพื่อสนองค่าใช้จ่าย ทำให้การปฏิรูปของพระองค์ได้รับการพิสูจน์ในระยะสั้นว่าหลังการสวรรคตของพระองค์การเปลี่ยนแปลงของพระองค์เห็นผล แต่พระราชมรดกของพระองค์ยังคงหลงเหลืออยู่ในปัจจุบัน ประวัติศาสตร์สแตนเลย์แพนรัฐการ์โลสที่ 3 ได้กล่าวว่า "อาจจะเป็นผู้ปกครองในยุโรปที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในรัชสมัยของพระองค์ ทรงทำให้ความสอดคล้องความเป็นผู้นำที่ชาญฉลาด โดยทรงเลือกรัฐมนตรีที่มีความสามารถ...ชีวิตส่วนพระองค์ได้รับการยอมรับนับถือของประชาชน" หมวดหมู่:พระมหากษัตริย์สเปน หมวดหมู่:ราชวงศ์บูร์บง หมวดหมู่:เจ้าชายสเปน.

ใหม่!!: สงครามสืบราชบัลลังก์สเปนและพระเจ้าการ์โลสที่ 3 แห่งสเปน · ดูเพิ่มเติม »

พระเจ้าวิตโตรีโอ อาเมเดโอที่ 2 แห่งซาร์ดิเนีย

มเด็จพระเจ้าวิคเตอร์ อมาเดอุสที่ 2 แห่งซาร์ดิเนีย หรือ วิกเตอร์ อมาเดอุสที่ 2 แห่งซาวอย (อังกฤษ:Victor Amadeus II of Savoy) ทรงดำรงตำแหน่งดยุคแห่งซาวอยตั้งแต..

ใหม่!!: สงครามสืบราชบัลลังก์สเปนและพระเจ้าวิตโตรีโอ อาเมเดโอที่ 2 แห่งซาร์ดิเนีย · ดูเพิ่มเติม »

พระเจ้าเฟรเดอริกที่ 1 แห่งสวีเดน

ระเจ้าเฟรเดอริกที่ 1 แห่งสวีเดน (Fredrik I; 23 เมษายน พ.ศ. 2219 - 25 มีนาคม พ.ศ. 2294) เป็นพระมหากษัตริย์สวีเดนตั้งแต่วันที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2263 จนเสด็จสวรรคต และทรงดำรงตำแหน่งเจ้าผู้ครองเมืองเฮสส์-คัสเซิลเมื่อปี..

ใหม่!!: สงครามสืบราชบัลลังก์สเปนและพระเจ้าเฟรเดอริกที่ 1 แห่งสวีเดน · ดูเพิ่มเติม »

พระเจ้าเปดรูที่ 2 แห่งโปรตุเกส

ระเจ้าเปดรูที่ 2 แห่งโปรตุเกส (โปรตุเกส: Pedro II) (26 เมษายน ค.ศ. 1648 – 9 ธันวาคม ค.ศ. 1706) ทรงเป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ (ค.ศ. 1668–1683) และเป็นพระมหากษัตริย์โปรตุเกสและแอลการ์ฟ (ค.ศ. 1683 – 1706) มีพระราชสมัญญานามว่า "ผู้สงบสุข" (o Pacífico หรือ the Pacific).

ใหม่!!: สงครามสืบราชบัลลังก์สเปนและพระเจ้าเปดรูที่ 2 แห่งโปรตุเกส · ดูเพิ่มเติม »

กองทัพสเปน

กองทัพสเปนมีกองกำลังพร้อมรบ 147,900 นาย (ปี 2008) โดยแบ่งได้ดังนี้.

ใหม่!!: สงครามสืบราชบัลลังก์สเปนและกองทัพสเปน · ดูเพิ่มเติม »

กองทัพปรัสเซีย

กองทัพราชอาณาจักรปรัสเซีย (Königlich Preußische Armee) เป็นกองทัพบกของราชอาณาจักรปรัสเซีย อันมีจุดเริ่มต้นจากบรันเดนบูร์ก-ปรัสเซียซึ่งทรงอำนาจในยุโรป ณ ขณะนั้น.

ใหม่!!: สงครามสืบราชบัลลังก์สเปนและกองทัพปรัสเซีย · ดูเพิ่มเติม »

การล้อมบางกอก

การล้อมบางกอก (Siege of Bangkok, Siège de Bangkok) เป็นเหตุการณ์สำคัญในช่วง การปฏิวัติสยาม พ.ศ. 2231 ที่นำไปสู่การขับไล่ฝรั่งเศสออกจากสยาม ภายหลังจากการรัฐประหารต่อกษัตริย์พระองค์ก่อน สมเด็จพระนารายณ์มหาราช และ สมเด็จพระเพทราชา ขึ้นครองราชย์แทน กองทหารสยามเข้าปิดล้อมป้อมของทหารฝรั่งเศสที่บางกอกเป็นเวลา 4 เดือน ซึ่งกองทหารสยามที่ยกมามี 40,000 นายพร้อมกับปืนใหญ่ขณะที่ทหารฝรั่งเศสที่ประจำการอยู่บนป้อมมีเพียง 200 นายเท่านั้น การเผชิญหน้าทางทหารไม่สามารถหาผลสรุปได้ ความตึงเครียดระหว่างทั้งสองฝ่ายลดลงและในที่สุดก็มีการเจรจาตกลงกันให้ชาวฝรั่งเศสออกจากสยาม การล้อมบางกอกถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของความสัมพันธ์ไทย-ฝรั่งเศส ซึ่งไม่นานหลังจากนั้น ฝรั่งเศสได้เข้าร่วมสงครามในทวีปยุโรปสองครั้ง คือ สงครามสหพันธ์ออกสบูร์ก และสงครามสืบราชบัลลังก์สเปน แม้การล้อมบางกอกจะจบลงด้วยการถอนทัพของฝรั่งเศส แต่ก็ไม่มีผลการสงครามที่ชัดเจนนัก กระนั้นชาวฝรั่งเศสก็ได้อพยพออกจากสยามไปเกือบหมด เหลือแต่มิชชันนารีเท่านั้น ส่วนชาติยุโรปอื่น อาทิ โปรตุเกส ดัชต์ อังกฤษ แม้จะยังค้าขายกับสยามต่อไปแต่ก็เป็นไปด้วยความยากลำบาก หมวดหมู่:ประวัติศาสตร์ไท.

ใหม่!!: สงครามสืบราชบัลลังก์สเปนและการล้อมบางกอก · ดูเพิ่มเติม »

การสงครามสมัยใหม่ตอนต้น

การสงครามสมัยใหม่ตอนต้น (Early modern warfare) สัมพันธ์กับการที่เริ่มมีการใช้ดินปืนอย่างแพร่หลายและการพัฒนาอาวุธที่เหมาะจะใช้ระเบิด ซึ่งรวมถึงปืนใหญ่และปืนที่ใช้มือถือ (handgun) เช่น ปืนไฟ และต่อมา คือ ปืนคาบศิลา ด้วยเหตุนี้ ยุคนี้จึงสรุปได้ว่าเป็นยุคแห่งการสงครามดินปืน ก่อนหน้าคริสต์ศตวรรษที่ 15 มีการใช้ดินปืนน้อยมาก แต่เปลี่ยนมาใช้ทั่วไปในสมัยใหม่ตอนต้น โดยพบใช้มากที่สุดระหว่างสงครามนโปเลียน ตั้งแต..

ใหม่!!: สงครามสืบราชบัลลังก์สเปนและการสงครามสมัยใหม่ตอนต้น · ดูเพิ่มเติม »

ยิบรอลตาร์

รอลตาร์ (Gibraltar) เป็นดินแดนโพ้นทะเลของสหราชอาณาจักร ตั้งอยู่ใกล้กับจุดใต้สุดของคาบสมุทรไอบีเรีย ในบริเวณช่องแคบยิบรอลตาร์ มีเนื้อที่โดยรวมประมาณ 6.5 ตารางกิโลเมตร ทางทิศเหนือมีพรมแดนติดต่อกับประเทศสเปน และมีประชากรประมาณ 32,000 คน สถานที่ที่มีชื่อเสียงของยิบรอลตาร์คือ โขดหินยิบรอลตาร์ (Rock of Gibraltar) ซึ่งเป็นสถานที่ที่มีความสำคัญทางธรณีวิทยาแห่งหนึ่งของโลก เดิมทียิบรอลตาร์เคยเป็นดินแดนหนึ่งของราชอาณาจักรสเปน จนกระทั่งในปี..

ใหม่!!: สงครามสืบราชบัลลังก์สเปนและยิบรอลตาร์ · ดูเพิ่มเติม »

รัฐร่วมประมุข

ียนฉลองรัฐร่วมประมุขระหว่างโปแลนด์และลิทัวเนียเป็นสหราชอาณาจักรโปแลนด์-ลิทัวเนีย รัฐร่วมประมุข หรือ การรวมตัวเป็นสหราชอาณาจักร (personal union) เป็นการรวมรัฐอิสระมากกว่าสองรัฐขึ้นไปภายใต้การปกครองของพระมหากษัตริย์องค์เดียวกัน ในขณะที่พรมแดน, กฎหมาย และ นโยบายของอาณาจักรในกลุ่มยังคงเป็นตัวของตัวเอง สหราชไม่ใช่ “สหพันธรัฐ” (federation) ที่เป็นที่ยอมรับกันว่าเป็นหลายรัฐที่รวมเข้ามาเป็นรัฐเดียวกันและมีพรมแดน, กฎหมาย และ นโยบายส่วนใหญ่ร่วมกัน หรือ “สหราชวงศ์” (dynastic union) ซึ่งหมายถึงการรวมภายใต้ราชวงศ์เดียวกัน แต่กระนั้นความหมายระหว่าง “สหราช” และ “สหพันธรัฐ” ก็มีความเกี่ยวพันกัน และ “สหราช” มักจะวิวัฒนาการมาเป็น “สหพันธรัฐ” การรวมตัวกันเป็น “สหราช” อาจจะเกิดขึ้นจากเหตุผลหลายประการตั้งแต่การเกิดขึ้นโดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นพร้อมกันเช่นการเสกสมรสระหว่าง “สมเด็จพระราชินีนาถ” (queen regnant) ของราชอาณาจักรหนึ่ง กับ พระมหากษัตริย์ของอีกราชอาณาจักรหนึ่ง ซึ่งทำให้พระราชโอรสของทั้งสองพระองค์ก็จะได้รับราชบังลังก์ของทั้งสองราชอาณาจักร ไปจนถึงการผนวกดินแดน การรวมตัวกันอาจจะเป็นตามบทบัญญัติทางกฎหมาย เช่นการผ่านพระราชบัญญัติในรัฐสภาระบุการรวมตัวกัน หรืออาจจะโดยพฤตินัยซึ่งง่ายต่อการแยกตัวกลับไปเป็นอาณาจักรเดิม เช่นในกรณีที่เกิดขึ้นหลังจากการเสด็จสวรรคตของกษัตริย์ของบรรดาอาณาจักรร่วมที่มีระบบการสืบสันตติวงศ์ที่ต่างกัน “สหราช” ส่วนใหญ่จะเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นในระบบราชาธิปไตยเท่านั้น และบางครั้งก็จะใช้คำว่า “สหราชาธิปไตย” (dual monarchy) ในการแสดงแสดงว่าเป็นการรวมอาณาจักรของสองราชบัลลังก์ รายการข้างล่างแสดงให้เห็นถึงรายระเอียดของการรวมเป็นสหราชอาณาจักรตลอดมาในประวัติศาสตร์ ยกเว้นแต่ในกรณีของราชาธิปไตยภายใต้รัฐธรรมนูญของเครือจักรภพบริติชเช่นออสเตรเลีย, นิวซีแลนด์ และแคนาดา ซึ่งไม่ใช่การรวมเป็นสหราชอาณาจักรของโลกยุคปัจจุบัน นอกจากนั้นคำว่า “การรวมสหอำนาจ” ยังใช้เป็นเครื่องมือทางการเมืองที่ใช้โดยนาซีเยอรมนีในการรวมตำแหน่งระดับสูงในพรรคกรรมกรชาติสังคมนิยมเยอรมัน เครื่องมือทางการเมืองเดียวกันนี้นำมาใช้โดยรัฐบาลอื่นๆ เช่นสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งคล้ายกันกับ “ผู้ได้รับการแต่งตั้ง” (persona designata) ที่เป็นระบบที่เจ้าหน้าที่ทางศาลสามารถแต่งตั้งให้ผู้ไม่มีหน้าที่ทางศาลมีความรับผิดชอบในหน้าที่กึ่งเกี่ยวกับระบบยุติธรรมภายใต้ระบบคอมมอนลอว.

ใหม่!!: สงครามสืบราชบัลลังก์สเปนและรัฐร่วมประมุข · ดูเพิ่มเติม »

ราชบัลลังก์กัสติยา

ราชบัลลังก์กัสติยา (Corona de Castilla) เป็นสหอาณาจักรที่มักจะกล่าวกันว่าเริ่มก่อตั้งขึ้นในปี..

ใหม่!!: สงครามสืบราชบัลลังก์สเปนและราชบัลลังก์กัสติยา · ดูเพิ่มเติม »

ราชวงศ์ฮาพส์บวร์ค

ราชวงศ์ฮาพส์บวร์ค (Haus de Habsburg) (House of Habsburg, บางครั้งเขียนว่า Hapsburg) เป็นราชวงศ์ที่สำคัญที่สุดราชวงศ์หนึ่งในทวีปยุโรป ราชวงศ์นี้ได้ปกครองประเทศสเปนและประเทศออสเตรีย รวมเวลาทั้งหมดถึง 6 ศตวรรษ แต่ที่รู้จักกันดีมากที่สุดคือ การปกครองในตำแหน่งของ จักรพรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ หลังจากได้มีการสถาปนาจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ขึ้นมา พระราชวงศ์นี้ได้ปกครองรัฐและประเทศต่าง ๆ ถึง 1,800 รั.

ใหม่!!: สงครามสืบราชบัลลังก์สเปนและราชวงศ์ฮาพส์บวร์ค · ดูเพิ่มเติม »

ราชอาณาจักรปรัสเซีย

ราชอาณาจักรปรัสเซีย (Kingdom of Prussia) เป็นราชอาณาจักรหนึ่งของชนชาติเยอรมัน ดำรงอยู่ระหว่างปีค.ศ. 1701 ถึง 1918 ครอบคลุมพื้นที่ในประเทศเยอรมนี โปแลนด์ รัสเซีย ลิทัวเนีย เดนมาร์ก เบลเยียม และเช็กเกียในปัจจุบัน ราชอาณาจักรปรัสเซียกลายเป็นมหาอำนาจของยุโรปในศตวรรษที่ 18 ในรัชสมัยของพระเจ้าฟรีดริชมหาราช และยิ่งทรงอำนาจขึ้นจนสามารถเป็นแกนนำในการชักนำรัฐเยอรมันต่างๆให้ทำการรวมชาติกันเป็นจักรวรรดิเยอรมัน ในปี 1871.

ใหม่!!: สงครามสืบราชบัลลังก์สเปนและราชอาณาจักรปรัสเซีย · ดูเพิ่มเติม »

ราชอาณาจักรเลออง

ราชอาณาจักรเลออง เป็นราชอาณาจักรที่ตั้งอยู่บนคาบสมุทรไอบีเรีย สถาปนาขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 910 โดย เจ้าชายคริสเตียนแห่งอัสตูเรียส ที่ล่มสลายลงไปก่อนหน้านี้ โดยเลอองเป็นหนึ่งในแกนนำที่ช่วยขับไล่ชาวมุสลิมออกไปจากสเปน และภายหลังได้รวมเป็นส่วนหนึ่งกับราชอาณาจักรคาสตีลในปี ค.ศ. 1230 ก่อนที่จะล่มสลายลงเพราะสงครามสืบราชบัลลังก์สเปนในปี ค.ศ. 1301 หมวดหมู่:รัฐสิ้นสภาพในทวีปยุโรป ล.

ใหม่!!: สงครามสืบราชบัลลังก์สเปนและราชอาณาจักรเลออง · ดูเพิ่มเติม »

รายชื่อสนธิสัญญา

การลงนามในสนธิสัญญาแวร์ซายในห้องกระจกของพระราชวังแวร์ซายในฝรั่งเศสเมื่อวันที่ 28 มิถุนายน ค.ศ. 1919เพื่อยุติสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง รายชื่อสนธิสัญญา เป็นรายชื่อข้อตกลงทางประวัติศาสตร์ฉบับที่สำคัญ ระหว่างรัฐ กองทัพ รัฐบาล และกลุ่มชน.

ใหม่!!: สงครามสืบราชบัลลังก์สเปนและรายชื่อสนธิสัญญา · ดูเพิ่มเติม »

รายพระนามเจ้าผู้ครองราชรัฐลักเซมเบิร์ก

ประเทศลักเซมเบิร์กปกครองโดยเจ้าผู้ครองราชรัฐซึ่งมีฐานันดรศักดิ์เป็นเคานต์ ดยุก และแกรนด์ดยุก ตามลำดับ ในอดีตเป็นรัฐนี้ส่วนหนึ่งของราชอาณาจักรเยอรมนีและจากนั้นเป็นส่วนหนึ่งของจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ จนกระทั่งได้ปกครองตนเองในปี พ.ศ. 2358.

ใหม่!!: สงครามสืบราชบัลลังก์สเปนและรายพระนามเจ้าผู้ครองราชรัฐลักเซมเบิร์ก · ดูเพิ่มเติม »

วังเบลนิม

วังเบลนิม (Blenheim Palace) หรือ คฤหาสน์เบลนิม เป็นคฤหาสน์ที่สร้างอย่างวังตั้งอยู่ที่เมืองเล็กๆ ชื่อวู้ดสต็อคในมลฑลอ๊อกซฟอร์ดเชอร์ในอังกฤษ สร้างโดยซาราห์ เชอร์ชิลผู้เป็นภรรยาของจอห์น เชอร์ชิล ดยุกแห่งมาร์ลบะระ และเป็นพระสหายสนิทของสมเด็จพระราชินีนาถแอนน์ ระหว่างปี ค.ศ. 1705 ถึง ค.ศ. 1722 วังเบลนิมเป็นสถาปัตยกรรมแบบวัง โดยมี เซอร์จอห์น แวนบรูห์เป็นสถาปนิก วังเบลนิมเป็นคฤหาสน์ที่มิได้เป็นของราชวงศ์ แต่ก็ใช้คำนำหน้าว่า “วัง” ซึ่งเป็นแห่งเดียวในอังกฤษเพราะความยิ่งใหญ่ของสิ่งก่อสร้าง จุดประสงค์ของการก่อสร้างเมื่อเริ่มแรกเพื่อเป็นของขวัญสำหรับจอห์น เชอร์ชิล ดยุกแห่งมาร์ลบะระเพื่อเป็นการตอบแทนในการนำกองทัพอังกฤษรบชนะฝรั่งเศสและบาวาเรีย แต่ต่อมาเบลนิมกลายเป็นปัญหาในการต่อสู้ทางการเมือง ซึ่งเป็นผลทำให้ดยุกและดัชเชสแห่งมาร์ลบะระสิ้นอำนาจ รวมทั้งการเสียชื่อเสียงของสถาปนิกจอห์น แวนบรูห์ ตัววังสร้างเป็นแบบบาโรก ปฏิกิริยาหรือคุณค่าของสิ่งก่อสร้างจนบัดนี้ก็ยังไม่เป็นที่เห็นพ้องกันได้ เช่นเดียวกับในสมัยเมื่อเริ่มสร้างในคริสต์ทศวรรษ 1720 ตัวสิ่งก่อสร้างเป็นลักษณะที่ผสมระหว่างที่อยู่อาศัย, ที่เก็บศพ และ อนุสาวรีย์ นอกจากนั้นสิ่งที่น่าสนใจคือเป็นที่เกิดของวินสตัน เชอร์ชิลอดีตนายกรัฐมนตรีคนสำคัญของอังกฤษ คำจารึกเหนือประตูใหญ่ทางตะวันออกบอกประวัติของสิ่งก่อสร้าง: แต่ตามความเป็นจริงแล้วความสำเร็จของการสร้างเบลนิมเป็นผลจากความทะเยอทะยานของซาราห์ เชอร์ชิลเป็นส่วนใหญ่ หลังจากสร้างเสร็จเบลนิมก็กลายเป็นที่พำนักของตระกูลเชอร์ชิลมาจนถึงปัจจุบัน เป็นเวลาได้ราว 300 ปี ในระหว่างนั้นตัววังและอุทยานก็ได้รับการเปลื่ยนแปลงมาโดยตลอด เมื่อปลายคริสต์ศตวรรษที่ 19 ตระกูลมาร์ลบะระก็ประสบปัญหาทางการเงินจนต้องขายทรัพย์สมบัติสำคัญๆ ไปบ้าง แต่การแต่งงานกับสตรีชาวอเมริกันก็ช่วยนำเงินมาบำรุงรักษาเบลนิมให้ยังอยู่ในสภาพดังเช่นเมื่อเริ่มสร้าง.

ใหม่!!: สงครามสืบราชบัลลังก์สเปนและวังเบลนิม · ดูเพิ่มเติม »

สมเด็จพระราชินีนาถแอนน์แห่งบริเตนใหญ่

มเด็จพระราชินีนาถแอนน์แห่งบริเตนใหญ่ (Anne of Great Britain; 6 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1665 – 1 สิงหาคม ค.ศ. 1714) ทรงขึ้นครองราชย์เป็นพระราชินีนาถราชวงศ์สจวตองค์สุดท้ายของราชอาณาจักรอังกฤษ ราชอาณาจักรสกอตแลนด์ และราชอาณาจักรไอร์แลนด์ เมื่อวันที่ 8 มีนาคม ค.ศ. 1702 สืบต่อจากสมเด็จพระเจ้าวิลเลียมที่ 3 แห่งอังกฤษ พระนางเจ้าแอนน์ทรงพระราชสมภพเมื่อวันที่ 6 กุมภาพัน..

ใหม่!!: สงครามสืบราชบัลลังก์สเปนและสมเด็จพระราชินีนาถแอนน์แห่งบริเตนใหญ่ · ดูเพิ่มเติม »

สาธารณรัฐดัตช์

รณรัฐดัตช์ (อังกฤษ: ชื่อเต็ม Republiek der Zeven Verenigde Nederlanden หรือ De Nederlandse Republiek และ De Verenigde Provincien) เป็นการรวมหนึ่งในส่วนรัฐทั้ง 7 ของเนเธอร์แลนด์ของสเปน โดยเป็นกบฏโปรแตสแตนท์ในกลุ่มขุนนาง ผู้ปกครองคนแรกคือ วิลเลียมที่ 1 แห่งออเรนจ์ และทำให้เกิดสงคราม 80 ปีจนสงบศึกในปี ค.ศ. 1648.

ใหม่!!: สงครามสืบราชบัลลังก์สเปนและสาธารณรัฐดัตช์ · ดูเพิ่มเติม »

สงครามสืบราชบัลลังก์

งครามสืบราชบัลลังก์ หรือ สงครามสืบราชสมบัติ (ภาษาอังกฤษ: War of Succession) คือสงครามที่เกิดจากความขัดแย้งเมื่อมึผู้มีสิทธิในการขึ้นครองบัลลังก์มีมากกว่าหนึ่งคน ผู้มีสิทธิแต่ละคนก็จะมีกำลังหนุนและบางครั้งก็จะมีพันธมิตรจากต่างประเทศเข้าหนุนเพื่ออ้างอิงในสิทธิในการครองบัลลังก์ สงครามสืบราชบัลลังก์เป็นวลีที่มักจะใช้เรียกสงครามที่เกิดขึ้นในยุโรปหลายสงครามในคริสต์ศตวรรษที่ 18 และไม่จำเป็นจะต้องเป็นสงครามกลางเมืองเท่านั้นเช่นสงครามสืบราชบัลลังก์ออสเตรียซึ่งกลายมาเป็นสงครามระหว่างมหาอำนาจในทวีปยุโรปในคริสต์ศตวรรษที่ 18 สงครามสืบราชบัลลังก์ที่เป็นที่รู้จักกันก็ได้แก่.

ใหม่!!: สงครามสืบราชบัลลังก์สเปนและสงครามสืบราชบัลลังก์ · ดูเพิ่มเติม »

สงครามเก้าปี

งครามเก้าปี (Nine Years' War) หรือ สงครามมหาพันธมิตร (War of the Grand Alliance) หรือ สงครามสหพันธ์ออกสบูร์ก (War of the League of Augsburg) หรือที่เคยเรียกว่า สงครามสืบบัลลังก์พาลาไทน์ (War of the Palatine Succession) หรือ สงครามสืบราชบัลลังก์อังกฤษ (War of the English Succession) หรือบางครั้งก็เรียกว่า สงครามวิลเลียมไมท์ (Williamite War) ในไอร์แลนด์ หรือ สงครามพระเจ้าวิลเลียม (King William's War) ในทวีปอเมริกาเหนือ เป็นสงครามที่เกิดขึ้นระหว่างปี ค.ศ. 1688 จนถึงปี ค.ศ. 1697 ที่การต่อสู่ส่วนใหญ่เกิดขึ้นบนแผ่นดินใหญ่ยุโรป แต่ก็มีบ้างที่เกิดขึ้นในไอร์แลนด์ และ ทวีปอเมริกาเหนือ สงครามเป็นความขัดแย้งระหว่างราชอาณาจักรฝรั่งเศสภายใต้การนำของพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 และจาโคไบต์ไอริชฝ่ายหนึ่ง กับมหาพันธมิตร (Grand Alliance) อีกฝ่ายหนึ่งที่นำโดยพระเจ้าวิลเลียมที่ 3 แห่งอังกฤษ, สมเด็จพระจักรพรรดิลีโอโพลด์ที่ 1 แห่งโรมันอันศักดิ์สิทธิ์, พระเจ้าคาร์โลสที่ 2 แห่งสเปน และ พระเจ้าวิคเตอร์ อมาเดอุสที่ 2 แห่งซาร์ดิเนีย ในปี..

ใหม่!!: สงครามสืบราชบัลลังก์สเปนและสงครามเก้าปี · ดูเพิ่มเติม »

สนธิสัญญายูเทรกต์

นธิสัญญายูเทรกต์ หรือ สัญญาสันติภาพยูเทรกต์ (Friede von Utrecht, Treaty of Utrecht หรือ Peace of Utrecht) เป็นเอกสารสนธิสัญญาสันติภาพ (peace treaty) หลายฉบับที่ลงนามกันที่เมืองยูเทรกต์ในสาธารณรัฐดัตช์ระหว่างเดือนมีนาคมและเดือนเมษายนของปี ค.ศ. 1713 เป็นการตกลงระหว่างรัฐต่าง ๆ ในยุโรปและช่วยในการยุติสงครามสืบราชบัลลังก์สเปน สนธิสัญญานี้ทำขึ้นระหว่างผู้แทนพระองค์พระเจ้าหลุยส์ที่ 14 แห่งฝรั่งเศสกับพระเจ้าเฟลีเปที่ 5 แห่งสเปน ฝ่ายหนึ่ง และผู้แทนพระองค์สมเด็จพระราชินีนาถแอนน์แห่งบริเตนใหญ่ ดยุกแห่งซาวอย กับพระเจ้ากรุงโปรตุเกสและสหมณฑล อีกฝ่ายหนึ่ง.

ใหม่!!: สงครามสืบราชบัลลังก์สเปนและสนธิสัญญายูเทรกต์ · ดูเพิ่มเติม »

อุปราช

หลุยส์ เมานต์แบ็ทแตน อุปราชแห่งอินเดียคนสุดท้าย อุปราช หรือ "ไวซรอย" (Viceroy) เป็นตำแหน่งที่แต่งตั้งโดยพระมหากษัตริย์เพื่อให้ปกครองเขต แว่นแคว้น หรืออาณาจักร เป็นผู้สำเร็จราชการในพระปรมาภิไธยของพระมหากษัตริย์ มาจากภาษาละติน "vice-" แปลว่า ผู้แทน กับภาษาฝรั่งเศส "roi" แปลว่าพระมหากษัตริย์ หากอุปราชเป็นสตรี จะเรียกว่า "ไวซแรน" ซึ่งใช้เรียกพระชายาของอุปราชด้วย ในยุโรป โดยเฉพาะก่อนช่วงศตวรรษที่ 18 พระมหากษัตริย์สเปนได้แต่งตั้งอุปราชประจำแคว้นอารากอง บาเลนเซีย คาตาโลเนีย นาวารร์ ซาร์ดีเนีย ซิซิลี เนเปิลส์ และโปรตุเกส (ช่วงปี ค.ศ. 1580-1640) โดยภายหลังการเถลิงอำนาจของราชวงศ์บูร์บงของสเปน เขตการปกครองของอุปราช ได้ถูกเปลี่ยนไปอยู่ในรูปของ Captaincies General แทน ต่อมาในภายหลังสงครามสืบราชบัลลังก์สเปน แคว้นเหล่านี้ที่อยู่ในอิตาลีได้แยกตัวเองเป็นอิสระ โดยยังใช้ระบบอุปราชเพื่อปกครองอยู่ เช่นแคว้นซาร์ดีเนียยังมีตำแหน่งอุปราชอยู่จนถึงปี..1848 ตำแหน่งอุปราชในไทยเรียกว่ากรมพระราชวังบวรสถานมงคล.

ใหม่!!: สงครามสืบราชบัลลังก์สเปนและอุปราช · ดูเพิ่มเติม »

จอห์น เชอร์ชิล ดยุกแห่งมาร์ลบะระ

อห์น เชอร์ชิล ดยุกแห่งมาร์ลบะระ (John Churchill, 1st Duke of Marlborough) เป็นแม่ทัพและรัฐบุรุษชาวอังกฤษผู้รับราชการในพระเจ้าแผ่นดิน 5 พระองค์ในคริสต์ศตวรรษที่ 17 ถึง 18 เขาเป็นแม่ทัพคนสำคัญในสงครามสืบราชบัลลังก์สเปน ซึ่งทำให้อังกฤษได้เข้าครอบครองช่องแคบยิบรอลตาร์และเกาะมินอร์กา จอห์น เชอร์ชิลเริ่มขีวิตการทำงานด้วยการเป็นมหาดเล็กในราชสำนักของราชวงศ์สจวตในราชอาณาจักรอังกฤษ แต่ความเก่งกล้าสามารถในสนามรบทำให้ได้รับการเลื่อนตำแหน่งขึ้นอย่างรวดเร็วจากเจ้าชายเจมส์ ดยุกแห่งยอร์ค เมื่อเจ้าชายเจมส์ขึ้นครองราชบัลลังก์ในปี ค.ศ. 1685 เป็นพระเจ้าเจมส์ที่ 2 เชอร์ชิลได้มีบทบาทสำคัญในการพ่ายแพ้ของการกบฏที่นำโดยเจมส์ สกอตต์ ดยุกแห่งมอนม็อธที่ 1 แต่สามปีต่อมาจอห์น เชอร์ชิลได้ละทิ้งพระเจ้าเจมส์ที่ 2 ผู้เปลี่ยนไปนับถือนิกายโรมันคาทอลิกไปเข้าข้างพระเจ้าวิลเลียมที่ 3 ผู้เป็นโปรแตสแตนท์ ในพระราชพิธีราชาภิเษกจอห์น เชอร์ชิลได้รับแต่งตั้งให้เป็น “เอิร์ลแห่งมาร์ลบะระ” และได้รับราชการมีผลงานดีเด่นในราชอาณาจักรไอร์แลนด์ และฟลานเดอร์สระหว่างสงครามเก้าปี แต่ความสัมพันธ์ระหว่างลอร์ดแห่งมาร์ลบะระและภรรยาซาราห์ กับพระเจ้าวิลเลียมที่ 3 และ สมเด็จพระราชินีนาถแมรีที่ 2 ตลอดรัชสมัยของทั้งสองพระองค์ไม่ค่อยดีนัก หลังจากที่ถูกกล่าวหาว่ามีส่วนสมรู้ร่วมคิดกับอดีตพระเจ้าแผ่นดิน ลอร์ดมาร์ลบะระก็ถูกปลดจากตำแหน่งทุกตำแหน่งทั้งการทหารและพลเรือนและถูกจำคุกที่หอคอยลอนดอนอยู่ชั่วระยะหนึ่ง หลังจากพระราชินีนาถแมรีที่ 2 สวรรคตและอังกฤษเผชิญกับสงครามที่เกิดขึ้นในยุโรป ลอร์ดมาร์ลบะระจึงได้กลับมาเป็นคนโปรดอีกครั้งหนึ่ง ลอร์ดมาร์ลบะระมีอิทธิพลในราชสำนักมากที่สุดในรัชการของพระราชินีนาถแอนน์ผู้เป็นสหายสนิทของซาราห์ และได้รับแต่งตั้งให้เป็น “ผู้บัญชาการทหารสูงสุด” (Captain-General) ของกองทัพอังกฤษ แต่ต่อมาได้รับเลื่อนขึ้นเป็นดยุก ดยุกแห่งมาร์ลบะระมีชื่อเสียงจากการต่อสู้ในสงครามสืบราชบัลลังก์สเปนในยุทธการเบล็นไฮม์ (Battle of Blenheim) ยุทธการรามิลีส์ (Battle of Ramillies) และ ยุทธการอูเดนาร์ด (Battle of Oudenarde) แต่เมื่อซาราห์ไม่ได้กลายเป็นสหายสนิทของพระราชินีนาถแอนน์และพรรคทอรี จึงต้องมีการสงบศึกกับฝรั่งเศสซึ่งทำให้ดยุกแห่งมาร์ลบะระหมดอำนาจลง ดยุกแห่งมาร์ลบะระถูกกล่าวหาว่าฉ้อโกงจึงถูกปลดจากตำแหน่งทุกตำแหน่งทั้งการทหารและพลเรือนอีกครั้งหนี่ง แต่ก็มารุ่งเรืองขึ้นอีกเมื่อพระเจ้าจอร์จที่ 1 ขึ้นครองราชย์ในปี ค.ศ. 1714 แต่สุขภาพของดยุกได้เริ่มเสื่อมโทรมลง หลังจากการอุดตันของเส้นโลหิตที่ไปเลี้ยงสมองเกิดขึ้นสองสามครั้ง ในที่สุดก็เสียชีวิตที่บ้านวินด์เซอร์เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน ค.ศ. 1722.

ใหม่!!: สงครามสืบราชบัลลังก์สเปนและจอห์น เชอร์ชิล ดยุกแห่งมาร์ลบะระ · ดูเพิ่มเติม »

จักรวรรดิบริติช

ักรวรรดิบริติช (British Empire) หรือ จักรวรรดิอังกฤษ ประกอบด้วยประเทศในเครือจักรภพ, คราวน์โคโลนี, รัฐในอารักขา, รัฐในอาณัติ และดินแดนอื่นซึ่งสหราชอาณาจักรปกครองหรือบริหาร จักรวรรดิกำเนิดจากดินแดนอาณานิคมโพ้นทะเลและสถานีการค้าที่ราชอาณาจักรอังกฤษก่อตั้งระหว่างปลายคริสต์ศตวรรษที่ 16 และต้นคริสต์ศตวรรษที่ 18 ในช่วงที่เจริญถึงขีดสุด จักรวรรดิบริติชเป็นจักรวรรดิที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ และเป็นมหาอำนาจโลกชั้นแนวหน้านานกว่าหนึ่งศตวรรษ ใน..

ใหม่!!: สงครามสืบราชบัลลังก์สเปนและจักรวรรดิบริติช · ดูเพิ่มเติม »

จักรวรรดิสเปน

ักรวรรดิสเปน (Imperio Español, Spanish Empire) เป็นหนึ่งในจักรวรรดิที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์โลก และเป็นหนึ่งในจักรวรรดิโลก (global empire) จักรวรรดิแรก ที่มีดินแดนและอาณานิคมในยุโรป, อเมริกา, เอเชีย และ โอเชียเนีย มาตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 15 ส่วนอาณานิคมในแอฟริกาเป็นดินแดนที่ได้มาในตอนปลายของคริสต์ศตวรรษที่ 20 สเปนก่อตัวขึ้นเป็นสหอาณาจักรในปี..

ใหม่!!: สงครามสืบราชบัลลังก์สเปนและจักรวรรดิสเปน · ดูเพิ่มเติม »

ตูร์แน

ตูร์แน (Tournai) หรือ โดร์นิก (Doornik) เป็นเมืองในเขตวัลลูน มณฑลแอโน และเขตเทศบาลหนึ่งของเบลเยียม ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของกรุงบรัสเซลส์ไปประมาณ 85 กิโลเมตร ตัวเมืองมีแม่น้ำสเกลต์พาดผ่านกลางเมือง เมืองตูร์แนยังเป็นที่ตั้งของมุขมณฑลตูร์แน (Diocese of Tournai) อีกด้วย ตูร์แนเป็นหนึ่งในเมืองที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งในประวัติศาสตร์แห่งเบลเยียม คู่กับอาร์ลงและตองเคอเรน อันเป็นเมืองสำคัญส่วนหนึ่งของเคาน์ตีฟลานเดอร์ (Comté de Flandre) ตั้งแต่สมัยยุคกลาง โดยเป็นที่ตั้งของหอระฆังที่มีอายุเก่าแก่ที่สุดในเบลเยียม และอาสนวิหารแม่พระแห่งตูร์แน ซึ่งทั้งสองแห่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก โดยมหาวิหารนั้นเป็นสิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่ของยุคกลางที่ผสมผสานกันด้วยสถาปัตยกรรมโรมาเนสก์และกอทิกอย่างสวยงาม พร้อมทั้งหอคอยขนาดใหญ่จำนวนห้าหออันเป็นเอกลักษณ์สำคัญและเป็นที่มาของชื่อเล่นของตูร์แนว่า "เมืองแห่งหอระฆังทั้งห้า".

ใหม่!!: สงครามสืบราชบัลลังก์สเปนและตูร์แน · ดูเพิ่มเติม »

ซาราห์ เชอร์ชิล ดัชเชสแห่งมาร์ลบะระ

ซาราห์ เชอร์ชิล ดัชเชสแห่งมาร์ลบะระ (Sarah Churchill, Duchess of Marlborough) หรือชื่อเดิมคือ ซาราห์ เจ็นนิงส์ (Sarah Jennings) เป็นสตรีสูงศักดิ์ชาวอังกฤษ เป็นผู้มีบทความสำคัญในการเป็นพระสหายสนิทของสมเด็จพระราชินีนาถแอนน์แห่งบริเตนใหญ่ ในรัชสมัยของพระองค์ซาราห์ได้รับตำแหน่งสูงสุดสำหรับสตรีในราชสำนักในฐานะเจ้ากรมพระภูษามาลา ความสัมพันธ์อันสนิทสนมของแอนน์และพระนางเจ้าแอนน์เป็นที่รู้กันทั่วไปจึงทำให้ผู้ที่ต้องการอะไรจากพระนางเจ้าแอนน์ต้องเข้ามาขอให้ซาราห์ช่วย นอกจากนั้นซาราห์ก็ยังมีบทบาทสำคัญในการก่อสร้างวังเบลนิมเพื่อเป็นเกียรติแก่สามีผู้เป็นวีรบุรุษในการสงคราม ในสมัยที่การแต่งงานของผู้มีฐานะเป็นการแต่งงานเพื่อเพิ่มฐานะทางการเงินแต่ซาราห์มีความสัมพันธ์อันดีกับสามี จอห์น เชอร์ชิล ดยุกแห่งมาร์ลบะระ ผู้ที่ซาราห์สมรสด้วยเมื่อปีค.ศ. 1677 ซาราห์เข้าข้างเจ้าหญิงแอนน์ระหว่างการปฏิวัติอันรุ่งโรจน์และหลังจากที่พระเจ้าเจมส์ที่ 2สละราชสมบัติ เมื่อเจ้าหญิงแอนน์ขึ้นเสวยราชย์หลังจากพระเจ้าวิลเลียมที่ 3สวรรคตในปี ค.ศ. 1702 เป็นพระนางเจ้าแอนน์ ดยุกแห่งมาร์ลบะระและ ซิดนีย์ โกโดลฟิน เอิร์ลแห่งโกโดลฟินที่ 1 (Sidney Godolphin, 1st Earl of Godolphin) ก็ได้รับตำแหน่งสำคัญทางการเมือง ส่วนหนึ่งเป็นเพราะความสัมพันธ์ระหว่างซาราห์กับพระนางเจ้าแอนน์ เมื่อดยุกแห่งมาร์ลบะระนำทัพไปต่อสู้ในสงครามสืบราชบัลลังก์สเปนในยุโรป ซาราห์ก็เขียนจดหมายไปถึงสามีเล่าถึงความเป็นไปในราชสำนัก และนอกจากนั้นซาราห์ก็ยังเป็นผู้มีอิทธิพลในการให้คำปรึกษาแก่พระนางเจ้าแอนน์เมื่อดยุกแห่งมาร์ลบะระส่งรายงานการสงครามกลับมาถวายจากสนามรบ ความเป็นหัวแข็งและความเป็นคนชอบเอาชนะของซาราห์เป็นสาเหตุหนึ่งที่ก็ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างพระนางเจ้าแอนน์และซาราห์มาสิ้นสุดลงในที่สุดในปี ค.ศ. 1711 ซาราห์และสามีถูกปลดจากหน้าที่ในราชสำนัก แต่ก็ได้กลับรับราชการอีกครั้งในสมัยราชวงศ์ฮาโนเวอร์หลังจากพระนางเจ้าแอนน์เสด็จสวรรคต แต่ต่อมาซาราห์ก็ยังคงมีความขัดแย้งอย่างรุนแรงกับคนสำคัญๆ รอบข้างอีกหลายคนเช่น เฮ็นเรียตตา โกโดลฟิน ดัชเชสแห่งมาร์ลบะระ (Henrietta Godolphin, 2nd Duchess of Marlborough) ลูกสาวคนที่สอง; จอห์น แวนบรูห์ (John Vanbrugh) สถาปนิกผู้ออกแบบและสร้างวังเบลนิม; โรเบิร์ต วอลโพล เอิร์ลแห่งอ็อกฟอร์ดที่ 1 (Robert Walpole, 1st Earl of Orford) ผู้มักจะถูกบรรยายว่าเป็น “นายกรัฐมนตรีแห่งสหราชอาณาจักร”คนแรก; พระเจ้าจอร์จที่ 2 และ พระราชินีคาโรลีน หลังจากที่ดยุกแห่งมาร์ลบะระถึงแก่อสัญกรรมซาราห์ก็ได้รับเงินจำนวนที่มากพอที่จะทำให้เป็นผู้หญิงที่ร่ำรวยที่สุดในยุโรปคนหนึ่งฟอล์คเนอร์,. สืบค้นวันที่ 28 กรกฎาคม ค.ศ. 2007 ซาราห์เสียชีวิตราววันที่ 18 ตุลาคม ค.ศ. 1744 เมื่ออายุได้ 84 ปี.

ใหม่!!: สงครามสืบราชบัลลังก์สเปนและซาราห์ เชอร์ชิล ดัชเชสแห่งมาร์ลบะระ · ดูเพิ่มเติม »

ประวัติศาสตร์ฝรั่งเศส

ฝรั่งเศสเป็นดินแดนที่เคยอยู่ใต้การปกครองของจักรวรรดิโรมันมาก่อน โดยรู้จักกันในชื่อของชนเผ่า หรือแคว้นกอล ซึ่งเป็นกลุ่มชนเผ่าขนาดใหญ่ที่พูดภาษาเคลท์ ในช่วงท้ายก่อนที่จักรวรรดิโรมันจะล่มสลายลง ดินแดนกอลถูกรุกรานจากทั้งการโจมตีของกลุ่มอนารยชนและการอพยพของกลุ่มคนเร่ร่อน โดยเฉพาะชาวแฟรงก์เชื้อสายเจอร์มานิค พระมหากษัตริย์แฟรงก์นามว่า โคลวิสที่ 1 ได้ทรงรวบรวมดินแดนส่วนมากของกอลภายใต้การปกครองของพระองค๋ในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 5 นับเป็นจุดเริ่มต้นของอิทธิพลชาวแฟรงก์ในภูมิภาคนี้ที่ดำเนินต่อไปอีกหลายร้อยปี อำนาจของแฟรงก์ดำเนินมาถึงจุดสูงสุดในช่วงของพระเจ้าชาร์เลอมาญ ราชอาณาจักรฝรั่งเศสยุคกลางก็ได้ถือกำเนิดขึ้นจากการเป็นพื้นที่ส่วนหนึ่งทางทิศตะวันตกของจักรวรรดิการอแล็งเฌียงของชาร์เลอมาญ ซึ่งรู้จักกันในนาม ฟรังเกียตะวันตก และเพิ่มพูนอิทธิพลของตนขึ้นเรื่อยมาภายใต้การปกครองของตระกูลกาแปซึ่งก่อตั้งโดยอูก กาแปในปี..

ใหม่!!: สงครามสืบราชบัลลังก์สเปนและประวัติศาสตร์ฝรั่งเศส · ดูเพิ่มเติม »

ประวัติศาสตร์สหรัฐ

วันเริ่มต้นประวัติศาสตร์ของประเทศสหรัฐมีการถกเถียงกันในหมู่นักประวัติศาสตร.

ใหม่!!: สงครามสืบราชบัลลังก์สเปนและประวัติศาสตร์สหรัฐ · ดูเพิ่มเติม »

ประวัติศาสตร์สเปน

ตราสัญลักษณ์ของประเทศสเปน โบสถ์ซานตามารีอาเดลนารังโก เมืองโอเบียโด ภาคเหนือ อารามหลวงเอลเอสโกเรียล กรุงมาดริด ภาคกลาง พิพิธภัณฑ์วิจิตรศิลป์ เมืองบาเลนเซีย ภาคตะวันออก ปราสาทอาลัมบรา เมืองกรานาดา ภาคใต้ ประวัติศาสตร์สเปน คือเรื่องราวความเป็นมาเกี่ยวกับอาณาบริเวณส่วนใหญ่บนคาบสมุทรไอบีเรียในภูมิภาคยุโรปใต้ซึ่งมีพัฒนาการสืบเนื่องมาตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์ ผ่านยุครุ่งเรืองและยุคตกต่ำของจักรวรรดิสากลแห่งแรกของโลกจนกลายมาเป็นราชอาณาจักรสเปนในปัจจุบัน อันเป็นช่วงฟื้นฟูตนเองหลังสมัยการปกครองแบบเผด็จการของนายพลฟรังโกได้ผ่านพ้นไป มีอยู่หลายช่วงที่ประวัติศาสตร์การเมืองและการทหารของสเปนเต็มไปด้วยความวุ่นวายและความรุนแรง ส่วนใหญ่เกิดจากนโยบายและความพยายามที่จะจัดการกับความแตกต่างทางเชื้อชาติ ศาสนา และความคิดความเชื่อในดินแดนของตนนั่นเอง มนุษย์สมัยใหม่เข้ามาในคาบสมุทรไอบีเรียเป็นเวลานานกว่า 35,000 ปีมาแล้ว ตามมาด้วยคลื่นผู้รุกรานและผู้ตั้งอาณานิคมชนชาติต่าง ๆ ได้แก่ ชาวเคลต์ ชาวฟินิเชีย ชาวคาร์เทจ และชาวกรีกตลอดระยะเวลานับพัน ๆ ปี เมื่อถึงประมาณ 200 ปีก่อนคริสต์ศักราช ทั้งคาบสมุทรจึงตกเป็นส่วนหนึ่งของสาธารณรัฐโรมัน ก่อนจะตกไปอยู่ภายใต้การปกครองจากชาววิซิกอท และในปี ค.ศ. 711 ชาวแอฟริกาเหนือซึ่งเป็นชาวมุสลิม (ชาวมัวร์) ก็เริ่มเข้ามามีอำนาจ ในที่สุดอาณาจักรอิสลามก็ได้รับการสถาปนาขึ้นบนคาบสมุทรแห่งนี้และยืนหยัดได้เป็นเวลาประมาณ 750 ปี ซึ่งพื้นที่ที่ชาวมุสลิมครอบครองนั้นเป็นที่รู้จักกันในชื่อ อัลอันดะลุส แต่ในช่วงเวลาเดียวกันนี้ยังเป็นช่วงที่เรียกว่า "เรกองกิสตา" หรือการยึดดินแดนคืนของชาวคริสต์ซึ่งค่อย ๆ รุกลงไปทางใต้ เหตุการณ์เหล่านี้ดำเนินไปถึงจุดสิ้นสุดเมื่อชาวคริสต์สามารถพิชิตที่มั่นแห่งสุดท้ายของชาวมุสลิมที่กรานาดาได้ในปี ค.ศ. 1492 จากนั้นราชอาณาจักรและรัฐคาทอลิกต่าง ๆ บนคาบสมุทรไอบีเรียก็ได้พัฒนาขึ้น รวมทั้งราชอาณาจักรคาสตีลและราชอาณาจักรอารากอนด้วย ซึ่งการรวมกันของอาณาจักรทั้งสองนี้จะนำไปสู่ความเป็นปึกแผ่นของรัฐชาติสเปนในเวลาต่อมา ปี..

ใหม่!!: สงครามสืบราชบัลลังก์สเปนและประวัติศาสตร์สเปน · ดูเพิ่มเติม »

ประวัติศาสตร์อังกฤษ

อังกฤษ เป็นประเทศที่ใหญ่ที่สุด และมีประชากรมากที่สุดเมื่อเปรียบเทียบกับประเทศอื่นๆ ในสหราชอาณาจักร ประวัติศาสตร์อังกฤษเริ่มขึ้นเมื่อมีการตั้งถิ่นฐานของมนุษย์เมื่อหลายพันปีมาแล้ว ภูมิภาคที่ปัจจุบันคืออังกฤษภายในสหราชอาณาจักรเป็นที่ตั้งถิ่นฐานของมนุษย์นีอันเดอร์ธอลราว 230,000 ปีมาแล้ว ขณะที่มนุษย์โฮโมเซเพียนซึ่งเป็นมนุษย์สมัยใหม่เริ่มเข้ามาตั้งถิ่นฐานราว 29,000 ปีมาแล้ว แต่การอยู่ต่อเนื่องกันโดยตลอดเริ่มขึ้นราว 11,000 ปีมาแล้วในปลายยุคน้ำแข็ง ในบริเวณภูมิภาคนี้ยังมีร่องรอยของมนุษย์สมัยต่างๆ ที่เข้ามาตั้งถิ่นฐานที่เริ่มตั้งแต่ยุคหินกลาง, ยุคหินใหม่ และ ยุคสำริด เช่น สโตนเฮนจ์ และเนินดินที่เอฟบรี ในยุคเหล็กอังกฤษก็เช่นเดียวกับบริเตนทั้งหมดทางใต้ของเฟิร์ธออฟฟอร์ธเป็นที่ตั้งถิ่นฐานของชนเคลต์ที่เป็นกลุ่มชนที่เรียกว่า บริเตน (Briton) หรือเผ่าเบลแจ ในปี..

ใหม่!!: สงครามสืบราชบัลลังก์สเปนและประวัติศาสตร์อังกฤษ · ดูเพิ่มเติม »

ประเทศสเปน

ไม่มีคำอธิบาย.

ใหม่!!: สงครามสืบราชบัลลังก์สเปนและประเทศสเปน · ดูเพิ่มเติม »

แฟร์ดีนันด์ อัลเบร็คท์ที่ 2 ดยุกแห่งเบราน์ชไวค์-โวลเฟนบึทเทิล

แฟร์ดีนันด์ อัลเบร็คท์ที่ 2 (Ferdinand Albrecht II) เป็นทหารในกองทัพแห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ และเจ้าชายแห่งโวลเฟนบึทเทิลในปีค.ศ. 1735 พระองค์ได้รับราชการทหารในราชสำนักออสเตรีย ได้ทรงร่วมรบในสงครามสืบราชบัลลังก์สเปนและได้ร่วมต่อสู้ขับไล่ชาวเติร์กภายในการนำของเจ้าชายยูจีนแห่งซาวอ.

ใหม่!!: สงครามสืบราชบัลลังก์สเปนและแฟร์ดีนันด์ อัลเบร็คท์ที่ 2 ดยุกแห่งเบราน์ชไวค์-โวลเฟนบึทเทิล · ดูเพิ่มเติม »

แมรีแห่งโมดีนา สมเด็จพระราชินีแห่งอังกฤษ

มเด็จพระราชินีแมรีแห่งโมดีนา (ภาษาอังกฤษ: Mary of Modena) (5 ตุลาคม ค.ศ. 1658 – 7 พฤษภาคม ค.ศ. 1718) สมเด็จพระราชินีแมรีแห่งโมดีนามีพระนามเต็มว่า แมรี เบียทริส เอเลเนอร์ แอนนา มาร์เกอริตา อิสซาเบลลา เดสเต (Maria Beatrice Eleanor Anna Margherita Isabella d'Este) ประสูติเมื่อวันที่ 5 ตุลาคม ค.ศ. 1658 ที่วังดยุก โมดีนา ประเทศอิตาลี เป็นพระธิดาของอัลฟองโซที่ 4 ดยุกแห่งโมดีนาและลอรา มาร์ตินอซซิ เป็นพระราชินีในสมเด็จพระเจ้าเจมส์ที่ 2 แห่งอังกฤษ ระหว่างวันที่ 6 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1685 ถึงวันที่ 11 ธันวาคม ค.ศ. 1688 และสิ้นพระชนม์เมื่อ 7 พฤษภาคม ค.ศ. 1718 ที่วังซองเจอร์เมนอองเลย์ ปารีส ฝรั่งเศส พระศพอยู่ที่ Chaillot สมเด็จพระราชินีแมรีแห่งโมดีนาไม่ทรงเป็นที่นิยมของประชาชนอังกฤษเพราะทรงเป็นเป็นโรมันคาทอลิก เป็นพระมารดาของ เจมส์ ฟรานซิส เอ็ดเวิร์ด สจวต ประสูติเมื่อวันที่ 10 มิถุนายน..

ใหม่!!: สงครามสืบราชบัลลังก์สเปนและแมรีแห่งโมดีนา สมเด็จพระราชินีแห่งอังกฤษ · ดูเพิ่มเติม »

แมรีแห่งเบอร์กันดี

แมรีแห่งเบอร์กันดี หรือ แมรีผู้มั่งคั่ง (Mary of Burgundy หรือ Mary the Rich) (13 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1457 - 27 มีนาคม ค.ศ. 1482) แมรีแห่งเบอร์กันดีเป็นบุตรีของชาร์ลส์เดอะโบลด์ ดยุกแห่งเบอร์กันดีและอิซาเบลลาแห่งบูร์บอง และมีบรรดาศักดิ์เป็นดัชเชสแห่งแห่งเบอร์กันดี ระหว่างปี ค.ศ. 1477 จนกระทั่งเสียชีวิตเมื่อวันที่ 27 มีนาคม ค.ศ. 1482 แมรีเป็นธิดาคนเดียวของชาร์ลส์เดอะโบลด์ซึ่งทำให้มีสิทธิเป็นทายาทของดินแดนเบอร์กันดีอันใหญ่โตในฝรั่งเศสและในกลุ่มประเทศแผ่นดินต่ำเมื่อบิดาเสียชีวิตในยุทธการนองซี (Battle of Nancy) เมื่อวันที่ 5 มกราคม ค.ศ. 1477 แม่ของแมรีเสียชีวิตก่อนหน้านั้นในปี ค.ศ. 1465 แต่แมรีมีความสัมพันธ์อันดีกับแม่เลี้ยงมาร์กาเร็ตแห่งยอร์คผู้ที่ชาร์ลส์เดอะโบลด์สมรสด้วยในปี ค.ศ. 1468.

ใหม่!!: สงครามสืบราชบัลลังก์สเปนและแมรีแห่งเบอร์กันดี · ดูเพิ่มเติม »

แคว้นกาตาลุญญา

กาตาลุญญา (Catalunya; Cataluña), กาตาลุญญอ (อารัน: Catalonha) หรือ แคทาโลเนีย (Catalonia) เป็นภูมิภาคหนึ่งทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือสุดของคาบสมุทรไอบีเรีย ปัจจุบัน สถานะทางรัฐธรรมนูญของภูมิภาคนี้เป็นประเด็นข้อพิพาทระหว่างราชอาณาจักรสเปนซึ่งถือว่ากาตาลุญญาเป็นแคว้นปกครองตนเองแห่งหนึ่งของตน กับฌานาราลิตัตดากาตาลุญญา (ทบวงการปกครองในท้องถิ่น) ซึ่งถือว่ากาตาลุญญาเป็นสาธารณรัฐเอกราชหลังจากที่สภานิติบัญญัติกาตาลุญญาประกาศเอกราชจากสเปนเมื่อวันที่ 27 ตุลาคม..

ใหม่!!: สงครามสืบราชบัลลังก์สเปนและแคว้นกาตาลุญญา · ดูเพิ่มเติม »

เชอวาเลีย เดอ ฟอบัง

เชอวาเลีย เดอ ฟอบัง ในเครื่องแต่งกายแบบขุนนางสยาม ที่ตำแหน่ง "ออกพระศักดิสงคราม" โกลด เดอ ฟอร์แบ็ง-การ์ดาน (Claude de Forbin-Gardanne) หรือ เชอวาเลีย เดอ ฟอบัง (Chevalier de Forbin) เป็นนายเรือโทชาวฝรั่งเศส เข้ามากับคณะทูตของพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 แห่งฝรั่งเศส เพื่อมาเจริญสัมพันธ์ไมตรีกับสมเด็จพระนารายณ์ แห่งกรุงศรีอยุธยา เมื่อพ.ศ. 2228 สมเด็จพระนารายณ์มหาราช ตรัสขอฟอบังไว้รับราชการ แล้วทรงตั้งให้เป็นนายทหารชั้นผู้ใหญ่ ต่อมามีบรรดาศักดิ์เป็น ออกพระศักดิ์สงคราม หมวดหมู่:บุคคลที่เกิดในปี พ.ศ. 2199 หมวดหมู่:ทหารชาวฝรั่งเศส หมวดหมู่:บุคคลในประวัติศาสตร์กรุงศรีอยุธยา หมวดหมู่:ขุนนางในสมัยราชวงศ์ปราสาททอง หมวดหมู่:ชาวต่างชาติในกรุงศรีอยุธยา หมวดหมู่:บรรดาศักดิ์ชั้นพระ.

ใหม่!!: สงครามสืบราชบัลลังก์สเปนและเชอวาเลีย เดอ ฟอบัง · ดูเพิ่มเติม »

เจ้าชายยูจีนแห่งซาวอย

้าชายยูจีนแห่งซาวอย หรือ เจ้าชายเออแฌนแห่งซาวัว-คารินยอง (Eugen von Savoyen; Eugène de Savoie-Carignan); Prince Eugene of Savoy) (18 ตุลาคม ค.ศ. 1663 - 21 เมษายน ค.ศ. 1736) เจ้าชายยูจีนแห่งซาวอยเป็นแม่ทัพผู้มีชื่อเสียงและมีสมรรถภาพที่สุดคนหนึ่งในประวัติศาสตรยุโรป เจ้าชายยูจีนแห่งซาวอยประสูติที่ปารีสจากพระบิดามารดาที่เป็นเจ้านายซาวอย เจ้าชายยูจีนเจริญพระชันษาขึ้นมาในราชสำนักฝรั่งเศสของพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 เดิมพระองค์มีพระประสงค์จะดำเนินอาชีพเป็นนักบวชแต่เมื่อมีพระชนม์ได้ 19 ก็หันไปสนใจกับอาชีพการเป็นทหาร เมื่อถูกปฏิเสธโดยพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 จากการเข้ารับราชการในกองทัพฝรั่งเศส เจ้าชายยูจีนก็ทรงย้ายไปออสเตรียและหันไปสวามิภักดิ์ต่อราชวงศ์ฮับส์บวร์ก เจ้าชายยูจีนแห่งซาวอยรับราชการอยู่หกสิบปีภายใต้จักรพรรดิฮับส์บวร์กสามพระองค์ – จักรพรรดิลีโอโพลด์ที่ 1, จักรพรรดิโจเซฟที่ 1 และ จักรพรรดิคาร์ลที่ 6 สงครามครั้งแรกที่เจ้าชายยูจีนทรงมีส่วนร่วมคือการสงครามต่อต้านการล้อมกรุงเวียนนาของออตโตมันเติร์กในยุทธการเวียนนาใน ค.ศ. 1683 และต่อมาสงครามสันนิบาตศักดิ์สิทธิ์ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของมหาสงครามตุรกี ก่อนที่จะเข้าร่วมในสงครามเก้าปีพร้อมกับลูกพี่ลูกน้องวิคเตอร์ อมาเดอุสที่ 2 ดยุคแห่งซาวอย แต่ชื่อเสียงของเจ้าชายยูจีนมามั่นคงเมื่อได้รับชัยชนะอย่างเด็ดขาดต่อออตโตมันในยุทธการเซนทาในปี ค.ศ. 1697 จากนั้นก็มีชื่อเสียงเพิ่มขึ้นระหว่างสงครามสืบราชบัลลังก์สเปนเมื่อไปทำการเป็นพันธมิตรกับจอห์น เชอร์ชิลล์ ดยุคแห่งมาร์ลบะระห์ที่ได้รับชัยชนะต่อฝรั่งเศสในยุทธการเบล็นไฮม์, ยุทธการอูเดอนาร์ด และ ยุทธการมาลพลาเคต์ จากนั้นก็ไปได้รับความสำเร็จในฐานะแม่ทัพของกองทัพของพระจักรพรรดิทางตอนเหนือของอิตาลี โดยเฉพาะในยุทธการตูรินในปี ค.ศ. 1706 เมื่อความขัดแย้งกับจักรวรรดิออตโตมันเริ่มขึ้นอีกครั้งในสงครามออสเตรีย-ตุรกี ค.ศ. 1716-1718 เจ้าชายยูจีนก็ทรงสามารถปราบปรามข้าศึกศัตรูได้ในยุทธการเปโตรวาราดิน และ ยุทธการเบลเกรด ตลอดคริสต์ทศวรรษ 1720 อิทธิพลและความสามารถทางการทูตของของเจ้าชายยูจีนก็สามารถสร้างความมั่นคงให้แก่จักรพรรดิแห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ในปัญญาขัดแย้งต่างๆ ที่เกี่ยวกับการสืบราชบัลลังก์ แต่ในบั้นปลายของชีวิตความเหนื่อยร้าและสุขภาพทางจิตที่เปราะบางทำให้พระองค์ไม่ทรงประสบความสำเร็จในฐานะผู้บังคับบัญชาทหารสูงสุดในการพยายามยุติสงครามสืบราชบัลลังก์โปแลนด์ได้ แต่กระนั้นในออสเตรีย ชื่อเสียงของเจ้าชายยูจีนก็ไม่มีผู้ใดเทียมได้ ความเห็นเกี่ยวกับบุคลิกของเจ้าชายยูจีนอาจจะแตกต่างกันไป แต่ก็ไม่มีผู้ใดที่จะค้านความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ที่พระองค์ทรงป้องกันจักรวรรดิฮับส์บวร์กจากถูกกลืนไปเป็นของฝรั่งเศส และทรงหยุดยั้งการรุกรานมาทางตะวันตกของจักรวรรดิออตโตมัน และปลดปล่อยยุโรปกลางจากการยึดครองของออตโตมันที่ดำเนินมาเป็นเวลาร้อยห้าสิบปี นอกจากนั้นเจ้าชายยูจีนก็ยังทรงเป็นผู้อุปถัมภ์ศิลปะคนสำคัญ เจ้าชายยูจีนสิ้นพระชนม์เมื่อวันที่ 21 เมษายน ค.ศ. 1736 เมื่อมีพระชนมายุได้ 72 พรรษ.

ใหม่!!: สงครามสืบราชบัลลังก์สเปนและเจ้าชายยูจีนแห่งซาวอย · ดูเพิ่มเติม »

เคานต์แห่งบาร์เซโลนา

นต์แห่งบาร์เซโลนา (Count of Barcelona) เป็นประมุขคนสำคัญของกาตาลุญญาระหว่างคริสต์ศตวรรษที่ 9 จนถึงคริสต์ศตวรรษที่ 17 เคาน์ตีแห่งบาร์เซโลนาก่อตั้งขึ้นโดยชาร์เลอมาญหลังจากที่ทรงได้รับชัยชนะต่อดินแดนทางตอนเหนือของแม่น้ำเอโบร ดินแดนเหล่านี้ที่เรียกว่า "ภูมิภาคชายแดนฮิสปาเนีย" ถูกแบ่งออกเป็นเคาน์ตีย่อย ๆ ที่รวมทั้งเคาน์ตีบาร์เซโลนาที่มักจะเป็นอาณาจักรหลักของภูมิภาค ความสัมพันธ์ระหว่างเคาน์ตีกับประมุขแฟรงก์เริ่มห่างเหินขึ้นโดยเฉพาะเมื่อราชวงศ์กาเปเซียงมาแทนที่ราชวงศ์การอแล็งเฌียง ในคริสต์ศตวรรษที่ 11 เคานต์แห่งบาร์เซโลนาก็รวมราชวงศ์ (dynastic union) กับราชอาณาจักรอารากอนภายใต้ประมุขร่วมกัน ในปี..

ใหม่!!: สงครามสืบราชบัลลังก์สเปนและเคานต์แห่งบาร์เซโลนา · ดูเพิ่มเติม »

เนเธอร์แลนด์ของสเปน

นเธอร์แลนด์ของสเปน (Spanish Netherlands) มีเรียกว่า เซาเทิร์นเนเธอร์แลนด์ (Southern Netherlands) เป็นพื้นที่ในจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์โดยบางส่วนก็แยกตัวออกมาจากจักรวรรดิ มีทั้งหมด 17 มณฑลในตอนแรกโดยสมเด็จพระจักรพรรดิแม็กซิมีเลียนที่ 1 แห่งโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ อภิเษกสมรสกับแมรีแห่งเบอร์กันดี โดยมีรัฐ 7 รัฐที่แยกเป็นสาธารณรัฐดัต.

ใหม่!!: สงครามสืบราชบัลลังก์สเปนและเนเธอร์แลนด์ของสเปน · ดูเพิ่มเติม »

เปลี่ยนเส้นทางที่นี่:

War of the Spanish Successionสงครามสืบราชสมบัติสเปน

ขาออกขาเข้า
Hey! เราอยู่ใน Facebook ตอนนี้! »