เรากำลังดำเนินการเพื่อคืนค่าแอป Unionpedia บน Google Play Store
ขาออกขาเข้า
🌟เราได้ทำให้การออกแบบของเราง่ายขึ้นเพื่อการนำทางที่ดีขึ้น!
Instagram Facebook X LinkedIn

ยุทธการมู่เหย่

ดัชนี ยุทธการมู่เหย่

ทธการมู่เหย่ (Battle of Muye) เป็นการสู้รบระหว่างราชวงศ์ซางกับราชวงศ์โจว เกิดขึ้นประมาณปีที่ 1046 ก่อนคริสต์ศักราช ประมาณศตวรรษที่ 12 ก่อนคริสต์ศักราช ราชวงศ์ซางได้ขยายอิทธิพลมาทางตะวันตกแถบหุบเขาแม่น้ำเว่ย์ ซึ่งตระกูลโจวปกครองอยู่ พระเจ้าโจวเหวินเป็นผู้ปกครองดินแดนพระองค์หนึ่งของราชวงศ์ซางและเคยช่วยเหลือพระเจ้าซางโจ้วในตอนที่พระองค์นำทัพบุกภาคตะวันออกเฉียงใต้ แต่พระเจ้าซางโจ้วรู้สึกระแวงจึงสั่งคุมขังพระเจ้าโจวเหวิน ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างซางและโจวตึงเครียดขึ้น ภายหลังที่ถูกปล่อยตัวออกมา พระเจ้าโจวเหวินได้นำกองทัพพิชิตดินแดนต่าง ๆ ที่ภักดีต่อราชวงศ์ซาง แต่ในปีที่ 1050 ก่อนคริสต์ศักราช พระองค์เสด็จสวรรคต พระเจ้าโจวอู่ พระโอรสก่อกบฏต่อพระเจ้าซางโจ้วโดยมีประชาชนเข้าร่วมจำนวนมาก พระเจ้าโจวอู่ได้รับคำแนะนำจากที่ปรึกษา เจียง จื่อหยา ให้นำกำลัง 50,000 นายเข้าตีกองทัพพระเจ้าซางโจ้วที่กำลังติดพันกับการศึกทางทิศตะวันออก แต่พระเจ้าซางโจ้ววางกำลังทหารไว้ป้องกันเมืองอินซฺวี เมืองหลวงราว 530,000 นายและทาสกว่า 170,000 คน อย่างไรก็ตาม กลุ่มทาสได้แปรพักตร์ไปอยู่ฝ่ายพระเจ้าโจวอู่ ทำให้ขวัญกำลังใจทหารซางลดน้อยลง ทั้งสองฝ่ายปะทะกันที่ตำบลมู่เหย่ ทางตะวันตกเฉียงใต้ของเมืองอินซฺวี ทหารฝ่ายราชวงศ์ซางส่วนใหญ่ลดอาวุธลงและแปรพักตร์เพราะไม่อยากรบเพื่อพระเจ้าซางโจ้ว แต่บางส่วนยังไม่ยอมจำนนจึงเกิดการสู้รบกันอย่างรุนแรง พระเจ้าซางโจ้วหลบหนีไปที่เมืองหลวงหลังเห็นว่าทัพของพระองค์พ่ายแพ้ หลังการสู้รบ พระเจ้าซางโจ้วได้ปลงพระชนม์พระองค์เอง พระเจ้าโจวอู่สังหารพระนางต๋าจี่ พระมเหสีของพระเจ้าซางโจ้วหลังพบว่าพระนางวางแผนลอบปลงพระชนม์พระองค์ ข้าวในท้องพระคลังถูกนำไปแจกจ่ายให้ประชาชนทั่วไป ยุทธการมู่เหย่เป็นจุดสิ้นสุดของราชวงศ์ซาง และการขึ้นสู่อำนาจของราชวงศ์โจว.

สารบัญ

  1. 1 ความสัมพันธ์: ราชวงศ์ชาง

ราชวงศ์ชาง

ราชวงศ์ชาง (Shang dynasty) เป็นราชวงศ์จีนที่ปกครองต่อจากราชวงศ์เซี่ย ปกครองดินแดนแถบแม่น้ำเหลืองเมื่อประมาณ 2000 ปีก่อนคริสตกาล บางครั้งเรียกว่า "ราชวงศ์อิน" (Yin dynasty) ราชวงศ์นี้เป็นยุคแห่งไสยศาสตร์โดยแท้ นิยมการเสี่ยงทายด้วยกระดองเต่ากันมาก จากหลักฐานที่ขุดได้ พบเป็นแผ่นจารึกตัวอักษรโบราณ และเศษกระดองเต่า มีรอยแตกอยู่ทั่วไป แสดงถึงความเชื่อในอำนาจแห่งสวรรค์ ถือว่าทุกสิ่ง สวรรค์เป็นผู้กำหนด ราชวงศ์ชางมีกษัตริย์ 30 องค์ กษัตริย์องค์สุดท้ายชื่อ พระเจ้าอินโจวหรือ โจ้ว (ติวอ๋อง) ซึ่งในประวัติศาสตร์ประณามไว้ว่า เป็นคนโหดร้ายทารุณมาก นิยมการสงคราม และหลงใหลในอิสตรี โดยเฉพาะสนมเอกชื่อ ต๋าจี หรือขันกี ซึ่งเป็นคนวิปริตผิดมนุษย์ คอยยุยงให้โจ้วฆ่าคนเป็นผักปลา สร้างสระเหล้าดงเนื้อขึ้น (เอาน้ำเหล้ามาใส่ในสระ แล้วเอาเนื้อสัตว์มาห้อยไว้ตามต้นไม้) ต่อมาโจวอู่หวัง เจ้าผู้ครองแคว้นโจวทางตะวันตก ได้ยกทัพมาปราบโจ้วอ๋อง โดยอ้างว่า ได้รับ "อาณัติ" หรือ "เทียนมิ่ง" จากสวรรค์ให้มาปราบ และได้ชัยชนะ โจ้วอ๋องจึงฆ่าตัวตายโดยกระโดดลงกองไฟ แต่จริง ๆ แล้ว นักประวัติศาสตร์ยังไม่แน่ใจนัก ว่าโจ้วอ๋องจะโหดร้ายเช่นนั้นจริงหรือไม่ เพราะไม่มีหลักฐานชัดเจน รวมทั้งเรื่องเกี่ยวกับต๋าจีด้วย เรื่องราวในตอนท้ายราชวงศ์ชางนี้ ได้มีการนำไปแต่งเป็นนิยายหลายเรื่อง หนึ่งในเรื่องนั้นก็คือ "นาจา" และ "เทพประยุทธ์พิชิตฟ้า" นั่นเอง และหนังสือพงศาวดารชื่อว่า "ฮ่องสิน" โดยจะเน้นหนักไปทางอิทธิปาฏิหาริย์เสียมาก หมวดหมู่:ราชวงศ์จีน หมวดหมู่:ราชวงศ์ชาง หมวดหมู่:รัฐและดินแดนที่ก่อตั้งในศตวรรษที่ 16 ก่อนคริสตกาล หมวดหมู่:สิ้นสุดในศตวรรษที่ 11 ก่อนคริสตกาล หมวดหมู่:รัฐสิ้นสภาพในประวัติศาสตร์จีน.

ดู ยุทธการมู่เหย่และราชวงศ์ชาง

หรือที่รู้จักกันในชื่อ ยุทธการมู่ยี