สารบัญ
9 ความสัมพันธ์: พลับพลึงธารวิวัฒนาการเบนเข้าว่านหางจระเข้หลังคาเขียวคุณนายตื่นสายซากัวโรเตกีลาเต่าเสือดาวLithops
พลับพลึงธาร
ลับพลึงธาร หรือ หอมน้ำ (อังกฤษ: Onion plant, Thai onion plant, Water onion) พืชน้ำชนิดหนึ่ง มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Crinum thaianum อยู่ในวงศ์พลับพลึง (Amaryllidaceae) จัดเป็นพืชอวบน้ำ ดอกมีสีขาว มี 6 กลีบ ในก้านชูดอกหนึ่งๆ จะมีหลายก้านดอก จะทะยอยบานติดต่อกันไป ดอกหนึ่งๆ จะมีก้านเกสร 6 อัน มีเกสรสีเหลืองที่ปลายก้านเกสร ตรงกลางดอกจะมีก้านเกสรตัวเมียโผล่มาจากแกนกลางของดอก หลังจากผสมเกสร กะเปาะเมล็ดจะเจริญเติบโตที่โคนก้านดอก กะเปาะหนึ่งจะมีจำนวนเมล้ดที่ไม่เท่ากัน มีลักษณะบูดเบี้ยวเป็นทรงที่ไม่แน่นอน พอเมล็ดแก่จะหลุดออกจากกะเปาะ พัฒนาสายรกออกด้านใดด้านหนึ่งของเมล็ด ตรงปลายสายรกจะพัฒนาเป็นต้นใหม่และมีรากยึดติดกับพื้นคลอง ในระหว่างที่รากยังไม่สามารถเกาะยึดพื้นคลองได้ เมล็ดจะเป็นแหล่งอาหารให้กับต้นอ่อนได้นาน 3-4 เดือน หัวมีลักษณะคล้ายหัวหอม จึงมีชื่อเรียกว่า "หอมน้ำ" หัวจะโผล่ขึ้นเหนือผิวดินประมาณ 1 ใน 3 เพื่อป้องกันการเน่า ใบจะเป็นสีเขียวเรียวยาวเหมือนริบบิ้น ความยาวขึ้นอยู่กับระดับน้ำ บางพื้นที่ที่น้ำลึกใบอาจจะยาวได้ถึง 4 เมตร พลับพลึงธาร ถือได้ว่าเป็นพืชน้ำที่สวยงามและหายากมากที่สุดชนิดหนึ่ง โดยพบได้เฉพาะที่จังหวัดระนองตอนล่างและพังงาตอนบน ในจังหวัดระนองพบที่คลองนาคา ตำลนาคา อำเภอสุขสำราญ และที่คลองบางปรุ ตำบลกะเปอร์ อำเภอกะเปอร์ ส่วนที่จังหวัดพังงา พบที่คลองตาผุด บ้านห้วยทรัพย์ คลองสวนลุงเลื่อน ตำบลคุระ อำเภอคุระบุรี คลองนายทุย คลองบ้านทับช้าง คลองบ้านโชคอำนวย ตำบลแม่นางขาว อำเภอคุระบุรี และตามคลองย่อยต่างๆ ในเขตรอยต่ออำเภอคุระบุรีและอำเภอตะกั่วป่า เป็นพืชเฉพาะถิ่น ไม่พบที่ใหนในโลก ปัจจุบันพบเหลือแค่ร้อยละ 1 เท่านั้น และพบขึ้นอยู่อย่างกระจัดกระจาย จึงได้ขึ้นเป็นบัญชีพืชที่ใกล้สูญพันธุ์ของโลก (IUCN Redlist) เมื่อปี..
วิวัฒนาการเบนเข้า
วิวัฒนาการเบนเข้า (Convergent evolution) คือการวิวัฒนาการแบบที่สิ่งมีชีวิตที่ไม่ได้มีบรรพบุรุษร่วมกัน แต่มีลักษณะที่วิวัฒนาการได้ผลลัพธ์ที่คล้ายกัน แต่ต้องกำหนดจุดเริ่มต้นและจุดสุดท้ายที่ใช้ในการสังเกต และเปรียบเทียบกลไกการวิวัฒนาการที่เกิดขึ้น ปีกเป็นตัวอย่างวิวัฒนาการเบนเข้าที่ยอดเยี่ยม แมลงบินได้ นก และค้างคาว ต่างมีวิวัฒนาการการบินที่อิสระ แต่มาบรรจบกันตรงคุณลักษณะที่มีประโยชน์นี้.
ดู พืชอวบน้ำและวิวัฒนาการเบนเข้า
ว่านหางจระเข้
ว่านหางจระเข้ เป็นต้นพืชที่มีเนื้ออิ่มอวบ จัดอยู่ในตระกูลลิเลี่ยม (Lilium) แหล่งกำเนิดดั้งเดิมอยู่ในชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียนและบริเวณตอนใต้ของทวีปแอฟริกา พันธุ์ของว่านหางจระเข้มีมากมายกว่า 300 ชนิด ซึ่งมีทั้งพันธุ์ที่มีขนาดใหญ่มากจนไปถึงพันธุ์ที่มีขนาดเล็กกว่า 10 เซนติเมตร ลักษณะพิเศษของว่านหางจระเข้ก็คือ มีใบแหลมคล้ายกับเข็ม เนื้อหนา และเนื้อในมีน้ำเมือกเหนียว ว่านหางจระเข้ผลิดอกในช่วงฤดูหนาว ดอกจะมีสีต่างๆกัน เช่น เหลือง ขาว และแดง เป็นต้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับพันธุ์ของมัน คำว่า "อะโล" (Aloe) เป็นภาษากรีซโบราณ หมายถึงว่านหางจระเข้ ซึ่งแผลงมาจากคำว่า "Allal" มีความหมายว่า ฝาดหรือขม ในภาษายิว ฉะนั้นเมื่อผู้คนได้ยินชื่อนี้ ก็จะทำให้นึกถึงว่านหางจระเข้ ว่านหางจระเข้เดิมเป็นพืชที่ขึ้นในเขตร้อนต่อมาได้ถูกนำไปแพร่พันธุ์ในยุโรปและเอเชีย และทุกวันนี้ทั่วโลกกำลังเกิดกระแสนิยมว่านหางจระเข้กันเป็นการใหญ.
หลังคาเขียว
้านในรัฐนิวฟันด์แลนด์และแลบราดอร์ที่สร้างขึ้นใหม่ตามแบบบ้านไวกิง หลังคาปลูกหญ้ของบ้านหลายพลังที่เห็นในหม่บ้าน Bøur และเกาะฟาโร(Faroe Islands) หลังคาเขียว (green roof) คือหลังคาของอาคารที่ปิดทับบางส่วนหรือทั้งหมดด้วยพืชพรรณและดิน หรือเครื่องปลูกอย่างอื่นบนชั้นแผ่นกันน้ำ ในที่นี้ไม่ได้หมายถึงหลังคาที่ทาด้วยสีเขียว หรือวัสดุมุงสีเขียวใดๆ หลังคาเขียวอาจรวมส่วนประกอบอื่น เช่นแผ่นชั้นกันราก ระบบระบายน้ำและระบบรดน้ำต้นไม้ สวนกระถางที่จัดบนหลังคาซึ่งต้นไม้ปลูกในกระถางอิสระไม่นับเป็น “หลังคาเขียว” ที่แท้จริงในความหมายนี้ แม้จะยังเป็นที่ถกเถียงกันได้อยู่ คำว่า “หลังคาเขียว” อาจใช้กับหลังคาที่ใช้เทคโลโลยี “เขียว” บางรูปแบบ เช่นแผงผลิตไฟฟ้าจากพลังสุริยะด้วยก็ได้ หลังคาเขียวอาจหมายถึงหลังคาแบบอื่น เช่น หลังคานิเวศ (eco-roofs) หลังคามีชีวิต (living roofs) ที่มีเป้าหมายของแนวคิดเดียวกัน ปัจจุบัน ประโยชน์ของหลังคาเขียวได้ถูกนำมาใช้เป็นมาตรการหนึ่งทางสถาปัตยกรรมและการผังเมืองเพื่อช่วยบรรเทาปรากฏการณ์โลกร้อน.
คุณนายตื่นสาย
ณนายตื่นสาย (Common Purslane, Verdolaga, Pigweed, Little Hogweed หรือ Pusley) เป็นพืชล้มลุก อวบน้ำในวงศ์ผักเบี้ย สามารถสูงได้ถึง 40 ซม.มีประมาณ 40 สายพันธุ์ในการปลูกเลี้ยงในปัจจุบัน มีการกระจายพันธุ์ในโลกเก่าตั้งแต่แอฟริกาเหนือถึงตะวันออกกลางและอนุทวีปอินเดียถึงเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และออสตราเลเซีย ดอกชนิดนี้บานเมื่อมีแสงแดดส่องทั่วถึง คุณนายตื่นสายมีชื่อพื้นเมืองอื่นอีกดังนี้: ผักตาโค้ง (นครราชสีมา) ผักเบี้ยดอกเหลือง (กลาง) ผักเบี้ยใหญ่ (กลาง) และ ผักอีหลู (เงี้ยว แม่ฮ่องสอน)เต็ม สมิตินันทน์ สำนักงานหอพรรณไม้ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช,..
ซากัวโร
อกซากัวโร ซากัวโร (Saguaro) เป็นพืชอวบน้ำจำพวกกระบองเพชรหรือแคกตัสที่มีขนาดใหญ่ เป็นชนิดที่สูงที่สุดของกระบองเพชรที่พบในสหรัฐอเมริกา คำว่า "ซากัวโร" มาจากภาษาสเปน ซึ่งยืมมาจากภาษามาโยอีกทีหนึ่ง เป็นพืชเพียงชนิดเดียวเท่านั้นที่อยู่ในสกุล Carnegiea พบทางตอนใต้ของแอริโซนา, แคลิฟอร์เนีย และทะเลทรายโซนอรันทางตะวันตกเฉียงเหนือของเม็กซิโก เมื่อต้นสูงขึ้น จะแตกกิ่งก้านสาขาเป็นรูปช่อเชิงเทียน สูงได้ถึง 12 เมตร แต่เพิ่มความสูงได้ช้า ประมาณ 30–50 ปีจึงสูงได้ 1 เมตร ออกดอกตามลำต้นและกิ่งสาขา มีผึ้งและแมลงช่วยผสมเกสร ผลสดเนื้อสีแดง เมล็ดสีดำรับประทานได้ ผลซากัวโรที่รับประทานได้ ซากัวโร ได้รับฉายาว่า "ราชาทะเลทราย" เนื่องจากเป็นพืชที่หายากและมีความโดดเด่น มีความสูงประมาณ 12–18 เมตร อายุยืนราว 150–200 ปี พบได้ตั้งแต่ทะเลทรายในพื้นที่ราบจนถึงพื้นที่สูงจากระดับน้ำทะเล 1,220 เมตร หากพบสูงกว่านี้จะพบได้ตามไหล่เขาที่มีแสงแดดส่องถึงเพื่อลดอุณหภูมิความหนาวเย็นในช่วงฤดูหนาว โดยมากซากัวโรจะมีลำต้นแบบลำต้นเดียว บางต้นอาจแตกแขนงออกด้านข้าง แต่มักเป็นต้นที่มีอายุเกิน 50–70 ปี อาจมีแขนงเดียวหรือหลายแขนงก็ได้ และเมื่อโตถึงระดับหนึ่งบนยอดบนสุดจะแตกออกเป็นพุ่มขึ้นไป แต่ทว่าบางต้นอาจจะขยายออกด้านข้างลักษณะแผ่ออกคล้ายหงอน ซึ่งซากัวโรลักษณะแบบนี้ถูกเรียกว่า "คริสเตด" หรือ "คริสเตดซากัวโร" ซึ่งปกติวัดความกว้างได้ 09–1.5 เมตร และหาได้ยากมาก เท่าที่รับทราบในปัจจุบันนี้มีเพียงประมาณ 2,000 ต้นเท่านั้น ซึ่งนักวิทยาศาสตร์ยังไม่ทราบสาเหตุของการเกิดซากัวโรลักษณะนี้ บ้างก็เชื่อว่าเกิดจากการกลายพันธุ์ของเซลล์ บ้างก็เชื่อว่าเกิดเพราะยอดบนโดนฟ้าผ่า และบ้างก็เชื่อว่าเกิดเพราะอุณหภูมิความหนาวเย็นในฤดูหนาวทำให้เกิดความผิดปกติในการเติบโตขึ้นมา ชาวอินเดียนแดงเผ่าปาปาโกรับประทานเป็นผลไม้สด ชาวโตโฮโนและชาวโอออดแฮมฉลองการเริ่มต้นฤดูร้อนด้วยเครื่องดื่มที่ทำจากผลซากัวโร.
เตกีลา
ขวดเตกีลาในแบบต่าง ๆ เตกีลา (Tequila) เป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ชนิดกลั่น ดีกรีแรง เดิมนั้นผลิตกันในบริเวณเมืองเตกีลา (ในทางตะวันตกของรัฐฮาลิสโกของเม็กซิโก) โดยใช้วัตถุดิบคืออากาเบ (agave) เป็นพืชพื้นเมืองของเม็กซิโก ซึ่งเป็นจำพวกเดียวกับป่านศรนารายณ์ ว่านหางจระเข้ หรือดอกโคม เป็นพืชอวบน้ำโดยมีชื่อเรียกเป็นภาษาท้องถิ่นว่า "มาเกย์" (Maguey) แต่เลือกเฉพาะพันธุ์สีฟ้าเท่านั้น โดยลักษณะผลอากาเบจะมีลักษณะเหมือนผลสับปะรด ซึ่งผลหนึ่งจะมีน้ำหนัก 70 กิโลกรัม ภายในจะมีเนื้อและน้ำฉ่ำซึ่งเหมาะแก่การหมัก โดยจะนำเอาผลไปคั้นเอาน้ำเพื่อนำไปหมัก ใช้ระยะเวลาการหมักประมาณ 2 วัน แล้วจึงนำไปกลั่นก็จะได้น้ำใสที่มีแอลอฮอล์ประมาณ 104-106 ปรูฟ โดยปรกติเตกีลาจะไม่มีการบ่มต่อ ซึ่งจะนำไปบรรจุขวดจำหน่ายได้เลย ซึ่งจะติดฉลากเป็นไวต์เตกีลา ถ้าจะมีการหมักบ่มก็จะบ่มในถังไม้โอ๊กที่ใช้แบบเดียวกันกับวิสกี ซึ่งจะได้เตกีลาที่มีสีเหลืองอำพันที่จะมีชื่อเรียกว่า โกลด์เตกีลา ระยะเวลาการบ่มจะทำให้เตกีลามีชื่อเรียกตามอายุที่หมักบ่ม Anejo สำหรับเตกีลาที่บ่มอายุ 1 ปี ํฺ Muy Anejo สำหรับเตกีลาที่บ่มถึง 4 ปี เตกีลาจะมีแอลกอฮอล์ไม่ต่ำกว่า 80 ปรูฟ หรือ 40 ดีกรี สำหรับเหล้าเตกีลาที่มีการจำหน่ายและนักดื่มในบ้านเรารู้จักกันดี ได้แก่ Jose Cuervo และ Monttezuma หมวดหมู่:สุรา ต หมวดหมู่:เครื่องดื่มแอลกอฮอล์เม็กซิโก.
เต่าเสือดาว
ต่าเสือดาวขนาดใหญ่ในนามิเบีย ลูกเต่าวัย 1 เดือนบนฝ่ามือ เต่าเสือดาว (Leopard tortoise) สัตว์เลื้อยคลานประเภทเต่าชนิดหนึ่ง จัดเป็นเต่าบก (Testudinidae) ชนิดหนึ่ง.
Lithops
''Lithops'' ภาพ ''การงอกใบใหม่ของ Lithops'' Lithops เป็นพืชชนิดหนึ่งในกลุ่มของพืชอวบน้ำ ชื่อนี้มีรากศัพท์มาจากภาษากรีก คือ คำว่า "Lithos" ซึ่งแปลว่า "หิน" และ "-ops" ซึ่งแปลว่า "เหมือน" ดังนั้นคำว่า "Lithops" จึงแปลได้ว่า "เหมือนหิน" ซึ่งตรงกับลักษณะของพืชชนิดนี้ เพราะพืชชนิดนี้มีลักษณะเด่นที่แตกต่างจากพืชชนิดอื่นอย่างชัดเจน กล่าวคือทั้งรูปร่าง ลักษณะ สีสัน คล้ายคลึงกับ ก้อนหิน ก้อนกรวด จนมีผู้เรียก Lithops ว่า "หินมีชีวิต" เป็นพืชขนาดเล็ก ขึ้นอยู่ในพื้นที่แห้งแล้ง และอากาศเย็นในเวลากลางคืน ส่วนใหญ่มีถิ่นกำเนิดอยู่ในประเทศนามิเบีย และประเทศแถบแอฟริกาใต้.