โลโก้
ยูเนี่ยนพีเดีย
การสื่อสาร
ดาวน์โหลดได้จาก Google Play
ใหม่! ดาวน์โหลด ยูเนี่ยนพีเดีย บน Android ™ของคุณ!
ติดตั้ง
เร็วกว่าเบราว์เซอร์!
 

พ.ศ. 1990

ดัชนี พ.ศ. 1990

ทธศักราช 1990 ใกล้เคียงกั.

21 ความสัมพันธ์: บาร์เตเลอมี ฟัน ไอก์บาวาเรีย-ลันด์สฮูทพ.ศ. 2030พระราชวังพลาเซ็นเทียพระเจ้าเฮนรีที่ 6 แห่งอังกฤษการสวดมนต์ของนักบุญสตีเฟน (ฟราอันเจลิโค)มาโซลีโน ดา ปานีกาเลราชวงศ์ฮาพส์บวร์ครายพระนามพระมหากษัตริย์โบฮีเมียรายพระนามพระมหากษัตริย์โปรตุเกสวลาดที่ 3 นักเสียบวัดพระธาตุหริภุญชัยวรมหาวิหารสมเด็จพระสันตะปาปายูจีนที่ 4สมเด็จพระสันตะปาปานิโคลัสที่ 5สงครามดอกกุหลาบจิโอวานนิ อันโตนิโอ อมาเดโอประวัติของไม้กางเขนแท้ประเทศจีนใน ค.ศ. 1447นักบุญลอว์เรนซ์รับของมีค่าจากพระสันตะปาปานัมแดมุนเซ็สโซและคัมปะกุ

บาร์เตเลอมี ฟัน ไอก์

ลจิตรกรรมสัญลักษณ์แฝงคติจาก “ตำนานแห่งความรัก” ของพระเจ้าเรเน (King Rene’s Livre du cueur d'amour esprit) บาเธเลมี ฟาน เอค (ภาษาอังกฤษ: Barthelemy van Eyck หรือ Barthélemy d’Eyck หรือ van Eyck หรือ d' Eyck) (ค.ศ. 1420 - ก่อน ค.ศ. 1470) เป็นจิตรกรยุคฟื้นฟูศิลปวิทยาของยุคเนเธอร์แลนด์ตอนต้นคนสำค้ญของประเทศเนเธอร์แลนด์ในคริสต์ศตวรรษที่ 15 ผู้ทำงานอาจจะเป็นในบริเวณเบอร์กันดีในประเทศฝรั่งเศส บาเธเลมี แวน เอคมีความสำคัญในการเขียนภาพเขียน, จุลจิตรกรรม (Miniature) และภาพสำหรับ หนังสือวิจิตร ฟาน เอคสร้างผลงานระหว่างปี ค.ศ. 1440 ถึงปี ค.ศ. 1469 และอาจจะเป็นญาติกับ ยาน ฟาน เอค แม้ว่างานที่เหลืออยู่จะไม่สามารถบอกได้แน่นอนว่าเป็นงานของบาเธเลมี ฟาน เอค แต่นักประพันธ์ร่วมสมัยกล่าวว่าฟาน เอคเป็นศิลปินผู้มีชื่อเสียงของสมัยนั้น และมักจะยอมรับว่างานชิ้นสำคัญๆ เป็นงานของฟาน เอค โดยเฉพาะเป็นที่ยอมรับกันว่าเป็นคนคนเดียวกับผู้ที่รู้จักกันในนามว่า “ครูบาแห่งการประกาศของเทพแห่งเอ็กซ์” (Master of the Aix Annunciation) ในฐานะเป็นผู้วาดบานพับภาพ และ “ครูบาแห่งเรเนแห่งอองชู” (Master of René of Anjou) ผู้วาดภาพสำหรับหนังสือวิจิตร นอกจากนั้นก็ยังเชื่อกันว่าฟาน เอคคือ “ครูบาแห่งแสงเงา” ซึ่งเป็นผู้วาดภาพบางภาพใน “หนังสือประจำชั่วโมงดยุคแห่งแบร์รี” (Très Riches Heures du Duc de Berry).

ใหม่!!: พ.ศ. 1990และบาร์เตเลอมี ฟัน ไอก์ · ดูเพิ่มเติม »

บาวาเรีย-ลันด์สฮูท

ัชชีแห่งบาวาเรีย-ลันด์สฮูท (Bayern-Landshut, Bavaria-Landshut) เป็นอาณาจักรบริวารของจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ที่ปกครองโดยดยุคแห่งบาวาเรีย-ลันด์สฮูท อาณาจักรก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1353 และมาสิ้นสุดลงในปี ค.ศ. 1503.

ใหม่!!: พ.ศ. 1990และบาวาเรีย-ลันด์สฮูท · ดูเพิ่มเติม »

พ.ศ. 2030

ทธศักราช 2030 ใกล้เคียงกั.

ใหม่!!: พ.ศ. 1990และพ.ศ. 2030 · ดูเพิ่มเติม »

พระราชวังพลาเซ็นเทีย

ระราชวังพลาเซ็นเทีย (Palace of Placentia) เป็นพระราชวังของพระราชวงศ์อังกฤษที่สร้างโดยฮัมฟรีย์ ดยุคแห่งกลอสเตอร์ในปี ค.ศ. 1447 ที่กรีนิชบนฝั่งแม่น้ำเทมส์ทางใต้ของลอนดอน พระราชวังถูกรื้อทิ้งในคริสต์ศตวรรษที่ 17 และสร้างแทนที่ด้วยโรงพยาบาลกรีนิช (ปัจจุบันคือราชวิทยาลัยราชนาวีเดิม) เมื่อปลายคริสต์ศตวรรษที่ 17.

ใหม่!!: พ.ศ. 1990และพระราชวังพลาเซ็นเทีย · ดูเพิ่มเติม »

พระเจ้าเฮนรีที่ 6 แห่งอังกฤษ

มเด็จพระเจ้าเฮนรีที่ 6 แห่งอังกฤษ (Henry VI of England) (6 ธันวาคม ค.ศ. 1421 – 21 พฤษภาคม ค.ศ. 1471) เป็นพระเจ้าแผ่นดินราชวงศ์แลงคาสเตอร์ของราชอาณาจักรอังกฤษและฝรั่งเศส สมเด็จพระเจ้าเฮนรีที่ 6 แห่งอังกฤษ เสด็จพระราชสมภพเมื่อวันที่ 6 ธันวาคม..

ใหม่!!: พ.ศ. 1990และพระเจ้าเฮนรีที่ 6 แห่งอังกฤษ · ดูเพิ่มเติม »

การสวดมนต์ของนักบุญสตีเฟน (ฟราอันเจลิโค)

การสวดมนต์ของนักบุญสตีเฟน (ภาษาอังกฤษ: The Prayer of St. Stephen) เป็นจิตรกรรมฝาผนังที่เขียนโดยฟราอันเจลิโคผู้เป็นจิตรกรสมัยสมัยเรอเนซองส์คนสำคัญชาวอิตาลี “การสวดมนต์ของนักบุญสตีเฟน” เป็นงานที่เขียนระหว่างปี ค.ศ. 1447 ถึงปี ค.ศ. 1450 ที่ปัจจุบันตั้งแสดงอยู่ที่ชาเปลนิคโคลิเนที่พิพิธภัณฑ์วาติกันในกรุงโรมในประเทศอิตาลี.

ใหม่!!: พ.ศ. 1990และการสวดมนต์ของนักบุญสตีเฟน (ฟราอันเจลิโค) · ดูเพิ่มเติม »

มาโซลีโน ดา ปานีกาเล

มาโซลิโน ดา พานิคาเล (Masolino da Panicale หรือ Tommaso di Cristoforo Fini) (ราว ค.ศ. 1383 - ราว ค.ศ. 1447) เป็นจิตรกรยุคฟื้นฟูศิลปวิทยาชาวอิตาลีในคริสต์ศตวรรษที่ 15 ผู้มีความเชี่ยวชาญทางการเขียนจิตรกรรมฝาผนังและจิตรกรรมแผง มาโซลิโน ดา พานิคาเลเกิดราว ค.ศ. 1383 ที่เมืองพานิคาเลในประเทศอิตาลี และเสียชีวิตเมื่อราว ค.ศ. 1447 งานที่เป็นที่รู้จักกันดีที่สุดก็เห็นจะเป็นงานที่เขียนร่วมกับมาซาชิโอ ในปี..

ใหม่!!: พ.ศ. 1990และมาโซลีโน ดา ปานีกาเล · ดูเพิ่มเติม »

ราชวงศ์ฮาพส์บวร์ค

ราชวงศ์ฮาพส์บวร์ค (Haus de Habsburg) (House of Habsburg, บางครั้งเขียนว่า Hapsburg) เป็นราชวงศ์ที่สำคัญที่สุดราชวงศ์หนึ่งในทวีปยุโรป ราชวงศ์นี้ได้ปกครองประเทศสเปนและประเทศออสเตรีย รวมเวลาทั้งหมดถึง 6 ศตวรรษ แต่ที่รู้จักกันดีมากที่สุดคือ การปกครองในตำแหน่งของ จักรพรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ หลังจากได้มีการสถาปนาจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ขึ้นมา พระราชวงศ์นี้ได้ปกครองรัฐและประเทศต่าง ๆ ถึง 1,800 รั.

ใหม่!!: พ.ศ. 1990และราชวงศ์ฮาพส์บวร์ค · ดูเพิ่มเติม »

รายพระนามพระมหากษัตริย์โบฮีเมีย

ระมหากษัตริย์แห่งโบฮีเมียเป็นตำแหน่งที่ปกครองราชอาณาจักรโบฮีเมีย ปกครองโดยดยุคในปี ค.ศ. 870 - ค.ศ. 1085, ค.ศ. 1092 - ค.ศ. 1158 และ ค.ศ. 1172 - ค.ศ. 1198 และปกครองโดยสมเด็จพระมหากษัตริย์ในปี ค.ศ. 1085 - ค.ศ. 1092, ค.ศ. 1158 - ค.ศ. 1172 และ ค.ศ. 1198 - ค.ศ. 1918.

ใหม่!!: พ.ศ. 1990และรายพระนามพระมหากษัตริย์โบฮีเมีย · ดูเพิ่มเติม »

รายพระนามพระมหากษัตริย์โปรตุเกส

รายพระนามพระมหากษัตริย์แห่งโปรตุเกส พระอิศริยยศเริ่มขึ้นตั้งแต่โปรตุเกสประกาศอิสรภาพจากราชอาณาจักรเลออน ภายใต้การนำของอัลฟอนโซ เฮนริเก ผู้ซึ่งประกาศตั้นตนเป็นกษัตริย์แห่งโปรตุเกสในปี..

ใหม่!!: พ.ศ. 1990และรายพระนามพระมหากษัตริย์โปรตุเกส · ดูเพิ่มเติม »

วลาดที่ 3 นักเสียบ

วลาดที่ 3 เจ้าชายแห่งวาลาเคีย (ค.ศ. 1431–1476/7) หรือที่รู้จักโดยสกุล แดรกคิวลา พระองค์ทรงได้รับสมัญญาหลังสิ้นพระชนม์ว่า วลาดนักเสียบ (Vlad the Impaler; Vlad Țepeș) และทรงเป็นเจ้า (Voivode) ครองวาลาเคีย 3 สมัย ส่วนใหญ่ระหว่าง..

ใหม่!!: พ.ศ. 1990และวลาดที่ 3 นักเสียบ · ดูเพิ่มเติม »

วัดพระธาตุหริภุญชัยวรมหาวิหาร

วัดพระธาตุหริภุญชัยวรมหาวิหาร (180px) เป็นพระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดวรมหาวิหารราชกิจจานุเบกษา,, เล่ม 55, ตอน 0 ง, 8 สิงหาคม 2481, หน้า 1476 ตั้งอยู่ใจกลางเมืองลำพูน มีเนื้อที่ทั้งหมดประมาณ 28 ไร่ 3 งาน 26 ตารางว.

ใหม่!!: พ.ศ. 1990และวัดพระธาตุหริภุญชัยวรมหาวิหาร · ดูเพิ่มเติม »

สมเด็จพระสันตะปาปายูจีนที่ 4

thumb สมเด็จพระสันตะปาปายูจีนที่ 4 (Eugene IV) ทรงดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปาตั้งแต่ ค.ศ. 1431 ถึง ค.ศ. 1447 หมวดหมู่:บุคคลที่เกิดในปี พ.ศ. 1926 ยูจีนที่ 4 หมวดหมู่:บุคคลในคริสต์ศตวรรษที่ 14 หมวดหมู่:บุคคลในคริสต์ศตวรรษที่ 15 หมวดหมู่:บุคคลจากเวนิส.

ใหม่!!: พ.ศ. 1990และสมเด็จพระสันตะปาปายูจีนที่ 4 · ดูเพิ่มเติม »

สมเด็จพระสันตะปาปานิโคลัสที่ 5

thumb สมเด็จพระสันตะปาปานิโคลัสที่ 5 (Nicholas V) ทรงดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปาตั้งแต่ ค.ศ. 1447 ถึง ค.ศ. 1455 หมวดหมู่:บุคคลที่เกิดในปี พ.ศ. 1940 นิโคลัสที่ 5.

ใหม่!!: พ.ศ. 1990และสมเด็จพระสันตะปาปานิโคลัสที่ 5 · ดูเพิ่มเติม »

สงครามดอกกุหลาบ

ที่ตั้งสำคัญในสงครามดอกกุหลาบ สงครามดอกกุหลาบ (Wars of the Roses) เป็นชุดสงครามราชวงศ์ที่ผู้สนับสนุนราชวงศ์แพลนแทเจเนตสองสายที่เป็นคู่แข่งชิงราชบัลลังก์อังกฤษกัน ได้แก่ ราชวงศ์แลงแคสเตอร์และราชวงศ์ยอร์ก (ซึ่งสัญลักษณ์ตราประจำตระกูล คือ ดอกกุหลาบสีแดงและสีขาวตามลำดับ) ทั้งสองฝ่ายรบกันเป็นช่วงห่าง ๆ กันระหว่างปี 1455 ถึง 1485 แม้จะมีการสู้รบที่เกี่ยวข้องอีกทั้งก่อนหน้าและหลังช่วงนี้ สงครามดังกล่าวเป็นผลจากปัญหาทางสังคมและการเงินหลังสงครามร้อยปี ชัยชนะบั้นปลายเป็นของผู้เรียกร้องเชื้อสายแลงแคสเตอร์ค่อนข้างห่าง เฮนรี ทิวดอร์ ผู้กำราบพระเจ้าริชาร์ดที่ 3 พระมหากษัตริย์พระองค์สุดท้ายแห่งราชวงศ์ยอร์ก และอภิเษกสมรสกับเอลิซาเบธแห่งยอร์ก พระราชธิดาในพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 4 เพื่อรวมสองราชวงศ์ หลังจากนั้น ราชวงศ์ทิวดอร์ปกครองอังกฤษและเวลส์เป็นเวลา 117 ปี เฮนรีแห่งโบลิงโบรกทรงก่อตั้งราชวงศ์แลงแคสเตอร์ขณะทรงราชย์ในปี 1399 เมื่อทรงถอดพระเจ้าริชาร์ดที่ 2 พระภราดร (ลูกพี่ลูกน้อง) จากราชสมบัติ พระราชโอรส พระเจ้าเฮนรีที่ 5 ยังทรงรักษาการอยู่ในราชสมบัติของตระกูลไว้ได้ แต่เมื่อพระองค์เสด็จสวรรคตในปี 1422 พระเจ้าเฮนรีที่ 6 ทายาทของพระองค์ เป็นทารก การอ้างสิทธิในราชบัลลังก์ของราชวงศ์แลงแคสเตอร์สืบมาจากจอห์นแห่งกอนต์ ดยุกที่ 1 แห่งแลงแคสเตอร์ พระราชโอรสที่ยังมีพระชนมชีพพระองค์ที่สามในพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 3 สิทธิในราชบัลลังก์ของพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 6 ถูกริชาร์ด ดยุคแห่งยอร์คคัดค้าน ผู้สามารถอ้างว่าสืบเชื้อสายจากไลโอเนลแห่งแอนต์เวิร์ป และเอ็ดมันด์แห่งแลงลีย์ ดยุกที่ 1 แห่งยอร์กพระราชโอรสที่ยังมียังมีพระชนมชีพพระองค์ที่สองและสี่ในพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 3 ริชาร์ดแห่งยอร์ค ผู้ดำรงตำแหน่งสำคัญของรัฐหลายตำแหน่ง ทะเลาะกับราชวงศ์แลงแคสเตอร์สำคัญ ๆ ในราชสำนักและกับมาร์กาเรตแห่งอ็องฌู พระมเหสีในพระเจ้าเฮนรีที่ 6 แม้เคยเกิดการปะทะกันด้วยอาวุธระหว่างผู้สนับสนุนราชวงศ์ยอร์กและแลงแคสเตอร์มาก่อนหน้านั้นแล้ว แต่การสู้รบเปิดเผยครั้งแรกเกิดขึ้นในปี 1455 ที่ยุทธการที่เซนต์ออลบันส์ครั้งที่ 1 ราชวงศ์แลงแคสเตอร์คนที่โดดเด่นหลายคนเสียชีวิต แต่ทายาทที่เหลือยังพยาบาทกับริชาร์ด แม้จะมีการฟื้นฟูสันติภาพชั่วคราว มาร์กาเรตแห่งอ็องฌู ดลให้ราชวงศ์แลงแคสเตอร์คัดค้านอิทธิพลของเอิร์ลแห่งยอร์ค การสู้รบดำเนินต่ออย่างรุนแรงขึ้นในปี 1459 เอิร์ลแห่งยอร์คและผู้สนับสนุนของพระองค์ถูกบีบให้หนีออกนอกประเทศ แต่ผู้สนับสนุนที่โดดเด่นที่สุดของพระองค์คนหนึ่ง เอิร์ลแห่งวอริก บุกครองอังกฤษจากกาเลและสามารถจับพระเจ้าเฮนรีเป็นเชลยได้ที่ยุทธการที่นอร์แธมป์ตัน เอิร์ลแห่งยอร์คเสด็จกลับประเทศและเป็นผู้พิทักษ์อังกฤษ (Protector of England) แต่ทรงถูกปรามมิให้อ้างสิทธิในราชบัลลังก์ มาร์กาเร็ตและอภิชนแลงแคสเตอร์ผู้ไม่ยอมปรองดองประชุมกำลังทางเหนือของอังกฤษ และเมื่อเอิร์ลแห่งยอร์คเคลื่อนทัพขึ้นเหนือไปปราบ พระองค์กับเอ็ดเวิร์ด พระราชโอรสพระองค์ที่สอง ถูกปลงพระชนม์ทั้งคู่ที่ยุทธการเวคฟีลด์ในเดือนธันวาคม 1460 กองทัพแลงแคสเตอร์รุกลงใต้และจับพระเจ้าเฮนรีเป็นเชลยได้อีกในยุทธการที่เซนต์ออลบันส์ครั้งที่ 2 แต่ไม่สามารถยึดครองกรุงลอนดอนไว้ได้ และถอยกลับไปทางเหนือในเวลาต่อมา พระราชโอรสองค์โตของเอิร์ลแห่งยอร์ค เอ็ดเวิร์ด เอิร์ลแห่งมาร์ช ได้รับการประกาศเป็นพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 4 พระองค์ระดมกองทัพราชวงศ์ยอร์คและได้ชัยเด็ดขาดที่ยุทธการที่โทว์ทันเมื่อเดือนมีนาคม 1461 หลังการลุกขึ้นต่อต้านของแลงแคสเตอร์ทางเหนือถูกกำราบในปี 1464 และพระเจ้าเฮนรีถูกจับเป็นเชลยอีกครั้ง พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดทะเลาะกับเอิร์ลแห่งวอริก สมญา "ผู้สร้างกษัตริย์" (Kingmaker) ผู้สนับสนุนและที่ปรึกษาหลักของพระองค์ และยังแตกแยกกับพระสหายหลายคน และกระทั่งพระบรมวงศานุวงศ์ โดยทรงสนับสนุนตระกูลของสมเด็จพระราชินีเอลิซาเบธ วูดวิลล์ซึ่งมีอำนาจขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งพระองค์ทรงอภิเษกสมรสด้วยอย่างลับ ๆ ทีแรก เอิร์ลแห่งวอริกพยายามยกน้องชาย จอร์จ ดยุกแห่งแคลเรนซ์ เป็นพระมหากษัตริย์ แล้วจึงฟื้นฟูพระเจ้าเฮนรีที่ 6 กลับสู่ราชสมบัติ จากนั้นสองปี พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 4 ทรงได้รับชัยชนะสมบูรณ์อีกครั้งที่บาร์เนต (เมษายน 1471) ที่ซึ่งเอิร์ลแห่งวอริกถูกสังหาร และทูกสบรี (พฤษภาคม 1471) ที่ซึ่งเอ็ดเวิร์ดแห่งเวสต์มินสเตอร์ ทายาทแลงแคสเตอร์ ถูกประหารชีวิตหลังยุทธการ พระเจ้าเฮนรีถูกปลงพระชนม์ในหอคอยลอนดอนหลายวันจากนั้น ยุติลำดับการสืบราชสันตติวงศ์โดยตรงของแลงแคสเตอร์ จากนั้น บ้านเมืองค่อนข้างสงบอยู่พักหนึ่ง จนพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดเสด็จสวรรคตกะทันหันในปี 1483 ริชาร์ด ดยุกแห่งกลอสเตอร์ พระอนุชาที่ยังมีพระชนมชีพของพระองค์ ทีแรกเคลื่อนไหวเพื่อกันมิให้ตระกูลวูดวิลล์ที่ไม่เป็นที่นิยมของพระมเหสีหม้ายของพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดเข้าร่วมในรัฐบาลระหว่างที่พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 5 พระราชโอรสของพระเจ้าเอ็ดเวิร์ด ยังทรงพระเยาว์ จึงยึดราชบัลลังก์เป็นของตน โดยอ้างว่า การสมรสของพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 4 ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เฮนรี ทิวดอร์ พระญาติห่าง ๆ ของพระมหากษัตริย์แลงแคสเตอร์ผู้รับสืบทอดการอ้างสิทธิ์มาด้วย ชนะพระเจ้าริชาร์ดที่บอสเวิร์ธฟิลด์ในปี 1485 พระองค์ราชาภิเษกเป็นพระเจ้าเฮนรีที่ 7 และอภิเษกสมรสกับเอลิซาเบธแห่งยอร์ก พระราชธิดาในพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 4 เพื่อรวมและประสานราชวงศ์ทั้งสอง.

ใหม่!!: พ.ศ. 1990และสงครามดอกกุหลาบ · ดูเพิ่มเติม »

จิโอวานนิ อันโตนิโอ อมาเดโอ

อวานนิ อันโตนิโอ อมาเดโอ (ภาษาอังกฤษ: Giovanni Antonio Amadeo) (ราว ค.ศ. 1447 - 27 สิงหาคม ค.ศ. 1522) เป็นประติมากร, สถาปนิกและวิศวกรสมัยเรอเนซองส์ตอนต้นคนสำคัญของประเทศอิตาลีในคริสต์ศตวรรษที่ 16 อมาเดโอเกิดเมื่อราว ค.ศ. 1447 ที่ ปาเวีย ในประเทศอิตาลี เสียชีวิตเมื่อวันที่ 27 สิงหาคมหรือ28 สิงหาคม ค.ศ. 1522 ที่ มิลาน ในประเทศอิตาลี.

ใหม่!!: พ.ศ. 1990และจิโอวานนิ อันโตนิโอ อมาเดโอ · ดูเพิ่มเติม »

ประวัติของไม้กางเขนแท้

ูบทความหลักที่ สัตยกางเขน ประวัติของสัตยกางเขน หรือ ตำนานของสัตยกางเขน หรือ (Legend of the True Cross หรือ History of the True Cross) เป็นจิตรกรรมฝาผนังที่เขียนโดยเปียโร เดลลา ฟรานเชสกาจิตรกรสมัยสมัยเรอเนซองส์คนสำคัญชาวอิตาลี “ตำนานของสัตยกางเขน” เป็นงานที่สันนิษฐานกันว่าเขียนก่อนปี ค.ศ. 1447 และเสร็จราวปี ค.ศ. 1466 สำหรับวัดซานฟรานเชสโก, อเรซโซในประเทศอิตาลี เป็นงานเขียนชิ้นที่ใหญ่ที่สุดและถือกันว่าดีที่สุดของเปียโร และเป็นงานชิ้นเอกชิ้นหนึ่งของงานเขียนในสมัยเรอเนซองส์ตอนต้น เนื้อหาของภาพมาจากตำนานที่เป็นที่นิยมกันมากที่ปรากฏในหนังสือ “ตำนานทอง” เกี่ยวกับประวัติของนักบุญที่เขียนโดยจาโคบัส เด โวราจิเน (Jacobus da Varagine) ในคริสต์ศตวรรที่ 13th เป็นเรื่องประวัติความเป็นมาของสัตยกางเขน (True Cross)-ที่เชื่อกันว่าเป็นไม้จากสวนอีเด็นที่นำมาใช้ทำกางเขนที่ใช้ในการตรึงกางเขนของพระเยซู งานชิ้นนี้แสดงให้เห็นถึงความเชี่ยวชาญในการเขียนแบบทัศนียภาพและการใช้สี และในใช้เรขาคณิตในการวางภาพ และการสร้างภาพซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของงานของเปียโตร.

ใหม่!!: พ.ศ. 1990และประวัติของไม้กางเขนแท้ · ดูเพิ่มเติม »

ประเทศจีนใน ค.ศ. 1447

หตุการณ์ที่เกิดขึ้นใน ค.ศ. 1447 ในประเทศจีน.

ใหม่!!: พ.ศ. 1990และประเทศจีนใน ค.ศ. 1447 · ดูเพิ่มเติม »

นักบุญลอว์เรนซ์รับของมีค่าจากพระสันตะปาปา

นักบุญลอว์เรนซ์รับของมีค่าจากพระสันตะปาปา (ภาษาอังกฤษ: St. Lawrence Receiving the Treasures of the Church) เป็นจิตรกรรมฝาผนังที่เขียนโดยฟราอันเจลิโคผู้เป็นจิตรกรสมัยเรอเนซองส์คนสำคัญชาวอิตาลี “นักบุญลอว์เรนซ์รับของมีค่าจากพระสันตะปาปา” เป็นงานที่เขียนระหว่างปี ค.ศ. 1447 ถึงปี ค.ศ. 1450 ที่ปัจจุบันตั้งแสดงอยู่ที่ชาเปลนิคโคลิเนที่พิพิธภัณฑ์วาติกันในกรุงโรมในประเทศอิตาลี.

ใหม่!!: พ.ศ. 1990และนักบุญลอว์เรนซ์รับของมีค่าจากพระสันตะปาปา · ดูเพิ่มเติม »

นัมแดมุน

นัมแดมุน (ประตูใหญ่ทางทิศใต้) คือประตูโบราณที่ตั้งอยู่ในโซล ประเทศเกาหลีใต้ มีชื่อทางการว่า ซุงเยมุน (숭례문, Sungnyemun ประตูแห่งความเคารพอันเหมาะสม) ประตูแห่งนี้เคยเป็นสิ่งก่อสร้างสร้างด้วยไม้ที่เก่าแก่ที่สุดในโซล การก่อสร้างเริ่มขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 1938 (ค.ศ. 1395) ในรัชกาลของพระเจ้าแทโจ และแล้วเสร็จในอีก 3 ปีต่อมา ประตูบานนี้ได้รับการบูรณปฏิสังขรณ์เรื่อยมา โดยมีขึ้นในรัชกาลพระเจ้าเซจงมหาราชเมื่อปี พ.ศ. 1990 (ค.ศ. 1447) และ รัชกาลพระเจ้าซองจงปี พ.ศ. 2022 (ค.ศ. 1479) การซ่อมแซมใหญ่ครั้งสุดท้ายเกิดขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2505 (ค.ศ. 1962) ซึ่งต่อมาหลังจากการบูรณะแล้วเสร็จ รัฐบาลเกาหลีใต้ได้จัดให้เป็น สมบัติประจำชาติเกาหลีใต้ หมายเลขหนึ่ง เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม ปีเดียวกัน เมื่อเช้าตรู่วันที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551 เกิดเหตุลอบวางเพลิง สร้างความเสียหายอย่างหนักทั้งหลัง สะเทือนใจชาวเกาหลีและชาวต่างประเทศ การบูรณะนัมแดมุนขึ้นใหม่ใช้ระยะเวลา 5 ปีจึงเสร็จสิ้น ใช้งบประมาณกว่า 27 พันล้านวอน (ประมาณ 24 ล้านดอลลาร์สหรัฐหรือ 696 ล้านบาท) เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม 2556 รัฐบาลเกาหลีใต้จัดพิธีเปิดนัมแดมุนอย่างเป็นทางการและเปิดให้ประชาชนเข้าชมตามปกติอีกครั้ง.

ใหม่!!: พ.ศ. 1990และนัมแดมุน · ดูเพิ่มเติม »

เซ็สโซและคัมปะกุ

งราชวงศ์สำหรับผู้สำเร็จราชการ ในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น เซ็สโซ เป็นยศของผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ สำหรับจักรพรรดิที่ยังทรงพระเยาว์เกินกว่าจะปกครองก่อนที่พระองค์จะเจริญพรรษาพอที่จะปกครองประเทศ เซ็สโซจะว่าราชการแทน และ คัมปะกุ เป็นตำแหน่งผู้สำเร็จราชการสำหรับจักรพรรดิที่ทรงเจริญพระชนพรรษาแล้ว โดยอ้างว่าพระจักรพรรดิทรงไม่รู้เรื่องงานบริหารประเทศ จึงต้องให้คัมปะกุ คอยช่วยบริหารจัดการ ตลอดสมัยเฮอัง อำนาจการบริหารประเทศอยู่ในสองตำแหน่งนี้ คือ เซ็สโซ และคัมปะกุตลอด 500 ปี ผูกขาดโดยคนของตระกูลฟุจิวะระ และสายย่อยของตระกูลนี้ตลอด โดยเราจะเรียกตระกูลเหล่านี้ว่า เซ็สกัง หรือตระกูลผู้สำเร็จราชการนั่นเอง ภายหลังจากสมัยเฮอังอำนาจอยู่ในมือของรัฐบาลทหาร โดยโชกุนปกครองประเทศแทน โดยผู้สำเร็จราชการของโชกุนจะเรียกว่า ชิกเก็ง.

ใหม่!!: พ.ศ. 1990และเซ็สโซและคัมปะกุ · ดูเพิ่มเติม »

เปลี่ยนเส้นทางที่นี่:

ค.ศ. 1447

ขาออกขาเข้า
Hey! เราอยู่ใน Facebook ตอนนี้! »