โลโก้
ยูเนี่ยนพีเดีย
การสื่อสาร
ดาวน์โหลดได้จาก Google Play
ใหม่! ดาวน์โหลด ยูเนี่ยนพีเดีย บน Android ™ของคุณ!
ฟรี
เร็วกว่าเบราว์เซอร์!
 

จักรพรรดิคาร์ลที่ 5 แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์

ดัชนี จักรพรรดิคาร์ลที่ 5 แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์

ักรพรรดิคาร์ล (ชาลส์) ที่ 5 แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ (Karl V; Carlos I or Carlos V; Charles V, 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2043 - 21 กันยายน พ.ศ. 2101) สมัยราชวงศ์ฮับส์บูร์กในสเปนทรงครองราชย์ในนามของพระเจ้าชาร์ลที่ 1 แห่งสเปน เป็นประมุขแห่งดัชชีเบอร์กันดี (ในปี พ.ศ. 2049 - 2098) กษัตริย์แห่งสเปน (พ.ศ. 2059 - 2099) พระมหากษัตริย์แห่งราชอาณาจักรเนเปิลส์และราชอาณาจักรซิซิลี (พ.ศ. 2059 - 2097) อาร์ชดยุกแห่งออสเตรีย (พ.ศ. 2062 - 2064) และจักรพรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ (พ.ศ. 2073 - 2099) พระองค์เป็นพระราชโอรสในพระเจ้าเฟลิเปที่ 1 แห่งคาสตีล (Philip I of Castile, พ.ศ. 2021-พ.ศ. 2049) และพระนางโจแอนนา (Joanna of Castile, พ.ศ. 2022 - พ.ศ. 2098) พระอัยกาคือพระเจ้าเฟร์นันโดที่ 2 แห่งอารากอนและจักรพรรดิมักซีมีเลียนที่ 1 แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ ส่วนพระอัยกีคือสมเด็จพระราชินีนาถอิซาเบลลาที่ 1 แห่งคาสตีลและแมรีแห่งเบอร์กันดี พระปิตุจฉาคือแคเธอรีนแห่งอารากอน สมเด็จพระราชินีแห่งอังกฤษพระมเหสีองค์แรกในพระเจ้าเฮนรีที่ 8 แห่งอังกฤษ.

90 ความสัมพันธ์: ฟรันซิสโก เด ซูร์บารันฟรานเชสโคที่ 2 สฟอร์ซาพระราชวังช็องบอร์พระเจ้าฟร็องซัวที่ 1 แห่งฝรั่งเศสพระเจ้าการ์โลสที่ 2 แห่งสเปนพระเจ้าอ็องรีที่ 2 แห่งฝรั่งเศสพระเจ้าเฟร์นันโดที่ 2 แห่งอารากอนพระเจ้าเฟลีเปที่ 1 แห่งคาสตีลพระเจ้าเฟลีเปที่ 2 แห่งสเปนพระเจ้าเฮนรีที่ 8 แห่งอังกฤษการพบปะที่ทุ่งภูษาทองการพิชิตจักรวรรดิแอซเท็กของสเปนการตีกรุงโรมแตกการเสกสมรสระหว่างราชวงศ์กาตาลินาแห่งอารากอน พระราชินีแห่งอังกฤษมงกุฎพระสันตะปาปารัฐร่วมประมุขราชรัฐมุขนายกยูเทรกต์ราชวงศ์ฮาพส์บวร์คราชวงศ์ตรัสตามาราราชวงศ์เวททินรายชื่อสนธิสัญญารายพระนามพระมหากษัตริย์สเปนรายพระนามพระมหากษัตริย์โปรตุเกสรายพระนามพระมหากษัตริย์เยอรมนีรายพระนามพระมหากษัตริย์เนเปิลส์รายพระนามคู่อภิเษกสมรสในพระมหากษัตริย์สเปนรายพระนามคู่อภิเษกสมรสในพระประมุขแห่งลักเซมเบิร์กรายพระนามเจ้าผู้ครองราชรัฐลักเซมเบิร์กลูคัส ครานัคสมเด็จพระราชาธิบดีควน การ์โลสที่ 1 แห่งสเปนสมเด็จพระราชินีนาถอีซาเบลที่ 1 แห่งคาสตีลสมเด็จพระราชินีนาถฆัวนาแห่งกัสติยาสมเด็จพระราชินีนาถแมรีที่ 1 แห่งอังกฤษสมเด็จพระสันตะปาปาเอเดรียนที่ 6สารตราทองสุลัยมานผู้เกรียงไกรสงครามสันนิบาตกอญักสงครามสามสิบปีสงครามอิตาลี (ค.ศ. 1499-1504)สงครามอิตาลี (ค.ศ. 1521-1526)สงครามอิตาลี (ค.ศ. 1551-1559)สตัดเฮาเดอร์อัศวินฮอสปิทัลเลอร์อันเดรอา กริตติอันเดรีย ดอเรียอาเรกิปาอิซาเบลลา คลารา ยูเจเนียแห่งสเปนอินทรีสองหัวจอห์นแห่งออสเตรีย...จักรพรรดิมักซีมีเลียนที่ 1 แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์จักรพรรดินโปเลียนที่ 1จักรพรรดิแฟร์ดีนันด์ที่ 1 แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์จักรพรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์จักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์จาโกโป ซานโซวีโนทิเชียนดัชชีมันโตวาคลองปานามาคณะเยสุอิตฆวน เบาติสตา เด โตเลโดตราแผ่นดินของสเปนตูร์แนประวัติศาสตร์ฝรั่งเศสประวัติศาสตร์ลักเซมเบิร์กประวัติศาสตร์สเปนประวัติศาสตร์ออสเตรียประวัติศาสตร์อังกฤษประเทศสเปนประเทศเบลเยียมนิวสเปนแมรี ทิวดอร์ สมเด็จพระราชินีแห่งฝรั่งเศสแมรีแห่งออสเตรีย สมเด็จพระราชินีแห่งฮังการีและโบฮีเมียแมรีแห่งเบอร์กันดีแมซงดูว์รัวแอนน์แห่งบริตานี สมเด็จพระราชินีแห่งฝรั่งเศสแอนเดรียส เวซาเลียสโกลด สมเด็จพระราชินีแห่งฝรั่งเศสเฟอร์ดินานด์ มาเจลลันเกลฟ์และกิเบลลิเนเรือดำน้ำเอเลนอร์แห่งออสเตรีย สมเด็จพระราชินีแห่งฝรั่งเศสเฮนรี โฮเวิร์ด เอิร์ลแห่งนอร์ทแธมพ์ตันที่ 1เจ้าชายยูจีนแห่งซาวอยเจ้าชายแห่งอัสตูเรียสเจ้าหญิงคริสตินาแห่งเดนมาร์กเจ้านครรัฐผู้คัดเลือกเทวสถานแห่งอันโตนินัสและฟาอัสตินาเขตอุปราชแห่งเปรู21 กันยายน ขยายดัชนี (40 มากกว่า) »

ฟรันซิสโก เด ซูร์บารัน

นักบุญลูกาผู้นิพนธ์พระวรสารที่อาจจะเป็นภาพเหมือนของซูร์บารันเอง ราว ค.ศ. 1635-1640http://www.humanitiesweb.org/human.php?s.

ใหม่!!: จักรพรรดิคาร์ลที่ 5 แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์และฟรันซิสโก เด ซูร์บารัน · ดูเพิ่มเติม »

ฟรานเชสโคที่ 2 สฟอร์ซา

ฟรานเชสโคที่ 2 สฟอร์ซา หรือ ฟรานเชสโค มาเรีย สฟอร์ซา (Francesco II Sforza) (4 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1495 - 24 ตุลาคม ค.ศ. 1535) ฟรานเชสโคที่ 2 สฟอร์ซาเป็นดยุกแห่งมิลานตั้งแต่ปี ค.ศ. 1521 จนกระทั่งเสียชีวิตในปี ค.ศ. 1535 ฟรานเชสโคเกิดเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1495 เป็นบุตรของลุโดวิโค สฟอร์ซาและเบียทริเช เดสเต เมื่อลุโดวิโคถูกขับออกจากมิลานระหว่างสงครามอิตาลี ลุโดวิโคก็นำฟรานเชสโคไปยังราชสำนักของสมเด็จพระจักรพรรดิแม็กซิมิเลียนที่ 1 แห่งโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ด้วย (แม็กซิมิเลียนสมรสกับบิอังคา มาเรีย สฟอร์ซาผู้เป็นลูกพี่ลูกน้องกับลุโดวิโค) ฟรานเชสโคถูกส่งให้ไปมีอาชีพทางศาสนา ส่วนลุโดวิโคถูกจำขังและถูกสังหารในปี..

ใหม่!!: จักรพรรดิคาร์ลที่ 5 แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์และฟรานเชสโคที่ 2 สฟอร์ซา · ดูเพิ่มเติม »

พระราชวังช็องบอร์

ระราชวังช็องบอร์ (Château de Chambord) เป็นวังที่ตั้งอยู่ที่บนฝั่งแม่น้ำลัวร์ในช็องบอร์ในจังหวัดลัวเรแชร์ ประเทศฝรั่งเศส พระราชวังช็องบอร์เป็นวังที่เป็นที่รู้จักกันดีที่สุดวังหนึ่งในโลกจากลักษณะสถาปัตยกรรมฟื้นฟูศิลปวิทยาที่เป็นเอกลักษณ์ของสิ่งก่อสร้างที่มีลักษณะผสานระหว่างการก่อสร้างแบบยุคกลางของฝรั่งเศสกับสถาปัตยกรรมคลาสสิกของอิตาลี พระราชวังช็องบอร์สร้างโดยพระเจ้าฟร็องซัวที่ 1 แห่งฝรั่งเศสสำหรับเป็นที่ประทับที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากโกลด โรอ็อง พระสนมเคาน์เทสส์แห่งตูรี ภรรยาของฌูว์เลียง เคานต์แห่งแกลร์มง ซึ่งเป็นตระกูลสำคัญตระกูลหนึ่งของฝรั่งเศส ที่พำนักอยู่ที่วังมุยด์ที่ตั้งอยู่ไม่ไกลนัก ตราอาร์มของโคลดใช้ตกแต่งพระราชวัง ช็องบอร์เป็นพระราชวังที่ใหญ่ที่สุดในบรรดาวังต่าง ๆ ในลุ่มแม่น้ำลัวร์ แต่เดิมเป็นเพียงตำหนักล่าสัตว์ของพระเจ้าฟร็องซัว ผู้ทรงมีที่ประทับอยู่ที่พระราชวังบลัวและพระราชวังอ็องบวซ กล่าวกันว่าช็องบอร์เดิมออกแบบโดยโดเมนีโก ดา กอร์โตนา ผู้ที่มีจำลองไม้ที่มีอายุยืนพอที่จะให้อ็องเดร เฟลีเบียงวาดในคริสต์ศตวรรษที่ 16 แต่นักเขียนบางท่านกล่าวว่าผู้มีส่วนสำคัญในการออกแบบคือสถาปนิกยุคฟื้นฟูศิลปวิทยาชาวฝรั่งเศสฟีลีแบร์ เดอลอร์ม ในระยะยี่สิบปีของการก่อสร้างระหว่างปี..

ใหม่!!: จักรพรรดิคาร์ลที่ 5 แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์และพระราชวังช็องบอร์ · ดูเพิ่มเติม »

พระเจ้าฟร็องซัวที่ 1 แห่งฝรั่งเศส

ระเจ้าฟรองซัวส์ที่ 1 แห่งฝรั่งเศส (François Ier) (12 กันยายน ค.ศ. 1494 ถึง 31 มีนาคม ค.ศ. 1547) ทรงเป็นกษัตริย์แห่งฝรั่งเศสตั้งแต่ ค.ศ. 1515 ถึงค.ศ. 1547 พระเจ้าฟรองซัวส์ทรงได้ชื่อว่าเป็นกษัตริย์ พระองค์แรกของยุคฟื้นฟูศิลปวิทยาฝรั่ง.

ใหม่!!: จักรพรรดิคาร์ลที่ 5 แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์และพระเจ้าฟร็องซัวที่ 1 แห่งฝรั่งเศส · ดูเพิ่มเติม »

พระเจ้าการ์โลสที่ 2 แห่งสเปน

พระปรมาภิไธยของพระองค์ พระเจ้าการ์โลสที่ 2 แห่งสเปน (Carlos II de España, Charles II of Spain) ทรงปกครองทั้งสเปนและโปรตุเกสในฐานะ พระมหากษัตริย์แห่งสเปนและโปรตุเกส โดยเป็นพระราชโอรสพระองค์เดียว ทีมีพระชนม์ชีพอยู่ของ พระเจ้าเฟลิเปที่ 4 แห่งสเปน และ สมเด็จพระราชินีมาเรียนา เมื่อพระราชบิดาสวรรคตในปี ค.ศ. 1665 เจ้าชายการ์โลสราชโอรสองค์เดียวของพระองค์ชันษาเพียง 3 พรรษา จึงเสด็จขึ้นครองราชย์แทนทรงพระนามว่า พระเจ้าการ์โลสที่ 2 แห่งสเปน ทรงอภิเษกทั้งหมด 2 ครั้งกับ มาเรีย หลุยส์แห่งออร์เลอองส์ และ มาเรีย อันนาแห่งพาลาทิเนท-น็อยแบร์ก เสด็จสวรรคตก่อนวันประสูติเพียง 5 วันคือวันที่ 1 พฤศจิกายน ค.ศ. 1700 ขณะพระชนม์เพียง 38 พรรษา ครองสิริราชสมบัติได้ 35 ปีสวรรคตโดยไร้รัชทายาท กษัตริย์สเปนสาย พระเจ้าการ์โลสที่ 1 แห่งสเปน จึงสิ้นสุดลง หมวดหมู่:บุคคลที่เกิดในปี พ.ศ. 2204 หมวดหมู่:พระมหากษัตริย์สเปน หมวดหมู่:ราชวงศ์ฮับส์บูร์ก หมวดหมู่:พระมหากษัตริย์ซิซิลี หมวดหมู่:ดยุกแห่งบราบันต์ หมวดหมู่:ดยุกแห่งเกลเดอร์ส หมวดหมู่:ดยุกแห่งโลเธียร์ หมวดหมู่:ดยุกแห่งลักเซมเบิร์ก หมวดหมู่:ดยุกแห่งมิลาน หมวดหมู่:เคานต์แห่งแฟลนเดอส์ หมวดหมู่:เคานท์แห่งเอโนต์ หมวดหมู่:เจ้าชายสเปน หมวดหมู่:บุคคลจากมาดริด หมวดหมู่:ดยุกแห่งมงบล็อง หมวดหมู่:เจ้าชายแห่งอัสตูเรียส หมวดหมู่:พระมหากษัตริย์ที่ขึ้นครองราชย์ขณะทรงพระเยาว์ในสมัยใหม่.

ใหม่!!: จักรพรรดิคาร์ลที่ 5 แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์และพระเจ้าการ์โลสที่ 2 แห่งสเปน · ดูเพิ่มเติม »

พระเจ้าอ็องรีที่ 2 แห่งฝรั่งเศส

ระเจ้าอองรีที่ 2 แห่งฝรั่งเศส (ภาษาอังกฤษ: Henry II of France) (31 มีนาคม ค.ศ. 1519- 10 กรกฎาคม ค.ศ. 1559) ทรงเป็นพระมหากษัตริย์แห่งฝรั่งเศสแห่งราชวงศ์วาลัว.

ใหม่!!: จักรพรรดิคาร์ลที่ 5 แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์และพระเจ้าอ็องรีที่ 2 แห่งฝรั่งเศส · ดูเพิ่มเติม »

พระเจ้าเฟร์นันโดที่ 2 แห่งอารากอน

ระเจ้าเฟรนานโดที่ 2, พระเจ้าเฟอร์ดินานด์ที่ 2 แห่งอารากอน หรือ พระเจ้าเฟอร์ดินานด์ที่ 5 แห่งคาสตีล (สเปน: Fernando II de Aragón, อังกฤษ: Ferdinand II of Aragon; 10 มีนาคม พ.ศ. 1995 - 23 มกราคม พ.ศ. 2059) เป็นกษัตริย์แห่งอารากอน (พ.ศ. 2022 - พ.ศ. 2059), กษัตริย์แห่งซิชิลี (พ.ศ. 2011 - พ.ศ. 2059) กษัตริย์แห่งเนเปิลส์ (พ.ศ. 2047 - พ.ศ. 2059) กษัตริย์แห่งวาเลนเซีย ซาร์ดิเนีย เคานท์แห่งบาร์เซโลนา, กษัตริย์แห่งคาสตีล (พระสวามีในพระราชินีนาถแห่งคาสตีล) (พ.ศ. 2017 - พ.ศ. 2047) และหลังจากนั้นก็เป็นกษัตริย์อย่างแท้จริงแต่แท้จริงแล้วผู้ที่ได้เป็นกษัตริย์แห่งคาสตีลคือพระธิดาของพระองค์ เจ้าหญิงโจแอนนาผู้วิปล.

ใหม่!!: จักรพรรดิคาร์ลที่ 5 แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์และพระเจ้าเฟร์นันโดที่ 2 แห่งอารากอน · ดูเพิ่มเติม »

พระเจ้าเฟลีเปที่ 1 แห่งคาสตีล

ระเจ้าเฟลิเปที่ 1 แห่งคาสตีล (Felipe el Hermoso; Philipp der Schöne; Philippe le Beau; Filips de Schone, Philip I of Castile หรือ Philip the Handsome หรือ Philip the Fair) (22 กรกฎาคม ค.ศ. 1478 - 25 กันยายน ค.ศ. 1506) ฟิลิปผู้ได้รับพระฉายาว่า "ฟิลิปผู้ทรงโฉม" เป็นพระราชโอรสในสมเด็จพระจักรพรรดิแม็กซิมิเลียนที่ 1 แห่งโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ และ แมรีแห่งเบอร์กันดี พระองค์ทรงได้รับดินแดนส่วนใหญ่ของดัชชีแห่งเบอร์กันดี และเนเธอร์แลนด์ของเบอร์กันดี (ในพระนาม "ฟิลิปที่ 4 แห่งเบอร์กันดี") จากพระราชมารดา และทรงได้ครองราชอาณาจักรคาสตีลอยู่ชั่วระยะหนึ่งเมื่อทรงเสกสมรสกับโจแอนนาแห่งคาสตีล ฟิลิปทรงเป็นราชตระกูลฮับส์บวร์กพระองค์แรกที่ได้ครองสเปน และผู้ครองสเปนต่อมาทรงรู้จักพระองค์ในพระนามว่า "พระเจ้าเฟลิเปที่ 1 แห่งสเปน" แต่ฟิลิปไม่ทรงได้รับดินแดนอื่นๆ ของพระราชบิดาหรือได้เป็นสมเด็จพระจักรพรรดิแห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์เพราะมาเสด็จสวรรคตเสียก่อนพระร.

ใหม่!!: จักรพรรดิคาร์ลที่ 5 แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์และพระเจ้าเฟลีเปที่ 1 แห่งคาสตีล · ดูเพิ่มเติม »

พระเจ้าเฟลีเปที่ 2 แห่งสเปน

ระเจ้าเฟลีเปที่ 2 แห่งสเปน (Felipe II de España; พ.ศ. 2070-พ.ศ. 2141) ทรงสืบเชื้อสายมาจาก ราชวงศ์ฮับสบูร์กแห่งออสเตรีย ทรงดำรงฐานะเป็นทั้งกษัตริย์แห่งสเปนและโปรตุเกส โดยทรงเป็นกษัตริย์แห่งโปรตุเกสในพระนาม พระเจ้าฟีลีเปที่ 1 (Filipe I) รัชสมัยของพระองค์เป็นช่วงเวลาที่สเปนสามารถดำรงฐานะความเป็นชาติมหาอำนาจที่ทรงอิทธิพลทางทะเลมากที่สุดในโลก ซึ่งเป็นผลมาจากการดำเนินนโยบายขยายอำนาจของสเปนในรัชสมัยของพระอง.

ใหม่!!: จักรพรรดิคาร์ลที่ 5 แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์และพระเจ้าเฟลีเปที่ 2 แห่งสเปน · ดูเพิ่มเติม »

พระเจ้าเฮนรีที่ 8 แห่งอังกฤษ

ระเจ้าเฮนรีที่ 8 แห่งอังกฤษ (Henry VIII of England) ทรงเป็นกษัตริย์แห่งอังกฤษตั้งแต่ 21 เมษายน 1509 จนสวรรคต นอกจากนี้ยังทรงเป็นชาวอังกฤษพระองค์แรกที่ได้เป็นกษัตริย์แห่งไอร์แลนด์ และยังเป็นผู้อ้างสิทธิในราชบัลลังก์ฝรั่งเศสอีกด้วย พระเจ้าเฮนรีทรงเป็นกษัตริย์รัชกาลที่สองของราชวงศ์ทิวดอร์ ซึ่งครองราชสมบัติต่อจากพระราชบิดา พระเจ้าเฮนรีที่ 7 นอกจากการอภิเษกสมรสทั้ง 6 ครั้งและความสัมพันธ์กับสตรีนอกสมรสแล้ว อีกหนึ่งเรื่องราวสำคัญในรัชสมัยของพระองค์คือการประกาศให้การอภิเษกกับแคเธอรีนแห่งอารากอน มเหสีคนแรกเป็นโมฆะ ซึ่งนำไปสู่ความขัดแย้งกับพระสันตะปาปา และนำประเทศไปสู่การแยกตัวออกจากศาสนจักรโรมันคาทอลิก โดยการสถาปนาคริสตจักรแห่งอังกฤษขึ้นมาแทน ซึ่งเป็นคริสตจักรที่ไม่ขึ้นกับพระสันตะปาปา และถือเอาตัวพระองค์เองในฐานะกษัตริย์เป็น "ประมุขสูงสุดของคริสตจักรในอังกฤษ" และนำไปสู่การยุบอารามขึ้น แต่ในด้านความเชื่อพระองค์ยังคงถือคำสอนหลายอย่างตามโรมันคาทอลิก แม้ว่าจะถูกพระสันตะปาปาประกาศตัดขาดจากศาสนาไปแล้วก็ตาม นอกจากนี้ พระองค์ยังคอยควบคุมการรวมสหภาพระหว่างอังกฤษกับเวลส์ และพระองค์ยังได้ขึ้นชื่อว่าทรงเป็นศัตรูตลอดกาลกับพระเจ้าฟร็องซัวที่ 1 แห่งฝรั่งเศส และ จักรพรรดิคาร์ลที่ 5 แห่งโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งตลอดรัชสมัยได้ทำสงครามกันหลายต่อหลายครั้ง พระเจ้าเฮนรีถือเป็นกษัตริย์ที่มีเสน่ห์ มีการศึกษาดี และทรงคุณวุฒิ และเป็นประมุขที่ทรงบารมีที่สุดแห่งราชบัลลังก์อังกฤษ แม้จะทรงใช้อำนาจปกครองประเทศอย่างเด็ดขาดแต่ก็ทรงสนพระทัยการเขียนและนิพนธ์ ทรงเห็นว่าสตรีไม่สามารถสร้างความเจริญและมั่นคงแก่ราชวงศ์ทิวดอร์ได้ จึงมีพระราชประสงค์อย่างมากที่จะได้รัชทายาทชายสืบทอดราชบัลลังก์ ทำให้ทรงอภิเษกสมรสหลายครั้งและต่อมาต้องดำเนินการปฏิรูปศาสนาในอังกฤษ ซึ่งนำให้อังกฤษกลายเป็นชาติโปรเตสแตนต์ ช่วงบั้นปลายพระชนม์ชีพ พระองค์เป็นโรคอ้วนซึ่งทำให้พระพลานามัยย่ำแย่ มีพระรสนิยมผิดปกติ พระสาทิสลักษณ์ของพระองค์จึงมักแสดงออกถึงความมักมาก เห็นแก่ตัว โหดร้าย พระอารมณ์ไม่มั่นคง ภายหลังสวรรคต พระราชโอรส(ตามกฎหมาย)องค์เดียวของพระองค์ ได้สืบราชบัลลังก์ต่อเป็น พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 6 ขณะมีพระชันษาเพียง 9 ปี.

ใหม่!!: จักรพรรดิคาร์ลที่ 5 แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์และพระเจ้าเฮนรีที่ 8 แห่งอังกฤษ · ดูเพิ่มเติม »

การพบปะที่ทุ่งภูษาทอง

“การพบปะที่ทุ่งภูษาทอง” การพบปะที่ทุ่งภูษาทอง (Field of the Cloth of Gold, Le Camp du Drap d'Or) “ทุ่งภูษาทอง” เป็นชื่อของสถานที่ในเบลิงเฮมระหว่าง Guînes และ Ardres ในฝรั่งเศสไม่ไกลจากคาเลส์ซึ่งเป็นที่พบปะระหว่างพระเจ้าเฮนรีที่ 8 แห่งอังกฤษ และ พระเจ้าฟรองซัวส์ที่ 1 แห่งฝรั่งเศส ระหว่างวันที่ 7 มิถุนายน จนถึงวันที่ 24 มิถุนายน ค.ศ. 1520 วัตถุประสงค์ของการพบปะระหว่างพระมหากษัตริย์สองพระองค์ก็เพื่อเป็นการเพิ่มสัมพันธไมตรีระหว่างสองราชอาณาจักร หลังจากที่ได้มีการลงนามในสนธิสัญญาในปี ค.ศ. 1518 การใช้วลี “ทุ่งภูษาทอง” เป็นคำที่ใช้โดยทั่วไปในภาษาอังกฤษมาตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 18.

ใหม่!!: จักรพรรดิคาร์ลที่ 5 แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์และการพบปะที่ทุ่งภูษาทอง · ดูเพิ่มเติม »

การพิชิตจักรวรรดิแอซเท็กของสเปน

การพิชิตจักรวรรดิแอซเท็กโดยสเปน เป็นเหตุการณ์สำคัญเหตุการณ์หนึ่งในการล่าอาณานิคมในทวีปอเมริกาโดยสเปน แผนการนี้เริ่มต้นขึ้นในปี..1519 และได้รับชัยชนะเหนือจักรวรรดิแอซเท็กในวันที่ 13 สิงหาคม..1521 เมื่อกองกำลังผสมระหว่างสเปนและตลัซกาลา นำโดยเอร์นัน กอร์เตส (Hernán Cortés) และชีโกะเตนกัตล์ผู้ลูก (Xicotencatl the Younger) ยึดกรุงเตโนชตีตลันซึ่งเป็นเมืองหลวงของจักรวรรดิแอซเท็กได้สำเร็จ พระเจ้ามอกเตซูมาที่สองทรงเชื่อว่ากอร์เตสเป็นพระเจ้า จากการที่ชาวสเปนได้นำปืนและม้า ซึ่งชาวแอซเท็กไม่เคยเห็นก่อนหน้านี้มาด้วย ในแผนการนี้ กอร์เตสได้ขอการสนับสนุนจากเมืองขึ้นและศัตรูของจักรวรรดิแอซเท็กเป็นจำนวนมาก ประกอบด้วยชาวโตโตนัก และชาวตลัซกาลา ในขณะที่แผนการดำเนินไป พันธมิตรของพวกเขาได้ถูกซุ่มโจมตีหลายครั้งจากกองกำลังที่พวกเขาเข้าปะทะ หลังจากแปดเดือนของการเจรจาและการสู้รบ มีผลทำให้กอร์เตสสามารถเอาชนะการต่อต้านทางการทูตของมอกเตซูมาที่ 2 กอร์เตสไปถึงเตโนชตีตลันในวันที่ 8 พฤศจิกายน..1519 เมื่อกอร์เตสได้ข่าวว่าทหารของเขาและชาวโตโตนักในเวราครูซตายไปเป็นจำนวนมาจากการโจมตีของแอซเท็ก เขาได้คุมขังมอกเตซูมาไว้ในพระราชวังของพระองค์และปกครองเมืองเตโนชตีตลันด้วยตนเองเป็นเวลาหลายเดือน หลังจากการสังหารหมู่ที่วิหารใหญ่(Templo Mayor) พร้อมกับการลุกฮือของประชาชนในเมือง กอร์เตสและทหารของเขาถูกผลักดันให้รบในถนนนอกเมืองในเหตุการณ์ลา โนเช ตริสเต อย่างไรก็ตาม ในเวลาต่อมา ชาวสเปนและตลัซกาลาก็ได้กลับมาอีกครั้งด้วยกำลังเสริมจำนวนมาก และทำการปิดล้อมจนนำไปสู่การล่มสลายของเตโนชตีตลันในปีต่อมา การล่มสลายของจักรวรรดิแอซเท็กเป็นเหตุการณ์สำคัญอย่างยิ่งในการสถาปนาเขตอุปราชแห่งนิวสเปน ซึ่งยังมิได้รับรองอย่างเป็นทางการโดยราชวงศ์สเปนจนกระทั่งปี..

ใหม่!!: จักรพรรดิคาร์ลที่ 5 แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์และการพิชิตจักรวรรดิแอซเท็กของสเปน · ดูเพิ่มเติม »

การตีกรุงโรมแตก

กรุงโรม ถูกตีแตกหลายครั้งแต่ครั้งที่สำคัญที่สุดก็ได้แก่.

ใหม่!!: จักรพรรดิคาร์ลที่ 5 แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์และการตีกรุงโรมแตก · ดูเพิ่มเติม »

การเสกสมรสระหว่างราชวงศ์

250px 250px การเสกสมรสระหว่างราชวงศ์ (royal intermarriage) คือการแต่งงานระหว่างสมาชิกของราชวงศ์ผู้ปกครองสองราชวงศ์ ซึ่งในอดีตถือเป็นยุทโธบายทางการทูตที่ใช้กันโดยทั่วไปเพื่อผลประโยชน์ของชาติ ในบางครั้งการเสกสมรสนี้เกิดขึ้นด้วยการบังคับใช้กระบวนการทางกฎหมายต่อบุคคลผู้สืบเชื้อสายราชวงศ์ และในหลาย ๆ ครั้งเกี่ยวข้องกับนโยบายทางการเมืองและ/หรือขนบธรรมเนียมของระบอบราชาธิปไตยเสียเป็นส่วนใหญ่ ในทวีปยุโรป การเสกสมรสในลักษณะนี้เป็นที่แพร่หลายอย่างมาก โดยเฉพาะในช่วงตั้งแต่สมัยกลางจนกระทั่งสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง ในขณะที่หลักฐานของการเสกสมรสระหว่างราชวงศ์ในส่วนอื่น ๆ ของโลก สามารถสืบค้นย้อนไปได้ไกลที่สุดถึงยุคสัมฤทธิ์ ซึ่งบ่อยครั้งที่พระมหากษัตริย์ในอดีตมักจะพยายามแผ่ขยายราชวงศ์ของพระองค์ออกไปทั้งในและนอกประเทศ ดังนั้นสายสัมพันธ์ทางเครือญาติซึ่งเกิดจากการเสกสมรสนี้ จึงเป็นปัจจัยที่ช่วยทั้งกระตุ้นและยับยั้งความขัดแย้งและการรุกรานระหว่างรัฐBucholz, p.228 ทั้งยังช่วยริเริ่ม ส่งเสริม และรับประกันสันติภาพระหว่างรัฐได้อีกด้วย นอกจากนี้สายสัมพันธ์ทางเครือญาติจากการเสกสมรสยังสามารถรักษามิตรไมตรีของสองราชวงศ์ ที่ต่างพยายามหลีกเลี่ยงภัยคุกคามจากการรุกรานและความขัดแย้งอันมีชนวนเหตุมาจากการยุยงของราชวงศ์ที่สาม พร้อมเสริมสร้างโอกาสที่จะผนวกรวมดินแดนเข้าเป็นส่วนหนึ่งของตนจากการอ้างสิทธิ์ทางกฎหมายเหนือราชบัลลังก์ หรือแม้กระทั่งการอ้างสิทธิ์เหนือส่วนหนึ่งของรัฐ เช่น อาณานิคม ผ่านการรับช่วงสืบทอดอำนาจการปกครองในกรณีที่รัฐนั้นเกิดปัญหาไร้รัชทายาทสืบทอดราชบัลลังก์ หรือในกรณีที่พระมหากษัตริย์องค์ก่อนหน้าไม่มีรัชทายาทเพศชายไว้สืบทอดราชสมบัติโดยปราศจากข้อกังขาได้ ในบางส่วนของทวีปยุโรป ราชวงศ์ต่าง ๆ ยังคงนิยมเสกสมรสระหว่างกันเป็นปกติ (สมาชิกราชวงศ์เสกสมรสกับตระกูลขุนนางต่าง ๆ ภายในรัฐ) ไปจนกระทั่งคริสต์ศตวรรษที่ 16 และนับแต่นั้นเป็นต้นมา จึงเริ่มหันมานิยมการเสกสมรสระหว่างราชวงศ์ของรัฐอธิปไตยต่าง ๆ มากขึ้น แต่ในส่วนอื่น ๆ ของโลก การเสกสมรสเช่นนี้กลับได้รับความนิยมน้อยกว่ามากและเริ่มลดจำนวนลงตามกาลเวลาที่ผ่านไป หรือแปรเปลี่ยนไปตามขนบธรรมเนียมและนโยบายการต่างประเทศในขณะนั้น.

ใหม่!!: จักรพรรดิคาร์ลที่ 5 แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์และการเสกสมรสระหว่างราชวงศ์ · ดูเพิ่มเติม »

กาตาลินาแห่งอารากอน พระราชินีแห่งอังกฤษ

ระนางกาตาลินาแห่งอารากอน (Catalina de Aragón; Catherine of Aragon, Katharine of Aragon; พ.ศ. 2028 — พ.ศ. 2079) พระราชินีแห่งอังกฤษ พระมเหสีพระองค์แรกในพระเจ้าเฮนรีที่ 8 แห่งอังกฤษ (พ.ศ. 2052-2090) อภิเษกสมรสครั้งแรกในปี พ.ศ. 2044 กับเจ้าชายอาร์เธอร์ พระโอรสในพระเจ้าเฮนรีที่ 7 แห่งอังกฤษ (พ.ศ. 2029-2045) แต่เมื่อพระสวามีสิ้นพระชนม์เสียตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์ เจ้าหญิงกาตาลินาก็ได้ทรงรับหมั้นกับเจ้าชายที่เป็นน้องสามี ซึ่งต่อมาคือพระเจ้าเฮนรีที่ 8 ในขณะที่มีพระชนมายุเพียง 11 ขวบ และได้อภิเษกสมรสกันในเวลาต่อมาเมื่อ..

ใหม่!!: จักรพรรดิคาร์ลที่ 5 แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์และกาตาลินาแห่งอารากอน พระราชินีแห่งอังกฤษ · ดูเพิ่มเติม »

มงกุฎพระสันตะปาปา

ตราของพระสันตะปาปาที่ใช้สัญลักษณ์มงกุฎพระสันตะปาปา ตราของนครรัฐวาติกันก็เป็นรูปแบบเดียวกันยกเว้นแต่เฉพาะตำแหน่งของกุญแจเงินกับกุญแจทองจะสลับที่กัน มงกุฎพระสันตะปาปา หรือ มงกุฎสามชั้น (Papal Tiara หรือ Triple Tiara, Triregnum, Trirègne, Trirègne) เป็นมงกุฎที่มีอัญมณีตกแต่งสามชั้นที่เป็นมงกุฎประจำตำแหน่งพระสันตะปาปา ที่ว่ากันว่ามีรากฐานมาจากสมัยไบแซนไทน์และเปอร์เซีย ตราอาร์มของพระสันตะปาปามีรูปมงกุฎมาตั้งแต่สมัยโบราณ พร้อมด้วยกุญแจนักบุญซีโมนเปโตร.

ใหม่!!: จักรพรรดิคาร์ลที่ 5 แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์และมงกุฎพระสันตะปาปา · ดูเพิ่มเติม »

รัฐร่วมประมุข

ียนฉลองรัฐร่วมประมุขระหว่างโปแลนด์และลิทัวเนียเป็นสหราชอาณาจักรโปแลนด์-ลิทัวเนีย รัฐร่วมประมุข หรือ การรวมตัวเป็นสหราชอาณาจักร (personal union) เป็นการรวมรัฐอิสระมากกว่าสองรัฐขึ้นไปภายใต้การปกครองของพระมหากษัตริย์องค์เดียวกัน ในขณะที่พรมแดน, กฎหมาย และ นโยบายของอาณาจักรในกลุ่มยังคงเป็นตัวของตัวเอง สหราชไม่ใช่ “สหพันธรัฐ” (federation) ที่เป็นที่ยอมรับกันว่าเป็นหลายรัฐที่รวมเข้ามาเป็นรัฐเดียวกันและมีพรมแดน, กฎหมาย และ นโยบายส่วนใหญ่ร่วมกัน หรือ “สหราชวงศ์” (dynastic union) ซึ่งหมายถึงการรวมภายใต้ราชวงศ์เดียวกัน แต่กระนั้นความหมายระหว่าง “สหราช” และ “สหพันธรัฐ” ก็มีความเกี่ยวพันกัน และ “สหราช” มักจะวิวัฒนาการมาเป็น “สหพันธรัฐ” การรวมตัวกันเป็น “สหราช” อาจจะเกิดขึ้นจากเหตุผลหลายประการตั้งแต่การเกิดขึ้นโดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นพร้อมกันเช่นการเสกสมรสระหว่าง “สมเด็จพระราชินีนาถ” (queen regnant) ของราชอาณาจักรหนึ่ง กับ พระมหากษัตริย์ของอีกราชอาณาจักรหนึ่ง ซึ่งทำให้พระราชโอรสของทั้งสองพระองค์ก็จะได้รับราชบังลังก์ของทั้งสองราชอาณาจักร ไปจนถึงการผนวกดินแดน การรวมตัวกันอาจจะเป็นตามบทบัญญัติทางกฎหมาย เช่นการผ่านพระราชบัญญัติในรัฐสภาระบุการรวมตัวกัน หรืออาจจะโดยพฤตินัยซึ่งง่ายต่อการแยกตัวกลับไปเป็นอาณาจักรเดิม เช่นในกรณีที่เกิดขึ้นหลังจากการเสด็จสวรรคตของกษัตริย์ของบรรดาอาณาจักรร่วมที่มีระบบการสืบสันตติวงศ์ที่ต่างกัน “สหราช” ส่วนใหญ่จะเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นในระบบราชาธิปไตยเท่านั้น และบางครั้งก็จะใช้คำว่า “สหราชาธิปไตย” (dual monarchy) ในการแสดงแสดงว่าเป็นการรวมอาณาจักรของสองราชบัลลังก์ รายการข้างล่างแสดงให้เห็นถึงรายระเอียดของการรวมเป็นสหราชอาณาจักรตลอดมาในประวัติศาสตร์ ยกเว้นแต่ในกรณีของราชาธิปไตยภายใต้รัฐธรรมนูญของเครือจักรภพบริติชเช่นออสเตรเลีย, นิวซีแลนด์ และแคนาดา ซึ่งไม่ใช่การรวมเป็นสหราชอาณาจักรของโลกยุคปัจจุบัน นอกจากนั้นคำว่า “การรวมสหอำนาจ” ยังใช้เป็นเครื่องมือทางการเมืองที่ใช้โดยนาซีเยอรมนีในการรวมตำแหน่งระดับสูงในพรรคกรรมกรชาติสังคมนิยมเยอรมัน เครื่องมือทางการเมืองเดียวกันนี้นำมาใช้โดยรัฐบาลอื่นๆ เช่นสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งคล้ายกันกับ “ผู้ได้รับการแต่งตั้ง” (persona designata) ที่เป็นระบบที่เจ้าหน้าที่ทางศาลสามารถแต่งตั้งให้ผู้ไม่มีหน้าที่ทางศาลมีความรับผิดชอบในหน้าที่กึ่งเกี่ยวกับระบบยุติธรรมภายใต้ระบบคอมมอนลอว.

ใหม่!!: จักรพรรดิคาร์ลที่ 5 แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์และรัฐร่วมประมุข · ดูเพิ่มเติม »

ราชรัฐมุขนายกยูเทรกต์

ตมุขนายกยูเทรกต์ (Bisdom Utrecht; Fürstbistum Utrecht; Bishopric of Utrecht) เป็นมุขมณฑลที่ตั้งอยู่ที่อูเทรคท์ในเนเธอร์แลนด์ปัจจุบัน ยูเทรกต์เป็นหนึ่งในเขตมุขนายกในเครือจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ ระหว่างปี ค.ศ. 1024 และมาสิ้นสุดลงในปี ค.ศ. 1528 เมื่อถูกถอดจากการเป็นอิมพีเรียลแอบบีโดยจักรพรรดิชาลส์ที่ 5 แห่งโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ แต่ตัวมุขมณฑลยังคงดำรงอยู่ในฐานะหน่วยการบริหารของคริสตจักร และในปี..

ใหม่!!: จักรพรรดิคาร์ลที่ 5 แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์และราชรัฐมุขนายกยูเทรกต์ · ดูเพิ่มเติม »

ราชวงศ์ฮาพส์บวร์ค

ราชวงศ์ฮาพส์บวร์ค (Haus de Habsburg) (House of Habsburg, บางครั้งเขียนว่า Hapsburg) เป็นราชวงศ์ที่สำคัญที่สุดราชวงศ์หนึ่งในทวีปยุโรป ราชวงศ์นี้ได้ปกครองประเทศสเปนและประเทศออสเตรีย รวมเวลาทั้งหมดถึง 6 ศตวรรษ แต่ที่รู้จักกันดีมากที่สุดคือ การปกครองในตำแหน่งของ จักรพรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ หลังจากได้มีการสถาปนาจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ขึ้นมา พระราชวงศ์นี้ได้ปกครองรัฐและประเทศต่าง ๆ ถึง 1,800 รั.

ใหม่!!: จักรพรรดิคาร์ลที่ 5 แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์และราชวงศ์ฮาพส์บวร์ค · ดูเพิ่มเติม »

ราชวงศ์ตรัสตามารา

ตราราชวงศ์คาสตีลและเลออน สายราชวงศ์ตรัสตามารา ตราราชวงศ์อารากอน บาเลนเซีย และซิชิลี สายราชวงศ์ตรัสตามารา ราชวงศ์ตรัสตามารา (House of Trastámara) เป็นราชวงศ์ในกษัตริย์แห่งคาบสมุทรไอบีเรียที่ปกครองอาณาจักรคาสตีลตั้งแต่ พ.ศ. 1912 ถึง พ.ศ. 2047 ในอารากอนและซิชิลีตั้งแต่ พ.ศ. 1955 ถึง พ.ศ. 2059 ในนาวาร์ตั้งแต่ พ.ศ. 1968 ถึง พ.ศ. 2022 และในเนเปิลส์ตั้งแต่ พ.ศ. 1985 ถึง พ.ศ. 2044 ราชวงศ์นี้ได้นำชื่อมาจากเคานต์แห่งตรัสตามารา ซึ่งเป็นตำแหน่งของพระเจ้าเฮนรีที่ 2 แห่งคาสตีลก่อนจะขึ้นครองราชย์ในปี พ.ศ. 1912 ในระหว่างสงครามกลางเมืองพระองค์ได้กำจัดพระเชษฐาต่างมารดาคือ พระเจ้าเปโดรแห่งคาสตีล และทรงขึ้นครองราชย์ ในช่วงการประนีประนอมที่เมืองกัสเป เจ้าชายเฟอร์ดินานด์แห่งอันเตเกรา บุตรองค์ที่ 2 ของพระเจ้าจอห์นที่ 1 แห่งคาสตีลได้รับเลือกจากชนชั้นสูงในอารากอน บาร์เซโลนา และบาเลนเซียให้เป็นกษัตริย์โดยเฉลิมพระนาม "พระเจ้าเฟอร์ดินานด์ที่ 1" และเป็นราชวงศ์สายแรก ใน พ.ศ. 1968 พระเจ้าจอห์นที่ 2 แห่งอารากอน บุตรองค์ที่ 2 ของพระเจ้าเฟอร์ดินานด์ที่ 1 ทรงอภิเษกสมรสกับสมเด็จพระราชินีแห่งนาวาร์ จึงทรงกลายเป็นกษัตริย์แห่งนาวาร์ หลังจากพระองค์สวรรคต ธิดาของพระองค์คือเจ้าหญิงเอเลนอร์ได้ครองราชสมบัติสืบต่อจากพระบิดาเพียงระยะเวลาหนึ่ง ใน พ.ศ. 1985 พระเจ้าอัลฟอนโซที่ 5 แห่งอารากอนได้ทรงกลายเป็นกษัตริย์แห่งเนเปิลส์จากการยึดครองเนเปิลส์ และทรงดำรงตำแหน่งนี้จนพระองค์สวรรคตเมื่อปี พ.ศ. 2001 บุตรของพระองค์ได้รับช่วงต่อและกำเนิดสายราชวงศ์นี้ กษัตริย์ในสายราชวงศ์นี้ล้วนแต่มีความสำคัญและได้รับการกล่าวถึงอยู่เสมอ ได้แก.

ใหม่!!: จักรพรรดิคาร์ลที่ 5 แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์และราชวงศ์ตรัสตามารา · ดูเพิ่มเติม »

ราชวงศ์เวททิน

ราชวงศ์เวททิน (House of Wettin) เป็นราชตระกูลเคานท์, ดยุก, พรินซ์อีเล็คเตอร์ (Kurfürsten) และ พระมหากษัตริย์เยอรมันที่เคยปกครองดินแดนที่ในปัจจุบันคือรัฐแซกโซนีในเยอรมนี เป็นเวลากว่า 953 ปี, ส่วนที่เป็นแซ็กซอนในแซกโซนี-อันฮาลท์ และ ทูริงเกีย เป็นเวลากว่า 800 ปี นอกจากนั้นในบางครั้งก็ยังครองโปแลนด์ และ ลิทัวเนีย, บริเตนใหญ่, โปรตุเกส, บัลแกเรีย และเบลเยียม ในปัจจุบันเหลือเพียงในบริเตนใหญ่ (สหราชอาณาจักร) กับเบลเยียมเท่านั้นที่ยังครองราชบัลลังก์อยู.

ใหม่!!: จักรพรรดิคาร์ลที่ 5 แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์และราชวงศ์เวททิน · ดูเพิ่มเติม »

รายชื่อสนธิสัญญา

การลงนามในสนธิสัญญาแวร์ซายในห้องกระจกของพระราชวังแวร์ซายในฝรั่งเศสเมื่อวันที่ 28 มิถุนายน ค.ศ. 1919เพื่อยุติสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง รายชื่อสนธิสัญญา เป็นรายชื่อข้อตกลงทางประวัติศาสตร์ฉบับที่สำคัญ ระหว่างรัฐ กองทัพ รัฐบาล และกลุ่มชน.

ใหม่!!: จักรพรรดิคาร์ลที่ 5 แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์และรายชื่อสนธิสัญญา · ดูเพิ่มเติม »

รายพระนามพระมหากษัตริย์สเปน

รายพระนามพระมหากษัตริย์สเปน.

ใหม่!!: จักรพรรดิคาร์ลที่ 5 แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์และรายพระนามพระมหากษัตริย์สเปน · ดูเพิ่มเติม »

รายพระนามพระมหากษัตริย์โปรตุเกส

รายพระนามพระมหากษัตริย์แห่งโปรตุเกส พระอิศริยยศเริ่มขึ้นตั้งแต่โปรตุเกสประกาศอิสรภาพจากราชอาณาจักรเลออน ภายใต้การนำของอัลฟอนโซ เฮนริเก ผู้ซึ่งประกาศตั้นตนเป็นกษัตริย์แห่งโปรตุเกสในปี..

ใหม่!!: จักรพรรดิคาร์ลที่ 5 แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์และรายพระนามพระมหากษัตริย์โปรตุเกส · ดูเพิ่มเติม »

รายพระนามพระมหากษัตริย์เยอรมนี

รายพระนามกษัตริย์และจักรพรรดิเยอรมนี (List of German monarchs) รายพระนามข้างล่างเป็นพระนามของพระมหากษัตริย์และจักรพรรดิที่ปกครองเยอรมนีตั้งแต่การแยกตัวมาเป็นราชอาณาจักรแฟรงค์ตะวันออก ในปี..

ใหม่!!: จักรพรรดิคาร์ลที่ 5 แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์และรายพระนามพระมหากษัตริย์เยอรมนี · ดูเพิ่มเติม »

รายพระนามพระมหากษัตริย์เนเปิลส์

นี่คือรายพระนามพระมหากษัตริย์เนเปิล.

ใหม่!!: จักรพรรดิคาร์ลที่ 5 แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์และรายพระนามพระมหากษัตริย์เนเปิลส์ · ดูเพิ่มเติม »

รายพระนามคู่อภิเษกสมรสในพระมหากษัตริย์สเปน

รายพระนามสมเด็จพระราชินี, สมเด็จพระราชินีนาถ และ เจ้าฟ้าชายพระราชสวามีแห่งสเปน.

ใหม่!!: จักรพรรดิคาร์ลที่ 5 แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์และรายพระนามคู่อภิเษกสมรสในพระมหากษัตริย์สเปน · ดูเพิ่มเติม »

รายพระนามคู่อภิเษกสมรสในพระประมุขแห่งลักเซมเบิร์ก

รายพระนามคู่อภิเษกสมรสในพระประมุขแห่งลักเซมเบิร์ก.

ใหม่!!: จักรพรรดิคาร์ลที่ 5 แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์และรายพระนามคู่อภิเษกสมรสในพระประมุขแห่งลักเซมเบิร์ก · ดูเพิ่มเติม »

รายพระนามเจ้าผู้ครองราชรัฐลักเซมเบิร์ก

ประเทศลักเซมเบิร์กปกครองโดยเจ้าผู้ครองราชรัฐซึ่งมีฐานันดรศักดิ์เป็นเคานต์ ดยุก และแกรนด์ดยุก ตามลำดับ ในอดีตเป็นรัฐนี้ส่วนหนึ่งของราชอาณาจักรเยอรมนีและจากนั้นเป็นส่วนหนึ่งของจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ จนกระทั่งได้ปกครองตนเองในปี พ.ศ. 2358.

ใหม่!!: จักรพรรดิคาร์ลที่ 5 แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์และรายพระนามเจ้าผู้ครองราชรัฐลักเซมเบิร์ก · ดูเพิ่มเติม »

ลูคัส ครานัค

ลูคัส ครานัค ผู้อาวุโส (Lucas Cranach der Ältere; Lucas Cranach the Elder; 4 ตุลาคม ค.ศ. 1472 - 16 ตุลาคม ค.ศ. 1553) เป็นจิตรกรสมัยศิลปะเรอแนซ็องส์คนสำค้ญของประเทศเยอรมนีในคริสต์ศตวรรษที่ 15 และ 16 ผู้มีความสำคัญในการเขียนภาพสีน้ำมัน ทำภาพพิมพ์ ภาพพิมพ์แกะไม้ และสลักโลหะ (engraving) ชื่อเมื่อแรกเกิดของลูคัสคือ "ลูคัส ซุนเดอร์" หรือ "ซอนเดอร์" ที่โครนัคในอัปเปอร์ฟรังโคเนีย ต่อมาภายหลังชื่อก็ถูกรวมกับชื่อเมืองเกิดเป็นชื่อ "ลูคัส ครานัค" ลูคัสอาจจะเรียนศิลปะการเขียนภาพจากบิดาหรืออาจจะจากปรมาจารย์ทางภาคใต้ของเยอรมนี เช่นเดียวกับศิลปินร่วมสมัยเช่นมัททีอัส กรือเนวัลด์ ผู้ที่ทำงานที่บัมแบร์กและอาชัฟเฟินบูร์ก บัมแบร์กเป็นเมืองหลวงของสังฆมณฑลที่เมืองโครนัคตั้งอยู.

ใหม่!!: จักรพรรดิคาร์ลที่ 5 แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์และลูคัส ครานัค · ดูเพิ่มเติม »

สมเด็จพระราชาธิบดีควน การ์โลสที่ 1 แห่งสเปน

มเด็จพระราชาธิบดีฆวน การ์โลสที่ 1 แห่งสเปน หรือ พระเจ้าฆวน การ์โลสที่ 1 (Juan Carlos I; เสด็จพระราชสมภพ 5 มกราคม พ.ศ. 2481) เป็นพระมหากษัตริย์สเปน ตั้งแต่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2518 - 19 มิถุนายน พ.ศ. 2557 ฟรันซิสโก ฟรังโก ผู้เผด็จการสเปน กำหนดให้สมเด็จพระราชาธิบดีฆวน การ์โลสที่ 1 เป็นประมุขแห่งรัฐองค์ถัดมาใน..

ใหม่!!: จักรพรรดิคาร์ลที่ 5 แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์และสมเด็จพระราชาธิบดีควน การ์โลสที่ 1 แห่งสเปน · ดูเพิ่มเติม »

สมเด็จพระราชินีนาถอีซาเบลที่ 1 แห่งคาสตีล

มเด็จพระราชินีนาถอีซาเบลที่ 1 แห่งคาสตีล (Isabel I de Castilla; Isabella I of Castile22 เมษายน พ.ศ. 1994-26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2047) เป็นพระราชินีนาถแห่งคาสตีลและเลออนในราชวงศ์ตรัสตามารา พระนางและพระเจ้าเฟร์นันโดที่ 2 แห่งอารากอน พระราชสวามี ได้วางรากฐานในการรวมสเปนให้สืบต่อไปจนถึงรุ่นหลาน คือจักรพรรดิคาร์ลที่ 5 แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ ทั้งสองได้เป็นขั้วอำนาจที่ยิ่งใหญ่ในการยึดดินแดนสเปนกลับคืนมาจากพวกมัวร์และได้กระทำการรวมชาติสเปนเป็นปึกแผ่น พระนางทรงอนุมัติให้คริสโตเฟอร์ โคลัมบัสไปแสวงหาดินแดนโพ้นทะเลและจนสำรวจพบทวีปอเมริกา พระนางจัดได้ว่าเป็นนักปกครองที่ได้รับการกล่าวชื่อในประวัติศาสตร์ พระนางได้ทำให้ศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิกเจริญอย่างมากในสเปนและพระนางทำให้กรานาดาในการปกครองของมุสลิมมัวร์ยินยอมส่งเครื่องบรรณาการต่อพระองค์ ต่อมาพระนางได้ทำการยึดครองกรานาดาได้สำเร็จ และยึดครองนาวาร์ได้ในปี พ.ศ. 2055 แล้ว คำว่า สเปน (España) ก็เริ่มถูกนำมาใช้เพื่อเรียกชื่อของราชอาณาจักรที่รวมกันใหม่นี้ การรวมเป็นหนึ่งเดียวของราชอาณาจักรคาสตีล ราชอาณาจักรอารากอน และราชอาณาจักรนาวาร์ได้วางรากฐานให้กับการเกิดสเปนสมัยใหม่และจักรวรรดิสเปน (Spanish Empire) สเปนกลายเป็นผู้นำอำนาจของยุโรปตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 16 จนถึงครึ่งแรกของคริสต์ศตวรรษที่ 17 เนื่องมาจากการปรับปรุงด้านการเมือง สังคม และการทหารในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 15 การขยายตัวของผลผลิตที่ได้จากเหมืองแร่เงินในทวีปอเมริกาในกลางคริสต์ศตวรรษที่ 16 ก็ยิ่งเสริมตำแหน่งมหาอำนาจให้มั่นคงขึ้นอีก.

ใหม่!!: จักรพรรดิคาร์ลที่ 5 แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์และสมเด็จพระราชินีนาถอีซาเบลที่ 1 แห่งคาสตีล · ดูเพิ่มเติม »

สมเด็จพระราชินีนาถฆัวนาแห่งกัสติยา

มเด็จพระราชินีนาถฆัวนาแห่งกัสติยา (Juana I de Castilla) หรือที่เรียกว่า ฆัวนาผู้บ้าคลั่ง (Juana la Loca) เป็นพระราชธิดาในพระเจ้าเฟร์นันโดที่ 2 แห่งอารากอน และ สมเด็จพระราชินีอิซาเบลลาที่ 1 แห่งกัสติยา เมื่อมีพระชนมายุ 16 พรรษา ทรงอภิเษกสมรสกับเจ้าชายฟิลิปแห่งออสเตรีย พระราชโอรสในสมเด็จพระจักรพรรดิแม็กซิมิเลียนที่ 1 แห่งโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ และพระนางมารี เดอ บูร์กอญ การอภิเษกสมรสเป็นไปเพื่อการสร้างความมั่นคงทางการเมืองของสเปน สานความสัมพันธ์กับราชวงศ์ต่าง ๆ ในยุโรปเช่นเดียวกันกับการอภิเษกสมรสของพระโอรสธิดาองค์อื่น.

ใหม่!!: จักรพรรดิคาร์ลที่ 5 แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์และสมเด็จพระราชินีนาถฆัวนาแห่งกัสติยา · ดูเพิ่มเติม »

สมเด็จพระราชินีนาถแมรีที่ 1 แห่งอังกฤษ

มเด็จพระราชินีนาถแมรีที่ 1 แห่งอังกฤษ (Mary I of England, 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2059 - 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2101) ทรงเป็นสมเด็จพระราชินีนาถแห่งอังกฤษ สมเด็จพระราชินีนาถแห่งไอร์แลนด์ สมเด็จพระราชินีแห่งอรากอน คาสตีลและเนเปิล และสมเด็จพระราชินีแห่งเนเธอร์แลนด์ เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2096 จนกระทั่งเสด็จสวรรคต สมเด็จพระราชินีนาถแมรีที่ 1 ทรงเป็นกษัตริย์องค์ที่ 4 ในราชวงศ์ทิวดอร์ เป็นผู้ซึ่งฟื้นฟูศาสนาคริสต์ นิกายโรมันคาทอลิกในอังกฤษ พระนางได้ดำเนินการเผาเหล่าบุคคลต่างศาสนา ต่างนิกายกว่า 300 คนทั้งเป็น ซึ่งเป็นที่มาของชื่อว่า แมรีบ้าเลือด หรือ แมรีผู้กระหายเลือด (Bloody Mary).

ใหม่!!: จักรพรรดิคาร์ลที่ 5 แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์และสมเด็จพระราชินีนาถแมรีที่ 1 แห่งอังกฤษ · ดูเพิ่มเติม »

สมเด็จพระสันตะปาปาเอเดรียนที่ 6

มเด็จพระสันตะปาปาเอเดรียนที่ 6 (2 มีนาคม ค.ศ. 1459 - 14 กันยายน ค.ศ. 1523) มีพระนามเดิมว่า Adrian Florisz Boeyens ทรงดำรงตำแหน่งตั้งแต่วันที่ 9 มกราคม ค.ศ. 1522 จนกระทั่งสิ้นพระชนม.

ใหม่!!: จักรพรรดิคาร์ลที่ 5 แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์และสมเด็จพระสันตะปาปาเอเดรียนที่ 6 · ดูเพิ่มเติม »

สารตราทอง

รตราทองของอเล็กซิออสที่ 3 แห่งเทรบิซอนด์ (Alexios III of Trebizond) ค.ศ. 1374 ตราทองของสารตราทอง ค.ศ. 1356''' ออกโดยสมเด็จพระจักรพรรดิคาร์ลที่ 4 แห่งโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ สารตราทอง (Golden Bull หรือ Golden Baal) หมายถึงสารตราสีทองที่ประทับในพระราชกฤษฎีกาที่ออกโดยพระจักรพรรดิแห่งจักรวรรดิไบแซนไทน์ และต่อมาโดยพระมหากษัตริย์ในยุโรปในระหว่างยุคกลางและยุคฟื้นฟูศิลปวิทยา (หรือ “bulla aurea” หรือ “ตราทอง” ในภาษาละติน) “สารตราทอง” เป็นวลีที่ใช้ในยุโรปตะวันตก ส่วนในจักรวรรดิไบแซนไทน์ก็เรียกว่า “chrysobullos logos” หรือ “chrysobulls” (χρυσός, หรือ “chrysos” ในภาษากรีกแปลว่า “ทอง”). “สารตราทอง” เป็นพระราชบัญญัติที่ประกาศใช้ติดต่อกันมาเป็นเวลาเกือบแปดร้อยปี และเป็นการออกโดยฝ่ายเดียวโดยไม่คำนึงหน้าที่การรับผิดของฝ่ายที่มีผลต่อ ซึ่งเป็นการทำให้ความมีประสิทธิภาพของอำนาจของจักรวรรดิไบแซนไทน์อ่อนลงไปในสายตาของประเทศอื่น ฉะนั้นในคริสต์ศตวรรษที่ 12 จักรวรรดิไบแซนไทน์จึงพยายามแสวงหาความตกลงจากฝ่ายตรงข้ามก่อนที่จะออกมาเป็นพระราชบัญญัติ พระมหากษัตริย์อื่นๆ ในยุโรปก็นำความคิดนี้ไปใช้แต่ในบางโอกาสเท่านั้น สารตราทองที่ไม่ได้ออกโดยจักรวรรดิไบแซนไทน์ทำให้พระราชบัญญัติมีน้ำหนักมากกว่าพระราชบัญญัติอื่นๆ ที่ออกตามปกติ สารตราทองที่สำคัญๆ ก็ได้แก่.

ใหม่!!: จักรพรรดิคาร์ลที่ 5 แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์และสารตราทอง · ดูเพิ่มเติม »

สุลัยมานผู้เกรียงไกร

ลต่านสุลัยมานที่ 1 (ตุรกีออตโตมัน: سلطان سليمان اول‎) พระองค์เป็นที่รู้จักในโลกตะวันตกว่า สุลัยมานผู้เกรียงไกร และเป็นที่รู้จักในโลกตะวันออกว่า สุลัยมานผู้ตรากฎหมาย ทรงเป็นประมุขของจักรวรรดิออตโตมันสมัยราชวงศ์ออสมันระหว่างปี ค.ศ. 1520 จนเสด็จสวรรคตเมื่อต้นเดือนกันยายนปี ค.ศ. 1566 เป็นสุลต่านพระองค์ที่ 10 และเป็นสุลต่านที่ทรงราชย์นานที่สุดของจักรวรรดิออตโตมัน เป็นเวลานานถึง 46 ปี สุลต่านสุลัยมานเสด็จพระราชสมภพเมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน ค.ศ. 1494 ที่ทราบซอนในประเทศตุรกี เป็นพระราชโอรสในสุลต่านเซลิมที่ 1 และฮาฟซา ฮาทุน (Hafsa Hatun) ทรงเสกสมรสตามกฎหมายกับร็อกเซลานา หรือเฮอร์เรมสุลต่าน พระองค์เสด็จสวรรคตเมื่อราววันที่ 5/6 กันยายน ค.ศ. 1566 ที่ Szigetvár ในประเทศฮังการีปัจจุบัน หลังจากพระองค์เสด็จสวรรคต พระราชโอรสของพระองค์กับเฮอร์เรมสุลต่านก็ขึ้นครองราชย์เป็นสุลต่านเซลิมที่ 2 สุลต่านสุลัยมานเป็นพระมหากษัตริย์องค์สำคัญของคริสต์ศตวรรษที่ 16 ผู้มีบทบาทสำคัญไม่เพียงแต่ในจักรวรรดิออตโตมันเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงททวีปยุโรปด้วย พระองค์มีพระบรมราชานุภาพอันยิ่งใหญ่ทางการทหารและทางเศรษฐกิจ ทรงเป็นผู้นำทัพด้วยพระองค์เองในการสงครามหลายครั้งและทรงได้รับชัยชนะในสงครามหลายครั้งที่รวมทั้งต่อเบลเกรด โรดส์ และ ฮังการีเกือบทั้งหมด แต่มาทางพ่ายแพ้ในการล้อมกรุงเวียนนาในปี..

ใหม่!!: จักรพรรดิคาร์ลที่ 5 แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์และสุลัยมานผู้เกรียงไกร · ดูเพิ่มเติม »

สงครามสันนิบาตกอญัก

งครามสันนิบาตกอญัก (War of the League of Cognac) เป็นส่วนหนึ่งของมหาสงครามอิตาลี (ค.ศ. 1494-1559) ที่เกิดขึ้นระหว่างปี ค.ศ. 1526 จนถึง ค.ศ. 1530 สงครามอิตาลีครั้งนี้เป็นการต่อสู้ระหว่างสมเด็จพระจักรพรรดิคาร์ลที่ 5 แห่งโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ (สเปนและจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์) กับสันนิบาตกอญัก ซึ่งเป็นกลุ่มที่ประกอบด้วยฝรั่งเศส สมเด็จพระสันตะปาปาคลีเมนต์ที่ 7 สาธารณรัฐเวนิส อังกฤษ อาณาจักรดยุคแห่งมิลาน และฟลอเรนซ.

ใหม่!!: จักรพรรดิคาร์ลที่ 5 แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์และสงครามสันนิบาตกอญัก · ดูเพิ่มเติม »

สงครามสามสิบปี

งครามสามสิบปี (Thirty Years' War) (ค.ศ. 1618 - ค.ศ. 1648) สงครามสามสิบปีเป็นสงครามที่ก่อความเสียหายไว้มากที่สุดสงครามหนึ่งของประวัติศาสตร์ยุโรป สงครามส่วนใหญ่สู้รบกันในดินแดนเยอรมนีและมีผู้เข้าร่วมสงครามจากเกือบทุกประเทศในยุโรป อีกทั้งยังเป็นหนึ่งในสงครามที่ยาวนานที่สุดครั้งหนึ่งของประวัติศาสตร์สมัยใหม่ ต้นเหตุของความขัดแย้งและจุดประสงค์ของผู้เข้าร่วมมีความซับซ้อนและมีเหตุผลในการทำสงครามของฝ่ายต่างๆ เกิดขึ้นมากมาย เมื่อเริ่มแรกการต่อสู้เกิดจากความขัดแย้งระหว่างโปรเตสแตนต์และโรมันคาทอลิกในจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ แต่ความขัดแย้งการทางอำนาจทางการเมืองภายในจักรวรรดิก็เป็นส่วนสำคัญด้วย ในที่สุดสงครามก็ขยายออกไปเป็นความขัดแย้งของอาณาบริเวณต่างๆ ทั่วยุโรป สงครามสามสิบปีเป็นสงครามที่ต่อเนื่องมาจากสงครามความขัดแย้งระหว่างฝรั่งเศสกับราชวงศ์ฮับส์บูร์กในการเป็นมหาอำนาจในยุโรปและในที่สุดก็บานปลายไปเป็นสงครามที่ไม่มีเหตุผลใดเกี่ยวข้องกับศาสนา การต่อสู้ส่วนใหญ่ในสงครามสามสิบปีเป็นการต่อสู้โดยกองทัพทหารรับจ้างที่ทำความเสียหายอย่างใหญ่หลวงมาสู่บริเวณที่มีการต่อสู้ และก่อให้เกิดความอดอยากและโรคระบาดจนส่งผลให้จำนวนประชากรของรัฐต่าง ๆ ในเยอรมนี กลุ่มประเทศแผ่นดินต่ำ และอิตาลีลดลงไปเป็นจำนวนมาก อีกทั้งยังก่อให้เกิดการสูญเสียอำนาจในหลายบริเวณ ความขัดแย้งที่เป็นสาเหตุของการต่อสู้ก็ไม่ได้รับการแก้ไข นอกจากนี้การที่สงครามมีค่าจ่ายทางการทหารเป็นจำนวนมาก ส่งผลทำให้รัฐที่เกี่ยวข้องกับการต่อสู้ต้องล้มละลายในช่วงท้ายของสงคราม สงครามสามสิบปียุติลงด้วยสนธิสัญญามึนสเตอร์ (Treaty of Münster) ที่เป็นส่วนหนึ่งของสนธิสัญญาเวสต์ฟาเลี.

ใหม่!!: จักรพรรดิคาร์ลที่ 5 แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์และสงครามสามสิบปี · ดูเพิ่มเติม »

สงครามอิตาลี (ค.ศ. 1499-1504)

งครามอิตาลี (ค.ศ. 1499-1504) หรือ สงครามอิตาลีครั้งที่ 2 หรือ สงครามอิตาลีของหลุยส์ที่ 12 หรือ สงครามชิงเนเปิลส์ (Italian War of 1499–1504 หรือ Second Italian War หรือ Louis XII's Italian War หรือ War over Naples) เป็นส่วนหนึ่งของมหาสงครามอิตาลี (ค.ศ. 1494-1559) ที่เกิดขึ้นระหว่างปี ค.ศ. 1499 จนถึง ค.ศ. 1504 สงครามอิตาลีครั้งนี้ส่วนใหญ่เป็นการต่อสู้ระหว่างพระเจ้าหลุยส์ที่ 12 แห่งฝรั่งเศสและพระเจ้าเฟอร์ดินานด์ที่ 1 แห่งสเปนโดยมีผู้สนับสนุนในจากมหาอำนาจในอิตาลี หลังจากสงครามอิตาลีครั้งที่ 1 พระเจ้าหลุยส์ก็ทรงดำเนินความพยายามในการอ้างสิทธิในราชบัลลังก์ของอาณาจักรดยุคแห่งมิลานและราชอาณาจักรเนเปิลส์ต่อไป ในปี..

ใหม่!!: จักรพรรดิคาร์ลที่ 5 แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์และสงครามอิตาลี (ค.ศ. 1499-1504) · ดูเพิ่มเติม »

สงครามอิตาลี (ค.ศ. 1521-1526)

งครามอิตาลี (ค.ศ. 1521-1526) หรือ สงครามสี่ปี (Italian War of 1521–1526 หรือ Four Years' War) เป็นส่วนหนึ่งของมหาสงครามอิตาลี (ค.ศ. 1494-1559) ที่เกิดขึ้นระหว่างปี ค.ศ. 1521 จนถึง ค.ศ. 1526 สงครามอิตาลีครั้งนี้เป็นสงครามระหว่างพระเจ้าฟรองซัวส์ที่ 1 แห่งฝรั่งเศสและสาธารณรัฐเวนิสฝ่ายหนึ่ง กับ สมเด็จพระจักรพรรดิคาร์ลที่ 5 แห่งโรมันอันศักดิ์สิทธิ์, สมเด็จพระเจ้าเฮนรีที่ 8 แห่งอังกฤษ และ รัฐในอาณาจักรพระสันตะปาปาอีกฝ่ายหนึ่ง ความขัดแย้างเริ่มขึ้นจากความเป็นปรปักษ์ที่เกิดจากการเลือกตั้งคาร์ลเป็นจักรพรรดิระหว่างปี..

ใหม่!!: จักรพรรดิคาร์ลที่ 5 แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์และสงครามอิตาลี (ค.ศ. 1521-1526) · ดูเพิ่มเติม »

สงครามอิตาลี (ค.ศ. 1551-1559)

งครามอิตาลี (ค.ศ. 1551-1559) หรือบางครั้งก็เรียกว่า สงครามฮับส์บูร์ก-วาลัว (Italian War of 1551–1559 หรือ Habsburg-Valois War) เป็นส่วนหนึ่งของมหาสงครามอิตาลี (ค.ศ. 1494-1559) ที่เกิดขึ้นระหว่างปี ค.ศ. 1551 จนถึง ค.ศ. 1559 สงครามอิตาลีครั้งนี้เป็นความขัดแย้งที่เริ่มขึ้นเมื่อพระเจ้าอ็องรีที่ 2 แห่งฝรั่งเศสผู้ขึ้นครองราชย์ต่อจากพระเจ้าฟร็องซัวทรงประกาศสงครามต่อจักรพรรดิคาร์ลที่ 5 แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ โดยมีจุดประสงค์ที่จะยึดอิตาลีคืน และสร้างเสริมพลานุภาพของฝรั่งเศสในยุโรปให้เหนือกว่าอำนาจของฮับส์บูร์ก ในระยะแรกของสงครามการเข้าไปโจมตีในดัชชีลอแรนของพระเจ้าอ็องรีประสบกับความสำเร็จ โดยทรงยึดนครของจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ได้สามแห่ง คือ แม็ส ตูล และ แวร์เดิง แต่เมื่อทรงเดินทัพไปรุกรานแคว้นทัสกานีในปี..

ใหม่!!: จักรพรรดิคาร์ลที่ 5 แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์และสงครามอิตาลี (ค.ศ. 1551-1559) · ดูเพิ่มเติม »

สตัดเฮาเดอร์

ตัดเฮาเดอร์ (stadhouder) แปลตรงตัวว่า เจ้าผู้ครองสถาน คือคำที่ใช้อธิบายรูปแบบหนึ่งของศักดินาตำแหน่งอุปราชหรือผู้บริหารมณฑลแทนพระองค์ ในกลุ่มประเทศต่ำ สตัดเฮาเดอร์คือระบบจากยุคกลางและต่อมาในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 18 ได้ถูกยกระดับให้มีศักดิ์เทียบเท่าประมุขแห่งรัฐในทางปฏิบัติของระบอบมกุฎสาธารณรัฐ (crowned republic) ในสาธารณรัฐดัตช์ สามารถเปรียบเทียบได้กับศักดินา ลีเยิตน็อง ของฝรั่งเศส และ ผู้บริหารมณฑลแทนพระองค์ ของอังกฤษในคริสต์ศตวรรษที่ 16 ซึ่งประสงค์หลักของของตำแหน่งนี้ก็เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยและอำนาจการปกครองส่วนท้องถิ่นของสาธารณรัฐดัตช์ตอนต้น.

ใหม่!!: จักรพรรดิคาร์ลที่ 5 แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์และสตัดเฮาเดอร์ · ดูเพิ่มเติม »

อัศวินฮอสปิทัลเลอร์

ณะอัศวินฮอสปิทัลเลอร์ (Knights Hospitaller) หรือคณะฮอสปิทัลเลอร์ (Order of Hospitallers) เป็นคณะบุรุษที่ทำงานที่โรงพยาบาลอมาลฟิที่ตั้งขึ้นในเยรูซาเลมในปี..

ใหม่!!: จักรพรรดิคาร์ลที่ 5 แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์และอัศวินฮอสปิทัลเลอร์ · ดูเพิ่มเติม »

อันเดรอา กริตติ

หลุมฝังศพของเขาในเมืองเวนิส อันเดรอา กริตติ(Andrea Gritti) (ค.ศ. 1455 - ค.ศ. 1538) เป็นดยุกแห่งเวนิสประมุขของสาธารณรัฐเวนิส ระหว่างปี ค.ศ. 1523 จนกระทั่งเสียชีวิตในปี ค.ศ. 1538 อันเดรอา กริตติเกิดเมื่อปี ค.ศ. 1455 ที่บาร์โดลิโนไม่ไกลจากเวโรนาในประเทศอิตาลีปัจจุบัน กริตติใช้เวลาส่วนใหญ่ในสมัยต้นในคอนสแตนติโนเปิลดูแลผลประโยชน์ให้แก่เวนิส ในปี ค.ศ. 1499 กริตติก็ถูกจำคุกในข้อหาเป็นสายลับแต่รอดจากการถูกประหารชีวิตเพราะความที่เป็นมิตรกับวิเซียร์ (vizier) และถูกปล่อยตัวอีกหลายปีต่อมา เมื่อต้นคริสต์ศตวรรษที่ 16 เวนิสก็เสียดินแดนเกือบทั้งหมดที่มีบนแผ่นดินอิตาลี กริตติมีบทบาทสำคัญในเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับการเสียดินแดน ในปี ค.ศ. 1509 หลังจากการพ่ายแพ้ในยุทธการอักนาเดลโลกริตติก็ได้รับแต่งตั้งให้เป็นแม่ทัพของกองทัพเวนิสในเตรวิโซ และสามารถยึดปาดัวคืนมาได้ และสามารถต่อต้านสมเด็จพระจักรพรรดิแม็กซิมิเลียนที่ 1 แห่งโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ ในปี ค.ศ. 1510 หลังจากการเสียชีวิตของนิโคโล ดิ พิติกลิอาโนกริตติก็เป็นผู้บังคับบัญชากองทัพเวนิสทั้งหมดแต่ถูกบังคับให้ถอยโดยกองทัพที่รุกเข้ามาของฝรั่งเศส กริตติได้รับเลือกให้เป็นดยุกแห่งเวนิสในปี ค.ศ. 1523 และได้ลงนามในสนธิสัญญากับสมเด็จพระจักรพรรดิคาร์ลที่ 5 แห่งโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ซึ่งเป็นการยุติความเกี่ยวข้องของเวนิสในสงครามอิตาลี กริตติพยายามรักษาความเป็นกลางของเวนิสระหว่างความขัดแย้งระหว่างจักรพรรดิคาร์ลและพระเจ้าฟรองซัวส์แห่งฝรั่งเศส และพยายามหันความสนใจของทั้งสองพระองค์ไปยังการหยุดยั้งการขยายตัวของจักรวรรดิออตโตมันในฮังการี แต่กริตติก็ไม่สามารถหยุดยั้งสุลต่านสุลัยมานแห่งจักรวรรดิออตโตมันจากการโจมตีคอร์ฟูในปี ค.ศ. 1537ได้ ซึ่งทำให้เวนิสต้องเข้าสงครามกับจักรวรรดิออตโตมัน.

ใหม่!!: จักรพรรดิคาร์ลที่ 5 แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์และอันเดรอา กริตติ · ดูเพิ่มเติม »

อันเดรีย ดอเรีย

อันเดรีย ดอเรีย (Andrea Doria) (30 พฤศจิกายน ค.ศ. 1466 - (25 พฤศจิกายน ค.ศ. 1560) อันเดรีย ดอเรียมีอาชีพเป็นทหารรับจ้างผู้มีตำแหน่งเป็นผู้บังคับบัญชากองเรือสูงสุดของกองทัพเรือเจนัว อันเดรีย ดอเรียมีบทบาทสำคัญในการต่อสู้กับฝ่ายตุรกีและกลุ่มโจรสลัดบาร์บารีในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ต่อมาก็ไปทำงานให้กับพระเจ้าฟรองซัวส์ที่ 1 แห่งฝรั่งเศสในการยึดเมืองมาร์เซย์คืนจากฝ่ายที่เป็นปฏิปักษ์ต่อพระองค์ เมื่อหมดสัญญาดอเรียก็ไปทำงานให้กับสมเด็จพระจักรพรรดิคาร์ลที่ 5 แห่งโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ ดอเรียก็กลับมายังเจนัวในปี ค.ศ. 1555.

ใหม่!!: จักรพรรดิคาร์ลที่ 5 แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์และอันเดรีย ดอเรีย · ดูเพิ่มเติม »

อาเรกิปา

ที่ตั้งของเมืองอาเรกิปา จัตุรัสเมืองอาเรกิปา อาเรกิปา (Arequipa) เป็นเมืองหลวงของภูมิภาคอาเรกิปาทางตอนใต้ของประเทศเปรู และเป็นเมืองที่มีประชากรมากเป็นที่สองรองจากลิมา อาเรกิปาตั้งอยู่ในเขตเทือกเขาแอนดีสที่ความสูง 2,380 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล และอยู่ใกล้ภูเขาไฟมิสติ อาคารหลายแห่งในเมืองที่ถูกสร้างขึ้นด้วยหินภูเขาไฟสีขาว ทำให้เมืองนี้มีชื่อเล่นว่า "เมืองสีขาว" (The White City; La Ciudad Blanca) ศูนย์กลางประวัติศาสตร์เมืองอาเรกิปาได้รับเลือกให้เป็นมรดกโลกในปี 2000.

ใหม่!!: จักรพรรดิคาร์ลที่ 5 แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์และอาเรกิปา · ดูเพิ่มเติม »

อิซาเบลลา คลารา ยูเจเนียแห่งสเปน

อิซาเบลลา คลารา ยูเจเนียแห่งสเปน (Isabella Clara Eugenia of Spain) (12 สิงหาคม ค.ศ. 1566 - 1 ธันวาคม ค.ศ. 1633) อิซาเบลลา คลารา ยูเจเนียและพระสวามีอัลเบร็คท์ที่ 7 ดยุกแห่งออสเตรียเป็นประมุขของเนเธอร์แลนด์ของสเปนในกลุ่มประเทศแผ่นดินต่ำและทางตอนเหนือของฝรั่งเศสปัจจุบันร่วมกัน ในหลักฐานทางอักษรบางหลักฐานก็ใช้พระนามว่า “คลารา อิซาเบลลา ยูเจเนีย” อิซาเบลลา คลารา ยูเจเนียผู้ประสูติเมื่อวันที่ 12 สิงหาคม ค.ศ. 1566 เป็นพระราชธิดาในพระเจ้าฟิลิปที่ 2 แห่งสเปน และ พระอัครมเหสีองค์ที่สามเอลิซาเบธแห่งวาลัวส์ผู้เป็นพระราชธิดาในพระเจ้าอองรีที่ 2 แห่งฝรั่งเศส และ แคทเธอรีน เดอ เมดิชิ พระองค์เป็นพระเจ้าหลานเธอทางพระราชบิดาในสมเด็จพระจักรพรรดิคาร์ลที่ 5 แห่งโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ และ อิซาเบลลา สมเด็จพระราชินีแห่งโปรตุเก.

ใหม่!!: จักรพรรดิคาร์ลที่ 5 แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์และอิซาเบลลา คลารา ยูเจเนียแห่งสเปน · ดูเพิ่มเติม »

อินทรีสองหัว

ลูกโลกในอุ้งมือเป็นสัญลักษณ์ของอำนาจทางศาสนาและทางฆราวาส (ภาพนูนจากตึกที่ทำการทางศาสนาในคอนสแตนติโนเปิล) อินทรีสองหัว (Double-headed eagle) เป็นสัญลักษณ์ที่นิยมใช้ในการสร้างตราอาร์มและธง ที่มักจะเกี่ยวข้องกับ “อินทรีสองหัว” ที่เป็นองค์ประกอบหนึ่งที่ปรากฏบนตราอาร์มของจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์, จักรวรรดิไบแซนไทน์ และ จักรวรรดิวิชัยนคร ในตราของจักรวรรดิไบแซนไทน์หัวอินทรีสองหัวเป็นสัญลักษณ์ของอำนาจของจักรพรรดิทั้งในทางทางศาสนาและทางฆราวาส และอำนาจของจักรวรรดิที่เหนือทั้งจักรวรรดิตะวันออกและตะวันตก ประเทศหลายประเทศในยุโรปตะวันออกนำอินทรีสองหัวมาใช้เป็นสัญลักษณ์ประจำชาติจนกระทั่งทุกวันนี้ ที่เด่นที่สุดคือรัสเซีย แต่อินทรีสองหัวเป็นสัญลักษณ์ที่ใช้กันมานาก่อนที่จักรวรรดิไบแซนไทน์จะนำมาใช้เป็นสัญลักษณ์ประจำจักรวรรดิ เช่นที่ใช้เป็นสัญลักษณ์ของอาร์เมเนียในยุคกลางและโดยราชวงศ์จาลุกยะ ในตำนานเทพของฮินดูอินทรีสองหัวเรียกว่า “คัณฑเบรุณฑา" (Gandaberunda”).

ใหม่!!: จักรพรรดิคาร์ลที่ 5 แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์และอินทรีสองหัว · ดูเพิ่มเติม »

จอห์นแห่งออสเตรีย

อห์น แห่งออสเตรีย (John of Austria) (24 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1547 – 1 ตุลาคม ค.ศ. 1578) หรือที่รู้จักกันดีตามชื่อธรรมเนียม คือ ดอน จอห์น แห่งออสเตรีย, ในภาษาสเปน ดอน จัน เด ออสเตรีย เป็นพระราชบุตรนอกกฎหมายของจักรพรรดิคาร์ลที่ 5 แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ พระองค์ได้กลายเป็นผู้นำกองทัพในบริการของครึ่งพี่ชายของพระองค์ พระเจ้าเฟลีเปที่ 2 แห่งสเปน และเป็นที่รู้จักดีที่สุดเพื่อชัยชนะเรือที่รบที่เลในปี ค.ศ. 1571 ในการต่อต้านจักรวรรดิออตโตมัน.

ใหม่!!: จักรพรรดิคาร์ลที่ 5 แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์และจอห์นแห่งออสเตรีย · ดูเพิ่มเติม »

จักรพรรดิมักซีมีเลียนที่ 1 แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์

ักรพรรดิมักซีมีเลียน(หรือมักซิมิเลียน) ที่ 1 แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ (Maximilian I, Kaiser des Heiligen Römischen Reiches) (เกิด 22 มีนาคม ค.ศ. 1459 - ตาย12 มกราคม ค.ศ. 1519) ทรงเป็นจักรพรรดิแห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1508 จนเสด็จสวรรคตเมื่อวันที่ 12 มกราคม ค.ศ. 1519 มักซีมีเลียนทรงปกครองร่วมกับพระราชบิดาระหว่างช่วงสิบปีสุดท้ายของรัชสมัยตั้งแต่ราวปี ค.ศ. 1483 พระองค์ทรงขยายอิทธิพลของราชวงศ์ฮับส์บูร์กทั้งในด้านการเสกสมรสและการสงครามWorld Book Encyclopedia, Field Enterprises Educational Corporation, 1976.

ใหม่!!: จักรพรรดิคาร์ลที่ 5 แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์และจักรพรรดิมักซีมีเลียนที่ 1 แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ · ดูเพิ่มเติม »

จักรพรรดินโปเลียนที่ 1

นโปเลียน โบนาปาร์ต (Napoléon Bonaparte) เป็นนายพลในช่วงการปฏิวัติฝรั่งเศส ดำรงตำแหน่งกงสุลเอกของฝรั่งเศส ตั้งแต่ปลายปี..

ใหม่!!: จักรพรรดิคาร์ลที่ 5 แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์และจักรพรรดินโปเลียนที่ 1 · ดูเพิ่มเติม »

จักรพรรดิแฟร์ดีนันด์ที่ 1 แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์

ักรพรรดิแฟร์ดีนันด์ที่ 1 แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ (Ferdinand I, Kaiser des Heiligen Römischen Reiches) (10 มีนาคม ค.ศ. 1503 - 25 กรกฎาคม ค.ศ. 1564) เป็นจักรพรรดิแห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ระหว่างวันที่ ค.ศ. 1558 จนเสด็จสวรรคตเมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม ค.ศ. 1564 นอกจากจะทรงเป็นประมุขของจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์แล้ว จักรพรรดิแฟร์ดีนันด์ที่ 1 ก็ยังเป็นพระมหากษัตริย์แห่งโบฮีเมียและพระมหากษัตริย์แห่งโปแลนด์ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1526 และทรงเป็นอาร์ชดยุกแห่งออสเตรียตั้งแต่ปี ค.ศ. 1521 จนเสด็จสวรรคต หลังจากที่พระเจ้าหลุยส์ที่ 2 แห่งฮังการีผู้ทรงพระอนุชาเขยของพระองค์เสด็จสวรรคต แฟร์ดีนันด์ก็ทรงปกครองเป็นพระมหากษัตริย์แห่งโบฮีเมียและฮังการี และเมื่อจักรพรรดิคาร์ลสละราชสมบัติในปี..

ใหม่!!: จักรพรรดิคาร์ลที่ 5 แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์และจักรพรรดิแฟร์ดีนันด์ที่ 1 แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ · ดูเพิ่มเติม »

จักรพรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์

ักรพรรดิแห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ (Kaiser des Heiligen Römischen Reiches; Emperor of the Holy Roman Empire) หรือจักรพรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ (Holy Roman Emperor) หรือจักรพรรดิโรมัน-เยอรมัน (Römisch-Deutscher Kaiser) เป็นคำที่นักประวัติศาสตร์ใช้หมายถึงประมุขรัฐในสมัยกลางที่พระสันตะปาปาทรงแต่งตั้งให้เป็น "จักรพรรดิแห่งชาวโรมัน" ต่อมาตำแหน่งนี้มาจากการเลือกตั้งแต่ยังคงต้องรับราชาภิเษกจากพระสันตะปาปาอยู่ จนตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 16 เป็นต้นมาจึงหมายถึงผู้ปกครองจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ซึ่งเป็นมีอาณาเขตครอบคลุมดินแดนยุโรปกลาง.

ใหม่!!: จักรพรรดิคาร์ลที่ 5 แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์และจักรพรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ · ดูเพิ่มเติม »

จักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์

ักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ (ละติน: Sacrum Imperium Romanum, Heiliges Römisches Reich) เป็นอภิมหาอำนาจในอดีต เป็นจักรวรรดิซึ่งประกอบด้วยดินแดนหลากเชื้อชาติในยุโรปกลาง ก่อกำเนิดขึ้นในสมัยกลางตอนต้นและล่มสลายลงในปี..

ใหม่!!: จักรพรรดิคาร์ลที่ 5 แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์และจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ · ดูเพิ่มเติม »

จาโกโป ซานโซวีโน

จาโกโป ซานโซวีโน จาโกโป ซานโซวีโน (Jacopo Sansovino) มีชื่อเต็มว่า จาโกโป ดันโตนีโอ ซานโซวีโน (Jacopo d’Antonio Sansovino) (2 กรกฎาคม ค.ศ. 1486 – 27 พฤศจิกายน ค.ศ. 1570) เป็นสถาปนิกและประติมากรชาวอิตาลี เกิดที่เมืองฟลอเรนซ์ ชื่อที่ได้รับตอนเกิดคือ จาโกโป ตัตตี (Jacopo Tatti) ได้รับการถ่ายทอดวิชาความรู้จากอันเดรอา ซานโซวีโน (Andrea Sansovino) หลังจากนั้นได้เปลี่ยนนามสกุลตามอาจารย์ เมื่อครั้งอยู่ในโรม ได้มีผลงานประติมากรรมที่ทำให้ศิลปินและสถาปนิกระดับปรมาจารย์ เช่น บรามันเต (Bramante) และ ราฟาเอล (Raphael) ซานโซวีโน ย้ายกลับมาพำนักที่ฟลอเรนซ์ในปี 1511 และได้รับการว่าจ้างให้ปั้นรูปจำลองของเซนต์เจมส์ ให้โบสถ์ประจำเมืองฟลอเรนซ์ (Basilica di Santa Maria del Fiore) รูปปั้นที่เขาวางแผนที่จะปั้นให้กับโบสถ์แห่งเมืองซานลอเรนโซ ได้รับการปฏิเสธโดยมีเกลันเจโล บัวนาร์โรตี (Michelangelo) ซึ่งเป็นสถาปนิกใหญ่ขณะนั้น หลังจากที่แบบร่างได้ถูกเสนอ โดยซานโซวีโนได้เขียนจดหมายประท้วงอย่างรุนแรงในปี 1518 ในช่วงนี้ซานโซวีโนได้พำนักกับเพื่อนศิลปินซึ่งเป็นจิตรกรเลื่องชื่อ นาม อันเดรอา เดล ซาร์โต และต่อมาเขาได้เดินทางกลับไปโรม โดยพำนักอยู่เป็นเวลาเก้าปี และหนีออกจากโรมไปพำนักที่เวนิสเนื่องจากภาวะสงคราม ในเหตุการณ์เข้าตีกรุงโรม โดยจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ทางตอนเหนือ นำโดยสมเด็จพระจักรพรรดิชาร์ลส์ที่ 5 แห่งโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ ในปี 1529 ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นสถาปนิกสูงสุด (Protomagister) ขึ้นตรงต่อผู้ว่าของเขตซานมาร์โกของเวนิส ทำให้เขากลายมาเป็นศิลปินที่มีอิทธิพลที่สุดในเมือง งานสถาปัตยกรรมชั้นเอกของเขาเป็นงานที่ยังได้รับการเยี่ยมชมโดยนักท่องเที่ยวที่มาเยือนเมืองเวนิสมาจนถึงทุกวันนี้ ซึ่งได้แก่ อาคารทุกหลังที่อยู่ ณ จัตุรัสมาร์โค (Piazza San Marco) โดยเฉพาะอาคารที่เรียกว่า เซกกา (Zecca) หอคอยแห่งจัตุรัส นอกจากนี้เขายังได้ทำการปั้นประติมากรรมหลายชิ้นให้กับมหาวิหารซานมาร์โค งานที่สำคัญมากชิ้นหนึ่งคือห้องสมุดแห่งมาร์โค (Biblioteca Marciana) เป็นอาคารที่ได้รับการตกแต่งอย่างวิจิตรมากที่สุดอาคารหนึ่งในเวนิส เป็นความสำเร็จของการผสมผสานหลักการพื้นฐานที่เรียบง่ายของสถาปัตยกรรมคลาสสิก เข้ากับการตกแต่งประดับประดาอย่างวิจิตรในแบบของเมืองเวนิสได้อย่างลงตัว ซึ่งจะมีอิทธิพลอย่างมากต่อหลักการออกแบบสถาปัตยกรรมของอานเดรอา ปัลลาดีโอ หมวดหมู่:บุคคลที่เกิดในปี พ.ศ. 2029 หมวดหมู่:สถาปนิกชาวอิตาลี หมวดหมู่:ประติมากรชาวอิตาลี หมวดหมู่:สถาปนิกในคริสต์ศตวรรษที่ 16 หมวดหมู่:บุคคลจากฟลอเรนซ์.

ใหม่!!: จักรพรรดิคาร์ลที่ 5 แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์และจาโกโป ซานโซวีโน · ดูเพิ่มเติม »

ทิเชียน

“ภาพเหมือน” (ราว ค.ศ. 1488) ภาพเหมือนดยุ๊คแห่งเวนิสมาร์คานโตนิโอ เทรวิซานิ (Marcantonio Trevisani) ที่พิพิธภัณฑ์ศิลปะที่บูดาเพช ประเทศฮังการี เทพดานาเอ” (Danaë) ภาพหนึ่งจากหลายภาพจากตำนานเทพที่ทิเชียนเขียน จ้างโดยพระเจ้าฟิลลิปที่ 2 แห่งสเปนใน ค.ศ. 1554 แม้ว่าไมเคิล แอนเจโลจะติจากมุมมองของการวาดเส้นแต่ทิเชียนก็เขียนภาพนี้อีกหลายภาพให้กับผู้อุปถัมภ์อื่นๆ ทิเซียโน เวเชลลี หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ ทิเชียน หรือ ทิชัน (Tiziano Vecelli หรือ Tiziano Vecellio หรือ Titian.) (ค.ศ. 1485 - 27 สิงหาคม ค.ศ. 1576) เป็นจิตรกรยุคฟื้นฟูศิลปวิทยาคนสำคัญของประเทศอิตาลีในคริสต์ศตวรรษที่ 16 มีความสำคัญทางการเขียนภาพสีน้ำมัน ทิเชียนเป็นจิตรกรผู้นำของศิลปะเรอเนซองส์ของตระกูลการเขียนแบบเวนิส ทิเชียนเกิดที่พิเว ดี คาดอเร (Pieve di Cadore) ใกล้เมืองเบลลูโน ในรัฐอาณาจักรเวนิส จึงรู้จักกันในนามว่า “ดา คอเดเร” ตามเมืองเกิดด้วย ทิเชียน เป็นจิตรกรที่มีความสามารถหลายด้าน ผู้เขียนได้ทั้งภาพเหมือนและภาพภูมิทัศน์อันเป็นสองลักษณะที่ทำให้มีชื่อเสียง และการเขียนตำนานเทพ และศิลปะคริสต์ศาสนา ถ้าทิเชียนเสียชีวิตเมื่ออายุได้เพียง 40 ปีก็ยังถือเป็นจิตรกรที่มีอิทธิพลที่สุดคนหนึ่งในสมัยนั้น แต่ทิเชียนก็อยู่ต่อมาอีก 50 ปีในขณะที่เปลี่ยนแปลงวิธีเขียนภาพจากเดิมไปเป็นอย่างมาก นักวิจารณ์บางคนไม่เชื่อว่างานที่สร้างเมื่อสมัยต้นและสมัยปลายของทิเชียนเป็นงานของจิตรกรคนเดียวกัน ลักษณะที่ทำให้ทราบว่าเป็นคนเดียวกันคือความสนใจอย่างลึกซึ้งในการใช้สี งานในสมัยหลังแม้จะไม่ใช้สีสดและเรืองอย่างสมัยแรก แต่ฝีแปรงที่พริ้วที่แฝงให้เห็นความที่จะเป็นสีต่างๆ เพียงเล็กน้อยเป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในประวัติศาสตร์ศิลปะตะวันตก.

ใหม่!!: จักรพรรดิคาร์ลที่ 5 แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์และทิเชียน · ดูเพิ่มเติม »

ดัชชีมันโตวา

ัชชีแห่งมานตัว (Duchy of Mantua) เป็นดัชชีแห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ ที่ปกครองโดยดยุกแห่งมานตัว ดัชชีแห่งมานตัวตั้งอยู่ในแคว้นลอมบาร์เดียในอิตาลีเหนือ หลังจากการล่มสลายของจักรวรรดิโรมันแล้วมานตัวก็ถูกรุกรานโดยจักรวรรดิไบแซนไทน์, ลังโกบาร์ด และ แฟรงค์ ในคริสต์ศตวรรษที่ 11 มานตัวก็ตกไปเป็นของโบนิฟาเซแห่งคานอสสามาร์ควิสแห่งทัสเคนี ประมุขคนสุดท้ายของตระกูลคือมาทิลเด เคานเทสแห่งทัสเคนี (เสียชีวิต ค.ศ. 1115) ผู้ตามตำนานกล่าวว่าเป็นผู้สั่งให้สร้างโรทอนโดดิซานโลเรนโซ (ค.ศ. 1082) หลังจากการเสียชีวิตของมาทิลเด มานตัวก็กลายเป็นราชนครรัฐอิสระ และพยายามต่อต้านอำนาจของจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ในระหว่างคริสต์ศตวรรษที่ 12 และ 13 ระหว่างที่เกิดความยุ่งเหยิงระหว่างรัฐกับสถาบันศาสนาพินามอนเต โบนาโคลซิก็ถือโอกาสยึดอำนาจในฐานะกัปตันของประชาชน (Captain General of the People) ในปี..

ใหม่!!: จักรพรรดิคาร์ลที่ 5 แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์และดัชชีมันโตวา · ดูเพิ่มเติม »

คลองปานามา

แผนที่การเดินทางในคลองปานามา โดยมีรายชื่อประตูกั้นน้ำประกอบ สถานที่ตั้งของคลองปานามาระหว่างมหาสมุทรแปซิฟิกและทะเลแคริบเบียน โดยตัวคลองตั้งอยู่บริเวณตรงกลางของแผนที่ คลองปานามา (Panama Canal) เป็นคลองเดินเรือสมุทรความยาว 77 กิโลเมตร สร้างขึ้นบริเวณคอคอดปานามาในประเทศปานามา เพื่อเชื่อมมหาสมุทรแปซิฟิกกับมหาสมุทรแอตแลนติกเข้าด้วยกัน ซึ่งช่วยย่นระยะเวลาที่ต้องไปอ้อมช่องแคบเดรกและแหลมฮอร์น ทางใต้สุดของทวีปอเมริกาใต้ คิดเป็นระยะทางกว่า 22,500 กิโลเมตร ซึ่งมีผลอย่างยิ่งต่อการเดินเรือระหว่างสองมหาสมุทร โดยถูกใช้เป็นเส้นทางเดินเรือหลักสำหรับการค้าทางทะเลระหว่างประเทศ ตั้งแต่เปิดทำการ คลองปานามาประสบความสำเร็จและเป็นกุญแจสำคัญในการขนส่งสินค้าทั่วโลก จำนวนเรือที่ผ่านคลองปานามาเพิ่มขึ้นจาก 1,000 ลำต่อปีในยุคแรกเริ่ม มาเป็น 14,702 ลำต่อปี ในปี..

ใหม่!!: จักรพรรดิคาร์ลที่ 5 แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์และคลองปานามา · ดูเพิ่มเติม »

คณะเยสุอิต

ณะเยสุอิต.

ใหม่!!: จักรพรรดิคาร์ลที่ 5 แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์และคณะเยสุอิต · ดูเพิ่มเติม »

ฆวน เบาติสตา เด โตเลโด

อารามเอลเอสโกเรียล ฆวน เบาติสตา เด โตเลโด (Juan Bautista de Toledo; เสียชีวิตเมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม ค.ศ. 1567) เป็นสถาปนิกและประติมากรชื่อดังจากกรุงมาดริด เขาเกิดในกรุงมาดริดโดยที่ไม่มีข้อมูลในวัยเด็กของเขา ในปี ค.ศ. 1547 โตเลโดเดินทางไปที่กรุงโรม และเข้าเป็นนักเรียนของมีเกลันเจโล บัวนาร์โรตี หลังจากนั้นเขาได้เดินทางไปที่เมืองเนเปิลส์ ณ ที่นี่เขาได้รับคำสั่งให้เข้าพบอุปราชสเปนแห่งเนเปิลส์นามว่า เปโดร อัลบาเรซ เด โตเลโด เพื่อรับงานเป็นสถาปนิกให้กับจักรพรรดิชาลส์ที่ 5 เขาได้ออกแบบอาคารหลายหลังที่นั่น รวมทั้งสตราดาดีโตเลโด (Strada di Toledo) โบสถ์ซานจาโกโมเดลยีสปัญญูโวลี (St. Giacomo degli Spagnuoli) และอาคารอื่น ๆ อีกหลายหลัง ในปี ค.ศ. 1559 พระเจ้าเฟลิเปที่ 2 ทรงเรียกตัวโตเลโดกลับมาที่มาดริด และทรงแต่งตั้งให้เป็นสถาปนิกหลวงแห่งสเปน เงินรายได้ต่อปีของเขาในช่วงแรกอยู่ในระดับที่น้อย ตามนโยบายของวังที่ต้องการทดสอบความสามารถของสถาปนิกและศิลปินที่รับเข้ามาใหม่ในเมืองมาดริด เขาได้ทำการออกแบบปราสาทมีเซรีกอร์เดีย (Casa de la Misericordia) และโครงการปรับปรุงด้านหน้าโบสถ์เดสกัลซัสเรอาเลส (Church de las Descalzas Reales) แห่งวังกัมโป (Casa de Campo) โตโลโดยังได้ทำการออกแบบที่เมืองอาเซกา (Aceca) ที่วังอารังฆูเอซ (Aranjuez) ผลงานชิ้นเอกของโตเลโด คือ เอลเอสโกเรียล แต่ไม่มีโอกาสสร้างเสร็จ เพราะเขาเสียชีวิตในปี..

ใหม่!!: จักรพรรดิคาร์ลที่ 5 แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์และฆวน เบาติสตา เด โตเลโด · ดูเพิ่มเติม »

ตราแผ่นดินของสเปน

ตราแผ่นดินของสเปน (Coat of arms of Spain) เป็นตราอาร์มของประเทศสเปนที่ได้รับการอนุมัติให้ใช้ได้ตามกฎหมายเมื่อวันที่ 5 ตุลาคม ค.ศ. 1981 แทนที่ตราชั่วคราว เป็นตราที่นำมาใช้แทนตราของรัฐสเปน (ภายใต้การปกครองของจอมพลฟรันซิสโก ฟรังโก) ตราแผ่นดินปรากฏบนธงชาติสเปน.

ใหม่!!: จักรพรรดิคาร์ลที่ 5 แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์และตราแผ่นดินของสเปน · ดูเพิ่มเติม »

ตูร์แน

ตูร์แน (Tournai) หรือ โดร์นิก (Doornik) เป็นเมืองในเขตวัลลูน มณฑลแอโน และเขตเทศบาลหนึ่งของเบลเยียม ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของกรุงบรัสเซลส์ไปประมาณ 85 กิโลเมตร ตัวเมืองมีแม่น้ำสเกลต์พาดผ่านกลางเมือง เมืองตูร์แนยังเป็นที่ตั้งของมุขมณฑลตูร์แน (Diocese of Tournai) อีกด้วย ตูร์แนเป็นหนึ่งในเมืองที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งในประวัติศาสตร์แห่งเบลเยียม คู่กับอาร์ลงและตองเคอเรน อันเป็นเมืองสำคัญส่วนหนึ่งของเคาน์ตีฟลานเดอร์ (Comté de Flandre) ตั้งแต่สมัยยุคกลาง โดยเป็นที่ตั้งของหอระฆังที่มีอายุเก่าแก่ที่สุดในเบลเยียม และอาสนวิหารแม่พระแห่งตูร์แน ซึ่งทั้งสองแห่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก โดยมหาวิหารนั้นเป็นสิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่ของยุคกลางที่ผสมผสานกันด้วยสถาปัตยกรรมโรมาเนสก์และกอทิกอย่างสวยงาม พร้อมทั้งหอคอยขนาดใหญ่จำนวนห้าหออันเป็นเอกลักษณ์สำคัญและเป็นที่มาของชื่อเล่นของตูร์แนว่า "เมืองแห่งหอระฆังทั้งห้า".

ใหม่!!: จักรพรรดิคาร์ลที่ 5 แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์และตูร์แน · ดูเพิ่มเติม »

ประวัติศาสตร์ฝรั่งเศส

ฝรั่งเศสเป็นดินแดนที่เคยอยู่ใต้การปกครองของจักรวรรดิโรมันมาก่อน โดยรู้จักกันในชื่อของชนเผ่า หรือแคว้นกอล ซึ่งเป็นกลุ่มชนเผ่าขนาดใหญ่ที่พูดภาษาเคลท์ ในช่วงท้ายก่อนที่จักรวรรดิโรมันจะล่มสลายลง ดินแดนกอลถูกรุกรานจากทั้งการโจมตีของกลุ่มอนารยชนและการอพยพของกลุ่มคนเร่ร่อน โดยเฉพาะชาวแฟรงก์เชื้อสายเจอร์มานิค พระมหากษัตริย์แฟรงก์นามว่า โคลวิสที่ 1 ได้ทรงรวบรวมดินแดนส่วนมากของกอลภายใต้การปกครองของพระองค๋ในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 5 นับเป็นจุดเริ่มต้นของอิทธิพลชาวแฟรงก์ในภูมิภาคนี้ที่ดำเนินต่อไปอีกหลายร้อยปี อำนาจของแฟรงก์ดำเนินมาถึงจุดสูงสุดในช่วงของพระเจ้าชาร์เลอมาญ ราชอาณาจักรฝรั่งเศสยุคกลางก็ได้ถือกำเนิดขึ้นจากการเป็นพื้นที่ส่วนหนึ่งทางทิศตะวันตกของจักรวรรดิการอแล็งเฌียงของชาร์เลอมาญ ซึ่งรู้จักกันในนาม ฟรังเกียตะวันตก และเพิ่มพูนอิทธิพลของตนขึ้นเรื่อยมาภายใต้การปกครองของตระกูลกาแปซึ่งก่อตั้งโดยอูก กาแปในปี..

ใหม่!!: จักรพรรดิคาร์ลที่ 5 แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์และประวัติศาสตร์ฝรั่งเศส · ดูเพิ่มเติม »

ประวัติศาสตร์ลักเซมเบิร์ก

น์ตี ดัชชี และแกรนด์ดัชชีลักเซมเบิร์ก (County, Duchy and Grand Duchy of Luxembourg) ภูมิภาคทางประวัติศาสตร์ของ ลักเซมเบิร์ก เป็นมณฑลของโรมันเบลจิคาพรีมา หลังจากการรุกรานของกลุ่มชนเจอร์มานิคจากทางตะวันออกลักเซมเบิร์กก็กลายมาเป็นส่วนหนึ่งของจักรวรรดิแฟรงก์และต่อมาก็กลายเป็นส่วนหนึ่งของจักรวรรดิแฟรงค์กลาง.

ใหม่!!: จักรพรรดิคาร์ลที่ 5 แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์และประวัติศาสตร์ลักเซมเบิร์ก · ดูเพิ่มเติม »

ประวัติศาสตร์สเปน

ตราสัญลักษณ์ของประเทศสเปน โบสถ์ซานตามารีอาเดลนารังโก เมืองโอเบียโด ภาคเหนือ อารามหลวงเอลเอสโกเรียล กรุงมาดริด ภาคกลาง พิพิธภัณฑ์วิจิตรศิลป์ เมืองบาเลนเซีย ภาคตะวันออก ปราสาทอาลัมบรา เมืองกรานาดา ภาคใต้ ประวัติศาสตร์สเปน คือเรื่องราวความเป็นมาเกี่ยวกับอาณาบริเวณส่วนใหญ่บนคาบสมุทรไอบีเรียในภูมิภาคยุโรปใต้ซึ่งมีพัฒนาการสืบเนื่องมาตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์ ผ่านยุครุ่งเรืองและยุคตกต่ำของจักรวรรดิสากลแห่งแรกของโลกจนกลายมาเป็นราชอาณาจักรสเปนในปัจจุบัน อันเป็นช่วงฟื้นฟูตนเองหลังสมัยการปกครองแบบเผด็จการของนายพลฟรังโกได้ผ่านพ้นไป มีอยู่หลายช่วงที่ประวัติศาสตร์การเมืองและการทหารของสเปนเต็มไปด้วยความวุ่นวายและความรุนแรง ส่วนใหญ่เกิดจากนโยบายและความพยายามที่จะจัดการกับความแตกต่างทางเชื้อชาติ ศาสนา และความคิดความเชื่อในดินแดนของตนนั่นเอง มนุษย์สมัยใหม่เข้ามาในคาบสมุทรไอบีเรียเป็นเวลานานกว่า 35,000 ปีมาแล้ว ตามมาด้วยคลื่นผู้รุกรานและผู้ตั้งอาณานิคมชนชาติต่าง ๆ ได้แก่ ชาวเคลต์ ชาวฟินิเชีย ชาวคาร์เทจ และชาวกรีกตลอดระยะเวลานับพัน ๆ ปี เมื่อถึงประมาณ 200 ปีก่อนคริสต์ศักราช ทั้งคาบสมุทรจึงตกเป็นส่วนหนึ่งของสาธารณรัฐโรมัน ก่อนจะตกไปอยู่ภายใต้การปกครองจากชาววิซิกอท และในปี ค.ศ. 711 ชาวแอฟริกาเหนือซึ่งเป็นชาวมุสลิม (ชาวมัวร์) ก็เริ่มเข้ามามีอำนาจ ในที่สุดอาณาจักรอิสลามก็ได้รับการสถาปนาขึ้นบนคาบสมุทรแห่งนี้และยืนหยัดได้เป็นเวลาประมาณ 750 ปี ซึ่งพื้นที่ที่ชาวมุสลิมครอบครองนั้นเป็นที่รู้จักกันในชื่อ อัลอันดะลุส แต่ในช่วงเวลาเดียวกันนี้ยังเป็นช่วงที่เรียกว่า "เรกองกิสตา" หรือการยึดดินแดนคืนของชาวคริสต์ซึ่งค่อย ๆ รุกลงไปทางใต้ เหตุการณ์เหล่านี้ดำเนินไปถึงจุดสิ้นสุดเมื่อชาวคริสต์สามารถพิชิตที่มั่นแห่งสุดท้ายของชาวมุสลิมที่กรานาดาได้ในปี ค.ศ. 1492 จากนั้นราชอาณาจักรและรัฐคาทอลิกต่าง ๆ บนคาบสมุทรไอบีเรียก็ได้พัฒนาขึ้น รวมทั้งราชอาณาจักรคาสตีลและราชอาณาจักรอารากอนด้วย ซึ่งการรวมกันของอาณาจักรทั้งสองนี้จะนำไปสู่ความเป็นปึกแผ่นของรัฐชาติสเปนในเวลาต่อมา ปี..

ใหม่!!: จักรพรรดิคาร์ลที่ 5 แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์และประวัติศาสตร์สเปน · ดูเพิ่มเติม »

ประวัติศาสตร์ออสเตรีย

ตราแผ่นดินของออสเตรียปัจจุบัน ประวัติศาสตร์ออสเตรีย ในช่วงก่อนปลายศตวรรษที่ 8 ประเทศออสเตรียมีชนชาติอพยพต่าง ๆ อพยพเข้ามาตั้งถิ่นฐาน ได้แก่ ชนเผ่าเยอรมันที่ข้ามแม่น้ำดานูบลงมาทางตอนใต้ และชาวสลาฟที่อาศัยอยู่ทางตอนใต้ออสเตรีย จนสิ้นสุดศตวรรษที่ 8 ชาร์เลอมาญ (Charlemagne) ได้ก่อตั้งเขตชายแดนระหว่างแม่น้ำอินส์ แรบและดราวา เพื่อเป็นป้อมปราการ ป้องกันการรุกราน ของชาวเอวาร์ และภายหลังจากที่ชาวโรมันได้อพยพออกไป นักบวชชาวไอริชและสก็อตจึงได้เข้ามาเผยแพร่คริสต์ศาสนา ในดินแดนบริเวณเทือกเขาอัลไพน์แห่งนี้ ราชวงศ์บาเบนแบร์ก (Babenberg) ของชาวบาวาเรียนได้เข้าปกครองออสเตรียในปี..

ใหม่!!: จักรพรรดิคาร์ลที่ 5 แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์และประวัติศาสตร์ออสเตรีย · ดูเพิ่มเติม »

ประวัติศาสตร์อังกฤษ

อังกฤษ เป็นประเทศที่ใหญ่ที่สุด และมีประชากรมากที่สุดเมื่อเปรียบเทียบกับประเทศอื่นๆ ในสหราชอาณาจักร ประวัติศาสตร์อังกฤษเริ่มขึ้นเมื่อมีการตั้งถิ่นฐานของมนุษย์เมื่อหลายพันปีมาแล้ว ภูมิภาคที่ปัจจุบันคืออังกฤษภายในสหราชอาณาจักรเป็นที่ตั้งถิ่นฐานของมนุษย์นีอันเดอร์ธอลราว 230,000 ปีมาแล้ว ขณะที่มนุษย์โฮโมเซเพียนซึ่งเป็นมนุษย์สมัยใหม่เริ่มเข้ามาตั้งถิ่นฐานราว 29,000 ปีมาแล้ว แต่การอยู่ต่อเนื่องกันโดยตลอดเริ่มขึ้นราว 11,000 ปีมาแล้วในปลายยุคน้ำแข็ง ในบริเวณภูมิภาคนี้ยังมีร่องรอยของมนุษย์สมัยต่างๆ ที่เข้ามาตั้งถิ่นฐานที่เริ่มตั้งแต่ยุคหินกลาง, ยุคหินใหม่ และ ยุคสำริด เช่น สโตนเฮนจ์ และเนินดินที่เอฟบรี ในยุคเหล็กอังกฤษก็เช่นเดียวกับบริเตนทั้งหมดทางใต้ของเฟิร์ธออฟฟอร์ธเป็นที่ตั้งถิ่นฐานของชนเคลต์ที่เป็นกลุ่มชนที่เรียกว่า บริเตน (Briton) หรือเผ่าเบลแจ ในปี..

ใหม่!!: จักรพรรดิคาร์ลที่ 5 แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์และประวัติศาสตร์อังกฤษ · ดูเพิ่มเติม »

ประเทศสเปน

ไม่มีคำอธิบาย.

ใหม่!!: จักรพรรดิคาร์ลที่ 5 แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์และประเทศสเปน · ดูเพิ่มเติม »

ประเทศเบลเยียม

ลเยียม (Belgium) หรือชื่อทางการว่า ราชอาณาจักรเบลเยียม (Kingdom of Belgium) เป็นประเทศในยุโรปตะวันตกเฉียงเหนือ มีอาณาเขตติดต่อกับประเทศเนเธอร์แลนด์ เยอรมนี ลักเซมเบิร์ก ฝรั่งเศส และทะเลเหนือ เบลเยียมเป็นสมาชิกรุ่นก่อตั้งของสหภาพยุโรป และเป็นที่ตั้งของสำนักงานใหญ่ เช่นเดียวกับของอีกหลายองค์กรระหว่างประเทศรวมถึงองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ ทั้งนี้ ลักษณะของประเทศ ยังคล้ายกับ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์อีกด้วย เบลเยียมมีความหลากหลายทางภาษาค่อนข้างสูง ส่งผลต่อระบบการปกครองที่ค่อนข้างซับซ้อน เบลเยียมแบ่งออกเป็นสองภูมิภาคใหญ่ ๆ ได้แก่ฟลานเดอส์ ซึ่งประชากรส่วนใหญ่พูดภาษาดัตช์ และวัลโลเนีย ซึ่งประชากรส่วนใหญ่พูดภาษาฝรั่งเศส บรัสเซลส์ เมืองหลวงของเบลเยียม เป็นเขตทวิภาษา ตั้งอยู่ในฟลานเดอส์ นอกจากนี้ยังมีชุมชนที่พูดภาษาเยอรมันในทางตะวันออกของวัลโลเนียด้วย คำว่าเบลเยียม (Belgium ในภาษาอังกฤษ België และ Belgique ในภาษาดัตช์และฝรั่งเศส) มีที่มาจาก Gallia Belgica ซึ่งเป็นจังหวัดในยุคโรมัน มีกลุ่มชาว Belgae อยู่อาศั.

ใหม่!!: จักรพรรดิคาร์ลที่ 5 แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์และประเทศเบลเยียม · ดูเพิ่มเติม »

นิวสเปน

เขตอุปราชแห่งนิวสเปน (Virreinato de Nueva España) คืออาณาบริเวณที่อยู่ในการปกครองของจักรวรรดิสเปนในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 15 ปัจจุบันเป็นอาณาเขตของประเทศเม็กซิโก กัวเตมาลา เบลีซ ฮอนดูรัส นิการากัว คอสตาริกา ฟิลิปปินส์ ปาเลา ไมโครนีเซีย และบางส่วนของสหรัฐอเมริกาได้แก่ รัฐแคลิฟอร์เนีย นิวเม็กซิโก เนวาดา แอริโซนา เทกซัส โคโลราโด ฟลอริดา บางส่วนของรัฐยูทาห์ โอคลาโฮมา กวม หมู่เกาะนอร์เทิร์นมาเรียนา รวมทั้งหมู่เกาะเกือบทั้งหมดในทะเลแคริบเบียน โดยสเปนจะส่งอุปราชซึ่งได้รับการแต่งตั้งจากส่วนกลางเข้ามาปกครองดินแดนและขึ้นตรงต่อกษัตริย์สเปน ศูนย์กลางการปกครองของนิวสเปนคือ เม็กซิโกซิตี ส่วนเมืองสำคัญได้แก่ ซันโตโดมิงโกบนเกาะฮิสปันโยลา และมะนิลาบนเกาะลูซอน หมวดหมู่:รัฐสิ้นสภาพในทวีปอเมริกาเหนือ หมวดหมู่:รัฐสิ้นสภาพในทวีปเอเชีย หมวดหมู่:รัฐสิ้นสภาพในเขตโอเชียเนีย หมวดหมู่:ประวัติศาสตร์อเมริกาเหนือ หมวดหมู่:ประวัติศาสตร์เอเชีย หมวดหมู่:ประวัติศาสตร์โอเชียเนีย หมวดหมู่:อดีตอาณานิคมของสเปน หมวดหมู่:รัฐและดินแดนที่ก่อตั้งในคริสต์ศตวรรษที่ 16 หมวดหมู่:สิ้นสุดในคริสต์ศตวรรษที่ 19.

ใหม่!!: จักรพรรดิคาร์ลที่ 5 แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์และนิวสเปน · ดูเพิ่มเติม »

แมรี ทิวดอร์ สมเด็จพระราชินีแห่งฝรั่งเศส

แมรี ทิวดอร์ สมเด็จพระราชินีแห่งฝรั่งเศส (Marie d'Angleterre, Mary Tudor, Queen of France) (18 มีนาคม ค.ศ. 1496 - 25 มิถุนายน ค.ศ. 1533) แมรี ทิวดอร์ เป็นสมเด็จพระราชินีแห่งฝรั่งเศสในพระเจ้าหลุยส์ที่ 12 แห่งฝรั่งเศส ระหว่างวันที่ 9 ตุลาคม ค.ศ. 1514 ถึงวันที่ 1 มกราคม ค.ศ. 1515 แมรีประสูติเมื่อวันที่ 18 มีนาคม ค.ศ. 1496 ที่พระราชวังริชมอนด์ในราชอาณาจักรอังกฤษ เป็นพระธิดาในสมเด็จพระเจ้าเฮนรีที่ 7 แห่งอังกฤษ และเอลิซาเบธแห่งยอร์ค แมรีเป็นพระขนิษฐาในสมเด็จพระเจ้าเฮนรีที่ 8 พระองค์ทรงเสกสมรสครั้งแรกกับพระเจ้าหลุยส์ที่ 12 แห่งฝรั่งเศส เมื่อพระเจ้าหลุยส์เสด็จสวรรคตพระองค์ก็ทรงเสกสมรสเป็นครั้งที่สองกับชาร์ลส์ แบรนดอน ดยุคแห่งซัฟโฟล์คที่ 1 (Charles Brandon, 1st Duke of Suffolk).

ใหม่!!: จักรพรรดิคาร์ลที่ 5 แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์และแมรี ทิวดอร์ สมเด็จพระราชินีแห่งฝรั่งเศส · ดูเพิ่มเติม »

แมรีแห่งออสเตรีย สมเด็จพระราชินีแห่งฮังการีและโบฮีเมีย

แมรีแห่งออสเตรีย สมเด็จพระราชินีแห่งฮังการีและโบฮีเมีย หรือ มาเรียแห่งคาสตีล หรือ มารีแห่งเบอร์กันดี (Mary of Austria หรือ Maria of Castile หรือ Marie of Burgundy) (18 กันยายน ค.ศ. 1505 – 18 ตุลาคม ค.ศ. 1558) เป็นพระมเหสีในสมเด็จพระเจ้าหลุยส์ที่ 2 แห่งฮังการีและโบฮีเมีย ระหว่างปี ค.ศ. 1522 จนถึงปี ค.ศ. 1526 ต่อมาพระองค์ทรงทำหน้าที่เป็นข้าหลวงแห่งเนเธอร์แลนด์แทนพระเชษฐาสมเด็จพระจักรพรรดิคาร์ลที่ 5 แห่งโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ระหว่างปี ค.ศ. 1530 จนถึงปี ค.ศ. 1555 แมรีแห่งออสเตรียบรัสเซลส์เป็นพระราชธิดาในพระเจ้าเฟลิเปที่ 1 แห่งสเปน และ โจอันนาแห่งคาสตีล และเป็นพระราชนัดดาในทางฝ่ายพระราชบิดาในสมเด็จพระจักรพรรดิแม็กซิมิเลียนที่ 1และพระอัครมเหสีองค์แรกแมรีแห่งเบอร์กันดี พระอัยกาและอัยกีทางฝ่ายพระราชมารดาคือพระเจ้าเฟรนานโดที่ 2 แห่งอารากอน และ สมเด็จพระราชินีนาถอิซาเบลลาที่ 1 แห่งคาสตีล แมรีเป็นพระขนิษฐาในเอเลนอร์แห่งออสเตรีย สมเด็จพระราชินีแห่งฝรั่งเศส, สมเด็จพระจักรพรรดิคาร์ลที่ 5 แห่งโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ และ สมเด็จพระจักรพรรดิเฟอร์ดินานด์ที่ 1 แห่งโรมันอันศักดิ์สิท.

ใหม่!!: จักรพรรดิคาร์ลที่ 5 แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์และแมรีแห่งออสเตรีย สมเด็จพระราชินีแห่งฮังการีและโบฮีเมีย · ดูเพิ่มเติม »

แมรีแห่งเบอร์กันดี

แมรีแห่งเบอร์กันดี หรือ แมรีผู้มั่งคั่ง (Mary of Burgundy หรือ Mary the Rich) (13 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1457 - 27 มีนาคม ค.ศ. 1482) แมรีแห่งเบอร์กันดีเป็นบุตรีของชาร์ลส์เดอะโบลด์ ดยุกแห่งเบอร์กันดีและอิซาเบลลาแห่งบูร์บอง และมีบรรดาศักดิ์เป็นดัชเชสแห่งแห่งเบอร์กันดี ระหว่างปี ค.ศ. 1477 จนกระทั่งเสียชีวิตเมื่อวันที่ 27 มีนาคม ค.ศ. 1482 แมรีเป็นธิดาคนเดียวของชาร์ลส์เดอะโบลด์ซึ่งทำให้มีสิทธิเป็นทายาทของดินแดนเบอร์กันดีอันใหญ่โตในฝรั่งเศสและในกลุ่มประเทศแผ่นดินต่ำเมื่อบิดาเสียชีวิตในยุทธการนองซี (Battle of Nancy) เมื่อวันที่ 5 มกราคม ค.ศ. 1477 แม่ของแมรีเสียชีวิตก่อนหน้านั้นในปี ค.ศ. 1465 แต่แมรีมีความสัมพันธ์อันดีกับแม่เลี้ยงมาร์กาเร็ตแห่งยอร์คผู้ที่ชาร์ลส์เดอะโบลด์สมรสด้วยในปี ค.ศ. 1468.

ใหม่!!: จักรพรรดิคาร์ลที่ 5 แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์และแมรีแห่งเบอร์กันดี · ดูเพิ่มเติม »

แมซงดูว์รัว

แมซง ดูว์ รัว (Maison du Rois) แปลตามศัพท์ภาษาฝรั่งเศสว่า "บ้านของพระราชา" ในภาษาดัตช์เรียกว่า โบรดฮัส (Broodhuis) แปลว่า "บ้านขนมปัง" เป็นอาคารสำคัญทางประวัติศาสตร์แห่งหนึ่งในจัตุรัสกร็องปลัสแห่งบรัสเซลส์ ตั้งอยู่ทางทิศเหนือของจัตุรัส ตรงข้ามกับออแตลเดอวีล ตัวอาคารเป็นแบบสถาปัตยกรรมฟื้นฟูกอทิก แมซง ดูว์ รัว นั้นได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก โดยถือเป็นส่วนหนึ่งของกร็องปลัสแห่งบรัสเซลส์ ในปีค.ศ. 1998.

ใหม่!!: จักรพรรดิคาร์ลที่ 5 แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์และแมซงดูว์รัว · ดูเพิ่มเติม »

แอนน์แห่งบริตานี สมเด็จพระราชินีแห่งฝรั่งเศส

แอนน์แห่งบริตานี สมเด็จพระราชินีแห่งฝรั่งเศส (Anne de Bretagne; ภาษาเบรตอง: Anna Vreizh;Anne of Brittany) (25 มกราคม ค.ศ. 1477 - 9 มกราคม ค.ศ. 1514) แอนน์แห่งบริตานีเป็นสมเด็จพระราชินีในสมเด็จพระจักรพรรดิแม็กซิมิเลียนที่ 1 แห่งโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ระหว่างวันที่ 9 กันยายน ค.ศ. 1488 ถึงวันที่ 9 มกราคม ค.ศ. 1514; ในพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 8 แห่งฝรั่งเศสระหว่างวันที่ 6 ธันวาคม ค.ศ. 1491 ถึงวันที่ 7 เมษายน ค.ศ. 1498 และในพระเจ้าหลุยส์ที่ 12 แห่งฝรั่งเศส ระหว่างวันที่ 8 มกราคม ค.ศ. 1499 ถึงวันที่ 9 มกราคม ค.ศ. 1514 แอนน์ประสูติเมื่อวันที่ 25 มกราคม ค.ศ. 1477 ที่นองซ์ในฝรั่งเศสเป็นพระธิดาของฟรองซัวส์ที่ 2 ดยุกแห่งบริตานี และมาร์กาเร็ตแห่งฟัวซ์ ดัชเชสแห่งบริตานี (Margaret of Foix) เมื่อพระบิดาเสียชีวิตแอนน์ก็เป็นดัชเชสแห่งบริตานีอย่างเต็มตัว และเป็นเคานเทสแห่งนองซ์, มงท์ฟอร์ต และริชมงท์ และไวท์เคานเทสแห่งลีมอชส์ ซึ่งทำให้ทรงเป็นสตรีผู้มีอำนาจและฐานะมั่งคั่งที่สุดในยุโรป.

ใหม่!!: จักรพรรดิคาร์ลที่ 5 แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์และแอนน์แห่งบริตานี สมเด็จพระราชินีแห่งฝรั่งเศส · ดูเพิ่มเติม »

แอนเดรียส เวซาเลียส

แอนเดรียส เวซาเลียส แอนเดรียส เวซาเลียส (Andreas Vesalius) (บรัสเซลส์, 31 ธันวาคม ค.ศ. 1514 - ซาคินธอส, 15 ตุลาคม ค.ศ. 1564) นักกายวิภาคศาสตร์ แพทย์ และผู้เขียนหนังสือที่มีอิทธิพลอย่างมากต่อการศึกษากายวิภาคศาสตร์มนุษย์ชื่อ “โครงสร้างของร่างกายมนุษย์” (De humani corporis fabrica) เวซาเลียสถือว่าเป็นบิดาผู้ก่อตั้งกายวิภาคศาสตร์มนุษย์สมัยใหม่ เวซาเลียส (Vesalius) เป็นชื่อภาษาละตินของ อันเดรอัส ฟาน เวเซล (Andreas van Wesel) บางครั้งอาจเรียกชื่อของเขาว่า Andreas Vesal.

ใหม่!!: จักรพรรดิคาร์ลที่ 5 แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์และแอนเดรียส เวซาเลียส · ดูเพิ่มเติม »

โกลด สมเด็จพระราชินีแห่งฝรั่งเศส

ลดแห่งบริตานี สมเด็จพระราชินีแห่งฝรั่งเศส (Claude of France) (14 ตุลาคม ค.ศ. 1499 - 20 กรกฎาคม ค.ศ. 1524) โคลดแห่งบริตานีเป็นสมเด็จพระราชินีแห่งฝรั่งเศสในพระเจ้าฟรองซัวส์ที่ 1 แห่งฝรั่งเศส ระหว่างวันที่ 9 มกราคม ค.ศ. 1514 ถึงวันที่ 20 กรกฎาคม ค.ศ. 1524 โคลดแห่งบริตานีประสูติเมื่อวันที่ 14 ตุลาคม ค.ศ. 1499 เป็นพระธิดาองค์โตในพระเจ้าหลุยส์ที่ 12 แห่งฝรั่งเศส และพระราชินีแอนน์ โคลดทรงมีบรรดาศักดิ์เป็นดัชเชสแห่งบริตานีต่อจากพระราชมารดา และเป็นพระราชมารดาของพระเจ้าอองรีที่ 2 แห่งฝรั่งเศส ฉะนั้นจึงเป็นพระอัยกีของพระเจ้าแผ่นดินสามพระองค์สุดท้ายของราชวงศ์วาลัว.

ใหม่!!: จักรพรรดิคาร์ลที่ 5 แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์และโกลด สมเด็จพระราชินีแห่งฝรั่งเศส · ดูเพิ่มเติม »

เฟอร์ดินานด์ มาเจลลัน

ฟอร์ดินานด์ มาเจลลัน (Ferdinand Magellan), ฟือร์เนา ดือ มากัลไยช์ (Fernão de Magalhães) หรือ เฟร์นันโด เด มากายาเนส (Fernando de Magallanes) เป็นนักเดินเรือชาวโปรตุเกส มีชีวิตอยู่ตรงกับรัชสมัยสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถและสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 2 แห่งกรุงศรีอยุธยา เขาเกิดที่เมืองซาบรอซา ทางภาคเหนือของประเทศโปรตุเกส หลังจากรับราชการทหารที่อินเดียตะวันออกและโมร็อกโก มาเจลลันได้เสนอตัวทำงานให้กับพระเจ้าชาลส์ที่ 5 แห่งสเปนเพื่อค้นหาเส้นทางเดินเรือทางทิศตะวันตกสู่ "หมู่เกาะเครื่องเทศ" (หมู่เกาะโมลุกกะในประเทศอินโดนีเซียในปัจจุบัน) เขาจึงได้รับสัญชาติสเปนด้วย มาเจลลันได้เดินเรือออกจากเมืองเซบียาในปี พ.ศ. 2062 การเดินทางในช่วง..

ใหม่!!: จักรพรรดิคาร์ลที่ 5 แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์และเฟอร์ดินานด์ มาเจลลัน · ดูเพิ่มเติม »

เกลฟ์และกิเบลลิเน

ทธการเลญาโนซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของสงครามเกลฟ์และกิเบลลิเน เกลฟ์ และ กิเบลลิเน (Guelphs and Ghibellines) เป็นฝักฝ่ายทางการเมืองทางตอนกลางและตอนเหนือของอิตาลีผู้หนุนหลังฝ่ายพระสันตะปาปาและสมเด็จพระจักรพรรดิแห่งโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ตามลำดับระหว่างคริสต์ศตวรรษที่ 12 จนถึงคริสต์ศตวรรษที่ 13 ความขัดแย้งกันทางอำนาจระหว่างสถาบันพระสันตะปาปาและจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ก่อตัวขึ้นจากปัญหาข้อขัดแย้งในอำนาจการแต่งตั้งสงฆ์ของคริสต์ศตวรรษที่ 11.

ใหม่!!: จักรพรรดิคาร์ลที่ 5 แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์และเกลฟ์และกิเบลลิเน · ดูเพิ่มเติม »

เรือดำน้ำ

รือดำน้ำชั้นไต้ฝุ่นของกองทัพเรือรัสเซีย เรือดำน้ำขนาดเล็ก เรือดำน้ำ เป็นเรือรบที่สามารถปฏิบัติการในขณะที่อยู่ใต้ผิวน้ำได้ สร้างจากเหล็กแต่มีความสามารถในการเคลื่อนที่ภายใต้น้ำ เรือดำน้ำ ถูกนำมาใช้ในการสงครามและการค้นคว้าสำรวจใต้ทะเลลึกในบริเวณที่มนุษย์เราไม่สามารถดำลงไปได้ด้วยการสวมเพียงชุดดำน้ำ ด้วยคุณสมบัติที่พิเศษเหนือกว่ายานพาหนะชนิดอื่นคือ มันสามารถที่จะอยู่ได้ทั้งบนผิวน้ำและใต้น้ำ นับตั้งแต่ ปี..

ใหม่!!: จักรพรรดิคาร์ลที่ 5 แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์และเรือดำน้ำ · ดูเพิ่มเติม »

เอเลนอร์แห่งออสเตรีย สมเด็จพระราชินีแห่งฝรั่งเศส

อเลนอร์แห่งออสเตรีย สมเด็จพระราชินีแห่งฝรั่งเศส หรือ เอเลนอร์แห่งออสเตรีย สมเด็จพระราชินีแห่งโปรตุเกส หรือ เอเลนอร์แห่งคาสตีล (Eleanor of Austria หรือ Eleonor of Castile) (15 พฤศจิกายน ค.ศ. 1498 - 25 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1558) เอเลนอร์แห่งออสเตรีย เป็นสมเด็จพระราชินีแห่งโปรตุเกสในพระเจ้ามานูเอลที่ 1 แห่งโปรตุเกส ระหว่างวันที่ 16 กรกฎาคม ค.ศ. 1516 ถึงวันที่ 13 ธันวาคม ค.ศ. 1521 และเป็นสมเด็จพระราชินีแห่งฝรั่งเศสในพระเจ้าฟรองซัวส์ที่ 1 แห่งฝรั่งเศสระหว่างวันที่ 4 กรกฎาคม ค.ศ. 1530 ถึงวันที่ 31 มีนาคม ค.ศ. 1547 เอเลนอร์แห่งออสเตรียประสูติเมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน ค.ศ. 1498 ที่เลอวอง (Leuven) ในฝรั่งเศส เป็นพระธิดาองค์โตในฟิลลิปเดอะแฮนดซัม อาร์คดยุคแห่งออสเตรียและดยุคแห่งเบอร์กันดี กับโจอันนา สมเด็จพระราชินีแห่งคาสตีล ทรงมีบรรดาศักดิ์เป็นอาร์คดัชเชสแห่งออสเตรียเมื่อประสูติ และทรงเป็นเจ้าหญิงแห่งคาสตีล (Infanta of Castile) ของราชวงศ์แฮ็บส์เบิร์ก หลังจากที่เป็นพระราชินีหม้ายพระองค์ก็ทรงได้รับบรรดาศักดิ์เป็นดัชเชสแห่งตูแรน (Touraine) ระหว่างปี ค.ศ. 1547 ถึงปี ค.ศ. 1558 พระนามในภาษาสเปนและโปรตุเกสคือ “Leonor” และภาษาฝรั่งเศสคือ “Éléonore” หรือ “Aliénor” เอเลนอร์ทรงเป็นพี่น้องกับ สมเด็จพระจักรพรรดิคาร์ลที่ 5 แห่งโรมันอันศักดิ์สิทธิ์, สมเด็จพระจักรพรรดิเฟอร์ดินันด์ที่ 1 แห่งโรมันอันศักดิ์สิทธิ์, แมรีแห่งออสเตรีย สมเด็จพระราชินีแห่งฮังการี และ แคทเธอรินแห่งออสเตรีย สมเด็จพระราชินีแห่งโปรตุเกส เมื่อเอเลนอร์ยังทรงพระเยาว์ก็มีการพยายามจัดการเสกสมรสระหว่างพระองค์กับพระมหากษัตริย์ในราชอาณาจักรต่างๆ ที่รวมทั้งราชอาณาจักรอังกฤษ (พระเจ้าเฮนรีที่ 7 หรือ พระเจ้าเฮนรีที่ 8), หรือกับราชอาณาจักรฝรั่งเศส (พระเจ้าหลุยส์ที่ 12 หรือ พระเจ้าฟรองซัวส์ที่ 1) หรือกับพระมหากษัตริย์โปแลนด์ (พระเจ้าซิกิสมุนด์ที่ 1 แห่งโปแลนด์) แต่ก็ไม่เป็นที่ตกลงกันได้ ในที่สุดก็ทรงเสกสมรสกับพระเจ้ามานูเอลที่ 1 แห่งโปรตุเกส หลังจากการเสนอการสมรสของพระเจ้ามานูเอลกับลูกพี่ลูกน้องของพระองค์ล้มเหลวลง เอเลนอร์และพระเจ้ามานูเอลเสกสมรสกันเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม ค.ศ. 1518 มีพระราชโอรสธิดาด้วยกันสองพระองค์ มกุฎราชกุมารคาร์ลอสแห่งโปรตุเกส ผู้สิ้นพระชนม์ตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์ และเจ้าหญิงมาเรีย เลดี้แห่งวิซู เอเลนอร์ทรงเป็นหม้ายเมื่อพระสวามีเสด็จสวรรคตด้วยโรคระบาดเมื่อวันที่13 ธันวาคม ค.ศ. 1521 หลังจากนั้นก็ทรงเสกสมรสกับพระเจ้าฟรองซัวส์ที่ 1 แห่งฝรั่งเศสเมื่อวันที่4 กรกฎาคม ค.ศ. 1530 ตามสนธิสัญญา "La Paz de las Damas" (“ความสงบของสตรี”) ทั้งสองพระองค์ไม่มีพระราชโอรสธิดาด้วยกัน ในฐานะพระราชินีแห่งฝรั่งเศสพระองค์ไม่ทรงมีอำนาจทางการเมืองแต่อย่างใด แต่ก็ทรงถูกใช้เป็นผู้ติดต่อระหว่างฝรั่งเศสและจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ เอเลนอร์สิ้นพระชนม์เมื่อ 25 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1558 ขณะที่เสด็จกลับจากการไปปรองดองกับพร.

ใหม่!!: จักรพรรดิคาร์ลที่ 5 แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์และเอเลนอร์แห่งออสเตรีย สมเด็จพระราชินีแห่งฝรั่งเศส · ดูเพิ่มเติม »

เฮนรี โฮเวิร์ด เอิร์ลแห่งนอร์ทแธมพ์ตันที่ 1

นรี โฮเวิร์ด เอิร์ลแห่งนอร์ทแธมพ์ตันที่ 1 (’’Henry Howard, 1st Earl of Northampton’’; 25 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1540 - 15 มิถุนายน ค.ศ. 1614) เฮนรี โฮเวิร์ดเป็นขุนนางและข้าราชสำนักคนสำคัญชาวชาวอังกฤษ ผู้ที่ถูกต้องสงสัยว่าเป็นผู้นับถือคริสต์ศาสนานิกายโรมันคาทอลิกอย่างลับๆ จนตลอดชีวิต และในบางช่วงของชีวิตก็ประสบการไม่เป็นที่ทรงโปรดปรานจากพระมหากษัตริย์ ซึ่งทำให้ชื่อเสียงต้องได้รับความเสื่อมเสียเป็นอันมากตามไปด้วย เฮนรี โฮเวิร์ดผู้ที่เป็นที่รู้จักกันว่าเป็นผู้คงแก่เรียน, ผู้มีความรู้ทางศิลปวัฒนธรรม และ ผู้มีใจบุญสุนทาน เป็นผู้สร้างคฤหาสน์นอร์ทธัมเบอร์แลนด์ในกรุงลอนดอน และเป็นผู้ดูแลการก่อสร้างคฤหาสน์อันงดงามชื่อคฤหาสน์ออดลีย์เอนด์ นอกจากนั้นก็ยังเป็นผู้ก่อตั้งโรงพยาบาลอีกหลายแห่งด้วย ฟรานซิส เบคอนอ้างคำกล่าวสามคำของเฮนรี โฮเวิร์ดใน Apophthegms และกล่าวว่าเฮนรี โฮเวิร์ดเป็น "ที่ปรึกษาราชการผู้ที่เป็นผู้มีการศึกษาดีที่สุดในราชอาณาจักร ผู้ที่ถวาย ความก้าวหน้าทางการศึกษา แด่พระมหากษัตริย์" เฮนรี โฮเวิร์ดมาเสียชีวิตก่อนที่จะต้องขึ้นศาลในข้อกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องในการฆาตกรรมเซอร์ทอมัส โอเวอร์บรี.

ใหม่!!: จักรพรรดิคาร์ลที่ 5 แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์และเฮนรี โฮเวิร์ด เอิร์ลแห่งนอร์ทแธมพ์ตันที่ 1 · ดูเพิ่มเติม »

เจ้าชายยูจีนแห่งซาวอย

้าชายยูจีนแห่งซาวอย หรือ เจ้าชายเออแฌนแห่งซาวัว-คารินยอง (Eugen von Savoyen; Eugène de Savoie-Carignan); Prince Eugene of Savoy) (18 ตุลาคม ค.ศ. 1663 - 21 เมษายน ค.ศ. 1736) เจ้าชายยูจีนแห่งซาวอยเป็นแม่ทัพผู้มีชื่อเสียงและมีสมรรถภาพที่สุดคนหนึ่งในประวัติศาสตรยุโรป เจ้าชายยูจีนแห่งซาวอยประสูติที่ปารีสจากพระบิดามารดาที่เป็นเจ้านายซาวอย เจ้าชายยูจีนเจริญพระชันษาขึ้นมาในราชสำนักฝรั่งเศสของพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 เดิมพระองค์มีพระประสงค์จะดำเนินอาชีพเป็นนักบวชแต่เมื่อมีพระชนม์ได้ 19 ก็หันไปสนใจกับอาชีพการเป็นทหาร เมื่อถูกปฏิเสธโดยพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 จากการเข้ารับราชการในกองทัพฝรั่งเศส เจ้าชายยูจีนก็ทรงย้ายไปออสเตรียและหันไปสวามิภักดิ์ต่อราชวงศ์ฮับส์บวร์ก เจ้าชายยูจีนแห่งซาวอยรับราชการอยู่หกสิบปีภายใต้จักรพรรดิฮับส์บวร์กสามพระองค์ – จักรพรรดิลีโอโพลด์ที่ 1, จักรพรรดิโจเซฟที่ 1 และ จักรพรรดิคาร์ลที่ 6 สงครามครั้งแรกที่เจ้าชายยูจีนทรงมีส่วนร่วมคือการสงครามต่อต้านการล้อมกรุงเวียนนาของออตโตมันเติร์กในยุทธการเวียนนาใน ค.ศ. 1683 และต่อมาสงครามสันนิบาตศักดิ์สิทธิ์ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของมหาสงครามตุรกี ก่อนที่จะเข้าร่วมในสงครามเก้าปีพร้อมกับลูกพี่ลูกน้องวิคเตอร์ อมาเดอุสที่ 2 ดยุคแห่งซาวอย แต่ชื่อเสียงของเจ้าชายยูจีนมามั่นคงเมื่อได้รับชัยชนะอย่างเด็ดขาดต่อออตโตมันในยุทธการเซนทาในปี ค.ศ. 1697 จากนั้นก็มีชื่อเสียงเพิ่มขึ้นระหว่างสงครามสืบราชบัลลังก์สเปนเมื่อไปทำการเป็นพันธมิตรกับจอห์น เชอร์ชิลล์ ดยุคแห่งมาร์ลบะระห์ที่ได้รับชัยชนะต่อฝรั่งเศสในยุทธการเบล็นไฮม์, ยุทธการอูเดอนาร์ด และ ยุทธการมาลพลาเคต์ จากนั้นก็ไปได้รับความสำเร็จในฐานะแม่ทัพของกองทัพของพระจักรพรรดิทางตอนเหนือของอิตาลี โดยเฉพาะในยุทธการตูรินในปี ค.ศ. 1706 เมื่อความขัดแย้งกับจักรวรรดิออตโตมันเริ่มขึ้นอีกครั้งในสงครามออสเตรีย-ตุรกี ค.ศ. 1716-1718 เจ้าชายยูจีนก็ทรงสามารถปราบปรามข้าศึกศัตรูได้ในยุทธการเปโตรวาราดิน และ ยุทธการเบลเกรด ตลอดคริสต์ทศวรรษ 1720 อิทธิพลและความสามารถทางการทูตของของเจ้าชายยูจีนก็สามารถสร้างความมั่นคงให้แก่จักรพรรดิแห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ในปัญญาขัดแย้งต่างๆ ที่เกี่ยวกับการสืบราชบัลลังก์ แต่ในบั้นปลายของชีวิตความเหนื่อยร้าและสุขภาพทางจิตที่เปราะบางทำให้พระองค์ไม่ทรงประสบความสำเร็จในฐานะผู้บังคับบัญชาทหารสูงสุดในการพยายามยุติสงครามสืบราชบัลลังก์โปแลนด์ได้ แต่กระนั้นในออสเตรีย ชื่อเสียงของเจ้าชายยูจีนก็ไม่มีผู้ใดเทียมได้ ความเห็นเกี่ยวกับบุคลิกของเจ้าชายยูจีนอาจจะแตกต่างกันไป แต่ก็ไม่มีผู้ใดที่จะค้านความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ที่พระองค์ทรงป้องกันจักรวรรดิฮับส์บวร์กจากถูกกลืนไปเป็นของฝรั่งเศส และทรงหยุดยั้งการรุกรานมาทางตะวันตกของจักรวรรดิออตโตมัน และปลดปล่อยยุโรปกลางจากการยึดครองของออตโตมันที่ดำเนินมาเป็นเวลาร้อยห้าสิบปี นอกจากนั้นเจ้าชายยูจีนก็ยังทรงเป็นผู้อุปถัมภ์ศิลปะคนสำคัญ เจ้าชายยูจีนสิ้นพระชนม์เมื่อวันที่ 21 เมษายน ค.ศ. 1736 เมื่อมีพระชนมายุได้ 72 พรรษ.

ใหม่!!: จักรพรรดิคาร์ลที่ 5 แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์และเจ้าชายยูจีนแห่งซาวอย · ดูเพิ่มเติม »

เจ้าชายแห่งอัสตูเรียส

้าชายแห่งอัสตูเรียส (Príncipe de Asturias; อัสตูเรียส: Príncipe d'Asturies) เป็นอิสริยยศของรัชทายาทในพระราชวงศ์สเปน ในกรณีที่รัชทายาทเป็นฝ่ายใน (สตรี) จะออกพระยศว่า เจ้าหญิงแห่งอัสตูเรียส (Princesa de Asturias; อัสตูเรียส: Princesa d'Asturies) ตำแหน่ง เจ้าชายแห่งอัสตูเรียส เป็นพระอิสริยยศทางประวัติศาสตร์ (ราชอิสริยยศทางการตามรัฐธรรมนูญแห่งสเปน พ.ศ. 2521) ที่พระมหากษัตริย์แห่งสเปนพระราชทานแก่รัชทายาทแห่งสเปน เฉกเช่นเดียวกับที่พระมหากษัตริย์แห่งแคสตีลพระราชทานแก่รัชทายาทในประวัติศาสตร์ พระอิสริยยศนี้ตามปกติพระมหากษัตริย์สามารถพระราชทานแก่ทายาทโดยสันนิษฐาน เช่น พระราชธิดา พระญาติ หรือรัชทายาทผู้สืบเชื้อสายผ่านทางพระราชมารดาของพระมหากษัตริย์ (แม้ไม่จำเป็นจะต้องพระราชทานให้) โดยที่ทายาทผู้มีสิทธิโดยตรงไม่ควรจะได้รับพระราชทานอิสริยยศนี้ ซึ่งแตกต่างจากธรรมเนียมปฏิบัติในประเทศนอกคาบสมุทรไอบีเรีย อิสริยยศอื่นที่เกี่ยวข้องกันและมีต้นกำเนิดมาจากราชอาณาจักรที่รวมกันเป็นสเปนปัจจุบันก็คือ.

ใหม่!!: จักรพรรดิคาร์ลที่ 5 แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์และเจ้าชายแห่งอัสตูเรียส · ดูเพิ่มเติม »

เจ้าหญิงคริสตินาแห่งเดนมาร์ก

้าหญิงคริสตินาแห่งเดนมาร์ก (Christine af Danmark; พฤศจิกายน ค.ศ. 1521 - 10 ธันวาคม ค.ศ. 1590) เป็นเจ้าหญิงเดนมาร์ก ซึ่งได้เป็นดัชเชสพระมเหสีแห่งมิลาน จากนั้นเป็นดัชเชสพระมเหสีแห่งลอแรน พระองค์ทรงทำหน้าที่เป็นผู้สำเร็จราชการแห่งลอแรนในช่วงปี..

ใหม่!!: จักรพรรดิคาร์ลที่ 5 แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์และเจ้าหญิงคริสตินาแห่งเดนมาร์ก · ดูเพิ่มเติม »

เจ้านครรัฐผู้คัดเลือก

ระมหากษัตริย์โบฮีเมีย เจ้านครรัฐผู้คัดเลือก (Princeps Elector, Kurfürst, Prince-elector หรือ Electors) คือสมาชิกของคณะผู้คัดเลือก (electoral college) แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งมีหน้าที่ในการเลือกพระมหากษัตริย์แห่งชาวโรมันพระองค์ใดพระองค์หนึ่งให้ขึ้นครองราชย์เป็นจักรพรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ ทายาทผู้มีสิทธิโดยตรงของเจ้านครรัฐผู้คัดเลือกเรียกว่าเจ้าผู้คัดเลือก (electoral prince) เจ้านครรัฐผู้คัดเลือกถือเป็นผู้มีเกียรติรองจากพระมหากษัตริย์และพระจักรพรรดิ ตามทฤษฎีแล้วจักรพรรดิแห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์เป็นผู้ที่มาจากการเลือกตั้ง แต่ตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 15 การเลือกตั้งก็มักจะเป็นเพียงการทำเพียงพิธี โดยมีพระจักรพรรดิผู้สืบเชื้อสายมาจากราชวงศ์ฮับส์บูร์กของออสเตรีย ที่ตำแหน่งมักจะเป็นของพระราชโอรสองค์โตของจักรพรรดิผู้เสด็จสวรรคต แต่กระนั้นตำแหน่งมิได้เป็นตำแหน่งสืบทอดในตระกูลเดียวกัน และทายาทไม่สามารถเรียกตนเองว่า "จักรพรรดิ" โดยมิได้รับเลือก การเลือกตั้งเป็นการเลือกพระมหากษัตริย์แห่งชาวโรมัน ผู้ได้รับเลือกในเยอรมนีและจะได้เป็นจักรพรรดิแห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ก็เมื่อได้รับทำพิธีบรมราชาภิเษกโดยพระสันตะปาปา จักรพรรดิคาร์ลที่ 5 ทรงเป็นจักรพรรดิที่ได้รับการสวมมงกุฎเป็นจักรพรรดิ ผู้เป็นจักรพรรดิต่อจากนั้นเป็นจักรพรรดิโดยการเลือกตั้งเท่านั้น.

ใหม่!!: จักรพรรดิคาร์ลที่ 5 แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์และเจ้านครรัฐผู้คัดเลือก · ดูเพิ่มเติม »

เทวสถานแห่งอันโตนินัสและฟาอัสตินา

ทวสถานแห่งอันโตนินัสและฟาอัสตินา (Temple of Antoninus and Faustina) เป็นเทวสถาน (Roman temple) โรมันโบราณที่ตั้งอยู่ในกรุงโรมภายในบริเวณที่เรียกว่าฟอรุมโรมัน (Roman Forum) บนถนนซาครา (Via Sacra) ตรงกันข้ามกับเรเจีย (Regia) เทวสถานแห่งอันโตนินัสและฟาอัสตินาสร้างในปี..

ใหม่!!: จักรพรรดิคาร์ลที่ 5 แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์และเทวสถานแห่งอันโตนินัสและฟาอัสตินา · ดูเพิ่มเติม »

เขตอุปราชแห่งเปรู

เขตอุปราชแห่งเปรู (Viceroyalty of Peru) คือบริเวณที่อยู่ภายใต้การปกครองของจักรวรรดิสเปนในแถบอเมริกาใต้ พื้นที่ในช่วงแรกได้แก่บริเวณประเทศเปรูและประเทศชิลีในปัจจุบัน ต่อมาจึงได้ขยายเขตออกจนครอบคลุมพื้นที่เกือบทั้งหมดของทวีป ศูนย์กลางการปกครองของเขตนี้คือ ลิมา โดยสเปนจะส่งอุปราชเข้ามาปกครอง ขึ้นตรงต่อกษัตริย์สเปน หมวดหมู่:รัฐสิ้นสภาพในทวีปอเมริกาใต้ หมวดหมู่:ประวัติศาสตร์อเมริกาใต้ หมวดหมู่:อดีตอาณานิคมของสเปน.

ใหม่!!: จักรพรรดิคาร์ลที่ 5 แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์และเขตอุปราชแห่งเปรู · ดูเพิ่มเติม »

21 กันยายน

วันที่ 21 กันยายน เป็นวันที่ 264 ของปี (วันที่ 265 ในปีอธิกสุรทิน) ตามปฏิทินสุริยคติแบบเกรกอเรียน เมื่อถึงวันนี้จะยังเหลือวันอีก 101 วันในปีนั้น.

ใหม่!!: จักรพรรดิคาร์ลที่ 5 แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์และ21 กันยายน · ดูเพิ่มเติม »

เปลี่ยนเส้นทางที่นี่:

Charles V of SpainCharles V, Holy Roman Emperorสมเด็จพระจักรพรรดิชาร์ลส์ที่ 5 แห่งโรมันอันศักดิ์สิทธิ์สมเด็จพระจักรพรรดิชาร์ลที่ 5 แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์สมเด็จพระจักรพรรดิชาลส์ที่ 5สมเด็จพระจักรพรรดิชาลส์ที่ 5 แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์สมเด็จพระจักรพรรดิคาร์ลที่ 5 แห่งโรมันอันศักดิ์สิทธิ์สมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 5 แห่งสเปนพระเจ้าการ์โลสที่ 1 แห่งสเปนพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 1 แห่งสเปนพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 5 แห่งสเปนพระเจ้าชาลส์ที่ 1 แห่งสเปนจักรพรรดิชาร์ลส์ที่ 5 แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์จักรพรรดิชาลส์ที่ 5 แห่งโรมันอันศักดิ์สิทธิ์จักรพรรดิคาร์ลที่ 5 แห่งโรมันอันศักดิ์สิทธิ์

ขาออกขาเข้า
Hey! เราอยู่ใน Facebook ตอนนี้! »