สารบัญ
2 ความสัมพันธ์: จระเข้ปลาปิรันยาดำ
จระเข้
ระเข้ (Crocodile, อีสาน: แข้) เป็นวงศ์ของสัตว์เลื้อยคลานขนาดใหญ่ ใช้ชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Crocodylidae อยู่ในอันดับจระเข้ (Crocodilia) มีลักษณะโดยรวมคือ ส่วนปลายของหัวแผ่กว้างหรือเรียวยาว ขากรรไกรยาวและกว้าง เมื่อหุบปากแล้วจะเห็นฟันซี่ที่ 4 ของขากรรไกรล่างเนื่องจากขอบปากบนตรงตำแหน่งนี้เป็นรอยหยักเว้า ส่วนปลายของขากรรไกรล่างข้างซ้ายและข้างขวาเชื่อมต่อกันเป็นพื้นที่แคบ กระดูกเอนโทพเทอรีกอยด์อยู่ชัดกับแถวของฟันที่กระดูกแมคซิลลา กระดูกพาลามีนมีก้านชิ้นสั้นอยู่ทางด้านหน้าและไม่ถึงช่องในเบ้าตา พื้นผิวด้านบนของลิ้นไม่มีสารเคอราติน ต่อมขจัดเกลือบนลิ้นมีขนาดใหญ่ มีก้อนเนื้อที่ปลายปากนูนสูงที่ช่องเปิดรูจมูกเรียกว่า "ก้อนขี้หมา" หรือ "หัวขี้หมา" ซึ่งจะแตกต่างออกไปตามชนิดและเพศหรือขนาด โคนหางเป็นกล้ามเนื้อมัดใหญ่และแข็งแรงเรียกว่า "บ้องตัน" ใช้ในการฟาดเพื่อป้องกันตัว หางแบนยาวใช้โบกว่ายน้ำ จระเข้ ถือเป็นสัตว์ที่อยู่บนสุดของห่วงโซ่อาาหร เนื่องจากเป็นสัตว์ผู้ล่ากินเนื้อขนาดใหญ่ ที่ไม่มีศัตรูตามธรรมชาติ ยกเว้นจระเข้ในวัยอ่อน ที่ตกเป็นอาหารของสัตว์ขนาดใหญ่กว่าชนิดต่าง ๆ ได้ จระเข้ตัวโตเต็มวัยจะมีพฤติกรรมกินอาหารแบบหมุนตัว กล่าว คือ เมื่อจับเหยื่อที่มีขนาดใหญ่ขณะอยู่ใต้น้ำและต้องการกินเหยื่อจะใช้ปากงับไว้และหมุนตัวเองเพื่อฉีกเนื้อเหยื่อออกเป็นชิ้น ส่วนเหยื่อที่มีขนาดเล็กถูกบดให้แหลกด้วยลิ้นขนาดใหญ่โดยใช้ลิ้นดันเหยื่ออัดแน่นกับเพดานของอุ้งปาก นอกจากนี้แล้วจระเข้ยังกลืนก้อนกรวดหรือก้อนหินเข้าไปในกระเพาะเพื่อช่วยในการบดอาหารด้วย แบ่งออกได้เป็น 3 สกุล 14 ชนิด พบได้ในเขตอบอุ่นและเขตร้อนของทุกทวีปทั่วโลก นับว่ามีจำนวนสมาชิกมากและหลากหลายที่สุดของอันดับจระเข้ที่ยังพบคงดำรงเผ่าพันธุ์มาจนถึงปัจจุบันนี้ มักอาศัยบริเวณป่าริมน้ำหรือพื้นที่ชุ่มน้ำ เพราะหากินในน้ำเป็นหลัก บางชนิดหรือบางพื้นที่อาจพบได้ในแหล่งน้ำกร่อยหรือป่าชายเลนหรือปากแม่น้ำใกล้ทะเล ในประเทศไทยพบ 3 ชนิด คือ จระเข้บึง หรือ จระเข้น้ำจืด (Crocodylus siamensis), อ้ายเคี่ยม หรือ จระเข้น้ำเค็ม (C.
ปลาปิรันยาดำ
ปลาปิรันยาดำ หรือ ปลาปิรันยาขาว หรือ ปลาปิรันยาตาแดง (Black piranha, White piranha, Redeye piranha) ปลาน้ำจืดกินเนื้อชนิดหนึ่ง จำพวกปลาปิรันยา อยู่ในวงศ์ปลาปิรันยา (Serrasalmidae) ปลาปิรันยาดำ มีลำตัวที่มีลักษณะยาวเรียวกว่าปลาปิรันย่าชนิดอื่น ลำตัวเป็นสีเทาเข้มจนออกสีเขียวมะกอกส่วนลำตัวด้านบนจะสีข้างจะมีจุดสีคล้ำ ๆ จำนวนมาก ได้ชื่อว่าเป็นปลาปิรันยาที่มีขนาดใหญ่ที่สุด โดยโตเต็มที่ยาวได้ถึง 45-55 เซนติเมตร และเป็นไปได้ว่าอาจยาวได้มากกว่านี้ แต่เป็นปลาปิรันยาเมื่อเทียบกับปลาปิรันยาชนิดอื่น เช่น ปลาปิรันยาแดง แล้ว ปลาปิรันยาดำจัดว่ามีความดุร้ายน้อยกว่ามาก โดยเป็นปลาที่อาศัยอยู่ตามลำพังตัวเดียว และมีนิสัยขี้อาย แต่ทว่าเป็นปลาที่มีแรงกัดของกรามเมื่อเทียบกันแล้วแรงที่สุดในโลก โดยมีการวิจัยด้วยทีมนักวิทยาศาสตร์ด้วยการวัดแรงกัดกับเครื่องมือพิเศษ ผลปรากฏว่าพลังกัดของปลาปิรันยาดำทำได้ถึง 320 นิวตัน สูงกว่าขนาดร่างกายถึง 30 เท่า เมื่อเทียบขนาดร่างกายกันแบบปอนด์ต่อปอนด์แล้วมีพลังมากกว่าจระเข้อเมริกันถึง 3 เท่า สาเหตุที่แรงกัดของปลาปิรันยาดำมีมากขนาดนี้ อยู่ที่กล้ามเนื้อกรามอันแข็งแรงและมีขนาดใหญ่ โดยมีพื้นที่ของกล้ามเนื้อส่วนนี้มีมากกว่าร้อยละ 2 ของมวลร่างกายทั้งตัว ทั้งนี้ 1 นิวตันเท่ากับแรงที่ใช้เคลื่อนสิ่งของขนาด 1 กิโลกรัมไปได้ 1 เมตร ใน 1 วินาที ซึ่งแรงกัดของปลาปิรันยาดำนี้เทียบได้กับปลาปิรันยายักษ์ที่มีความยาว 70 เซนติเมตร น้ำหนัก 10 กิโลกรัม ซึ่งสูญพันธุ์ไปแล้วกว่า 5 ล้านปี ปลาปิรันยาดำ กระจายพันธุ์ในลุ่มแม่น้ำขนาดใหญ่หลายสายในทวีปอเมริกาใต้ เช่น อะแมซอน, ปารานา, ยาตา และโอรีโนโก เป็นต้น เป็นปลาปิรันยาอีกชนิดหนึ่งที่มีความอันตราย และนิยมเลี้ยงเป็นปลาสวยงาม.
ดู จระเข้อเมริกาและปลาปิรันยาดำ
หรือที่รู้จักกันในชื่อ Crocodylus acutusจระเข้อเมริกัน