เรากำลังดำเนินการเพื่อคืนค่าแอป Unionpedia บน Google Play Store
ขาออกขาเข้า
🌟เราได้ทำให้การออกแบบของเราง่ายขึ้นเพื่อการนำทางที่ดีขึ้น!
Instagram Facebook X LinkedIn

การเหมารวม

ดัชนี การเหมารวม

รูปลักษณ์ของโฮเมอร์ ซิมป์สันแสดงถึงการมองชายวัยกลางคนผิวขาวจากอเมริกากลางแบบเหมารวม การเหมารวม หรือ สามัญทัศน์ (Stereotype) คือ คตินิยมหรือทัศนคติของสังคมทั่วไปที่มีต่อกลุ่มคนอื่น ชาติอื่น หรือลักษณะของบุคคลบางประเภทจนกลายเป็นมาตรฐาน มีพื้นฐานมาจากการสรุปเอาจากข้อสมมุติพื้นฐานที่มีแนวโน้มที่เป็นอัตวิสัย การเหมารวมเกิดขึ้นจากความคิดที่คุ้นเคยทางมโนธรรม เช่น จากพฤติกรรมบางอย่าง หรือลักษณะพิเศษอันแตกต่างจากผู้อื่นที่ปรากฏและเป็นที่สังเกตอยู่ชั่วระยะเวลาอันยาวพอประมาณ การที่แนวคิดทางวัฒนธรรม (Meme) จะกลายมาเป็นสิ่งที่ยอมรับกันโดยสังคมโดยทั่วไปได้ สามัญทัศน์ไม่อาจจะเป็นแนวคิดที่ผิดไปทั้งหมด และจะต้องมีองค์ประกอบที่สังคมยอมรับ (Social recognition) การเหมารวมมิได้ใช้แต่เฉพาะกลุ่มคนแต่อาจจะใช้ในสถานะการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างสม่ำเสมอจนสามารถทำนายผลที่จะออกมาได้ การเหมารวมอาจจะเป็นได้ทั้ง “ดี” และ “ไม่ดี” แต่แนวคิดทางของการเหมารวมส่วนใหญ่แล้วยากที่จะเสนอภาพพจน์ทางบวกของกลุ่มชน.

สารบัญ

  1. 23 ความสัมพันธ์: การทารุณเด็กทางเพศการทดลองมาร์ชแมลโลว์สแตนฟอร์ดการทดแทนคุณลักษณะ (จิตวิทยา)การค้าประเวณีเด็กรายการความเข้าใจผิดที่พบบ่อยรถบ้านลัทธิกีดกันทางเพศสำนวนจำเจฌาน ดาร์กความสำส่อนความถูกต้องทางการเมืองความน่ารักความเอนเอียงทางประชานคอสแซคคตินิยมสิทธิสตรีต่างคนต่างจ่ายแควาเลียร์เกย์โอเคแบงค็อกเศรษฐศาสตร์พฤติกรรมเหตุผลวิบัติเหตุผลวิบัติโดยอัตราพื้นฐานRepresentativeness heuristic9แก๊ก

การทารุณเด็กทางเพศ

การทารุณเด็กทางเพศ (Child sexual abuse ตัวย่อ CSA, child molestation) หรือ การกระทำทารุณต่อเด็กทางเพศ หรือ การทำร้ายเด็กทางเพศ เป็นรูปแบบการกระทำทารุณต่อเด็กที่ผู้ใหญ่, หรือเยาวชนหรือวัยรุ่นที่มีอายุมากกว่าและต่างระดับพัฒนา ใช้เด็กกระตุ้นความรู้สึกทางเพศ มีรูปแบบตั้งแต่การขอหรือบังคับให้เด็กมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางเพศ (ไม่ว่าจะได้ผลตามที่ต้องการหรือไม่), การแสดงสิ่งลามกอนาจารไม่ว่าจะเป็นอวัยวะเพศ หัวนมหญิง เป็นต้น เพื่อสนองความต้องการทางเพศของตน เพื่อขู่ขวัญเด็ก หรือเพื่อปะเหลาะประเล้าประโลมเตรียมเด็กเพื่อทารุณกรรม, การสัมผัสเด็กทางเพศ, หรือการใช้เด็กเพื่อผลิตสื่อลามกอนาจาร ทารุณกรรมสามารถเกิดขึ้นได้ในหลายที่หลายสถาน รวมทั้งที่บ้าน ที่โรงเรียน หรือสำนักงานที่มีเด็กทำงานเป็นปกติ การจับเด็กแต่งงานเป็นรูปแบบการทารุณหลักอย่างหนึ่ง ที่กองทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ (UNICEF) ได้กล่าวไว้ว่า "อาจเป็นรูปแบบการทารุณและฉวยผลประโยชน์จากเด็กหญิงทางเพศที่แพร่หลายที่สุด" ทารุณกรรมต่อเด็กส่งผลทางจิตใจ ให้เกิดความซึมเศร้า ความวิตกกังวล ความผิดปกติที่เกิดหลังความเครียดที่สะเทือนใจ ความผิดปกติที่เกิดหลังความเครียดที่สะเทือนใจแบบซับซ้อน (complex post-traumatic stress disorder) ความโน้มเอียงที่จะตกเป็นเหยื่อทารุณกรรมอีกในวัยผู้ใหญ่ รวมทั้งการบาดเจ็บทางกาย และเหล่านี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของปัญหาทั้งหมด ทารุณกรรมโดยสมาชิกครอบครัวซึ่งเป็นรูปแบบหนึ่งของการร่วมประเวณีกับญาติสนิท จะก่อให้เกิดปัญหาร้ายแรงยิ่งกว่าต่อเด็ก ส่งผลกระทบต่อจิตใจในระยะยาว โดยเฉพาะในกรณีที่ทำโดยผู้ปกครอง ไม่ว่าจะเป็นพ่อ แม่ พ่อเลี้ยง แม่เลี้ยง พ่อบุญธรรม แม่บุญธรรม ความแพร่หลายทั่วโลกของทารุณกรรมทางเพศต่อเด็กประเมินอยู่ที่ 19.7% ในหญิง และ 7.9% ในชาย ผู้กระทำผิดส่วนมากรู้จักเหยื่อ ราว 30% เป็นญาติ บ่อยที่สุดเป็นพี่ชาย พ่อ ลุง หรือลูกพี่ลูกน้อง ราว 60% เป็นคนรู้จักอื่นอย่างเช่น "เพื่อน"ของคนในครอบครัว พี่เลี้ยงเด็ก หรือเพื่อนบ้าน และราว 10% เป็นคนแปลกหน้า ผู้กระทำผิดส่วนใหญ่เป็นชาย จากการศึกษาพบว่า หญิงทำผิดต่อ 14-40% ของเหยื่อเด็กชาย และ 6% ของเหยื่อเด็กหญิง(โดยที่เหลือของเหยื่อทำโดยผู้ทำผิดเพศชาย) ส่วนคำภาษาอังกฤษว่า pedophile (คนใคร่เด็ก) มักจะใช้อย่างไม่เลือกกับทุก ๆ คนที่ทารุณเด็กทางเพศ แต่ผู้ทำผิดต่อเด็กทุกคนไม่ใช่คนใคร่เด็ก ยกเว้นถ้ามีความรู้สึกทางเพศที่รุนแรงกับเด็กที่อยู่ในวัยก่อนหนุ่มสาว และคนใคร่เด็กทุกคนก็ไม่ใช่ผู้ทำผิดต่อเด็ก ในกฎหมายบางประเทศ คำว่า child sexual abuse (การทารุณเด็กทางเพศ) ใช้เป็นคำคลุมทั้งการละเมิดกฎหมายอาญาและแพ่ง ที่ผู้ใหญ่ทำกิจทางเพศร่วมกับผู้เยาว์ หรือฉวยประโยชน์จากผู้เยาว์เพื่อสนองความรู้สึกทางเพศ สมาคมจิตวิทยาอเมริกัน (American Psychological Association) ยืนยันว่า "เด็กไม่สามารถยินยอมมีกิจกรรมทางเพศร่วมกับผู้ใหญ่" และประณามการทำเช่นนั้นของผู้ใหญ่ คือ "ผู้ใหญ่ที่มีกิจกรรมทางเพศร่วมกับเด็ก กำลังละเมิดทั้งกฎหมายและจริยธรรม ที่ไม่มีทางพิจารณาได้ว่าเป็นพฤติกรรมที่ปกติหรือที่ยอมรับได้ในสังคม".

ดู การเหมารวมและการทารุณเด็กทางเพศ

การทดลองมาร์ชแมลโลว์สแตนฟอร์ด

การทดลองมาร์ชแมลโลว์สแตนฟอร์ด เป็นการศึกษาถึงการให้ความพึงพอใจในภายหลัง การทดลองดังกล่าวดำเนินการในปี..

ดู การเหมารวมและการทดลองมาร์ชแมลโลว์สแตนฟอร์ด

การทดแทนคุณลักษณะ (จิตวิทยา)

การทดแทนคุณลักษณะ"ศัพท์บัญญัติอังกฤษ-ไทย, ไทย-อังกฤษ ฉบับราชบัณฑิตสถาน (คอมพิวเตอร์) รุ่น ๑.๑", ให้ความหมายของ attribute ว่า "คุณลักษณะ" และของ substitution ว่า "การทดแทน (กลไกทางจิต)" (Attribute substitution) เป็นกระบวนการทางจิตวิทยาที่เชื่อว่า เป็นเหตุของความเอนเอียงทางประชาน (cognitive bias) และการแปลสิ่งเร้าทางประสาทสัมผัสผิด (perceptual illusion) หลายอย่าง ซึ่งจะเกิดขึ้นเมื่อเราต้องทำการประเมินคุณลักษณะเป้าหมาย (target attribute) ที่ต้องใช้การคำนวณที่ซับซ้อน แต่กลับใช้คุณลักษณะอีกอย่างหนึ่งแทนที่ ซึ่งเรียกว่า คุณลักษณะฮิวริสติก (heuristic attribute) ที่สามารถคำนวนได้ง่ายกว่า (เช่น การประเมินความน่าจะเป็นว่าอยู่ในกลุ่ม โดยใช้ความคล้ายคลึงของบุคคลกับกลุ่ม แทนที่จะใช้อัตราพื้นฐานของความน่าจะเป็น) การแทนที่เช่นนี้เชื่อว่าเกิดขึ้นในระบบการประเมินแบบรู้เอง (intuitive) ที่เป็นไปโดยอัตโนมัติ ไม่ใช่ระบบที่ต้องอาศัยความคิดพิจารณาที่อยู่เหนือสำนึก ดังนั้น เมื่อเราทำความพยายามที่จะตอบปัญหาที่ยาก เราอาจจะกลับไปตอบปัญหาที่ต่างกันแต่เกี่ยวข้องกัน โดยที่ไม่รู้ว่ามีการแทนที่เกิดขึ้นแล้ว ซึ่งอธิบายว่า ทำไมเราจึงไม่รู้ถึงความเอนเอียงต่าง ๆ ของตน และทำไมความเอนเอียงยังดำรงอยู่ได้แม้เมื่อมีการบอกให้รู้แล้ว และอธิบายอีกด้วยว่า ทำไมการตัดสินใจของมนุษย์บ่อยครั้งจึงไม่มีลักษณะของการถอยกลับไปสู่ค่าเฉลี่ย (regression toward the mean) ทฤษฎีนี้รวมทฤษฎีต่างหลายอย่างที่อธิบายความผิดพลาดในการคิดหาเหตุผลโดยอธิบายว่า มนุษย์แก้ปัญหาบางอย่างโดยใช้ฮิวริสติกซึ่งเป็นทางลัดในการคิดหาเหตุผล ที่ในบางสถานการณ์ให้คำตอบที่ผิดพลาด ต่อมา ทฤษฎีที่เสนอในปี..

ดู การเหมารวมและการทดแทนคุณลักษณะ (จิตวิทยา)

การค้าประเวณีเด็ก

การค้าประเวณีเด็ก (Prostitution of children, child prostitution) เป็นการค้าประเวณีที่เกี่ยวกับเด็ก เป็นรูปแบบหนึ่งของการฉวยประโยชน์การค้าทางเพศจากเด็ก เด็กในที่นี้มักจะหมายถึงผู้เยาว์ หรือบุคคลที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ ในเขตกฎหมายโดยมาก การค้าประเวณีเด็กผิดกฎหมายโดยเป็นส่วนของกฎหมายห้ามการค้าประเวณีโดยทั่ว ๆ ไป การค้าประเวณีเด็กมักจะปรากฏในรูปแบบของการค้าเซ็กซ์ (sex trafficking) ที่เด็กถูกลักพาตัว หรือถูกหลอกให้เข้าไปเกี่ยวข้องกับการค้าเพศ หรือว่า เป็นเซ็กซ์เพื่อการอยู่รอด ที่เด็กจะร่วมกิจกรรมทางเพศแลกเปลี่ยนกับปัจจัยสี่ที่จำเป็นต่อชีวิตรวมทั้งอาหารและที่อยู่อาศัย การค้าประเวณีเด็กมักจะเกี่ยวข้องกับสื่อลามกอนาจารเด็ก และบางครั้งจะเกิดขึ้นคาบเกี่ยวกัน และมีคนที่เดินทางไปต่างประเทศเพื่อจะเที่ยวเซ็กซ์ทัวร์เด็ก งานวิจัยแสดงว่า อาจจะมีเด็กมากถึง 10 ล้านคนทั่วโลกที่ค้าประเวณี โดยมีปัญหาหนักที่สุดในทวีปอเมริกาใต้และเอเชีย แต่ก็เป็นปัญหาทั่วโลก ทั้งในประเทศกำลังพัฒนาและพัฒนาแล้ว สหประชาชาติได้กำหนดว่า การค้าประเวณีเด็กผิดกฎหมายสากล โดยมีการรณรงค์และองค์กรต่าง ๆ ที่จัดตั้งขึ้นเพื่อต่อต้านการปฏิบัติการเช่นนี้ เด็กโดยมากที่เกี่ยวข้องเป็นหญิง อาจจะอายุเพียงแค่ 4-5 ขวบ เรียนน้อยมากและถูกคนแปลกหน้าหลอกได้ง.

ดู การเหมารวมและการค้าประเวณีเด็ก

รายการความเข้าใจผิดที่พบบ่อย

รายการความเข้าใจผิดที่พบบ่อย นี้แก้ความเชื่อและความเข้าใจผิด ๆ ที่แพร่หลายในปัจจุบัน ในประเด็นต่าง ๆ ที่น่าสนใจ โดยมีแหล่งอ้างอิงที่ได้กำหนดความเข้าใจผิดคู่กับความจริงแต่ละอย่างแล้ว ให้สังเกตว่า แต่ละรายการเขียนโดยเป็นการแก้ไข และอาจไม่ได้กล่าวถึงความเข้าใจผิดเองตรง.

ดู การเหมารวมและรายการความเข้าใจผิดที่พบบ่อย

รถบ้าน

รถบ้าน รถบ้าน รถบ้าน (Recreational vehicle: RV) เป็นรถที่สามารถใช้เป็นที่อยู่อาศัยชั่วคราวได้ และเวลาไปเที่ยวที่ไหนก็อาจขับรถบ้านไปได้โดยเราไม่จำเป็นต้องพักโรงแรมหรือกางเต็นท์ รถบ้านโดยส่วนมากจะเป็นรถตู้, รถบัส หรือรถกระบะดัดแปลง ในอเมริกาเหนือและสหราชอาณาจักรรถบ้านโดยทั่วไปมักหมายถึงยานยนตร์ที่ประกอบด้วยบริเวณที่ใช้เป็นที่อยู่อาศัยที่มีอุปกรณ์ต่างๆ ที่คล้ายคลึงกับที่มีในบ้านเรือนที่อยู่อาศัย ที่มักจะรวมทั้งครัว, ห้องน้ำ, บริเวณที่ใช้หลับนอน และ บริเวณที่ใช้นั่งเล่น พักผ่อน และรับประทานอาหาร ในประเทศอื่นอาจจะใช้คำว่า “รถคาราวาน” หรือคำว่า “รถแคมพ์” (Campervan) มากกว่า และตัวรถที่เป็นรถบ้านก็แตกต่างกันออกไป แต่โดยทั่วไปแล้วรถบ้านในประเทศอื่นๆ จะมีขนาดย่อมกว่าที่ใช้กันในสหรัฐอเมริกา วัตถุประสงค์ของรถบ้านมีด้วยกันหลายประการ ตั้งแต่ใช้ในการท่องเที่ยวพักผ่อนระยะสั้น ไปจนถึงการเป็นที่อยู่อาศัยอย่างถาวร ในกรณีหลังนี้ก็มักจะจอดตามสถานที่เฉพาะกิจที่เรียกว่า “Trailer park” (ซึ่งต่างกับที่จอดรถบ้านประเภทอื่น) นอกจากการเป็นเจ้าของรถบ้านเองแล้ว รถบ้านก็มีบริการให้เช่าในประเทศต่างๆ ทั่วโลก นอกจากจะใช้สำหรับการท่องเที่ยวพักผ่อนแล้ว รถบ้านก็ยอาจจะใช้สำหรับสำนักงานเคลื่อนที่สำหรับนักธุรกิจหรือผู้ประกอบการที่จำเป็นต้องเดินทางบ่อยครั้ง รถประเภทหลังนี้ผู้เป็นเจ้าของอาจจะสั่งสร้างพิเศษ เช่นมีห้องทำงาน, เพิ่มระบบไฟฟ้าให้มีพลังสำหรับการใช้สอยเพิ่มขึ้น, ติดตั้งระบบอินเทอร์เน็ตที่ใช้ดาวเทียมเป็นต้น.

ดู การเหมารวมและรถบ้าน

ลัทธิกีดกันทางเพศ

กราฟฟิตีการต่อสู้เพศนิยมในตูรินพฤศจิกายน 2016 เพศนิยม (sexism) หรือ การกีดกันทางเพศ หมายถึงการแบ่งแยกทางเพศและเลือกที่รักมักที่ชังต่อเพศใดเพศหนึ่ง แต่ส่วนใหญ่จะมีผลกระทบต่อผู้หญิงและเด็กหญิงมีความเห็นร่วมกันอย่างชัดเจนและกว้างในหมู่นักวิชาการในสาขาต่างๆที่เกี่ยวกับเรื่องเพศ ซึ่งหมายถึงการเลือกปฏิบัติต่อสตรีและมีผลต่อผู้หญิงเป็นหลัก ดูตัวอย่างเช่น.

ดู การเหมารวมและลัทธิกีดกันทางเพศ

สำนวนจำเจ

“รสเหมือนไก่” เป็นสำนวนจำเจที่ใช้ในการบรรยายรสชาติของเนื้อที่แปลกไปจากเนื้อสัตว์ที่กินกันโดยทั่วไป เช่นการบรรยายรสชาติของขากบต่อผู้ไม่รู้รส “ภาพจำเจ” เช่นภาพทิวทัศน์ที่มีกิ่งไม้ห้อยอยู่หน้าภาพ สำนวนจำเจ หรือ ภาพจำเจ (cliché หรือ cliche เป็นคำยืมภาษาฝรั่งเศส) คือคำกล่าว, การแสดงความเห็น หรือ ความคิด หรือองค์ประกอบของศิลปะที่เป็นสำนวนที่ใช้กันมากเกินไปจนกระทั่งหมดประสิทธิภาพของความหมายที่ตั้งใจไว้แต่เดิม และจนกระทั่งกลายเป็นสามัญทัศน์โดยเฉพาะในกรณีที่เมื่อเริ่มใช้ใหม่ๆ เป็นสำนวนที่มีใหม่และมีความหมายดี “สำนวนจำเจ” เป็นสำนวนที่ใช้กันเสมอในวัฒนธรรมยุคใหม่ซึ่งเป็นการบ่งถึงพฤติกรรมหรือความคิดที่คาดได้ล่วงหน้าจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อหน้านั้น บางครั้งการใช้ก็มีวัตถุประสงค์เชิงเหยียด (pejoratively) หรือบางครั้งก็อาจจะใช้ในนวนิยายหรือการแสดงชวนขันเพื่อให้ผู้อ่านหรือผู้ชมได้หัวเราะ ตัวอย่างของการใช้สำนวนจำเจก็ได้แก่การบรรยายรสชาติของเนื้อที่แปลกไปจากเนื้อสัตว์ที่กินกันโดยทั่วไปที่ผู้ตอบมักจะตอบเชิงเสียดสีหรือเชิงชวนขันว่า “รสเหมือนไก่” แม้ว่าจะไม่ทราบรสชาติที่แท้จริงก็ตาม หรือในกรณี ภาพจำเจ ก็ได้แก่ภาพทิวทัศน์ชายทะเลที่มีลักษณะพื้นๆ เป็นภาพภูเขากับทะเลที่มีกิ่งไม้ห้อยอยู่ข้างหน้าเป็นต้น.

ดู การเหมารวมและสำนวนจำเจ

ฌาน ดาร์ก

น ดาร์ก (IPA) หรือโจนออฟอาร์ก (ราว 6 มกราคม ค.ศ. 1412 - 30 พฤษภาคม ค.ศ. 1431) ชาวคาทอลิกเรียกว่านักบุญโยนออฟอาร์ค เป็นวีรสตรีของฝรั่งเศสและเป็นนักบุญในนิกายโรมันคาทอลิก โจนมาจากครอบครัวชาวนาที่เกิดทางตะวันออกของฝรั่งเศสและเป็นผู้นำกองทัพฝรั่งเศสในสงครามร้อยปีหลายครั้งที่ได้รับชัยชนะต่อฝ่ายอังกฤษโดยอ้างว่ามีพระเจ้าเป็นผู้ชี้ทาง และเป็นผู้มีส่วนทางอ้อมในการขึ้นครองราชบัลลังก์ฝรั่งเศสของพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 7 โจนถูกจับโดยฝ่ายเบอร์กันดีและถูกขายให้แก่ฝ่ายอังกฤษ ถูกพิจารณาคดี และถูกเผาทั้งเป็นในข้อหาว่าเป็นพวกนอกรีตเมื่ออายุ 19 ปี ยี่สิบสี่ปีต่อมาพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 7 ไม่ทรงสามารถที่จะแสดงพระองค์ว่าทรงได้รับอำนาจมาจากผู้ที่ถูกประณามว่าเป็นผู้นอกรีต สมเด็จพระสันตะปาปาคาลิกซ์ตุสที่ 3 จึงทรงมีคำสั่งให้มีตั้งศาลใหม่ในการพิจารณาการดำเนินการการพิจารณาคดีและการตัดสินของศาลแรก ศาลสรุปว่าฌานเป็นผู้บริสุทธิ์ และทางวาติกันประกาศให้ฌานเป็น “มรณสักขี”w:fr:Jeanne d'ArcAndrew Ward (2005) ในปี..

ดู การเหมารวมและฌาน ดาร์ก

ความสำส่อน

วามสำส่อน (promiscuity) คือการมีเพศสัมพันธ์เป็นครั้งคราว บ่อยครั้งกับหลายคน โดยไม่เลือกคู่นอน ส่วนใหญ่มีความหมายในแง่ลบ เรื่องศีลธรรมในสังคมที่เชื่อว่าการมีเพศสัมพันธ์คือความสัมพันธ์แบบคู่สมรส ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดที่แสดงถึงความสำส่อนได้แก่ การมีคู่นอนคืนเดียว นักวิจัยใช้ความถี่เป็นตัววัดความสำส่อน พฤติกรรมทางเพศใดที่ถือว่าเป็นสิ่งที่สำส่อนแตกต่างกันไปในแต่ละวัฒนธรรม เช่นเดียวกับความแพร่หลายของความสำส่อนทางเพศ มาตรฐานที่แตกต่างกันมักใช้กับเพศและสถานะทางแพ่งต่าง ๆ นักคตินิยมสิทธิสตรีโต้เถียงกันอย่างมีนัยสำคัญ ถึงความสองมาตรฐานที่มีอยู่ระหว่างวิธีการที่ชายและหญิงได้รับการตัดสินสำหรับความสำส่อนทางเพศ ในอดีต สามัญทัศน์ของผู้หญิงสำส่อนมีแนวโน้มที่จะอยู่ในแง่ลบ เช่น "หญิงมั่วโลกีย์" หรือ "หญิงแพศยา" ในขณะที่ของผู้ชายมีความหลากหลายกว่า บางก็แสดงความเห็นชอบ เช่น "ผู้ชายที่เก่งในการผลิตลูก" หรือ "ผู้เล่น" ในขณะที่บางคำหมายถึง ความแตกต่างจากทางสังคม เช่น "คนเจ้าชู้" หรือ "คนหัวงู" อย่างไรก็ตามการศึกษาในภายหลังแสดงหลักฐานถึงความมีสองมาตรฐานระหว่างชายและหญิง.

ดู การเหมารวมและความสำส่อน

ความถูกต้องทางการเมือง

วามถูกต้องทางการเมือง (Political correctness หรือใช้อักษรย่อว่า “PC”) คือคำที่ใช้สำหรับภาษา, ความคิดเห็น, นโยบาย และ พฤติกรรมที่เป็นการหลีกเลี่ยงการดูหมิ่นหรือการสร้างความรู้สึกขุ่นเคืองแก่เพศ, ผิว, วัฒนธรรม, เพศภาพ (sexual orientation), ผู้พิการ และ สิ่งที่เกี่ยวกับผู้มีอายุขัย การใช้ในปัจจุบันส่วนใหญ่มักจะใช้ไปในเชิงเสียดสี (pejorative) ที่สื่อความคิดของ “การยอมรับ” และ “การไม่ยอมรับ”Ruth Perry, (1992), “A short history of the term ‘politically correct’ ”, in Beyond PC: Toward a Politics of Understanding, by Patricia Aufderheide, 1992Schultz, Debra L.

ดู การเหมารวมและความถูกต้องทางการเมือง

ความน่ารัก

การเปลี่ยนสัดส่วนต่าง ๆ ของศีรษะและใบหน้า (โดยเฉพาะขนาดขากรรไกรบนโดยเปรียบเทียบกับขากรรไกรล่าง) ตามอายุ "มนุษย์ชอบใจสัตว์ที่มีลักษณะคล้าย ๆ เด็ก คือมีตาใหญ่ กะโหลกศีรษะที่ป่องออก คางที่ไม่ยื่นออก (คอลัมน์ซ้าย) ส่วนสัตว์ที่มีตาเล็ก ปากจมูกยาว (คอลัมน์ขวา) ไม่ทำให้เกิดปฏิกิริยาเช่นเดียวกัน" --ค็อนแรด ลอเร็นซ์ ความน่ารัก (cuteness) เป็นคำบ่งความรู้สึกที่ใช้แสดงความน่าพึงใจ/ความน่าดูน่าชมที่มักจะเกี่ยวข้องกับความเยาว์วัยและรูปร่างหน้าตา และยังเป็นคำบัญญัติทางวิทยาศาสตร์และแบบวิเคราะห์ในพฤติกรรมวิทยาอีกด้วย นักวิทยาศาสตร์ที่ใช้คำนี้เป็นคนแรก (ชาวออสเตรียชื่อว่าค็อนแรด ลอเร็นซ์) ได้เสนอความคิดในเรื่องแผนภาพทารก (baby schema, Kindchenschema) ซึ่งเป็นลักษณะทางใบหน้าและร่างกาย ที่ทำให้สัตว์หนึ่ง ๆ ปรากฏว่า "น่ารัก" และกระตุ้นให้ผู้อื่นช่วยดูแลรักษาสัตว์นั้น ๆ คำนี้สามารถใช้ในการชมบุคคลและสิ่งของที่น่าดูน่าชมหรือมีเสน่ห์ อีกอย่างหนึ่ง ความน่ารัก เป็นความสวยงามประเภทหนึ่งที่มีลักษณะละเอียดอ่อนและดึงดูดใจโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับเด็ก ความน่ารักมักจะเกิดจากส่วนประกอบของสิ่งที่มีลักษณะคล้ายทารกหรือมีขนาดใกล้เคียงกับทารก และมักจะมีส่วนประกอบของความขี้เล่น ความเปราะบาง และการช่วยเหลือตัวเองไม่ได้รวมอยู่ด้วย เด็กเล็ก ๆ และสัตว์ในวัยเยาว์มักจะมีการกล่าวถึงในลักษณะความน่ารัก ในขณะเดียวกันสัตว์ใหญ่บางประเภทเช่นแพนด้ายักษ์ ก็ยังมีการกล่าวถึงความน่ารัก เนื่องจากลักษณะที่คล้ายคลึงกับทารก และมีสัดส่วนหัวขนาดใหญ่เมื่อเทียบกับขนาดร่างกาย เทียบกับสัตว์ชนิดอื่น ในประเทศญี่ปุ่น ความน่ารักได้กลายมาเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรม จะเห็นได้ว่าในสื่อต่าง ๆ เสื้อผ้า อาหาร ของเล่น หรือของใช้ส่วนตัว มักจะมีภาพแสดงความน่ารักออกมา หรือแม้แต่หน่วยงานรัฐบาล การทหารก็ยังมีภาพแสดงความน่ารักออกมา ในขณะที่ไม่มีใช้กันในประเทศอื่นโดยถือว่าเป็นความไม่เหมาะสม ความน่ารักในปัจจุบันได้เป็นส่วนหนึ่งของแผนการตลาดของบริษัทขายของ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศญี่ปุ่น โดยได้กลายเป็นจุดขายที่สำคัญ ตัวอย่างเช่นในสินค้า เฮลโล คิตตี้ หรือ โปเกมอน หรือแม้แต่ในวัฒนธรรมตะวันตก เช่น หมีพูห์ หรือ มิกกี้เม.

ดู การเหมารวมและความน่ารัก

ความเอนเอียงทางประชาน

วามเอนเอียงทางประชาน (cognitive bias) เป็นรูปแบบความคลาดเคลื่อนของการประเมินตัดสินใจ ที่การอนุมานถึงบุคคลอื่นหรือสถานการณ์ต่าง ๆ อาจจะเป็นไปโดยไม่สมเหตุผล คือ เราจะสร้างความจริงทางสังคม (social reality) ที่เป็นอัตวิสัย จากการรับรู้ข้อมูลที่ได้ทางประสาทสัมผัส เพราะฉะนั้น ความจริงที่เราสร้างขึ้นนี้ ซึ่งไม่ใช่ความจริงโดยปรวิสัย อาจจะกำหนดพฤติกรรมทางสังคมของเรา ดังนั้น ความเอนเอียงทางประชานอาจนำไปสู่ความบิดเบือนทางการรับรู้ การประเมินตัดสินใจที่ไม่ถูกต้อง การตีความที่ไม่สมเหตุผล หรือพฤติกรรมที่เรียกกันอย่างกว้าง ๆ ว่า ความไม่มีเหตุผล (irrationality) ความเอนเอียงทางประชานบางอย่างเชื่อว่า เป็นการปรับตัวให้เข้ากับสังคมสิ่งแวดล้อม คือเป็นเหตุให้เกิดการกระทำที่มีประสิทธิภาพในสถานการณ์บางอย่าง นอกจากนั้นแล้ว ความเอนเอียงทางประชานบางอย่างสามารถทำให้ตัดสินใจได้เร็วขึ้น ในสถานการณ์ที่ความเร็วมีความสำคัญมากกว่าความแม่นยำ ดังที่พบในเรื่องของฮิวริสติก ความเอนเอียงบางอย่างอาจจะเป็น "ผลพลอยได้" ของความจำกัดในการประมวลข้อมูลของมนุษย์ ซึ่งอาจจะมาจากการไม่มีกลไกทางจิตใจที่เหมาะสม (สำหรับปัญหานั้น) หรือว่ามีสมรรถภาพจำกัดในการประมวลข้อมูล ภายใน 6 ทศวรรษที่ผ่านมา ได้มีการกำหนดความเอนเอียงทางประชานเป็นจำนวนมาก เป็นผลจากงานวิจัยในเรื่องการประเมินและการตัดสินใจของมนุษย์ จากสาขาวิชาการต่าง ๆ รวมทั้งประชานศาสตร์ จิตวิทยาสังคม และเศรษฐศาสตร์พฤติกรรม (behavioral economics) ความเอนเอียงทางประชานเป็นเรื่องสำคัญที่จะศึกษาเพราะว่า "ความผิดพลาดอย่างเป็นระบบ" แสดงให้เห็นถึง "กระบวนการทางจิตที่เป็นฐานของการรับรู้และการประเมินตัดสินใจ" (Tversky & Kahneman,1999, p.

ดู การเหมารวมและความเอนเอียงทางประชาน

คอสแซค

วาดของคอสแซคซาโพโรเซียน คอสแซค (козаки́, kozaky; каза́ки́, kazaki; Kozacy, Cossacks) เดิมเป็นสมาชิกของกลุ่มทหารในยูเครน และทางตอนใต้ของรัสเซีย แต่ที่มาของคอสแซคยังคงเป็นหัวข้อที่ถกเถียงกันในบรรดานักวิชาการอยู่ ในตอนปลายของคริสต์ศตวรรษที่ 15 กลุ่มคอสแซคซาโพโรเซียน (Zaporozhian Cossacks) ก็ได้ก่อตั้งกองทหารคอสแซค (Cossack host) ขึ้นในทุ่งหญ้าสเตปป์ในยูเครน (дике поле) ในบริเวณแม่น้ำนีพเพอร์ ในคริสต์ศตวรรษที่ 16 กลุ่มคอสแซคดอน (Don Cossacks) ก็ได้ก่อตั้งกองทหารคอสแซคขึ้นอีกกองหนึ่งในบริเวณลุ่มแม่น้ำดอน กองทหารคอสแซคกองอื่นๆ ก็ได้รับการก่อตั้งขึ้นต่อมาทางตอนใต้ของเทือกเขายูราล, ไซบีเรีย และ คอเคซัส คอสแซคนีพเพอร์แห่งยูเครนมีศูนย์กลางอยู่ในบริเวณหมู่เกาะนีพเพอร์ที่มีการสร้างเสริมการป้องกันทางทหาร เดิมคอสแซคเป็นอาณาจักรบริวารของเครือจักรภพโปแลนด์-ลิทัวเนีย แต่ความกดดันทางสังคมและศาสนาจากเครือจักรภพทำให้คอสแซคประกาศตนเป็นสาธารณรัฐคอสแซค (Cossack Hetmanate) อิสระจากโปแลนด์-ลิทัวเนีย โดยการริเริ่มการการก่อการคเมลนิทสกี (Khmelnytskyi Uprising) ภายใต้การนำของโบห์ดัน คเมลนิทสกีในกลางคริสต์ศตวรรษที่ 17 ในปี..

ดู การเหมารวมและคอสแซค

คตินิยมสิทธิสตรี

ตินิยมสิทธิสตรี คตินิยมสิทธิสตรี (feminism) เป็นกลุ่มขบวนการและอุดมการณ์ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อนิยาม จัดตั้งและปกป้องสิทธิทางการเมือง เศรษฐกิจและสังคมแก่สตรี ซึ่งรวมถึงการแสวงจัดตั้งโอกาสที่เท่าเทียมแก่สตรีในการศึกษาและการจ้างงานด้วย ชาร์ล ฟูรีเย นักปรัชญาชาวฝรั่งเศส ได้รับการกล่าวถึงว่าเป็นผู้ให้กำเนิดคำว่า "เฟมินิสม์" ในปี 1837 คำว่า "เฟมินิสม์" และ "เฟมินิสต์" ปรากฏครั้งแรกในฝรั่งเศสและเนเธอร์แลนด์ในปี 1872 บริเตนใหญ่ในคริสต์ทศวรรษ 1890 และสหรัฐอเมริกาในปี 1910Cott, Nancy F.

ดู การเหมารวมและคตินิยมสิทธิสตรี

ต่างคนต่างจ่าย

ต่างคนต่างจ่าย (Going Dutch หรือ Dutch treat หรือ Dutch date) เป็นศัพท์สแลงที่หมายความว่าทุกคนที่มีส่วนร่วมต้องจ่ายค่าใช้จ่ายของตนเอง แทนที่จะให้ผู้ใดผู้หนึ่งจ่ายสำหรับผู้อื่น.

ดู การเหมารวมและต่างคนต่างจ่าย

แควาเลียร์

แควาเลียร์ (Cavalier) เป็นคำที่ฝ่ายรัฐสภาใช้เรียกผู้นิยมกษัตริย์ที่สนับสนุนพระเจ้าชาลส์ที่ 1 ระหว่างสงครามกลางเมืองอังกฤษ (ระหว่างปี ค.ศ.

ดู การเหมารวมและแควาเลียร์

เกย์โอเคแบงค็อก

กย์โอเคแบงค็อก เป็นละครชุดออนไลน์แนวโรแมนติกและดราม่าเกี่ยวกับเกย์ เผยแพร่ครั้งแรกในวันที่ 21 กุมภาพัน..

ดู การเหมารวมและเกย์โอเคแบงค็อก

เศรษฐศาสตร์พฤติกรรม

รษฐศาสตร์พฤติกรรม (Behavioral economics) และสาขาที่เกี่ยวข้องกันคือ การเงินพฤติกรรม (behavioral finance) เป็นสาขาวิชาการที่ศึกษ.

ดู การเหมารวมและเศรษฐศาสตร์พฤติกรรม

เหตุผลวิบัติ

หตุผลวิบัติ (fallacy) หมายถึง การพิสูจน์โดยการอ้างเหตุผลที่มีน้ำหนักอ่อนเพื่อสนับสนุนในข้อสรุป การให้เหตุผลวิบัติมีความแตกต่างจากการให้เหตุผลแบบอื่น ๆ เนื่องจากหลายคนมักจะพบว่าการให้เหตุผลนั้นมีความน่าเชื่อถือในทางจิตวิทยา ซึ่งจะส่งผลให้คนจำนวนมากเกิดความเข้าใจผิดและยกเหตุผลอย่างผิด ๆ โดยใช้เป็นเหตุผลที่จะเชื่อในข้อสรุปนั้น การให้เหตุผลอาจจะกลายเป็น "เหตุผลวิบัติ" ได้ แม้ว่าข้อสรุปนั้นจะเป็นจริงหรือไม่ก็ตาม เหตุผลวิบัติสามารถจำแนกออกได้ในหลายรูปแบบ ยกตัวอย่างเช่น เหตุผลวิบัติอย่างเป็นทางการ เกิดจากหลักตรรกะที่ไม่ถูกต้อง เหตุผลวิบัติอย่างไม่เป็นทางการ ไม่เกี่ยวข้องกับการพิจารณาว่าผิดตามหลักตรรกะ และเหตุผลวิบัติเกี่ยวกับถ้อยคำ ซึ่งเกิดจากการใช้ภาษาชักนำให้เกิดความเข้าใจผิด เช่น การพูดกำกวม หรือการพูดมากโดยไม่จำเป็น เหตุผลวิบัติมักจะมีความเกี่ยวข้องกับผลกระทบที่จะเกิดขึ้นตามมา อันเนื่องมาจากเหตุผลที่ไม่เป็นไปตามหลักตรรกะอย่างถูกต้อง และเหตุผลวิบัติยังเกี่ยวข้องกับการสันนิษฐานด้วย เหตุผลวิบัติมักจะดูเหมือนกับว่าเป็นสิ่งที่เลวร้ายอย่างเห็นได้ชัด อย่างไรก็ตาม การยกเหตุผลมักจะมีลักษณะรูปแบบการเล่นสำนวนเพื่อให้เกิดความเคลือบแคลงในการยกเหตุผลในทางตรรกะ ซึ่งไม่ว่าจะเป็นด้วยเจตนาหรือไม่ก็ตาม จะทำให้เหตุผลวิบัติยากที่จะสามารถตรวจจับได้ และส่วนประกอบของเหตุผลวิบัตินั้นก็อาจแพร่ขยายได้อีกเป็นเวลานาน คำว่า เหตุผลวิบัติ อาจมีการเรียกในชื่ออื่น ๆ อีกเช่น เหตุผลลวง, ทุตรรกบท, ตรรกะวิบัติ, ปฤจฉวาที, มิจฉาทิฐิ, ความผิดพลาดเชิงตรรกะ, การอ้างเหตุผลบกพร่อง เป็นต้น.

ดู การเหมารวมและเหตุผลวิบัติ

เหตุผลวิบัติโดยอัตราพื้นฐาน

หตุผลวิบัติโดยอัตราพื้นฐาน"ศัพท์บัญญัติอังกฤษ-ไทย, ไทย-อังกฤษ ฉบับราชบัณฑิตสถาน (คอมพิวเตอร์) รุ่น ๑.๑", ให้ความหมายของ base rate ว่า "อัตราพื้นฐาน" และของ fallacy ว่า "เหตุผลวิบัติ" (Base rate fallacy) หรือ การละเลยอัตราพื้นฐาน (base rate neglect) หรือ ความเอนเอียงโดยอัตราพื้นฐาน (base rate bias) เป็นเหตุผลวิบัติรูปนัย (formal fallacy) ชนิดหนึ่ง ที่เมื่อมีการแสดงทั้งข้อมูลเกี่ยวกับอัตราพื้นฐานที่อยู่ในประเด็นแต่ว่าเป็นข้อมูลแบบทั่ว ๆ ไป และทั้งข้อมูลที่เฉพาะเจาะจงแต่กับบางกรณีเท่านั้น เรามักจะไม่สนใจข้อมูลทั่วไปแต่จะสนใจแต่ข้อมูลที่เฉพาะเจาะจงเท่านั้น ซึ่งนำไปสู่การประเมินผลที่มีความเอนเอียง.

ดู การเหมารวมและเหตุผลวิบัติโดยอัตราพื้นฐาน

Representativeness heuristic

Representativeness heuristic (ฮิวริสติกโดยความเป็นตัวแทน) เป็นฮิวริสติกที่ใช้ประเมินความน่าจะเป็นของเหตุการณ์หนึ่งเมื่อมีความไม่แน่ใจ เป็นหลักการโดยทั่วไปที่เราตัดสินโอกาสเป็นไปได้ของเหตุการณ์ โดยพิจารณาว่าสมมุติฐานของเรานั้น เหมือนกับข้อมูลที่มีอยู่มากแค่ไหน การประเมินโดยวิธีนี้อาจจะทำให้เราละเลยอัตราพื้นฐาน (base rate) และ/หรือเกิดความเอนเอียงทางประชาน (cognitive bias) ฮิวริสติกโดยความเป็นตัวแทนเป็นหนึ่งในกลุ่มฮิวริสติก (คือกฎที่ใช้เพื่อทำการประเมินและการตัดสินใจ) ที่เสนอโดยนักจิตวิทยา แดเนียล คาฮ์นะมัน และอะมอส ทเวอร์สกี้ ในต้นคริสต์ทศวรรษ 1970 มีการพรรณนาถึงฮิวริสติกว่าเป็น "ทางลัดในการประเมิน ที่โดยทั่วไปช่วยให้เราไปถึงที่หมายได้ และอย่างรวดเร็ว แต่มีราคาคือบางครั้งส่งเราไปผิดที่" ฮิวริสติกมีประโยชน์เพราะว่าช่วยทำการตัดสินใจให้ง่ายขึ้นและไม่ต้องใช้ทรัพยากรทางสมองมาก คำว่า "ความเป็นตัวแทน" (Representativeness) ในบทความนี้ใช้โดยสามารถหมายถึง.

ดู การเหมารวมและRepresentativeness heuristic

9แก๊ก

9แก๊ก (9GAG) เป็นเว็บไซต์ขำขันภาษาอังกฤษซึ่งดำเนินการโดยกลุ่ม Rollin' Egg โดยเป็นที่รู้จักเนื่องจากเว็บไซต์นี้มักนำอินเทอร์เน็ตมีมมาใช้บ่อยครั้งเพื่อสร้างความบันเทิง.

ดู การเหมารวมและ9แก๊ก

หรือที่รู้จักกันในชื่อ Stereotypeเหมารวม