สารบัญ
7 ความสัมพันธ์: ราชวงศ์เหงียนรายพระนามพระมหากษัตริย์กัมพูชาสมเด็จพระราชินีนาถสมเด็จพระหริรักษ์รามมหาอิศราธิบดีสมเด็จพระอุไทยราชาธิราชรามาธิบดีจักรพรรดิมิญ หมั่งข้าบดินทร์
ราชวงศ์เหงียน
ราชวงศ์เหงียน (Nhà Nguyễn, หญ่า-งฺเหวียน; จื๋อโนม: 阮朝, Nguyễn triều, งฺเหวียนเจี่ยว) เป็นราชวงศ์สุดท้ายของเวียดนามที่ปกครองเวียดนามมา 143 ปี เริ่มจากในปี ค.ศ.
ดู กษัตรีองค์มีและราชวงศ์เหงียน
รายพระนามพระมหากษัตริย์กัมพูชา
250px หน้านี้เป็นรายพระนามพระมหากษัตริย์ในพระราชอาณาจักรกัมพูชา ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน.
ดู กษัตรีองค์มีและรายพระนามพระมหากษัตริย์กัมพูชา
สมเด็จพระราชินีนาถ
มเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งสหราชอาณาจักร พระมหากษัตริย์ในระบอบราชาธิปไตยแบบรัฐสภา สมเด็จพระราชินีนาถ (Queen Regnant) คือ พระมหากษัตริย์หญิงผู้ครองราชสมบัติด้วยสิทธิ์ของพระองค์เอง ต่างจาก "สมเด็จพระราชินี" (Queen Consort) ซึ่งเป็นพระมเหสีในพระมหากษัตริย์ที่ครองราชสมบัติ และไม่ทรงมีอำนาจในการบริหารราชกิจของบ้านเมืองอย่างเป็นทางการใด ๆ โดยหลักการแล้ว พระมหากษัตริย์มีทั้ง "สมเด็จพระราชาธิบดี" (King Regnant) และ "พระมหากษัตริย์พระราชสวามี" (King Consort) แต่เกิดขึ้นได้ยาก และมีการใช้พระอิสริยยศเพียงสองครั้งในประวัติศาสตร์ราชวงศ์อังกฤษ ระบอบราชาธิปไตยในปัจจุบันที่ให้สมเด็จพระราชินีนาถทรงครองราชบัลลังก์ พระสวามีของพระองค์จะไม่ได้มีพระอิสริยยศเป็นพระราชา แต่เป็นเพียงแค่ชั้นเจ้าชายเท่านั้น พระราชสวามีของสมเด็จพระราชินีนาถแมรีที่ 1 แห่งอังกฤษและไอร์แลนด์ และพระสวามีคนที่สองของสมเด็จพระราชินีนาถแมรีที่ 1 แห่งสก็อตแลนด์ ได้รับการสถาปนาเป็นสมเด็จพระราชสวามีในอาณาจักรของพระองค์เอง แต่ไม่เป็นที่ชื่นชอบของพสกนิกรและการอภิเษกสมรสกินเวลาเพียงไม่นาน พระราชสวามีในสมเด็จพระราชินีนาถแมรีที่ 2 แห่งอังกฤษและไอร์แลนด์ และพระราชินีนาถแห่งชาวสก็อต ทรงได้รับการแต่งตั้งให้ขึ้นเป็นสมเด็จพระราชาธิบดี พระมหากษัตริย์ที่ปกครองร่วมกันเป็น พระเจ้าวิลเลียมที่ 3 แห่งอังกฤษ ที่ 2 แห่งสก็อตแลนด์ และที่ 1 แห่งไอร์แลนด์ แต่ถือเป็นพระมหากษัตริย์ปกครองร่วมกันครั้งเดียว และเป็นทางการที่สุดในประวัติศาสตร์อังกฤษ แต่หลังจากนั้นมา พระสวามีของสมเด็จพระราชินีนาถในประเทศอังกฤษได้รับการสถาปนาเป็น "เจ้าชายพระราชสวามี" (Prince Consort) (มีเพียงคนเดียวที่ได้รับการแต่งตั้งพระอิสริยยศนี้อย่างเป็นทางการคือ เจ้าชายอัลเบิร์ต พระราชสวามีในสมเด็จพระราชินีนาถวิกตอเรีย) การเสวยราชสมบัติของสมเด็จพระราชินีนาถจะเกิดขึ้นเมื่อลำดับการสืบราชบัลลังก์เอื้ออำนวย วิธีการสืบราชสมบัติ (เป็นพระมหากษัตริย์ หัวหน้าเผ่า ฯลฯ) และรวมถึงการแต่งตั้ง (พระมหากษัตริย์ในรัฐสภา หรือ คณะมนตรีแต่งตั้งรัชทายาท) การให้สิทธิพระโอรสธิดาตามลำดับการประสูติก่อนที่สุด (primogeniture) การให้สิทธิพระโอรสธิดาตามลำดับการประสูติหลังที่สุด (ultimogeniture) ขอบเขตในการสืบราชสมบัติอาจยึดจากสายทางพระชนก สายทางพระชนนีหรือทั้งสองฝ่าย หรือที่ไม่ค่อยเกิดขึ้น (เมื่อถึงคราวจำเป็น) มาจากการออกเสียงเลือกตั้ง สิทธิในการสืบราชสมบัติโดยตามเพศ อาจจะให้ทั้งชายและหญิง จำกัดแต่เพศชายเท่านั้น หรือจำกัดแต่เพศหญิงเท่านั้น การสืบราชบัลลังก์ที่เป็นแบบแผนมากที่สุดตั้งแต่สมัยกลางตอนปลายตลอดจนถึงคริสต์ศตวรรษที่ 20 เป็นแบบการให้สิทธิพระราชโอรสก่อนพระราชธิดา (male-preference primogeniture) กล่าวคือ ลำดับการสืบราชบัลลังก์อยู่ในบรรดาพระราชโอรสของพระมหากษัตริย์ตามลำดับการประสูติก่อนแล้วจึงตามมาด้วยของพระราชธิดา ในบางอาณาจักรทางประวัติศาสตร์ห้ามมิให้มีการสืบราชสมบัติโดยผู้หญิงหรือผ่านทางเชื้อสายของผู้หญิง แต่อย่างไรก็ตาม ยังมีบางแห่งที่ยังคงยึดถือหลักเกณฑ์นี้ตามกฎหมายแซลิก ดังตัวอย่างเช่น สมเด็จพระราชาธิบดีแห่งเนเธอร์แลนด์เป็นแกรนด์ดยุกแห่งลักเซมเบิร์ก แต่เมื่อกษัตริย์ดัตช์พระองค์สุดท้ายเสด็จสวรรคตเมื่อปี พ.ศ.
ดู กษัตรีองค์มีและสมเด็จพระราชินีนาถ
สมเด็จพระหริรักษ์รามมหาอิศราธิบดี
มเด็จพระหริรักษ์รามมหาอิศราธิบดี หรือ นักองด้วง หรือ พระองค์ด้วง (ព្រះបាទ អង្គ ឌួង; พระบาทองค์ด้วง) เสด็จพระราชสมภพเมี่อ พ.ศ.
ดู กษัตรีองค์มีและสมเด็จพระหริรักษ์รามมหาอิศราธิบดี
สมเด็จพระอุไทยราชาธิราชรามาธิบดี
มเด็จพระอุไทยราชาธิราชรามาธิบดีทิพากรวงศมหาโกษาธิบดี (ขำ บุนนาค), เจ้าพร.
ดู กษัตรีองค์มีและสมเด็จพระอุไทยราชาธิราชรามาธิบดี
จักรพรรดิมิญ หมั่ง
มิญ หมั่ง (Minh Mạng, 明命; 25 พฤษภาคม ค.ศ. 1791 — 20 มกราคม ค.ศ. 1841) หรือในพงศาวดารไทยเรียก มินมาง มีพระนามเดิมว่า เหงียน ฟุก ด๋าม (Nguyễn Phúc Đảm, 阮福膽) เป็นจักรพรรดิแห่งเวียดนามจากราชวงศ์เหงียน ตรงกับรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว และทรงเป็นผู้นำของเวียดนามในช่วงสงครามอานามสยามยุทธ จักรพรรดิซา ล็อง พระบิดาของจักรพรรดิมิญ หมั่ง ได้กอบกู้เวียดนามจากกบฏเต็ยเซิน จักรพรรดิมิญ หมั่งทรงรับช่วงต่อบ้านเมืองจากพระบิดาและทรงจัดระเบียบการปกครองของราชสำนักเวียดนามให้เรียบร้อย จักรพรรดิมิญ หมั่งทรงเคร่งครัดในลัทธิขงจื๊อใหม่ (Neo–Confucianism) เป็นอย่างมาก เป็นกษัตริย์ที่ใส่พระทัยในการปกครองและความเป็นอยู่ของราษฎร แต่ทว่าความเคร่งครัดในลัทธิขงจื๊อของพระองค์ทำให้ราชสำนักเวียดนามเกิดความขัดแย้งกับมิชชันนารีชาวตะวันตก ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับชาติตะวันตกโดยเฉพาะฝรั่งเศสเสื่อมถอยลงอย่างมากในรัชสมัยของพระองค์ จนนำไปสู่การสูญเสียเอกราชแก่ฝรั่งเศสในที.
ดู กษัตรีองค์มีและจักรพรรดิมิญ หมั่ง
ข้าบดินทร์
้าบดินทร์ เป็นนวนิยายไทยที่ประพันธ์โดย วรรณวรรธน์ มีเนื้อเรื่องอิงประวัติศาสตร์ในสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 ซึ่งเป็นยุคสมัยที่ประเทศอังกฤษ หรือที่เรียกว่า "วิลาศ" เข้ามามีบทบาททางการค้ากับประเทศไทยเป็นอย่างมาก แกนหลักของเรื่องถูกถ่ายทอดผ่านเรื่องราวของ เหม บุตรชายแห่งพระยาบริรักษ์กับคุณหญิงชม เด็กหนุ่มที่งดงามทั้งรูปร่างหน้าตา กิริยา วาจาจนได้ชื่อว่า "พ่อเหมรูปทอง" เหมสนใจใฝ่รู้ในภาษาวิลาศและได้แอบไปเรียนกับครูแหม่มบ่อย ๆ เมื่อผู้เป็นพ่อทราบเข้าก็ไม่พอใจเนื่องด้วยไม่ไว้ใจในพวกวิลาศ เหมจึงถูกส่งไปเรียนกับพระครูโพที่วัด ซึ่งที่นั่นทำให้เหมได้เรียนรู้วิชาดาบอาทมาฏติดตัวมาอีกหนึ่งแขนง หลวงสรอรรถ เข้ามาเจรจากับพระยาบริรักษ์ เพื่อขอลดค่าระวางปากเรือให้กับเรือกับปิตันฝรั่ง แต่พระยาบริรักษ์ไม่ยอม อีกทั้งเหมกับบัว หญิงสาวที่หลวงสรอรรถชอบใจ ได้ต้องใจกันตามประสาหนุ่มสาว ทำให้หลวงสรอรรถร่วมมือกับพระยาปลัดสมุทรปราการ ผู้ที่ถูกหลวงสรอรรถกุมความลับว่ามีรสนิยมทางเพศวิปริต ชอบสังวาสกับเด็กหญิงแล้วฆ่าทิ้ง ร่วมมือกันวางแผนใส่ร้ายพระยาบริรักษ์ว่าฆ่า มิสเตอร์เจเมสัน ทำให้ชะตาชีวิตของเหมต้องพลิกผัน พระยาบริรักษ์ตัดสินใจยอมรับตวามผิดทั้งที่ไม่ได้ก่อ เพื่อปกป้องบ้านเมืองไม่ให้เกิดศึกสงคราม ทำให้ทั้งสามต้องโทษโดนริบราชบาตร และปลดยศถาบรรดาศักดิ์ไปเป็นตะพุ่นหญ้าช้างในพระนคร ความตกต่ำของเหมทำให้บัวตัดความสัมพันธ์กับเหมอย่างไม่ใยดี ขณะที่ครอบครัวของบัวไม่กล้ายื่นมือเข้าช่วยเหลือ มีเพียงลำดวน ลูกสาวคนเล็กของขุนนาฏยโกศลซึ่งเป็นน้องสาวของบัว ที่รักและสนิทสนมกับเหมตั้งแต่เด็กจนเป็นสาวรุ่นเท่านั้น ที่ยังให้ความเห็นอกเห็นใจเหม อีกทั้งในวันที่เหมและคุณหญิงชม ผู้เป็นแม่ ถูกแห่ประจานจนกระหายน้ำ ลำดวนก็ได้ซื้อแตงกวาให้คุณหญิงชมทานเพื่อดับกระหาย ทำให้เหมทราบซึ้งในน้ำใจน้องน้อยเป็นอย่างมาก หลังจากที่กลายเป็นตะพุ่นช้าง เหมก็ได้เรียนรู้ศาสตร์แห่งคชสารจากขุนศรีไชยทิตยจนได้เป็นหมอควาญช้าง หรือ "เสดียง" ซึ่งโชคชะตาก็ทำให้เขาได้กลับมาพบกับ "ลำดวน" ซึ่งบัดนี้โตเป็นสาวเต็มตัวและได้นางเอกละครรำแห่งอัมพวาอีกครั้ง ด้วยความประทับใจในความดีงามของลำดวน ได้หล่อหลอมความกับความผูกพันจึงบังเกิดเป็นความรัก แต่ก็ต้องพบกับอุปสรรคนานัปการ ทั้งจากหมื่นวิชิตหนุ่มเจ้าเล่ห์ผู้หมายปองในตัวลำดวน และด้วยฐานะที่แตกต่างของทั้งคู่ เหมจึงพยายามทำทุกอย่างเพื่อไต่เต้าจากตะพุ่นช้างเป็นนายทหารผู้กล้าจนได้เป็นถึง "หลวงสุรบดินทร์" เพื่อพิสูจน์ว่าตนคู่ควรกับหญิงอันเป็นที่รัก ทั้งยังใช้ความรู้ความสามารถ รับราชการสนองพระเดชพระคุณแผ่นดินตามคำสอนสุดท้ายของผู้เป็นพ่อ ที่ว่า "ถึงเจ้าจะเกิดเป็นเศษเสี้ยวธุลีของแผ่นดิน เจ้าจงรู้ว่า แผ่นดินให้อะไรกับเจ้า และตัวเจ้าเองมีความหมายต่อแผ่นดินเพียงใด จงทำตัวเป็นเศษธุลีที่มีค่าของแผ่นดิน เป็นข้าแห่งบดินทร์ อันร้อยรวมศรัทธา ความกล้าหาญ ความรัก ความภักดี ไว้ในดวงใจเดียวกัน" ข้าบดินทร์ ถูกนำมาสร้างเป็นละครโทรทัศน์โดยค่ายทีวีซีน ของ ณัฏฐนันท์ ฉวีวงษ์ ออกแบบเครื่องแต่งกายโดย กิจจา ลาโพธิ์ ออกแบบการต่อสู้โดย ธนาวุฒิ เกสโร ลำดับภาพ วิโรจน์ ภุมวิภาชน์ ลงเสียงประกอบ ปั้น-ปั้น กำกับการแสดงโดย อรรถพร ธีมากร ออกอากาศทาง สถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 นำแสดงโดย เจมส์ มาร์ ภีรนีย์ คงไทย และ มณีรัตน์ ศรีจรูญ ออกอากาศวันแรก 30 พฤษภาคม 2558.
หรือที่รู้จักกันในชื่อ สมเด็จพระมหาราชินีองค์มี