โลโก้
ยูเนี่ยนพีเดีย
การสื่อสาร
ดาวน์โหลดได้จาก Google Play
ใหม่! ดาวน์โหลด ยูเนี่ยนพีเดีย บน Android ™ของคุณ!
ฟรี
เร็วกว่าเบราว์เซอร์!
 

มวยสากลและเฮฟวี่เวท

ทางลัด: ความแตกต่างความคล้ายคลึงกันค่าสัมประสิทธิ์การเปรียบเทียบ Jaccardการอ้างอิง

ความแตกต่างระหว่าง มวยสากลและเฮฟวี่เวท

มวยสากล vs. เฮฟวี่เวท

การแข่งขันมวยสากลระดับโลกระหว่าง รีการ์โด โดมิงเกวซ (ซ้าย) ฮุกซ้ายใส่ ออเรออน'ส ราฟาเอล ออร์ตีซ ที่แคลิฟอร์เนีย พ.ศ. 2548 มวยสากล (Boxing) เป็นศิลปะการต่อสู้ชนิดหนึ่งที่สู้กันด้วยหมัดทั้ง 2 ข้าง มีการแข่งขันตั้งแต่สมัยกีฬาโอลิมปิกยุคโบราณ และเป็นที่นิยมมาจนถึงปัจจุบัน มวยสากล จะกำหนดการให้คะแนน ถ้าไม่มีฝ่ายไหนแพ้ชนะน็อต จะตัดสินจากคะแนนรวมยกที่ 20 คือยกสุดท้. ฟวี่เวท (Heavyweight) เป็นพิกัดน้ำหนักการชกมวยสากลอาชีพที่จัดว่าเป็นรุ่นที่ใหญ่ที่สุด โดยนักมวยที่จะชกในรุ่นนี้ต้องมีน้ำหนักมากกว่า 200 ปอนด์ (90.900 กิโลกรัม) ขึ้นไป โดยความเป็นมาของพิกัดน้ำหนักรุ่นนี้ เป็นไปได้ว่ามีมาตั้งแต่ยุคศตวรรษที่ 17 เมื่อ เจมส์ ฟิกก์ นักมวยชาวอังกฤษผู้ประกาศว่าตนเป็นแชมป์โลกคนแรกของโลก ได้พัฒนาการชกมวยให้มีรูปแบบและกติกาที่ชัดเจน ซึ่งในศตวรรษต่อมา มาร์เควซแห่งควีนเบอร์รี่ ได้สนับสนุนให้มีการชกแบบ 12 ยก และได้ออกกติกาขึ้นมาชัดเจน ในชื่อว่า กติกาแห่งควีนเบอร์รี่ หรือ กฎมาร์เควซแห่งควีนเบอร์รี่ ที่กำหนดให้ในแต่ละยกต้องมี 3 นาทีชัดเจน และกำหนดให้นักมวยต้องสวมนวมขึ้นชก และแบ่งพิกัดน้ำหนักออกเป็นรุ่น ๆ ในปี ค.ศ. 1850 โดยแรกเริ่มมีเพียง 3 พิกัดเท่านั้นคือ ไลท์เวท, มิดเดิลเวท และเฮฟวี่เวท พร้อมกับศักราชของการชกมวยสากลในแบบสมัยใหม่ก็ได้เริ่มต้นขึ้น พิกัดน้ำหนักรุ่นเฮฟวี่เวทนี้ จัดได้ว่าเป็นรุ่นที่มีประวัติศาสตร์มากมาย ด้วยความที่เป็นรุ่นที่ใหญ่ที่สุด นักมวยที่ขึ้นชกแต่ละคนจะมีรูปร่างใหญ่โตเป็นส่วนใหญ่ จึงสามารถดึงดูดความสนใจของผู้คนได้เป็นอย่างมาก โดยนักมวยที่มีชื่อเสียงที่ได้ชกในพิกัดนี้ ได้แก่ จอห์น แอล. ซัลลิแวน ผู้ได้ชื่อว่าเป็นแชมป์โลกในแบบสวมนวมเป็นคนแรกของโลก, แจ๊ค จอห์นสัน นักมวยผิวดำคนแรกที่ได้แชมป์ในรุ่นนี้, แจ็ค เดมป์เซย์ นักมวยผิวขาวที่ได้รับความนิยมในช่วงทศวรรษที่ 19-20, ร็อคกี้ มาร์เซียโน่ นักมวยผิวขาวที่ได้ชื่อว่าเป็นแชมป์โลกคนเดียวจนถึงปัจจุบันนี้ ที่ไม่เคยแพ้ใครจนกระทั่งแขวนนวม, โจ หลุยส์ นักมวยผู้ทำสถิติการชกป้องกันตำแหน่งแชมป์โลกได้มากครั้งที่สุดในโลก, มูฮัมหมัด อาลี นักมวยผู้ได้เหรียญทองกีฬาโอลิมปิกและเป็นแชมป์โลกถึง 3 ครั้ง ผู้เป็นตำนาน, จอร์จ โฟร์แมน, โจ ฟราเซียร์ ผู้เป็นคู่ปรับคนสำคัญของอาลี, ไมค์ ไทสัน แชมป์โลก 3 สถาบันคนแรกของรุ่นนี้ ผู้สร้างความตื่นตัวของรุ่นในทศวรรษที่ 80, อีแวนเดอร์ โฮลีฟิลด์ อดีตนักมวยสากลสมัครเล่นเหรียญทองแดงในกีฬาโอลิมปิก ตลอดจน วิตาลี คลิทช์โก และวลาดิเมียร์ คลิทช์โก นักมวยผิวขาวสองพี่น้องชาวยูเครน รูปร่างสูงใหญ่ ผู้ซึ่งเป็นแชมป์โลกและยังคงชกเคลื่อนไหวอยู่ในปัจจุบัน แต่สำหรับมวยสากลสมัครเล่น พิกัดเฮฟวี่เวทนี้ ยังไม่ถือว่าเป็นรุ่นที่ใหญ่ที่สุด หากแต่ยังมีรุ่น ซูเปอร์เฮฟวี่เวท ที่ใหญ่กว่านี้ กล่าวคือ น้ำหนักมากกว่า 201 ปอนด์ขึ้นไป.

ความคล้ายคลึงกันระหว่าง มวยสากลและเฮฟวี่เวท

มวยสากลและเฮฟวี่เวท มี 5 สิ่งที่เหมือนกัน (ใน ยูเนี่ยนพีเดีย): ชาวอังกฤษมวยสากลมิดเดิลเวทคริสต์ทศวรรษ 1980เจมส์ ฟิกก์

ชาวอังกฤษ

วอังกฤษ เป็นกลุ่มของชาวยุโรปที่เคยอาศัยอยู่ทางตอนใต้ของบริเตนใหญ่ เป็นชาวแองโกล-แซกซอนส์ ที่ปัจจุบันอาศัยกระจายอยู่หลายประเทศทั่วโลก ในสหราชอาณาจักร มีอยู่ 45,265,093 คน สหรัฐอเมริกา 24,515,138 คน แคนาดา 5,978,875 คน ออสเตรเลีย 6.4 ล้านคน และประเทศอื่นๆ ทั่วโลก ชาวอังกฤษส่วนใหญ่นับถือศาสนาคริสต.

ชาวอังกฤษและมวยสากล · ชาวอังกฤษและเฮฟวี่เวท · ดูเพิ่มเติม »

มวยสากล

การแข่งขันมวยสากลระดับโลกระหว่าง รีการ์โด โดมิงเกวซ (ซ้าย) ฮุกซ้ายใส่ ออเรออน'ส ราฟาเอล ออร์ตีซ ที่แคลิฟอร์เนีย พ.ศ. 2548 มวยสากล (Boxing) เป็นศิลปะการต่อสู้ชนิดหนึ่งที่สู้กันด้วยหมัดทั้ง 2 ข้าง มีการแข่งขันตั้งแต่สมัยกีฬาโอลิมปิกยุคโบราณ และเป็นที่นิยมมาจนถึงปัจจุบัน มวยสากล จะกำหนดการให้คะแนน ถ้าไม่มีฝ่ายไหนแพ้ชนะน็อต จะตัดสินจากคะแนนรวมยกที่ 20 คือยกสุดท้.

มวยสากลและมวยสากล · มวยสากลและเฮฟวี่เวท · ดูเพิ่มเติม »

มิดเดิลเวท

มิดเดิลเวท (Middleweight) เป็นพิกัดน้ำหนักมวยในระดับกลาง นักมวยที่จะชกในพิกัดนี้จะต้องมีน้ำหนักมากกว่า 154 ปอนด์ (69.853 กิโลกรัม) และไม่เกิน 160 ปอนด์ (72.576 กิโลกรัม) โดยรุ่นมิดเดิลเวทนี้ ได้ถือกำเนิดขึ้นในปี ค.ศ. 1850 พร้อมกับพิกัดน้ำหนักไลท์เวท และเฮฟวี่เวท ด้วย ในแวดวงมวยสากลนั้นมีนักมวยในพิกัดมิดเดิลเวทนี้มากมาย จัดเป็นพิกัดที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะในช่วงกลางทศวรรษที่ 80 ใน ชูการ์ เรย์ เลียวนาร์ด, โธมัส เฮิร์นส์, โรแบร์โต้ ดูรัน และมาร์วิน แฮ็กเลอร์ ได้ชื่อว่าเป็น "สี่ทหารเสือแห่งรุ่นกลาง" โดยทั้ง 4 นั้นจะวนเวียนชกกันทั้งหมดในพิกัดนี้หรือใกล้เคียง นอกจากนั้นแล้วก็ยังมีนักมวยอีกหลายรายที่มีชื่อเสียงที่ชกในพิกัดนี้ทั้งในอดีตและปัจจุบัน ได้แก่ ร็อคกี้ กราเซียโน่, เจค ลาม็อตตา, กัง แซชุล, สมพงษ์ เวชสิทธิ์, สมเดช ยนตรกิจ, อภิเดช ศิษย์หิรัญ, รอย โจนส์ จูเนียร์, เบอร์นาร์ด ฮอปกินส์, ออสการ์ เดอ ลา โฮยา, เฟลิกซ์ ทรินิแดด, เกนนาดี้ โกลอฟกิ้น, มิเกล คอตโต เป็นต้น ในส่วนของมวยสากลสมัครเล่นของไทยนั้น ยังไม่มีใครประสบความสำเร็จถึงการคว้าเหรียญทองในระดับโอลิมปิก ที่ประสบความสำเร็จสูงสุด คือ สุริยา ปราสาทหินพิมาย ที่ได้รับเหรียญทองแดง ในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก ที่กรุงเอเธนส์ ประเทศกรีซ เมื่อปี ค.ศ. 2004.

มวยสากลและมิดเดิลเวท · มิดเดิลเวทและเฮฟวี่เวท · ดูเพิ่มเติม »

คริสต์ทศวรรษ 1980

ริสต์ทศวรรษ 1980 (1980s) หรือยุคเอจตี้ส์ เป็นทศวรรษที่เริ่มต้นตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ค.ศ. 1980 ถึง 31 ธันวาคม ค.ศ. 1989 เป็นช่วงเวลาที่เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงด้านสังคม เศรษฐกิจ การเปลี่ยนแปลงทั่วไปอย่างความร่ำรวย การผลิตที่เปลี่ยนไปสู่ยุคเศรษฐกิจแบบอุตสาหกรรม เศรษฐกิจเสรีที่พัฒนาไปทั่วโลก บริษัทข้ามชาติทางด้านอุตสาหกรรมที่เข้าสู่ประเทศอย่าง ประเทศไทย มาเลเซีย เม็กซิโก เกาหลีใต้ ไต้หวัน ประเทศจีน และเศรษฐกิจตลาดใหม่ในยุโรปตะวันออก ตามมาด้วยการล่มสลายของคอมมิวนิสต์ในยุโรปตะวันออก ประเทศญี่ปุ่นและเยอรมนีถือเป็นประเทศที่เห็นเด่นชัดว่าพัฒนาทางด้านเศรษฐกิจอย่างรวดเร็วตลอดทศวรรษนี้ ประเทศกำลังพัฒนาทั่วโลกมีประสบความยากลำบากด้านความเจริญเติบโตด้านเศรษฐกิจและสังคม ที่ประเทศเหล่านั้นพบกับปัญหาหนี้สินในคริสต์ทศวรรษ 1980 ประเทศเหล่านี้ต้องการความช่วยเหลือด้านการเงินจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศและธนาคารโลก ประเทศเอธิโอเปียประสบปัญหาความยากจนในช่วงกลางคริสต์ทศวรรษ 1980 ผลคือประเทศต้องการความช่วยเหลือจากต่างชาติในด้านอาหารกับประชากรและทั่วโลกต่างกันช่วยหาเงินช่วยเหลือต่อชาวเอธิโอเปีย อย่างเช่นคอนเสิร์ตไลฟ์เอด ในปี 1985 ที่จัดขึ้นเพื่อหาเงินดังกล่าว ปัญหาด้านสงคราม เกิดความรุนแรงในตะวันออกกลาง อย่างสงครามอิรัก-อิหร่าน และความขัดแย้งในเลบานอนช่วงปี 1982 ถึง 1983 และกองทัพอเมริกันเข้าบุกลิเบียในปี 1985 และ Intifada ในฉนวนกาซาและเวสต์แบงก์ คริสต์ทศวรรษ 1980 ยังเป็นยุคที่มีอัตราการเติบโตของจำนวนประชากรอย่างมาก ไปทั่วโลก มากกว่าแม้ในคริสต์ทศวรรษ 1970 และคริสต์ทศวรรษ 1990 มีอัตราการเติบโตของจำนวนประชากรมากขึ้นอย่างมากโดยเฉพาะชาวแอฟริกา ตะวันออกกลาง และเอเชียใต้ ตลอดทศวรรษ ด้วยอัตราการเพิ่มใกล้หรือมากกว่า 4% ต่อปี.

คริสต์ทศวรรษ 1980และมวยสากล · คริสต์ทศวรรษ 1980และเฮฟวี่เวท · ดูเพิ่มเติม »

เจมส์ ฟิกก์

รูปวาด เจมส์ ฟิก์ก โดยเซอร์เจมส์ ธอร์นฮิลล์ ในปี ค.ศ. 1732 ภาพวาดโฆษณาการชกมวยของเจมส์ ฟิกก์ เจมส์ ฟิกก์ (James Figg) เกิดเมื่อปี ค.ศ. 1695 ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เจมส์ ฟิกก์ เป็นบุคคลที่ชื่นชอบในศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัว ในยุคนั้นการชกมวยยังไม่มีกฎกติกาที่ชัดเจน จึงคิดจะเปลี่ยนแปลงจากการต่อสู้เหล่านั้นให้กลายเป็นเกมกีฬาที่เป็นที่ยอมรับ เจมส์ ฟิกก์ ประกาศตัวเองว่าเป็นนักมวยจากอังกฤษ ท้าชกกับทุกคนที่คิดว่าตัวเองแน่ โดยมีเงินเดิมพัน 100 ปอนด์ ในปี ค.ศ. 1715 และก็สามารถปราบทุกคนที่ขึ้นประฝีมือได้ทั้งหมด การชกมวยในสมัยนั้น การกำหนดยกแต่ละยกใช้จอกเหล้าทองเหลืองขนาดบรรจุ 4 ออนซ์ เจาะรูขนาด 2 มิลลิเมตรที่ก้นจอก ลอยน้ำในถังไม้ เมื่อจอกเหล้าจมลงสู่ก้นกั้นเมื่อใด ให้เรียกว่าหนึ่งยก กติกาโดยทั่วไปได้แก่ ห้ามชกต่ำกว่าสะดือ ห้ามกอดรัดฟัดเหวี่ยง ห้ามกัด ห้ามซ้ำคู่ต้อสู้เมื่อล้ม เป็นต้น โดยที่กำหดยกไม่มี ไม่มีการสวมนวม ในปี ค.ศ. 1719 ก็ไม่มีใครสู้เขาได้ เจมส์ ฟิกก์จึงประกาศตัวเองว่าเป็น "แชมเปี้ยนโลกคนแรกของโลก" (The First Bare-Knuckle Boxing Champion) และฟิกก์ก็ยังชกมวยต่อไปนานถึง 15 ปี ซึ่งการชกของฟิกก์นับเป็นการต่อสู้ที่นับว่าใหม่มากในยุคนั้น โดยดัดแปลงการชกด้วยหมัดเพียงอย่างเดียว ให้มีการเต้นฟุตเวิร์ก มีการโยกหัวหลบหมัดของคู่ต่อสู้ หมัดแย็บ หมัดฮุก เป็นต้น และนอกจากนี้ เจมส์ ฟิกก์ ยังเป็นผู้เชี่ยวชาญในวิชาดาบด้วยอีกต่างหาก และก็เป็นบุคคลแรกของอังกฤษที่ให้มีการเสียค่าบัตรเข้าชมการต่อสู้ของเขา ซึ่งกลายมาเป็นการซื้อตั๋วเข้าชมกีฬาอย่างในปัจจุบัน เจมส์ ฟิกก์ ยังตั้งค่ายมวยขึ้นมา โดยนับเป็นค่ายมวยแห่งแรกของโลกอีกด้วย ชื่อ "แอมฟิเตอร์" (Amphiter) ขึ้นมาเพื่อฝึกสอนทั้งมวยและดาบ และก็ไม่มีใครเอาชนะได้ จึงยุติการชกไป และยกตำแหน่งแชมป์ให้แก่ จอร์จ เทเลอร์ ลูกศิษย์คนแรกของเขาเป็นแชมป์สืบต่อ นอกจากนี้แล้ว เจมส์ ฟิกก์ ยังเป็นบุคคลแรกที่คิดค้นเวทีสำหรับชกมวยอีกด้วย โดยใช้ไม้กระดานยกเป็นพื้น และเอาไม้แผ่นทรงจตุรัสมากั้นเป็นการตีกรอบสำหรับการชก หลังจากยุติการชกไปแล้วไม่นาน แจ๊ค ปรัฟตัน ก็ได้คิดค้นนวมสำหรับชกมวยขึ้น โดยนวมในยุคแรกเป็นถุงมือหนา ๆ แต่ยังไม่เป็นที่นิยมนักในช่วงต้น เจมส์ ฟิกก์ เสียชีวิตเมื่อวันที่ 8 ธันวาคม ค.ศ. 1734 ที่กรุงลอนดอน เมื่ออายุได้เพียง 39 ปี เท่านั้น และศพของเขาถูกฝังอย่างสมเกียรติที่วิหารเวสต์มินเตอร์เช่นเดียวกับศพของบรรดาบุคคลสำคัญทั้งหลายของอังกฤษ หลายสิ่งที่เจมส์ ฟิกก์ ได้คิดค้นและฝึกสอนนั้น กลายมาเป็นแนวทางซึ่งพัฒนามาเป็นมวยสากลอย่างในปัจจุบัน จนได้รับการยกย่องให้เป็น "บิดาแห่งมวยสากลสมัยใหม่" (Father of Modern Boxing).

มวยสากลและเจมส์ ฟิกก์ · เจมส์ ฟิกก์และเฮฟวี่เวท · ดูเพิ่มเติม »

รายการด้านบนตอบคำถามต่อไปนี้

การเปรียบเทียบระหว่าง มวยสากลและเฮฟวี่เวท

มวยสากล มี 93 ความสัมพันธ์ขณะที่ เฮฟวี่เวท มี 27 ขณะที่พวกเขามีเหมือนกัน 5, ดัชนี Jaccard คือ 4.17% = 5 / (93 + 27)

การอ้างอิง

บทความนี้แสดงความสัมพันธ์ระหว่าง มวยสากลและเฮฟวี่เวท หากต้องการเข้าถึงบทความแต่ละบทความที่ได้รับการรวบรวมข้อมูลโปรดไปที่:

Hey! เราอยู่ใน Facebook ตอนนี้! »