โลโก้
ยูเนี่ยนพีเดีย
การสื่อสาร
ดาวน์โหลดได้จาก Google Play
ใหม่! ดาวน์โหลด ยูเนี่ยนพีเดีย บน Android ™ของคุณ!
ดาวน์โหลด
เร็วกว่าเบราว์เซอร์!
 

อนาเธอร์พาร์ตออฟมีและเลิฟเนเวอร์เฟลท์โซกูด

ทางลัด: ความแตกต่างความคล้ายคลึงกันค่าสัมประสิทธิ์การเปรียบเทียบ Jaccardการอ้างอิง

ความแตกต่างระหว่าง อนาเธอร์พาร์ตออฟมีและเลิฟเนเวอร์เฟลท์โซกูด

อนาเธอร์พาร์ตออฟมี vs. เลิฟเนเวอร์เฟลท์โซกูด

อนาเธอร์พาร์ตออฟมี (Another Part of Me) เป็นเพลงของศิลปินชาวอเมริกัน ไมเคิล แจ็กสัน แต่งโดยไมเคิล แจ็กสัน โปรดิวซ์โดยควินซี โจนส์ร่วมกับแจ็กสัน วางจำหน่ายเป็นซิงเกิลในวันที่ 11 กรกฎาคม ค.ศ. 1988 สำหรับอัลบั้มสตูดิโอชุดที่เจ็ด Bad (1987) เพลงนี้เป็นจุดเด่นดั้งเดิมในภาพยนตร์ 3 มิติของแจ็กสัน กัปตันอีโอ เป็นเพลงที่หกในอัลบั้ม เพลงนี้ยังปรากฏเป็นบทเพลงเต้นรำและเพลงระดับสำหรับการแก้ไขในภายหลังของวิดีโอเกม Moonwalker ของไมเคิล แจ็กสันด้วย เช่นเดียวกับเพลงอื่นๆก่อนหน้าในอาชีพของเขาอย่างเช่น "Can You Feel It" และ "We Are the World" เนื้อเพลงนี้เน้นที่ความสามัคคีทั่วโลก ความรักและความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน เพลงนี้ยังให้ความสำคัญในตัวอย่างของภาพยนตร์ "Moonwalker" ของแจ็กสันในปี.ศ 1988 เพลงยังเป็นจุดเด่นในเรื่อง "Rush Hour" ภาพยนตร์แอคชั่นในปี.ศ 1998 จาก Brett Ratner โดยคาแร็กเตอร์ของ Chris Tucker นักสืบเจมส์คาร์เตอร์ สามารถเห็นได้จากการเต้นในเวลาสั้น ๆ ในภาพยนตร. ลิฟเนเวอร์เฟลท์โซกูด (Love Never Felt So Good) เป็นเพลงที่ถูกเขียนขึ้นโดยนักร้องชาวอเมริกัน ไมเคิล แจ็กสัน และนักร้อง นักแต่งเพลงชาวแคนาดา พอล แองคา โดยบันทึกเสียงครั้งแรกในปี ค.ศ. 1983 ต่อมาได้รับออกจำหน่ายเป็นซิงเกิลหลังมรณกรรมในเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 2014 เวอร์ชันออกจำหน่ายครั้งแรกของเพลงที่ถูกบันทึกไว้โดย จอห์นนี มาติส สำหรับอัลบั้มเขาในปี ค.ศ. 1984, Special Part of Me กับเนื้อเพลงใหม่โดย แองคา และแคทลีน เวกฟีลด์ เวอร์ชันทำใหม่ของแจ็กสันในปี ค.ศ. 1983 แบ่งเป็น 2 เวอร์ชั่น ไดแก่ เวอร์ชั่นร้องเดี่ยว ผลิตโดยโปรดิวเซอร์ชาวอเมริกัน จอห์น แม็คแคลย์น และโปรดิวเซอร์ชาวดักช์จอร์โจ เทิว์นฟอร์ด เวอร์ชั่นร้องคู่โดยมีจัสติน ทิมเบอร์เลค ผลิตโดยโปรดิวเซอร์ชาวอเมริกัน ทิมบาแลนด์ และเจอโรม "เจ-รอค" ฮาร์มอน เป็นซิงเกิลแรกที่จำหน่ายจากอัลบั้มหลังมรณกรรมที่ 2 ของแจ็กสัน เอ็กซ์สเคป เป็นความร่วมมือระหว่างแจ็กสัน กับแองคา ในการออกจำหน่ายนับตั้งแต่แจ็กสันเสียชีวิตในปึ ค.ศ. 2009 (ครั้งแรกใน ดิสอีสอิต) ซิงเกิลนี้ประสบความสำเร็จได้ติดชาร์ตอันดับที่ 9 จากการจัดอันดับเพลง 100 ของบิลบอร์ด สหรัฐอเมริกา และอันดับที่ 8 ของสหราชอาณาจักร.

ความคล้ายคลึงกันระหว่าง อนาเธอร์พาร์ตออฟมีและเลิฟเนเวอร์เฟลท์โซกูด

อนาเธอร์พาร์ตออฟมีและเลิฟเนเวอร์เฟลท์โซกูด มี 4 สิ่งที่เหมือนกัน (ใน ยูเนี่ยนพีเดีย): สมูทคริมินัลอีพิกเรเคิดส์ไมเคิล แจ็กสันเดอร์ตีไดอานา

สมูทคริมินัล

มูท คริมินัล (Smooth Criminal) เป็นเพลงของนักร้องชาวอเมริกันไมเคิล แจ็กสัน จากอัลบั้มที่แปด "Bad" ออกวางจำหน่ายในปี..

สมูทคริมินัลและอนาเธอร์พาร์ตออฟมี · สมูทคริมินัลและเลิฟเนเวอร์เฟลท์โซกูด · ดูเพิ่มเติม »

อีพิกเรเคิดส์

อีพิกเรเคิดส์ คือบริษัทบันทึกเสียงในเครือโซนี่ บีเอ็มจี ในสหรัฐอเมริกา หมวดหมู่:ค่ายเพลงอเมริกัน หมวดหมู่:บริษัทที่ก่อตั้งในปี พ.ศ. 2496.

อนาเธอร์พาร์ตออฟมีและอีพิกเรเคิดส์ · อีพิกเรเคิดส์และเลิฟเนเวอร์เฟลท์โซกูด · ดูเพิ่มเติม »

ไมเคิล แจ็กสัน

มเคิล โจเซฟ แจ็กสัน เป็นนักร้องชาวอเมริกัน นักแต่งเพลง นักออกแบบท่าเต้น นักแสดง โปรดิวเซอร์เพลงและนักการกุศล ได้รับการขนานนามว่าเป็น "ราชาเพลงป็อป" (The King of Pop)อิทธิพลทางดนตรี การเต้นรำ แฟชั่นและผลงานด้านมนุษยธรรม กับชีวิตส่วนตัวที่ถูกเผยแพร่ควบคู่ไปกับความสำเร็จ ทำให้เขาเป็นส่วนหนึ่งในวัฒนธรรมร่วมสมัยมากว่า 4 ทศวรรษ เขาเป็นลูกคนที่ 8 ของครอบครัวแจ็กสัน ปรากฏตัวครั้งแรกในระดับอาชีพด้านดนตรีตั้งแต่อายุ 5 ปี โดยเป็นหนึ่งในสมาชิกวงเดอะแจ็กสันไฟฟ์ในปี 1964 เขาเริ่มมีผลงานเดี่ยวในปี 1971 ขณะที่ยังคงเป็นสมาชิกของวงอยู่ ต้นคริสต์ทศวรรษ 1980 เขากลายเป็นส่วนสำคัญในวัฒนธรรมเพลงป็อป และถือเป็นศิลปินชาวแอฟริกัน-อเมริกันคนแรกที่มีผลงานออกอากาศผ่านทางช่องเอ็มทีวี มิวสิกวิดีโอของเขา ประกอบด้วยเพลง "Beat It", "Billie Jean" และ "Thriller" ได้รับการยกย่องสำหรับการทำลายอุปสรรคทางเชื้อชาติ และเปลี่ยนแปลงรูปแบบมิวสิกวิดีโอจากอุปกรณ์การประชาสัมพันธ์ไปเป็นรูปแบบของงานศิลปะ ความนิยมของมิวสิกวิดีโอเหล่านี้ได้ช่วยให้ช่องเอ็มทีวีที่เพิ่งเปิดใหม่นี้มีชื่อเสียง อัลบั้ม Bad ของเขาในปี 1987 นับเป็นอัลบั้มเพลงแรกในประวัติศาสตร์ที่มีเพลงอันดับ 1 ถึง 5 เพลงบนบิลบอร์ดฮ็อต 100 จากอัลบั้มเดียว มิวสิกวิดีโอในรูปแบบใหม่อย่างเพลง "Black or White" และ "Scream" ก็ยังออกอากาศบ่อยทางช่องเอ็มทีวี เขายังสร้างสรรค์สิ่งใหม่ตลอดคริสต์ทศวรรษ 1990 ด้วยชื่อเสียงที่เลื่องลือในฐานะศิลปินเดี่ยวกับลีลาบนเวทีและการแสดง แจ็กสันสร้างความโด่งดังให้กับเทคนิคการเต้นที่ซับซ้อนโดยใช้ร่างกายมากมายหลายๆท่า ซึ่งก่อให้เกิดการแพร่หลายอย่างมาก อย่างเช่นท่าเต้นหุ่นยนต์และท่าเต้นมูนวอล์ก เอกลักษณ์ทางด้านดนตรีและเสียงร้องอันโดดเด่นของเขายังมีอิทธิพลต่อศิลปินหลายแนวเพลง อิทธิพลของเขาได้แพร่กระจายไปสู่คนหลายรุ่นทั่วโลก Thriller ถือเป็นอัลบั้มเพลงที่มียอดขายสูงสุดตลอดกาลสี่อัลบั้มเดี่ยวที่เหลือของเขา ก็ยังติดอันดับอัลบั้มที่ขายดีที่สุดในโลก ประกอบด้วยชุด Off the Wall (1979), Bad (1987), Dangerous (1991) และ HIStory (1995) แจ็กสันเดินทางไปทั่วโลกเพื่อร่วมกิจกรรมด้านมนุษยธรรม เขาหาเงินนับร้อยล้านดอลลาร์เพื่อมูลนิธิการกุศลของเขา มีซิงเกิลและผลกำไรจากทัวร์คอนเสิร์ตที่เขาสนับสนุนให้กับองค์กร 39 แห่ง บันทึกสถิติโลกกินเนสส์ระบุว่าเขาเป็นบุคคลบันเทิงที่มีส่วนร่วมในการกุศลมากยิ่งกว่าดาราหรือศิลปินคนใดๆ ชีวิตส่วนตัวของเขามักปรากฏตัวโดยการปรับเปลี่ยนเสื้อผ้าและพฤติกรรมให้คนอื่นจำไม่ได้ แต่นี่ก็เป็นสิ่งที่ทำลายภาพลักษณ์ที่ดีของเขาด้วยเช่นกัน เขายังถูกข้อกล่าวหาลวนลามทางเพศเด็กในปี 1993 แต่ก็ปิดลงโดยเขาไม่มีความผิดเนื่องจากมีหลักฐานไม่เพียงพอ แจ็กสันมีปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพตั้งแต่ต้นคริสต์ทศวรรษ 1990 และยังมีข้อมูลรายงานขัดแย้งในเรื่องฐานะการเงินของเขาตั้งแต่ปลายคริสต์ทศวรรษ 1990 แจ็กสันแต่งงานมาแล้วสองครั้ง มีลูกสามคน ต่อมาในปี 2005 เขามีข้อพิพาทอีกครั้งเรื่องล่วงละเมิดทางเพศและอีกหลายคดี แต่เขาก็ไม่มีความผิด (ซึ่งในภายหลังคู่กรณีหลายรายได้ออกมายอมรับว่า แจ็กสัน ไม่ได้กระทำ และที่กล่าวหา เพราะเป็นเด็ก และถูกผู้ปกครองบังคับ โดยหวังที่จะได้รับเงินค่าเสียหาย) เขาเป็นหนึ่งในไม่กี่ศิลปินที่มีชื่ออยู่ในร็อกแอนด์โรลฮอลออฟเฟมถึงสองครั้ง ผลงานของเขาประสบความสำเร็จได้รับบันทึกสถิติหลายครั้ง กินเนสส์บุ้คเวิลด์เรคคอร์ดจารึกชื่อเขาเป็น "ศิลปินบันเทิงที่ประสบความสำเร็จที่สุดตลอดกาล" เขาเป็นนักร้องคนเดียวจากโลกดนตรีป็อปและร็อกแอนด์โรลที่มีชื่ออยู่ในหอเกียรติยศแดนซ์ฮอลออฟเฟม และยังเป็นศิลปินเพียงคนเดียวที่มีเพลงฮิตติดท็อป 10 บนบิลบอร์ดฮ็อต 100 ทุก 10 ปี ติดต่อกันนานกว่าครึ่งศตวรรษ แจ็กสันชนะรางวัลจากเวทีต่างๆ นับร้อยกว่ารางวัล ทำให้เขาเป็นศิลปินที่คว้ารางวัลมากที่สุดในประวัติศาสตร์เพลงป็อปความสำเร็จอื่นๆ ของเขาได้แก่ สถิติในกินเนสบุ้คเวิลด์เรคคอร์ดหลายครั้ง 13 รางวัลแกรมมี่ รางวัลพิเศษ Grammy Legend Award, Grammy Lifetime Achievement Award 26 อเมริกันมิวสิกอวอร์ดส มากกว่าศิลปินคนใดๆ รวมไปถึงรางวัลพิเศษ "ศิลปินแห่งศตวรรษ" และ "ศิลปินแห่งทศวรรษ" 13 ซิงเกิลที่ขึ้นอันดับ 1 ในฐานะนักร้องเดี่ยว มากกว่าที่ศิลปินชายคนใดจะทำได้ และมียอดขายรวมกว่า 400 ล้านชุดทั่วโลก ไมเคิล แจ็กสัน เสียชีวิตเมื่อวันที่ 25 มิถุนายน..

อนาเธอร์พาร์ตออฟมีและไมเคิล แจ็กสัน · เลิฟเนเวอร์เฟลท์โซกูดและไมเคิล แจ็กสัน · ดูเพิ่มเติม »

เดอร์ตีไดอานา

อร์ตี เดียน่า (Dirty Diana) เป็นเพลงของศิลปินชาวอเมริกันไมเคิล แจ็กสัน เป็นเพลงที่เก้าจากอัลบั้มสตูดิโอชุดที่เจ็ด "Bad" ออกจำหน่ายโดย อีพิกเรเคิดส์ เมื่อวันที่ 18 เมษายน ค.ศ. 1988 เป็นเพลงที่นำเสนอเสียงฮาร์ตเตอร์ร็อคคล้ายกับ "Beat It" จากอัลบั้ม Thriller (1982) และกีตาร์โซโล่ที่เล่นโดย สตีฟ สตีเวนส์ เพลงแต่งโดยไมเคิล แจ็กสัน โปรดิวซ์โดยควินซี โจนส์ร่วมกับแจ็กสัน เป็นเนื้อเพลงที่เกี่ยวกรุ๊ปปีส์ (groupies) "Dirty Diana" มีจังหวะปานกลางและมีการเล่นในคีย์ของ G มิเรอร์ "Dirty Diana" ได้รับการชื่นชมจากนักวิจารณ์ดนตรีร่วมสมัย เป็นเพลงที่ประสบความสำเร็จในเชิงพาณิชย์ทั่วโลกในปี ค.ศ. 1988 ขึ้นชาร์ตอันดับ 1 ของบิลบอร์ดฮอต 100 ในสหรัฐอเมริกา เพลงยังติดท็อป 10 ในหลายประเทศเช่น สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส อิตาลี และนิวซีแลนด์ ในปี 2009 หลังจากการเสียชีวิตของแจ็กสันในเดือนมิถุนายน เพลงได้กลับเข้ามาใหม่ในชาร์ตเนื่องจากยอดขายดาวน์โหลดดิจิทัล มิวสิกวิดีโอสำหรับเพลง "Dirty Diana" ได้รับการถ่ายทำต่อหน้าผู้ชมสดและเปิดตัวในปี.ศ 1988.

อนาเธอร์พาร์ตออฟมีและเดอร์ตีไดอานา · เดอร์ตีไดอานาและเลิฟเนเวอร์เฟลท์โซกูด · ดูเพิ่มเติม »

รายการด้านบนตอบคำถามต่อไปนี้

การเปรียบเทียบระหว่าง อนาเธอร์พาร์ตออฟมีและเลิฟเนเวอร์เฟลท์โซกูด

อนาเธอร์พาร์ตออฟมี มี 21 ความสัมพันธ์ขณะที่ เลิฟเนเวอร์เฟลท์โซกูด มี 49 ขณะที่พวกเขามีเหมือนกัน 4, ดัชนี Jaccard คือ 5.71% = 4 / (21 + 49)

การอ้างอิง

บทความนี้แสดงความสัมพันธ์ระหว่าง อนาเธอร์พาร์ตออฟมีและเลิฟเนเวอร์เฟลท์โซกูด หากต้องการเข้าถึงบทความแต่ละบทความที่ได้รับการรวบรวมข้อมูลโปรดไปที่:

Hey! เราอยู่ใน Facebook ตอนนี้! »