สมัยฟื้นฟูศิลปวิทยาในอิตาลีและอินเดกซ์ลิโบรรัมโพรฮิบิโทรัม
ทางลัด: ความแตกต่างความคล้ายคลึงกันค่าสัมประสิทธิ์การเปรียบเทียบ Jaccardการอ้างอิง
ความแตกต่างระหว่าง สมัยฟื้นฟูศิลปวิทยาในอิตาลีและอินเดกซ์ลิโบรรัมโพรฮิบิโทรัม
สมัยฟื้นฟูศิลปวิทยาในอิตาลี vs. อินเดกซ์ลิโบรรัมโพรฮิบิโทรัม
มัยฟื้นฟูศิลปวิทยาอิตาลี (ภาษาอังกฤษ: Italian Renaissance) เป็นจุดแรกของการเริ่มสมัยฟื้นฟูศิลปวิทยาซึ่งเป็นช่วงเวลาของความเจริญทางวัฒนธรรมที่สูงสุดในยุโรปที่เริ่มตั้งแต่ปลายคริสต์ศตวรรษที่ 13 ไปจนสิ้นสุดลงปลายคริสต์ศตวรรษที่ 16 ที่เป็นช่วงเวลาที่เชื่อมระหว่างยุคกลางของยุโรปกับยุโรปสมัยใหม่ตอนต้น (Early Modern Europe) คำว่า “เรอเนสซองซ์” เป็นคำสมัยใหม่ที่มาใช้กันในคริสต์ศตวรรษที่ 19 ในงานของนักประวัติศาสตร์เช่นเจคอป เบิร์คฮาร์ดท์ (Jacob Burckhardt) ที่มาของขบวนการฟื้นฟูศิลปวิทยาจะเริ่มจากการวิวัฒนาการทางวรรณกรรมของผู้ก่อตั้งในต้นคริสต์ศตวรรษที่ 14 แต่ วัฒนธรรมด้านอื่นๆของอิตาลีในขณะนั้นยังคงเป็นวัฒนธรรมของยุคกลาง ปรัชญาฟื้นฟูศิลปวิทยามิได้แพร่หลายอย่างเต็มที่จนกระทั่งปลายคริสต์ศตวรรษที่ 14 คำว่า “เรอเนสซองซ์” หรือ “Rinascimento” ในภาษาอิตาลีหมายความว่า “เกิดใหม่” และเป็นสมัยที่เป็นที่รู้จักกันดีที่สุดในการฟื้นฟูความสนใจในวัฒนธรรมของกรีกโรมันหลังจากสมัยที่นักมนุษย์วิทยาเรอเนสซองซ์ (Renaissance humanist) ตั้งชื่อว่ายุคมืด (Dark Ages) ความเปลี่ยนแปลงเหล่านี้เป็นความเปลี่ยนแปลงที่สำคัญแต่จำกัดอยู่แต่ในกลุ่มชนชั้นสูงและทิ้งให้ประชากรส่วนใหญ่ในยุโรปยังมีความเป็นอยู่ที่ไม่ต่างจากสมัยกลางที่ผ่านมา สมัยฟื้นฟูศิลปวิทยาของอิตาลีเริ่มในทัสเคนีโดยมีศูนย์กลางอยู่ที่ฟลอเรนซ์และเซียนา และต่อมาในเวนิสที่มีผลเป็นอันมาก เพราะงานต่างๆ ของกรีกโบราณถูกนำไปรวบรวมไว้ที่เวนิสซึ่งทำให้กลายเป็นแหล่งความรู้ต่างๆ ที่ใหม่ๆ ให้แก่นักมนุษยนิยม ผู้คงแก่เรียนในเวนิสในขณะนั้น ต่อมาปรัชญาฟื้นฟูศิลปวิทยาก็มามีอิทธิพลในกรุงโรม ที่ทำให้เกิดการสร้างสิ่งก่อสร้างใหม่ๆ มากมายที่ส่วนใหญ่โดยการอุปถัมภ์ของพระสันตปาปาในคริสต์ศตวรรษที่ 16 สมัยฟื้นฟูศิลปวิทยาของอิตาลีรุ่งเรืองที่สุดในปลายคริสต์ศตวรรษที่ 15 หลังจากนั้นก็ลดถอยลงหลังจากการรุกรานจากต่างประเทศที่ก่อสงครามในอิตาลี แต่การฟื้นฟูศิลปวิทยาของอิตาลีก็มิได้หยุดนิ่งลงแต่เผยแพร่ไปทั่วยุโรปและเริ่มสมัยฟื้นฟูศิลปวิทยาตอนเหนือของยุโรปและสมัยฟื้นฟูศิลปวิทยาอังกฤษและประเทศอื่นๆ ในยุโรป สมัยฟื้นฟูศิลปวิทยาของอิตาลีเป็นที่รู้จักกันดีที่สุดในความสำเร็จทางด้านวัฒนธรรม วรรณกรรมฟื้นฟูศิลปวิทยาของอิตาลีรวมนักมนุษยนิยมผู้มีชื่อเสียงเช่นเปตรากที่รู้จักกันดีในงานซอนเน็ต “Il Canzoniere”; จิโอวานนิ บอคคาซิโอ (Giovanni Boccaccio) ในงานเรื่องเล่า “Decameron” และนักมนุษย์วิทยาเรอเนสซองซ์เช่นโปลิซิอาโน (Poliziano), มาร์ซิลิโอ ฟิซิโน (Marsilio Ficino), โลเร็นโซ วาลลา (Lorenzo Valla), อัลโด มานูซิโอ (Aldo Manuzio), โพจจิโอ บราชชิโอลินิ (Poggio Bracciolini) นอกจากนั้นก็มีนักประพันธ์มหากาพย์เรอเนสซองซ์เช่นบัลดัสซาเร คาสติกลิโอเน (Baldassare Castiglione) (“The Book of the Courtier”), ลุโดวิโค อริโอสโต (Ludovico Ariosto) (“Orlando Furioso”) และทอร์ควาโท ทาสโซ (Torquato Tasso) (“Jerusalem Delivered”) และนักประพันธ์ร้อยแก้วเช่นนิคโคโล มาเคียเวลลี (“The Prince”) จิตรกรรมเรอเนสซองซ์อิตาลีเป็นจิตรกรรมที่มีอิทธิพลต่อจิตรกรรมตะวันตกต่อมาอีกหลายร้อยปี โดยมีจิตรกรเช่นไมเคิล แอนเจโล, ราฟาเอล, ซานโดร บอตติเชลลี, ทิเชียน และเลโอนาร์โด ดา วินชี และเช่นเดียวกันกับสถาปัตยกรรมฟื้นฟูศิลปวิทยา โดยมีสถาปนิกเช่นอันเดรอา ปัลลาดีโอ และงานเช่นมหาวิหารฟลอเรนซ์ และมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ในกรุงโรม ในขณะเดียวกันนักประวัติศาสตร์ในปัจจุบันเห็นว่าเป็นสมัยของความหดตัวทางเศรษฐกิจและความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ ซึ่งมามีความก้าวหน้ามากกว่าในวัฒนธรรมของโปรเตสแตนต์ในคริสต์ศตวรรษที่ 17. thumb อินเดกซ์ลิโบรรัมโพรฮิบิโทรัม (Index Librorum Prohibitorum; "รายชื่อหนังสือต้องห้าม") หรือเรียกโดยย่อว่า อินเดกซ์ (Index) เป็นบัญชีรายชื่อสิ่งพิมพ์ซึ่งไม่ผ่านการตรวจพิจารณาของพระศาสนจักรคาทอลิก อินเดกซ์ฉบับแรกพระสันตะปาปาพอลที่ 4 ทรงตราขึ้นในปี 1559 และมีการตราอีกหลายฉบับสืบเนื่องมาจนถึงปี 1948 ซึ่งเป็นฉบับที่ยี่สิบ แล้วมิได้ตราขึ้นอีกเลย กระทั่งพระสันตะปาปาพอลที่ 6 ทรงยกเลิกอินเดกซ์อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 1966 นับเวลาตั้งแต่ฉบับแรกถึงฉบับสุดท้ายได้ 407 ปี วัตถุประสงค์ของอินเดกซ์ คือ เพื่อพิทักษ์ความจงรักภักดีและศีลธรรมของเหล่าผู้มีศรัทธา โดยห้ามมิให้เขาเหล่านั้นอ่านหนังสือและงานที่ผิดคลองธรรมหรือมีเนื้อหาทางเทววิทยาคลาดเคลื่อน หนังสือที่ถูกระบุว่ามีลักษณะเช่นนั้น มักเป็นงานของนักดาราศาสตร์ชั้นนำ เช่น เรื่อง เอพิโทเมอัสโตรโนมิเอโคเพอร์นิเคียเน (Epitome astronomiae Copernicianae; "ตำราดาราศาสตร์อย่างย่อ") ของโจฮันเนส เคปเลอร์ (Johannes Kepler) ซึ่งขึ้นชื่ออยู่ในอินเดกซ์ตั้งแต่ปี 1621 ถึง 1835 รวมตลอดถึงคำแปลพระคริสตธรรมออกเป็นภาษาสามัญ อินเดกซ์หลาย ๆ ฉบับยังวางระเบียบควบคุมการอ่านและซื้อขายหนังสือ กับทั้งให้ฝ่ายศาสนจักรมีอำนาจตรวจพิจารณาหนังสือโดยไม่ต้องบอกกล่าวได้ด้วย การตราอินเดกซ์นับว่า เป็นจุดเปลี่ยนเสรีภาพแห่งการตรวจสอบในโลกคาลอลิก ผลงานวิทยาศาสตร์หลาย ๆ เรื่อง เช่น เรื่องดวงอาทิตย์เป็นศูนย์กลางจักรวาล (heliocentrism) นั้น แม้เคยใช้สั่งสอนกันในมหาวิทยาลัยคาทอลิกมายาวนาน ก็ถูกขึ้นไว้ในอินเดกซ์ และนักเขียนบางคนซึ่งถูกขึ้นผลงานไว้ในอินเดกซ์ต้องพบจุดจบอันโหดร้าย เป็นต้นว่า กีออร์ดาโน บรูโน (Giordano Bruno) บาทหลวงชาวอิตาลีซึ่งเที่ยวสั่งสอนมิจฉาทิฐิในทางสรรพเทวนิยม จนถูกพนักงานสอบสวนของพระศาสนจักรจับกุมส่งเจ้าหน้าที่บ้านเมือง ถูกขึ้นผลงานทุกเรื่องไว้ในอินเดกซ์ฉบับวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 1600 และถูกย่างสดคาตะแลงแกงในปีนั้นเอง แม้อินเดกซ์จะถูกยกเลิกไปสิ้นแล้ว แต่ประมวลกฎหมายพระศาสนจักร ซึ่งยังใช้บังคับอยู่ มีบรรพ 3 หน้าที่การสอนของพระศาสนจักร ลักษณะ 4 เครื่องมือสื่อสารมวลชนโดยเฉพาะหนังสือ มาตรา 827 บัญญัติว่า "ควร" ส่งงานเขียนเกี่ยวกับพระคริสตธรรม เทววิทยา กติกาสงฆ์ พงศาวดารสงฆ์ หรือที่จำเพาะเจาะจงว่าด้วยพระศาสนาหรือศีลธรรมอันดี ไปให้ผู้ใหญ่ผู้ทรงอำนาจ (Ordinary) แห่งท้องถิ่นนั้น ๆ ตรวจพิจารณาก่อน และมาตรา 830 ว่า ในการตรวจพิจารณาหนังสือ ให้ผู้ใหญ่ผู้ทรงอำนาจประชุมปรึกษากับบุคคลที่เห็นว่าจะให้คำวินิจฉัยได้ ถ้าบุคคลนั้นวินิจฉัยว่า "ไม่ขัดข้อง" (nihil obstat) ก็ให้ผู้ใหญ่ผู้ทรงอำนาจออกใบอนุญาตให้ตีพิมพ์ (imprimatur) ได้ นอกจากนี้ มาตรา 832 ยังว่า สมาชิกคณะนักพรต (religious institute) จะพิมพ์หนังสือเกี่ยวกับพระศาสนาหรือศีลธรรมอันดี ต้องได้รับคำอนุญาตให้ตีพิมพ์ (imprimi potest) จากเจ้าอธิการของตนก่อนด้วย อนึ่ง ผลงานหลาย ๆ เรื่องที่เคยต้องห้ามตามอินเดกซ์มาหลายร้อยปีก็ได้รับอนุญาตได้พิมพ์เผยแพร่ได้ในสมัยหลัง ๆ นี้ เช่น ผลงานของมาเรีย วัลตอร์ตา (Maria Valtorta) ซึ่งถูกขึ้นอยู่ในอินเดกซ์ตั้งแต่ปี 1959 ได้รับอนุญาตจากพระศาสนจักรให้ตีพิมพ์ได้เมื่อปี 2002 กับทั้งนักเขียนหลายคนซึ่งผลงานเคยต้องห้ามก็กลับได้รับการเชิดชูด้วย เช่น มารี ฟาอูสตีนา โควัลสกา (Mary Faustina Kowalska) ชีชาวรัสเซียซึ่งผลงานถูกขึ้นไว้ในอินเดกซ์ตั้งแต่ปี 1959 ได้รับการสถาปนาเป็นธรรมิกชนเมื่อปี 2000 และอันโตนิโอ รอสมีนี-เซอร์บาตี (Antonio Rosmini-Serbati) บรรพชิตชาวอิตาลีซึ่งผลงานถูกขึ้นไว้ในอินเดกซ์ตั้งแต่ปี 1849 ได้รับการสถาปนาเป็นบุญราศีเมื่อปี 2007 วงการดาราศาสตร์มองว่า พัฒนาการตั้งแต่ยกเลิกอินเดกซ์มานั้นบ่งบอกว่า "อินเดกซ์สิ้นความหมายไปในศตวรรษที่ 21 แล้ว".
ความคล้ายคลึงกันระหว่าง สมัยฟื้นฟูศิลปวิทยาในอิตาลีและอินเดกซ์ลิโบรรัมโพรฮิบิโทรัม
สมัยฟื้นฟูศิลปวิทยาในอิตาลีและอินเดกซ์ลิโบรรัมโพรฮิบิโทรัม มี 0 สิ่งที่เหมือนกัน (ใน ยูเนี่ยนพีเดีย)
รายการด้านบนตอบคำถามต่อไปนี้
- สิ่งที่ สมัยฟื้นฟูศิลปวิทยาในอิตาลีและอินเดกซ์ลิโบรรัมโพรฮิบิโทรัม มีเหมือนกัน
- อะไรคือความคล้ายคลึงกันระหว่าง สมัยฟื้นฟูศิลปวิทยาในอิตาลีและอินเดกซ์ลิโบรรัมโพรฮิบิโทรัม
การเปรียบเทียบระหว่าง สมัยฟื้นฟูศิลปวิทยาในอิตาลีและอินเดกซ์ลิโบรรัมโพรฮิบิโทรัม
สมัยฟื้นฟูศิลปวิทยาในอิตาลี มี 45 ความสัมพันธ์ขณะที่ อินเดกซ์ลิโบรรัมโพรฮิบิโทรัม มี 13 ขณะที่พวกเขามีเหมือนกัน 0, ดัชนี Jaccard คือ 0.00% = 0 / (45 + 13)
การอ้างอิง
บทความนี้แสดงความสัมพันธ์ระหว่าง สมัยฟื้นฟูศิลปวิทยาในอิตาลีและอินเดกซ์ลิโบรรัมโพรฮิบิโทรัม หากต้องการเข้าถึงบทความแต่ละบทความที่ได้รับการรวบรวมข้อมูลโปรดไปที่: