วินสตัน เชอร์ชิลและเดอ ฮาวิลแลนด์ คอเม็ท
ทางลัด: ความแตกต่างความคล้ายคลึงกันค่าสัมประสิทธิ์การเปรียบเทียบ Jaccardการอ้างอิง
ความแตกต่างระหว่าง วินสตัน เชอร์ชิลและเดอ ฮาวิลแลนด์ คอเม็ท
วินสตัน เชอร์ชิล vs. เดอ ฮาวิลแลนด์ คอเม็ท
ซอร์วินสตัน ลีโอนาร์ด สเปนเซอร์-เชอร์ชิล (Winston Leonard Spencer-Churchill) เป็นรัฐบุรุษชาวอังกฤษผู้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีแห่งสหราชอาณาจักรสองสมัย ระหว่างปี 1940 ถึง 1945 และปี 1951 ถึง 1955 ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางว่าเป็นผู้นำที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในยุคสงครามของศตวรรษที่ 20 นอกจากนี้ วินสตันยังเป็นทหารในกองทัพอังกฤษ, นักประวัติศาสตร์, นักเขียน, ตลอดจนศิลปิน เขาได้รับรางวัลโนเบลสาขาอักษรศาสตร์ และยังเป็นบุคคลแรกที่ได้เป็น พลเมืองเกียรติยศแห่งสหรัฐอเมริกา ผู้คนมักนิยมเรียกเขาด้วยชื่อ "วินสตัน" แทนที่จะเรียกด้วยนามสกุล วินสตันเกิดในตระกูลชนชั้นสูงที่สืบเชื้อสายมาจากดยุกแห่งมาร์ลบะระ สาขาหนึ่งของตระกูลสเปนเซอร์ บิดาของเขาคือ ลอร์ดรันดอล์ฟ เชอร์ชิล นักการเมืองผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีคลัง ส่วนมารดาของเขาคือ เจนนี จีโรม นักสังคมสงเคราะห์ชาวอเมริกัน ในขณะที่ยังเป็นทหารหนุ่ม เขาได้ปฏิบัติภารกิจในบริติชอินเดีย และซูดาน และในสงครามโบเออร์ครั้งที่สอง เขามีชื่อเสียงขึ้นมาจากการเป็นนักข่าวสงครามและเขียนหนังสือเกี่ยวกับปฏิบัติการของเขา เขาเป็นผู้มีบทบาททางการเมืองแถวหน้ามาตลอดห้าสิบปี ได้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองและตำแหน่งในคณะรัฐมนตรีมากมาย ก่อนสงครามโลกครั้งที่หนึ่งเขาเป็นหัวหน้ากรรมการการค้า, รัฐมนตรีปิตุภูมิ, และรัฐมนตรียุติธรรม ระหว่างสงคราม เขายังคงดำรงตำแหน่งรัฐมนตรียุติธรรม จนกระทั่งความพ่ายแพ้ของอังกฤษในการทัพกัลลิโพลี ทำให้เขาต้องออกจากคณะรัฐบาลและไปประจำการราชการทหารอยู่ที่แนวหน้าภาคตะวันตกในตำแหน่งผู้บัญชาการกองพันลูกเสือที่ 6 จนกระทั่งเขาได้กลับคืนคณะรัฐบาลในตำแหน่งรัฐมนตรียุทธภัณฑ์ รัฐมนตรีว่าการสงคราม และ รัฐมนตรีน่านฟ้า และในปี 1921-1922 เป็นรัฐมนตรีว่าการอาณานิคม และต่อมาในปี 1924-1929 เป็นรัฐมนตรีคลังหลวง โดยเขาได้กำหนดให้สกุลเงินปอนด์กลับไปอิงค่าทองคำเหมือนกับยุคก่อนสงคราม ซึ่งทำให้เกิดภาวะเงินฝืดแพร่ไปทั้งเศรษฐกิจของสหราชอาณาจักร ภายหลังห่างหายจากงานการเมืองไปในทศวรรษที่ 1930 วินสตันก็ได้กลับมาทำงานการเมืองอีกครั้งเมื่อนาซีเยอรมนีเริ่มที่จะสั่งสมกำลังทหารและดูจะเป็นภัยคุกคามต่ออังกฤษ และแล้วการอุบัติขึ้นอย่างฉับพลันของสงครามโลกครั้งที่สอง ก็ทำให้เขาได้รับแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรียุติธรรมอีกครั้ง และภายหลังการลาออกของนายกรัฐมนตรี เนวิล เชมเบอร์ลิน ในวันที่ 10 พฤษภาคม 1940 วินสตันก็กลายเป็นนายกรัฐมนตรี คำประกาศหนักแน่นของเขาที่จะไม่เป็นผู้ยอมแพ้ได้ช่วยกระตุ้นให้ชาวอังกฤษหันมาต่อต้านนาซีเยอรมนี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงต้นสงครามซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ยากเย็นเมื่อสหราชอาณาจักรและอาณานิคมอังกฤษเป็นเพียงฝ่ายเดียวที่ลุกขึ้นอยู่ฝ่ายตรงข้ามกับอดอล์ฟ ฮิตเลอร์ วินสตันได้กล่าวสุนทรพจน์ของเขาผ่านวิทยุกระจายเสียงปลุกขวัญกำลังใจชาวอังกฤษ เขาเป็นผู้นำของอังกฤษไปจนกระทั่งสามารถมีชัยเหนือนาซีเยอรมนีได้ แต่ทว่าการได้รับชัยชนะมาต้องแลกกับการสูญเสียการเป็นอภิมหาอำนาจของโลกให้กับสหรัฐอเมริกาไป เหล่าประเทศอาณานิคมที่ยึดครองได้แก่ อินเดีย มาเลเซีย พม่า เป็นต้นต่างก็ได้เรียกร้องเอกราชจนจำใจต้องยอมเป็นเหตุทำให้จักรวรรดิอังกฤษล่มสลายและกลายเป็นเครือจักรภพแห่งชาติแทน ภายหลังพรรคอนุรักษนิยมพ่ายการเลือกตั้งในปี 1945 เขาก็ทำหน้าที่เป็นผู้นำฝ่ายค้านต่อรัฐบาลพรรคแรงงาน เขาได้ออกมาเตือนอย่างเปิดเผยถึงอิทธิพลของโซเวียตในยุโรปผ่านมาตรการ "ม่านเหล็ก" และยังส่งเสริมความเป็นหนึ่งเดียวของยุโรป ภายหลังชนะเลือกตั้งในปี 1951 วินสตันก็กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง ในช่วงการดำรงตำแหน่งครั้งที่สองนี้ รัฐบาลของเขาเต็มไปด้วยข้อราชการต่างประเทศ ทั้งวิกฤตการณ์มาลายา, กบฎมาอูมาอูในเคนยา, สงครามเกาหลี ตลอดจนสนับสนุนการรัฐประหารในอิหร่าน ในปี 1953 เขาเริ่มเจ็บป่วยจากภาวะขาดเลือดในสมอง และลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในปี 1955 แต่เขายังคงเป็นสมาชิกสภาสามัญชนไปจนถึงปี 1964 วินสตันถึงแก่อสัญกรรมด้วยวัย 90 ปีในปี 1965 โดยสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 พระราชทานรัฐพิธีศพให้เป็นเกียรติ เขายังคงได้รับการกล่าวถึงว่าเป็นหนึ่งในกลุ่มคนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ชาติอังกฤษ ชื่อของเขาอยู่ในลำดับที่ 1 ของทำเนียบชาวอังกฤษผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาลจากการจัดอันดับในปี 2002. อ ฮาวิลแลนด์ คอเม็ท เดอ ฮาวิลแลนด์ คอเม็ท (de Havilland Comet) เป็นเครื่องบินเจ็ทโดยสารรุ่นแรกของโลก ผลิตและพัฒนาโดยบริษัท เดอ ฮาวิลแลนด์ จำกัด ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ที่สหราชอาณาจักร ขึ้นบินครั้งแรกใน พ.ศ. 2492 เป็นสัญลักษณ์ของความก้าวหน้าทางการบินของสหราชอาณาจักร เครื่องบินเจ็ท สามารถบินได้สูงกว่า 10 กิโลเมตร และบินได้เร็วเกือบ 1000 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ต่างจากเครื่องบินใบพัดรุ่นแรกหรือเรือเหาะที่ไม่สามารถบินสูงและเร็วได้เท่านั้น จึงเป็นการเปิดศักราชใหม่ของเครื่องบินที่รวดเร็ว ข้ามน้ำข้ามทะเลได้ในไม่กี่ชั่วโมง จึงได้รับความนิยมสูง มีการนำไปใช้ในหลายวงการ ในหลายประเทศ แต่ทว่า หลังจากนั้นก็ได้มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นกับคอเม็ท คือ การระเบิดกลางอากาศ ซึ่งภายหลังได้มีการตรวจพบว่า มีสาเหตุมาจากการออกแบบที่ไม่สามารถทนต่อแรงดันอากาศได้มากพอ คอเม็ทจึงเริ่มถูกปลดออก เครื่องบินรุ่นคอเม็ท ขึ้นบินครั้งแรกในวันที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2492 เมื่อทดสอบแล้วว่าบินได้จริง ก็ถูกสั่งซื้อจากสายการบินจำนวนมาก เช่น จาก British Overseas Airways Corporation หรือ BOAC และเปิดบริการแก่ประชาชนจริงใน พ.ศ. 2495.
ความคล้ายคลึงกันระหว่าง วินสตัน เชอร์ชิลและเดอ ฮาวิลแลนด์ คอเม็ท
วินสตัน เชอร์ชิลและเดอ ฮาวิลแลนด์ คอเม็ท มี 1 สิ่งที่เหมือนกัน (ใน ยูเนี่ยนพีเดีย): พ.ศ. 2492
รายการด้านบนตอบคำถามต่อไปนี้
- สิ่งที่ วินสตัน เชอร์ชิลและเดอ ฮาวิลแลนด์ คอเม็ท มีเหมือนกัน
- อะไรคือความคล้ายคลึงกันระหว่าง วินสตัน เชอร์ชิลและเดอ ฮาวิลแลนด์ คอเม็ท
การเปรียบเทียบระหว่าง วินสตัน เชอร์ชิลและเดอ ฮาวิลแลนด์ คอเม็ท
วินสตัน เชอร์ชิล มี 58 ความสัมพันธ์ขณะที่ เดอ ฮาวิลแลนด์ คอเม็ท มี 9 ขณะที่พวกเขามีเหมือนกัน 1, ดัชนี Jaccard คือ 1.49% = 1 / (58 + 9)
การอ้างอิง
บทความนี้แสดงความสัมพันธ์ระหว่าง วินสตัน เชอร์ชิลและเดอ ฮาวิลแลนด์ คอเม็ท หากต้องการเข้าถึงบทความแต่ละบทความที่ได้รับการรวบรวมข้อมูลโปรดไปที่: