โลโก้
ยูเนี่ยนพีเดีย
การสื่อสาร
ดาวน์โหลดได้จาก Google Play
ใหม่! ดาวน์โหลด ยูเนี่ยนพีเดีย บน Android ™ของคุณ!
ฟรี
เร็วกว่าเบราว์เซอร์!
 

มาสด้า คาเพลลาและแดวู เลกันซา

ทางลัด: ความแตกต่างความคล้ายคลึงกันค่าสัมประสิทธิ์การเปรียบเทียบ Jaccardการอ้างอิง

ความแตกต่างระหว่าง มาสด้า คาเพลลาและแดวู เลกันซา

มาสด้า คาเพลลา vs. แดวู เลกันซา

มาสด้า คาเพลลา (Mazda Capella) เป็นรถยนต์นั่งขนาดกลาง (Mid-Size Car) ที่ผลิตโดย มาสด้า ผู้ผลิตรถยนต์จากประเทศญี่ปุ่น เริ่มการผลิตในปี พ.ศ. 2513 ขายในประเทศญี่ปุ่นภายใต้ชื่อ มาสด้า คาเพลลา และในต่างประเทศ รวมถึงประเทศไทยจะใช้ชื่อที่เป็นตัวเลข (ซึ่งก็ตามปกติที่รถยนต์ของมาสด้าในตลาดโลกหลายรุ่นจะขายโดยใช้ตัวเลข เช่น Demio. แดวู เลกันซา (Daewoo Leganza) เป็นรถยนต์นั่งขนาดกลาง (Mid-Size Car) รุ่นที่ 2 ของแดวู เรื่มผลิตในปี พ.ศ. 2540 และเลิกผลิตในปี พ.ศ. 2545 ใช้รหัสว่า V100 ชื่อ Leganza นั้นมาจากคำภาษาอิตาลี 2 คำ คือ Elegante และ Forza ซึ่งทั้ง 2 คำแปลว่า หรูหราและอำนาจ เมื่อมารวมกัน Leganza จึงหมายถึง อำนาจแห่งความหรูหรา แดวูจึงออกแบบเลกันซามาให้มีความหรูหราตามยุคสมัยพอสมควร เพื่อทดแทนรุ่นเก่าอย่าง แดวู เอสเปอโร (Daewoo Espero) ออกแบบโดย จิโอเจ็ตโต จิวเจียโร เช่นเดียวกับรุ่นพี่น้อง ซึ่งก็คือแดวู ลาโนสและแดวู นิวบีรา ซึ่งใช้รหัส T100 และ J100 ตามลำดับ แดวู เลกันซา มีตัวถัง 1 แบบคือซีดาน 4 ประตู ใช้ระบบขับเคลื่อนล้อหน้า มีเครื่องยนต์ 2.0 และ 2.2 ลิตร ใช้เกียร์ธรรมดา 5 สปีดและเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด ระยะฐานล้อ 2,670 มม.

ความคล้ายคลึงกันระหว่าง มาสด้า คาเพลลาและแดวู เลกันซา

มาสด้า คาเพลลาและแดวู เลกันซา มี 18 สิ่งที่เหมือนกัน (ใน ยูเนี่ยนพีเดีย): ฟอร์ด มอนดิโอพ.ศ. 2540พ.ศ. 2545มิตซูบิชิ กาแลนต์อีซูซุ อาสก้าฮอนด้า แอคคอร์ดฮุนได โซนาต้าซูบารุ เลกาซีซูซูกิ คิซาชิประเภทของรถยนต์ประเทศไทยนิสสัน เทียน่านิสสัน เซฟิโร่แดวู เอสเปอโรโอเปิล เวคตร้าโตโยต้า คัมรี่โตโยต้า โคโรน่าเปอโยต์ 406

ฟอร์ด มอนดิโอ

ฟอร์ด มอนดิโอ (Ford Mondeo) เป็นรถยนต์นั่งขนาดกลางที่ผลิตโดยบริษัทฟอร์ดมอเตอร์ เริ่มผลิตตั้งแต่ พ.ศ. 2535 และมีจำหน่ายอยู่ทั่วโลก โดยมาแทนที่รถยนต์นั่งขนาดกลางรุ่นเก่า ฟอร์ด เซียรา (Ford Sierra) ซึ่งเลิกผลิตในปี พ.ศ. 2535 คำว่า "Mondeo" มาจากภาษาละตินที่แปลว่า โลก ฟอร์ด มอนดิโอ เป็นรถยนต์นั่งขนาดกลางที่ผลิตขึ้นสำหรับตลาดยุโรปเท่านั้น แต่เคยมีขายในตลาดเอเชีย รวมถึงประเทศไทย ซึ่งฟอร์ด มอนดิโอเคยมีขายในประเทศไทยเมื่อปี พ.ศ. 2537-2542 แต่ไม่ค่อยได้รับความนิยมมากนัก ฟอร์ด มอนดิโอ มีวิวัฒนาการตามช่วงเวลาได้ 5 Generation (รุ่น) ดังนี้.

ฟอร์ด มอนดิโอและมาสด้า คาเพลลา · ฟอร์ด มอนดิโอและแดวู เลกันซา · ดูเพิ่มเติม »

พ.ศ. 2540

ทธศักราช 2540 ตรงกับปีคริสต์ศักราช 1997 เป็นปีปกติสุรทินที่วันแรกเป็นวันพุธตามปฏิทินเกรกอเรียน.

พ.ศ. 2540และมาสด้า คาเพลลา · พ.ศ. 2540และแดวู เลกันซา · ดูเพิ่มเติม »

พ.ศ. 2545

ทธศักราช 2545 V 2002 ตรงกับปีคริสต์ศักราช 2002 เป็นปีปกติสุรทินที่วันแรกเป็นวันอังคารตามปฏิทินเกรกอเรียน.

พ.ศ. 2545และมาสด้า คาเพลลา · พ.ศ. 2545และแดวู เลกันซา · ดูเพิ่มเติม »

มิตซูบิชิ กาแลนต์

มิตซูบิชิ กาแลนต์ (Mitsubishi Galant) เป็นรถยนต์ขนาดครอบครัว ผลิตโดย มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ตั้งแต่ พ.ศ. 2512 ถึง พ.ศ. 2555 โดยแบ่งวิวัฒนาการออกเป็น 9 เจเนอเรชัน(โฉม) โดยกาแลนต์โฉมที่ 1-7 จัดเป็นรถยนต์นั่งขนาดเล็ก (Compact Car) แต่กาแลนต์โฉมที่ 8 เป็นต้นมา จัดเป็นรถยนต์นั่งขนาดกลาง (Mid-size Car) และเมื่อพิจารณาแล้ว กาแลนต์ ถือเป็นรถรุ่นที่เทียบได้ใกล้เคียงกับ ฮอนด้า แอคคอร์ด และ โตโยต้า คัมรี่ มาก มิตซูบิชิ กาแลนต์ได้เคยนำมาขายในประเทศไทยในช่วงหนึ่งโดยบริษัทมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย โดยเป็นรถขนาดใกล้เคียงกับโตโยต้า โคโรน่า,ฮอนด้า แอคคอร์ด,นิสสัน เซฟิโร่ และมาสด้า 626 เริ่มจำหน่ายตั้งแต่ปี พ.ศ. 2515 จนถึงยุควิกฤติเศรษฐกิจของประเทศไทยทำให้หลายยี่ห้อซึ่งมีรถขนาดกลางมาทำตลาดต้องเลิกทำตลาดไป เช่น ฟอร์ด มาสด้า รวมถึงมิตซูบิชิเองด้วยโดยไม่มีทีท่าที่จะนำรถประเภทนี้มาขายกันง่ายๆ และยังไม่นับรวมผู้ผลิตรายเล็กๆ ที่นำรถขนาดกลางมาทำตลาดในประเทศไทยแบบ Niche Market ในปัจจุบันเช่น เปอโยต์ ฮุนได สโกด้า ซูบารุ โฟล์กสวาเกน เป็นต้น โดยกาแลนต์โฉมต่าง ๆ มีลักษณะและประวัติโดยสังเขปดังนี้.

มาสด้า คาเพลลาและมิตซูบิชิ กาแลนต์ · มิตซูบิชิ กาแลนต์และแดวู เลกันซา · ดูเพิ่มเติม »

อีซูซุ อาสก้า

อีซูซุ อาสก้า (Isuzu Aska) เป็นรถยนต์นั่งขนาดกลาง (Mid-Size Car) ที่ผลิตโดยอีซูซุ เริ่มการผลิตในปี พ.ศ. 2526 โดยใช้แพลตฟอร์มร่วมกับซูบารุ เลกาซี และฮอนด้า แอคคอร์ดตามลำดับ ออกมาเพื่อทดแทนอีซูซุ ฟลอเรี่ยน (Isuzu Florian) ที่ยุติการผลิตไปเมื่อปี พ.ศ. 2526 และอาสก้าได้เลิกผลิตและวางจำหน่ายเมื่อปี พ.ศ. 2545 โดยไม่มีรถรุ่นใหม่เข้ามาทดแทน เนื่องจากอีซูซุเลิกทำตลาดรถยนต์นั่งอย่างถาวรแล้ว โดยเลิกผลิตรถยนต์นั่งด้วยตนเองตั้งแต่ปี พ.ศ. 2535 เนื่องจากการขาดทุนสะสมต่อเนื่อง และหลังจากนั้นก็มีการพึ่งพาฮอนด้าให้ผลิตรถยนต์นั่งขายมาโดยตลอด และอีซูซุก็ได้ส่งรถเอนกประสงค์และรถกระบะไปให้ฮอนด้าขายเช่นเดียวกัน จนในปัจจุบัน ความร่วมมือระหว่างอีซูซุกับฮอนด้าได้สิ้นสุดลงแล้ว.

มาสด้า คาเพลลาและอีซูซุ อาสก้า · อีซูซุ อาสก้าและแดวู เลกันซา · ดูเพิ่มเติม »

ฮอนด้า แอคคอร์ด

อนด้า แอคคอร์ด (Honda Accord) เป็นรถซีดานขนาดกลางที่ผลิตและพัฒนาโดยบริษัทฮอนด้า ได้เริ่มต้นสายการผลิตในปี พ.ศ. 2519 ในประเทศญี่ปุ่น โดยเครื่องที่ออกมาตัวแรกคือเครื่อง 1600 ซีซี ซึ่งนับเป็นรถขนาดกลาง โดยรูปทรงที่ออกมามีลักษณะใกล้เคียงกับ ฮอนด้า ซีวิคในรุ่นเดียวกัน ในช่วงที่แอคคอร์ดถูกออกแบบมาใหม่ๆ แอคคอร์ดนั้นถูกกำหนดให้ใช้เครื่องยนต์ 6 สูบโดยเฉพาะ ซึ่งกำหนดให้สภาพเครื่องยนต์แตกต่างจากซีวิค แต่เนื่องจากเหตุการณ์วิกฤติเศรษฐกิจ และภาวะน้ำมันแพงในระยะต่อมา ทางฮอนด้าได้มีการปรับเปลี่ยนระบบต่างๆ รวมทั้งเครื่องยนต์ โดยได้ปรับปรุงและพัฒนาออกมาเป็น 2 รุ่นหลักอย่างที่เห็นในปัจจุบัน คือ รุ่นที่ใช้เครื่องยนต์ 4 สูบ และรุ่นที่ใช้เครื่องยนต์ 6 สูบ แต่นับจากรุ่นที่สิบ ฮอนด้าแอคคอร์ดจะไม่ใช้เครื่องยนต์ 6 สูบอีกต่อไปและจะใช้เครื่องยนต์ 2 ลิตรเทอร์โบทำตลาดแทน นอกจากแบ่งตามขนาดแล้ว ยังแบ่งตามลักษณะของเกียร์เหมือนรถยนต์ทั่วๆ ไป คือ เกียร์ธรรมดา และเกียร์อัตโนมัติ ฮอนด้า แอคคอร์ด โฉมที่ 1-4 จัดอยู่ในประเภทรถยนต์ขนาดเล็ก, โฉมที่ 5-9 จัดอยู่ในประเภทรถยนต์ขนาดกลาง (ยกเว้นโฉมที่ 8 เฉพาะตัวถังแบบ Sedan ที่มีมูนรูฟ จัดอยู่ในประเภทรถยนต์ขนาดใหญ่).

มาสด้า คาเพลลาและฮอนด้า แอคคอร์ด · ฮอนด้า แอคคอร์ดและแดวู เลกันซา · ดูเพิ่มเติม »

ฮุนได โซนาต้า

นได โซนาต้า (Hyundai Sonata) เป็นรถยนต์นั่งขนาดกลาง (Mid-Size Car) ผลิตโดยฮุนได เริ่มผลิตในปี พ.ศ. 2528 เพื่อทดแทนรุ่นเก่า ฮุนได สเทลลา (Hyundai Stella) โดยปัจจุบัน ฮุนได โซนาต้า มีวิวัฒนาการตามช่วงเวลาได้ 6 Generation (รุ่น) ดังนี้.

มาสด้า คาเพลลาและฮุนได โซนาต้า · ฮุนได โซนาต้าและแดวู เลกันซา · ดูเพิ่มเติม »

ซูบารุ เลกาซี

ซูบารุ เลกาซี (Subaru Legacy) เป็นรถยนต์นั่งขนาดกลาง และเป็นรถธง ของค่ายรถยนต์ซูบารุ จากประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเดิมนั้น ซูบารุออกแบบให้เลกาซีเป็นรถยนต์ขนาดกลางทั่วๆ ไป เพื่อต้องการแข่งขันกับ ฮอนด้า แอคคอร์ด และ โตโยต้า คัมรี่ แต่ต่อมาได้มีการออกแบบเลกาซีรุ่นพิเศษ โดยที่จะเน้นสมรรถนะให้สูงกว่ารถยนต์ขนาดกลางรุ่นอื่นๆ เช่น ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ เครื่องยนต์เทอร์โบ บ็อกเซอร์สูบนอน ฯลฯ ปรากฏว่า เลกาซีรุ่นพิเศษนั้น ถูกนำไปเปรียบเทียบว่ามีความใกล้เคียงกับรถยนต์นั่งประเภทหรูหราระดับต้น หลายรุ่น เช่น เอาดี้ เอ4, อัลฟา โรเมโอ 159 และ บีเอ็มดับเบิลยู 3 ซีรีส์ ในเรื่องต่างๆ ดังนั้น การออกแบบเลกาซีทำให้ซูบารุได้รับการยอมรับและชื่นชมอย่างกว้างขวาง เมื่อซูบารุนำพื้นฐานการออกแบบของเลกาซี ไปออกแบบรถรุ่นใหม่หลายรุ่น เช่น Tribeca และ Outback ก็สามารถประสบความสำเร็จไม่น้อย รวมกับการที่รถรุ่นอื่นๆ ของซูบารุ จะเน้นไปที่การผลิตรถยนต์ขนาดเล็ก ทำให้เลกาซี ได้เป็นรถธง ของซูบารุ ที่ประสบความสำเร็จในวงกว้าง เลกาซี มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องจากรุ่นแรกถึงปัจจุบัน แบ่งได้ 5 รุ่น ดังนี้.

ซูบารุ เลกาซีและมาสด้า คาเพลลา · ซูบารุ เลกาซีและแดวู เลกันซา · ดูเพิ่มเติม »

ซูซูกิ คิซาชิ

ซูซูกิ คิซาชิ (Suzuki Kizashi) เป็นรถยนต์นั่งขนาดกลาง (Mid-Size Car) ที่ผลิตโดยซูซูกิ เมื่อปี พ.ศ. 2552 ซูซูกิ คิซาชิ เป็นรถยนต์นั่งขนาดกลางรุ่นแรกของซูซูกิที่ซูซูกิพัฒนาด้วยตนเอง เนื่องจากในช่วงก่อนหน้านั้น ซูซูกิ มีรถขนาดกลางอยู่แล้วรุ่นหนึ่ง คือ ซูซูกิ เวโรน่า (Suzuki Verona) ซึ่งเป็นรถที่แลกเปลี่ยนกับแดวู มอเตอร์สผลิตในช่วงปี พ.ศ. 2547-2549 ในตลาดอเมริกา ซึ่งไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร แต่เนื่องจากในขณะนั้นซูซูกิต้องการขยายไลน์รถยนต์เพิ่มให้ครบทุกความต้องการ ซึ่งเป็นความหวังของซูซูกิ มอเตอร์เช่นกัน ซูซูกิ คิซาชิ เป็นรถยนต์ที่มีชื่อแปลเป็นภาษาไทยได้ว่า โหมโรง เช่นเดียวกับคำว่า Prelude ซึ่งเป็นชื่อรถสปอร์ตรุ่นหนึ่งของฮอนด้า มีฐานการประกอบอยู่ที่ชิซุโอะกะ ประเทศญี่ปุ่น เริ่มจำหน่ายครั้งแรกในสหรัฐอเมริกาวันที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2552 และหยุดการจำหน่ายในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2555 เริ่มจำหน่ายในญี่ปุ่นวันที่ 21 ตุลาคม..

ซูซูกิ คิซาชิและมาสด้า คาเพลลา · ซูซูกิ คิซาชิและแดวู เลกันซา · ดูเพิ่มเติม »

ประเภทของรถยนต์

รถยนต์สามารถจำแนกได้เป็นหลายประเภท ซึ่งมีชื่อเรียกดังต่อไปนี้.

ประเภทของรถยนต์และมาสด้า คาเพลลา · ประเภทของรถยนต์และแดวู เลกันซา · ดูเพิ่มเติม »

ประเทศไทย

ประเทศไทย มีชื่ออย่างเป็นทางราชการว่า ราชอาณาจักรไทย เป็นรัฐชาติอันตั้งอยู่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เดิมมีชื่อว่า "สยาม" รัฐบาลประกาศเปลี่ยนชื่อเป็นประเทศไทยอย่างเป็นทางการตั้งแต่ปี 2482 ประเทศไทยมีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่ 50 ของโลก มีเนื้อที่ 513,115 ตารางกิโลเมตร และมีประชากรมากเป็นอันดับที่ 20 ของโลก คือ ประมาณ 66 ล้านคน กรุงเทพมหานครเป็นศูนย์กลางการบริหารราชการแผ่นดินและนครใหญ่สุดของประเทศ และการปกครองส่วนภูมิภาค จัดระเบียบเป็น 76 จังหวัด แม้จะมีการสถาปนาระบอบราชาธิปไตยภายใต้รัฐธรรมนูญและประชาธิปไตยระบบรัฐสภาในปี 2475 แต่กองทัพยังมีบทบาทในการเมืองไทยสูง ล่าสุด เกิดรัฐประหารเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 และมีการปกครองแบบเผด็จการทหารนับแต่นั้น พบหลักฐานการอยู่อาศัยอย่างต่อเนื่องในอาณาเขตประเทศไทยปัจจุบันตั้งแต่ 20,000 ปีก่อนคริสตกาล ชาวไทเริ่มอพยพเข้าสู่บริเวณนี้ในคริสต์ศตวรรษที่ 11 แล้วเข้ามาตั้งแว่นแคว้นต่าง ๆ ที่สำคัญได้แก่ อาณาจักรสุโขทัย อาณาจักรล้านนาและอาณาจักรอยุธยา นักประวัติศาสตร์มักถือว่าอาณาจักรสุโขทัยเป็นจุดเริ่มต้นของประวัติศาสตร์ไทย ต่อมาอาณาจักรอยุธยาค่อย ๆ เรืองอำนาจมากขึ้นจนเป็นมหาอำนาจในภูมิภาคในปลายคริสต์ศตวรรษที่ 14 การติดต่อกับชาติตะวันตกเริ่มด้วยผู้แทนทางทูตชาวโปรตุเกสในปี 2054 อาณาจักรรุ่งเรืองอย่างมากในรัชกาลสมเด็จพระนารายณ์มหาราช (ครองราชย์ปี 2199–2231) แต่หลังจากนั้นค่อย ๆ เสื่อมอำนาจโดยมีสาเหตุส่วนหนึ่งจากการผลัดแผ่นดินที่มีการนองเลือดหลายรัชกาล จนสุดท้ายกรุงศรีอยุธยาถูกทำลายสิ้นเชิงในปี 2310 สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีทรงรวบรวมแผ่นดินที่แตกออกเป็นก๊กต่าง ๆ และสถาปนาอาณาจักรธนบุรีที่มีอายุ 15 ปี ความวุ่นวายในช่วงปลายอาณาจักรนำไปสู่การสำเร็จโทษพระองค์โดยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ปฐมราชวงศ์จักรีแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ช่วงต้นกรุงรัตนโกสินทร์ ประเทศเผชิญภัยคุกคามจากชาติใกล้เคียง แต่หลังรัชกาลพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเป็นต้นมา ชาติตะวันตกเริ่มมีอิทธิพลในภูมิภาคเป็นอย่างมาก นำไปสู่การเข้าเป็นภาคีแห่งสนธิสัญญาไม่เป็นธรรมหลายฉบับ กระนั้น สยามไม่ตกเป็นอาณานิคมของตะวันตกชาติใด มีการปรับให้สยามทันสมัยและรวมอำนาจปกครองในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (ครองราชย์ปี 2411–53) สยามเข้าร่วมกับฝ่ายสัมพันธมิตรในสงครามโลกครั้งที่หนึ่งในปี 2460; ในปี 2475 เกิดการปฏิวัติเปลี่ยนแปลงการปกครองสู่ระบอบราชาธิปไตยภายใต้รัฐธรรมนูญโดยไม่เสียเลือดเนื้อ คณะราษฎรมีบทบาทนำทางการเมือง และในพุทธทศวรรษ 2480 นายกรัฐมนตรี จอมพล แปลก พิบูลสงคราม ดำเนินนโยบายชาตินิยมเข้มข้น ระหว่างสงครามโลกครั้งที่สอง ไทยเข้ากับฝ่ายอักษะ แต่ฝ่ายสัมพันธมิตรส่วนใหญ่ไม่ยอมรับการประกาศสงคราม ในช่วงสงครามเย็น ประเทศไทยเป็นพันธมิตรกับสหรัฐซึ่งสนับสนุนรัฐบาลทหารมาก รัฐประหารที่มีจอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์เป็นหัวหน้าคณะในปี 2500 ทำให้คณะราษฎรหมดอำนาจ รัฐบาลฟื้นฟูพระราชอำนาจและมีมาตรการต่อต้านคอมมิวนิสต์ในภูมิภาค ผลของเหตุการณ์ 14 ตุลา 2516 ทำให้เกิดประชาธิปไตยระบบรัฐสภาช่วงสั้น ๆ ประเทศไทยมีนายกรัฐมนตรีจากการเลือกตั้งครั้งแรกในปี 2531 หลังพุทธทศวรรษ 2540 มีวิกฤตการเมืองระหว่างฝ่ายที่สนับสนุนและต่อต้านอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตรมาจนปัจจุบัน รวมทั้งเกิดรัฐประหารสองครั้ง โดยครั้งล่าสุดเกิดในปี 2557 รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันเป็นฉบับที่ 20 ประกาศใช้เมื่อวันที่ 6 เมษายน 2560 หลังมีการลงประชามติรับร่างเมื่อหนึ่งปีก่อน ประเทศไทยเป็นสมาชิกสหประชาชาติ เอเปก อีกทั้งเป็นร่วมผู้ก่อตั้งอาเซียน ประเทศไทยเป็นพันธมิตรของสหรัฐตั้งแต่สนธิสัญญาซีโต้ในปี 2497 ถือเป็นประเทศอำนาจนำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และประเทศอำนาจปานกลางในเวทีโลก ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีรายได้ปานกลาง-สูงและประเทศอุตสาหกรรมใหม่ มีรายได้หลักจากภาคอุตสาหกรรมและบริการ การเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจทำให้มีการอพยพเข้าสู่เมืองในคริสต์ศตวรรษที่ 20 ตามประมาณการในปี 2560 จีดีพีของประเทศไทยมีมูลค่าราว 432,898 ล้านดอลลาร์สหรัฐ นับว่าเศรษฐกิจไทยเป็นเศรษฐกิจใหญ่สุดเป็นอันดับ 2 ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และใหญ่เป็นอันดับที่ 26 ของโลก.

ประเทศไทยและมาสด้า คาเพลลา · ประเทศไทยและแดวู เลกันซา · ดูเพิ่มเติม »

นิสสัน เทียน่า

นิสสัน เทียน่า เป็นรถยนต์นั่งขนาดกลางของบริษัทนิสสัน เริ่มมีการผลิตครั้งแรกในปี พ.ศ. 2546 โดยมีชื่ออื่นในการส่งออกเช่น นิสสัน แม็กซิมา และ นิสสัน เซฟิโร่ (เป็นการยืมชื่อมาใช้ เซฟิโร่ตัวจริงเลิกผลิตไปแล้ว เทียน่า เป็นรุ่นต่อของเซฟิโร่ ส่วนแม็กซิมา เป็นรถนิสสันอีกรุ่นหนึ่ง ขายในสหรัฐอเมริกา) ในบางประเทศ นอกจากนี้ เทียน่ายังมีการใช้รูปแบบเดียวกับ นิสสัน อัลติม่า วางขายในทวีปอเมริกาเหนือและญี่ปุ่น.

นิสสัน เทียน่าและมาสด้า คาเพลลา · นิสสัน เทียน่าและแดวู เลกันซา · ดูเพิ่มเติม »

นิสสัน เซฟิโร่

นิสสัน เซฟิโร่ (Nissan Cefiro) เป็นรถยนต์นั่งขนาดกลางที่ถูกผลิตโดยนิสสัน มีคุณลักษณะและจุดประสงค์คล้ายคลึง โตโยต้า คัมรี่, ฮอนด้า แอคคอร์ด, มิตซูบิชิ กาแลนต์ และมาสด้า คาเพลลา มีการผลิตระหว่าง พ.ศ. 2531-2546 เป็นเวลา 15 ปี เดิมทีนั้น เซฟิโร่ถูกออกแบบมาให้เป็นรถยนต์นั่งสำหรับกลุ่มคนทำงานในประเทศญี่ปุ่นเท่านั้น และไม่เน้นการส่งออก แต่กลับได้รับความนิยมจากต่างประเทศมากกว่าในประเทศญี่ปุ่น เซฟิโร่มีวิวัฒนาการตามช่วงเวลาได้ 3 Generation (3 โฉม) ก่อนที่นิสสันจะเปลี่ยนชื่อตระกูลเป็น เทียน่า (Teana) ซึ่งยังมีขายอยู่จนถึงในปัจจุบัน.

นิสสัน เซฟิโร่และมาสด้า คาเพลลา · นิสสัน เซฟิโร่และแดวู เลกันซา · ดูเพิ่มเติม »

แดวู เอสเปอโร

แดวู เอสเปอโร (Daewoo Espero) เป็นรถยนต์นั่งขนาดกลาง (Mid-Size Car) ผลิตโดย แดวู เริ่มผลิตในปี พ.ศ. 2533 และเลิกผลิตในปี พ.ศ. 2540 โดยเป็นรถยนต์นั่งขนาดกลางรุ่นแรกของแดวู มอเตอร์ส ออกแบบโดย Gruppo Bertone ใช้แพลตฟอร์มของ GM ตระกูล GM J platform มีตัวถัง 1 แบบคือซีดาน 4 ประตู ใช้เครื่องยนต์ 1.5,1.8 และ 2.0 ลิตร ระบบเกียร์เป็นเกียร์ธรรมดา 5 สปีดและเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด ระยะฐานล้อ 2,620 มม.

มาสด้า คาเพลลาและแดวู เอสเปอโร · แดวู เลกันซาและแดวู เอสเปอโร · ดูเพิ่มเติม »

โอเปิล เวคตร้า

อเปิล เวคตร้า (Opel Vectra) เป็นรถยนต์นั่งขนาดกลาง (Mid-Size Car) ผลิตโดยโอเปิล ผู้ผลิตรถยนต์จากเยอรมนีซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ General Motors เริ่มผลิตเมื่อปี พ.ศ. 2531 โดยมาทดแทนรุ่นเก่าอย่างโอเปิล แอสโคนา (Opel Ascona) และเลิกผลิตในปี พ.ศ. 2552 โดยมีรุ่นใหม่มาแทน คือ โอเปิล อินซิกเนีย (Opel Insignia) โอเปิล เวคตร้า มีวิวัฒนาการตามช่วงเวลาได้ 3 Generation (รุ่น) ดังนี้.

มาสด้า คาเพลลาและโอเปิล เวคตร้า · แดวู เลกันซาและโอเปิล เวคตร้า · ดูเพิ่มเติม »

โตโยต้า คัมรี่

ตโยต้า คัมรี่ เป็นรถยนต์ตระกูลที่ได้รับความนิยมสูงเป็นอันดับต้นๆ ของรถโตโยต้า มีลักษณะเป็นรถยนต์นั่งขนาดเล็ก ในรุ่น V และเป็นรถยนต์นั่งขนาดกลาง ในรุ่น XV ในประเทศไทย คัมรี่ เริ่มเป็นที่รู้จักในประเทศไทยเฉพาะรุ่น XV โดยก่อนหน้านี้ รถครอบครัวรุ่นที่มีชื่อเสียงของโตโยต้า คือ โตโยต้า โคโรน่า แต่เมื่อคัมรี่ XV เข้ามา คัมรี่เริ่มแย่งความนิยมมาจากโคโรน่า จนในที่สุด ก็กลายเป็นรถครอบครัวที่ขึ้นมามีชื่อเสียงแทนโคโรน่า หลังจากนั้นไม่นาน โคโรน่าก็มีอันต้องเลิกผลิตไป ปัจจุบัน คัมรี่เป็นคู่แข่งทางธุรกิจกับ ฮอนด้า แอคคอร์ด, นิสสัน เทียน่า, ฮุนได โซนาต้า และอื่นๆ ซึ่งเป็นรถยนต์ที่มีขนาดและระดับราคาใกล้เคียงกัน แต่ก่อนที่คัมรี่จะเข้าไทย โตโยต้า โคโรน่า ก็เคยเป็นคู่แข่งของแอคคอร์ดมาก่อน รถตระกูลคัมรี่ กำเนิดโดยการแตกหน่อออกมาจากรถตระกูลเซลิก้า รถตระกูลเซลิก้ากำเนิดขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2513 ในเวลานั้น เซลิก้าเป็นรถสปอร์ตที่นั่งตอนเดียว ขับเคลื่อนล้อหลัง เปิดประทุนได้ รูปตัวถัง 3 แบบ คือ Hardtop, Liftback และ Coupe เหมาะสำหรับงานแข่งรถ โดยเฉพาะการแข่งแรลลี่ หลังจากนั้น ก็ได้แยกสายการผลิตออกไปเป็นคัมรี่ สาเหตุของการแบ่งคัมรี่ออกเป็นรุ่น V และ XV เนื่องมาจาก ที่ญี่ปุ่น กำหนดเกณฑ์แบ่งขนาดของรถยนต์โดยสารออกเป็น 3 ประเภท คือ.

มาสด้า คาเพลลาและโตโยต้า คัมรี่ · แดวู เลกันซาและโตโยต้า คัมรี่ · ดูเพิ่มเติม »

โตโยต้า โคโรน่า

ตโยต้า โคโรน่า (Toyota Corona) เป็นรถรุ่นหนึ่งที่ โตโยต้า ผลิตขึ้น เพื่อเป็นรถครอบครัว เริ่มผลิตเมื่อ พ.ศ. 2500 ซึ่งในประเทศไทย ครั้งหนึ่ง มันเคยเป็นคู่แข่งทางธุรกิจกับ ฮอนด้า แอคคอร์ด และ นิสสัน บลูเบิร์ด (รวมไปถึง นิสสัน เซฟิโร่ ในบางช่วง) รวมถึงคู่แข่งอื่นๆ ซึ่งเป็นคู่แข่งระดับรอง เช่น มิตซูบิชิ กาแลนต์,มาสด้า 626,ฮุนได โซนาต้า,ซูบารุ เลกาซี,เปอโยต์ 405,แดวู เอสเปอโร,ฟอร์ด มอนดิโอและซีตรอง BX แต่โคโรน่ามีจุดเสียเปรียบสำคัญเรื่องขนาดที่เล็กกว่าแอคคอร์ดและคู่แข่งอื่นๆ ดังนั้น ใน..

มาสด้า คาเพลลาและโตโยต้า โคโรน่า · แดวู เลกันซาและโตโยต้า โคโรน่า · ดูเพิ่มเติม »

เปอโยต์ 406

ปอโยต์ 406 (Peugeot 406) เป็นรถยนต์นั่งขนาดกลางรุ่นหนึ่งของเปอโยต์ เริ่มผลิตเมื่อปี พ.ศ. 2539 โดยมาทดแทนเปอโยต์ 405 และเลิกผลิตเมื่อปี พ.ศ. 2548 โดยมีเปอโยต์ 407 เข้ามาทดแทน แต่เริ่มจำหน่ายในประเทศไทยเมื่อปี พ.ศ. 2541-2548 โดยบริษัทยนตรกิจ คอร์เปอเรชั่น ถือเป็นรถยนต์นั่งขนาดกลางของเปอโยต์รุ่นสุดท้ายที่ประกอบในประเทศไทย โดยเป็นรถประกอบแบบ CKD (Complete Knock-Down) ซึ่งเป็นรถเปอโยต์อีกรุ่นหนึ่งที่ขายดีในประเทศไทย และมีให้เห็นอยู่บ้างตามท้องถนนในประเทศไทย เปอโยต์ 406 มีเครื่องยนต์ 7 ขนาด คือ 1.6,1.8,1.9,2.0,2.1,2.2 และ 2.9 ลิตร และมีตัวถัง 3 แบบ คือ ซีดาน 4 ประตู,คูเป้ 2 ประตู และสเตชันวากอน 5 ประตู โดยในประเทศไทยจะมีให้เห็นเฉพาะรุ่น 4 ประตูเท่านั้น ในปี พ.ศ. 2542 ได้มีการปรับโฉม Minorchange เล็กน้อยก่อนที่จะยุติการผลิตในปี พ.ศ. 2548 406.

มาสด้า คาเพลลาและเปอโยต์ 406 · เปอโยต์ 406และแดวู เลกันซา · ดูเพิ่มเติม »

รายการด้านบนตอบคำถามต่อไปนี้

การเปรียบเทียบระหว่าง มาสด้า คาเพลลาและแดวู เลกันซา

มาสด้า คาเพลลา มี 45 ความสัมพันธ์ขณะที่ แดวู เลกันซา มี 21 ขณะที่พวกเขามีเหมือนกัน 18, ดัชนี Jaccard คือ 27.27% = 18 / (45 + 21)

การอ้างอิง

บทความนี้แสดงความสัมพันธ์ระหว่าง มาสด้า คาเพลลาและแดวู เลกันซา หากต้องการเข้าถึงบทความแต่ละบทความที่ได้รับการรวบรวมข้อมูลโปรดไปที่:

Hey! เราอยู่ใน Facebook ตอนนี้! »