โลโก้
ยูเนี่ยนพีเดีย
การสื่อสาร
ดาวน์โหลดได้จาก Google Play
ใหม่! ดาวน์โหลด ยูเนี่ยนพีเดีย บน Android ™ของคุณ!
ฟรี
เร็วกว่าเบราว์เซอร์!
 

พลิมัทและแควาเลียร์

ทางลัด: ความแตกต่างความคล้ายคลึงกันค่าสัมประสิทธิ์การเปรียบเทียบ Jaccardการอ้างอิง

ความแตกต่างระหว่าง พลิมัทและแควาเลียร์

พลิมัท vs. แควาเลียร์

ลิมัท (Plymouth) เป็นนครและเป็นเมืองที่มีการปกครองโดยรัฐบาลท้องถิ่นระดับเดียวที่อยู่ในมณฑลเดวอนในภาคการปกครองตะวันตกเฉียงใต้ของอังกฤษ ที่อยู่ใกลจากลอนดอนไปทางตะวันตกเฉียงใต้ 310 กิโลเมตร พลิมัธตั้งอยู่ระหว่างปากแม่น้ำพลิมทางตะวันออกและแม่น้ำเทมาร์ทางตะวันตกที่มารวมกันที่พลิมัธซาวนด์ ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1967 พลิมัธมีเทศบาลปกครองเป็นของตนเองที่รวมทั้งพลิมพ์ตัน และพลิมสต็อคที่อยู่ทางตะวันออกของแม่น้ำพลิม ประวัติของพลิมัธย้อนไปถึงยุคสัมริดเมื่อมีผู้มาตั้งถิ่นฐานที่เมาท์แบตเต็น บริเวณที่ตั้งถิ่นฐานเจริญขึ้นมาเป็นเมืองค้าขายกับจักรวรรดิโรมันจนมาแทนที่ด้วยหมู่บ้านซัตตันที่เป็นเมืองพลิมัทปัจจุบันที่มีฐานะดีกว่า ในปี ค.ศ. 1620 “Pilgrim Fathers” หรือกลุ่มผู้ตั้งถิ่นฐานจากพลิมัธเดินทางไปอเมริกาและไปก่อตั้งอาณานิคมพลิมัท (Plymouth Colony) ในรัฐแมสซาชูเซตส์ปัจจุบัน—ซึ่งเป็นอาณาบริเวณการตั้งถิ่นฐานในอเมริกาที่แห่งที่สองของชาวอังกฤษที่ต่อมาก่อตั้งขึ้นเป็นสหรัฐอเมริกา ระหว่างสงครามกลางเมืองอังกฤษพลิมัธถูกยึดโดยฝ่ายรัฐสภาและถูกล้อมระหว่างปี ค.ศ. 1642 ถึง ค.ศ. 1646 ตลอดสมัยการปฏิวัติอุตสาหกรรมพลิมัธเจริญขึ้นเป็นเมืองท่าสำคัญที่มีการขนส่งสินค้าขาเข้าและผู้โดยสารจากอเมริกา และเป็นเมืองที่มีการต่อเรือสำหรับราชนาวีอังกฤษ ซึ่งทำให้กลายเป็นจุดยุทธศาสตร์ในการทำลายของข้าศึกระหว่างสงครามโลกครั้งที่สอง ภายหลังสงครามพลิมัทก็สร้างศูนย์กลางเมืองใหม่แทนส่วนที่ถูกทำลายไประหว่างสงคราม พลิมัทมีเนื้อที่ 79.29 ตารางกิโลเมตร จากการสำรวจสำมะโนประชากรในปี ค.ศ. 2007 พลิมัทมีประชากรทั้งหมดประมาณ 250,700 คน โดยมีความหนาแน่นถัวเฉลี่ยเป็นจำนวน 3,142 คนต่อหนึ่งตารางกิโลเมตร ซึ่งทำให้เป็นเมืองที่มีจำนวนพลเมืองมากเป็นลำดับที่ 15 ของอังกฤษ พลิมัทมีเทศบาลการปกครองเป็นของตนเองและมีตัวแทนในรัฐสภาสามคน เศรษฐกิจในพลิมัทยังคงเป็นการต่อเรือแต่ก็เริ่มเปลี่ยนไปเป็นเศรษฐกิจการบริการตั้งแต่คริสต์ทศวรรษ 1990 และมีมหาวิทยาลัยที่ใหญ่เป็นลำดับที่ 11 ในสหราชอาณาจักร และเป็นที่ตั้งของราชนาวีที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปตะวันตก พลิมัธมีเรือข้ามประจำไปยังฝรั่งเศสและสเปนและมีสนามบินนานาชาต. แควาเลียร์ (Cavalier) เป็นคำที่ฝ่ายรัฐสภาใช้เรียกผู้นิยมกษัตริย์ที่สนับสนุนพระเจ้าชาลส์ที่ 1 ระหว่างสงครามกลางเมืองอังกฤษ (ระหว่างปี ค.ศ. 1642 ถึงปี ค.ศ. 1651) หรือเรียก ฝ่ายนิยมเจ้า (Royalists) เจ้าชายรูเพิร์ตแห่งไรน์ ผู้ทรงเป็นแม่ทัพกองทหารม้าของพระเจ้าชาลส์ ทรงมีลักษณะที่เรียกได้ว่าเป็นตัวอย่างของผู้เป็น แควาเลียร.

ความคล้ายคลึงกันระหว่าง พลิมัทและแควาเลียร์

พลิมัทและแควาเลียร์ มี 3 สิ่งที่เหมือนกัน (ใน ยูเนี่ยนพีเดีย): พ.ศ. 2185สงครามกลางเมืองอังกฤษหัวเกรียน

พ.ศ. 2185

ทธศักราช 2185 ใกล้เคียงกั.

พ.ศ. 2185และพลิมัท · พ.ศ. 2185และแควาเลียร์ · ดูเพิ่มเติม »

สงครามกลางเมืองอังกฤษ

“หนูเห็นพ่อครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่?” โดย วิลเลียม เฟรดเดอริค ยีมส์ (William Frederick Yeames) เป็นภาพรัฐสภาถามลูกชายของฝ่ายนิยมกษัตริย์ระหว่างสงครามกลางเมือง สงครามกลางเมืองอังกฤษ (English Civil War; ค.ศ. 1642 ถึงปี ค.ศ. 1651) เป็นสงครามกลางเมืองของอังกฤษ, สกอตแลนด์ และไอร์แลนด์ที่ต่อเนื่องกันหลายครั้งระหว่างฝ่ายรัฐสภา และฝ่ายกษัตริย์นิยม สงครามกลางเมืองอังกฤษครั้งที่ 1 เกิดขึ้นระหว่างปี ค.ศ. 1642 ถึงปี ค.ศ. 1646; ครั้งที่ 2 ระหว่างปี ค.ศ. 1648 ถึงปี ค.ศ. 1649 เป็นสงครามของความขัดแย้งระหว่างผู้สนับสนุนพระเจ้าชาลส์ที่ 1 ฝ่ายหนึ่งและผู้สนับสนุนรัฐสภายาวอีกฝ่ายหนึ่ง ขณะที่ครั้งที่ 3 ที่เกิดขึ้นระหว่างปี ค.ศ. 1649 ถึงปี ค.ศ. 1651 เป็นการต่อสู้ระหว่างผู้สนับสนุนพระเจ้าชาลส์ที่ 2 และผู้สนับสนุนรัฐสภารัมพ์อีกฝ่ายหนึ่ง สงครามกลางเมืองจบลงด้วยชัยชนะของฝ่ายรัฐสภาที่ยุทธการวูสเตอร์เมื่อวันที่ 3 กันยายน ค.ศ. 1651 ผลของสงครามกลางเมืองครั้งที่สองนำไปสู่การปลงพระชนม์ของพระเจ้าชาลส์ที่ 1, การลี้ภัยของพระราชโอรสพระเจ้าชาลส์ที่ 2 และการเปลี่ยนระบบการปกครองของอังกฤษจากระบอบพระมหากษัตริย์ไปเป็นระบบเครือจักรภพแห่งอังกฤษ ระหว่างปี ค.ศ. 1649 ถึงปี ค.ศ. 1653 และต่อจากนั้นไปเป็นระบบรัฐผู้พิทักษ์ภายใต้การนำของโอลิเวอร์ ครอมเวลล์ระหว่างปี ค.ศ. 1653 ถึงปี ค.ศ. 1659 เอกสิทธิ์ในการนับถือคริสต์ศาสนาของนิกายเชิร์ชออฟอิงแลนด์ในอังกฤษสิ้นสุดลงด้วยการรวม การปกครองโดยโปรเตสแตนต์ (Protestant Ascendancy) ในไอร์แลนด์ ในด้านรัฐธรรมนูญสงครามครั้งนี้เป็นการวางรากฐานว่าการปกครองระบอบพระมหากษัตริย์ไม่สามารถทำได้โดยมิได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภา แต่อันที่จริงแล้วปรัชญานี้ก็มิได้ปฏิบัติกันอย่างจริงจังจนกระทั่งถึงสมัยการปฏิวัติอันรุ่งโรจน์ในปลายคริสต์ศตวรรษ.

พลิมัทและสงครามกลางเมืองอังกฤษ · สงครามกลางเมืองอังกฤษและแควาเลียร์ · ดูเพิ่มเติม »

หัวเกรียน

“ฝ่ายรัฐสภา” โดยจอห์น เพ็ตติ (John Pettie) กลุ่มหัวเกรียน หรือ ฝ่ายรัฐสภา (ภาษาอังกฤษ: Parliamentarians หรือ Roundhead) เป็นชื่อที่ใช้เรียกกลุ่มพิวริตันผู้สนับสนุนรัฐสภาแห่งอังกฤษระหว่างสงครามกลางเมืองอังกฤษ และเป็นผู้สนับสนุนโอลิเวอร์ ครอมเวลล์ และเป็นปฏิปักษ์ต่อสมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 1 แห่งอังกฤษ ครอมเวลล์ได้รับความก้าวหน้าทางการเมือง, เป็นสมาชิกของสภาสามัญชนผู้มีบทบาทสำคัญ และเป็นนายทหารผู้มีความสามารถ และในที่สุดก็แต่งตั้งตนเองเป็นเจ้าผู้พิทักษ์ ในปี ค.ศ. 1653 ฐานะทางการเมืองและทางการศาสนาของ “ฝ่ายรัฐสภา” รวมทั้งกลุ่มเพรสไบทีเรียน (Presbyterians), กลุ่มรีพับลิกันคลาสสิก (Classical republicanism), กลุ่มเลเวลเลอร์ (Levellers) และ กลุ่มอิสระทางศาสนา (Independents) ศัตรูของ “ฝ่ายรัฐสภา” คือ “ฝ่ายกษัตริย์นิยม” ผู้สนับสนุนพระเจ้าชาร์ลส์หรือที่เรียกเล่นๆ ว่า “กลุ่มคาวาเลียร์” (Cavalier).

พลิมัทและหัวเกรียน · หัวเกรียนและแควาเลียร์ · ดูเพิ่มเติม »

รายการด้านบนตอบคำถามต่อไปนี้

การเปรียบเทียบระหว่าง พลิมัทและแควาเลียร์

พลิมัท มี 18 ความสัมพันธ์ขณะที่ แควาเลียร์ มี 23 ขณะที่พวกเขามีเหมือนกัน 3, ดัชนี Jaccard คือ 7.32% = 3 / (18 + 23)

การอ้างอิง

บทความนี้แสดงความสัมพันธ์ระหว่าง พลิมัทและแควาเลียร์ หากต้องการเข้าถึงบทความแต่ละบทความที่ได้รับการรวบรวมข้อมูลโปรดไปที่:

Hey! เราอยู่ใน Facebook ตอนนี้! »