เรากำลังดำเนินการเพื่อคืนค่าแอป Unionpedia บน Google Play Store
🌟เราได้ทำให้การออกแบบของเราง่ายขึ้นเพื่อการนำทางที่ดีขึ้น!
Instagram Facebook X LinkedIn

พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 3 แห่งอังกฤษและออดรีย์ เฮปเบิร์น

ทางลัด: ความแตกต่างความคล้ายคลึงกันค่าสัมประสิทธิ์การเปรียบเทียบ Jaccardการอ้างอิง

ความแตกต่างระหว่าง พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 3 แห่งอังกฤษและออดรีย์ เฮปเบิร์น

พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 3 แห่งอังกฤษ vs. ออดรีย์ เฮปเบิร์น

มเด็จพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 3 แห่งอังกฤษ (Edward III of England; Édouard III d'Angleterre; 13 พฤศจิกายน ค.ศ. 1312 – 21 มิถุนายน ค.ศ. 1377) ทรงเป็นกษัตริย์แห่งราชวงศ์แพลนทาเจเน็ทของราชอาณาจักรอังกฤษระหว่างปี ค.ศ. 1327 ถึงปี ค.ศ. 1377 พระองค์นับเป็นกษัตริย์อังกฤษผู้ประสบความสำเร็จที่สุดพระองค์หนึ่งในยุคกลาง โดยทรงฟื้นฟูความมั่นคงของราชบัลลังก์ หลังจากที่เสื่อมโทรมลงไปมากในรัชสมัยของพระราชบิดา พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 2 และทรงเป็นผู้ที่ทำให้ราชอาณาจักรอังกฤษเป็นรัฐที่มีอำนาจทางทหารมากที่สุดในยุโรป และเป็นรัชสมัยที่มีการวิวัฒนาการทางการปกครองทางนิติบัญญัติ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การวิวัฒนาการของระบบรัฐสภา แต่ในสมัยเดียวกันนี้พระองค์ก็ทรงต้องเผชิญกับความหายนะจากกาฬโรคระบาดในยุโรป พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดทรงครองราชย์เป็นเวลานานถึง 50 ปีซึ่งไม่มีพระเจ้าแผ่นดินองค์ใดที่ครองราชย์นานเช่นนั้นตั้งแต่รัชสมัยของพระเจ้าเฮนรีที่ 2 และต่อจากนั้นก็ไม่มีพระองค์ใดจนมาถึงรัชสมัยของพระเจ้าจอร์จที่ 3 ในฐานะกษัตริย์แห่งสหราชอาณาจักร พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดเสด็จขึ้นครองราชย์เมื่อพระชนมายุได้เพียง 14 พรรษา หลังจากที่พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 2 พระราชบิดา ทรงถูกถอดจากการเป็นกษัตริย์ เมื่อพระชนมายุได้ 17 พรรษา พระองค์ก็ทรงเป็นผู้นำในรัฐประหารโค่นล้มโรเจอร์ มอร์ติเมอร์ เอิร์ลแห่งมาร์ชที่ 1 ผู้เป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ และทรงเริ่มครองราชย์ด้วยพระองค์เอง หลังจากที่ทรงได้รับชัยชนะต่อราชอาณาจักรสกอตแลนด์ ก็ทรงประกาศอ้างสิทธิ์ของพระองค์ว่าเป็นผู้สืบทอดอันชอบธรรมต่อราชบัลลังก์ฝรั่งเศสในปี.. ออดรีย์ เฮปเบิร์น (Audrey Hepburn) (4 พฤษภาคม ค.ศ. 1929 -20มกราคม ค.ศ. 1993) เป็นนักแสดงอังกฤษเชื้อสายเนเธอร์แลนด์ ที่เกิดที่เมือง บรัสเซลส์ ประเทศเบลเยี่ยม โตในเนเธอร์แลนด์ ที่เมืองอาร์นเฮม ในช่วงวัยเด็กและในระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 เธอเรียนบัลเล่ต์ที่นี่ หลังจากนั้นย้ายไปอยู่ที่ลอนดอนเมื่อปี 1948 โดยเธอเรียนการแสดงและทำงานเป็นนางแบบ หลังจากนั้นมีผลงานแสดงภาพยนตร์ และแสดงในละครเวทีเรื่อง Gigi ออดรีย์แสดงนำในภาพยนตร์เรื่อง Roman Holiday (1953) ซึ่งทำให้เธอได้รับรางวัลออสการ์ รางวัลลูกโลกทองคำ และรางวัลบาฟต้า เธอยังได้รับรางวัลโทนีจากการแสดงในเรื่อง Ondine (1954) Breakfast at Tiffany's หลังจากนั้นอีกหลายปี เธอถือว่าเป็นนักแสดงหญิงที่ประสบความสำเร็จที่สุดในโลก โดยแสดงในหนังฮอลลีวูดที่มีนักแสดงนำชายชื่อดัง อย่างเช่น ฮัมฟรีย์ โบการ์ต, แครี แกรนต์, เฮนรี ฟอนดา, แกรี คูเปอร์ และเฟรด แอสแตร์ ที่เธอเต้นรำร่วมกันใน Funny Face (1957) เธอได้รับรางวัลบาฟต้าจากการแสดงในเรื่อง The Nun's Story (1959) และ Charade (1963) เธอยังได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์จากผลงานเรื่อง Sabrina (1954), Breakfast at Tiffany's (1961) และ Wait Until Dark (1967) เธอยังแสดงในบทเอลิซา ดูลิทเทิล ในผลงานฉบับภาพยนตร์ของ My Fair Lady (1964) จากประสบการณ์ในช่วงสงครามของเธอทำให้เธอมีแรงบันดาลใจในงานทำงานเพื่อเพื่อนมนุษย์ เธอทำงานกับยูนิเซฟตั้งแต่ทศวรรษ 1950 เธอยังอุทิศเวลาและกำลังกายให้กับองค์กร ตั้งแต่ปี 1988 ถึง 1992 เธอทำงานให้กับชุมชนในแอฟริกา อเมริกาใต้ และเอเชีย โดยไม่แสวงหาผลประโยชน์ ในปี 1992 เธอได้รับเครื่องรัฐอิสริยาภรณ์เหรียญแห่งอิสรภาพของประธานาธิบดี สำหรับการทำงานให้ในฐานะ UNICEF Goodwill Ambassador ปี 1980 เธออยู่กับนักแสดง โรเบิร์ต วอลเดอร์ส เธอเสียชีวิตจากมะเร็งที่ไส้ติ่ง ที่บ้านในสวิตเซอร์แลนด์ อายุได้ 63 ปี ในวันที่20 มกราคม 1993 เธอได้รับรางวัลหลังการเสียชีวิตอย่างรางวัล The Jean Hersholt Humanitarian Award จาก Academy of Motion Picture Arts and Sciences สำหรับงานการช่วยเหลือทางด้านมนุษยธรรม เธอได้รับรางวัลแกรมมี่จากผลงานบันทึกเสียงเกี่ยวกับการพูด ในผลงาน Audrey Hepburn's Enchanted Tales ในปี 1994 และในปีเดียวกันเธอได้รับรางวัลเอมมี ในสาขา Outstanding Achievement for Gardens of the World นอกจากนี้เธอยังอยู่อันดับ 3 จากการจัดอันดับ ดาราสาวตลอดกาลจากสถาบันภาพยนตร์อเมริกัน.

ความคล้ายคลึงกันระหว่าง พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 3 แห่งอังกฤษและออดรีย์ เฮปเบิร์น

พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 3 แห่งอังกฤษและออดรีย์ เฮปเบิร์น มี 1 สิ่งที่เหมือนกัน (ใน ยูเนี่ยนพีเดีย): ลอนดอน

ลอนดอน

ลอนดอน (London, ลันเดิน) เป็นเมืองหลวงของประเทศอังกฤษ และสหราชอาณาจักร และเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของสหภาพยุโรป เป็นเมืองที่มีศูนย์กลางทางธุรกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลก ลอนดอนเป็นหนึ่งในศูนย์กลางสำคัญทางธุรกิจ การเมือง วัฒนธรรม และประวัติศาสตร์ของโลก เป็นผู้นำด้านการเงิน การเมือง การสื่อสาร การบันเทิง แฟชั่น และศิลปะ ในอดีตเป็นเมืองหลวงของโลก เป็นเมืองที่เจริญที่สุดในโลก ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เป็นเมืองที่มีอิทธิพลไปทั่วโลก ถือกันว่าเป็นเมืองสากลหลักของโลก จีดีพีของลอนดอน คิดเป็นร้อยละ 19.5 ของสหราชอาณาจักร ลอนดอนมีประชากรประมาณ 7.5 ล้านคน (ข้อมูลเมื่อปี พ.ศ. 2549) และประมาณ 12 - 14 ล้านคนถ้ารวมนครหลวงลอนดอนและปริมณฑล ลอนดอนเป็นเมืองที่ประกอบด้วยหลายชนชาติอย่างมาก ประชากรมีความหลากหลายทั้งด้านเชื้อชาติ วัฒนธรรม ศาสนา และภาษา ซึ่งประมาณว่ามีมากกว่า 300 ภาษา เราเรียกชาวลอนดอนว่า ลอนดอนเนอร์ (Londoner) ลอนดอนเป็นศูนย์กลางการคมนาคมในระดับนานาชาติ และเป็นเมืองท่องเที่ยวสำคัญของทวีปยุโรป โดยสนามบินที่ใหญ่ที่สุดในลอนดอน คือ ท่าอากาศยานนานาชาติฮีทโธรว.

พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 3 แห่งอังกฤษและลอนดอน · ลอนดอนและออดรีย์ เฮปเบิร์น · ดูเพิ่มเติม »

รายการด้านบนตอบคำถามต่อไปนี้

การเปรียบเทียบระหว่าง พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 3 แห่งอังกฤษและออดรีย์ เฮปเบิร์น

พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 3 แห่งอังกฤษ มี 77 ความสัมพันธ์ขณะที่ ออดรีย์ เฮปเบิร์น มี 27 ขณะที่พวกเขามีเหมือนกัน 1, ดัชนี Jaccard คือ 0.96% = 1 / (77 + 27)

การอ้างอิง

บทความนี้แสดงความสัมพันธ์ระหว่าง พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 3 แห่งอังกฤษและออดรีย์ เฮปเบิร์น หากต้องการเข้าถึงบทความแต่ละบทความที่ได้รับการรวบรวมข้อมูลโปรดไปที่: