ความคล้ายคลึงกันระหว่าง พระนารทสัมพุทธเจ้าและพระรังสีมุนีสัมพุทธเจ้า
พระนารทสัมพุทธเจ้าและพระรังสีมุนีสัมพุทธเจ้า มี 7 สิ่งที่เหมือนกัน (ใน ยูเนี่ยนพีเดีย): พระพุทธเจ้าพระกัสสปพุทธเจ้าพระรังสีมุนีสัมพุทธเจ้าพระธรรมสามีสัมพุทธเจ้าพระโพธิสัตว์ศาสนาเทวดา
พระพุทธเจ้า
ระสัมมาสัมพุทธเจ้า หรือ พระพุทธเจ้า เป็นพระสมัญญานามที่ใช้เรียกพระบรมศาสดาของศาสนาพุทธ พระพุทธศาสนาทั้งฝ่ายเถรวาทและมหายานต่างนับถือพระพุทธเจ้าว่าเป็นศาสดาของตนเหมือนกันแต่รายละเอียดปลีกย่อยต่างกัน ฝ่ายเถรวาทให้ความสำคัญกับพระพุทธเจ้าพระองค์ปัจจุบันคือ "พระโคตมพุทธเจ้า" ซึ่งเชื่อว่าเป็นพระองค์ที่ 4 ในภัทรกัปนี้ และมีกล่าวถึงพระพุทธเจ้าในอดีตกับในอนาคตบ้างแต่ไม่ให้ความสำคัญเท่า ฝ่ายมหายานนับถือพระพุทธเจ้าของฝ่ายเถรวาททั้งหมดและเชื่อว่านอกจากพระพุทธเจ้า 28 พระองค์ ที่ระบุในพุทธวงศ์ของพระไตรปิฎกภาษาบาลีแล้ว ยังมีพระพุทธเจ้าอีกมากมายเพิ่มเติมขึ้นมาจากตำนานของเถรวาท ผู้ปรารถนาจะเป็นพระพุทธเจ้าต้องบำเพ็ญบารมีเป็นพระโพธิสัตว์ก่อน เมื่อบารมีเต็มแล้วจึงจะได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าในชาติสุดท้าย พระพุทธเจ้าทุกพระองค์มีลักษณะพิเศษตรงกันคือ เป็นมนุษย์เพศชายเกิดในวรรณะกษัตริย์หรือพราหมณ์ พระวรกายสมบูรณ์ด้วยมหาปุริสลักขณะ ก่อนออกผนวชจะอภิเษกสมรสมีพระโอรสพระองค์หนึ่ง หลังจากนั้นทรงพบเทวทูตทำให้ตัดสินใจออกผนวช วันออกผนวชจะตรงกับวันเพ็ญเดือนอาสาฬหะ ตามคัมภีร์ฝ่ายพุทธ ถือกันว่าพระโคตมพุทธเจ้าดำรงพระชนม์ชีพอยู่ระหว่าง 80 ปีก่อนพุทธศักราช จนถึงเริ่มพุทธศักราชซึ่งเป็นวันปรินิพพาน ตรงกับ 543 ปีก่อนคริสตกาลตามตำราไทยอ้างอิงปฏิทินสุริยคติไทยและปฏิทินจันทรคติไทย และ 483 ปีก่อนคริสตกาลตามปฏิทินสากล.
พระนารทสัมพุทธเจ้าและพระพุทธเจ้า · พระพุทธเจ้าและพระรังสีมุนีสัมพุทธเจ้า ·
พระกัสสปพุทธเจ้า
ระกัสสปะพุทธเจ้า เป็นพระพุทธเจ้าในภัทรกัปป์นี้ ทรงจุติลงมาในโลกมนุษย์หลังจากสิ้นสุดศาสนาของพระโกนาคมพุทธเจ้าแล้ว โดยนับตั้งแต่อายุมนุษย์ลดลงจากสองหมื่นปีเหลือ 10 ปี แล้วเพิ่มขึ้นจนถึงสองหมื่นปีอีกครั้ง พระองค์จึงเสด็จลงมาตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้.
พระกัสสปพุทธเจ้าและพระนารทสัมพุทธเจ้า · พระกัสสปพุทธเจ้าและพระรังสีมุนีสัมพุทธเจ้า ·
พระรังสีมุนีสัมพุทธเจ้า
ระรังสีมุนีสัมพุทธเจ้า มีปรากฏในเรื่อง อนาคตวงศ์ ว่า หลังจากหมดยุคศาสนาของพระธรรมสามีสัมพุทธเจ้าแล้ว เกิดแผ่นดินใหม่ที่ไม่มีพระพุทธเจ้าเลยอยู่นานถึง 8 กัปป์ หลังจากนั้นเกิดแผ่นดินใหม่ ชื่อว่า มัณฑกัปป์ จะมีพระพุทธเจ้า 2 พระองค์บังเกิดขึ้น องค์แรก คือ พระนารทะสัมพุทธเจ้า องค์ถัดไปคือ พระรังสีมุนีสัมพุทธเจ้า ในสมัยพระสมณโคตมะพุทธเจ้า นี้ ท่านคือ โสณพราหมณ์ โดยพระองค์ได้บำเพ็ญบารมี 30 ทัศน์มาอย่างยิ่งยวด โดยมีปรมัตถบารมีหนึ่งคือ ในสมัยพระกัสสปะพุทธเจ้า พระโพธิสัตว์ได้เกิดเป็นมาณพ ชื่อว่า มาฆมานพ อาชีพเป็นพ่อค้าทางเรือสำเภา วันหนึ่ง นำของชิ้นหนึ่งไปขายได้กำไร 10 เท่าและนำเงินทองที่ได้มานั้นใส่เรือ แต่ประสบเหตุเรือล่ม ทรัพย์สินที่ได้มาจมหายทั้งหมด แต่ตัวเองสามารถเอาตัวรอดมาได้ ครั้นต่อมา ก็นำของชนิดเดิมไปขายอีกได้กำไร 10 เท่าอีก นำทรัพย์กลับมาบ้านได้ 7 วันก็เพลิงไหม้ บ้านและทรัพย์สินเสียหายจำนวนมาก ต่อมาก็นำสินค้าชนิดเดิมไปขายก็ได้กำไรมา 10 เท่าแต่ว่าพอนำทรัพย์กลับมาบ้านแล้ว กลับถูกโจรปล้นทรัพย์สินที่ได้มาทั้งหมด แต่ก็ยังไม่ละความพยายามนำของชิ้นเดิมไปขายอีก ก็ได้กำไร 10 เท่าอีกเช่นเดิม แต่คราวนี้พอนำเงินกลับมาบ้าน ก็ถูกเรียกเก็บทรัพย์สินทั้งหมดนั้นเข้าสู่ท้องพระคลัง มาฆมาณพ เมื่อเสียทรัพย์ถึง 4 ครั้งก็ทะเลาะกับภรรยา จนถึงขั้นต้องหย่าร้างกัน ได้ทรัพย์สินจากการแบ่งกับภรรยาเป็นผ้าแดง 1 ผืน และทอง 1 แสน ออกจากบ้านเดินทางไปเรื่อยๆ จนถึงเมืองโกสัมพี ครั้งนั้น มีพระสาวก รูปหนึ่งของ พระกกุสันธะพุทธเจ้า ออกจากญาณสมาบัติ ก็ตรวจดูสรรพสัตว์ ด้วยทิพยจักษุ ก็พบ มาฆมาณพ เข้าข่ายญาณก็ทราบว่าอนาคตจะได้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ก็เหาะไปโปรดในทางที่มาณพกำลังเดินทางมา เมื่อมาณพเดินมาพบพระสาวกนี้ ก็เกิดเลื่อมใส จิตใจปลาบปลื้ม จึงได้ถวายทรัพย์สินทั้งหมดและอธิษฐานขอให้ได้เป็นพระพุทธเจ้าในอนาคต เมื่อพระสาวกได้รับของและกล่าวอนุโมทนาแล้ว ก็เหาะกลับไป ในที่ที่ถวายทานเกิดต้นกัลปพฤกษ์ 1 ต้น และมาณพนั้นก็ได้อาศัยต้นไม้นี้เลี้ยงชีพสืบมา วันหนึ่งกษัตริย์เมืองโกสัมพี พร้อมทั้งเหล่าข้าราชบริพาร เสด็จผ่านมาเห็นมาณพอยู่ใต้ต้นกัลปพฤกษ์ ก็เกิดความสนใจเข้าไปทอดพระเนตร ก็ถูกเทวดา ที่ทำหน้าที่รักษาอยู่ไม่ให้เข้าไป พระองค์จึงทรงกริ้ว สั่งให้ทหารทำการเผา แต่ก็เกิดมีดอกบัวเกิดขึ้นมารองรับมาณพนั้น จึงสั่งให้ทหารจับมาณพ ไปโยนทิ้งลงน้ำ ก็เกิดอัศจรรย์มีดอกบัวผุดขึ้นมารองรับ ทำให้มาณพนั้นไม่ได้รับอันตรายใดๆ กษัตริย์จึงถามกับมาณพนั้นว่า ใครให้ต้นกัลปพฤกษ์มา มาณพจึงเล่าความจริงให้ฟัง แต่กษัตริย์ไม่เชื่อ รับสั่งให้มาณพนำพระสาวกรูปนั้นมายืนยัน มาณพจึงอธิษฐานถึงพระสาวกนั้น พระสาวกรูปนั้นทราบด้วยทิพยจักษุ ก็เหาะมาและบอกกล่าวถึงโทษของการประทุษร้ายมาณพนี้ จะทำให้บ้านเมืองจมลงในแผ่นดิน กษัตริย์ได้ฟังดังนั้นก็กลัว จึงขอโทษและยกให้มาณพเป็นน้องชายของพระองค์ พระรังสีมุนีสัมพุทธเจ้ามีพระวรกายสูง 60 ศอก มีพระชนมายุ 5 พันปี และมีพระพุทธรัศมีสีทอง สว่างทั้งกลางวันและกลางคืน.
พระนารทสัมพุทธเจ้าและพระรังสีมุนีสัมพุทธเจ้า · พระรังสีมุนีสัมพุทธเจ้าและพระรังสีมุนีสัมพุทธเจ้า ·
พระธรรมสามีสัมพุทธเจ้า
ระธรรมสามีสัมมาสัมพุทธเจ้า โดยในเรื่อง อนาคตวงศ์ มีกล่าวถึงว่า หลังจากมัณฑกัป ที่มี พระรามะสัมพุทธเจ้า และ พระธรรมราชาสัมพุทธเจ้าตรัสรู้ จนแผ่นดินล่วงไป กว่า 3 อสงไขย เกิดแผ่นดินเรียกว่า สารกัป มีพระพุทธเจ้าบังเกิดมา 1 พระองค์มีชื่อว่า พระธรรมสามีสัมมาสัมพุทธเจ้า พระองค์ทรงบำเพ็ญบารมี 30 ทัศน์โดยมีตัวอย่างการบำเพ็ญ ปรมัตถบารมีอย่างยิ่งยวดพระชาติหนึ่ง ย้อนไปในสมัย พระกัสสปะพุทธเจ้า พระโพธิสัตว์บังเกิดเป็น มหาเสนาบดี ชื่อว่า โพธิอำมาตย์ ในพระเจ้ากิงกิสสราช มีอยู่วันหนึ่งพระกัสสปะพุทธเจ้าได้ออกจากฌาณสมาบัติ กษัตริย์พระเจ้ากิงกิสสราชทราบความได้ดำริอยากถวายทานแด่พระพุทธองค์ ซึ่งจะทำให้ได้ผลบุญหาที่สุดมิได้ จึงให้ทหารตีกลองร้องปล่าว ห้ามมิให้ชาวเมืองถวายทานแด่พุทธองค์ก่อนตน พร้อมทั้งคาดโทษและจัดให้มีทหารกั้นอณาเขตโดยรอบ ครั้งนั้นโพธิอำมาตย์ได้ทราบก็มีความปรารถนาอย่างแรงกล้าจะถวายทานแด่พระพุทธเจ้าด้วยเช่นกัน ด้วยความปรารถนานี้ท่านจึงไม่เกรงกลัวต่ออาญาที่จะได้รับเลย จึงได้ไปบอกบุตรและภรรยาให้เตรียมเครื่องไทยทานและผ้าหนึ่งผืน ครั้นรุ่งเช้า โพธิอำมาตย์ได้เดินทางไปยังสถานที่ที่พระพุทธองค์ประทับอยู่ ทหารที่ทำหน้าที่เฝ้าอยู่จึงสอบถามถึงกิจธุระ โพธิอำมาตย์จึงตอบด้วยความสัจจริงว่าต้องการถวายทานแด่พุทธองค์ ด้วยเหตุนี้จึงถูกทหารจับตัวมัดมือไปเข้าเฝ้าพระเจ้ากิงกิสสราช และได้รับโทษประหาร พระกัสสปะพุทธเจ้าทรงทราบด้วยญาณว่า โพธิอำมาตย์นี้เป็นพระบรมโพธิสัตว์ พระองค์หนึ่ง จึงเนรมิตรกายอีกพระองค์หนึ่งเสด็จไปที่ป่าช้าลานประหาร โดยให้โพธิอำมาตย์ เห็นเพียงผู้เดียว และทรงเทศนาสั่งสอน ให้ละและอย่าอาลัยในชีวิตเลย เมื่อโพธิอำมาตย์ได้ฟังก็เกิดปลื้มใจจนหาที่เปรียบมิได้ จึงยกเครื่องไทยธรรมพร้อมผ้าของตนและของภรรยาที่ฝากมา ถวายด้วยกิริยาเบญจางคประดิษฐ์ และอธิษฐานขอให้ได้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในอนาคต พระกัสสปะพุทธเจ้าได้รับของและตรัสพุทธพยากรณ์ว่า จะได้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งในอนาคตข้างหน้าอย่างแน่นอน และเสด็จกลับเสวยเครื่องไทยธรรม ขณะนั้นโพธิอำมาตย์ได้ถูกเพชฌฆาตตัดศีรษะขาด มหัศจรรย์เกิดแผ่นดินไหวเป็นเหตุให้เศวตฉัตรของพระเจ้ากิงกิสสราชหัก ในที่ประหารนั้นบังเกิดวิมานทองพร้อมด้วยนางสวรรค์ 1000 ขุมทอง 16 ขุม และต้นกัลปพฤกษ์ 1 ต้น ภรรยาโพธิอำมาตย์ได้ใช้สมบัติที่เกิดขึ้นนี้เลี้ยงชีพจนหมดอายุขัย ฝ่ายโพธิอำมาตย์ได้ไปบังเกิดในสวรรค์ชั้นดุสิตมีทิพยสมบัติอันมากด้วยผลแห่งมหาทานนี้ เมื่อครั้นโพธิอำมาตย์สำเร็จเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระองค์มีพระวรกายสูง 80 ศอก มีพระชนมายุ 1 แสนปี ด้วยผลบุญที่พระองค์สละชีวิต มีไม้รังเป็นมหาโพธิ พุทธรัศมีสว่างไสวดุจดวงจันทร์และดวงอาทิตย์ มีเศวตฉัตรกว้างและสูงประมาณ 3 โยชน์ (1 โยชน.
พระธรรมสามีสัมพุทธเจ้าและพระนารทสัมพุทธเจ้า · พระธรรมสามีสัมพุทธเจ้าและพระรังสีมุนีสัมพุทธเจ้า ·
พระโพธิสัตว์
ระปรัชญาปารมิตา ชวา ศิลปะศรีวิชัย พระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ ศิลปะขอม วัดโทได พระโพธิสัตว์ (बोधिसत्त्व bodhisattva; बोधिसत्त bodhisatta) หมายถึง ผู้ที่จะได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า คำว่า "โพธิสัตว์" แปลว่า ผู้ข้องอยู่ในพระโพธิญาณ ทั้งฝ่ายเถรวาทและมหายานเชื่อว่ามีพระโพธิสัตว์เป็นจำนวนมาก แต่รายละเอียดความเชื่อแตกต่างกันไป.
พระนารทสัมพุทธเจ้าและพระโพธิสัตว์ · พระรังสีมุนีสัมพุทธเจ้าและพระโพธิสัตว์ ·
ศาสนา
ัญลักษณ์ของศาสนาต่าง ๆ ภาพศาสนพิธีในศาสนาต่าง ๆ ทั่วโลก ศาสนา (Religion) หมายถึง ลัทธิความเชื่อของมนุษย์ เกี่ยวกับการกำเนิดและสิ้นสุดของโลก หลักศีลธรรม ตลอดจนลัทธิพิธีที่กระทำตามความเชื่อนั้น ๆ หลายศาสนามีการบรรยาย สัญลักษณ์และประวัติศาสตร์ศักดิ์สิทธิ์ซึ่งเจตนาอธิบายความหมายของชีวิต และ/หรืออธิบายกำเนิดชีวิตหรือเอกภพ จากความเชื่อของศาสนาเกี่ยวกับจักรวาลและธรรมชาติมนุษย์ คนได้รับศีลธรรม จริยศาสตร์ กฎหมายศาสนาหรือวิถีชีวิตลำดับก่อน บางการประมาณว่า มีศาสนาราว 4,200 ศาสนาในโลก นอกจากนี้ ยังมีผู้ไม่นับถือศาสนาใด ๆ ซึ่งเรียกว่า ผู้ที่ไม่มีศาสน.
พระนารทสัมพุทธเจ้าและศาสนา · พระรังสีมุนีสัมพุทธเจ้าและศาสนา ·
เทวดา
ระอินทร์ทรงช้างเอราวัณ เทวดา (devatā) หรือ เทพ (deva เทว) ตามคติความเชื่อทางศาสนาต่าง ๆ หมายถึง ชาวสวรรค์ที่เป็นโอปปาติกะ มีกายทิพย์ ตาทิพย์ หูทิพย์ และกินอาหารทิพย์ และเสวยสุขในสรวงสวรรค์ชั้นต่าง ๆ ซึ่งถือว่าเป็นภพภูมิที่ดี เทวดาผู้หญิงเรียกว่า เทวี หรือ "เทพี" หรือ นางฟ้า เทวดาผู้มีมิจฉาทิฐิ เรียกว่า มาร คำว่า เทพเจ้า หมายถึง เทวดาผู้เป็นใหญ่ ตามความเชื่อแบบพหุเทวนิยม ซึ่งเชื่อว่ามีอำนาจควบคุมธรรมชาติบางอย่าง เช่น สุริยเทพ เทพเจ้าแห่งสายฟ้.
พระนารทสัมพุทธเจ้าและเทวดา · พระรังสีมุนีสัมพุทธเจ้าและเทวดา ·
รายการด้านบนตอบคำถามต่อไปนี้
- สิ่งที่ พระนารทสัมพุทธเจ้าและพระรังสีมุนีสัมพุทธเจ้า มีเหมือนกัน
- อะไรคือความคล้ายคลึงกันระหว่าง พระนารทสัมพุทธเจ้าและพระรังสีมุนีสัมพุทธเจ้า
การเปรียบเทียบระหว่าง พระนารทสัมพุทธเจ้าและพระรังสีมุนีสัมพุทธเจ้า
พระนารทสัมพุทธเจ้า มี 11 ความสัมพันธ์ขณะที่ พระรังสีมุนีสัมพุทธเจ้า มี 10 ขณะที่พวกเขามีเหมือนกัน 7, ดัชนี Jaccard คือ 33.33% = 7 / (11 + 10)
การอ้างอิง
บทความนี้แสดงความสัมพันธ์ระหว่าง พระนารทสัมพุทธเจ้าและพระรังสีมุนีสัมพุทธเจ้า หากต้องการเข้าถึงบทความแต่ละบทความที่ได้รับการรวบรวมข้อมูลโปรดไปที่: