โลโก้
ยูเนี่ยนพีเดีย
การสื่อสาร
ดาวน์โหลดได้จาก Google Play
ใหม่! ดาวน์โหลด ยูเนี่ยนพีเดีย บน Android ™ของคุณ!
ติดตั้ง
เร็วกว่าเบราว์เซอร์!
 

ประวัติศาสตร์ของสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด (ค.ศ. 1986–2013)และสโมสรฟุตบอลเอฟเวอร์ตัน

ทางลัด: ความแตกต่างความคล้ายคลึงกันค่าสัมประสิทธิ์การเปรียบเทียบ Jaccardการอ้างอิง

ความแตกต่างระหว่าง ประวัติศาสตร์ของสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด (ค.ศ. 1986–2013)และสโมสรฟุตบอลเอฟเวอร์ตัน

ประวัติศาสตร์ของสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด (ค.ศ. 1986–2013) vs. สโมสรฟุตบอลเอฟเวอร์ตัน

ซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน กุนซือผู้ยิ่งใหญ่ผู้คุมทีมระหว่างปี 2529-2556 ประวัติศาสตร์ของสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด (2529-2556) เริ่มต้นขึ้นเมื่อยูไนเต็ดในฤดูกาล 2529-30 ภายใต้การคุมทีมของ รอน แอตกินสัน ทำผลงานได้อย่างย่ำแย่จนอันดับของทีมตกลงมาอยู่ที่ 4 จากท้ายตารางทำให้ในวันที่ 4 พฤศจิกายน 2529 มาร์ติน เอดเวิร์ดส ประธานสโมสรในขณะนั้นจึงทำการปลดแอตกินสันออกจากตำแหน่งและแต่งตั้ง อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ชาวสกอตวัย 46 ปีเข้ามาคุมทีมแทนในอีก 2 วันต่อมา เฟอร์กูสันซึ่งย้ายมาจากสโมสร อเบอร์ดีน เข้ามาคุมทีมยูไนเต็ดเมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2529 โดยเกมนัดแรกของเฟอร์กูสันคือเกมที่ยูไนเต็ดออกไปแพ้ ออกซ์ฟอร์ด ยูไนเต็ด 0-2 ในศึก ดิวิชั่น 1 (เดิม) เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2529 และชัยชนะเกมแรกของยูไนเต็ดในยุคของเฟอร์กูสันเกิดขึ้นในวันที่ 22 พฤศจิกายน 2529 ในนัดที่ยูไนเต็ดเปิด โอลด์แทรฟฟอร์ด เอาชนะทีมทหารเสือราชินี ควีนส์ปาร์ค เรนเจอร์ส ไป 2-0 และยูไนเต็ดก็สามารถเอาชนะยอดทีมของอังกฤษในยุคนั้นอย่าง ลิเวอร์พูล ไปได้ 1-0 ในศึกแดงเดือดเมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2529 อันตรงกับวัน บอกซิ่งเดย์ หรือวันแกะกล่องของขวัญหลัง วันคริสต์มาส โดยเมื่อจบฤดูกาลนั้นยูไนเต็ดสามารถขยับขึ้นมาจบในอันดับที่ 11 ของตารางทั้ง ๆ ที่ในฤดูกาลนั้นเฟอร์กูสันไม่ได้ซื้อนักเตะเข้ามาแม้แต่รายเดียว ฤดูกาล 2530-31 เฟอร์กูสันเริ่มเสริมนักเตะเข้าสู่ทีมโดยนักเตะคู่แรกของยูไนเต็ดในยุคของเฟอร์กูสันคือ วิฟ แอนเดอร์สัน ปราการหลังผิวสีร่างยักษ์จาก นอตติงแฮม ฟอเรสต์ และ ไบรอัน แมคแคลร์ กองหน้าดาวรุ่งจาก กลาสโกว์ เซลติก เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2530 และตามมาด้วย สตีฟ บรูซ ปราการหลังจอมแกร่งจาก นอริช ซิตี้ เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2530 ซึ่งก่อนหน้านั้นเฟอร์กูสันได้ติดต่อขอซื้อ สจ๊วร์ต เพียร์ซ จากนอตติงแฮม ฟอเรสต์และ ปีเตอร์ เบียร์ดสลีย์ จาก นิวคาสเซิลยูไนเต็ด แต่ทั้งสองก็ได้ปฏิเสธไปจากนั้นยูไนเต็ดก็ได้ซื้อตัว มาร์ค ฮิวจ์ส กองหน้าตัวเก่งของทีมที่ได้ย้ายไปร่วมทีม บาร์เซโลนา เมื่อปี 2528 กลับมาด้วยค่าตัว £ 1.8 ล้านปอนด์พร้อมกันนี้ยังได้ตัว จิม เลห์ตัน ผู้รักษาประตูจากอเบอร์ดีนทีมเก่าของเฟอร์กูสันเข้ามาแทนที่ แกรี เบลีย์ ที่ออกจากทีมไปและปีกดาวรุ่งวัย 17 ปีจาก ทอร์คีย์ ยูไนเต็ด อย่าง ลี ชาร์ป และยูไนเต็ดทำสถิติในการซื้อตัวที่แพงที่สุดในยุคนั้นของสโมสรบนเกาะอังกฤษเมื่อขอซื้อ พอล แกสคอยน์ จาก ทอตแนมฮอทสเปอร์ส ด้วยค่าตัว £ 2 ล้านปอนด์แต่ได้รับการปฏิเสธโดยเมื่อจบฤดูกาลนั้นยูไนเต็ดก็จบด้วยตำแหน่งรองแชมป์เป็นรองแค่ ลิเวอร์พูล แต่ในฤดูกาล 2531-32 ยูไนเต็ดกลับจบฤดูกาลด้วยอันดับที่ 11 ของตารางเนื่องจากอาการบาดเจ็บของนักเตะตัวหลักทำให้เฟอร์กูสันต้องดึงชาร์ปขึ้นมาจากทีมเยาวชน ในฤดูกาล 2532-33 เฟอร์กูสันได้ทำการซื้อตัวนักเตะเข้ามาหลายคนอาทิ นีล เวบบ์, ไมค์ ฟีแลน,รวมถึง แกรี พัลลิสเตอร์ ปราการหลังจาก มิดเดิลสโบรช์ เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2532 เป็นสถิติของสโมสรในยุคนั้นด้วยจำนวนเงิน £ 2.3 ล้านปอนด์ แดนนี วอลเลซ และมิดฟิลด์พันธุ์ดุอย่าง พอล อินซ์ จาก เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ซึ่งการมายูไนเต็ดของอินซ์ทำให้แฟนบอลของขุนค้อนไม่พอใจอย่างมากอยู่ช่วงหนึ่งรวมถึงได้ทำการปล่อยนักเตะสำคัญในยุคของแอตกินสันอย่าง พอล แมคกรัธ และ นอร์มัน ไวต์ไซด์ ออกจากทีม ในเดือนกันยายน 2532 นักธุรกิจชาวอังกฤษ ไมเคิล ไนท์ตัน ได้ขอเทคโอเวอร์สโมสรด้วยจำนวนเงิน £ 20 ล้านปอนด์พร้อมกับข่าวลือที่ว่าเฟอร์กูสันจะถูกยูไนเต็ดสั่งปลดแต่ด้วยเหตุผลบางประการทำให้การเทคโอเวอร์ครั้งนี้ล้มเหลวพร้อมกับที่เฟอร์กูสันสามารถพาทีมคว้าแชมป์ เอฟเอคัพ ได้เป็นครั้งแรกในรอบหลายปีด้วยการเอาชนะ คริสตัลพาเลซ ไปได้ 1-0 ในนัดรีเพลย์จากฝีเท้าของ ลี มาร์ติน ทั้ง ๆ ที่เมื่อจบฤดูกาลยูไนเต็ดกลับจบในอันดับที่ 13 ซึ่งนับเป็นอันดับที่แย่ที่สุดของทีมนับแต่กลับขึ้นสู่ลีกสูงสุดเมื่อฤดูกาล 2518-19 โดยมีแต้มห่างจากโซนตกชั้นเพียง 5 แต้มซึ่งการคว้าแชมป์เอฟเอคัพครั้งนี้ทำให้ยูไนเต็ดได้ไปเล่น ยูฟ่าคัพวินเนอร์สคัพ ในฤดูกาล 2533-34 ยูไนเต็ดได้ทำการเสริมตัวนักเตะเข้ามาอาทิ เดนนิส เออร์วิน แบ็กซ้ายจอมขยันจาก โอลด์แฮม แอทเลติก รวมถึงการดึงปีกดาวรุ่งชาวเวลส์วัย 17 ปีอย่าง ไรอัน วิลสัน หรือต่อมาคือ ไรอัน กิ๊กส์ จากทีมเยาวชนขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่โดยได้ประเดิมสนามนัดแรกในนามทีมชุดใหญ่ในนัดที่ยูไนเต็ดเปิดโอลด์แทรฟฟอร์ดเจอกับ เอฟเวอร์ตัน เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2533 โดยเมื่อจบฤดูกาลยูไนเต็ดสามารถจบในอันดับที่ 6 แต่บอลถ้วยในประเทศกลับล้มเหลวทั้งหมดโดยเอฟเอคัพยูไนเต็ดในฐานะแชมป์เก่าต้องตกรอบไปในรอบ 5 ด้วยน้ำมือของ นอริช ซิตี้ 2-1 ส่วน ลีกคัพ สามารถเข้ารอบชิงแต่ไปแพ้ เชฟฟิลดิ์ เว้นสเดย์ 1-0 ส่วนคัพวินเนอร์สคัพยูไนเต็ดสามารถเข้าถึงรอบชิงโดยไปพบกับ บาร์เซโลนา ภายใต้การคุมทีมของ โยฮัน ไกรฟฟ์ เจ้าของฉายา นักเตะเทวดา โดยการแข่งขันนัดนี้ไปแข่งที่สนาม เด คุป สนามเหย้าของ เฟเยนูร์ด ร็อตเธอร์ดัม ผลปรากฏว่ายูไนเต็ดสามารถเอาชนะไปได้ 2-1 จากการทำประตูของ มาร์ค ฮิวจ์ส ทั้ง 2 ลูกซึ่งนับเป็นสโมสรแรกจากอังกฤษที่สามารถคว้าแชมป์บอลสโมสรยุโรปในรอบ 5 ปีนับแต่เหตุการณ์ โศกนาฏกรรมเฮย์เซล เมื่อปี 2528 และแชมป์บอลสโมสรยุโรปของสโมสรครั้งแรกในรอบ 23 ปีนับแต่แชมป์ ยูโรเปี้ยน คัพ เมื่อปี 2511 ซึ่งก่อนจะเริ่มฤดูกาลใหม่เฟอร์กูสันได้ทำการขายนักเตะคนแรกที่เขาซื้อเข้ามาอย่าง วิฟ แอนเดอร์สัน ไปให้กับ เชฟฟิลดิ์ เว้นสเดย์ ในฤดูกาล 2534-35 ยูไนเต็ดได้ทำการดึงตัว ปีเตอร์ ชไมเคิล จาก บรอนด์บี เข้ามาเป็นมือ 1 แทน จิม เลห์ตัน ที่ตกเป็นมือ 2 พอล ปาร์คเกอร์ จาก ควีนส์ปาร์ค เรนเจอร์ส รวมถึงในฤดูกาลนี้ ไรอัน กิ๊กส์ ได้ก้าวขึ้นมายึดตำแหน่งตัวจริงจาก ลี ชาร์ป และกลายมาเป็นกำลังสำคัญของเฟอร์กูสันจนกระทั่งแขวนสตั๊ดทำให้ได้รับฉายาจากแฟนบอลและนักข่าวว่า ปีกพ่อมด โดยในฤดูกาลนี้ยูไนเต็ดสามารถจบในอันดับ 2 โดยแชมป์ในฤดูกาลนั้นซึ่งถือเป็นแชมป์ดิวิชั่น 1 ทีมสุดท้ายก่อนจะเปลี่ยนเป็น พรีเมียร์ลีก คือ ลีดส์ ยูไนเต็ด ภายใต้การคุมทีมของ โฮเวิร์ด วิลกินสัน ซึ่งนำทีมโดย เอริค คันโตนา ฤดูกาล 2535-36 ซึ่งถือเป็นฤดูกาลแรกของ พรีเมียร์ลีก ยูไนเต็ดได้ทำการกระชากตัว เอริค คันโตนา มาจาก ลีดส์ ยูไนเต็ด ตามคำแนะนำของ สตีฟ บรูซ กัปตันทีมของยูไนเต็ดในขณะนั้นเมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน.. มสรฟุตบอลเอฟเวอร์ตัน (Everton Football Club) เป็นสโมสรฟุตบอลของอังกฤษ มีสนามเหย้าคือกูดิสันพาร์กในเมืองลิเวอร์พูล ซึ่งห่างจากสนามแอนฟีลด์ของลิเวอร์พูลเพียงแค่สวนสาธารณะกั้น เอฟเวอร์ตันเป็นคู่ปรับร่วมเมืองของลิเวอร์พูล สนามประจำทีมเอฟเวอร์ตันชื่อ กูดิสันพาร์ก ซึ่งห่างจากสนามของลิเวอร์พูลเพียงแค่สวนสาธารณะกั้น แฟนฟุตบอลชาวไทยตั้งฉายาให้ว่า "ทอฟฟีสีน้ำเงิน".

ความคล้ายคลึงกันระหว่าง ประวัติศาสตร์ของสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด (ค.ศ. 1986–2013)และสโมสรฟุตบอลเอฟเวอร์ตัน

ประวัติศาสตร์ของสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด (ค.ศ. 1986–2013)และสโมสรฟุตบอลเอฟเวอร์ตัน มี 7 สิ่งที่เหมือนกัน (ใน ยูเนี่ยนพีเดีย): ฟุตบอลลีกเฟิสต์ดิวิชันพรีเมียร์ลีกยูฟ่าคัพวินเนอร์สคัพยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกลิเวอร์พูลสโมสรฟุตบอลควีนส์พาร์กเรนเจอส์เอฟเอคัพ

ฟุตบอลลีกเฟิสต์ดิวิชัน

วิชัน 1 อังกฤษ (เดิม) เป็นอดีตลีกสูงสุดของอังกฤษก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 1888 โดย สมาคมฟุตบอลอังกฤษ ซึ่งลีกดิวิชัน 1 ก็แข่งขันมาเรื่อยจนจบฤดูกาล 1991-92 เมื่อ 20 ทีมในฤดูกาลนั้นได้ประกาศถอนตัวออกจากฟุตบอลลีกไปตั้งพรีเมียร์ลีก ดิวิชัน 1 จึงได้เปลี่ยนชื่อเป็น ดิวิชัน 2 ต่อมาในปี 2004 ดิวิชัน 2 ก็ได้เปลี่ยนชื่อกลับมาใช้ดิวิชัน 1 อีกครั้ง แต่ได้ใช้อยู่เพียง 2 ปีเพราะฟุตบอลลีกได้เปลี่ยนชื่ออีกครั้งเป็นลีกเดอะแชมเปียนชิป จนถึงปัจจุบัน ดิวิชันหนึ่งคือการแข่งขันลีกสูงสุดของประเทศอังกฤษปัจจุบันคือ พรีเมียร์ลีก ทีมที่ได้ลีกดิวิชัน 1 คือ.

ประวัติศาสตร์ของสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด (ค.ศ. 1986–2013)และฟุตบอลลีกเฟิสต์ดิวิชัน · ฟุตบอลลีกเฟิสต์ดิวิชันและสโมสรฟุตบอลเอฟเวอร์ตัน · ดูเพิ่มเติม »

พรีเมียร์ลีก

รีเมียร์ลีก (Premier League) เป็นระบบการแข่งขันฟุตบอลลีกในระดับสูงสุดของประเทศอังกฤษ ก่อตั้งในปี พ.ศ. 2535 ภายใต้การบริหารของสมาคมฟุตบอลอังกฤษ การแข่งขันพรีเมียร์ลีกเป็นที่รวมของ 20 สโมสรฟุตบอลในระดับสูงสุดของอังกฤษเข้าด้วยกัน โดยปัจจุบันมีเพียง 6 ทีมเท่านั้น ที่ชนะเลิศในการแข่งขันรายการนี้ ได้แก่ แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด 13 สมัย, เชลซี 5 สมัย, อาร์เซนอล กับแมนเชสเตอร์ซิตี ทีมละ 3 สมัย, แบล็กเบิร์นโรเวอส์ และเลสเตอร์ซิตี ทีมละ 1 สมัย พรีเมียร์ลีกเป็นโลโก้พิเศษที่สโมสรฟุตบอลในอังกฤษต่างก็มาเป็นสมาชิกใหม่ในอีกไม่ช้.

ประวัติศาสตร์ของสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด (ค.ศ. 1986–2013)และพรีเมียร์ลีก · พรีเมียร์ลีกและสโมสรฟุตบอลเอฟเวอร์ตัน · ดูเพิ่มเติม »

ยูฟ่าคัพวินเนอร์สคัพ

ูฟ่า คัพ วินเนอร์ส คัพ (UEFA Cup Winners’ Cup, ชื่อเดิม ยูโรเปี้ยน คัพ วินเนอร์ส คัพ) เป็นรายการการแข่งขันฟุตบอลสโมสรของยุโรป โดยการนำเอาทีมที่เป็นแชมป์ฟุตบอลถ้วยภายในของแต่ละประเทศ ของฟุตบอลลีกยุโรปในปีนั้นๆ มาทำการแข่งขันกัน จัดการแข่งขันโดยยูฟ่า เริ่มจัดการแข่งขันตั้งแต่ฤดูกาล 1960-61 จนกระทั่งถึงฤดูกาล 1998-99 การแข่งขันถ้วยดังกล่าวก็ได้ถูกล้มเลิกไป เพื่อหลีกทางให้กับการจัดการแข่งขัน แชมเปี้ยนส์ ลีก โดยที่ผู้ชนะเลิศในฟุตบอลถ้วยภายในของแต่ละประเทศ ก็จะได้สิทธิในการเข้าร่วมแข่งขันในถ้วยยูโรป้า ลีกแทน คัพ วินเนอร์สคัพ ได้รับการพิจารณาให้เป็นการแข่งขันของสโมสรยุโรปอันดับที่สองรองจาก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก หรือยูโรเปี้ยน คัพ แต่มีความสำคัญมากกว่ายูโรป้า ลีก แม้ผู้บรรยายกีฬาหลายคนมักจะระบุว่า การได้แชมป์รายการนี้มีระดับความง่ายที่สุดใน 3 ถ้วยก็ตาม.

ประวัติศาสตร์ของสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด (ค.ศ. 1986–2013)และยูฟ่าคัพวินเนอร์สคัพ · ยูฟ่าคัพวินเนอร์สคัพและสโมสรฟุตบอลเอฟเวอร์ตัน · ดูเพิ่มเติม »

ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก

ูฟ่าแชมเปียนส์ลีก (UEFA Champions League; ชื่อเดิม: ยูโรเปียนคัพ; European Cup) เป็นการแข่งขันฟุตบอลระหว่างสโมสรต่าง ๆ ภายในทวีปยุโรป ซึ่งจัดการแข่งขันโดยสมาคมฟุตบอลยุโรป (ยูฟ่า) เริ่มการแข่งขันครั้งแรกในปี ค.ศ. 1955 ก่อนจะเปลี่ยนมาใช้ชื่อปัจจุบันเมื่อปี ค.ศ. 1992 โดยทีมที่ได้อับดับที่ 1-3 ในแต่ละลีกจะได้ไปแข่งโดยอัตโนมัติ ส่วนที่ 4 จะได้ไปเพลย์ออฟรอบสุดท้ายทั้งนี้ขึ้นอยู่กับมาตรฐานของแต่ละลีกเช่นกันจากการจัดอันดับคะแนนลีกของยูฟ่า ลักษณะของการแข่งขันรายการนี้จะเป็นการนำทีมที่มีคะแนนสะสมมากที่สุดของแต่ละลีกสูงสุดของแต่ละประเทศในทวีปยุโรปมาแข่งขันกัน โดยพิจารณาออกมาเป็นโควตาของแต่ละลีก พรีเมียร์ลีกของอังกฤษ, ลาลีกาของสเปน และบุนเดสลีกาของเยอรมนีมีโควตาสี่ทีม ส่วนเซเรียอาของอิตาลีมีโควตาสามทีมเป็นต้น ทั้งนี้ สโมสรที่ชนะเลิศมากที่สุดคือ เรอัลมาดริด (สเปน, 12 ครั้ง) อันดับสองคือ เอซีมิลาน (อิตาลี, 7 ครั้ง) อันดับสามคือ บาเยิร์นมิวนิก (เยอรมัน, 5 ครั้ง) โดยสโมสรที่ชนะเลิศ 3 สมัยติดต่อกันหรือชนะเลิศครบ 5 สมัย จะได้รับถ้วยรางวัลไปเป็นกรรมสิทธิ์ของสโมสร เช่นเดียวกับถ้วยรางวัลอื่น ๆ ของยูฟ่า โดยที่เรอัลมาดริดได้ไปเมื่อ ค.ศ. 1958, อายักซ์ (ค.ศ. 1973), บาเยิร์นมิวนิก (ค.ศ. 1976), เอซีมิลาน (ค.ศ. 1994) และลิเวอร์พูล (ค.ศ. 2005) บาเซโลน่า (ค.ศ. 2015) ปัจจุบันในฤดูกาล 2016-17 สโมสรที่ชนะเลิศคือ เรอัลมาดริด และเป็นแชมป์สมัยที่สิบสองในรายการนี้ โดยเอาชนะยูเวนตุสไป 4-1 ในช่วง 90 นาที ในนัดชิงชนะเลิศ 2017.

ประวัติศาสตร์ของสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด (ค.ศ. 1986–2013)และยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก · ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกและสโมสรฟุตบอลเอฟเวอร์ตัน · ดูเพิ่มเติม »

ลิเวอร์พูล

มืองลิเวอร์พูล (Liverpool) เป็นเมืองที่มีฐานะเป็นนครและเป็นเมืองเมโทรโพลิตันของเมอร์ซีย์ไซด์ในภาคการปกครองตะวันตกเฉียงเหนือของอังกฤษ ลิเวอร์พูลตั้งอยู่ทางตะวันออกของปากน้ำเมอร์ซีย์ (Mersey Estuary) ลิเวอร์พูลก่อตั้งมาตั้งแต..

ประวัติศาสตร์ของสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด (ค.ศ. 1986–2013)และลิเวอร์พูล · ลิเวอร์พูลและสโมสรฟุตบอลเอฟเวอร์ตัน · ดูเพิ่มเติม »

สโมสรฟุตบอลควีนส์พาร์กเรนเจอส์

ระวังสับสนกับ: สโมสรฟุตบอลควีนส์พาร์ก ในสกอตติชเติร์ชลีก สโมสรฟุตบอลควีนส์พาร์กเรนเจอส์ (Queens Park Rangers Football Club, อักษรย่อ: QPR) เป็นสโมสรฟุตบอลอาชีพอังกฤษ จากเมืองไวต์ซิตี แฮมเมอร์สมิทและฟูแลม เวสต์ลอนดอน กรุงลอนดอน สโมสรเป็นผู้ชนะในฟุตบอลลีกแชมเปียนชิปฤดูกาล 2010-11 ทำให้เลื่อนชั้นมายังพรีเมียร์ลีกเป็นครั้งแรกในรอบ 15 ปี สโมสรเป็นผู้ชนะเลิศในฟุตบอลลีกคัพ ปี..

ประวัติศาสตร์ของสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด (ค.ศ. 1986–2013)และสโมสรฟุตบอลควีนส์พาร์กเรนเจอส์ · สโมสรฟุตบอลควีนส์พาร์กเรนเจอส์และสโมสรฟุตบอลเอฟเวอร์ตัน · ดูเพิ่มเติม »

เอฟเอคัพ

อฟเอคัพ (FA Cup) เป็นการแข่งขันฟุตบอลถ้วยที่ใช้การแข่งขันแบบแพ้คัดออก (น็อกเอาต์) ซึ่งจัดการแข่งขันโดยสมาคมฟุตบอลอังกฤษ (เอฟเอ) เริ่มการแข่งขันเป็นครั้งแรกเมื่อ ค.ศ. 1872 ปัจจุบันมีสโมสรฟุตบอลเข้าร่วมทั้งสิ้น 762 ทีม โดยสโมสรที่ชนะเลิศสูงสุดคือ อาร์เซนอล จำนวน 13 ครั้ง ลักษณะของฟุตบอลเอฟเอคัพ จะมีสโมสรฟุตบอลหลายระดับร่วมการแข่งขัน โดยสโมสรในระดับล่างของฟุตบอลอังกฤษ จะแข่งขันรอบคัดเลือก แบบแพ้คัดออกเสียก่อน โดยสโมสรในลีกระดับสูง จะเข้าร่วมแข่งขันในรอบหลังๆ เช่น สโมสรในลีกวันและลีกทู จะเข้ามาแข่งขันในรอบแรกเมื่อจบรอบคัดเลือก ในขณะที่สโมสรจากพรีเมียร์ลีก จะเข้ามาร่วมแข่งขันในรอบที่สาม.

ประวัติศาสตร์ของสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด (ค.ศ. 1986–2013)และเอฟเอคัพ · สโมสรฟุตบอลเอฟเวอร์ตันและเอฟเอคัพ · ดูเพิ่มเติม »

รายการด้านบนตอบคำถามต่อไปนี้

การเปรียบเทียบระหว่าง ประวัติศาสตร์ของสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด (ค.ศ. 1986–2013)และสโมสรฟุตบอลเอฟเวอร์ตัน

ประวัติศาสตร์ของสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด (ค.ศ. 1986–2013) มี 40 ความสัมพันธ์ขณะที่ สโมสรฟุตบอลเอฟเวอร์ตัน มี 59 ขณะที่พวกเขามีเหมือนกัน 7, ดัชนี Jaccard คือ 7.07% = 7 / (40 + 59)

การอ้างอิง

บทความนี้แสดงความสัมพันธ์ระหว่าง ประวัติศาสตร์ของสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด (ค.ศ. 1986–2013)และสโมสรฟุตบอลเอฟเวอร์ตัน หากต้องการเข้าถึงบทความแต่ละบทความที่ได้รับการรวบรวมข้อมูลโปรดไปที่:

Hey! เราอยู่ใน Facebook ตอนนี้! »