โลโก้
ยูเนี่ยนพีเดีย
การสื่อสาร
ดาวน์โหลดได้จาก Google Play
ใหม่! ดาวน์โหลด ยูเนี่ยนพีเดีย บน Android ™ของคุณ!
ฟรี
เร็วกว่าเบราว์เซอร์!
 

บิเซนเต เดล โบสเกและฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2012 นัดชิงชนะเลิศ

ทางลัด: ความแตกต่างความคล้ายคลึงกันค่าสัมประสิทธิ์การเปรียบเทียบ Jaccardการอ้างอิง

ความแตกต่างระหว่าง บิเซนเต เดล โบสเกและฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2012 นัดชิงชนะเลิศ

บิเซนเต เดล โบสเก vs. ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2012 นัดชิงชนะเลิศ

ซนเต เดล โบสเก กอนซาเลซ (Vicente del Bosque González; เกิดเมื่อวันที่ 23 ธันวาคม ค.ศ. 1950) เป็นอดีตนักฟุตบอลชาวสเปนและเป็น อดีตผู้จัดการทีมทีมชาติสเปน ที่นำทีมได้แชมป์ในการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2008 และต่อมาอีก 2 ปีต่อมา ก็พาสเปนได้แชมป์โลกครั้งแรกในประวัติศาสตร์ฟุตบอลของสเปน ในฟุตบอลโลก 2010 โดยเป็นผู้จัดการทีมในปี.. การแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2012 นัดชิงชนะเลิศ กำหนดจัดให้มีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 1 กรกฎาคม ค.ศ. 2012 ที่สนามกีฬาโอลิมปิกแห่งชาติเคียฟ ในเคียฟของยูเครน เพื่อตัดสินหาทีมชนะเลิศของการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2012 (ยูโร 2012) ทีมที่ป้องกันตำแหน่งชนะเลิศคือสเปน ซึ่งชนะการแข่งขันต่อเยอรมนี 1-0 ในนัดชิงชนะเลิศเมื่อปี 2008 สเปนประกบคู่มาแข่งขันกับอิตาลี ในความพยายามรักษาตำแหน่งชนะเลิศของพวกเขาไว้ หากสเปนชนะเลิศในครั้งนี้ พวกเขาจะเป็นทีมแรกที่ชนะเลิศ การแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป สองสมัยติดต่อกัน และจะเป็นฟุตบอลทีมชาติแรก ที่ชนะเลิศการแข่งขันรายการใหญ่ (ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป และ ฟุตบอลโลก) สามครั้งติดต่อกัน ผู้ชนะเลิศในรายการนี้ จะได้รับสิทธิเข้าแข่งขัน ในรายการคอนเฟเดอเรชันส์คัพของฟีฟ่า ประจำปี ค.ศ. 2013 โดยอัตโนมัติ อย่างไรก็ตาม สเปนได้สิทธิเข้าแข่งขันอยู่ก่อนแล้ว ในสถานะผู้ชนะเลิศฟุตบอลโลก 2010 ดังนั้นอิตาลีจะผ่านการคัดเลือกจากยูฟ่าโดยอัตโนมัติ เมื่อเข้าถึงนัดชิงชนะเลิศนี้ ไม่ว่าจะเป็นผู้ชนะเลิศหรือไม่ก็ตาม.

ความคล้ายคลึงกันระหว่าง บิเซนเต เดล โบสเกและฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2012 นัดชิงชนะเลิศ

บิเซนเต เดล โบสเกและฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2012 นัดชิงชนะเลิศ มี 4 สิ่งที่เหมือนกัน (ใน ยูเนี่ยนพีเดีย): ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2008ฟุตบอลทีมชาติสเปนฟุตบอลโลก 2010ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก

ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2008

การแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2008 หรือรู้จักกันในชื่อ ยูโร 2008 (UEFA Euro 2008) เป็นการแข่งขันฟุตบอลยูโร ครั้งที่ 13 จัดขึ้นที่ประเทศออสเตรียและสวิตเซอร์แลนด์ ระหว่างวันที่ 7-29 มิถุนายน..​2551 โดยทีมชาติกรีซเป็นแชมป์การแข่งขันก่อนหน้า การแข่งขันฟุตบอลยูโรครั้งนี้เป็นครั้งที่สองที่มีเจ้าภาพร่วม ถัดจาก ยูโร 2000 ซึ่งมีเบลเยียมและเนเธอร์แลนด์เป็นเจ้าภาพร่วม ยูโร 2008 รอบสุดท้ายมีทีมเข้าแข่งขันทั้งหมด 16 ทีม โดยออสเตรียและสวิตเซอร์แลนด์ได้สิทธิ์เข้ารอบอัตโนมัติในฐานะเจ้าภาพ ส่วนอีก 14 ทีมจะคัดเลือกโดยเริ่มแข่งขันตั้งแต่เดือนสิงหาคม พ.ศ. 2549 ผู้ชนะของการแข่งขันคราวนี้จะได้สิทธิไปแข่งขันใน ฟีฟ่าคอนเฟเดอเรชันส์คัพ 2009 ที่จัดขึ้นที่ประเทศแอฟริกาใต้ ในปี พ.ศ. 2552 ซึ่งไม่เป็นการบังคับที่จะต้องเข้าร่วม.

บิเซนเต เดล โบสเกและฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2008 · ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2008และฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2012 นัดชิงชนะเลิศ · ดูเพิ่มเติม »

ฟุตบอลทีมชาติสเปน

ฟุตบอลทีมชาติสเปน (Selección de fútbol de España) เป็นทีมฟุตบอลประจำประเทศสเปน อยู่ภายใต้การควบคุมและเป็นตัวแทนของราชสหพันธ์ฟุตบอลสเปนในการแข่งขันระหว่างประเทศนัดต่าง ๆ ซึ่งจัดขึ้นโดยสหพันธ์สมาคมฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) และสหภาพสมาคมฟุตบอลยุโรป (ยูฟ่า) ทีมชาติสเปนเป็นที่รู้จักกันในฉายา "La Furia Española" และฉายาซึ่งเป็นที่นิยมมากกว่าคือ "La Furia Roja" มาจากคำที่ชาวอิตาลีเป็นผู้คิดขึ้นและนำมาใช้เรียกทีมชาตินี้ในภาษาของตนว่า "Furia Rossa" คำว่า "ฟูเรีย" (ความดุเดือด, ความโมโหร้าย) มาจากรูปแบบการเล่นที่ค่อนข้างรุนแรงของนักฟุตบอลสเปนในการแข่งขันนัดต่าง ๆ ที่ทีมชาติสเปนเข้าร่วมเป็นครั้งแรกที่เมืองแอนต์เวิร์ป (ประเทศเบลเยียม) และต่อมาก็ถูกนำมาใช้เรียกเหตุการณ์การปล้นเมืองแอนต์เวิร์ปของสเปนในสงครามแปดสิบปี (ค.ศ. 1576) ซึ่งเป็นตำนานมืดเรื่องหนึ่งในประวัติศาสตร์การทหารของสเปนด้วย ส่วน "รอสซา" (สีแดง) มาจากสีของเสื้อทีม สำหรับในประเทศไทยนั้นทีมนี้มีฉายาว่า "กระทิงดุ" สเปนได้เข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอลโลก 12 ครั้ง และเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันในฟุตบอลโลก ปี 1982 ผลงานที่ดีที่สุดที่ทีมชาติสเปนเคยทำได้นั้นคือชนะเลิศในปี2010 ที่ประเทศแอฟริกาใต้ ทีมชาติสเปนยังได้เข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป (ฟุตบอลยูโร) 8 ครั้ง ครั้งสำคัญคือฟุตบอลยูโร ปี 1964 ซึ่งถือเป็นแชมป์ในบ้านตัวเองหลังจากเอาชนะสหภาพโซเวียตไป 2-1 แต่ในรอบชิงชนะเลิศฟุตบอลยูโร ปี 1984 ซึ่งจัดขึ้นที่ประเทศฝรั่งเศส สเปนทำได้เพียงรองแชมป์เพราะแพ้ให้กับเจ้าบ้านด้วยคะแนน 2-0 และไม่ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศอีกเลยจนกระทั่งในการแข่งขันฟุตบอลยูโร ปี 2008 สเปนก็ผ่านเข้ามาถึงรอบชิงชนะเลิศได้สำเร็จโดยพบกับเยอรมนีและคว้าแชมป์ไปได้ในที่สุด ความสำเร็จครั้งใหญ่ที่สุดในกีฬาโอลิมปิกของฟุตบอลทีมชาติสเปนได้แก่ การแข่งขันโอลิมปิกฤดูร้อน ค.ศ. 1992 ที่เมืองบาร์เซโลนา สเปนคว้าเหรียญทองได้สำเร็จหลังจากเอาชนะโปแลนด์ 3-2 ในรอบชิงชนะเลิศที่สนามกัมนอว์ (Camp Nou) ส่วนการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อนที่เมืองซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย ค.ศ. 2000 สเปนได้เหรียญเงินโดยแพ้แคเมอรูนหลังจากการดวลจุดโทษในรอบชิงชนะเลิศ นอกจากนี้ สเปนยังเคยได้เหรียญเงินในกีฬาโอลิมปิกที่เมืองแอนต์เวิร์ป ประเทศเบลเยียม ค.ศ. 1920 อีกด้ว.

บิเซนเต เดล โบสเกและฟุตบอลทีมชาติสเปน · ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2012 นัดชิงชนะเลิศและฟุตบอลทีมชาติสเปน · ดูเพิ่มเติม »

ฟุตบอลโลก 2010

ฟุตบอลโลก ฟีฟ่า 2010 เป็นการแข่งขันฟุตบอลโลกครั้งที่ 19 ที่เป็นรายการแข่งขันฟุตบอลนานาชาติ ซึ่งจัดขึ้นที่ประเทศแอฟริกาใต้ ระหว่างวันที่ 11 มิถุนายน ถึงวันที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2553 โดยเริ่มการคัดเลือกในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2550 และมีฟุตบอลทีมชาติสมาชิกฟีฟ่า เข้าร่วมแข่งขันจำนวน 204 จาก 208 ทีม ฟุตบอลโลกครั้งนี้จึงเป็นการแข่งขันซึ่งมีประเทศเข้าร่วมแข่งขันจำนวนมากที่สุด เทียบเท่ากับจำนวนประเทศในโอลิมปิกฤดูร้อน 2008 และยังเป็นฟุตบอลโลกครั้งแรกที่ชาติจากทวีปแอฟริกาเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน หลังจากที่แอฟริกาใต้ประมูลชนะโมร็อกโกและอียิปต์ในการเสนอชื่อ ทั้งนี้ ทีมชาติอิตาลีจะลงแข่งขันเพื่อป้องกันตำแหน่งชนะเลิศที่ได้มาในฟุตบอลโลก 2006 ซึ่งจัดขึ้นในประเทศเยอรมนี ทีมชาติสเปนซึ่งชนะเลิศมาจากการแข่งขันชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป เมื่อปี พ.ศ. 2551 ชนะเลิศในการแข่งขันกับทีมชาติเนเธอร์แลนด์ 1 ต่อ 0 ประตูในช่วงต่อเวลาพิเศษ โดยอันเดรส อีเนียสตาทำประตูให้กับสเปน และทำให้ทีมสเปนชนะเลิศการแข่งขันฟุตบอลโลกเป็นสมัยแรก, ผู้ชนะเลิศครั้งก่อนอย่างอิตาลี รวมถึงฝรั่งเศสซึ่งเป็นทีมรองชนะเลิศครั้งก่อน ล้วนแต่ตกรอบแรก โดยที่อาร์เจนตินา (รอบ 8 ทีม), บราซิล (รอบ 8 ทีม) และเยอรมนี (รอบรองชนะเลิศ) ส่วนเจ้าภาพตกรอบแรก โดยมี 4 คะแนน ได้อันดับ 3 ของกลุ่ม A.

บิเซนเต เดล โบสเกและฟุตบอลโลก 2010 · ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2012 นัดชิงชนะเลิศและฟุตบอลโลก 2010 · ดูเพิ่มเติม »

ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก

ูฟ่าแชมเปียนส์ลีก (UEFA Champions League; ชื่อเดิม: ยูโรเปียนคัพ; European Cup) เป็นการแข่งขันฟุตบอลระหว่างสโมสรต่าง ๆ ภายในทวีปยุโรป ซึ่งจัดการแข่งขันโดยสมาคมฟุตบอลยุโรป (ยูฟ่า) เริ่มการแข่งขันครั้งแรกในปี ค.ศ. 1955 ก่อนจะเปลี่ยนมาใช้ชื่อปัจจุบันเมื่อปี ค.ศ. 1992 โดยทีมที่ได้อับดับที่ 1-3 ในแต่ละลีกจะได้ไปแข่งโดยอัตโนมัติ ส่วนที่ 4 จะได้ไปเพลย์ออฟรอบสุดท้ายทั้งนี้ขึ้นอยู่กับมาตรฐานของแต่ละลีกเช่นกันจากการจัดอันดับคะแนนลีกของยูฟ่า ลักษณะของการแข่งขันรายการนี้จะเป็นการนำทีมที่มีคะแนนสะสมมากที่สุดของแต่ละลีกสูงสุดของแต่ละประเทศในทวีปยุโรปมาแข่งขันกัน โดยพิจารณาออกมาเป็นโควตาของแต่ละลีก พรีเมียร์ลีกของอังกฤษ, ลาลีกาของสเปน และบุนเดสลีกาของเยอรมนีมีโควตาสี่ทีม ส่วนเซเรียอาของอิตาลีมีโควตาสามทีมเป็นต้น ทั้งนี้ สโมสรที่ชนะเลิศมากที่สุดคือ เรอัลมาดริด (สเปน, 12 ครั้ง) อันดับสองคือ เอซีมิลาน (อิตาลี, 7 ครั้ง) อันดับสามคือ บาเยิร์นมิวนิก (เยอรมัน, 5 ครั้ง) โดยสโมสรที่ชนะเลิศ 3 สมัยติดต่อกันหรือชนะเลิศครบ 5 สมัย จะได้รับถ้วยรางวัลไปเป็นกรรมสิทธิ์ของสโมสร เช่นเดียวกับถ้วยรางวัลอื่น ๆ ของยูฟ่า โดยที่เรอัลมาดริดได้ไปเมื่อ ค.ศ. 1958, อายักซ์ (ค.ศ. 1973), บาเยิร์นมิวนิก (ค.ศ. 1976), เอซีมิลาน (ค.ศ. 1994) และลิเวอร์พูล (ค.ศ. 2005) บาเซโลน่า (ค.ศ. 2015) ปัจจุบันในฤดูกาล 2016-17 สโมสรที่ชนะเลิศคือ เรอัลมาดริด และเป็นแชมป์สมัยที่สิบสองในรายการนี้ โดยเอาชนะยูเวนตุสไป 4-1 ในช่วง 90 นาที ในนัดชิงชนะเลิศ 2017.

บิเซนเต เดล โบสเกและยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก · ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2012 นัดชิงชนะเลิศและยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก · ดูเพิ่มเติม »

รายการด้านบนตอบคำถามต่อไปนี้

การเปรียบเทียบระหว่าง บิเซนเต เดล โบสเกและฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2012 นัดชิงชนะเลิศ

บิเซนเต เดล โบสเก มี 15 ความสัมพันธ์ขณะที่ ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2012 นัดชิงชนะเลิศ มี 82 ขณะที่พวกเขามีเหมือนกัน 4, ดัชนี Jaccard คือ 4.12% = 4 / (15 + 82)

การอ้างอิง

บทความนี้แสดงความสัมพันธ์ระหว่าง บิเซนเต เดล โบสเกและฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2012 นัดชิงชนะเลิศ หากต้องการเข้าถึงบทความแต่ละบทความที่ได้รับการรวบรวมข้อมูลโปรดไปที่:

Hey! เราอยู่ใน Facebook ตอนนี้! »