ความคล้ายคลึงกันระหว่าง บิเซนเต เดล โบสเกและฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2012 นัดชิงชนะเลิศ
บิเซนเต เดล โบสเกและฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2012 นัดชิงชนะเลิศ มี 4 สิ่งที่เหมือนกัน (ใน ยูเนี่ยนพีเดีย): ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2008ฟุตบอลทีมชาติสเปนฟุตบอลโลก 2010ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก
ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2008
การแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2008 หรือรู้จักกันในชื่อ ยูโร 2008 (UEFA Euro 2008) เป็นการแข่งขันฟุตบอลยูโร ครั้งที่ 13 จัดขึ้นที่ประเทศออสเตรียและสวิตเซอร์แลนด์ ระหว่างวันที่ 7-29 มิถุนายน..2551 โดยทีมชาติกรีซเป็นแชมป์การแข่งขันก่อนหน้า การแข่งขันฟุตบอลยูโรครั้งนี้เป็นครั้งที่สองที่มีเจ้าภาพร่วม ถัดจาก ยูโร 2000 ซึ่งมีเบลเยียมและเนเธอร์แลนด์เป็นเจ้าภาพร่วม ยูโร 2008 รอบสุดท้ายมีทีมเข้าแข่งขันทั้งหมด 16 ทีม โดยออสเตรียและสวิตเซอร์แลนด์ได้สิทธิ์เข้ารอบอัตโนมัติในฐานะเจ้าภาพ ส่วนอีก 14 ทีมจะคัดเลือกโดยเริ่มแข่งขันตั้งแต่เดือนสิงหาคม พ.ศ. 2549 ผู้ชนะของการแข่งขันคราวนี้จะได้สิทธิไปแข่งขันใน ฟีฟ่าคอนเฟเดอเรชันส์คัพ 2009 ที่จัดขึ้นที่ประเทศแอฟริกาใต้ ในปี พ.ศ. 2552 ซึ่งไม่เป็นการบังคับที่จะต้องเข้าร่วม.
บิเซนเต เดล โบสเกและฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2008 · ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2008และฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2012 นัดชิงชนะเลิศ ·
ฟุตบอลทีมชาติสเปน
ฟุตบอลทีมชาติสเปน (Selección de fútbol de España) เป็นทีมฟุตบอลประจำประเทศสเปน อยู่ภายใต้การควบคุมและเป็นตัวแทนของราชสหพันธ์ฟุตบอลสเปนในการแข่งขันระหว่างประเทศนัดต่าง ๆ ซึ่งจัดขึ้นโดยสหพันธ์สมาคมฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) และสหภาพสมาคมฟุตบอลยุโรป (ยูฟ่า) ทีมชาติสเปนเป็นที่รู้จักกันในฉายา "La Furia Española" และฉายาซึ่งเป็นที่นิยมมากกว่าคือ "La Furia Roja" มาจากคำที่ชาวอิตาลีเป็นผู้คิดขึ้นและนำมาใช้เรียกทีมชาตินี้ในภาษาของตนว่า "Furia Rossa" คำว่า "ฟูเรีย" (ความดุเดือด, ความโมโหร้าย) มาจากรูปแบบการเล่นที่ค่อนข้างรุนแรงของนักฟุตบอลสเปนในการแข่งขันนัดต่าง ๆ ที่ทีมชาติสเปนเข้าร่วมเป็นครั้งแรกที่เมืองแอนต์เวิร์ป (ประเทศเบลเยียม) และต่อมาก็ถูกนำมาใช้เรียกเหตุการณ์การปล้นเมืองแอนต์เวิร์ปของสเปนในสงครามแปดสิบปี (ค.ศ. 1576) ซึ่งเป็นตำนานมืดเรื่องหนึ่งในประวัติศาสตร์การทหารของสเปนด้วย ส่วน "รอสซา" (สีแดง) มาจากสีของเสื้อทีม สำหรับในประเทศไทยนั้นทีมนี้มีฉายาว่า "กระทิงดุ" สเปนได้เข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอลโลก 12 ครั้ง และเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันในฟุตบอลโลก ปี 1982 ผลงานที่ดีที่สุดที่ทีมชาติสเปนเคยทำได้นั้นคือชนะเลิศในปี2010 ที่ประเทศแอฟริกาใต้ ทีมชาติสเปนยังได้เข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป (ฟุตบอลยูโร) 8 ครั้ง ครั้งสำคัญคือฟุตบอลยูโร ปี 1964 ซึ่งถือเป็นแชมป์ในบ้านตัวเองหลังจากเอาชนะสหภาพโซเวียตไป 2-1 แต่ในรอบชิงชนะเลิศฟุตบอลยูโร ปี 1984 ซึ่งจัดขึ้นที่ประเทศฝรั่งเศส สเปนทำได้เพียงรองแชมป์เพราะแพ้ให้กับเจ้าบ้านด้วยคะแนน 2-0 และไม่ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศอีกเลยจนกระทั่งในการแข่งขันฟุตบอลยูโร ปี 2008 สเปนก็ผ่านเข้ามาถึงรอบชิงชนะเลิศได้สำเร็จโดยพบกับเยอรมนีและคว้าแชมป์ไปได้ในที่สุด ความสำเร็จครั้งใหญ่ที่สุดในกีฬาโอลิมปิกของฟุตบอลทีมชาติสเปนได้แก่ การแข่งขันโอลิมปิกฤดูร้อน ค.ศ. 1992 ที่เมืองบาร์เซโลนา สเปนคว้าเหรียญทองได้สำเร็จหลังจากเอาชนะโปแลนด์ 3-2 ในรอบชิงชนะเลิศที่สนามกัมนอว์ (Camp Nou) ส่วนการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อนที่เมืองซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย ค.ศ. 2000 สเปนได้เหรียญเงินโดยแพ้แคเมอรูนหลังจากการดวลจุดโทษในรอบชิงชนะเลิศ นอกจากนี้ สเปนยังเคยได้เหรียญเงินในกีฬาโอลิมปิกที่เมืองแอนต์เวิร์ป ประเทศเบลเยียม ค.ศ. 1920 อีกด้ว.
บิเซนเต เดล โบสเกและฟุตบอลทีมชาติสเปน · ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2012 นัดชิงชนะเลิศและฟุตบอลทีมชาติสเปน ·
ฟุตบอลโลก 2010
ฟุตบอลโลก ฟีฟ่า 2010 เป็นการแข่งขันฟุตบอลโลกครั้งที่ 19 ที่เป็นรายการแข่งขันฟุตบอลนานาชาติ ซึ่งจัดขึ้นที่ประเทศแอฟริกาใต้ ระหว่างวันที่ 11 มิถุนายน ถึงวันที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2553 โดยเริ่มการคัดเลือกในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2550 และมีฟุตบอลทีมชาติสมาชิกฟีฟ่า เข้าร่วมแข่งขันจำนวน 204 จาก 208 ทีม ฟุตบอลโลกครั้งนี้จึงเป็นการแข่งขันซึ่งมีประเทศเข้าร่วมแข่งขันจำนวนมากที่สุด เทียบเท่ากับจำนวนประเทศในโอลิมปิกฤดูร้อน 2008 และยังเป็นฟุตบอลโลกครั้งแรกที่ชาติจากทวีปแอฟริกาเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน หลังจากที่แอฟริกาใต้ประมูลชนะโมร็อกโกและอียิปต์ในการเสนอชื่อ ทั้งนี้ ทีมชาติอิตาลีจะลงแข่งขันเพื่อป้องกันตำแหน่งชนะเลิศที่ได้มาในฟุตบอลโลก 2006 ซึ่งจัดขึ้นในประเทศเยอรมนี ทีมชาติสเปนซึ่งชนะเลิศมาจากการแข่งขันชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป เมื่อปี พ.ศ. 2551 ชนะเลิศในการแข่งขันกับทีมชาติเนเธอร์แลนด์ 1 ต่อ 0 ประตูในช่วงต่อเวลาพิเศษ โดยอันเดรส อีเนียสตาทำประตูให้กับสเปน และทำให้ทีมสเปนชนะเลิศการแข่งขันฟุตบอลโลกเป็นสมัยแรก, ผู้ชนะเลิศครั้งก่อนอย่างอิตาลี รวมถึงฝรั่งเศสซึ่งเป็นทีมรองชนะเลิศครั้งก่อน ล้วนแต่ตกรอบแรก โดยที่อาร์เจนตินา (รอบ 8 ทีม), บราซิล (รอบ 8 ทีม) และเยอรมนี (รอบรองชนะเลิศ) ส่วนเจ้าภาพตกรอบแรก โดยมี 4 คะแนน ได้อันดับ 3 ของกลุ่ม A.
บิเซนเต เดล โบสเกและฟุตบอลโลก 2010 · ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2012 นัดชิงชนะเลิศและฟุตบอลโลก 2010 ·
ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก
ูฟ่าแชมเปียนส์ลีก (UEFA Champions League; ชื่อเดิม: ยูโรเปียนคัพ; European Cup) เป็นการแข่งขันฟุตบอลระหว่างสโมสรต่าง ๆ ภายในทวีปยุโรป ซึ่งจัดการแข่งขันโดยสมาคมฟุตบอลยุโรป (ยูฟ่า) เริ่มการแข่งขันครั้งแรกในปี ค.ศ. 1955 ก่อนจะเปลี่ยนมาใช้ชื่อปัจจุบันเมื่อปี ค.ศ. 1992 โดยทีมที่ได้อับดับที่ 1-3 ในแต่ละลีกจะได้ไปแข่งโดยอัตโนมัติ ส่วนที่ 4 จะได้ไปเพลย์ออฟรอบสุดท้ายทั้งนี้ขึ้นอยู่กับมาตรฐานของแต่ละลีกเช่นกันจากการจัดอันดับคะแนนลีกของยูฟ่า ลักษณะของการแข่งขันรายการนี้จะเป็นการนำทีมที่มีคะแนนสะสมมากที่สุดของแต่ละลีกสูงสุดของแต่ละประเทศในทวีปยุโรปมาแข่งขันกัน โดยพิจารณาออกมาเป็นโควตาของแต่ละลีก พรีเมียร์ลีกของอังกฤษ, ลาลีกาของสเปน และบุนเดสลีกาของเยอรมนีมีโควตาสี่ทีม ส่วนเซเรียอาของอิตาลีมีโควตาสามทีมเป็นต้น ทั้งนี้ สโมสรที่ชนะเลิศมากที่สุดคือ เรอัลมาดริด (สเปน, 12 ครั้ง) อันดับสองคือ เอซีมิลาน (อิตาลี, 7 ครั้ง) อันดับสามคือ บาเยิร์นมิวนิก (เยอรมัน, 5 ครั้ง) โดยสโมสรที่ชนะเลิศ 3 สมัยติดต่อกันหรือชนะเลิศครบ 5 สมัย จะได้รับถ้วยรางวัลไปเป็นกรรมสิทธิ์ของสโมสร เช่นเดียวกับถ้วยรางวัลอื่น ๆ ของยูฟ่า โดยที่เรอัลมาดริดได้ไปเมื่อ ค.ศ. 1958, อายักซ์ (ค.ศ. 1973), บาเยิร์นมิวนิก (ค.ศ. 1976), เอซีมิลาน (ค.ศ. 1994) และลิเวอร์พูล (ค.ศ. 2005) บาเซโลน่า (ค.ศ. 2015) ปัจจุบันในฤดูกาล 2016-17 สโมสรที่ชนะเลิศคือ เรอัลมาดริด และเป็นแชมป์สมัยที่สิบสองในรายการนี้ โดยเอาชนะยูเวนตุสไป 4-1 ในช่วง 90 นาที ในนัดชิงชนะเลิศ 2017.
บิเซนเต เดล โบสเกและยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก · ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2012 นัดชิงชนะเลิศและยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ·
รายการด้านบนตอบคำถามต่อไปนี้
- สิ่งที่ บิเซนเต เดล โบสเกและฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2012 นัดชิงชนะเลิศ มีเหมือนกัน
- อะไรคือความคล้ายคลึงกันระหว่าง บิเซนเต เดล โบสเกและฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2012 นัดชิงชนะเลิศ
การเปรียบเทียบระหว่าง บิเซนเต เดล โบสเกและฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2012 นัดชิงชนะเลิศ
บิเซนเต เดล โบสเก มี 15 ความสัมพันธ์ขณะที่ ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2012 นัดชิงชนะเลิศ มี 82 ขณะที่พวกเขามีเหมือนกัน 4, ดัชนี Jaccard คือ 4.12% = 4 / (15 + 82)
การอ้างอิง
บทความนี้แสดงความสัมพันธ์ระหว่าง บิเซนเต เดล โบสเกและฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2012 นัดชิงชนะเลิศ หากต้องการเข้าถึงบทความแต่ละบทความที่ได้รับการรวบรวมข้อมูลโปรดไปที่: