เรากำลังดำเนินการเพื่อคืนค่าแอป Unionpedia บน Google Play Store
🌟เราได้ทำให้การออกแบบของเราง่ายขึ้นเพื่อการนำทางที่ดีขึ้น!
Instagram Facebook X LinkedIn

บลูส์และวิลลี เนลสัน

ทางลัด: ความแตกต่างความคล้ายคลึงกันค่าสัมประสิทธิ์การเปรียบเทียบ Jaccardการอ้างอิง

ความแตกต่างระหว่าง บลูส์และวิลลี เนลสัน

บลูส์ vs. วิลลี เนลสัน

ลูส์ (Blues) เป็นรูปแบบของดนตรีประเภทหนึ่ง เกิดจากสภาพชีวิตและความเป็นอยู่ของคนดำที่หลั่งไหลเข้าสู่สหรัฐเพื่อการเป็นทาส สภาพชีวิตที่คับแค้นของพวกเขาได้ถูกนำเสนอผ่านบทเพลงด้วยการร้อง หรือสวดอ้อนวอนในทางศาสนาที่ เป็นท่วงทำนองที่น่าเศร้า อันเป็นเอกลักษณ์ของการร้องและท่วงทำนองที่เกิดจากเครื่องดนตรีที่ไม่มีคุณภาพจากความแร้นแค้น และความรู้ในด้านทฤษฎีดนตรีที่ผิดเพี้ยนไปจากเดิม ทำให้มีเสียงหรือคอร์ดความเพี้ยนซึ่งต่อมาก็ได้สร้างความแปลกหู จนเป็นลักษณะและเอกลักษณ์เฉพาะ ลักษณะสำคัญของเพลงบลูส์คือ การใช้เสียงร้อง หรือเสียงของเครื่องดนตรีที่เพี้ยนจากเสียงในบันไดเสียง ซึ่งเรียกกันว่า เบนท์ หรือ บลูโน้ต และการสไลด์เสียง ปกติเพลงบลูส์เป็นเพลงในอัตราจังหวะ 4/4 ใน 1 วรรคจะมี 12 ห้องเพลง การร้องแต่ละวรรคจะมีการอิมโพรไวเซชั่นไปจากทำนองเดิม เช่นเดียวกับการบรรเลงโดยเครื่องดนตรี ลักษณะเฉพาะของเพลงบลูส์ถูกวางด้วยด้วยรากฐานจากความเจ็บปวดแร้นแค้น ทุกข์ทรมาน ของชีวิต เนื้อเพลง และสำเนียงของบลูส์จึงแฝงความเจ็บปวดคล้ายการสะอึกสะอื้นเวลาร้องให้ จึงใช้แสดงอารมณ์เศร้าได้ดี นอกจากนั้น เรื่องของจังหวะ (rhythm) ของบลูส์ที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ และเป็นแบบแผนนำไปสู่ดนตรีรูปแบบอื่นมากมาย เช่น ฟังค์,โซลฟังค์,ริทึ่ม แอนด์ บลูส์, ร็อก แอนด์ โรล เป็นต้น ศิลปินบลูส์ที่น่าสนใจมีด้วยกันในหลายยุค เช่น BB.king ("You Know I Love You," "Woke Up This Morning," "Please Love Me,"), Muddy Waters, Buddy Guy, Stevie Ray Vaughan, Eric Clapton, John Lee Hooker,Jimi Hendrix ที่มาของคำว่า บลูส์ ในภาษาอังกฤษ blues หมายถึง อาการโศกเศร้า ในประโยคเช่น I feel blues. วิลลี ฮักห์ เนลสัน (Willie Hugh Nelson) (เกิด 29 เมษายน 1933 -) เป็นศิลปินนักร้องคันทรี นักแสดง นักดนตรี นักประพันธ์ กวี นักกิจกรรมชาวอเมริกัน มีชื่อเสียงจากอัลบั้ม "ช็อตกันวิลลี" (Shotgun Willie) (1973) ตามมาด้วยอัลบั้มที่ประสบความสำเร็จอย่างมากอย่าง "เรดเฮดสเตรงเจอร์" (Red Headed Stranger) (1975) และ "สตาร์ดัสท์" (Stardust) (1978) จากอัลบั้มนี้เองทำให้ชื่อวิลลี เนลสัน ได้รับการจดจำในฐานะศิลปินแนวคันทรีที่มีชื่อเสียงที่สุดคนหนึ่ง เขายังถือเป็นศิลปินคนสำคัญของแนวย่อยคันทรีในช่วงปลายยุค 60 ที่เรียกว่า "เอาต์ลอว์คันทรี" (Outlaw country) ซึ่งเป็นมาตราฐานจารีตแบบแผนดั้งเดิมของเสียงร้องจากแนชวิลล์ เนลสันยังเป็นนักแสดง ซึ่งเขาเคยแสดงภาพยนตร์มามากกว่า 30 เรื่อง เป็นผู้ร่วมแต่งหนังสือหลายเล่ม และยังเป็นนักกิจกรรมในการณรงค์ใช้เชื้อเพลิงชีวภาพ และผลักดันกฎหมายเกี่ยวกับกัญชาอีกด้วย เนลสันเกิดในช่วงภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ ภายใต้การเลี้ยงดูจากปู่ย่าตายายของเขา เนลสันแต่งเพลงแรกในชีวิตของเขาเมื่ออายุได้เพียง 7 ขวบและเข้าร่วมวงดนตรีตอนอายุ 10 ขวบ ในช่วงเรียนมัธยม เขาได้ร่วมทัวร์กับวงโบฮีเมียนพอลคา (Bohemian Polka) ในตำแหน่งร้องนำและมือกีตาร์ ภายหลังจบจากโรงเรียนมัธยม ในปี 1950 เขาได้เข้าร่วมกองทัพอากาศของสหรัฐ แต่ต่อมาก็ถูกปลดออกจากปัญหาที่ตามทีหลัง หลังจากนั้นเขากลับไปศึกษาต่อยัง มหาวิทยาลัยเบย์เลอร์ เรียนได้ 2 ปีก็ดรอปเพราะประสบความสำเร็จในด้านดนตรี ในช่วงเวลาดังกล่าวนี้เขาได้ใช้ชีวิตในการทำงานเป็นผู้จัดรายการในสถานีวิทยุเท็กซัส และเป็นนักร้องตามบาร์ต่างๆ เนลสันได้ย้ายไปอยู่ที่แวนคูเวอร์, วอชิงตัน ที่ซึ่งเขาได้แต่งหนังสือ "Family Bible" และบันทึกเสียง "Lumberjack ในปี 1956 ในปี 1958 เขาย้ายไปฮิวสตัน, เท็กซัส ภายหลังจากเซนต์สัญญากับค่ายเพลงดี (D Records) เขาได้ร้องเพลงที่บาร์ Esquire Ballroom ในทุกสัปดาห์และทำงานเป็นผู้จัดรายการควบคู่ไป ในช่วงเวลานี้เขายังได้แต่งเพลงที่เป็นมาตราฐานคันทรีของเขา เช่น "Funny How Time Slips Away" "Hello Walls" "Pretty Paper" และ "Crazy" ในปี 1960 เขาได้ย้ายไปแนชวิลล์ รัฐเทนเนสซี และต่อมาก็ไปเซนต์สัญญากับเปเปอร์มิวสิก (Pamper Music) ซึ่งอนุญาตให้เขาร่วมวงของเรย์ ไพรซ์ ในตำแหน่งมือเบส ในปี 1962 เขาบันทึกอัลบั้มแรกของเขา "...แอนเดนไอรอต" (...And Then I Wrote) จากผลลัพธ์ที่ออกมาดี ส่งผลให้เนลสันเซนต์สัญญาในปี 1964 กับอาร์ซีเอวิคเตอร์ (RCA Victor) และได้ร่วมรายการคอนเสิร์ตรายสัปดาห์ที่ Grand Ole Opry ในปีต่อมา หลังจากยุครุ่งเรืองของเขาในช่วงปลายยุค 60 และต้นยุค 70 เนลสันได้เกษียณตัวเองในปี 1972 และย้ายไปอยู่ที่อัสติน รัฐเท็กซัส ที่ซึ่งเขายังคงเล่นดนตรีต่อไป โดยมักจะแสดงสดที่ไนท์คลับเดอะดิลโล (The 'Dillo) บ่อยๆ ในปี 1973 ภายหลังเซนต์สัญญากับแอนแลนติก เนลสันเปลี่ยนมาเป็นศิลปินเอาต์ลอว์คันทรี โดยการออกอัลบั้มเช่น "Shotgun Willie" และ "Phases and Stages" ในปี 1975 เขาทำสัญญากับค่ายเพลงโคลัมเบีย จนได้ออกอัลบั้ม "Red Headed Stranger" ที่โด่งดังออกมา ในปีเดียวกันนั้นเองเขายังได้บันทึกเสียงแนวเอาต์ลอว์คันทรีลงอัลบั้มอื่นอีกคือ "Wanted! The Outlaws" เช่นเดียวกับศิลปินร่วมแนวเช่น เวย์ลอน เจนนิงส์, เจสซี คอลเตอร์ และทอมพาลล์ เกลเซอร์ ในช่วงกลางยุค 80 ในขณะที่ออกอัลบั้มฮิตอย่าง "like Honeysuckle Rose" และซิงเกิลฮิตเช่น "On the Road Again", "To All the Girls I've Loved Before", และ "Pancho and Lefty" เขาได้เข้าร่วมวงคันทรีรวมศิลปินระดับตำนานในคันทรีอีก 3 คน ในชื่อว่า "เดอะไฮเวย์เมน" ซึ่งประกอบด้วย จอห์นนี แคช, คริส คริสตอฟเฟอร์สัน และเมิร์ล ฮักการ์ด ในช่วงระหว่างปี 1990 และ 2000 เนลสันไม่หยุดทัวร์คอนเสิร์ต เขาได้ปล่อยอัลบั้มออกทุกๆปี มีการแสดงความคิดเห็นต่อเขาตั้งแต่บวกจนถึงหลากหลาย เขาเป็นผู้บุกเบิกแนวเพลงหลากหลายทั้ง เรกเก บลูส์ แจ๊ส และโฟล์ค เนลสันสร้างภาพยนตร์ของเขาครั้งแรกคือเรื่อง "The Electric Horseman" ปี 1979 ตามมาด้วยภาพยนตร์อื่นๆและบนโทรทัศน์อีกมากมาย เนลสันยังเป็นแกนหลักด้านรณรงค์กิจกรรมและเป็นประธานร่วมการปฏิรูปองค์กรด้านกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับกัญชา นอกจากนี้ในด้านสิ่งแวดล้อมเขายังเจ้าของไบโอดีเซลล์ ฉลาก Willie Nelson Biodiesel อีกด้วย ซึ่งน้ำมันเขาทำมาจากน้ำมันพืช เนลสันยังได้รับเกียรติให้ดำรงตำแหน่งประธานที่ปรึกษาบอร์ดของโครงการดนตรีเท็กซัส ซึ่งเป็นองค์กรการกุศลทางดนตรีของรัฐเท็กซัส วิลลี เนลสัน ได้รับการสรรเสริญอย่างกว้างขวางที่ถูกจดจำในฐานะ "อเมริกันไอคอน" คนหนึ่งของสหรัฐ เขายังได้รับการบรรจุเข้าสู่คันทรีมิวสิกฮอลล์ออฟเฟม ในปี 1993 และได้รับรางวัลจาก Kennedy Center Honors ซึ่งถือเป็นรางวัลทางการแสดงที่ให้สำหรับศิลปินในสหรัฐอเมริกา นอกจากนี้เขายังถูกติดอันดับในนิยสารโรลลิงสโตนส์ ในหัวข้อ "100 นักร้องที่ยิ่งใหญ่ที่สุด" และ "100 นักกีตาร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด".

ความคล้ายคลึงกันระหว่าง บลูส์และวิลลี เนลสัน

บลูส์และวิลลี เนลสัน มี 4 สิ่งที่เหมือนกัน (ใน ยูเนี่ยนพีเดีย): กีตาร์สหรัฐดนตรีโฟล์กแจ๊ส

กีตาร์

กีตาร์ (guitar) เป็นเครื่องดนตรีชนิดหนึ่ง จัดเป็นพวกเครื่องสาย มักจะเล่นด้วยนิ้วมือซ้าย และดีดด้วยนิ้วมือขวาหรือใช้ปิ๊กดีดกีตาร์ เสียงของกีตาร์นั้นเกิดจากการสั่นสะเทือนของสาย ทำให้เกิดกำทอน (resonance) แก่ตัวกีตาร์และคอกีตาร์ ยอร์ช กีตาร์นั้น มีทั้งแบบกีตาร์อะคูสติก และกีตาร์ไฟฟ้า บางตัวก็เป็นได้ทั้งสองอย่าง กีตาร์มีส่วนตัวเป็นกล่องกำทอน ซึ่งในกีตาร์อะคูสติกจะเจาะเป็นช่อง ส่วนกีตาร์ไฟฟ้ามักจะตัน และมีโพรงในส่วนคอกีตาร์ โดยทั่วไปแล้วส่วนหัวของกีตาร์จะยืดขึ้นไปจากคอ เพื่อใส่ลูกบิดหมุนสายสำหรับปรับเสียง กีตาร์เป็นเครื่องดนตรีที่นิยมใช้แพร่หลาย และใช้กับดนตรีหลากหลายสไตล์ นับเป็นเครื่องดนตรีที่นิยมใช้บรรเลงเดี่ยวอย่างกว้างขวางที่พบเห็นมากที่สุดคือกีตาร์คลาสสิก และยังเป็นเครื่องดนตรีหลักในวงดนตรีประเภทบลูส์ และดนตรีร็อกอีกด้วย กีตาร์สามารถเล่นในยามว่าง หรือ เป็นงานอดิเรก ได้ดี ปกติกีตาร์จะมี 6 สาย แต่แบบ 4- 7- 8- 10- 12- สายก็มีเช่นกัน ผู้ประดิษฐ์กีตาร์จะเรียกว่า Luthier.

กีตาร์และบลูส์ · กีตาร์และวิลลี เนลสัน · ดูเพิ่มเติม »

สหรัฐ

หรัฐอเมริกา (United States of America) โดยทั่วไปเรียก สหรัฐ (United States) หรือ อเมริกา (America) เป็นสหพันธ์สาธารณรัฐ ประกอบด้วยรัฐ 50 รัฐ และหนึ่งเขตปกครองกลาง ห้าดินแดนปกครองตนเองสำคัญ และเกาะเล็กต่าง ๆ โดย 48 รัฐและเขตปกครองกลางตั้งอยู่ ณ ทวีปอเมริกาเหนือระหว่างประเทศแคนาดาและเม็กซิโก รัฐอะแลสกาอยู่มุมตะวันตกเฉียงเหนือของทวีปอเมริกาเหนือ มีเขตแดนติดต่อกับประเทศแคนาดาทางทิศตะวันออกและข้ามช่องแคบเบริงจากประเทศรัสเซียทางทิศตะวันตก และรัฐฮาวายเป็นกลุ่มเกาะในมหาสมุทรแปซิฟิกกลาง ดินแดนของสหรัฐกระจายอยู่ตามมหาสมุทรแปซิฟิกและทะเลแคริบเบียน ครอบคลุมเขตเวลาเก้าเขต ภูมิศาสตร์ ภูมิอากาศและสัตว์ป่าของประเทศหลากหลายอย่างยิ่ง สหรัฐมีพื้นที่ขนาด 9.8 ล้านตารางกิโลเมตร มีประชากรราว 326 ล้านคน ทำให้มีพื้นที่ขนาดใหญ่เป็นอันดับที่ 4 ของโลก และมีประชากรมากเป็นอันดับที่ 3 ของโลก เป็นประเทศซึ่งมีความหลากหลายทางเชื้อชาติและวัฒนธรรม และเป็นที่พำนักของประชากรเข้าเมืองใหญ่สุดในโลกAdams, J.Q., and Pearlie Strother-Adams (2001).

บลูส์และสหรัฐ · วิลลี เนลสันและสหรัฐ · ดูเพิ่มเติม »

ดนตรีโฟล์ก

นตรีโฟล์ก (Folk music) มีความหมายที่แตกต่าง หลากหลาย อาท.

ดนตรีโฟล์กและบลูส์ · ดนตรีโฟล์กและวิลลี เนลสัน · ดูเพิ่มเติม »

แจ๊ส

แจ๊ส เป็นลักษณะดนตรีชนิดหนึ่งที่พัฒนามาจากกลุ่มคนดำในสหรัฐอเมริกา (African Americans) ในช่วงปลายคริสต์ศตวรรษที่ 20 โดยมีลักษณะพิเศษคือโน้ตบลูส์ การลัดจังหวะ จังหวะสวิง การโต้และตอบทางดนตรี และการเล่นสด โดยแจ๊สถือเป็นลักษณะดนตรีคลาสสิกชนิดหนึ่งของสหรัฐอเมริก.

บลูส์และแจ๊ส · วิลลี เนลสันและแจ๊ส · ดูเพิ่มเติม »

รายการด้านบนตอบคำถามต่อไปนี้

การเปรียบเทียบระหว่าง บลูส์และวิลลี เนลสัน

บลูส์ มี 17 ความสัมพันธ์ขณะที่ วิลลี เนลสัน มี 24 ขณะที่พวกเขามีเหมือนกัน 4, ดัชนี Jaccard คือ 9.76% = 4 / (17 + 24)

การอ้างอิง

บทความนี้แสดงความสัมพันธ์ระหว่าง บลูส์และวิลลี เนลสัน หากต้องการเข้าถึงบทความแต่ละบทความที่ได้รับการรวบรวมข้อมูลโปรดไปที่: