โลโก้
ยูเนี่ยนพีเดีย
การสื่อสาร
ดาวน์โหลดได้จาก Google Play
ใหม่! ดาวน์โหลด ยูเนี่ยนพีเดีย บน Android ™ของคุณ!
ฟรี
เร็วกว่าเบราว์เซอร์!
 

บลาสเตอร์และพัลพาทีน

ทางลัด: ความแตกต่างความคล้ายคลึงกันค่าสัมประสิทธิ์การเปรียบเทียบ Jaccardการอ้างอิง

ความแตกต่างระหว่าง บลาสเตอร์และพัลพาทีน

บลาสเตอร์ vs. พัลพาทีน

อี-11 บลาสเตอร์ไรเฟิลของอุตสาหกรรมบลาสเทคที่ใช้โดยสตอร์มทรูปเปอร์ บลาสเตอร์ เป็นเทคโนโลยีทางทหารอย่างหนึ่งในภาพยนตร์ นวนิยาย การ์ตูน หนังสือการ์ตูน เกม และสื่ออื่นๆ ของสตาร์ วอร์ส ในภาพยนตร์ บลาสเตอร์ได้ปรากฏตัวครั้งแรกในความหวังใหม่ บลาสเตอร์ (ภาษาอังกฤษ: blaster) หรือปืนเป็นอาวุธพิสัยไกลที่ยิงลำแสงพลังงานที่เรียกว่ากระสุนบลาสเตอร์ออกจากเซลล์พลังงานที่สามารถแทนที่ได้ มันเป็นอาวุธที่รู้จักกันไปทั่วกาแลกซี่ ลำแสงของบลาสเตอร์ประกอบด้วยอนุภาคของพลังงานสูงที่ถูกอัดแน่นและแสงเข้มข้นซึ่งสามารถสังหารหรือทำให้เป้าหมายเป็นอัมพาตได้ มันขึ้นอยู่กับการตั้งค่าของปืน บลาสเตอร์มีขนาดตั้งแต่ปืนพกไปจนถึงขนาดใหญ่และปืนใหญ่บลาสเตอร์ที่ติดตั้งบนยาวอวกาศ บางคนก็ใช้บลาสเตอร์เป็นตั้งแต่ยังเด็ก อนาคิน สกายวอล์คเกอร์เป็นเจ้าของปืนบลาสเตอร์ไอออนขนาดเล็กในตอนที่เขายังเด็ก เลอา ออร์กานาได้รับบลาสเตอร์ล่าสัตว์ในตอนที่เธอเป็นวัยรุ่น และเด็กๆ ชาวแมนดาลอเรียนจะได้รับบลาสเตอร์และการฝึกเมื่อพวกเขามีอายุย่างเข้าปีที่สิบสาม. ีฟว์ พัลพาทีน (Sheev Palpatine) เรียกสั้นๆว่า พัลพาทีน (Palpatine) คือตัวละครตัวหนึ่งในมหากาพย์ภาพยนตร์แนววิทยาศาสตร์สตาร์ วอร์ส แสดงโดยเอียน แมคเดียร์มิด มีบทบาทสำคัญในภาพยนตร์ทั้งหมดห้าภาคจากหกภาคของภาพยนตร์ชุดนี้และเนื้อหาในจักรวาลขยายอีกจำนวนมาก พัลพาทีน หรือ ดาร์ธ ซิเดียส (Darth Sidious) เป็นสมุหนายกคนสุดท้ายของสาธารณรัฐกาแลกติก(ปีที่ 32 ก่อนยุทธการยาวินถึงปีที่ 19 ก่อนยุทธการยาวิน) และผู้ตั้งตนเองเป็นจักรพรรดิแห่งจักรวรรดิกาแลกติก (ปีที่ 19 ก่อนยุทธการยาวินถึงปีที่ 4 หลังยุทธการยาวิน เขาเป็นผู้ที่ทำให้เกิดความขัดแย้งระดับกาแลกซีอย่างสงครามโคลนเพื่อที่จะกุมอำนาจโดยใช้กฎอัยการศึกที่ประกาศโดยสภากาแลกติก ในระหว่างสงครามโคลน พัลพาทีนเป็นผู้นำที่แท้จริงของกลุ่มแบ่งแยกดินแดนในฐานะของซิธลอร์ด ดาร์ธ ซิเดียส ทั้งยังเป็นผู้นำตามกฎหมายของฝ่ายสาธารณรัฐอีกด้วย ทำให้เขาสามารถวางแผนความเป็นไปของสงครามทั้งหมดได้ ยังผลให้พัลพาทีนได้รับชัยชนะอย่างยิ่งใหญ่คือการถือกำเนิดของจักรวรรดิกาแลกติก ใบหน้าพัลพาทีนที่เสียโฉมจากพลังสายฟ้าของตนเองที่ถูกปัดป้องกลับจาก เมซ วินดู นอกจากจะถูกถือว่าเป็นลอร์ดมืดแห่งซิธที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของนิกายซิธแล้ว พัลพาทีนยังเชื่อว่าตนเป็นซิธลอร์ดเพียงหนึ่งเดียวในรอบหลายพันปีที่สามารถบรรลุเป้าหมายสูงสุดของซิธได้ นั่นก็คือการทำลายล้างนิกายเจได และทำให้ซิธได้ปกครองกาแลกซี อย่างไรก็ดี ความแข็งแกร่งที่ทำให้พัลพาทีนเป็นซิธที่สามารถแก้แค้นให้กับนิกายของตนได้เป็นผลสำเร็จนั้นไม่ได้มาจากความสามารถในด้านมืดของพลังที่ร้ายกาจแต่อย่างใด ทว่าเป็นการที่เขาสามารถทำให้กาแลกซีทั้งกาแลกซีตกอยู่ภายใต้การควบคุมของตนเองได้ทั้งฝ่ายดีและฝ่ายชั่ว นั่นคือตามที่อาจารย์โยดาเคยกล่าวไว้ว่าด้านมืดบดบังทุกสิ่ง ในฐานะของอัจฉริยะโฉด พัลพาทีนไม่ได้สามารถชำระแค้นให้กับซิธด้วยเพียงความเก่งกาจทางการเมืองและความเชี่ยวชาญในพลังเท่านั้น แต่ยังด้วยความช่วยเหลือของผู้ฝึกฝนที่เก่งกาจจำนวนมาก ซึ่งรวมไปถึงอนาคิน สกายวอล์คเกอร์ ผู้ถูกชักนำเข้าสู่ด้านมืดและกลายเป็นซิธลอร์ด ดาร์ธ เวเดอร์ ที่สำคัญพัลพาทีนเป็นบุคคลสำคัญในการวางแผนคำสั่งที่ 66 ซึ่งทำให้เจไดเกือบทั้งหมดถูกสังหาร และเขาเป็นผู้คุมกองทัพทั้งหมดไว้ในมือ หลายคนเชื่อว่าเขาเป็นผู้ที่ทรงพลังอย่างมาก จากที่เขาสามารถทำนายความรุ่งเรืองและความเป็นไปทั้งหมดของชีวิตของเขาได้ทะลุปรุโปร่ง ยกเว้นเพียงแต่ความตายของตัวเองเท่านั้น บทภาพยนตร์ฉบับแรกสุดของลูคัสนั้นกำหนดให้พัลพาทีนเป็นนักการเมืองผู้มีความสามารถ แต่อ่อนแอและตกอยู่ใต้อำนาจของลูกน้อง ทว่าในการกลับมาของเจได ไตรภาคต้น และนิยายจำนวนมากนั้น ตัวละครนี้ถูกแสดงออกมาในภาพลักษณ์ของความชั่วร้ายและผู้ที่กุมอำนาจทุกอย่างไว้ได้เบ็ดเสร็จ จนกลายเป็นสัญลักษณ์แห่งความชั่วร้ายอันดับต้นๆ ในประวัติศาสตร์ภาพยนตร์ พัลพาทีนเสียชีวิตด้วยการกลับเข้าสู่ด้านสว่างของดาร์ธ เวเดอร์ โดยทุ่มพัลพาทีนลงไปยังเตาปฎิกรณ์ของดาวมรณะดวงที่ 2 thumb Ian McDiarmid.

ความคล้ายคลึงกันระหว่าง บลาสเตอร์และพัลพาทีน

บลาสเตอร์และพัลพาทีน มี 2 สิ่งที่เหมือนกัน (ใน ยูเนี่ยนพีเดีย): สตาร์ วอร์สอนาคิน สกายวอล์คเกอร์

สตาร์ วอร์ส

ตาร์ วอร์ส (Star Wars) เป็นภาพยนตร์ชุดแนวมหากาพย์ละครอวกาศ สร้างโดย จอร์จ ลูคัส นอกจากนี้ยังมีสื่อต่าง ๆ ที่นอกเหนือจากภาพยนตร์ เรียกว่า จักรวาลขยาย ได้แก่ หนังสือ ละครโทรทัศน์ วิดีโอเกมและหนังสือการ์ตูน ภาพยนตร์ชุดแรกออกฉายเมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม..

บลาสเตอร์และสตาร์ วอร์ส · พัลพาทีนและสตาร์ วอร์ส · ดูเพิ่มเติม »

อนาคิน สกายวอล์คเกอร์

อนาคิน สกายวอล์คเกอร์ (Anakin Skywalker) คือตัวละครตัวหนึ่งในเรื่องแต่งชุดสตาร์ วอร์ส แสดงโดยเจค ลอยด์ กับเฮย์เดน คริสเตนเซ่น ในไตรภาคต้น และเดวิด พราวส์ กับ เซบาสเตียน ชอว์ (ให้เสียงโดยเจมส์ เอิร์ล โจนส์) ในไตรภาคเดิม มีบทบาทสำคัญเป็นตัวละครหลักในไตรภาคเดิมของภาพยนตร์ชุดนี้และเนื้อหาในจักรวาลขยายอีกจำนวนมาก อนาคิน สกายวอล์คเกอร์ มีชีวิตตามเวลาในท้องเรื่องอยู่ในช่วงปีที่ 42 ก่อนยุทธการยาวิน ถึงปีที่ 4 หลังยุทธการยาวิน เขาเป็นอัศวินเจไดที่มีชื่อเสียงระดับตำนานในยุคร่วงโรยของนิกายเจไดซึ่งถูกเชื่อว่าเป็น"ผู้ถูกเลือก" ก่อนกลายเป็นดาร์ธ เวเดอร์ ไม่นานก่อนที่จักรวรรดิกาแลกติกจะถูกก่อตั้งขึ้น เขาเป็นบุตรของฉมี สกายวอล์คเกอร์ และสามีของวุฒิสมาชิกแพดเม่ อมิดาลา เป็นบิดาของลุค สกายวอล์คเกอร์ และเลอา ออร์กานา โซโลรวมทั้งเป็นท่านตาของ เบน โซโล/ไคโล เร็น หลังจากที่อาจารย์เจไดไควกอน จินน์ ค้นพบอนาคิน (อายุ 9 ปี) บนทาทูอีน เขาก็พาอนาคินมาจากดาวดวงนั้นเพื่อจะฝึกฝนเขาในวิถีแห่งพลัง โดยเชื่อว่าเด็กชายคือผู้ถูกเลือกตามคำทำนายของเจได หลังจากที่ไควกอนเสียชีวิตไปโดยน้ำมือของซิธลอร์ด ดาร์ธ มอล อนาคินน้อยก็ได้กลายเป็นศิษย์ของโอบีวัน เคโนบี อดีตพาดาวันของไควกอน จินน์ ก่อนที่จะกลายเป็นเวเดอร์ ระหว่างสงครามโคลน สกายวอล์คเกอร์รับใช้กองกำลังใหญ่ของสาธารณรัฐในฐานะนายพล (ก่อนหน้านั้นเป็นนายทหารผู้บังคับบัญชา) และในฐานะเวเดอร์ เขาได้รับหน้าที่เป็นผู้บริหารกองทัพภายใต้อำนาจของพัลพาทีน และเป็นที่รู้จักในฐานะฆาตกรหมู่ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด รวมทั้งยังเป็นผู้นำการกวาดล้างเจไดครั้งใหญ่ ซึ่งเป็นการตามล่าเจไดที่หลงเหลือจากการออกคำสั่งที่ 66 ในปีที่ 4 หลังยุทธการยาวิน ณ ยุทธภูมิเอนดอร์ เขาสามารถไถ่บาปให้กับตนเองโดยการเป็นวีรบุรุษฆ่าลอร์ดซีเดียสเพื่อช่วยลูกชาย เวเดอร์ถอนตัวจากวิถีแห่งซิธและกลับมาเป็นอนาคิน สกายวอล์คเกอร์อีกครั้ง ไม่นานก่อนจะเสียชีวิต.

บลาสเตอร์และอนาคิน สกายวอล์คเกอร์ · พัลพาทีนและอนาคิน สกายวอล์คเกอร์ · ดูเพิ่มเติม »

รายการด้านบนตอบคำถามต่อไปนี้

การเปรียบเทียบระหว่าง บลาสเตอร์และพัลพาทีน

บลาสเตอร์ มี 24 ความสัมพันธ์ขณะที่ พัลพาทีน มี 25 ขณะที่พวกเขามีเหมือนกัน 2, ดัชนี Jaccard คือ 4.08% = 2 / (24 + 25)

การอ้างอิง

บทความนี้แสดงความสัมพันธ์ระหว่าง บลาสเตอร์และพัลพาทีน หากต้องการเข้าถึงบทความแต่ละบทความที่ได้รับการรวบรวมข้อมูลโปรดไปที่:

Hey! เราอยู่ใน Facebook ตอนนี้! »