ความคล้ายคลึงกันระหว่าง นูเมทัลและเฮฟวีเมทัล
นูเมทัลและเฮฟวีเมทัล มี 10 สิ่งที่เหมือนกัน (ใน ยูเนี่ยนพีเดีย): ฟังก์เมทัลกรันจ์กรูฟเมทัลกลองกีตาร์กีตาร์เบสออลเทอร์นาทิฟเมทัลอินดัสเทรียลเมทัลแทรชเมทัลเฮฟวีเมทัล
ฟังก์เมทัล
ฟังก์เมทัล หรือที่รู้จักในชื่อ แทรชฟังก์ หรือ ฟังก์คอร์ เป็นแนวเพลงที่ผสมผสานทั้งจากฟังก์ร็อก และเฮฟวีเมทัล เฟธโนมอร์ ได้ผสมฟังก์เมทัลกับดนตรีอัลเทอร์เนทีฟเมทัล และดนตรีเอกซ์เพอริเมนทัลร็อก เลส เคลย์พูล สมาชิกสำคัญของวงดนตรีฟังก์เมทัล ไพรมั.
นูเมทัลและฟังก์เมทัล · ฟังก์เมทัลและเฮฟวีเมทัล ·
กรันจ์
กรันจ์ (ในบางครั้งเรียก Seattle Sound) เป็นแนวเพลงย่อยของออลเทอร์นาทิฟร็อก ได้รับอิทธิพลจากฮาร์ดคอร์พังก์ เฮฟวีเมทัล และอินดี้ร็อก กรันจ์เกิดขึ้นช่วงปลายคริสต์ทศวรรษ 80 โดยวงจากวอชิงตันและบางส่วนของซีแอตเทิล ลักษณะของดนตรีมีความดิบของเสียงริฟฟ์กีตาร์ แต่สอดแทรกด้วยท่วงทำนองติดหูของกรันจ์ร็อกที่ได้รับอิทธิพลมาจากเฮฟวีเมทัลและพังก์ร็อกในสัดส่วนที่เหมาะสม โดยเฉพาะไลน์กีตาร์แบบเฮฟวีเมทัลในช่วงต้นคริสต์ทศวรรษ 1970 แต่ด้านเนื้อเพลงกลับได้รับอิทธิพลของพังก์ร็อกมาอย่างเต็มที่ ด้วยถ้อยคำเสียดสีสังคม รวมไปถึงความคิดที่เป็นอิสระที่ได้รับมาจากช่วงต้นคริสต์ทศวรรษ 1980 ของอเมริกันฮาร์ดคอร์ โดยวงกรันจ์ร็อกในยุคแรก เช่น กรีนริเวอร์ มัดฮันนี่ ซาวด์การ์เดน ซึ่งหนักหน่วงกว่ากรันจ์ร็อกในยุคต่อมาอย่างเนอร์วานา ซึ่งความแตกต่างที่สังเกตได้อย่างชัดเจน คือเพลงของเนอร์วานามีความชัดเจนในเรื่องของทำนองที่ติดหูมากกว่า กรันจ์ร็อกได้เข้าสู่กระแสหลักกลางคริสต์ทศวรรษ 1990.
กรันจ์และนูเมทัล · กรันจ์และเฮฟวีเมทัล ·
กรูฟเมทัล
กรูฟเมทัล บางครั้งเรียกว่า โฟสต์-แทรช, นีโอ-แทรช, พาวเวอร์กรูฟ หรือเรียกสั้น ๆ ว่า กรูฟ เป็นแนวเพลงย่อยของดนตรีเฮฟวีเมทัล มักนำไปเรียกเป็นแนวเพลงของวง แพนเทอรา และเอกซ์ฮอร์เดอร์ โดยหลักแล้ว กรูฟเมทัลได้นำความหนักแน่น และคุณภาพเสียงมาจากแนวดนตรีแทรชเมทัล และเล่นในความเร็วหรือเทมโปในระดับปานกลาง อีกทั้งวงดนตรีส่วนใหญ่มีการเล่นเพลงไปสู่จังหวะที่เร็วขึ้นเป็นครั้งคราว.
กรูฟเมทัลและนูเมทัล · กรูฟเมทัลและเฮฟวีเมทัล ·
กลอง
กลอง ทำด้วยหนังวัวขึงด้วยเชือก กลอง เป็นเครื่องดนตรีประเภทตีกระทบ ประกอบด้วยแผ่นบาง มักทำด้วยแผ่นหนังขึงยึดติดกับโครงให้ตึง ทำให้เกิดเสียงโดยการตีด้วยไม้ หรืออวัยวะของผู้เล่น กลองจัดเป็นเครื่องดนตรีที่เก่าแก่ที่สุดในโลก กลอง มีทั้งกลองที่ทำจากหนังสัตว์ และ กลองที่ทำจากพลาสติก ซึ่งจะให้เสียงที่แตกต่างกันไป และการใช้อุปกรณ์ช่วย กลองที่ทำจากพลาสติกจะต้องใช้ไม้ช่วยตีเพราจะช่วยให้เกิดเสียงที่ดังขึ้น เช่น กลองสแนร์ และ กลองชุด เป็นต้น ส่วนกลองที่ทำจากหนังสัตว์ไม่จำเป็นที่จะต้องใช้ไม้ เนื่องจาก เราสามารถใช้แค่มือตีก็จะทำให้เกิดเสียงดังพอตัวอยู่แล้ว เช่น กลองยาว กลองรำมะนา ตะโพน เป็นต้น แต่ก็มีกลองหนัง ที่จำเป็นต้องใช้ไม้ก็มี เช่น กลองสะบัดชัย และ กลองทัด เนื่องจากเป็นกลองขนาดใหญ่จึงไม่สามารถใช้มือตีอย่างเดียวได้ กลองไม่ได้มีแค่ใช้ในทางเท่านั้นแต่ยังใช้ในด้านอื่นๆอีกด้วยเช่น การตีกลองเพื่อร้องทุกข์ต่อศาล การตีกลองเพื่อเปิดสงครามในสมัยก่อน และ การตีกลองเพื่อเป็นสัญญาณเพื่อให้พระสงฆ์ฉันเพลได้.
กลองและนูเมทัล · กลองและเฮฟวีเมทัล ·
กีตาร์
กีตาร์ (guitar) เป็นเครื่องดนตรีชนิดหนึ่ง จัดเป็นพวกเครื่องสาย มักจะเล่นด้วยนิ้วมือซ้าย และดีดด้วยนิ้วมือขวาหรือใช้ปิ๊กดีดกีตาร์ เสียงของกีตาร์นั้นเกิดจากการสั่นสะเทือนของสาย ทำให้เกิดกำทอน (resonance) แก่ตัวกีตาร์และคอกีตาร์ ยอร์ช กีตาร์นั้น มีทั้งแบบกีตาร์อะคูสติก และกีตาร์ไฟฟ้า บางตัวก็เป็นได้ทั้งสองอย่าง กีตาร์มีส่วนตัวเป็นกล่องกำทอน ซึ่งในกีตาร์อะคูสติกจะเจาะเป็นช่อง ส่วนกีตาร์ไฟฟ้ามักจะตัน และมีโพรงในส่วนคอกีตาร์ โดยทั่วไปแล้วส่วนหัวของกีตาร์จะยืดขึ้นไปจากคอ เพื่อใส่ลูกบิดหมุนสายสำหรับปรับเสียง กีตาร์เป็นเครื่องดนตรีที่นิยมใช้แพร่หลาย และใช้กับดนตรีหลากหลายสไตล์ นับเป็นเครื่องดนตรีที่นิยมใช้บรรเลงเดี่ยวอย่างกว้างขวางที่พบเห็นมากที่สุดคือกีตาร์คลาสสิก และยังเป็นเครื่องดนตรีหลักในวงดนตรีประเภทบลูส์ และดนตรีร็อกอีกด้วย กีตาร์สามารถเล่นในยามว่าง หรือ เป็นงานอดิเรก ได้ดี ปกติกีตาร์จะมี 6 สาย แต่แบบ 4- 7- 8- 10- 12- สายก็มีเช่นกัน ผู้ประดิษฐ์กีตาร์จะเรียกว่า Luthier.
กีตาร์และนูเมทัล · กีตาร์และเฮฟวีเมทัล ·
กีตาร์เบส
ป็นเครื่องดนตรีประเภทเครื่องสาย ในทางสากลสามารถเรียกได้ทั้ง electric bass (เบสไฟฟ้า), electric bass guitar (กีตาร์เบสไฟฟ้า) หรือเรียกสั้น ๆ ว่า bass (เบส) ลักษณะของเบสมีขนาดใหญ่กว่ากีตาร์ มีโครงสร้างของคอที่ใหญ่และยาวกว่า มีย่านความถี่เสียงต่ำ มีหน้าที่โดยหลัก ๆ ในการให้จังหวะ คือคุมจังหวะตาม rhythm, line, pattern และ groove ของดนตรี ในขณะเดียวกันก็สามารถขยายระดับความสามารถการเล่นให้สูงขึ้นตามแนวเพลงและการประยุกต์ใช้ต่าง ๆ เช่น เทคนิคการ Slap หรือการตบเบส (รวมไปถึงเทคนิคอื่นที่ใช้ร่วมกันกับการ Slap) ในดนตรี Funk, Jazz และอีกหลายแนว การ Tapping การเดิน Improvising การเล่น Harmonics การเล่น Picking เป็นต้น เบสไฟฟ้าจัดว่าเป็นเครื่องดนตรีที่ถือกำเนิดหลังเครื่องดนตรีอื่น ๆ ในประเภทวงสตริงคือสร้างขึ้นหลัง กีตาร์ กลอง คีย์บอร์ดหรือซินธิไซเซอร์ (รายละเอียดจะมีในหัวข้อประวัติ) เครื่องดนตรีประเภทเบสที่ใช้กันในวงดนตรีและแนวต่าง ๆ ก็จะมี เบสไฟฟ้า เบสโปร่งไฟฟ้า fretless bass (เบสไม่มีเฟรต) และ double bass, upright bass บ้างทีก็เรียกกันว่า acoustic bass แต่ก็มีภาษาพูดเรียกกันติดปากสำหรับนักดนตรีบางคนว่า เบสใหญ่ เบสไฟฟ้าที่ใช้โดยทั่วไปจะมี 4 สาย 5 สาย และ 6 สาย ส่วนสายที่มากไปกว่านี้ก็มีเนื่องจากนักดนตรีบางคนอาจจะออกแบบเพื่อประยุกต์ใช้ทางการเล่นเฉพาะตัว เบส 4 สายการตั้งสายตามมาตรฐานคือ E-A-D-G (เรียงจากต่ำ-สูง) เบส 5 สายคือ B-E-A-D-G ส่วน 6 สายคือ B-E-A-D-G-C แต่อย่างไรก็ตามเบสก็ได้ถูกขยายขอบเขตออกไปตามแนวคิดและการประยุกต์ใช้ของมือเบสต่าง ๆ จำนวนสายก็อาจจะมีอื่น ๆ อีก เช่น 3 สาย, 7 สาย, 8 สาย, 9 สาย เป็นต้น.
กีตาร์เบสและนูเมทัล · กีตาร์เบสและเฮฟวีเมทัล ·
ออลเทอร์นาทิฟเมทัล
ออลเทอร์นาทิฟเมทัล (alternative metal) เป็นแนวเพลงประเภทหนึ่งของเฮฟวีเมทัลที่ได้รับความนิยมในคริสต์ทศวรรษ 1990 ไปกับการแตกหน่อของดนตรีกรันจ์ มีเอกลักษณ์ที่ชัดเจนอย่างเช่น ท่อนริฟฟ์หนัก ๆ แต่มักจะท่อนปลายแบบทดลองที่ดูชัดเจน รวมถึงเนื้อเพลงที่ดูผิดแผกธรรมชาติ และการใช้ odd time signature รวมถึงการลัดจังหวะดนตรีที่มากกว่าดนตรีเมทัลทั่วไป การใช้เทคนิคที่ไม่ธรรมดา การต่อต้านรูปแบบสามัญของดนตรีเฮฟวี และการรวมอิทธิพลเพลงประเภทอื่นนอกเหนือจากดนตรีเมทัลเข้าม.
นูเมทัลและออลเทอร์นาทิฟเมทัล · ออลเทอร์นาทิฟเมทัลและเฮฟวีเมทัล ·
อินดัสเทรียลเมทัล
อินดัสเทรียลเมทัล (Industrial metal) เป็นแนวเพลงที่พัฒนามาจากแนว อินดัสเทรียล และ เฮฟวีเมทัล โดยใช้ท่อนริฟฟ์กีตาร์ซ้ำ ๆ ของเมทัล การใช้แซมพลิง เครื่องสังเคราะห์เสียงและท่อนซับซีเควนเซอร์ และเสียงร้องที่บิดไป วงแนวอินดัสเทรียลเมทัล อย่างเช่น มินิสตรีDi Perna 1995a, page 69.
นูเมทัลและอินดัสเทรียลเมทัล · อินดัสเทรียลเมทัลและเฮฟวีเมทัล ·
แทรชเมทัล
แทรชเมทัล เป็นแนวเพลงย่อยของเฮฟวีเมทัล และเป็นหนึ่งในแนวเอ็กซ์ตรีมเมทัล มีลักษณะเด่นคือความเร็วและความก้าวร้าวในจังหวะของเพลง โดยเฉพาะการเน้นริฟฟ์กีตาร์อย่างรวดเร็ว ซึ่งจำเป็นต้องใช้ความสามารถในเทคนิคอย่างมาก นอกจากนี้ยังรวมถึงการกระเดื่องกลองดับเบิลเบสอย่างรวดเร็ว ต้นกำเนิดของแทรชเมทัลนั้น อยู่ในช่วงปลายทศวรรษที่ 70 และต้นทศวรรษที่ 80 เมื่อวงที่ได้รวมดนตรี นิวเวฟออฟบริติชเฮฟวีเมทัล ได้เกิดเป็นแนวใหม่และพัฒนา มีการเคลื่อนไหวที่แยกตัวไปจากพังค์ร็อก แนวเพลงนี้มีความก้าวร้าวกว่ามากเมื่อเทียบกับ สปีดเมทัล และแนวพวกนี้มักจะมีการผสมผสานข้ามแนวเพลงอย่างชัดเจนจากเมทัล ไปแนวอื่น และได้รับอิทธิพลจากเพลงแนวอื่นที่ไม่ใช่เมทัล เช่น คลาสสิก แจ๊ส ในช่วงกลางทศวรรษที่ 80 ถือเป็นยุคที่รุ่งเรืองของแทรชเมทัลอเมริกัน โดยเฉพาะของ 4 วงแกนหลัก ที่เรียกกันว่า "บิ๊กโฟว์" (Big 4) จากผลงานอัลบั้ม Master Of Puppets ของเมทัลลิก้า,Peace Sells...But Who's Buying? ของเมกาเดธ, Reign in Blood ของ สเลเยอร์ อัลบั้มเหล่านี้เข้าสู่กระแสหลักได้, Among The Living ของ แอนแทรกซ.
นูเมทัลและแทรชเมทัล · เฮฟวีเมทัลและแทรชเมทัล ·
เฮฟวีเมทัล
ฟวีเมทัล หรือบางครั้งเรียกย่อว่า เมทัล เป็นแนวเพลงร็อกประเภทหนึ่งที่พัฒนาในช่วงปลายทศวรรษที่ 60 และต้นทศวรรษที่ 70 ด้วยรากฐานของดนตรี บลูส์-ร็อก ฮาร์ดร็อก และ ไซเคเดลิกร็อก โดยมีหลายวงได้พัฒนาเฮฟวีเมทัล ให้มีความหนา, หนัก, ดนตรีที่เน้นกีตาร์และกลอง และลักษณะเฉพาะตัวที่มีการโซโล่กีตาร์ที่รวดเร็ว เพลงแนวเฮฟวีเมทัลได้รับความนิยมจากแฟนทั่วโลก ที่แฟนเหล่านั้นจะเรียกตัวเองว่า เมทัลเฮดส์ หรือ เฮดแบงเกอร์ และถึงแม้ว่าวงเมทัลในช่วงต้น ๆ อย่าง เล็ด เซ็พเพลิน, แบล็ค แซบบาธ และ ดีพ เพอร์เพิล จะได้รับความสนใจจากกลุ่มคนฟังหลัก แต่ก็มีบ้างที่พวกเขาจะถูกด่าทอ.
รายการด้านบนตอบคำถามต่อไปนี้
- สิ่งที่ นูเมทัลและเฮฟวีเมทัล มีเหมือนกัน
- อะไรคือความคล้ายคลึงกันระหว่าง นูเมทัลและเฮฟวีเมทัล
การเปรียบเทียบระหว่าง นูเมทัลและเฮฟวีเมทัล
นูเมทัล มี 18 ความสัมพันธ์ขณะที่ เฮฟวีเมทัล มี 50 ขณะที่พวกเขามีเหมือนกัน 10, ดัชนี Jaccard คือ 14.71% = 10 / (18 + 50)
การอ้างอิง
บทความนี้แสดงความสัมพันธ์ระหว่าง นูเมทัลและเฮฟวีเมทัล หากต้องการเข้าถึงบทความแต่ละบทความที่ได้รับการรวบรวมข้อมูลโปรดไปที่: