โลโก้
ยูเนี่ยนพีเดีย
การสื่อสาร
ดาวน์โหลดได้จาก Google Play
ใหม่! ดาวน์โหลด ยูเนี่ยนพีเดีย บน Android ™ของคุณ!
ฟรี
เร็วกว่าเบราว์เซอร์!
 

นอสเฟอราตูและวลาดที่ 3 นักเสียบ

ทางลัด: ความแตกต่างความคล้ายคลึงกันค่าสัมประสิทธิ์การเปรียบเทียบ Jaccardการอ้างอิง

ความแตกต่างระหว่าง นอสเฟอราตูและวลาดที่ 3 นักเสียบ

นอสเฟอราตู vs. วลาดที่ 3 นักเสียบ

นอสเฟอราตู อะ ซิมโฟนี ออฟ ฮอร์เรอร์ หรือ ที่นิยมเรียกสั้น ๆ ว่า นอสเฟอราตู (อังกฤษ: Nosferatu: A Symphony of Horror, Nosferatu; เยอรมัน: Nosferatu, eine Symphonie des Grauens) ภาพยนตร์สยองขวัญสัญชาติเยอรมนี ออกฉายในปี ค.ศ. 1922 เป็นภาพยนตร์เงียบขาวดำ คำว่า นอสเฟอราตู นั้นแปลว่า แวมไพร์ ในภาษาโรมาเนีย นอสเฟอราตู ดัดแปลงบทภาพยนตร์มาจากนวนิยายของบราม สโตกเกอร์ นักเขียนชาวไอริช เรื่อง แดรกคูลา โดยดัดแปลงแบบลอกมาเกือบทั้งหมด โดยคงเนื้อหาเดิมไว้ทั้งหมด เพียงแต่เปลี่ยนชื่อตัวละครและรายชื่อสถานที่เป็นภาษาเยอรมันเท่านั้นเอง เช่น เค้าท์แดร็กคูลา ก็กลายเป็น เค้าท์ออร์ล็อก โจนาธาน ฮากเกอร์ ก็เปลี่ยนเป็น โธมัส ฮุตเตอร์ และสถานที่เกิดเรื่องก็เปลี่ยนจากกรุงลอนดอน เป็นเมืองวิสบอร์ก แทน นอสเฟอราตู กำกับการแสดงโดย เอฟ.ดับบลิว. เมอเนา ผู้กำกับชาวเยอรมัน ที่เป็นผู้กำกับที่ทรงอิทธิพลอย่างมากต่อแวดวงศิลปะวัฒนธรรมของเยอรมันในคริสต์ทศวรรษ 1920 จนถึงคริสต์ทศวรรษ 1930 โดยเฉพาะภาพยนตร์เยอรมันในแนวศิลปะเอ็กซเพรสชันนิสม์ นักแสดงที่รับบท เค้าท์ออร์ล็อก คือ แม็ก ชเร็ค ซึ่งสวมบทนี้ได้อย่างดีเยี่ยม โดยเฉพาะการแต่งหน้าและการทำท่าทางที่เหมือนแวมไพร์จริง ๆ ซึ่งฉากที่น่าจดจำอย่างยิ่งในภาพยนตร์เรื่องนี้ คือ เงาของเค้าท์ออร์ล็อกที่ฉาดฉายไปที่ฝาผนังตอนที่เดินขึ้นบันได ด้วยหลังที่งองุ้มและเล็บนิ้วที่แหลมยาวน่าเกลียดน่ากลัว เค้าท์ออร์ล็อก เงาของเค้าท์ออร์ล็อก ซึ่งเมื่อฉายแล้ว ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้ถูกฟ้องร้องเรื่องลิขสิทธิ์จากภรรยาม่ายของสโตกเกอร์ ผลคือ เมอเนาแพ้ และฟิล์มภาพยนตร์ถูกทำลายทิ้ง แต่ก็ยังมีสำเนาที่ยังหลงรอดมา ซึ่งสาเหตุของการที่มอเนาต้องลอกเลียนเค้าท์แดร็กคูลามาเกือบทั้งหมด ก็ด้วยเรื่องลิขสิทธิ์ที่ก่อนถ่ายทำตกลงกันไม่ได้นั่นเอง อย่างไรก็ตาม นอสเฟอราตู เป็นภาพยนตร์ที่ได้รับการกล่าวขานเป็นอย่างมากในแวดวงภาพยนตร์ระดับโลก ในเว็บไซต์IMDb ได้ให้คะแนนภาพยนตร์เรื่องนี้ 8.1 ดาว จากทั้งหมด 10 ดาว และได้กลายมาเป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้กำกับสัญชาติเยอรมันอีกคนในยุคปัจจุบันนี้ คือ แวร์เนอร์ แฮร์ซ็อก ได้ชื่อว่าเป็นผู้กำกับที่มีผลงานโดดเด่นเป็นตัวของอีกตัวเองอีกคน สร้างเป็นภาพยนตร์ใหม่อีกครั้งในปี ค.ศ. 1979 ในชื่อ Nosferatu the Vampyre และเป็นภาพยนตร์สัญชาติอเมริกันในแนวนอกกระแสในปี ค.ศ. 1999 ชื่อ Shadow of the Vampire ซึ่งเป็นเรื่องราวการถ่ายทำนอสเฟอราตูของเมอเนา ที่ได้ชื่อว่าเป็นผู้กำกับที่บ้า และผู้ที่รับบทเป็นเค้าท์ออล็อกนั้นก็เป็นแวมไพร์จริง ๆ นำแสดงโดย จอห์น มัลโควิช เป็น เมอเนา และวิลเลม เดโฟ เป็น ชเร็ค ซึ่งภาพยนตร์เรื่องนี้ได้เคยฉายในประเทศไทยเมื่อต้นปี พ.ศ. 2544 ในแบบจำกัดโรง นอสเฟอราตู เคยถูกนำมาฉายในโครงการคุยกับหนัง เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2543 ที่ ห้องกิจกรรมเรวัติ พุทธินันท์ ชั้นใต้ดินของหอสมุดปรีดี พนมยงค์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร. วลาดที่ 3 เจ้าชายแห่งวาลาเคีย (ค.ศ. 1431–1476/7) หรือที่รู้จักโดยสกุล แดรกคิวลา พระองค์ทรงได้รับสมัญญาหลังสิ้นพระชนม์ว่า วลาดนักเสียบ (Vlad the Impaler; Vlad Țepeș) และทรงเป็นเจ้า (Voivode) ครองวาลาเคีย 3 สมัย ส่วนใหญ่ระหว่าง..

ความคล้ายคลึงกันระหว่าง นอสเฟอราตูและวลาดที่ 3 นักเสียบ

นอสเฟอราตูและวลาดที่ 3 นักเสียบ มี 3 สิ่งที่เหมือนกัน (ใน ยูเนี่ยนพีเดีย): แบรม สโตกเกอร์แวมไพร์แดรกคูลา

แบรม สโตกเกอร์

แบรม สโตกเกอร์ (Bram Stoker) มีชื่อจริงว่า เอบราแฮม สโตกเกอร์ (Abraham Stoker) เกิดเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน ค.ศ. 1847 ที่กรุงดับลิน ประเทศไอร์แลนด์ เป็นบุตรชายคนที่ 3 จากบรรดาพี่น้องทั้งหมด 7 คน บิดาของสโตกเกอร์เป็นข้าราชการ ส่วนมารดาซึ่งเป็นนักเรียกร้องสิทธิสตรีรุ่นแรก ๆ เมื่อวัยเด็กสโตกเกอร์เป็นเด็กร่างกายอ่อนแอมาก จนไม่สามารถที่จะยืนตัวตรงได้จนกระทั่งอายุ 7 ขวบ ทำให้เป็นคนช่างฝันและจินตนาการและชอบอ่านหนังสือ สโตกเกอร์ชื่นชอบในเรื่องประวัติศาสตร์ยุโรป, การเล่นแร่แปรธาตุ และที่ชอบมากที่สุดคือเรื่องเกี่ยวกับแวมไพร์ ผีร้ายตามความเชื่อของชาวยุโรปในยุคกลาง ซึ่งได้กลายเป็นแรงบันดาลใจให้กับงานเขียนวรรณคดีชิ้นสำคัญต่อไป เมื่อโตขึ้นเป็นวัยรุ่น สโตกเกอร์กลับมีร่างกายแข็งแรงถึงขนาดเป็นนักกีฬาแชมป์ของโรงเรียนโดยเฉพาะฟุตบอล สโตกเกอร์เรียนจบจากวิทยาลัยทรินิตี (Trinity College) ในดับลิน จากนั้นก็เข้ารับราชการตามรอยบิดา พร้อมกับเริ่มเขียนบทความลงในหนังสือพิมพ์ดิไอริชเอ็กโค (The Irish Echo) และได้รู้จักกับเหล่านักเขียน นักแสดงจากลอนดอน ในที่สุดเมื่ออายุ 31 ปี เพื่อนนักแสดงละครเวทีของเชกสเปียร์ชาวอังกฤษชื่อ เฮนรี เออร์วิง (Henry Irving) ช่วยให้เขาได้งานบริหารพิพิธภัณฑ์ไลซีอัมเทียเตอร์ในลอนดอน (Lyceum Theatre) สโตกเกอร์แต่งงาน มีลูกชายหนึ่งคน แต่ต่อมาก็อยู่แยกกับภรรยา แต่ก็ยังไปปรากฏตัวร่วมกันเมื่อออกงานสังคม งานเขียนทั้งหมดของสโตกเกอร์มีทั้งหมด 32 เรื่อง ทั้งนวนิยาย, สารคดี, เรื่องสั้นและงานวิจารณ์ แต่ทั้งหมดนี้ไม่มีเรื่องไหนที่จะประสบความสำเร็จเท่า แดรกคูลา ในปี ค.ศ. 1897 ซึ่งกล่าวกันว่าสโตกเกอร์ได้แนวคิดเกี่ยวกับแวมไพร์นี้มาจากฝันร้ายของเขาเอง จากนั้นเขาก็ได้ศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับเรื่องแวมไพร์นี้อย่างจริงจังในห้องสมุด สโตกเกอร์เสียชีวิตด้วยด้วยอาการเส้นเลือดในสมองแตกเมื่ออายุได้ 64 ปี เมื่อวันที่ 20 เมษายน ค.ศ. 1912 ที่กรุงลอนดอน.

นอสเฟอราตูและแบรม สโตกเกอร์ · วลาดที่ 3 นักเสียบและแบรม สโตกเกอร์ · ดูเพิ่มเติม »

แวมไพร์

Nosferutu: A Symphony of Horror'' ที่ดัดแปลงมาจากนวนิยายเรื่อง เค้าท์แดร็กคูลา ภาพยนตร์เรื่องนี้ฉายในปี ค.ศ. 1922 แวมไพร์ (Vampire) ผีชนิดหนึ่งตามความเชื่อของชาวยุโรป ในยุคกลาง เชื่อว่าเป็นผีดิบ ที่มีรูปร่างหน้าตาเหมือนมนุษย์ทั่วไป แต่มีฟันแหลมคม ดื่มเลือดของมนุษย์ด้วยกันเป็นอาหารเพื่อหล่อเลี้ยง โดยที่แวมไพร์จะมีชีวิตเป็นอมตะ ไม่มีวันตาย จะปรากฏตัวได้แต่เฉพาะเวลากลางคืน เพราะกลางวันแพ้แสงแดด แวมไพร์จะหลบซ่อนอยู่ในโลงของตนหรือในหลุมในเวลากลางวัน สามารถแปลงร่างได้หลายแบบ เช่น ค้างคาว, นกฮูก, หมาป่า, หมาจิ้งจอก, กบ, คางคก, แมลงเม่า, งูพิษ เป็นต้น สามารถกำบังกายหายตัวได้ ไม่มีเงาเมื่อกระทบกับแสงหรือสะท้อนในกระจก มีแรงมากเหมือนผู้ชาย 20 คน รวมถึงสามารถบังคับสิ่งของให้เคลื่อนที่ด้วยอำนาจของตนได้ด้วย สิ่งที่จะกำราบแวมไพร์ได้คือ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทางศาสนา เช่น ไม้กางเขน, น้ำมนตร์ หรือแม้กระทั่งสมุนไพรกลิ่นแรงบางชนิด เช่น กระเทียม วิธีฆ่าแวมไพร์มีมากมาย เช่น ตอกลิ่มให้ทะลุหัวใจ เผา หรือ ตัดหัวด้วยจอบของสัปเหร่อ บุคคลที่ตกเป็นเหยื่อของมัน จะกลายเป็นแวมไพร์ไปด้วย และกลายเป็นสาวกของแวมไพร์ตนที่ดูดเลือดตัวเอง ชาวยุโรปในยุคกลางนั้น หวาดกลัวแวมไพร์มาก ผู้ที่สงสัยว่าเป็นแวมไพร์ จะตกอยู่ในสถานะเดียวกับแม่มด หรือ มนุษย์หมาป่า คือ ถูกตัดสินลงโทษด้วยการเอาถึงชีวิต มีวิธีการป้องกันการรุกรานของแวมไพร์หลายวิธี เช่น บางหมู่บ้านจะโปรยเมล็ดข้าวไว้บนหลังคาบ้าน เพราะเชื่อว่าแวมไพร์จะง่วนกับการนับเมล็ดข้าวเป็นการถ่วงเวลาจนรุ่งเช้า หรือ โรยเศษขนมปังไว้ตั้งแต่สุสานให้แวมไพร์เดินเก็บเศษขนมนั้นวนเวียนไปมา หรือแม้แต่การวางไม้กางเขนหรือดอกกุหลาบที่มีหนามแหลมเพื่อเป็นการพันธนาการไว้ในโลง เรื่องราวของแวมไพร์ มีมากมาย ที่เป็นนิทานพื้นบ้านและวรรณกรรม โดยวรรณกรรมที่ว่าถึงแวมไพร์ที่เก่าแก่ที่สุด มีมาตั้งแต่สมัยโรมัน วรรณกรรมที่มีชื่อเสียงที่สุดของแวมไพร์คือ เรื่องแดรกคูลา ของ บราม สโตกเกอร์ ที่โด่งดังจนมีการนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์ ละคร ละครเวที หรือแม้แต่กระทั่งภาพยนตร์การ์ตูนมากมายตราบจนปัจจุบัน เช่น ภาพยนตร์เรื่อง Nosferatu: A Symphony of Horror ในปี..

นอสเฟอราตูและแวมไพร์ · วลาดที่ 3 นักเสียบและแวมไพร์ · ดูเพิ่มเติม »

แดรกคูลา

แดรกคูลา (อังกฤษ: Dracula) นวนิยายภาษาอังกฤษแนวสยองขวัญที่มีชื่อเสียงที่สุดของ บราม สโตกเกอร์ เป็นเรื่องราวของแวมไพร์หรือผีดิบดูดเลือดในโรมาเนีย ที่เดินทางมาอังกฤษเพื่อเผยแพร่เผ่าพันธุ์ โดยมีฉากหลังเป็นอังกฤษที่ปกคลุมด้วยบรรยายกาศอึมครึมในยุควิกตอเรี.

นอสเฟอราตูและแดรกคูลา · วลาดที่ 3 นักเสียบและแดรกคูลา · ดูเพิ่มเติม »

รายการด้านบนตอบคำถามต่อไปนี้

การเปรียบเทียบระหว่าง นอสเฟอราตูและวลาดที่ 3 นักเสียบ

นอสเฟอราตู มี 42 ความสัมพันธ์ขณะที่ วลาดที่ 3 นักเสียบ มี 19 ขณะที่พวกเขามีเหมือนกัน 3, ดัชนี Jaccard คือ 4.92% = 3 / (42 + 19)

การอ้างอิง

บทความนี้แสดงความสัมพันธ์ระหว่าง นอสเฟอราตูและวลาดที่ 3 นักเสียบ หากต้องการเข้าถึงบทความแต่ละบทความที่ได้รับการรวบรวมข้อมูลโปรดไปที่:

Hey! เราอยู่ใน Facebook ตอนนี้! »