ธุรกิจอัจฉริยะและโครงสร้างข้อมูล
ทางลัด: ความแตกต่างความคล้ายคลึงกันค่าสัมประสิทธิ์การเปรียบเทียบ Jaccardการอ้างอิง
ความแตกต่างระหว่าง ธุรกิจอัจฉริยะและโครงสร้างข้อมูล
ธุรกิจอัจฉริยะ vs. โครงสร้างข้อมูล
รกิจอัจฉริยะ (Business Intelligence - BI) เป็นเทคนิคที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการวิเคราะห์ ดึงข้อมูลที่โดดเด่น ตัวอย่างเช่น ยอดขาย หรือ สินค้า จากหน่วยใดหน่วยหนึ่งมาแสดงผล โดยใช้รูปแบบการวิเคราะห์ข้อมูล และนำเสนอข้อมูลที่จะช่วยให้ผู้บริหารสามารถตัดสินใจได้เร็วขึ้น มีประสิทธิภาพมากขึ้น ธุรกิจอัจฉริยะ เป็นการใช้ข้อมูลขององค์กรที่มีคุณค่ามาช่วยสนับสนุนการตัดสินใจในการดำเนินธุรกิจ ซึ่งจะเกี่ยวข้องกับการเข้าถึงข้อมูล การวิเคราะห์ข้อมูล และการค้นพบโอกาสใหม่ๆ ทางธุรกิจ ระบบธุรกิจอัจฉริยะใช้เครื่องมือ (Tools) ที่สำคัญ คือ เทคนิคคลังข้อมูล (Data Warehouse), เหมืองข้อมูล (Data Mining) วัตถุประสงค์หลักของธุรกิจอัจฉริยะ 1) ทำให้เจ้าของธุรกิจ ผู้บริหาร หรือพนักงานที่เกียวข้องสามารถเข้าถึงเข้ามูลได้ง่าย ช่วยให้สามารถวิเคราะ์และตัดสินใจทางธุรกิจได้อย่างแม่นยำ 2) ธุรกิจอัจฉริยะช่วยเปลี่ยนสภาพ (transform) ข้อมูล (Data) ไปสู่สารสนเทศ (Information) และองค์ความรู้ (Knowledge) สุดท้ายทำให้ผู้ใช้สามารถติดสินทางธุรกิจได้ (Make Business Decision) อย่างชาญฉลาด แล้วนำไปปฏิบัติจนเกิดผล (Take Action) 3) ช่วยเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันทางธุรกิจขององค์กร 4) ช่วยให้สามารถวิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภคหรือลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ กระบวนการหลักของธุรกิจอัจฉริยะ 1) Decision Support 2) Query Data 3) Report 4) OLAP 5) Statistical Analysis 6) Prediction 7) Data Mining สถาปัตยกรรมของธุรกิจอัจฉริยะ ประกอบด้วย 1) คลังข้อมูล (Data Warehouse) 2) เครื่องมือในการวิเคราะห์ทางธุรกิจ (Business Analytic Tools) 3) การจัดการสมรรถนะทางธุรกิจ (Business Performance Management) 4) ส่วนติดต่อประสานงานผู้ใช้ (User Interface) ธุรกิจอัจฉริยะทำงานอย่างไร ธุรกิจอัจฉริยะกับระบบสนับสนุนการตัดสินใจเกี่ยวข้องกันอย่างไร. ในสาขาวิทยาการคอมพิวเตอร์ โครงสร้างข้อมูล เป็นวิธีการจัดเก็บข้อมูลในคอมพิวเตอร์เพื่อให้สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ บ่อยครั้งที่การเลือกโครงสร้างข้อมูลที่เหมาะสมจะทำให้เราสามารถเลือกใช้ขั้นตอนวิธีที่มีประสิทธิภาพไปพร้อมกันได้ การเลือกโครงสร้างข้อมูลนั้นโดยส่วนใหญ่แล้วจะเริ่มต้นจากการเลือกแบบชนิดข้อมูลนามธรรม โครงสร้างข้อมูลที่ออกแบบเป็นอย่างดีจะสามารถรองรับการประมวลผลที่หนักหน่วงโดยใช้ทรัพยากรที่น้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ทั้งในแง่ของเวลาและหน่วยความจำ โครงสร้างข้อมูลแต่ละแบบจะเหมาะสมกับงานที่แตกต่างกัน และโครงสร้างข้อมูลบางแบบก็ออกแบบมาสำหรับบางงานโดยเฉพาะ อย่างเช่น ต้นไม้แบบบีจะเหมาะสำหรับระบบงานฐานข้อมูล ในกระบวนการออกแบบโปรแกรมคอมพิวเตอร์ การเลือกโครงสร้างข้อมูลเป็นสิ่งสำคัญอันดับแรกที่ต้องคำนึงถึง ซึ่งจากการพัฒนาระบบงานใหญ่ๆได้แสดงให้เห็นว่า ความยากในการพัฒนาและประสิทธิภาพของระบบจะขึ้นอยู่กับโครงสร้างข้อมูลที่เลือกใช้อย่างมาก หลังจากตัดสินใจเลือกโครงสร้างข้อมูลที่จะใช้แล้วก็มักจะทราบถึงขั้นตอนวิธีที่ต้องใช้ได้ทันที แต่ในบางครั้งก็อาจจะกลับกัน คือ การประมวลผลที่สำคัญๆของโปรแกรมได้มีการใช้ขั้นตอนวิธีที่ต้องใช้โครงสร้างข้อมูลบางแบบโดยเฉพาะ จึงจะทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ ถึงอย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะเลือกโครงสร้างข้อมูลด้วยวิธีการใด โครงสร้างข้อมูลที่เหมาะสมก็เป็นสิ่งที่สำคัญมากอยู่ดี แนวความคิดในเรื่องโครงสร้างข้อมูลนี้ส่งผล กับการพัฒนาวิธีการมาตรฐานต่างๆในการออกแบบและเขียนโปรแกรม หลายภาษาโปรแกรมนั้นได้พัฒนารวมเอาโครงสร้างข้อมูลนี้ไว้เป็นส่วนหนึ่งของระบบโปรแกรม เพื่อประโยชน์ในการใช้ซ้ำ.
ความคล้ายคลึงกันระหว่าง ธุรกิจอัจฉริยะและโครงสร้างข้อมูล
ธุรกิจอัจฉริยะและโครงสร้างข้อมูล มี 0 สิ่งที่เหมือนกัน (ใน ยูเนี่ยนพีเดีย)
รายการด้านบนตอบคำถามต่อไปนี้
- สิ่งที่ ธุรกิจอัจฉริยะและโครงสร้างข้อมูล มีเหมือนกัน
- อะไรคือความคล้ายคลึงกันระหว่าง ธุรกิจอัจฉริยะและโครงสร้างข้อมูล
การเปรียบเทียบระหว่าง ธุรกิจอัจฉริยะและโครงสร้างข้อมูล
ธุรกิจอัจฉริยะ มี 4 ความสัมพันธ์ขณะที่ โครงสร้างข้อมูล มี 7 ขณะที่พวกเขามีเหมือนกัน 0, ดัชนี Jaccard คือ 0.00% = 0 / (4 + 7)
การอ้างอิง
บทความนี้แสดงความสัมพันธ์ระหว่าง ธุรกิจอัจฉริยะและโครงสร้างข้อมูล หากต้องการเข้าถึงบทความแต่ละบทความที่ได้รับการรวบรวมข้อมูลโปรดไปที่: