โลโก้
ยูเนี่ยนพีเดีย
การสื่อสาร
ดาวน์โหลดได้จาก Google Play
ใหม่! ดาวน์โหลด ยูเนี่ยนพีเดีย บน Android ™ของคุณ!
ฟรี
เร็วกว่าเบราว์เซอร์!
 

ทัวร์กอนและอาร์เวน

ทางลัด: ความแตกต่างความคล้ายคลึงกันค่าสัมประสิทธิ์การเปรียบเทียบ Jaccardการอ้างอิง

ความแตกต่างระหว่าง ทัวร์กอนและอาร์เวน

ทัวร์กอน vs. อาร์เวน

ทัวร์กอน (Turgon) เป็นตัวละครเอกตัวหนึ่งในปกรณัมเรื่อง ซิลมาริลลิออน ของ เจ. อาร์. อาร์. โทลคีน พระองค์เป็นเอลฟ์ชาว โนลดอร์ เป็นโอรสองค์ที่สองของฟิงโกลฟิน ซึ่งเป็นโอรสของฟินเว จอมกษัตริย์แห่งโนลดอร์ ทรงมีพี่ชายหนึ่งองค์คือ ฟิงกอน และน้องสาวหนึ่งองค์ คือ อาเรเดล ท่านหญิงขาว ชื่อ 'ทัวร์กอน' เป็นภาษาซินดาริน แผลงมาจากคำเควนยาว่า ทูรูคาโน (Turukáno) มีความหมายว่า 'เจ้าชายผู้กล้าหาญ'. อาร์เวน อุนโดเมียล (Arwen Undómiel) เป็นตัวละครในจินตนิยายเรื่อง เดอะลอร์ดออฟเดอะริงส์ ซึ่งประพันธ์โดย เจ. อาร์. อาร์. โทลคีน มีกำเนิดเป็นมนุษย์กึ่งเอลฟ์ และมีชีวิตอยู่ในช่วงยุคที่สามถึงต้นยุคที่สี่ของโลกอาร์ดา ชื่อ 'อาร์เวน' เป็นคำในภาษาซินดาริน ประกอบด้วยคำว่า 'อาร์' ('ar') หมายถึง 'สูงศักดิ์' และ 'เวน' ('wen') หมายถึง ผู้หญิง ดังนั้นชื่อ 'อาร์เวน' จึงหมายถึง 'หญิงผู้สูงศักดิ์' ส่วน 'อุนโดเมียล' เป็นสมญาของเธอ มีความหมายว่า 'ดวงดาราสนธยา' (Evenstar) ซึ่งหมายถึงดวงดาวที่เจิดจรัสที่สุดในยามย่ำค่ำ คือดาวประจำเมือง.

ความคล้ายคลึงกันระหว่าง ทัวร์กอนและอาร์เวน

ทัวร์กอนและอาร์เวน มี 8 สิ่งที่เหมือนกัน (ใน ยูเนี่ยนพีเดีย): ฟิงโกลฟินฟินเวกอนโดลินภาษาซินดารินอามันซินดาร์โนลดอร์เจ. อาร์. อาร์. โทลคีน

ฟิงโกลฟิน

ตามปกรณัมชุด ซิลมาริลลิออน ของ เจ. อาร์. อาร์. โทลคีน ฟิงโกลฟิน (Fingolfin) เป็นกษัตริย์ของชาวโนลดอร์พลัดถิ่นบนมิดเดิ้ลเอิร์ธ พระองค์เป็นโอรสองค์ที่สองของกษัตริย์ฟินเวกับพระนางอินดิส มีพี่ชายต่างมารดาคือ เฟอานอร์ และน้องชายร่วมมารดาเดียวกันคือ ฟินาร์ฟิน ฟิงโกลฟินมีโอรสธิดารวมสี่องค์คือ ฟิงกอน ทัวร์กอน อาเรเดล และอาราคาโน (ไม่ได้เอ่ยถึงในปกรณัม) ในปกรณัมกล่าวถึงฟิงโกลฟินว่า เป็นผู้มีร่างกายกำยำแข็งแรง จิตใจห้าวหาญ บางแห่งยกย่องว่าพระองค์เป็นนักรบผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดในบรรดาบุตรแห่งอิลูวาทาร์ทั้งปวง ชื่อของพระองค์ในภาษาเควนยา คือ โนโลฟินเว (Nolofinwë) ซึ่งมีความหมายว่า 'บุตรแห่งฟินเวผู้เฉลียวฉลาด' ฟิงโกลฟินและฟินาร์ฟิน เป็นโอรสของกษัตริย์ฟินเวกับพระนางอินดิส ซึ่งอภิเษกหลังจากมีริเอล พระชายาองค์แรกและมารดาของเฟอานอร์สิ้นพระชนม์ ดังนั้นจึงมักมีเรื่องขัดเคืองกันระหว่างเฟอานอร์กับฟิงโกลฟินเสมอๆ เพราะต่างก็เป็นโอรสองค์ใหญ่ เหตุแห่งความขัดเคืองกันส่วนใหญ่มาจากการยุแยงของเมลคอร์ เทพอสูรที่ริษยาในความรุ่งเรืองของเหล่าวาลาร์และพวกเอลฟ์ ครั้งหนึ่งเกิดการวิวาทกันจนเฟอานอร์ชักดาบออกต่อหน้าฟิงโกลฟิน จนเป็นเหตุให้เฟอานอร์ถูกลงโทษ ให้เนรเทศออกจากนครทิริออน ทว่าหลังจากนั้น มานเวเทพบดีได้จัดงานเลี้ยงและไกล่เกลี่ยให้พี่น้องทั้งสองกลับคืนดีกัน แต่เมลคอร์และอุงโกลิอันท์ก่อเหตุร้าย ทำลายทวิพฤกษา สังหารกษัตริย์ฟินเว แล้วชิงซิลมาริลของเฟอานอร์ไปเสียจากท้องพระคลังที่ฟอร์เมนอส หลบหนีไปยังมิดเดิ้ลเอิร์ธ เฟอานอร์ประกาศตามไล่ล่ามอร์กอธ (หรือเมลคอร์) ประชาชนชาวโนลดอร์ส่วนใหญ่ก็เคียดแค้นและจะตามไล่ล่ามอร์กอธด้วย ฟิงโกลฟินจึงเป็นผู้นำชาวโนลดอร์ส่วนใหญ่ที่ติดตามเฟอานอร์กลับมายังมิดเดิ้ลเอิร์ธ หลังจากเฟอานอร์สิ้นพระชนม์ มายดรอส โอรสองค์ใหญ่ของเฟอานอร์สละสิทธิ์ในราชสมบัติ ฟิงโกลฟินจึงขึ้นเป็นจอมกษัตริย์ของชาวโนลดอร์พลัดถิ่นบนมิดเดิ้ลเอิร์ธ เขาเป็นผู้นำในการสงครามต่อสู้กับมอร์กอธหลายครั้ง จนกระทั่งมอร์กอธตีโต้ด้วยไฟ ในสงครามดากอร์บราโกลลัค ทำให้ฝ่ายกองทัพเอลฟ์ได้รับความเสียหายยับเยิน รวมทั้งโอรสสององค์ของฟินาร์ฟิน คืออังกร็อดและอายก์นอร์ สิ้นพระชนม์ในการศึกครั้งนี้ด้วย ทำให้ฟิงโกลฟินลุแก่โทสะ บุกเพียงลำพังพระองค์เดียวเข้าไปถึงที่มั่นของมอร์กอธในอังก์บันด์ ฟิงโกลฟินได้สู้รบกับมอร์กอธตัวต่อตัว และสร้างบาดแผลแก่มอร์กอธได้ถึงเจ็ดแผล (จนทำให้มอร์กอธต้องเดินเขย่งขามานับแต่นั้น) แต่ไม่มีผู้ใดสามารถสังหารมอร์กอธซึ่งเป็นหนึ่งในเหล่าวาลาร์ได้ สุดท้ายฟิงโกลฟินจึงถูกมอร์กอธสังหาร โธรอนดอร์พญาอินทรี นำร่างของฟิงโกลฟินออกมา ไปไว้ยังเขตเทือกเขาของกอนโดลิน ทัวร์กอนได้สร้างหลุมพระศพของฟิงโกลฟินในที่นั้น.

ทัวร์กอนและฟิงโกลฟิน · ฟิงโกลฟินและอาร์เวน · ดูเพิ่มเติม »

ฟินเว

ฟินเว (Finwë) เป็นตัวละครตัวหนึ่งในปกรณัมเรื่อง ซิลมาริลลิออน ของเจ. อาร์. อาร์. โทลคีน เขาเป็นผู้นำของเอลฟ์ชาวโนลดอร์ ซึ่งได้เป็นตัวแทนไปเยือนทวีปอามัน แล้วกลับมาชักชวนพวกพ้องให้ยินยอมออกเดินทางจากมิดเดิลเอิร์ธไปสู่แผ่นดินอมตะ หลังจากชาวโนลดอร์เดินทางไปถึงอามันแล้ว ฟินเวได้ขึ้นเป็นกษัตริย์ของชาวโนลดอร์ทั้งปวง ฟินเวเป็นจอมกษัตริย์แห่งโนลดอร์ พระองค์มีชายาองค์แรกนามว่า มีริเอล ทรงมีโอรสองค์หนึ่ง ชื่อว่า 'คูรูฟินเว' ซึ่งเป็นที่รู้จักกันในชื่อว่า 'เฟอานอร์' หลังจากเฟอานอร์ประสูติ มีริเอลก็สิ้นพระชนม์ ฟินเวจึงอภิเษกชายาอีกองค์หนึ่งนามว่า อินดิส ชาววันยาร์ มีโอรสธิดาสี่องค์คือ ฟิงโกลฟิน ฟินาร์ฟิน ฟินดิส และอิริเม เมื่อเมลคอร์พ้นจากการจองจำ เขาคิดแก้แค้นเหล่าวาลาร์และทำลายพวกเอลฟ์ ยุแยงจนทำให้เฟอานอร์ต้องถูกเนรเทศออกจากทิริออน เมืองหลวงของพวกเอลฟ์ ไปอยู่ที่นครฟอร์เมนอสทางเหนือของอามัน ฟินเวซึ่งรักลูกชายคนโตมากที่สุด จึงตามไปอยู่กับเฟอานอร์ที่นั่นด้วย แต่แล้วพระองค์ก็ถูกเมลคอร์สังหารที่ฟอร์เมนอส หลังจากที่เขาทำลายทวิพฤกษาและมาขโมยซิลมาริลที่นี่ ส่วนเอลฟ์คนอื่น ๆ ไปร่วมงานเลี้ยงที่ยอดเขาทานิเควทิลกันหมด การสิ้นพระชนม์ของฟินเวครั้งนี้เป็นเหตุผลสำคัญข้อหนึ่งที่ทำให้เฟอานอร์และชาวโนลดอร์จำนวนมากโกรธแค้นเมลคอร์ จนตั้งชื่อให้เขาใหม่ว่า 'มอร์กอธ' แล้วยกทัพออกตามล่าเขากลับมายังมิดเดิ้ลเอิร.

ทัวร์กอนและฟินเว · ฟินเวและอาร์เวน · ดูเพิ่มเติม »

กอนโดลิน

กอนโดลิน (Gondolin) เป็นชื่ออาณาจักรเอลฟ์แห่งหนึ่งในปกรณัมชุดมิดเดิลเอิร์ธของ เจ. อาร์. อาร์. โทลคีน โดยปรากฏบรรยายอย่างละเอียดอยู่ในหนังสือ Book of Lost Tales และ ซิลมาริลลิออน ในชื่อตอนเดียวกันคือ การล่มสลายของกอนโดลิน เป็นหนึ่งในสาม "มหาตำนาน" ที่โทลคีนยกย่องไว้ (อีกสองเรื่องคือ "ตำนานของเบเรนและลูธิเอน" กับ "ตำนานบุตรแห่งฮูริน") ทัวร์กอนเป็นผู้สร้างนครกอนโดลินขึ้นตามคำแนะนำของเทพอุลโม เพื่อใช้เป็นที่มั่นสำหรับหลบซ่อนตัวให้พ้นจากการคุกคามของมอร์ก็อธ อาณาจักรนี้ตั้งอยู่ในที่ราบหุบเขาทุมลาเดนกลางวงล้อมของเทือกเขาวงแหวนหรือเอโคริอัธ เส้นทางเข้าออกผ่านเทือกเขาเป็นความลับ ส่วนบนฟ้าก็ไม่มีใครผ่านได้เพราะมีพญาอินทรีโธรอนดอร์กับบริวารคอยเฝ้าคุ้มครองอยู่ จึงไม่มีผู้ใดทราบที่ตั้งแน่ชัดของอาณาจักรแห่งนี้เลย อาณาจักรกอนโดลินเป็นอาณาจักรเอลฟ์ที่ยืนหยัดอยู่เป็นอาณาจักรสุดท้าย แต่ก็พินาศลงในที่สุดด้วยการทรยศของมายกลิน หลานของกษัตริย์ทัวร์กอนเอง ทำให้มอร์ก็อธสามารถยกทัพมาบุกโจมตีจนเมืองแตกได้ กษัตริย์ทัวร์กอนและมายกลินเสียชีวิตในคราวล่มนคร มีเพียงทูออร์ อิดริล และเออาเรนดิล กับพลเมืองติดตามอีกเล็กน้อยที่หนีออกไปได้ ด้วยการช่วยเหลือของเหล่าหัวหน้าตระกูลของกอนโดลิน เช่น กลอร์ฟินเดล และ เอคเธลีออน และไปสมทบกับเอลฟ์กลุ่มสุดท้ายที่เหลือบนแผ่นดินเบเลริอันด์ที่เมืองท่าปากแม่น้ำซิริออน.

กอนโดลินและทัวร์กอน · กอนโดลินและอาร์เวน · ดูเพิ่มเติม »

ภาษาซินดาริน

ษาซินดาริน (Sindarin) เป็นภาษาที่ เจ. อาร์. อาร์. โทลคีน ประดิษฐ์ขึ้นใช้ในนวนิยายของเขาในชุดมิดเดิลเอิร์ธ แรงบันดาลใจของการสร้างภาษานี้มาจากพื้นฐานของภาษาเวลช์ (Welsh) ซึ่งโทลคีนพบในการศึกษาโคลงโบราณ เขาได้ใช้เวลาประดิษฐ์ภาษานี้จนสมบูรณ์ใช้งานได้จริง เทียบเคียงกับภาษาเควนยา เดิมทีโทลคีนตั้งใจประดิษฐ์ภาษานี้ขึ้นเป็นภาษาของชาวโนลดอร์ แต่เปลี่ยนใจภายหลัง ภาษาซินดาริน ตามฉบับนิยาย เป็นภาษาของพวกเอลฟ์ ชาวเทเลริ ที่มิได้เข้าร่วมการเดินทางครั้งใหญ่ไปได้ตลอดรอดฝั่ง แต่ยังคงตกค้างอยู่บนมิดเดิลเอิร์ธ และตั้งถิ่นฐานขึ้นในแผ่นดินเบเลริอันด์ ภายใต้การปกครองของกษัตริย์ธิงโกล และ เมลิอัน ไมอาเทวี ในอาณาจักรโดริอัธ เอลฟ์กลุ่มนี้เรียกตัวเองว่า ชาวซินดาร์ หรือเอลฟ์แห่งสนธยา ภาษาของพวกเขาจึงเรียกว่า ภาษาซินดาริน ภาษาซินดารินมีกำเนิดมาจากคอมมอนเอลดาริน หรือภาษาดั้งเดิมของพวกเควนดิ จึงมีรากเดียวกันกับภาษาเควนยา ในยุคที่สาม ของโลกอาร์ดา คือเหตุการณ์ในเรื่องเดอะลอร์ดออฟเดอะริงส์นั้น ภาษาซินดารินเป็นภาษาที่พวกเอลฟ์ใช้กันแพร่หลายทั่วไป ดังนั้นภาษาเอลฟ์ที่ปรากฏในเนื้อเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นชื่อคน ชื่อสถานที่ต่างๆ รวมทั้งอักขระที่จารึกบนประตูทางเข้าเหมืองมอเรีย ก็ล้วนเป็นภาษาซินดารินทั้งสิ้น.

ทัวร์กอนและภาษาซินดาริน · ภาษาซินดารินและอาร์เวน · ดูเพิ่มเติม »

อามัน

อามัน (Aman) เป็นชื่อดินแดนแห่งหนึ่งบนโลกอาร์ดา ในจินตนิยายชุด มิดเดิลเอิร์ธ ของ เจ. อาร์. อาร์. โทลคีน มีชื่อเรียกอื่นๆ เช่น แผ่นดินอมตะ (Undying Lands) หรือ อาณาจักรอันศักดิ์สิทธิ์ (Blessed Realm) เนื่องจากบนดินแดนแห่งนี้เป็นที่อยู่ของบรรดาอมตะชนทั้งสิ้น แต่เดิมโลกอาร์ดามีทวีปเดียว มีทะเลสาบกลางแผ่นดินและเกาะกลางทะเลสาบนั้นชื่อว่า อัลมาเรน เป็นที่ประทับของเหล่าพลังอำนาจ หรือปวงเทพ หรือคือเหล่าไอนัวร์ ที่จำแลงร่างลงมาอยู่ในโลก แต่หลังจากมอร์กอธทรยศและทำลายผืนพิภพจนวอดวาย แผ่นดินและผืนน้ำเปลี่ยนรูปทรงไปทั้งหมด จึงเกิดเป็นทวีปใหญ่น้อยมากมาย ทวีปอามันเกิดขึ้นจากเหตุการณ์นี้ โดยเป็นทวีปที่อยู่ทางฟากตะวันตกสุดของอาร์ดา คั่นตัวออกจากทวีปอื่นด้วยมหาสมุทรใหญ่ชื่อ เบเลกายร์ หลังจากนั้นปวงเทพก็ย้ายมาประทับอยู่บนทวีปนี้ ตั้งเมืองศูนย์กลางของปวงเทพขึ้นเรียกว่า วาลินอร์ ภูมิประเทศในใจกลางทวีปเป็นที่ราบ และผืนป่า ซึ่งเป็นไร่นาของเทพียาวันนา และเขตป่าของเทพโอโรเม ด้านตะวันตกจรดทะเลวัฏฏะ (เอคไคอา) ด้านตะวันออกจรดทะเลเบเลกายร์ โดยมีขุนเขาสูงใหญ่ขวางกั้นไว้ที่ชายทวีปด้านตะวันออก มีชื่อว่า เทือกเขาเพโลริ ยอดเขาสูงสุดของเพโลริคือ ทานิเควทิล อันเป็นที่ประทับของจอมกษัตริย์แห่งกษัตริย์ทั้งปวง คือมานเวเทพบดี นครวาลินอร์ตั้งอยู่เชิงขุนเขาแห่งนี้ ด้านนอกนครเป็นเนินสูงใหญ่ชื่อ 'เอเซลโลฮาร์' บนเนินเป็นที่ตั้งของที่ประชุมมนตรีพิพากษา (คือที่ประชุมของปวงเทพวาลาร์ เมื่อต้องมีการพิจารณาเหตุการณ์สำคัญ) ใกล้เนินเอเซลโลฮาร์เป็นที่ตั้งของทวิพฤกษาแห่งวาลินอร์ หลังจากชาวเอลดาร์เดินทางมายังอามัน ปวงเทพเห็นว่าพวกเขายังจำเป็นต้องได้รับกลิ่นไอจากมหาสมุทรใหญ่ และอากาศจากแผ่นดินเกิด จึงแหวกช่องเขาเพโลริให้แยกออกในช่วงกึ่งกลางของทวีป กลายเป็นช่องเขาคาลาเคียร์ยา ซึ่งเป็นที่ตั้งของนครทิริออน เมืองหลวงของพวกเอลฟ์ ชายหาดริมมหาสมุทรใหญ่ใกล้กับนครนี้ มีชื่อเรียกว่า อ่าวเอลดามาร์ หรืออ่าวนิวาสเอลฟ์ เป็นที่ตั้งของนครอัลควาลอนเด เมืองหลวงของชาวเทเลริ ในอ่าวเอลดามาร์มีเกาะใหญ่แห่งหนึ่งตั้งอยู่ เกาะนี้เดิมคือแผ่นดินใหญ่ที่เทพอุลโมใช้นำพาเหล่าเอลฟ์ออกจากทวีปมิดเดิลเอิร์ธมาสู่อามัน แต่เมื่อถึงการเดินทางครั้งสุดท้ายของเหล่าเทเลริ พวกเขาขอให้เทพอุลโมหยุดยั้งการเดินทาง พระองค์จึงหยั่งรากของเกาะลงยึดกับก้นมหาสมุทรกลายเป็นเกาะขนาดใหญ่ มีชื่อว่า 'โทลเอเรสเซอา' หรือเกาะเอกา (Lonely Isle) บางครั้งในปกรณัมเรียกชื่อว่า 'เอเรสเซอา' บนเกาะนี้เป็นที่ตั้งของนครอวัลโลเน พวกเอลฟ์โนลดอร์ที่ถูกเนรเทศไปยังมิดเดิลเอิร์ธ เมื่อได้รับอภัยโทษและกลับคืนสู่แผ่นดินอมตะ ก็จะมาได้เพียงเกาะโทลเอเรสเซอาแห่งนี้ อามันได้ชื่อว่าเป็นแผ่นดินอมตะ ก็เพราะผู้อยู่อาศัยบนแผ่นดินนั้นล้วนเป็นอมตะชน ไม่ใช่ว่าทุกคนที่ไปอยู่บนนั้นจะมีชีวิตยืนยาว ตรงกันข้าม ถ้ามนุษย์ผู้ไม่ได้รับอนุญาตเหยียบลงบนแผ่นดินนั้น กลับจะยิ่งเสียชีวิตเร็วขึ้นเพราะไม่อาจทนรับสภาพอากาศของแผ่นดินอมตะได้ มนุษย์ผู้แรกที่ได้เหยียบย่างขึ้นบนแผ่นดินอมตะ คือ เออาเรนดิลจอมนาวิก ซึ่งเสี่ยงชีวิตเดินทางไปขออภัยต่อปวงเทพในฐานะตัวแทนของสองเผ่าพันธุ์ (เอลฟ์และมนุษย์) ในเหตุการณ์ตอนปลายของยุคที่หนึ่ง เขาได้รับพรพิเศษจากปวงเทพให้เลือกได้ว่าจะเป็นเอลฟ์หรือมนุษย์ เออาเรนดิลเลือกเป็นเอลฟ์ จึงได้รับมอบหมายให้อัญเชิญดวงมณีซิลมาริลไปบนนาวาวิงกิล็อท เพื่อส่องแสงสว่างแก่โลกตลอดไป เหตุนี้เขาจึงมีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า เออาเรนดิลผู้ได้รับพร ในช่วงปลายยุคที่สอง อาร์-ฟาราโซน กษัตริย์นูเมนอร์ คิดเหิมเกริมด้วยถูกยุยงจากเซารอน หมายจะไปชิงความเป็นอมตะจากปวงเทพ จึงยกทัพเรือไปจะตีอามัน จากเหตุการณ์นี้องค์อิลูวาทาร์จึงบันดาลให้มหาสมุทรใหญ่เกิดหุบเหวลึก ดูดเอาเกาะนูเมนอร์จมสมุทร แล้วย้ายอามันออกไปจากพิภพอาร์ดา บันดาลให้โลกกลม ดังนั้นจึงไม่มีผู้ใดสามารถเดินทางไปถึงอามันได้อีกเลย นอกจากผู้ได้รับอนุญาติจากเหล่าเอลฟ์ เช่น บิลโบ และ โฟรโด ซึ่งเป็นผู้ถือแหวน ที่สามารถไปถึงได้โดยผ่านทาง เส้นทางมุ่งตรง เท่านั้น เพื่อไปใช้ชีวิตเป็นอมตะกับ ชาวอมตะที่เหลือ.

ทัวร์กอนและอามัน · อามันและอาร์เวน · ดูเพิ่มเติม »

ซินดาร์

ซินดาร์ (Sindar) คือชื่อเรียกเอลฟ์กลุ่มหนึ่งในปกรณัมชุดมิดเดิลเอิร์ธของ เจ. อาร์. อาร์. โทลคีน คำว่า ซินดาร์ เป็นภาษาเควนยา ที่ชาวโนลดอร์พลัดถิ่นเรียกเอลฟ์กลุ่มนี้ มีความหมายว่า "ประชาชนสีเทา" เอกพจน์เรียกว่า ซินดา (Sinda) เอลฟ์กลุ่มนี้เป็นกลุ่มย่อยกลุ่มหนึ่งของเอลฟ์ในตระกูลเทเลริ ซึ่งเป็นตระกูลที่สามของพวกเอลฟ์ที่อพยพออกจากทะเลสาบคุยวิเอเนน บางครั้งก็เรียกชาวซินดาร์ว่า เกรย์เอลฟ์ หรือ เอลฟ์เทา เมื่อแรกเริ่ม ชาวซินดาร์ออกเดินทางจากทะเลสาบคุยวิเอเนนพร้อมกับเอลฟ์เทเลริกลุ่มอื่นๆ แต่เมื่อเดินทางมาเกือบจะถึงริมฝั่งมหาสมุทรใหญ่ ผู้นำของพวกเขาคือ เอลเว ซิงโกลโล หรือกษัตริย์ธิงโกล หลงทางหายไป พวกเขามัวแต่เฝ้าค้นหาติดตามผู้นำของตนอยู่ จนไม่ได้เดินทางข้ามมหาสมุทรไปพร้อมกับเอลฟ์กลุ่มอื่นๆ ในภายหลังจึงตั้งถิ่นฐานอยู่ในดินแดนริมมหาสมุทรใหญ่นั้นเอง แผ่นดินนั้นเรียกว่า เบเลริอันด์ และอาณาจักรของพวกเขามีชื่อว่า โดริอัธ ธิงโกลได้เป็นกษัตริย์ของพวกเขา โดยมีเทพีเมลิอัน ผู้เป็นเทพไมอาที่ตกหลุมรักธิงโกล อยู่เป็นราชินีของพวกเขา เนื่องจากเอลฟ์กลุ่มนี้ไม่ได้เดินทางไปสู่แผ่นดินอามัน จึงไม่มีโอกาสเห็นแสงแห่งทวิพฤกษา พวกเขาจึงไม่ใช่คาลาเควนดิ อย่างไรก็ดี พวกเขาก็ยังไม่ใช่พวกอวาริ เขาได้รับแสงสว่างจากแผ่นดินอมตะผ่านทางดวงพักตร์ของเทพีเมลิอัน จึงมีความเฉลียวฉลาดและมีวิทยาการสูงกว่าเอลฟ์พวกอื่นๆ บนมิดเดิลเอิร์ธ ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงถูกเรียกว่า เอลฟ์เทา หรือเอลฟ์แห่งสนธยา แต่ส่วนพวกเขาเองเรียกชื่อตัวเองว่า เอกลัธ (Eglath) ซึ่งหมายถึง ผู้ถูกทอดทิ้ง.

ซินดาร์และทัวร์กอน · ซินดาร์และอาร์เวน · ดูเพิ่มเติม »

โนลดอร์

ตามปกรณัมของ เจ. อาร์. อาร์. โทลคีน ในชุด เดอะลอร์ดออฟเดอะริงส์ และ ซิลมาริลลิออน ชาวโนลดอร์ (Noldor) เป็นชื่อชนตระกูลหนึ่งในสามตระกูลใหญ่ของพวกเอลฟ์ ที่เดินทางไปยังทวีปอามัน ต้นตระกูลผู้รวบรวมผองชนโนลดอร์คือเอลฟ์ที่ตื่นขึ้นเป็นคนที่สองที่ริมทะเลสาบคุยวิเอเนน นามว่า ตาตา (Tata) ดังนั้นบางครั้งจึงเรียกชนเหล่านี้ว่า 'ตระกูลที่สองของเอลฟ์' หรือ 'ตาชาร์' (Tatyar) สำหรับเอลฟ์อีกสองตระกูลใหญ่คือ ชาววันยาร์ และชาวเทเลริ อย่างไรก็ดี ในเวลาต่อมาเมื่อเทพโอโรเมชักชวนเหล่าเอลฟ์ให้ส่งผู้แทนไปเยือนวาลินอร์ ผู้แทนของชาวโนลดอร์คือ ฟินเว ผู้ซึ่งต่อมาได้กลายเป็นกษัตริย์ของชาวโนลดอร์ทั้งมวล และได้นำพวกเขาเดินทางอพยพไปสู่แผ่นดินอมตะ ชาวโนลดอร์มีรูปร่างสูงใหญ่ มักมีดวงตาสีเทา ผมสีเข้ม (ยกเว้นโนลดอร์บางคนในตระกูลที่วิวาห์กับชาววันยาร์ เช่นราชสกุลฟินาร์ฟิน จะมีผมสีทองแบบชาววันยาร์) พวกเขาพูดภาษาเควนยา แต่ชาวโนลดอร์ที่นิวัติมายังมิดเดิลเอิร์ธในยุคที่หนึ่ง จะใช้ภาษาซินดารินในการเจรจาประจำวัน.

ทัวร์กอนและโนลดอร์ · อาร์เวนและโนลดอร์ · ดูเพิ่มเติม »

เจ. อาร์. อาร์. โทลคีน

. อาร.

ทัวร์กอนและเจ. อาร์. อาร์. โทลคีน · อาร์เวนและเจ. อาร์. อาร์. โทลคีน · ดูเพิ่มเติม »

รายการด้านบนตอบคำถามต่อไปนี้

การเปรียบเทียบระหว่าง ทัวร์กอนและอาร์เวน

ทัวร์กอน มี 23 ความสัมพันธ์ขณะที่ อาร์เวน มี 37 ขณะที่พวกเขามีเหมือนกัน 8, ดัชนี Jaccard คือ 13.33% = 8 / (23 + 37)

การอ้างอิง

บทความนี้แสดงความสัมพันธ์ระหว่าง ทัวร์กอนและอาร์เวน หากต้องการเข้าถึงบทความแต่ละบทความที่ได้รับการรวบรวมข้อมูลโปรดไปที่:

Hey! เราอยู่ใน Facebook ตอนนี้! »