โลโก้
ยูเนี่ยนพีเดีย
การสื่อสาร
ดาวน์โหลดได้จาก Google Play
ใหม่! ดาวน์โหลด ยูเนี่ยนพีเดีย บน Android ™ของคุณ!
ดาวน์โหลด
เร็วกว่าเบราว์เซอร์!
 

ดิสไทม์อราวน์ (เพลงไมเคิล แจ็กสัน)และแท็บลอยด์จังกี

ทางลัด: ความแตกต่างความคล้ายคลึงกันค่าสัมประสิทธิ์การเปรียบเทียบ Jaccardการอ้างอิง

ความแตกต่างระหว่าง ดิสไทม์อราวน์ (เพลงไมเคิล แจ็กสัน)และแท็บลอยด์จังกี

ดิสไทม์อราวน์ (เพลงไมเคิล แจ็กสัน) vs. แท็บลอยด์จังกี

ทม์อราวน์ (This Time Around) เป็นเพลงของนักร้องชาวอเมริกัน ไมเคิล แจ็กสัน คู่กับเดอะโนทอเรียสบีไอจี จากอัลบั้ม HIStory โดยได้วางจำหน่ายในวันที่ 26 ธันวาคม.. แท็ปลอยด์ จันเกิล (Tabloid Junkie) เป็นเพลงป็อปที่บันทึกเสียงโดยนักร้องชาวอเมริกัน ไมเคิล แจ็กสัน เพลงนี้ปรากฏอยู่ในแทร็กที่ 11 ในสตูดิโอส์อัลบั้มที่ 9 ของแจ็กสัน HIStory: Past, Present and Future, Book I วางจำหน่ายในปี ค.ศ. 1995 ในรูปแบบ 2 แผ่น เพลงที่ได้รับความคิดเห็นเชิงบวกจากนักวิจารณ์เพลง "Tabloid Junkie" เป็นเพลงป๊อปร็อคกับเนื้อเพลงที่เกี่ยวข้องกับสื่ออคติและการรายงานข่าวเชิงลบของข่าวลือเกี่ยวกับแจ็คสันและชีวิตส่วนตัวของเขาคล้ายกับเพลงก่อนบันทึกโดยแจ็คสัน "Tabloid Junkie" เป็นเพลงที่เจ็ดใน HIStory: Past, Present And Future, Book I ที่มีวัตถุประสงค์เพื่อสื่อ แทร็คนี้ไม่ได้ถูกปล่อยออกมาเป็นซิงเกิล.

ความคล้ายคลึงกันระหว่าง ดิสไทม์อราวน์ (เพลงไมเคิล แจ็กสัน)และแท็บลอยด์จังกี

ดิสไทม์อราวน์ (เพลงไมเคิล แจ็กสัน)และแท็บลอยด์จังกี มี 3 สิ่งที่เหมือนกัน (ใน ยูเนี่ยนพีเดีย): อีพิกเรเคิดส์ฮิสทรี: พาสต์เพรเซนต์แอนด์ฟิวเจอร์บุ๊ก 1ไมเคิล แจ็กสัน

อีพิกเรเคิดส์

อีพิกเรเคิดส์ คือบริษัทบันทึกเสียงในเครือโซนี่ บีเอ็มจี ในสหรัฐอเมริกา หมวดหมู่:ค่ายเพลงอเมริกัน หมวดหมู่:บริษัทที่ก่อตั้งในปี พ.ศ. 2496.

ดิสไทม์อราวน์ (เพลงไมเคิล แจ็กสัน)และอีพิกเรเคิดส์ · อีพิกเรเคิดส์และแท็บลอยด์จังกี · ดูเพิ่มเติม »

ฮิสทรี: พาสต์เพรเซนต์แอนด์ฟิวเจอร์บุ๊ก 1

HIStory: Past, Present and Future, Book I (มักเขียนย่อว่า HIStory) เป็นอัลบั้มคู่ของ ไมเคิล แจ็กสัน ออกวางขายวันที่ 20 มิถุนายน ค.ศ. 1995 ถือเป็นสตูดิโออัลบั้มชุดที่ 9 ของแจ็กสัน แผ่นแรกมีชื่อว่า "HIStory Begins" ประกอบด้วยเพลงดังที่ถูกเลือกสรรของแจ็กสันในช่วง 15 ปี ก่อนหน้า ส่วนแผ่นที่ 2 ใช้ชื่อว่า "HIStory Continues" เป็นเพลงใหม่ เว้นแต่เพลง "Come Together" ที่บันทึกเสียงในปี 1987 ฮิสทรี นับเป็นผลงานของแจ็กสันที่แสดงออกถึงการโต้แย้งมากที่สุด อัลบั้มนี้ได้จัดอยู่ในอันดับอัลบั้มเพลงทั่วโลกยอดขายสูงสุดตลอดกาล อัลบั้มนี้เป็นการกลับมาหลังจากปล่อยอัลบั้มชุดที่ 8 ของเขา"เดนเจอรัส" โดย 15 เพลงทั้งหมด ล้วนเกี่ยวข้องกับข้อกล่าวหาและการตอบโต้ของแจ็กสันที่มีต่อสื่อต่างๆ โดยเฉพาะหนังสือพิมพ์อย่างแท็บลอยด์ ธีมแนวเพลงของอัลบั้มนี้แสดงออกถึงบรรยากาศหวาดระแวงต่อสิ่งแวดล้อม การดิ้นรนต่อสาธารณะ ความโลภ ความรู้สึกอยุติธรรมและการฆ่าตัวตาย อัลบั้มมี 6 ซิงเกิล ได้รับการปล่อยจากอัลบั้ม และ 2 ซิงเกิลสนับสนุน ได้แก่ "Scream"/"Childhood", "You Are Not Alone", "Earth Song", "This Time Around", "They Don't Care About Us" and "Stranger in Moscow" โดย "This Time Around" ได้รับการปล่อยทางวิทยุเพียงซิงเกิลเดียว และแม้เพลงอย่าง "Earth Song", "They Don't Care About Us" and "Stranger in Moscow" จะประสบความสำเร็จน้อยกว่าในสหรัฐอเมริกา แต่ประสบความสำเร็จอย่างสูงในระดับสากล โดย 3 เพลงดังกล่าวยังติดท๊อป 10 ในอีกหลายประเทศ ฮิสทอรี เป็นอัลบั้มที่ได้รับการตอบรับอย่างดีจากนักวิจารณ์เพลง โดยประสบความสำเร็จทั้งด้านยอดขายและเปิดตัวเป็นอันดับ 1 ทันที ในหลายประเทศ ประกอบด้วย สหรัฐอเมริกา แคนาดา ออสเตเรีย ฝรั่งเศส และสหราชอาณาจักร เช่นเดียวกันอัลบั้มยังติดท๊อป 10 ใน สเปน อินเดีย และเม็กซิโก อัลบั้มได้รับการรับรอง 6 รางวัลแพลทินัมโดยสิ้นปี.ศ 1996 และมียอดขายสูงสุดของปีในตลาดของยุโรป อัลบั้มได้รับรางวัลแกรมมี่ สาขามิวสิกวิดีโอเพลงยอดเยี่ยมจากเพลง "Scream" ในส่วนเพลงฮิตแผ่นแรกถูกนำมาขายใหม่ในทั่วโลกในรูปแบบแผ่นเดียว ภายใต้ชื่อ Greatest Hits: HIStory, Volume I ฮิสทอรี ถือเป็นอัลบั้มเพลงหลายแผ่นที่ขายดีที่สุดตลอดกาล มียอดขายอยู่ระหว่าง 20-30 ล้านชุดทั่วโลก (40-60 ล้านหน่วย).

ดิสไทม์อราวน์ (เพลงไมเคิล แจ็กสัน)และฮิสทรี: พาสต์เพรเซนต์แอนด์ฟิวเจอร์บุ๊ก 1 · ฮิสทรี: พาสต์เพรเซนต์แอนด์ฟิวเจอร์บุ๊ก 1และแท็บลอยด์จังกี · ดูเพิ่มเติม »

ไมเคิล แจ็กสัน

มเคิล โจเซฟ แจ็กสัน เป็นนักร้องชาวอเมริกัน นักแต่งเพลง นักออกแบบท่าเต้น นักแสดง โปรดิวเซอร์เพลงและนักการกุศล ได้รับการขนานนามว่าเป็น "ราชาเพลงป็อป" (The King of Pop)อิทธิพลทางดนตรี การเต้นรำ แฟชั่นและผลงานด้านมนุษยธรรม กับชีวิตส่วนตัวที่ถูกเผยแพร่ควบคู่ไปกับความสำเร็จ ทำให้เขาเป็นส่วนหนึ่งในวัฒนธรรมร่วมสมัยมากว่า 4 ทศวรรษ เขาเป็นลูกคนที่ 8 ของครอบครัวแจ็กสัน ปรากฏตัวครั้งแรกในระดับอาชีพด้านดนตรีตั้งแต่อายุ 5 ปี โดยเป็นหนึ่งในสมาชิกวงเดอะแจ็กสันไฟฟ์ในปี 1964 เขาเริ่มมีผลงานเดี่ยวในปี 1971 ขณะที่ยังคงเป็นสมาชิกของวงอยู่ ต้นคริสต์ทศวรรษ 1980 เขากลายเป็นส่วนสำคัญในวัฒนธรรมเพลงป็อป และถือเป็นศิลปินชาวแอฟริกัน-อเมริกันคนแรกที่มีผลงานออกอากาศผ่านทางช่องเอ็มทีวี มิวสิกวิดีโอของเขา ประกอบด้วยเพลง "Beat It", "Billie Jean" และ "Thriller" ได้รับการยกย่องสำหรับการทำลายอุปสรรคทางเชื้อชาติ และเปลี่ยนแปลงรูปแบบมิวสิกวิดีโอจากอุปกรณ์การประชาสัมพันธ์ไปเป็นรูปแบบของงานศิลปะ ความนิยมของมิวสิกวิดีโอเหล่านี้ได้ช่วยให้ช่องเอ็มทีวีที่เพิ่งเปิดใหม่นี้มีชื่อเสียง อัลบั้ม Bad ของเขาในปี 1987 นับเป็นอัลบั้มเพลงแรกในประวัติศาสตร์ที่มีเพลงอันดับ 1 ถึง 5 เพลงบนบิลบอร์ดฮ็อต 100 จากอัลบั้มเดียว มิวสิกวิดีโอในรูปแบบใหม่อย่างเพลง "Black or White" และ "Scream" ก็ยังออกอากาศบ่อยทางช่องเอ็มทีวี เขายังสร้างสรรค์สิ่งใหม่ตลอดคริสต์ทศวรรษ 1990 ด้วยชื่อเสียงที่เลื่องลือในฐานะศิลปินเดี่ยวกับลีลาบนเวทีและการแสดง แจ็กสันสร้างความโด่งดังให้กับเทคนิคการเต้นที่ซับซ้อนโดยใช้ร่างกายมากมายหลายๆท่า ซึ่งก่อให้เกิดการแพร่หลายอย่างมาก อย่างเช่นท่าเต้นหุ่นยนต์และท่าเต้นมูนวอล์ก เอกลักษณ์ทางด้านดนตรีและเสียงร้องอันโดดเด่นของเขายังมีอิทธิพลต่อศิลปินหลายแนวเพลง อิทธิพลของเขาได้แพร่กระจายไปสู่คนหลายรุ่นทั่วโลก Thriller ถือเป็นอัลบั้มเพลงที่มียอดขายสูงสุดตลอดกาลสี่อัลบั้มเดี่ยวที่เหลือของเขา ก็ยังติดอันดับอัลบั้มที่ขายดีที่สุดในโลก ประกอบด้วยชุด Off the Wall (1979), Bad (1987), Dangerous (1991) และ HIStory (1995) แจ็กสันเดินทางไปทั่วโลกเพื่อร่วมกิจกรรมด้านมนุษยธรรม เขาหาเงินนับร้อยล้านดอลลาร์เพื่อมูลนิธิการกุศลของเขา มีซิงเกิลและผลกำไรจากทัวร์คอนเสิร์ตที่เขาสนับสนุนให้กับองค์กร 39 แห่ง บันทึกสถิติโลกกินเนสส์ระบุว่าเขาเป็นบุคคลบันเทิงที่มีส่วนร่วมในการกุศลมากยิ่งกว่าดาราหรือศิลปินคนใดๆ ชีวิตส่วนตัวของเขามักปรากฏตัวโดยการปรับเปลี่ยนเสื้อผ้าและพฤติกรรมให้คนอื่นจำไม่ได้ แต่นี่ก็เป็นสิ่งที่ทำลายภาพลักษณ์ที่ดีของเขาด้วยเช่นกัน เขายังถูกข้อกล่าวหาลวนลามทางเพศเด็กในปี 1993 แต่ก็ปิดลงโดยเขาไม่มีความผิดเนื่องจากมีหลักฐานไม่เพียงพอ แจ็กสันมีปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพตั้งแต่ต้นคริสต์ทศวรรษ 1990 และยังมีข้อมูลรายงานขัดแย้งในเรื่องฐานะการเงินของเขาตั้งแต่ปลายคริสต์ทศวรรษ 1990 แจ็กสันแต่งงานมาแล้วสองครั้ง มีลูกสามคน ต่อมาในปี 2005 เขามีข้อพิพาทอีกครั้งเรื่องล่วงละเมิดทางเพศและอีกหลายคดี แต่เขาก็ไม่มีความผิด (ซึ่งในภายหลังคู่กรณีหลายรายได้ออกมายอมรับว่า แจ็กสัน ไม่ได้กระทำ และที่กล่าวหา เพราะเป็นเด็ก และถูกผู้ปกครองบังคับ โดยหวังที่จะได้รับเงินค่าเสียหาย) เขาเป็นหนึ่งในไม่กี่ศิลปินที่มีชื่ออยู่ในร็อกแอนด์โรลฮอลออฟเฟมถึงสองครั้ง ผลงานของเขาประสบความสำเร็จได้รับบันทึกสถิติหลายครั้ง กินเนสส์บุ้คเวิลด์เรคคอร์ดจารึกชื่อเขาเป็น "ศิลปินบันเทิงที่ประสบความสำเร็จที่สุดตลอดกาล" เขาเป็นนักร้องคนเดียวจากโลกดนตรีป็อปและร็อกแอนด์โรลที่มีชื่ออยู่ในหอเกียรติยศแดนซ์ฮอลออฟเฟม และยังเป็นศิลปินเพียงคนเดียวที่มีเพลงฮิตติดท็อป 10 บนบิลบอร์ดฮ็อต 100 ทุก 10 ปี ติดต่อกันนานกว่าครึ่งศตวรรษ แจ็กสันชนะรางวัลจากเวทีต่างๆ นับร้อยกว่ารางวัล ทำให้เขาเป็นศิลปินที่คว้ารางวัลมากที่สุดในประวัติศาสตร์เพลงป็อปความสำเร็จอื่นๆ ของเขาได้แก่ สถิติในกินเนสบุ้คเวิลด์เรคคอร์ดหลายครั้ง 13 รางวัลแกรมมี่ รางวัลพิเศษ Grammy Legend Award, Grammy Lifetime Achievement Award 26 อเมริกันมิวสิกอวอร์ดส มากกว่าศิลปินคนใดๆ รวมไปถึงรางวัลพิเศษ "ศิลปินแห่งศตวรรษ" และ "ศิลปินแห่งทศวรรษ" 13 ซิงเกิลที่ขึ้นอันดับ 1 ในฐานะนักร้องเดี่ยว มากกว่าที่ศิลปินชายคนใดจะทำได้ และมียอดขายรวมกว่า 400 ล้านชุดทั่วโลก ไมเคิล แจ็กสัน เสียชีวิตเมื่อวันที่ 25 มิถุนายน..

ดิสไทม์อราวน์ (เพลงไมเคิล แจ็กสัน)และไมเคิล แจ็กสัน · แท็บลอยด์จังกีและไมเคิล แจ็กสัน · ดูเพิ่มเติม »

รายการด้านบนตอบคำถามต่อไปนี้

การเปรียบเทียบระหว่าง ดิสไทม์อราวน์ (เพลงไมเคิล แจ็กสัน)และแท็บลอยด์จังกี

ดิสไทม์อราวน์ (เพลงไมเคิล แจ็กสัน) มี 11 ความสัมพันธ์ขณะที่ แท็บลอยด์จังกี มี 11 ขณะที่พวกเขามีเหมือนกัน 3, ดัชนี Jaccard คือ 13.64% = 3 / (11 + 11)

การอ้างอิง

บทความนี้แสดงความสัมพันธ์ระหว่าง ดิสไทม์อราวน์ (เพลงไมเคิล แจ็กสัน)และแท็บลอยด์จังกี หากต้องการเข้าถึงบทความแต่ละบทความที่ได้รับการรวบรวมข้อมูลโปรดไปที่:

Hey! เราอยู่ใน Facebook ตอนนี้! »