เรากำลังดำเนินการเพื่อคืนค่าแอป Unionpedia บน Google Play Store
🌟เราได้ทำให้การออกแบบของเราง่ายขึ้นเพื่อการนำทางที่ดีขึ้น!
Instagram Facebook X LinkedIn

ฉากยิงปืนของภาพยนตร์เจมส์ บอนด์และทิโมธี ดาลตัน

ทางลัด: ความแตกต่างความคล้ายคลึงกันค่าสัมประสิทธิ์การเปรียบเทียบ Jaccardการอ้างอิง

ความแตกต่างระหว่าง ฉากยิงปืนของภาพยนตร์เจมส์ บอนด์และทิโมธี ดาลตัน

ฉากยิงปืนของภาพยนตร์เจมส์ บอนด์ vs. ทิโมธี ดาลตัน

ฉากยิงปืนของภาพยนตร์เจมส์ บอนด์ (Gun barrel sequence) ปรากฏในภาพยนตร์เจมส์ บอนด์ ทุกตอนที่เป็นของค่ายภาพยนตร์ อีโอเอ็น โปรดัคชั่นส์ และส่วนมากจะใช้เปิดเรื่อง ลักษณะของฉากนี้ จะมีลักษณะเป็นจุดสีขาวขนาดเล็ก ในพื้นหลังสีดำ วิ่งจากด้านซ้ายไปขวา (ในสายตาของผู้ชม) และหายไปทางขอบจอโทรทัศน์ด้านขวา และหลังจากนั้น โทรทัศน์ก็จะฉายภาพที่เป็นภาพมุมมองจากภายในลำกล้องปืนของมือปืนที่คิดจะฆ่าเจมส์ บอนด์ ผู้ชมมองเห็น เจมส์ บอนด์ อยู่ด้านนอกกระบอกปืน กำลังเดินอยู่อย่างสงบจากขวา ไปซ้าย (ในสายตาผู้ชม) และกระบอกปืนก็หันตามเจมส์ บอนด์ ไปเรื่อยๆ รอจังหวะเหนี่ยวไก แต่เมื่อมาถึงกลางหน้าจอ เจมส์ บอนด์ ก็หันมาหามือปืนและควักปืนของตนยิงออกไปหามือปืนอย่างรวดเร็ว ทำให้มือปืนที่ตั้งตัวไม่ทันบาดเจ็บหรืออาจตาย และกระบอกปืน ก็มีเลือดของมือปืนไหลลงมาเรื่อยๆ จนชุ่มกระบอกปืน และหน้าจอมีสีแดงทั้งจอ และกระบอกปืนก็เริ่มโงนเงนจากอาการสาหัสของมือปืน ต่อมาไม่กี่วินาที บริเวณที่เห็น เจมส์ บอนด์ ก็จะมีสีแดงเข้มขึ้นจนมองไม่เห็นตัวของเจมส์ บอนด์ กลายเป็นจุดสีแดงเข้มขนาดใหญ่ในหน้าจอ และมุมมองนั้นหล่นลงเบื้องล่างของหน้าจอ (เพราะมือปืนทำปืนหล่น) และจุดสีแดงเข้มก็กลายเป็นภาพของฉากแรกในภาพยนตร์เรื่องนั้นๆ และภาพยนตร์จะเปลี่ยนมุมมองโดยจะพาเราออกจากกระบอกปืนอย่างรวดเร็ว และเข้าสู่ฉากแอ็คชั่นเปิดเรื่อง แล้วก็เข้าสู่เพลงไตเติ้ล จากนั้นก็เข้าสู่ภาพยนตร์Cork, John & Scivally, Bruce (2002). ทิโมธี ดาลตัน มีชื่อเต็มว่า ทิโมธี ปีเตอร์ ดาลตัน (Timothy Dalton; ชื่อเต็ม: Timothy Peter Dalton) เกิดเมื่อวันที่ 21 มีนาคม ค.ศ. 1946 ที่เมืองโคลินเบย์ แคว้นเวลส์ สหราชอาณาจักร ทิโมธี ดาลตัน เป็นที่รู้จักกันกว้างขวางเมื่อเป็นผู้รับบทเจมส์ บอนด์ คนที่ 4 ต่อจาก โรเจอร์ มัวร์ ในปี ค.ศ. 1987 แต่ในความเป็นจริง ดาลตันถูกทาบทามให้รับบทเจมส์ บอนด์ ตั้งแต่ ค.ศ. 1969 ในตอน On Her Majesty's Secret Service เพราะในช่วงนั้น ฌอน คอนเนอรี่ ลาออกจากบทเจมส์ บอนด์ มีการล่ารายชื่อนักแสดงที่มีลักษณะที่จะเป็นเจมส์ บอนด์ได้ เพื่อมารับบทต่อจากคอนเนอรี่ แต่ในขณะนั้น ดาลตันอายุเพียง 23 ปี จึงปฏิเสธบทบาทไปเพราะคิดว่าอายุของตนยังน้อยเกินไปสำหรับบทบาทบอนด์ บทบาทนี้จึงกลายเป็นของจอร์จ ลาเซนบี และ โรเจอร์ มัวร์ ตามลำดับ ค.ศ. 1987 โรเจอร์ มัวร์ ไม่ขอรับบทเจมส์ บอนด์ อีกต่อไป เนื่องจากอายุมากแล้ว และมารดาของ ทันย่า โรเบิตส์ ที่รับบทสเตซี่ ซัตตอน นางเอกและผู้หญิงของบอนด์ในตอน A View to a Kill นั้นอายุน้อยยังกว่ามัวร์เสียอีก ทิโมธี ดาลตันจึงได้รับการทาบทามให้รับบทบอนด์อีกครั้ง และครั้งนี้ดาลตันไม่ปฏิเสธ จึงได้รับบทเจมส์บอนด์ไปใน ค.ศ. 1987 ขณะอายุ 43 ปี การแสดงของดาลตันเป็นอารมณ์ที่แปลกใหม่ของบอนด์ แฟน ๆ หลายคนก็ประทับใจ แต่ก็ยังไม่เป็นที่ประทับใจของแฟน ๆ บอนด์เก่าแก่นัก ดาลตันจึงถูกวิจารณ์ว่าแสดงตึงเครียดเกินกว่าจะเป็นอารมณ์ของบอนด์ที่ผ่าน ๆ มา และหลัง Licence to Kill ก็เกิดปัญหาเรื่องการถ่ายโอนกรรมสิทธิ์ของภาพยนตร์ จึงประกาศที่จะเลิกรับการแสดงเป็นเจมส์ บอนด์ในภาคต่อมา จึงแสดงเพียง 2 ภาคเท่านั้น.

ความคล้ายคลึงกันระหว่าง ฉากยิงปืนของภาพยนตร์เจมส์ บอนด์และทิโมธี ดาลตัน

ฉากยิงปืนของภาพยนตร์เจมส์ บอนด์และทิโมธี ดาลตัน มี 10 สิ่งที่เหมือนกัน (ใน ยูเนี่ยนพีเดีย): ฌอน คอนเนอรีทิโมธี ดาลตันแดเนียล เคร็กโรเจอร์ มัวร์เพียร์ซ บรอสแนนเจมส์ บอนด์007 พยัคฆ์ร้ายพญายม007 พยัคฆ์สะบัดลาย007 ยอดพยัคฆ์ราชินี007 รหัสสังหาร

ฌอน คอนเนอรี

อน คอนเนอรี่ ในงานเทศกาลของชาวสกอตแลนด์ ที่จัดในกรุงวอชิงตันดีซี ฌอน คอนเนอรี่ ในสมัยรับบทเจมส์ บอนด์ ฌอน คอนเนอรี่ (Sean Connery) มีชื่อจริงว่า โธมัส ฌอน คอนเนอรี่ (Thomas Sean Connery) เกิดเมื่อวันที่ 25 สิงหาคม ค.ศ. 1930 ที่เมืองเอดินเบอระ แคว้นสกอตแลนด์ สหราชอาณาจักร บิดาชื่อว่า โจเซฟ คอนเนอรี่ (Joseph Connery) นับถือศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก ในขณะที่มารดา อูฟาเมีย แม็คลีน (Euphamia Maclean) นับถือศาสนาคริสต์นิกายโปรแตสแตนท์ เขาเริ่มเข้าสู่วงการบันเทิงครั้งแรกในค.ศ. 1954 แต่รับบทเป็นเพียงตัวประกอบเล็กๆ ไม่มีบทบาทสำคัญใดๆ ในภาพยนตร์เรื่อง Lilacs in the Spring การรับบทตัวละครสำคัญๆครั้งแรกของฌอน คือใน ค.ศ. 1957 นับเป็นการก้าวสู่วงการบันเทิงอย่างเต็มตัว และไม่นานก็สามารถสร้างชื่อเสียงให้แก่ตนได้อย่างรวดเร็ว ต่อมา ค่ายภาพยนตร์อีโอเอ็น (EON Productions) จะทำภาพยนตร์ชุดบอนด์เดอะซีรีส์ โดยสร้างภาพยนตร์จากนวนิยายสายลับของ เอียน เฟลมมิ่ง เขาจึงได้รับคัดเลือกเป็นผู้รับบทเจมส์ บอนด์คนแรก และเริ่มแสดงภาพยนตร์ชุดบอนด์ โดยภาพยนตร์ชุดบอนด์ตอนแรกได้ออกฉายเป็นครั้งแรกในค.ศ. 1962 ชื่อตอนคือ Dr. No หรือชื่อภาษาไทยว่า พยัคฆ์ร้าย 007 ด้วยทุน 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ กวาดรายได้ถล่มทลายถึง 59,600,000 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเมื่อเทียบเป็นค่าของเงินในค.ศ. 2008 แล้วจะได้ถึง 425,488,741 ดอลลาร์สหรัฐ เขาและอีโอเอ็นจึงเดินหน้าถ่ายทำตอนถัดๆไปเรื่อยๆ ถึง 5 ตอน จอร์จ ลาเซนบี้ ก็เข้ามารับบทเป็นเจมส์ บอนด์แทน แต่เขาไม่สามารถชนะใจแฟนๆภาพยนตร์เจมส์ บอนด์ได้ ฌอน คอนเนอรี่ จึงต้องกลับมารับบทเจมส์บอนด์อีกตอนหนึ่ง คือ Diamonds Are Forever หรือ เพชรพยัคฆราช และเป็นตอนสุดท้ายที่เขาแสดงให้ค่ายอีโอเอ็น แต่ต่อมาเขาก็มาแสดงบทเจมส์ บอนด์ในภาพยนตร์อีกค่ายหนึ่งที่ไม่ใช่ค่ายอีโอเอ็นอีกในค.ศ. 1983 ชื่อว่าตอน Never Say Never Again หรือ พยัคฆ์เหนือพยัคฆ์ และเขายังแสดงภาพยนตร์อยู่เรื่อยๆมาอีกหลายสิบปี โดยก่อนหน้าที่จะมารับบทเจมส์ บอนด์ นั้น คอนเนอรี่เป็นเพียงนักแสดงตัวประกอบโนเนมคนหนึ่งเท่านั้นเอง ซ้ำยังมีอาชีพเสริมคือรับจ้างส่งนมขวดตามบ้านอีกด้วย อีกทั้งยังไม่มีบุคลิกของเจมส์ บอนด์ ตามทรรศนะของเอียน เฟลมมิ่ง เจ้าของบทประพันธ์อีกต่างหาก แต่เมื่อเขาได้รับการคัดเลือกให้มาทดสอบบท โดยเดินเข้ามาและหยิบบุหรี่ที่วางอยู่บนโต๊ะคาบใส่ปากแล้วพูดประโยคอมตะว่า " Bond, James Bond " เขาก็ได้รับบทนี้จาก อัลเบิร์ต อาร์. บรอลโคลี่ ผู้อำนวยการสร้างทันที และก็ไม่ได้ทำให้ผิดหวัง เมื่อเขากลายมาเป็นเจมส์ บอนด์ อันดับหนึ่งตลอดกาลในใจของแฟน ๆ ภาพยนตร์ชุดนี้ทั่วโลก และผู้ชมภาพยนตร์คนอื่น ๆ ทั้ง ๆ ที่มีนักแสดงหลายต่อหลายคนมารับบทนี้ต่อจากคอนเนอรี่ แต่ก็ไม่มีใครสามารถสร้างความประทับใจได้เท่าคอนเนอรี่ ฌอน คอนเนอรี่ ประกาศวางมือจากวงการบันเทิงเมื่อปี ค.ศ. 2006 รวมระยะเวลาที่อยู่ในวงการบันเทิง 52 ปี นับเป็นนักแสดงในระดับซุปเปอร์สตาร์คนหนึ่งของโลก มีผลงานมากมาย และเคยได้รับรางวัลออสการ์สาขาดาราประกอบชายยอดเยี่ยม จากภาพยนตร์เรื่อง The Untouchables ในปี ค.ศ. 1987 มาแล้วอีกด้ว.

ฉากยิงปืนของภาพยนตร์เจมส์ บอนด์และฌอน คอนเนอรี · ฌอน คอนเนอรีและทิโมธี ดาลตัน · ดูเพิ่มเติม »

ทิโมธี ดาลตัน

ทิโมธี ดาลตัน มีชื่อเต็มว่า ทิโมธี ปีเตอร์ ดาลตัน (Timothy Dalton; ชื่อเต็ม: Timothy Peter Dalton) เกิดเมื่อวันที่ 21 มีนาคม ค.ศ. 1946 ที่เมืองโคลินเบย์ แคว้นเวลส์ สหราชอาณาจักร ทิโมธี ดาลตัน เป็นที่รู้จักกันกว้างขวางเมื่อเป็นผู้รับบทเจมส์ บอนด์ คนที่ 4 ต่อจาก โรเจอร์ มัวร์ ในปี ค.ศ. 1987 แต่ในความเป็นจริง ดาลตันถูกทาบทามให้รับบทเจมส์ บอนด์ ตั้งแต่ ค.ศ. 1969 ในตอน On Her Majesty's Secret Service เพราะในช่วงนั้น ฌอน คอนเนอรี่ ลาออกจากบทเจมส์ บอนด์ มีการล่ารายชื่อนักแสดงที่มีลักษณะที่จะเป็นเจมส์ บอนด์ได้ เพื่อมารับบทต่อจากคอนเนอรี่ แต่ในขณะนั้น ดาลตันอายุเพียง 23 ปี จึงปฏิเสธบทบาทไปเพราะคิดว่าอายุของตนยังน้อยเกินไปสำหรับบทบาทบอนด์ บทบาทนี้จึงกลายเป็นของจอร์จ ลาเซนบี และ โรเจอร์ มัวร์ ตามลำดับ ค.ศ. 1987 โรเจอร์ มัวร์ ไม่ขอรับบทเจมส์ บอนด์ อีกต่อไป เนื่องจากอายุมากแล้ว และมารดาของ ทันย่า โรเบิตส์ ที่รับบทสเตซี่ ซัตตอน นางเอกและผู้หญิงของบอนด์ในตอน A View to a Kill นั้นอายุน้อยยังกว่ามัวร์เสียอีก ทิโมธี ดาลตันจึงได้รับการทาบทามให้รับบทบอนด์อีกครั้ง และครั้งนี้ดาลตันไม่ปฏิเสธ จึงได้รับบทเจมส์บอนด์ไปใน ค.ศ. 1987 ขณะอายุ 43 ปี การแสดงของดาลตันเป็นอารมณ์ที่แปลกใหม่ของบอนด์ แฟน ๆ หลายคนก็ประทับใจ แต่ก็ยังไม่เป็นที่ประทับใจของแฟน ๆ บอนด์เก่าแก่นัก ดาลตันจึงถูกวิจารณ์ว่าแสดงตึงเครียดเกินกว่าจะเป็นอารมณ์ของบอนด์ที่ผ่าน ๆ มา และหลัง Licence to Kill ก็เกิดปัญหาเรื่องการถ่ายโอนกรรมสิทธิ์ของภาพยนตร์ จึงประกาศที่จะเลิกรับการแสดงเป็นเจมส์ บอนด์ในภาคต่อมา จึงแสดงเพียง 2 ภาคเท่านั้น.

ฉากยิงปืนของภาพยนตร์เจมส์ บอนด์และทิโมธี ดาลตัน · ทิโมธี ดาลตันและทิโมธี ดาลตัน · ดูเพิ่มเติม »

แดเนียล เคร็ก

แดเนียล เคร็ก (Daniel Craig) มีชื่อเต็มว่า แดเนียล รอตัน เคร็ก (Daniel Wroughton Craig) เกิดเมื่อวันที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2511 (ค.ศ. 1968) ที่เมืองเชสเตอร์ เทศมณฑลเชชเชอร์ ประเทศอังกฤษ มีชื่อเสียงจากการรับบทเป็นเจมส์ บอนด์ คนที่ 6.

ฉากยิงปืนของภาพยนตร์เจมส์ บอนด์และแดเนียล เคร็ก · ทิโมธี ดาลตันและแดเนียล เคร็ก · ดูเพิ่มเติม »

โรเจอร์ มัวร์

รเจอร์ มัวร์ ในบท เจมส์ บอนด์ ในภาพยนตร์บอนด์เรื่อง Mianly Millicent ออกฉายในค.ศ. 1964 โรเจอร์ มัวร์ กับ โทนี่ เคอร์ติส ในซีรีส์ The Persuaders! ในค.ศ. 1971 ถึง ค.ศ. 1972 A View to a Kill (ค.ศ. 1985) ภาพ โรเจอร์ มัวร์ ถ่ายเมื่อ ค.ศ. 2007 ภาพ โรเจอร์ มัวร์ ถ่ายเมื่อ ค.ศ. 2009 ภาพ โรเจอร์ มัวร์ ถ่ายเมื่อ ค.ศ. 2010 เซอร์โรเจอร์ จอร์จ มัวร์ (Roger George Moore; 14 ตุลาคม ค.ศ. 1927 – 23 พฤษภาคม ค.ศ. 2017) เกิดเมื่อวันที่ 14 ตุลาคม..

ฉากยิงปืนของภาพยนตร์เจมส์ บอนด์และโรเจอร์ มัวร์ · ทิโมธี ดาลตันและโรเจอร์ มัวร์ · ดูเพิ่มเติม »

เพียร์ซ บรอสแนน

ียร์ซ บรอสแนน ถ่ายเมื่อ ค.ศ. 2005 ภาพเพียร์ซ บรอสแนน ถ่ายเมื่อ ค.ศ. 2002 เพียร์ซ บรอสแนน กับ Stephanie Zimbalist ในภาพยนตร์ซีรีส์เรื่อง Remington Steele (ฉายระหว่างค.ศ. 1982-ค.ศ. 1987) ภาพถ่ายเพียร์ซ บรอสแนน ในช่วงวัยรุ่น เพียร์ซ ในภาพยนตร์เรื่อง Seraphim Falls เพียร์ซ เบรนดัน บรอสแนน (Pierce Brendan Brosnan),เป็นนักแสดงอเมริกันเชื้อสายไอริช เกิดเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม ค.ศ. 1953 (พ.ศ. 2496) ที่เมืองดรอกเฮดา (Drogheda) ประเทศไอร์แลนด์ ต่อมา ในปี ค.ศ. 1964 พ่อแม่ของเขาก็หย่ากัน เขาได้อยู่กับแม่ และแม่ก็แต่งงานใหม่กับทหารผ่านศึกชาวสหราชอาณาจักร ชื่อ วิลเลียม ชาร์ไมเคิล (William Charmichael) เขาจึงเป็นพ่อบุญธรรมของบรอสแนน เขาไม่ได้พยายามกลั่นแกล้งลูกบุญธรรมเหมือนผู้ปกครองบุญธรรมในละคร ตรงกันข้าม เขารัก และเอ็นดูบรอสแนนมากคล้ายกับเป็นลูกในไส้ เขาส่งเสียให้บรอสแนนได้เรียนหนังสือ โดย เขาได้ศึกษาที่โรงเรียนเอลเลียท (Elliott School) ในลอนดอนตะวันตก และในปี พ.ศ. 2507 นั้นเอง วิลเลียมก็พาบรอสแนน ไปดูภาพยนตร์ชุดเจมส์ บอนด์เป็นครั้งแรก ในตอนที่ 3 คือตอน Goldfinger ต่อมาในปี ค.ศ. 1969 ก็มีผู้ฝึกดาราคนหนึ่งมองเห็นแววความเป็นนักแสดงของเขา ผู้ฝึกคนนั้นจึงรับบรอสแนนไปฝึกเพื่อเตรียมเป็นดารานักแสดงต่อไป เพียร์ซ บรอสแนน แต่งงานกับนักแสดงสาวชาวออสเตรเลียชื่อ คาสแซนดรา แฮร์ริส (Cassandra Harris) ในปี ค.ศ. 1977 และเขาเริ่มโด่งดังขึ้นมาเมื่อภาพยนตร์เรื่องแรกที่เขาแสดงได้ออกฉายในในปี ค.ศ. 1980 ต่อมา เมื่อครั้งที่เจมส์ บอนด์ตอน For Your Eyes Only (เจาะดวงตาเพชฌฆาต) กำลังถ่ายทำ ภรรยาของเขาได้ไปแสดงประกอบด้วยในบางฉาก เมื่อเขาไปเยี่ยมภรรยาขณะถ่ายทำ ผู้อำนวยการสร้าง อัลเบิร์ต อาร.

ฉากยิงปืนของภาพยนตร์เจมส์ บอนด์และเพียร์ซ บรอสแนน · ทิโมธี ดาลตันและเพียร์ซ บรอสแนน · ดูเพิ่มเติม »

เจมส์ บอนด์

มส์ บอนด์ (James Bond) เป็นตัวละครสมมติ สร้างโดย เอียน เฟลมมิ่ง เมื่อปี พ.ศ. 2496 ซึ่งปรากฏอยู่ในนวนิยาย 12 ตอนและรวมเรื่องสั้นอีก 2 เล่ม ต่อมาหลังจากเขาเสียชีวิตในปี พ.ศ. 2507 มีนักประพันธ์อีกหลายคนได้สิทธิ์ในการประพันธ์ เจมส์ บอนด์ ต่อ ได้แก่ คิงส์ลีย์ เอมิส, คริสโตเฟอร์ วูด, จอห์น การ์ดเนอร์, เรย์มอนด์ เบ็นสัน, เซบาสเตียน ฟอล์ค, เจฟฟรีย์ ดีฟเวอร์ และ วิลเลียม บอยด์ นอกจากนี้ยังมีผลงานประพันธ์ของ ชาร์ลี ฮิกสัน ในชุด ยังบอนด์ และ เคต เวสต์บรูค ประพันธ์ในรูปแบบไดอารีของตัวละคร มิสมันนีเพนนี เจมส์ บอนด์ ยังได้ถูกดัดแปลงออกมาเป็นสื่อต่างๆ เช่น ละครโทรทัศน์, ละครวิทยุ, การ์ตูน, วิดีโอเกมและภาพยนตร์ ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างมากทั่วโลก โดยเป็นภาพยนตร์ชุดที่ทำเงินสูงสุดอันดับที่ 4 เริ่มจากเรื่อง พยัคฆ์ร้าย 007 (Dr.No) เมื่อปี พ.ศ. 2505 โดยมี ฌอน คอนเนอรี รับบท เจมส์ บอนด์ ปัจจุบันออกฉายแล้วทั้งหมด 24 ภาค ผลิตโดย อีโอเอ็น โปรดักชันส์ ภาคล่าสุด ชื่อว่า องค์กรลับดับพยัคฆ์ร้าย (Spectre) แดเนียล เคร็ก เป็นเจมส์ บอนด์ ครั้งที่ 4 และเป็นคนที่ 6 ที่รับบทนี้ นอกจากนี้ยังมีภาพยนตร์ที่ไม่ใช่ของ อีโอเอ็น คือ ทีเด็ดเจมส์บอนด์ 007 (Casino Royale) เมื่อปี พ.ศ. 2510 เดวิด นิเวน เป็นเจมส์ บอนด์ และ พยัคฆ์เหนือพยัคฆ์ (Never Say Never Again) เมื่อปี พ.ศ. 2526 ซึ่งเป็นการรีเมค ธันเดอร์บอลล์ 007 (Thunderball) โดย ฌอน คอนเนอรี กลับมารับบทเป็นเจมส์ บอนด์ อีกครั้ง ตัวเลข 007 ที่อยู่ท้ายชื่อของเจมส์ บอนด์ หมายถึงรหัสลับประจำตัวที่ใช้เรียกแทนตัวเขาในฐานะของสายลับคนหนึ่ง โดยเลข 00 ที่นำหน้าเลข 7 อยู่นั้น ถือเป็นสัญลักษณ์ที่แจ้งให้ทราบว่า ตัวเขาเป็นสายลับที่ได้รับอนุญาตให้สามารถสังหารชีวิตผู้อื่นได้โดยไม่ผิดกฎหมายสมเกียรติ อ่อนวิมล.

ฉากยิงปืนของภาพยนตร์เจมส์ บอนด์และเจมส์ บอนด์ · ทิโมธี ดาลตันและเจมส์ บอนด์ · ดูเพิ่มเติม »

007 พยัคฆ์ร้ายพญายม

ัคฆ์ร้ายพญายม หรือในชื่อภาษาอังกฤษคือ A View to a Kill เป็นภาพยนตร์เรื่องที่ 14 ในภาพยนตร์ชุดเจมส์ บอนด์ เดอะซีรีส์ ที่เป็นทางการซึ่งจัดทำโดยค่ายภาพยนตร์อีโอเอ็นโปรดัคชั่น (EON Production) ภาพยนตร์เรื่องนี่เป็นครั้งที่ 7 และครั้งสุดท้ายที่ โรเจอร์ มัวร์ แสดงเป็น เจมส์ บอนด์ ให้กับค่ายภาพยนตร์นี้ และภาพยนตร์เรื่องนี้ก็เป็นครั้งสุดท้ายของ ลอยส์ แม็กซ์เวลล์ ในการแสดงเป็นมิส มันนี่เพ็นนี ให้ค่ายภาพยนตร์อีเอ็นนี้ด้วยเช่นกัน ภาพยนตร์เรื่องนี้ออกฉายใน พ.ศ. 2528 กำกับโดย จอห์น เกลน (John Glenn) ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นภาคต่อของ 007 เพชฌฆาตปลาหมึกยักษ์ โดยมีภาคต่อจากนี้คือ 007 พยัคฆ์สะบัดลาย ใช้ทุนรวมทั้งสิ้น 30 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เทียบเท่าเงิน 60,111,524 ดอลลาร์สหรัฐใน พ.ศ. 2551 กวาดรายได้รวมทั้งสิ้น 152.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เทียบเท่าเงิน 305,366,542 ดอลลาร์สหรัฐในพ.ศ. 2551 เป็นภาพยนตร์เจมส์ บอนด์ ที่ขายดีเป็นอันดับที่ 21 จากภาพยนตร์เจมส์ บอนด์อย่างเป็นทางการ 22 เรื่อง โปสเตอร์ต้นฉบับของ "พยัคฆ์ร้ายพญายม".

007 พยัคฆ์ร้ายพญายมและฉากยิงปืนของภาพยนตร์เจมส์ บอนด์ · 007 พยัคฆ์ร้ายพญายมและทิโมธี ดาลตัน · ดูเพิ่มเติม »

007 พยัคฆ์สะบัดลาย

007 พยัคฆ์สะบัดลาย หรือในชื่อภาษาอังกฤษว่า The Living Daylights เป็นภาพยนตร์เจมส์ บอนด์ เรื่องที่ 15 ที่ค่ายภาพยนตร์อีโอเอ็นโปรดักชั่นส์ (EON Productions) จัดทำขึ้น และเป็นครั้งแรกที่ ทิโมธี ดาลตัน แสดงเป็นเจมส์ บอนด์ ให้กับค่ายภาพยนตร์อีโอเอ็นนี้ และเป็นครั้งแรกของ คาโรไลน์ บลิส ในบท มิส มันนี่เพ็นนี ต่อจากลอยส์ แม็กซ์เวลล์ ที่เพิ่งหมดวาระไป ภาพยนตร์เรื่องนี้ออกฉายในพ.ศ. 2530 กำกับโดย จอห์น เกลน (John Glen) ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นภาคต่อของ 007 พยัคฆ์ร้ายพญายม โดยมีภาคต่อจากนี้คือ 007 รหัสสังหาร ทุนการสร้างรวมทั้งสิ้น 40 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เทียบเท่าเงิน 75,915,493 ดอลลาร์สหรัฐในพ.ศ. 2551 กวาดรายได้รวมทั้งสิ้น 191.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เทียบเท่าเงิน 362,876,056 ดอลลาร์สหรัฐในพ.ศ. 2551 เป็นภาพยนตร์เจมส์ บอนด์ที่ขายดีเป็นอันดับที่ 20 จากภาพยนตร์ เจมส์ บอนด์อย่างเป็นทางการ 22 เรื่อง.

007 พยัคฆ์สะบัดลายและฉากยิงปืนของภาพยนตร์เจมส์ บอนด์ · 007 พยัคฆ์สะบัดลายและทิโมธี ดาลตัน · ดูเพิ่มเติม »

007 ยอดพยัคฆ์ราชินี

อดพยัคฆ์ราชินี หรือในชื่อภาษาอังกฤษว่า On Her Majesty's Secret Service เป็นภาพยนตร์เรื่องที่ 6 ในภาพยนตร์ชุดบอนด์เดอะซีรีส์ ที่ค่ายภาพยนตร์อีโอเอ็น (EON) ทำขึ้น ออกฉายในพ.ศ. 2512 กำกับโดย ปีเตอร์ ฮันต์ (Peter Hunt) เป็นตอนแรกและตอนเดียวเท่านั้นที่ จอร์จ ลาเซนบี้ รับบทเป็นเจมส์ บอนด์ ใช้ทุนการสร้างรวมทั้งสิ้น 8,000,000 ดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นเงิน 51,000,000 ดอลลาร์สหรัฐในพ.ศ. 2555 กวาดรายได้รวมทั้งสิ้น 87,400,000 ดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นเงิน 554,000,000 ดอลลาร์สหรัฐในพ.ศ. 2555 เป็นภาพยนตร์ เจมส์ บอนด์ ที่ขายดีเป็นอันดับที่ 12 จากภาพยนตร์ เจมส์ บอนด์ อย่างเป็นทางการ 22 เรื่อง (ดูเพิ่ม).

007 ยอดพยัคฆ์ราชินีและฉากยิงปืนของภาพยนตร์เจมส์ บอนด์ · 007 ยอดพยัคฆ์ราชินีและทิโมธี ดาลตัน · ดูเพิ่มเติม »

007 รหัสสังหาร

รหัสสังหาร หรือในชื่อภาษาอังกฤษว่า Licence to Kill เป็นภาพยนตร์เรื่องที่ 16 ในภาพยนตร์ชุดเจมส์ บอนด์ เดอะซีรีส์ ที่ค่ายภาพยนตร์อีโอเอ็นโปรดัคชั่น(EON Production) จัดทำขึ้น ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นครั้งที่ 2 และเป็นครั้งสุดท้ายของ ทิโมธี ดาลตัน ในบทเจมส์ บอนด์ ให้กับค่ายอีโอเอ็น เป็นครั้งที่ 2 เป็นครั้งสุดท้ายของคาโรไลน์ บลิส ในบท มิส มันนี่เพ็นนี เป็นครั้งที่ 5 และครั้งสุดท้ายของ โรเบิร์ต บราวน์ ในบท เอ็ม เช่นกัน ภาพยนตร์เรื่องนี้ออกฉายในพ.ศ. 2532 กำกับโดย จอห์น เกลน ซึ่งภาพยนตร์ซีรีส์เจมส์ บอนด์ เรื่องนี้ เป็นเรื่องแรกที่ไม่ใช้บทประพันธ์ของเอียน เฟลมมิ่ง แต่ใช้บทประพันธ์ของจอห์น การ์ดเนอร์แทน ใช้ทุนรวมทั้งสิ้น 42 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เทียบเท่าเงิน 73,025,806 ดอลลาร์สหรัฐในพ.ศ. 2551 กวาดรายได้รวมทั้งสิ้น 156.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เทียบเท่าเงิน 271,586,451 ดอลลาร์สหรัฐในพ.ศ. 2551 เป็นภาพยนตร์เจมส์ บอนด์ที่ขายดีเป็นอันดับที่ 22 จากภาพยนตร์เจมส์ บอนด์อย่างเป็นทางการ 22 เรื่อง.

007 รหัสสังหารและฉากยิงปืนของภาพยนตร์เจมส์ บอนด์ · 007 รหัสสังหารและทิโมธี ดาลตัน · ดูเพิ่มเติม »

รายการด้านบนตอบคำถามต่อไปนี้

การเปรียบเทียบระหว่าง ฉากยิงปืนของภาพยนตร์เจมส์ บอนด์และทิโมธี ดาลตัน

ฉากยิงปืนของภาพยนตร์เจมส์ บอนด์ มี 24 ความสัมพันธ์ขณะที่ ทิโมธี ดาลตัน มี 39 ขณะที่พวกเขามีเหมือนกัน 10, ดัชนี Jaccard คือ 15.87% = 10 / (24 + 39)

การอ้างอิง

บทความนี้แสดงความสัมพันธ์ระหว่าง ฉากยิงปืนของภาพยนตร์เจมส์ บอนด์และทิโมธี ดาลตัน หากต้องการเข้าถึงบทความแต่ละบทความที่ได้รับการรวบรวมข้อมูลโปรดไปที่: