โลโก้
ยูเนี่ยนพีเดีย
การสื่อสาร
ดาวน์โหลดได้จาก Google Play
ใหม่! ดาวน์โหลด ยูเนี่ยนพีเดีย บน Android ™ของคุณ!
ฟรี
เร็วกว่าเบราว์เซอร์!
 

จุลจิตรกรรมในเอกสารตัวเขียนสีวิจิตรและลายใบอะแคนทัส

ทางลัด: ความแตกต่างความคล้ายคลึงกันค่าสัมประสิทธิ์การเปรียบเทียบ Jaccardการอ้างอิง

ความแตกต่างระหว่าง จุลจิตรกรรมในเอกสารตัวเขียนสีวิจิตรและลายใบอะแคนทัส

จุลจิตรกรรมในเอกสารตัวเขียนสีวิจิตร vs. ลายใบอะแคนทัส

อเนอิด''” (Aeneid) โดยเวอร์จิลของคริสต์ศตวรรษที่ 5 จุลจิตรกรรมสำหรับหนังสือวิจิตร (Miniature (illuminated manuscript)) คำว่า “Miniature” มาจากภาษาละตินว่า “Minium” ที่หมายถึงสารสี “เลดเทโทรไซด์” หรือ “ตะกั่วแดง” (Lead tetroxide) คือหนังสือวิจิตรโบราณหรือจากยุคกลาง หรือ ลายตกแต่งอย่างง่ายๆ ของกฎบัตรที่ตกแต่งด้วยสารสีตะกั่วแดงดังกล่าว การที่ภาพโดยทั่วไปจากยุคกลางมักจะมีขนาดเล็กทำให้สับสนกับจิตรกรรมขนาดเล็กโดยเฉพาะภาพเหมือนขนาดเล็ก (portrait miniature) ที่พัฒนามาจากลักษณะการวาดที่มีประวัติคล้ายคลึงกัน นอกไปจากธรรมเนียมการวาดจุลจิตรกรรมทางตะวันตกและไบแซนไทน์แล้ว ทางตะวันออกก็มีการเขียนจุลจิตรกรรมที่มักจะเป็นภาพที่มีเนื้อหามากกว่าทางตะวันตก และจากที่เป็นงานที่เขียนสำหรับหนังสือก็พัฒนาไปเป็นงานเขียนเป็นแผ่นๆ ที่ใช้เก็บในอัลบัมได้ ที่เรียกว่าจุลจิตรกรรมเช่นเดียวกับทางตะวันตก แต่มีลักษณะเดียวกับภาพเขียนสีน้ำ จุลจิตรกรรมทางตะวันออกก็รวมทั้งจุลจิตรกรรมเปอร์เซีย และ จุลจิตรกรรมโมกุล, จุลจิตรกรรมออตโตมัน และ จุลจิตรกรรมอินเดี. อะแคนทัสแบบนอร์ดิก ลายอะแคนทัสออกแบบโดยวิลเลียม มอร์ริส ลายใบอะแคนทัส (acanthus) เป็นลวดลายการตกแต่งทางศิลปะที่เป็นมักจะเห็นกันเสมอที่เป็นการตกแต่งด้วยใบไม้ ในงานสถาปัตยกรรมจะเป็นประติมากรรมที่แกะหินหรือไม้ออกมาเป็นใบไม้ตามลักษณะของใบอะแคนทัสจากบริเวณเมดิเตอร์เรเนียนที่มีลักษณะคล้ายใบทิสเซิล, ต้นฝิ่น หรือพาร์สลีย์ ลายอะแคนทัสเป็นลายที่พบเสมอในการแกะหัวเสาแบบคอรินเทียนและแบบผสม (Composite order) และใช้ในการตกแต่งเป็นบัวนูน (frieze) รอบตอนบนของสิ่งก่อสร้างเป็นต้น กรีกโบราณเป็นชนกลุ่มแรกที่ใช้ลายใบอะแคนทัสในการตกแต่งและมาวิวัฒนาการให้วิจิตรขึ้นโดยการม้วนปลายใบโดยโรมัน ลายนี้ก็ยังคงนิยมใช้กันต่อมาถึงสมัยไบแซนไทน์, โรมาเนสก์ และกอทิก และมาจนกระทั่งถึงทุกวันนี้ ลายอะแคนทัสใช้ในการตกแต่งทั้งภายในและภายนอกอาคาร ภายในอาคารก็ใช้ตกแต่งเป็นบัวประกบ (crown molding) ที่ใช้ในตกแต่งส่วนบนเช่นตอนบนของหัวเสาอิงหรือตอนบนของตู้ นอกจากนั้นก็ยังใช้ในงานศิลปะของยุคกลางและสมัยฟื้นฟูศิลปวิทยาโดยเฉพาะในงานประติมากรรม งานแกะสลักไม้ และงานบัวนูน ความสัมพันธ์ระหว่างใบอะแคนทัสที่เป็นเครื่องตกแต่งกับใบอะแคนทัสที่เป็นพันธุ์ไม้เป็นเรื่องที่โต้แย้งกันมานาน นักประวัติศาสตร์ศิลปะอาโลอิส รีเกิล (Alois Riegl) โต้ไว้ในหนังสือ "Stilfragen" ว่าอะแคนทัสที่เป็นเครื่องตกแต่งที่วิวัฒนาการมาจากลายใบปาล์ม (palmette) และมาละม้ายใบอะแคนทัส (Acanthus spinosus) เอาทีหลัง.

ความคล้ายคลึงกันระหว่าง จุลจิตรกรรมในเอกสารตัวเขียนสีวิจิตรและลายใบอะแคนทัส

จุลจิตรกรรมในเอกสารตัวเขียนสีวิจิตรและลายใบอะแคนทัส มี 2 สิ่งที่เหมือนกัน (ใน ยูเนี่ยนพีเดีย): ศิลปะไบแซนไทน์สมัยกลาง

ศิลปะไบแซนไทน์

มเสก ศิลปะไบแซนไทน์ ที่สุเหร่าโซเฟีย ศิลปะคริสเตียนยุคแรก (พ.ศ. 640 - 1040) และ ศิลปะไบแซนไทน์ (พ.ศ. 1040 - 1996) ศิลปะคริสเตียนยุคแรก รับอิทธิพลมาจากศิลปะกรีกโบราณ ศิลปะไบแซนไทน์ หมายถึงศิลปะของรัฐที่นับถือนิกายอีสเติร์นออร์โธด็อกซ์ซึ่งอยู่ในระยะเวลาเดียวกับอาณาจักรไบแซนไทน์แต่มิได้เป็นอยู่ใต้การปกครองของอาณาจักรไบแซนไทน์ เช่น ประเทศบัลแกเรีย เซอร์เบีย หรือรุส รวมทั้งศิลปะของรัฐอาณาจักรเวนิส และราชอาณาจักรซิซิลี ศิลปะของผู้นับถือนิกายอีสเติร์นออร์โธด็อกซ์ที่อาศัยอยู่ในจักรวรรดิออตโตมันมักจะเรียกว่า ศิลปะหลังไบแซนไทน์ ศิลปะไบแซนไทน์บางลักษณะที่เริ่มจากอาณาจักรไบแซนไทน์โดยเฉพาะการเขียนภาพแบบที่เรียกว่า รูปสัญลักษณ์ (icon) และสถาปัตยกรรมการสร้างศาสนสถานยังคงทำกันอยู่จนถึงปัจจุบันนี้ในประเทศกรีซ ประเทศรัสเซีย และบางประเทศที่อยู่ในเครืออีสเติร์นออร์โธด็อกซ.

จุลจิตรกรรมในเอกสารตัวเขียนสีวิจิตรและศิลปะไบแซนไทน์ · ลายใบอะแคนทัสและศิลปะไบแซนไทน์ · ดูเพิ่มเติม »

สมัยกลาง

แบบจำลองของหมวกหุ้มเกราะซึ่งถูกพบที่ซัททันฮู ในหลุมศพของผู้นำชาวแองโกล-แซกซัน สันนิษฐานว่าเป็นกษัตริย์ราวปี ค.ศ. 620 ในช่วงต้นสมัยกลางNees ''Early Medieval Art'' pp. 109–112 สมัยกลาง หรือ ยุคกลาง (Middle Ages) คือช่วงเวลาในประวัติศาสตร์ยุโรป ตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 5 ถึงคริสต์ศตวรรษที่ 15 โดยปกติแล้วเริ่มนับตั้งแต่การล่มสลายลงของจักรวรรดิโรมันตะวันตก (การสิ้นสุดของสมัยคลาสสิก) จนถึงจุดเริ่มตั้นของสมัยฟื้นฟูศิลปวิทยา และยุคแห่งการสำรวจ ซึ่งเป็นยุคที่นำไปสู่สมัยใหม่ในเวลาต่อมา สมัยกลางคือช่วงเวลาตรงกลางของกระบวนการเปลี่ยนผ่านในประวัติศาสตร์ตะวันตกคือ สมัยคลาสสิก สมัยกลาง และสมัยใหม่ นอกจากนี้สมัยกลางยังถูกแบ่งออกเป็นสามช่วงเวลาคือ ต้นสมัยกลาง (Early Middle Ages), สมัยกลางยุครุ่งโรจน์ (High Middle Ages) และปลายสมัยกลาง (Late Middle Ages) ในยุคกลางตอนต้น การลดลงของประชากร, การหดตัวของเมือง และการรุกรานจากอนารยชน เริ่มต้นขึ้นในยุคโบราณตอนปลายและดำเนินไปอย่างรวดเร็ว เหล่าอนารยชนผู้บุกรุกเข้าตั้งอาณาจักรของตนในส่วนที่เหลืออยู่ของจักรวรรดิโรมันตะวันตก ในคริสต์ศตวรรษที่ 7 แอฟริกาเหนือและตะวันออกกลาง ซึ่งเคยเป็นส่วนหนึ่งของจักรวรรดิโรมันตะวันออก ได้กลายไปเป็นจักรวรรดิอิสลามหลังจากถูกยึดครองโดยผู้สืบทอดของนบีมุฮัมมัด แม้ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงทางสังคมและโครงสร้างทางการเมืองมากมาย แต่ก็ไม่ได้เปลี่ยนไปจากยุคโบราณคลาสสิคอย่างสิ้นเชิง จักรวรรดิโรมันตะวันออกหรือจักรวรรดิไบแซนไทน์ยังคงอยู่รอดและรักษาอำนาจของตนเอาไว้ได้ นอกจากนี้แล้วอาณาจักรเกิดใหม่ส่วนใหญ่ยังคงเกี่ยวพันอยู่กับสถาบันที่หลงเหลืออยู่ของชาวโรมัน ในขณะที่วัดวาอารามของคริสต์ศาสนาได้แผ่ขยายไปทั่วยุโรปตะวันตก ในคริสต์ศตวรรษที่ 7 และ 8 ชาวแฟรงก์ภายใต้การปกครองของราชวงศ์การอแล็งเฌียงได้สถาปนาจักรวรรดิขึ้นซึ่งครอบคลุมพื้นที่ส่วนใหญ่ของยุโรปตะวันตกมีนามว่า จักรวรรดิการอแล็งเฌียง ซึ่งยืนยงไปจนถึงคริสต์ศตวรรษที่ 9 เมื่อจักรวรรดิล่มสลายลงจากแรงงกดดันของการรุกรานจากภายนอก เช่น ชาวไวกิงจากทางเหนือ ชาวแมกยาร์จากทางตะวันออก และชาวซาราเซนจากทางใต้ ช่วงต้นสมัยกลางซึ่งเริ่มขึ้นหลังคริสต์ศตวรรษที่ 10 ประชากรของยุโรปขยายตัวอย่างมากจากการที่นวัตกรรมทางเทคโนโลยีและทางการเกษตรทำให้การค้าขายเจริญรุ่งเรืองและการทำเรือกสวนไร่นาขยายตัว ระบบมาเนอร์ - องค์กรของชาวนาตามหมู่บ้านที่ติดค้างค่าเช่าที่ดินและหน้าที่ด้านแรงงานแก่ขุนนาง และระบบเจ้าขุนมูลนาย - โครงสร้างทางการเมืองที่ซึ่งอัศวินและขุนนางศักดิ์ต่ำกว่าติดค้างหน้าที่ด้านการทหารแก่เจ้านายผู้มีศักดิ์สูงกว่าของพวกเขาแลกกับสิทธิ์ในการเก็บค่าเช่าที่ดินและชาวนาใต้ปกครอง สองระบบนี้คือระเบียบของสังคมที่ใช้กันในยุคกลางตอนกลาง ต่อมาอาณาจักรเริ่มรวมศูนย์อำนาจมากขึ้นภายหลังการล่มสลายลงของจักรวรรดิคาโรแล็งเชียง สงครามครูเสดซึ่งเริ่มขึ้นครั้งแรกในปี..

จุลจิตรกรรมในเอกสารตัวเขียนสีวิจิตรและสมัยกลาง · ลายใบอะแคนทัสและสมัยกลาง · ดูเพิ่มเติม »

รายการด้านบนตอบคำถามต่อไปนี้

การเปรียบเทียบระหว่าง จุลจิตรกรรมในเอกสารตัวเขียนสีวิจิตรและลายใบอะแคนทัส

จุลจิตรกรรมในเอกสารตัวเขียนสีวิจิตร มี 9 ความสัมพันธ์ขณะที่ ลายใบอะแคนทัส มี 12 ขณะที่พวกเขามีเหมือนกัน 2, ดัชนี Jaccard คือ 9.52% = 2 / (9 + 12)

การอ้างอิง

บทความนี้แสดงความสัมพันธ์ระหว่าง จุลจิตรกรรมในเอกสารตัวเขียนสีวิจิตรและลายใบอะแคนทัส หากต้องการเข้าถึงบทความแต่ละบทความที่ได้รับการรวบรวมข้อมูลโปรดไปที่:

Hey! เราอยู่ใน Facebook ตอนนี้! »